Category Archives: Food and Drink

บัตเตอร์ฟลาย ออร์แกนิค

ขยายธุรกิจสู่ OEM รับผลิตผลิตภัณฑ์
นม-โยเกิร์ต ออร์แกนิค
ป้อนตลาดเอเชีย

บัตเตอร์ฟลาย ออร์แกนิค สบช่องคนรุ่นใหม่ใส่ใจสุขภาพ รุกตลาดผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค นมสด-โยเกิร์ตและผลิตภัณฑ์นมอัลมอนด์ ด้วยคุณภาพมาตรฐานระดับโลก ผ่านการรับรองจาก Bioagricert (accredited byIFOAMจนประสบความสำเร็จเปิดตลาดมานานกว่า 7 ปี มียอดขายพุ่งขึ้นทุกปีๆ ละ 7-10 %พร้อมขยายฐานธุรกิจก้าวสู่ OEM รับผลิตผลิตภัณฑ์นม-โยเกิร์ต ออร์แกนิค เพื่อป้อนตลาดเจาะกลุ่มคนรักสุขภาพทั่วเอเชียฯ โดยปีนี้ บัตเตอร์ฟลายตั้งเป้าก้าวกระโดด เน้นเสริมทัพด้วยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ ได้ทั้งในและนอกประเทศ โดยยอดขายรวมที่ตั้งไว้ปี 2018  100 ล้านบาท

นางสาว อาศยา ทรัพย์มนู ประธานบริหาร บริษัท บัตเตอร์ฟลาย ออร์แกนิค จำกัด เปิดเผยว่า  บัตเตอร์ฟลาย ออร์แกนิค เป็นผู้ผลิตจำหน่ายผลิตภัณฑ์ นม-โยเกิร์ต และ นมอัลมอนด์ ภายใต้แบรนด์    บัตเตอร์ฟลาย (Butterfly) โดยได้รับมาตรฐานระดับโลก ผ่านการรับรองจาก Bioagricert (accredited byIFOAM  มีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ เพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่
ใจคนรักสุขภาพ

ทั้งนี้ ผลตอบรับดีเกินคาด มียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นในทุกปีๆ ละ 7-10 % จากความสำเร็จ ส่งผลให้ปัจจุบัน สามารถขยายฟาร์มวัวนมออร์แกนิคและโรงงานผลิต ที่มีศักยภาพในการผลิตผลิตภัณฑ์ นม-โยเกิร์ต ออร์แกนิค ป้อนตลาดได้อย่างพอเพียง อีกทั้ง ก้าวสู่ OEM รับผลิตผลิตภัณฑ์ นม-โยเกิร์ต ออร์แกนิค ให้แก่นักลงทุนจากประเทศต่างๆ ทั่วเอเชีย อีกด้วย”

ล่าสุด แบรนด์ บัตเตอร์ฟลาย ได้นำผลิตภัณฑ์ นม-โยเกิร์ต และ นมอัลมอนด์ ยกทัพไปร่วมจัดแสดงภายในงาน ThaiFEX World of Food Asia 2018 โดยได้รับความสนใจจากประชาชนและนักลงทุนจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมา บัตเตอร์ฟลายการรุกตลาดจะจัดกิจกรรม บีโลว์เดอะไลน์ ได้แก่ โรดโชว์ เพื่อให้ข้อมูลและแจกให้ทดลองชิมฟรี ได้สัมผัสกับรสชาติที่แตกต่างจากนมโคทั่วไป

ในการรุกตลาดในปีนี้ จะให้ความสำคัญกับสื่อออนไลน์ ด้วยการสะท้อนแบรนด์ บัตเตอร์ฟลาย ผ่านสโลแกน Add Value Rhythm Vital “เติมคุณค่าให้ทุกจังหวะชีวิต ผ่านแคมเปญเด็ก Generation Z ซึ่ง โดยมีชื่อกลุ่มว่า Team Talent เป็นการรวมตัวของเด็ก ที่มีพลังเต็มเปี่ยม มีพรสวรรค์ และพรแสวงในการเรียนรู้จากเทคโลโลยียุคใหม่ด้วยตนเอง และก็ให้ความสำคัญต่อสุขภาพ มั่นใจว่า จะสื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี และช่วยผลักดันให้ บัตเตอร์ฟลาย ขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว”

ผลิตภัณฑ์ นม-โยเกิร์ต ออร์แกนิค ภายใต้แบรนด์ บัตเตอร์ฟลาย ได้รับนมจากวัวที่กินหญ้าออร์แกนิคและไม่ใช้ยาปฏิชีวนะใดๆ ให้ความใส่ใจต่อการเลี้ยงดูทุกขั้นตอน เพื่อให้วัวมีอารมณ์ดี โดยปล่อยวัวเดินเล่นในทุ่งกว้างใหญ่ ในส่วนของการผลิต จะไม่เติบสารปรุงแต่งรสชาติให้มีความข้นหรือมัน รสของนมวัว จะเป็นไปตามธรรมชาติและฤดูกาลที่เปลี่ยนไป ทำให้มีคุณภาพที่ดีกว่าและมีความปลอดภัยสูงกว่านมทั่วๆ ไป อีกทั้ง นมมอร์แกนิคจะมีกรดไขมันชนิดโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 สูง ช่วยบำรุงสมองและช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน มีวิตามิน A และ E ช่วยบำรุงสายตาและบำรุงผิว นอกจากนั้น ยังมีสารแอนติออกซิแดนท์สูง จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง ไม่ทำให้อ้วน และช่วยลดอัตราการเกิดไขมันสะสมอุดตันในเส้นเลือด เพราะให้คลอเลสเตอรอลต่ำ

ปัจจุบัน ตลาดคนรักสุขภาพ มีความต้องการบริโภคนมออร์แกนิคสูงมากขึ้นโดยคาดว่า มูลค่าตลาดรวมผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่ม มีประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งผลิตภัณฑ์ นม-โยเกิร์ต ออร์แกนิค และ นมอัลมอนด์ จัดอยู่ในกลุ่มนมทางเลือก ที่มีสัดส่วนอยู่ประมาณ 5% ส่วนอีก 95% จะเป็นกลุ่ม นมวัวและนมถั่วเหลือง อย่างไรก็ตาม ด้วยกระแสการดูแลสุขภาพ ทำให้เซ็กเมนต์ของนมทางเลือกเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมั่นใจว่า ตลาดผลิตภัณฑ์ นม-โยเกิร์ต ออร์แกนิค ยังคงมีโอกาสเติบโต ตามความต้องการของคนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ บัตเตอร์ฟลาย ออร์แกนิค ก็มีความพร้อมในการทำหน้าที่ OEM รับจ้างผลิตให้กับผู้ที่สนใจลงทุนในประเทศต่างๆ ในเขตเอเชียฯ ด้วยคุณภาพมาตรฐานระดับโลก ผ่านการรับรองจาก Bioagricert (accredited by IFOAM” นางสาว อาศยา กล่าวสรุปในที่สุด

ผลิตภัณฑ์ บัตเตอร์ฟลาย ประกอบด้วย นมออร์แกนิค มี 4 รสชาติ ได้แก่ ออริจินัล,วานิลลา, ช็อคโกแลตสูตรไขมันต่ำ ขนาดบรรจุ 180 มล. ราคาขาดละ 38บาท ในส่วนของผลิตภัณฑ์ เซทโยเกิร์ตออร์แกนิคมี 7 รสชาติ ได้แก่ ออริจินัล,วานิลลา,สตรอว์เบอร์รี่,น้ำผึ้งออร์แกนิค,สูตรไม่มีน้ำตาล,สูตรไขมันต่ำและสูตรผสมเมล็ดเจียขนาดบรรจุ 100 กรัม ราคา กระป๋องละ 28 บาท อีกทั้ง ยังมีผลิตภัณฑ์ โยเกิร์ตพร้อมดื่ม อีก 4 รส คือ ออริจินัล  วานิลลาสูตรไม่มีน้ำตาล และ สูตรไขมันต่ำ  ขนาดบรรจุ 200 มล. ราคาขวดละ 38  บาท นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ นมอัลมอนด์ ขนาดบรรจุ.180 มล. ราคาขวดละ
35 บาท

โดยมีวางจำหน่ายภายในร้าน Butterfly Organic Place ตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 36, ฟู้ดแลนด์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต, ท๊อปซุปเปอร์มาร์เก็ต และ วิลล่า มาร์เก็ต ฯลฯ ทั่วประเทศ

โฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ www.facebook.com/butterflyorganicmilk

แซ่บนัวของกิน เมืองสุรินทร์ถิ่นช้าง อย่ามองข้ามเด็ดขาด

เส้นทางสายกิน อาหารถิ่นในตำนาน (Gastronomy Tourism)

เดือนนี้ Toptotravel มีโอกาสมาเที่ยว จังหวัดสุรินทร์ โดยได้รับคำเฃิญจาก
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นการแนะนำเส้นทางเที่ยว พาเที่ยวสำรวจ เส้นทางสายกิน โดยเฉพาะอาหารพื้นถิ่น ในตำนาน (Gastronomy Tourism) พร้อมทั้งได้สัมผัสธรรมชาติให้ชุ่มฉ่ำกันทั้งปี จำนวน 10 เส้นทาง

นักท่องเที่ยวมาสามรถขับรถเที่ยวเองได้สบายๆ ใช้เวลาตามหาความหมายของชีวิต แล้วก็ได้พบว่าจังหวัดสุรินทร์ ยังคงเป็น สุรินทร์ แบบนี้  ยกให้เลยตั้งแต่สมัยโบราณ เมืองที่ชนะขาดเรื่องของธรรมชาติสวยนี่ไม่ต้องพูด และงานย้อนยุคของบ้านเมือง ที่ปัจจุบันเราแทบไม่พบวิถีแบบนี้กันแล้ว ไม่ว่าจะสายธรรมชาติ ไม่ว่าหรือเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ เรียกได้ว่าไปเมืองเดียวครบทุกแบบกันเลย

ก่อนออกเดินทาง ขอลาก่อนฤดูร้อน! เพราะ กรมอุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูฝนเรียบร้อยแล้ว  Toptotravel อยากชวนมาเที่ยวเส้นทางสายกิน อาหารถิ่นในตำนาน สร้างสรรค์และออกแบบสินค้าเส้นทางอาหารไทย (Gastronomy Tourism) เส้นทางสายภูมิปัญญา และผลิตภัณฑ์ชุมชน ให้เกิดการรับรู้ และเป็นไปตาม Lifestyle ของกลุ่มเป้าหมายสำหรับ นักท่องเที่ยว และกลุ่มตลาดในประเทศ เราพบว่าแท้จริงแล้ว หนทางสู่ความเส้นทางท่องเที่ยวแบบสร้างสรรค์ รับรู้ภาพลักษณ์ของประเทศไทย ในการเป็น World Destination ทางด้านอาหาร ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในการเป็น World Destination อาหารไทยเป็นสินค้าทางการท่องเที่ยวที่สำคัญสามารถกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยว ทำให้เข้าใจและสัมผัสแต่ละสถานที่อย่างอิ่มเอม ท่องเที่ยวอย่างมีคุณค่าและถึงแต่ละสถานที่อย่างแท้จริง

เพื่อขานรับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาคของรัฐบาล ด้วยการใช้การท่องเที่ยวมาเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก เส้นทางยอดนิยม 10 เส้นทาง ลองมาอยู่ด้วยกัน จะเหลืออะไรอีกไหมที่ต้องปรับ ต้องรู้จัก ไม่เพียงแค่เปิดตาให้เห็นถึงความ มหัศจรรย์แห่งอาหารไทยที่ทำให้สัมผัสถึงวิถีชีวิต เรื่องราวความน่าสนใจในศาสตร์และศิลป์แห่งศิลปะ วัฒนธรรม วิถีการดำรงชีวิตในแง่มุมต่างๆ แล้ว ยังสนุกเพลิดเพลิน อิ่มเอมไปกับอรรถรสของรสชาติอาหารที่ แตกต่างกัน ในแต่ละพื้นถิ่น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสัญลักษณ์ ความโดดเด่นของอาหารในแต่ละภูมิภาคได้อย่างชัดเจน

ครั้งนี้ ททท. พิจารณาเลือก 5 เส้นทางได้แก่ จังหวัดตาก สุรินทร์ ตราด สตูล และลพบุรี มาดำเนินการจัดเป็น กิจรรมท่องเที่ยวนำร่องเพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสประสบการณ์จริง ทริปนี้เจออะไรใน เส้นทางมาดูกันค่ะ

ปราสาทบ้านพลวง
เริ่มต้นกันที่ ปราสาทบ้านพลวง ความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหน มีความสวยงามและล้ำค่าเป็นปราสาทขนาดเล็ก ๑ องค์ ก่อสร้างด้วยหินทรายสีขาว บนฐานศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้างประมาณ ๘ เมตร ยาวประมาณ ๒๓ เมตร ปราสาทมีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีประตูทางเข้าออกด้านทิศตะวันออก ส่วนอีก3 ด้าน ทำเป็นประตูหลอก ทับหลังด้านทิศตะวันออกและทิศใต้สลักเป็นภาพพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ทับหลังด้านทิศเหนือเป็นภาพพระกฤษณะปราบนาคกาลิยะ ส่วนทับหลังด้านทิศตะวันตกไม่ได้สลักภาพ ซึ่งหน้าบันด้านทิศตะวันออกสลักเป็นภาพพระกฤษณะยกเขาโควรรธนะ หน้าบันทิศเหนือสลักภาพพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ และหน้าบันด้านทิศใต้สลักเป็นภาพบุคคลประทับนั่งเหนือหน้ากาล บริเวณรอบปราสาทมีสระน้ำล้อมรอบเว้นทางเข้าด้านหน้า ลักษณะของปราสาทบ้านพลวง จะคล้ายกับปรางค์น้อยบนเขาพนมรุ้ง ประกอบกับลวดลายที่พบบนหน้าบันและทับหลัง กำหนดรูปแบบทางศิลปะได้ว่าป็นศิลปะขอมแบบบาปวน อายุราวพุทธศตวรรษที่ 16

เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาสวาย มีพื้นที่ทั้งหมด 18,145 ไร่

วนอุทยานพนมสวาย
ที่นี่….เที่ยวง่ายๆ สบายๆ วนอุทยานพนมสวาย  เมืองที่มีความหมายว่า ภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนาบัว อำเภอเมือง และตำบลเชื้อเพลิง อำเภอปราสาท อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาสวาย มีพื้นที่ทั้งหมด 18,145 ไร่ ได้รับการประกาศเป็นวนอุทยานเมื่อ วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2527  เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์วัฒนธรรม ชนะขาดเรื่องของธรรมชาติ และงานย้อนยุคที่มีร่องรอยอารยธรรมของชาวขอมโบราณ หลอมรวมกลายเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ความสวยของโบราณสถานที่ยังอนุรักษ์กันไว้ได้เหมือนเดิมเด๊ะ ตั้งแต่อตีดยันปัจจุบัน เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางพุทธศาสนา ที่มีชื่อเสียง ทุกปีมีประเพณีสำคัญในช่วงวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ชาวเมืองสุรินทร์จะชวนกันเดินขึ้นเขาพนมสวาย จนเป็นประเพณีที่ทำสืบทอดกันมา เพื่อเป็นสิริมงคลต่อตนเอง คำว่า พนมสวาย เป็นคำภาษาพื้นเมืองของชาวสุรินทร์ การเดินทาง ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ของจังหวัดสุรินทร์ เต็มไปด้วยป่าไม้ที่มีความอุดมสมบูรณ์และสวยงามนอกจากนี้ยังเป็นวนอุทยานเฉลิมพระเกียรติในประเทศไทย และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธา

ช้อปปิ้งที่ตลาดน้ำราชมงคลสุรินทร์
อยู่บริเวณท่าน้ำลำห้วย  หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ ถนน สุรินทร์ – ปราสาท ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ห่างจากตัวจังหวัด 3 กิโลเมตร โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ ร่วมกับ กองกำลังสุรนารี ร่วมก่อตั้ง เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ภายในจังหวัด แวะชิวหาของกินที่นี่เป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอย ในบริเวณตลาดริมน้ำเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ เลาะเลี้ยวริมฝั่งลำน้ำห้วยเสนงแหล่งน้ำสำคัญที่หล่อเลี้ยงคนสุรินทร์มายาวนาน รวมถึงกิจกรรมนั่งช้างชมป่า ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตโดยการนั่งช้างไปตามเส้นทางประวัติศาสตร์ 60 ปี การเสด็จประพาสสุรินทร์ ตลาดน้ำราชมงคลสุรินทร์

ผ้าไหมทอบ้านท่าสว่าง
ตามแบบฉบับที่ร่ำลือกันว่าหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงหัตถกรรมผ้าไหมแห่งเดียวของประเทศไทย บ้านท่าสว่าง หมู่ที่ 1 ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ลองเที่ยวเมืองที่มีเป็นหนึ่งหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ บ้านท่าสว่างเดิมชื่อบ้านเตรี๊ยะ เป็นภาษาพื้นบ้าน (เขมร) คำว่าเตรี๊ยะ เป็นชื่อพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่ง ภาษาไทยว่าต้นชาด บรรพบุรุษของชาวบ้านเตรี๊ยะ ได้อพยพมาจากบ้านระเภาร์ เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ห่างจากบ้านเตรี๊ยะไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 5 กิโลเมตร ในปี พ.ศ. 2485 ได้รวมหมู่บ้านเตรี๊ยะกับหมู่บ้านอื่นๆ เป็นตำบลท่าสว่าง และบ้านเตรี๊ยะ ก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นบ้านท่าสว่างตั้งแต่นั้น ทำให้ลวดลายผ้าไหมสวยเก๋น่าซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึก ทุกมุมของที่นี่ช่างน่าเก็บภาพความประทับใจเอาไว้ทั้งหมด

สวยเริ่ดเชิ่ดได้! เพราะในปี 2553 บ้านท่าสว่าง ได้รับคัดเลือกให้เป็นหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยวเชิงหัตถกรรมผ้าไหม แห่งเดียวของประเทศ โดยกรมการพัฒนาชุมชนกรมพัฒนาชุมชนได้ดำเนินงานโครงการหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว เพื่อพัฒนาหมู่บ้านที่มีจุดเด่น และมีเอกลักษณ์
ให้มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว เป็นการเพิ่มรายได้ให้ประชาชนในหมู่บ้านจากบริการด้านท่องเที่ยว

ปราสาทศีขรภูมิ
โลกแห่งความจริง ที่ปราสาทศีขรภูมิ ครั้งแรกที่เห็น สวยจนแทบหยุดหายใจ ความสวยงามสงบร่มรื่นดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสำรวจและพักผ่อนที่นี่ แม้ว่าการเดินทางอาจจะไกลสักหน่อย แต่รับรองว่าสุดคุ้ม ตั้งอยู่ที่ตำบลระแงง ห่างจากตัวเมืองสุรินทร์ 34 กิโลเมตร ตามเส้นทางหมายเลข 226 อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอไปอีก 1 กิโลเมตร ปราสาทศรีขรภูมิประกอบด้วยปรางค์อิฐ 5 องค์ องค์กลางเป็นปรางค์ประธาน มีปรางค์บริวารล้อมรอบอยู่ที่มุมทั้งสี่บนฐานเดียวกันธรรมชาติช่างเสกสรรค์ ก่อด้วยหินทรายและศิลาแลง

ลักษณะโดยรวม ปราสาทหันหน้าไปทางทิศตะวันออก อย่างใกล้ชิดธรรมชาติ มีบันไดทางขึ้นและประตูทางเข้าเพียงด้านเดียวคือด้านทิศตะวันออกปรางค์ทั้งห้าองค์มีลักษณะเหมือนกัน คือ องค์ปรางค์ไม่มีมุข มีชิ้นส่วนประดับทำจากหินทรายสลักเป็นลวดลายต่างๆ ทั้งส่วนที่เป็นทับหลังและเสาประดับกรอบประตู เสาติดผนัง และกลีบขนุนปรางค์ ส่วนหน้าบันเป็นอิฐประดับลวดลายปูนปั้น องค์ปรางค์ประธานมีทับหลังสลักเป็นรูปศิวนาฏราช (พระอิศวรกำลังฟ้อนรำ) บนแท่น มีหงส์แบก 3 ตัวอยู่เหนือเศียรเกียรติมุข
มีรูปพระคเนศ พระพรหม พระวิษณุ และนางปารพตี (นางอุมา) อยู่ด้านล่าง เสาประตูสลักเป็นลวดลายเทพธิดาลายก้ามปูและรูป

หมู่บ้านช้างเลี้ยงใหญ่ที่สุดในโลก ทวารบาล ศูนย์คชศึกษา หรือ หมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง
เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมวิถีความเป็นอยู่ ความผูกพันระหว่างคนในชุมชนกับช้าง รวมทั้งประเพณี และวัฒนธรรมที่น่าชื่นชมอย่างใกล้ชิด ชาวบ้านตากลางแต่ละครัวเรือนจะมีช้างที่เลี้ยงไว้อาศัยอยู่รวมกัน จนช้างที่พวกตนเลี้ยงไว้เปรียบเสมือนเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของตน ก่อให้เกิดสายใยความผูกพันที่แน่นเฟ้นขึ้น ระหว่างคนกับช้าง ณ บ้านตากลาง จ. สุรินทร์ ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านช้างเลี้ยงใหญ่ที่สุดในโลก

ชาวบ้านตากลาง ดั้งเดิมเป็น  ชาวส่วย (กูย) หรือ กวย ที่มีความชำนาญใน
การคล้องช้างป่า ฝึกหัดช้าง และเลี้ยงช้าง ส่วนมากต้องเดินทางไปคล้องช้างบริเวณชายแดนต่อเขตประเทศกัมพูชาประชาธิปไตย ปัจจุบันสภาวะการเมืองระหว่างประเทศทำให้ชาวบ้านตากลาง ไม่สามารถไปคล้องช้างเช่นแต่ก่อนได้ ชาวบ้านตากลางยังคงเลี้ยงช้าง และฝึกช้างเพื่อไปร่วมแสดงในงานช้าง (Thailand Elephant show)

ชีวิตเป็นของเรา..ออกไปใช้มันสะ ที่นี่ควรค่าแก่การไปทำความรู้จัก หมู่บ้านช้างเลี้ยงใหญ่ที่สุดในโลก ลักษณะการเลี้ยงช้างของชาวบ้านตากลาง เหมือนการเลี้ยงช้างไว้เป็นเพื่อน นอนร่วมชายคาเดียวกับตน ดังนั้นถ้านักท่องเที่ยวได้ไปที่บ้านตากลาง นอกจากจะได้เห็นสภาพโรงช้างดังกล่าวแล้ว ยังจะได้สัมผัสการดำรงชีวิตของ ชาวส่วย โดยเฉพาะในพื้นที่จะได้พบปะพูดคุยกับหมอช้าง ที่มีประสบการณ์ในการคล้องช้างมาแล้วหลายครั้งได้ตลอดเวลา รวมทั้งยังสามารถเดินทางชมจุดบริเวณที่แม่น้ำชีและแม่น้ำมูลไหลมารวมกัน ซึ่งห่างออกไปเพียง 3 กิโลเมตร มีทัศนียภาพที่งดงามน่าพักผ่อนหย่อนใจ ชวนให้ศึกษาในเชิงของธรรมชาติด้วย

สถานที่ : ทีกล้า ฟาร์ม จังหวัดสุรินทร์

ทีกล้า ฟาร์ม
มาถึงสูตรเด็ด  มารับทานมื้อเย็นในระหว่างเดินทางท่องเที่ยว เส้นทางสายกิน อาหารถิ่นในตำนาน บรรยากาศที่ ทีกล้า ฟาร์ม ในยามพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ที่นี่เองมีส่วนร่วมในงาน ตามรอยอาหารถิ่น ของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศ และ ได้มีโอกาศ ทำอาหารถิ่น อาหารที่ให้ ผลผลิตจากฟาร์ม ชวนชิมอาหารอีสานแซ่บๆ ง่ายๆ กับเมนูอาหารพื้นบ้านจังหวัดสุรินทร์

หมก เป็นอาหารอีสานและอาหารลาวประเภทหนึ่ง เป็นการนำเนื้อสัตว์และผักมาเคล้ากับน้ำพริกแกง ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า ห่อด้วยใบตองทรงสูง นำไปนึ่งหรือย่างให้สุก ใส่ต้นหอมและใบแมงลักซึ่งเป็นเครื่องปรุงสำคัญ บางบ้านใส่ผักชีลาวด้วย ตัวอย่างอาหารประเภท หมก ได้แก่ หมกหน่อไม้ หมกไข่ปลา หมกหัวปลี หมกไข่มดแดง หมกปลา หมกเห็ด หมกฮวก เครื่องแกงส่วนใหญ่ประกอบด้วย พริกขี้หนูแห้ง หอมแดง ตะไคร้ซอย ใบมะกรูด เป็นหลัก หรือบางบ้านจะใส่กระชายหรือข่าเข้าไปด้วย

สลอตราว หรือแกงเผือก เป็นอาหารที่มีรสจืด นิยมใส่ปลาเป็นส่วนประกอบ อาจใช้รับประทานเปล่า ๆ คล้ายก๋วยเตี๋ยวก็ได้ ชาวเขมรและชาวกูย ที่มีฐานะ นิยมปรุงให้จืดเพื่อรับประทานเปล่า ๆ เผือกเป็นอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรทสูง ใช้รับประทานแทนข้าวได้ ปลาเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง อาจใช้รับประทานเปล่าคล้ายก๋วยเตี๋ยว พร้อมรับประทานขณะร้อนๆ

ซันลอเจก (แกงกล้วย) “ซันลอเจก” เป็นภาษาเขมร หมายถึง “แกงกล้วย” ซันลอ = แกง, เจก = กล้วย เนื่องจากเมื่อก่อน การคมนาคมขนส่งต่าง ๆ ยังไม่สะดวก อาหารการกินต่าง ๆ ล้วนหาได้จากเรือกสวน ไร่นา และรอบ ๆ บริเวณบ้าน เมื่อมีคนตายในหมู่บ้าน เจ้าของงานจะจัดหาอาหารต้อนรับผู้มาร่วมงานศพ ซึ่งมักจะทำแกงกล้วยเป็นอาหารหลัก เพราะบ้านเกือบทุกหลัง นิยมปลูกต้นกล้วย เพราะต้นกล้วยสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง

อันซอมจรุ๊ก “อันซอมจรุ๊ก” ลักษณะเป็นท่อนยาวๆ ข้างในเป็นข้าวเหนียวผสมกับถั่วลิสง เนื้อหมูและมันหมู ปรุงรสให้ออกเค็มๆ หน่อยแล้วห่อด้วยใบตอง ชิมแล้วก็ถือว่ารสชาติไม่เลวเลยได้รสเค็มๆ มันๆ พร้อมกลิ่นหอมจากใบตอง จะว่าไปรสชาติก็ออกจะคล้ายๆ กับ “บ๊ะจ่าง” อยู่หน่อยๆ เพียงแต่ไม่ได้มีเครื่องเคราเหมือนกับบ๊ะจ่างของคนจีน

Slive Hotel
มอร์นิ่งงงจ้า เรื่องที่พัก อยากได้ที่พักดีๆ อาหารเช้าอร่อยๆ Slive Hotel ที่พักกลางใจเมืองสุรินทร์เมืองช้าง ที่พักแนวใหม่เอาใจลูกค้า Slive Hotel ตั้งอยู่ในเมืองสุรินทร์ ตรงกันข้ามโรงพยาบาลสุรินทร์ การเดินทางสะดวก ใกล้7-11 ใกล้สนามบิน แห่งความหรูหราอลังการ Slive Hotel ลองไปสัมผัสประสบการณ์พิเศษ  โรงแรมมีความสะอาด ทันสมัย คุ้มค่าคุ้มราคา บริการ Wifi ฟรี ทั้งพื้นที่โรงแรม ตื่นจากเตียงนุ่มๆ Slive สบาย Slive Hotel Surin ณ.โรงแรมน่ารักทั้งสถานที่และราคา คุ้มค่าสุดๆ คิดจะพักคิดถึง #Slivehotel
169 Luck Muang Rd,
Muang Surin, Surin, Thailand
@slivehotel โทร 044 060 322

ที่สุริทร์ 2 วัน 3 คืน ชิลล์แค่ไหนต้องลองไปดูด้วยตัวเอง  หลายคนบอกว่ากระแสการท่องเที่ยวโลกที่เป็นไปอย่างรวดเร็วและเชื่อมโยงกันมากขึ้น ส่งผลให้ทุกภาคส่วน ต้องใช้ศักยภาพ ความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์และการขับเคลื่อนกลยุทธ์ความเป็นเลิศทางการตลาด การประชาสัมพันธ์อุตสาหกรรมท่องเที่ยว จึงจำเป็นต้องกำหนดทิศทาง และสร้างความชัดเจนในกระบวนการส่งเสริม ผลักดัน ปรับเปลี่ยน และสร้างสินค้า บริการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับความพึงพอใจของนักท่องเที่ยว

ด้วยเหตุนี้ เมืองไทยจึงไม่ได้มีดีเพียงแค่อาหารริมทาง เมื่อเราเริ่มจากรู้จัก
สไตลสตรีทฟู้ด อาหารไทยที่ชวนสร้าง ความอะเมซซิ่ง ยังมีอาหารถิ่นจานอร่อย สไตล์วิถีไทยดั้งเดิมแบบพื้นบ้าน และอาหารไทยต้นตำรับ ที่เน้นความ วิจิตรบรรจง ในการปรุงแต่ง จัดจานชวนให้ตื่นตาตื่นใจไปกับรูปแบบการนำเสนอ เช่นเดียวกับการยกระดับการพัฒนา เมนูสตรีทฟู้ดพื้นถิ่นแบบโลคัล สู่การเป็นอาหารไทยเชิงสร้างสรรค์ ผ่านการประยุกต์เพื่อเพิ่มคุณค่าและมูลค่าก็ยิ่งทำให้ อาหารไทยครบรส ทั้งอาหารตา อาหารใจ และอาหารที่คุณสัมผัสรับรู้ถึงรสชาติความอร่อยได้ในแบบที่บางครั้งอาจคาดไม่ถึง สนุกสนานกันได้ทั้งครอบครัว

สุดท้ายแล้ว  ความสุขอยางหนึ่งเมื่อได้มาเที่ยวเมืองไทย นั่นคงไม่พ้นการได้เรียนรู้ เปิดรับประสบการณใหม่ๆ กับเรื่องราวการกิน หนึ่งในซิกเนเจอร์ของเมืองไทย ที่ใครก็พลาดไม่ได้ชม Review ครั้งนี้แล้ว เชื่อว่าหลายคนน่าจะแพลนทริปในใจกันแล้ว ใครแพลนไปเที่ยวอยู่แล้วลองหาเวลาสักวันสองวันแล้วจะได้เรียนรู้ว่า….เมืองไทยมีที่สวยงามมากกว่าที่ีคิด

ชวนเพื่อนมายืด Bulgogi Brothers

เมนูเด็ดของร้านเกาะกระแสสุขภาพกับเมนู King’s Bibimbup 

ร้าน บูลโกกิ บราเธอร์ส ทั้ง2 สาขา Bulgogi Brothers  ร้านที่หลายคนมักคิดถึงเวลาอยากกินอาหารเกาหลีต้นตำรับ และถ้าพูดถึงร้านต้นตำรับอาหารเกาหลีแท้ๆ ที่ไม่ต้องบินไปไกลถึงเกาหลี วันนี้เรามีโอกาสนัดเพื่อนๆ สัมผัสกันเต็มๆ ที่ร้านอาหารเกาหลีสุดฮิต ร้านนี้มีความอร่อยจัดเต็มเเบบต้นตำรับจากเกาหลี ปิ้งย่างที่ไม่ว่าจะสายไหนก็ต้องชอบ เนื้อเกรดดีระดับพรีเมี่ยมปิ้งย่างมีให้เลือกอร่อยทั้งเนื้อวัวอย่างดี หมูสามชั้นรมควัน หมูสามชั้น คอหมู หมูสไลซ์ราดซอสรสเข้มข้น ที่ไม่ไปไม่ได้แล้วอร่อยฟินคุ้มแค่ไหนก็อย่าพลาดนั่งทานแบบชิลๆ จิ้มน้ำจิ้มสูตรพิเศษของทางร้าน (มีรสหวานเเละเผ็ด) เสริฟพร้อมเครื่องเคียงมาแบบจัดเต็มกันจริงๆ เติมได้ตลอด เเละเมนูอะลาคาร์ทอร่อยๆ มีอีกมากมาย อย่างบิบิมบับ ไก่ทอดเกาหลี หมูบลูโกกิ หมูผัดกิมจิ Top Hit ไก่สไปซี่ส์ชีส ให้เพื่อนๆได้สัมผัส Alternative Menu ที่ผสมผสานระหว่างซอสสูตรต้นตำหรับเกาหลี และชีสยืดแสนอร่อย ผักสดนานาชนิดเเละเมนูที่มีชีสเอาไปยืดกันให้สุดพลัง  บอกเลยเอาใจคนรักเมนูเกาหลี มีให้เลือกหลากหลายน่าลองทุกเมนู


ร้านอาหารเกาหลีที่ได้รับความนิยมเกรดพรีเมี่ยม ร้านอาหารเกาหลีรสชาติอร่อยเเบบเกาหลีแท้ๆ ค่ะ มีเมนูอาหารให้เลือกหลากหลายเเถมความพิเศษของร้านนี้ก็คือเป็นร้านอาหารที่มีสูตรเคล็ดลับความอร่อย เพราะเนื้อที่คัดสรรมาอย่างดี บวกกับเตาย่างที่ทันสมัย แถมบรรยากาศภายในร้านยังเป็นห้องแอร์ บอกได้เลยไม่มีคำว่าร้อนแน่นอน



เกาะกระแสสุขภาพกับเมนู King’s Bibimbup หนึ่งในเมนูยอดนิยมที่รสชาติโดดเด่นจากซอสสูตรเฉพาะของเรา พร้อมด้วยผักและสมุนไพรหลากหลายชนิด ที่จะทำให้ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแก่ร่างกายได้ มาชวน!! ส่งต่อความอร่อยในเมนูพระราชทานสุดพิเศษ ซึ่งจะผลิตและจำหน่ายเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนเมษายน เท่านั้น บูลโกกิ บราเธอร์ส ได้จัดเมนูพิเศษ “รอยัล บิบิมบัพ” ข้าวยำสไตล์เกาหลี

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาแนะใช้น้ำมันเมล็ดชาโครงการภัทรพัฒน์ เป็นส่วนประกอบในการปรุง โดยนำมาคลุกเคล้าใน เนื้อวัว เนื้อหมู และซีฟู้ด รวมไปถึงผักนานาชนิด จนเป็นข้าวยำสไตล์เกาหลีที่หอมอร่อย เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ในราคาเพียง 359 บาท

บูลโกกิ บราเธอร์ส ได้จัดเมนูพิเศษ “รอยัล บิบิมบัพ” ข้าวยำสไตล์เกาหลี

เต็มอิ่มไปกับเมนูปิ้งย่าง หรือเมนูหม้อไฟ ที่มีอาหารให้เลือกอย่างหลากหลาย และรสชาติอาหารแบบออริจินัลเกาหลี ที่ไม่เหมือนใครมาลิ้มลองลองความอร่อยแสนพิเศษกับ “รอยัล บิบิมบัพ” จากร้าน บูลโกกิ บราเธอร์สทั้ง2 สาขา (ชั้น8 โซนเฮลิกซ์ควอเทียร์ ศูนย์การค้าดิเอ็มควอเทียร์ และชั้น 2 ศูนย์การค้าสเปลล์ แอท ฟิวเจอร์พาร์ค)รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย มอบสมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนา





มาลองความอร่อยที่ลงตัวแบบนี้ได้ที่ BulgogiBrothers
ที่อยู่ The Emquartier อาคาร Helix ชั้น 8
เบอร์ติดต่อ โทร.098 246 0888 (ชั้น 8 ดิเอ็มควอเทียร์)
โทร.02 402 4545 (ชั้น 2 สเปลล์ แอท ฟิวเจอร์พาร์ค)
เวลา เปิด-ปิดเปิด ให้บริการ 11:30 -22:00 น.
ประเภทร้านKorean ( อาหารเกาหลี )
Facebook:
https://www.facebook.com/Bulgogi.Brothers.Thailand
http://bulgogibrothers.co.th/

 

 

Tommy Tang สุดยอดเชฟเซเลบฯ ระดับตำนานของดาราฮอลลีวู้ด

เจ้าของตำราการทำอาหารชื่อว่า
“อาหารไทยยุคใหม่”

สัปดาห์นี้ ขอชวนแฟนๆ รายการ  เชฟทัวร์ ครัวติดดิน Street  Chefs  มารู้จักและ พูดคุยกับเชฟอาหารไทย ขวัญใจฮอลลีวูด Tommy Tang (ทอมมี่ แทง) รายการน้องใหม่ “เชฟทัวร์ ครัวติดดิน Street Chefs”  เป็นรายการที่จะพาไปเฟ้นหาร้านอร่อยสุดๆ  ค้นหาวัตถุดิบสุดเด็ดประจำท้องถิ่นนั้นๆ แล้วนำมารังสรรค์เป็นเมนูใหม่จานพิเศษ  ด้วยฝีมือของเชฟทอมมี่ Tommy Tang หนึ่งในผู้บุกเบิกที่ทำให้อาหารไทยเป็นที่รู้จัก นิยมในอเมริกา และทั่วโลก  ตั้งแต่เด็กจนโต จากการเดินทางไปเสี่ยงโชคที่ประเทศอเมริกา

Tommy Tang เริ่มด้วยการเป็นผู้จัดการวงดนตรีร็อก และ  Music Producer และมาเริ่มชอบทำอาหารมาตั้งแต่เริ่มงานในตำแหน่ง  ผู้จัดการร้านและเป็นเชฟร้านอาหารไทย ความสนใจในอาหารรสเลิศที่เพิ่มมากขึ้น กำลังช่วยยกระดับอุตสาหกรรมนี้ ทำให้บรรดาเชฟท้องถิ่นก็เรียนรู้เพิ่มขึ้นจากร้านอาหารในต่างประเทศ โดยใช้เวลาแค่เพียง 1 ปี แต่ในที่สุด Tommy Tang ได้ค้นพบว่าคำตอบสำหรับชีวิตที่แท้ของเขานั่นคืออาหาร ด้วยความสามารถและเป็นเอกลักษณ์ของ Chef Tommy Tang   อาหารไทยก็เป็นที่รู้จัก และนิยม โดยมีเหล่า Celebrities คนดัง ระดับฮอลลีวูด ติดใจกับอาหารไทยที่ Chef Tommy Tang ปรุง เช่น Jackson Browne, Earth Wind and Fire, Queen, Orson Wells, Cher, Tom Cruise, Robin Williams, Billy Crystal

Tommy Tang ทำงานและเรียนในประเทศสหรัฐอเมริกา  โดยในราวปี
คริสศตวรรษที่ 70  จบการศึกษาที่วิทยาลัยพาลอสเวอดี้ในรัฐแคลิอร์เนียภาคใต้ ประสบการณ์จากการได้รางวัลไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ในอเมริกา

-ผู้จัดการวงดนตรีร็อคและผู้อำนวยการผลิตงานเพลง

-ผู้บุกเบิกร้านอาหารและชอปปิ้งบนถนนเมลโรส ปี1986

-เจ้าของและเป็นเชฟทำอาหารที่ร้านอาหารไทย ชื่อร้านTommy Tang
ในเมืองเวสท์ฮอลลีวูด และ ที่นิวยอร์ค ดาราและผู้มีชื่อเสียง เช่น  แจ็กสันบราวน์วงดนตรีเอิร์ธวินด์แอนด์ไฟร์  วงดนตรีควีนวงดนตรีโรลลิ่งสโตนนักแสดงออร์สันเวลส์นักแสดงอย่างแฮริสันฟอร์ดโรเบิร์ทเดอนิโรทอมครูซโรบินวิลเลี่ยมส์บิลลี่คริสตัลเดวิดเลตเตอร์แมนมาเป็นลูกค้าขาประจำ และชื่นชอบอาหารไทยที่ร้านมาก

-เขียนตำราการทำอาหารชื่อว่า “อาหารไทยยุคใหม่” ได้พิมพ์ออกจำหน่ายในปี1991หนังสือเล่มนี้  ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนังสือที่ให้ความกระจ่างของศิลปะในการเตรียมอาหารไทยยุคใหม่

Tommy Tang (ทอมมี่ แทง) รายการน้องใหม่ เชฟทัวร์ ครัวติดดิน Street Chefs

ในที่สุดได้มีการพิมพ์จำหน่ายซ้ำ รวมทั้งหมดแปดครั้งด้วยกัน ใน ปี 1995  สถานีโทรทัศน์ของ PBS USA ได้เชิญ คุณทอมมี่ ทำรายการการทำอาหาร การท่องเที่ยวรายการ TOMMY TANG’S   EASY THAI COOKING  จนกระทั่งรายการฮิตติดอันดับหนึ่งหลายปีติดกัน

Tommy Tang เชฟไทยที่โด่งดัง ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจากการทำรายการทีวีผ่าน PBS อเมริกาประเภทรายการการทำอาหารและการท่องเที่ยวที่ชื่อ  Tommy Tang – Easy Thai Cooking และTommy Tang- Let’s Get Cooking ทางสถานีโทรทัศน์ PBS อเมริกาแคนาดา  ด้วยเรตติ้งสูงสุดหลายปีติดต่อกัน

Tommy Tang (ทอมมี่ แทง) เชฟอาหารไทย ขวัญใจฮอลลีวูด

การเดินทางมาครั้งนี้  เพื่อถ่ายทำรายการ เชฟทัวร์ครัวติดดิน Street Chefs  ทีวีในประเทศไทยเป็นครั้งแรกของ รายการ เชฟทัวร์ ครัวติดดิน Street Chefs ทางช่อง 7 สี  รายการที่เฟ้นหา สุดยอดร้านอร่อย และค้นหาสุดวัตถุดิบคุณภาพดีจากทั่วประเทศ แต่ละชนิดเป็นวัตถุดิบเด็ดประจำท้องถิ่นนั้นๆ  โดย เชฟอาหารไทย ขวัญใจฮอลลีวูด นำมารังสรรค์เป็นเมนูใหม่จานพิเศษ  ทั้งขั้นตอนการปรุงที่มีเทคนิคการจัดเตรียม ตั้งมีด เขียงแต่ละชนิดที่ใช้เตรียมอาหารก่อนปรุง จนจบขั้นตอนเป็นเมนูสุดยอดของแต่ละร้าน

เชฟทัวร์ครัวติดดิน Street Chefs   โดยมี  หนุ่มอนุวัต  และ ปุ้ม  เปรมสุดา
ทำหน้าที่พิธีกร  ทุกวันจันทร์ และ อังคารออกอากาศ เวลา 13.00 น.
ทางช่อง 7 สี

เปิดตำนานเชฟชื่อดัง เม็กซิกาโน่

เปิดตัว “Carlos’s Creation Menu”
พร้อมเสิร์ฟเมนูสุดพิเศษ เป็นประจำทุกเดือน
ที่ทุกท่านต้องห้ามพลาด!

เปิดตำนานอาหารแม็กซิกัน รสต้นตำรับ พร้อมเทคนิคการปรุงอาหารแบบ
โมเดิร์สุดอลังการ “เม็กซิกาโน่” (Mexicano) ห้องอาหารเม็กซิกันที่มีชื่อเสียงระดับทอล์กออฟเดอะทาวน์​โดยโรงแรมแรมแบรนดท์ กรุงเทพฯ ​เพิ่มความจัดจ้านบทใหม่ให้กับอาหารเม็กซิกันแท้

เปิดตัว  Carlos’s Creation Menu  เมนูสุดว้าว!  ที่จะรังสรรค์ขึ้นมาใหม่ให้สายชิมได้ลิ้มรสกันเป็นประจำทุกเดือน แบบไม่ซ้ำ โดย “เชฟคาร์ลอส  บราโว” เม็กซิกันเชฟชื่อดังในตำนาน พร้อมสาดสีสันความสนุกสนานให้มากกว่าที่เคย ด้วยความบันเทิงแปลกใหม่ ซัลซ่าแดนซ์  (Salsa Dance)  ที่จะทำให้รู้สึกอยากลุกขึ้นเต้นตาม ซึ่ง “เม็กซิกาโน่” เติมเต็มช่วงเวลาที่ดีที่สุดให้กับผู้มาเยือนได้รับประทานอาหารอร่อย รสชาติดี พร้อมได้พักผ่อนแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อน ภายใต้กลิ่นอายของบรรยากาศงานรื่นเริงที่มีแต่ความสนุกสนาน

เชฟคาร์ลอส บราโว เม็กซิกันเชฟชื่อดังในตำนาน

“เชฟคาร์ลอส  บราโว” เม็กซิกันเชฟชื่อดังในตำนาน

เม็กซิกาโน่ (Mexicano) ห้องอาหารเม็กซิกัน ที่มีชื่อเสียงระดับทอล์กออฟเดอะทาวน์ ​เป็นห้องอาหารยอดนิยม ที่มีบริการที่เป็นกันเอง สัมผัสกับอาหารแม็กซิกันรสต้นตำรับแบบพรีเมี่ยมที่ทั้งอร่อยกว่าและหลากหลายกว่าอาหารแม็กซิกันแบบทั่วๆ ไป ​เพิ่มความจัดจ้านบทใหม่ให้กับอาหารเม็กซิกันแท้

“Carlos’s Creation Menu” จะถูกรังสรรค์ขึ้นโดย “เชฟคาร์ลอส บราโว” มาสเตอร์เชฟแห่งห้องอาหารเม็กซิกาโน่ ผู้มีสัญชาติเม็กซิกันแท้ ๆ และคร่ำหวอดในวงการอาหารมาอย่างยาวนาน โดยจะถ่ายทอดฝีมือของเขาสู่เมนูพิเศษในแต่ละเดือนแบบไม่ซ้ำกัน และจัดจ้านกว่าเดิม ตั้งแต่ขั้นตอนการเฟ้นหาวัตถุดิบที่แปลกใหม่และมีคุณภาพมากที่สุด วิธีปรุงที่พิถีพิถัน และวิธีการนำเสนออาหารแต่ละจานที่ครีเอทมากยิ่งขึ้นจนต้องอยากมาเช็คอิน

นอกจากนั้น Mexicano Restaurante  มีเครื่องดื่มให้เลือกนานาชนิด
ดนตรีสดจากวงแม็กซิกันด้วยแถมด้วยวงดนตรีแม็กซิกันที่มาร้องเพลงให้
ฟังกันแบบสดๆ สนุกสุดเหวี่ยงไปกับวงดนตรีละตินของเราที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินจนลืมเวลา วงดนตรีสดสไตล์ละติน แบบฟูลแบนด์ แห่งแรกและแห่งเดียวในกรุงเทพฯ ที่จะมาโชว์พลังเสียงอันเร้าใจเต็มเปี่ยมด้วยพลังแห่งความบันเทิง   และโชว์สุดพิเศษในเทศกาลสำคัญต่าง ๆ อย่าง ซัลซ่าแดนซ์ (Salsa Dance) ที่จะทำให้รู้สึกอยากลุกขึ้นเต้นตาม

 

มาลองอร่อยไม่ซ้ำใครสุดยอดอาหารแม็กซิกันรสต้นตำรับ ทุกคนต้องห้ามพลาด  ต้นตำรับที่ดีที่สุดประกอบกับกรรมวิธีการปรุงอาหาร วัตถุดิบและการจัดจานแบบโมเดิร์นโดยเชฟ Carlos’s Creations  ด้านเมนูอาหารต่างติดใจในรสชาติเผ็ดๆ แถมยังทำให้ลิ้นชา แต่เชื่อว่าน้อยคนที่จะรู้ที่มาของและเครื่องดื่มก็อลังการไม่แพ้บรรยากาศร้าน มาชมความพิเศษของเมนูอาหารและเครื่องดื่มกับความแปลกใหม่ทั้งการเลือกใช้วัตถุดิบ กรรมวิธีการปรุงแบบสมัยใหม่และการจัดจานที่สวยงามมากๆ

Mr.Eric Hallin : General Manager Rembrandt Hotel@Towers Bangkok
เชฟคาร์ลอส บราโว” มาสเตอร์เชฟแห่งห้องอาหารเม็กซิกาโน่ ผู้มีสัญชาติเม็กซิกัน
ซัลซ่าแดนซ์ (Salsa Dance)

เครื่องดื่มสูตรพิเศษที่ “เม็กซิกาโน่” คัดสรรบรรดาเตอร์กีล่า ชั้นดีจากทั่วทุกมุมโลกมารวมกันไว้ที่บาร์แห่งนี้ ​ โดยบาร์เทนเดอร์มากประสบการณ์จะแสดงลีลาวาดลวดลายภายในบริเวณบาร์ให้ได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด เมนูเครื่องดื่มที่พลาดไม่ได้ของเม็กซิกาโน่ ได้แก่ La Hacienda Margarita , Margarita El Rey, Copa Especial La Hacienda and La Fruta Margarita และ Mexicano’s Pisco Sour

มาชมเมนูอาหารสุดพิเศษเซ็ตแรก ต้อนรับซัมเมอร์ เดือนเมษายน 2561
1 CAMARONES EN AGUACHILE Y TARTAR DE AGUACATE กุ้งแช่อิ่มกรุบกรอบกับอะโวคาโดทาร์ทาร์รสกลมกล่อม

2.GORDITA DE COCHINITA PIBIL
แป้งข้าวโพดทอดสอดไส้หมูผัดปรุงรสจัดจ้าน

3.HUACHINANGO CON ALMEJAS Y CHORIZO A LA VERACRUZANA
ปลากะพงแดงเนื้อชุ่มฉ่ำกับหอยสด ๆ และไส้กรอกโชริโซสไตล์เบรากุซ

4.FILETE DE RES CON MOLE NEGRO Y HABANERO
เนื้อสันในนำเข้าเกรดพรีเมี่ยมย่างจนหอมกรุ่น เสิร์ฟมาพร้อมซอสแบล็คโมล และพริกฮาบาเนโร

5.TORRIJA DE TRES LECHES
เค้กสุดนุ่มชุ่มช่ำไปด้วยนม ขนมหวานสไตล์เม็กซิกันแท้

โดยรวมแล้ว อาหารแม็กซิกันของ Mexicano Restaurante อร่อยง่าย เฉียบขาดด้วยรสชาด และยังมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว  @REMBRANDT HOTEL BANGKOK, สุขุมวิท 18 อาหารจานเด่นของแม็กซิโกที่หลายคนอาจจะพอรู้จัหรือแม้แต่เป็นเมนูโปรด ด้วยความง่ายและอร่อยเครื่องเคียงที่เราเห็นอยู่บ่อยๆ ในอาหารเม็กซิกัน กลิ่นอายแม็กซิกัน ที่รสชาดจัดจ้าน ไม่แพ้สีสัน

ห้ามพลาด หากไปเยือนเพราะความพิเศษของร้าน Mexicano Restaurante ตั้งแต่บรรยากาศร้านที่ชั้น4 ของโรงแรม พร้อมกับการตกแต่งร้านแบบแม็กซิกันของ Mexicano Restaurante ที่ผสมผสานกับการตกแต่งสไตล์สมัยใหม่ที่สวยจนสามารถเป็นแลนมาร์คย่อมๆ ที่นี่มีให้เลือกหลากหลาย ถูกปากชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างแน่นอน

ชวนเพื่อนๆ ชิมอาหารแม็กซิกันแบบต้นตำรับภายใต้บรรยากาศแบบแม็กซิกันแท้ๆ มาชนแก้วด้วยเครื่องดื่มสุดพิเศษ เม็กซิกาโน่” ตั้งอยู่ภายในโรงแรมแรมแบรนด์ กรุงเทพฯ (ชั้น 1) สุขุมวิท ซอย 18 เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 17.00 – 24.00 น.​ มีวงดนตรีเม็กซิกันบรรเลงสดทุกวัน (ยกเว้นวันอังคาร) นอกจากนั้น ยังมี “เอล บรันซ์” (El Brunch) ให้เลือกอิ่มอร่อยในมื้อสายทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 12.00 ­– 15.00 น.
ราคา 800​ บาท และ  เด็ก ราคา 200 บาท

บริการจัดเลี้ยงส่วนตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และเทศกาลอาหารที่น่าตื่นตาตื่นใจตลอดทั้งปี สำรองที่นั่ง  โทร. 02 261 7100 mexicano@rembrandtbkk.com
Website: http://www.rembrandtbkk.com/restaurants/
Facebook: https://www.facebook.com/Mexicanobkk

ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นของร้านเม็กซิกาโน่ และ โรงแรมแรมเบรนดท์
สุขุมวิท 18กรุงเทพฯ
https://www.rembrandtbkk.com/restaurants/ และ www.facebook.com/rembrandtbkk

#mexicanobkk #rembrandtbkk #mexicanfood #foodie #bangkok #mexican #brunch #family

For advance reservations email us at
Location: โรงแรม Rembrandt Hotel Bangkok, สุขุมวิท 18

ไปลองเถิด แล้วจะติดใจ!

MoMo Cafe
ในโรงแรม Marriott Sathorn Vista 

Totptotravel มีโอกาสได้ร่วมรับประทานอาหารค่ำที่ MOMO CAFÉ – MARRIOTT EXECUTIVE APARTMENTS SATHORN VISTA  โรงแรมตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ ถนนสาทรใกล้ สถานีรถไฟฟ้าศาลาแดงและช่องนนทรีท่ามกลางแหล่งช้อปปิ้งในซอยสวนพลู ซึ่งเป็นย่านที่มีประวัติอันยาวนานแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ เสน่ห์ของที่นี่เต็มไปด้วยความร่มรื่นเงียบสงบ แม้จะอยู่ใจกลางย่านธุรกิจอย่างสาทร ร้านอยู่ชั้น1 ฝั่งตรงข้าม Lobby ภายในห้องอาหาร โล่งโปร่งสบาย ด้วยกระจก รอบด้านทำให้สามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศด้านนอกที่ร่มรื่น และไลฟ์สไตล์ ของผู้คนที่สัญจรผ่านไปมา  โดยส่วนตัวแล้วชอบที่ตั้งของโรงแรม ที่นี่หาง่าย เดินทางสะดวกใจกลางสาทรเข้า ซอยสาทร 3 (ซอยสวนพลู) ประมาณ 20 เมตร เลือกนั่งตามใจปรารถนา ในห้องแอร์ มีที่นั่งทั้งแบบเก้าอี้มาตรฐาน โซฟา และเก้าอี้บาร์

 

Totptotravel มีโอกาสร่วมรับประทานอาหารมื้อเย็นของ Momo Cafe บุฟเฟ่ต์ และ A-La-Carte  ภายใต้คอนเซ็ปต์ Modern Living,Modern Eating  เต็มอิ่มจุใจทั้งคอซีฟู้ดและมีทเลิฟเวอร์กับบุฟเฟ่ต์นานาชาติมื้อค่ำ เชฟยีราฟ เชฟสุวิรัตน์ นำยงกุล Executive Chef  ได้เลือกเอาเมนูอาหารนานาชาติน่าทานมากมายหลายรายการ ด้วยการบรรจงคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพจากทั่วทุกมุมโลก ตลอดจนรังสรรค์เมนูจานเด็ดสุดพิเศษที่สร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้ห้องอาหารโมโม่ คาเฟ่ เรามาลองดูหน้าตาอาหารกันดีกว่าค่ะ ว่าจะกระตุ้นต่อมหิวกันได้แค่ไหน

Buffet นานาชาติ ที่ MoMo Cafe ที่ Toptotravel ยกให้ว่าดีและเหมาะสมกับราคาที่สุดในเวลานี้  มีไลน์อาหารน่าทานมากมายหลายรายการให้บริการ อยากให้รีบมาทานด่วนๆ  มาแล้วปลื้มมากได้อารมณ์แบบกินยังไงก็ไม่หมด

สเต๊ก กับหอยนางรมแบบเต็มๆ ซึ่งส่วนตัวแล้วชอบ Lamp Steak หอมนวลลิ้นละมุนละมัย รวมถึงสเต็กวากิว สเต็กทูน่า ที่เอาใจสายเนื้อ  หอมกรุ่น นุ่ม
ส่วนซีฟู้ดก็มาเต็ม ทั้งกุ้ง หอยแมลงภู่ หอยนางรมสดๆ ที่นี่เลอค่ามาก เนื้อหวานและน้ำจิ้มเด็ดค่ะ

ส่วนเมนูที่ เป็นกุ้งจะเป็นกุ้งแบบเต็มปากเต็มคำเนื้อแน่นๆ หอยนางรมเป็น
อีกหนึ่งอาหารยอดนิยมของลูกค้าหลายท่าน  ตามด้วยอาหารญี่ปุ่นอย่างแซลมอนซาชิมิ ซูชิและซาชิมิระดับพรีเมี่ยมนี่สุดยอด  มุมสลัดผักออร์แกนิก เมนูที่ตักเองได้ทั้งหมด ซีฟู้ด สลัด ยำ ข้าวผัด  ขนมหวาน เครื่องดื่ม รวมถึงการบริการ เรียกว่าเต็มที่ไม่มียั้ง ดูแล้วท้องน่าจะร้องไปตามๆ กัน

สำหรับอาหารจานหลักอย่าง สเต็กเนื้อวากิว จะเป็นการปรุงสดจากครัว โดยสามารถเลือกรับประทานได้จากเมนูอย่างไม่จำกัด พนักงานรับออเดอร์จากเรา ค่อยๆ ทำค่อยๆย่าง รออาหารแป๊ปนึง ไม่ว่าจะเป็น พิเศษกว่านั้น Momo Cafe ลูกค้าสั่งปรุง ร้อนจานต่อจานแค่หอยนางรมสดกะเนื้อวากิวก็คุ้มแล้ว

บรรดารายการอาหารที่ เชฟยีราฟ ได้คัดสรรค Yellowfin Tuna เกรดพรีเมี่ยม หรือ BBQ Pork Spare Ribs พร้อมซอสโฮมเมดสตูรเด็ดของทางร้าน  หอยนางรมสดคัดคุณภาพส่งตรงจากประเทศเกาหลี หอยแมลงภู่จาก ประเทศนิวซีแลนด์ กุ้ง และ ปูม้าสดเนื้อแน่น เสริฟ์พร้อมน้ำจิ้มหลายรสชาติ รวมไปถึงน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้านแบบไทยอาหารญี่ปุ่นสุดพรีเมี่ยม

นอกจากนั้นยังมี อาหารไทยรสจัดจ้าน ที่มีทั้ง  ต้มยำ ลาบ รวมไปถึงผัดเผ็ดทำเลและน้ำพริกต่างๆ แต่อย่า ลืมเก็บท้องไว้ปิดท้ายด้วยขนมหวานที่มีทั้งขนมไทยต่างๆ ไปจนถึงขนมเค้ก ขนมอบนานาชนิดมากมายด้วยนะคะ


ห้องอาหาร โมโม่ คาเฟ่ ถือเป็นตัวแทนของคนที่มีแนวคิดรุ่นใหม่ ไม่เน้นความหรูหรา แต่แฝงด้วยความมีสไตล์ เชื่อว่าที่นี่จะเป็นที่ๆ ทำให้วันพักผ่อนธรรมดาของเรากลายเป็นวันพิเศษได้แน่นอนนับว่าเราได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า บางทีการไปเที่ยวก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องออกเดินทางไกลเสมอไป บางครั้งการมา นั่งพักผ่อนที่สบายๆ ทานอาหารอร่อยๆ ไม่ต้องเดินทางกันไกลมากก็สนุกและคุ้มค่าได้เหมือนกัน และครั้งนี้นอกจากได้พักผ่อนกันแล้ว ยังได้เต็มอิ่ม ใครไปก็เดินดูให้ดีก่อน แล้วค่อยๆ ตักกัน เดี๋ยวจะพุงระเบิดซะก่อน กินได้ฟินๆยาวๆ 4 ชม. ทานกันให้พุงแตกไปเลย

โปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์นานาชาติมื้อค่ำ ณ.ห้องอาหาร MoMo Café อิ่มเพลินจุใจในราคาสบายกระเป๋าเพียงท่านละ 899++ บาท ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาให้ลิ้มลองทุก 2 เดือน

Surf and Turf Buffet Dinner : บุฟเฟ่ต์นานาชาติมื้อค่ำ รวมดื่ม
เวลา 18:00-22:00 น.  ร้านโมโม่ คาเฟ่ – MoMo Café  ชั้น Lobby

Marriott Executive Apartments Sathorn Vista
โรงแรม แมริออท เอ็กเซกคิวทีฟ อพาร์ทเมนท์ สาทร วิสต้า Marriott Executive Apartments Sathorn Vista
1 ซอยสาทร 3 ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพ 10120
1 Sathorn Soi 3, South Sathorn Rd., Bangkok 10120 Thailand
โทร : 02 343 6789
website: www.marriott.com
Facebook Page: www.facebook.com/marriottsathornvista

 

โครงการเทศกาลนครแห่งอาหารทะเล เทศบาลนครสมุทรสาคร

กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว
ส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ในนามของ นครแห่งอาหารทะเล ตำบลท่าฉลอม มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกับสุขาภิบาลแห่งแรกของประเทศไทย เพื่อส่งเสริม สร้างภาพลักษณ์ และพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโชว์การเป็นผู้นำแห่งการผลิตอาหาร แปรรูปและจำหน่ายอาหารทะเลแปรรูป และเพื่อเป็นการกระจายรายได้ให้กับท้องถิ่น รวมถึงเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่เทศบาลนครสมุทรสาคร และจังหวัดสมุทรสาคร

นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร

นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ให้เกียรติเป็นประธานในการเปิด  “โครงการเทศกาลนครแห่งอาหารทะเล เทศบาลนครสมุทรสาคร” โดยมี นายชิงชัย บุญประคอง ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่ นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร เป็นผู้กล่าวรายงาน พร้อมทั้ง ประธานสภาเทศบาลฯ เลขานุการสภาเทศบาลฯ สมาชิกสภาเทศบาลฯ   และรองปลัดเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ พนักงานเทศบาล เข้าร่วมพิธีเปิดในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในเขตเทศบาลนครสมุทรสาครและจังหวัดสมุทรสาคร ให้เป็นที่รู้จักกันในนามของ

ชม ช็อป ชิม บรรยากาศริมทะเล  ในงาน“นครแห่งอาหารทะเล” แบบดั่งเดิมกับชุมชนที่สนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง  รวมทั้งการจัดงานยังเป็นการช่งย กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งเสริมภาพลักษณ์  การท่องเที่ยว และพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ของเทศบาลนครสมุทรสาคร

 

จึงขอเชิญร่วมชม ช็อป ชิม ท่ามกลางบรรยากาศชิลๆ  ในงาน   “ นครแห่งอาหารทะเล” ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 18 มีนาคม 2561 เริ่มตั้งแต่  เวลา 16.00 น เป็นต้นไป ณ บริเวณสะพานริมเขื่อนหน้าวัดสุทธิวาตวราราม หรือวัดช่องลม ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร มาร่วมย้อนรอยประวัติศาสตร์  สุขาภิบาลแห่งแรกประเทศไทย  โดยมีการจัดนิทรรศการประวัติความเป็นมา มุมถ่ายรูปย้อนยุค ล่องเรือชมวิถีชีวิตชาวประมงและวิวปากอ่าว ฟรี ช็อปอาหารทะเลทั้งสดและแปรรูป ชิมเมนูเด็ด/อาหารพื้นบ้าน ในบรรยากาศสุดชิลริม

ขอเชิญ ร่วมงานโครงการเทศกาลนครแห่งอาหารทะเล เดินชมนิทรรศการ และร้านจำหน่ายอาหาร ณ บริเวณริมเขื่อนหน้าวัดสุทธิวาตวราราม
(วัดช่องลม) และ ถนนถวาย ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมืองสมุทรสาคร
จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งงานนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 18 มีนาคม 2561

ดันอาหารไทยสู่เวทีโลก เพราะ อาหารคือหนึ่งในปัจจัยสี่

บุญรอดฯ ตั้ง Food factors
สร้างเครือข่ายธุรกิจ เชื่อมต่อช่องทางอาหารไทยสู่เวทีโลก

อาหาร คือหนึ่งในปัจจัยสี่ ที่มีความจำเป็นในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ล่าสุดได้จัดตั้ง บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด เพื่อเข้ามาสร้างเครือข่ายการดำเนินธุรกิจอาหาร ทั้งตลาดภายในไทยและต่างประเทศ โดยวางแผนกรอบการลงทุนในระยะ 3 ปี ข้างหน้า (2561-2563) จะใช้เม็ดเงินลงทุนในกลุ่มธุรกิจ 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะแบ่งการลงทุนออกเป็นการลงทุนใน บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด ในวงเงินประมาณ 2,500 ล้านบาท และ ลงทุนในบริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด ในกลุ่มธุรกิจซัพพลายเชน 2,500 ล้านบาท

ปิติ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการธุรกิจซัพพลายเชน และกรรมการบริหาร บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด

“ปิติ ภิรมย์ภักดี” กรรมการผู้จัดการธุรกิจซัพพลายเชน และกรรมการบริหาร บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มและอาหาร เปิดเผยถึงแผนและยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจกลุ่มบุญรอดฯ ว่าบริษัทมีความมุ่งมั่นและมีความพร้อมเดินหน้าขยายกลุ่มธุรกิจอาหารในเชิงรุก ด้วยเชื่อว่าอาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ ที่มีความจำเป็นในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ดังนั้น อาหารจึงเป็นกลุ่มธุรกิจ หรือ ผลิตภัณฑ์ที่จะไม่ได้รับผลกระทบจาก
ดิจิทัลดิสรัปชั่น

ทั้งนี้ การจัดตั้ง บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด มีเป้าหมายเพื่อสร้างเครือข่ายพันธมิตร เชื่อมต่อช่องทางธุรกิจอาหารสู่ตลาดโลก (Network) โดยรูปแบบการลงทุนเป็นการร่วมทุนกับกลุ่มผู้ประกอบการท้องถิ่นในแต่ละประเทศ
ซึ่งที่ผ่านมา ได้เจรจากับผู้ประกอบการท้องถิ่นหลายราย ในจำนวนนี้มีอยู่
3-4 รายที่อยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุน ทั้งนี้ หลังจากได้ข้อสรุปการร่วมลงทุนภายในไตรมาส 2 แล้ว เชื่อว่าความร่วมมือ ที่เกิดขึ้นจะช่วยสร้างฟู้ดเน็ตเวิร์กให้กับสินค้ากลุ่มอาหารของบุญรอดฯ  ให้มีความแข็งแกร่งมาก
ยิ่งขึ้น

บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด มีเป้าหมายเพื่อสร้างเครือข่ายพันธมิตร เชื่อมต่อช่องทางธุรกิจอาหารสู่ตลาดโลก (Network)

“การขยายกลุ่มธุรกิจอาหารในช่วงที่ผ่านมานั้น กลุ่มบุญรอดฯ จะอาศัยเครือข่ายของเบียร์สิงห์ ในการขยายตลาดเป็นหลัก แต่หลังจากจัดตั้งบริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ จำกัด จะช่วยให้ทางกลุ่มเพิ่มช่องทางในการขยายตลาดกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะการขยายตลาดในต่างประเทศ” นายปิติ กล่าว

นายปิติ กล่าวต่ออีกว่า ปัจจัยที่ทำให้บริษัท ให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายช่องทางจัดจำหน่ายอาหาร เพื่อศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เรามีความพร้อมทั้งในด้านงานวิจัยและพัฒนาสินค้าอยู่แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ บุญรอดได้มีการจัดตั้ง ฟู้ด แล็บ ในจังหวัดปทุมธานี เพื่อการวิจัยและพัฒนาอาหาร

ปัจจุบันมีบริษัทผลิตอาหารในเครือบุญรอดฯ ซึ่งพร้อมที่จะสนับสนุนการขยายตลาดของธุรกิจอาหาร อาทิ บริษัท เฮสโก โซลูชั่น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจซอสปรุงรส และอาหารพร้อมทาน, บริษัท มหาศาล จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจข้าว ตราพันดี เป็นต้น โดยปัจจุบันกลุ่มธุรกิจอาหารในเครือบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด มีรวมมูลค่าทางธุรกิจอาหารในมือประมาณ 2,500 ล้านบาท

ในส่วนแผนดำเนินธุรกิจในกลุ่มธุรกิจอาหารของกลุ่มบุญรอดฯจากนี้ไป เน้นการพัฒนาอาหารไทยเป็นหลัก โดยจะมีการพัฒนาทั้งอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน อาหารแช่แข็ง เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งในช่วงปีแรกจะให้ความสำคัญกับตลาดไทย โดยวางเป้าว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากตลาดในประเทศ 80% และรายได้จากตลาดต่างประเทศ20% และจะทยอยเพิ่มสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นภายในสามปี

อย่างไรก็ดี การขยายตลาดในต่างประเทศจะให้น้ำหนักการขยายตลาดในกลุ่มประเทศยุโรปก่อน เนื่องจากสินค้ามีราคาดีและสามารถสร้างกำไรได้สูง รวมทั้งยังคงให้น้ำหนักการขยายตลาดอาเซียนด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังวางแผนโยกฐานการผลิตของ บริษัท เฮสโก โซลูชั่น จำกัด จากระทุ่มแบนและบริเวณย่านบางนา มาที่โครงการ “World Food Valley Thailand” จังหวัดอ่างทอง เพื่อรองรับกับความต้องการในอนาคตขณะเดียวกันในโครงการดังกล่าวมีความพร้อมทางด้านการผลิตช่วยลดต้นทุนลงได้

นอกจากนี้ยังได้จัดตั้ง บริษัท เอสบีพี ดิจิทัล เซอร์วิส จำกัด ดำเนินธุรกิจทางด้านดิจิทัล เพื่อรองรับกับโลกดิจิลทัล ซึ่งมีผลทำให้ธุรกิจต้องปรับตัว สำหรับเป้าหมาย 3 ปี ภายใต้ 3 บริษัทใหม่ของบุญรอดฯ สามารถสร้างรายได้แตะ 15,000 ล้านบาท จากปัจจุบันโครงสร้างรายได้มาจากกลุ่มซัพพลายเชนราว 2,500 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจอาหาร 2,500 ล้านบาท และหากธุรกิจอาหารของบุญรอดบุกตลาดต่างประเทศได้สำเร็จ มีแผนใช้โมเดลธุรกิจอาหารเป็นต้นแบบการขยายธุรกิจเครื่องดื่ม เพื่อเปิดตลาดต่างประเทศในอนาคตอีกด้วย

Crave ห้องอาหารเพื่อคนเทรนดี้

เปิดให้บริการแล้วนะ
Backyard Grill by Crave

สืบเนื่องจาก Toptotravel ได้มีโอกาสตอบรับคำเชิญ เข้าเยี่ยมชม และร่วมชิมอาหาร ในโรงแรม Aoft สุขุมวิท11  ที่ร้านอาหาร เครฟ (Crave ) กับเมนูอร่อยสไตล์สตรีทฟู้ด  ที่เราไปชิมมาแล้วอยากแนะนำ  เมนูสุดอร่อยที่ไม่ควรพลาด

กลับมาอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไประยะหนึ่ง โรงแรม Aoft สุขุมวิท11
มีความยินดีที่จะแจ้งให้ทุกท่านทราบโดยทั่วกันว่า ห้องอาหาร CRAVE
Backyard Grill by Crave 
เปิดให้บริการอีกครั้ง ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 61
เพื่อส่งมอบประสบการณ์อันแปลกใหม่สำหรับผู้ที่รักการท่องเที่ยวยามค่ำ
คืนในซอยสุขุมวิท 11 และยังรวมไปถึงแขกที่พักที่โรงแรม อลอฟอีกด้วย

Aoft สุขุมวิท11 เปิดโรงแรมมามากกว่า 100 โรงแรม อลอฟคือหนึ่งในแบรนด์ของแมริออท ที่นำเสนอสิ่งแปลกใหม่มาสู่จุดหมายปลายทางต่างๆแบรนด์อลอฟ นำเสนอเทคโนโลยีล้ำยุค ประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และสไตล์ที่ทันสมัย มีโรงแรมให้บริการอยู่ทั่วทุกมุมโลกได้มาสัมผัสถึงความเก๋ของที่นี่ตั้งแต่สไตล์การแต่งร้านที่ดูทันสมัย คอนเซ็ปต์ของร้าน CRAVE WINE BAR & RESTAURANT คือ การเนรมิตรร้านให้กลายเป็นสถานที่สังสรรค์และแฮงค์เอ้าท์ของชาวกรุงฯ ทุกเพศทุกวัยลูกค้าที่เข้ามาได้ทดลองอะไรใหม่ๆ



Backyard Grill by Crave  ร้านอาหารแบบป๊อปอัพ  ที่ตั้งอยู่กลางแจ้ง แบบ  “live grill”  โดยชื่อของร้านมาจากตัวสถานที่เอง ซึ่งตั้งอยู่ที่ OutDoor ของห้องอาหารหลักของโรงแรม  บรรยากาศและประสบการณ์แปลกใหม่ที่หาไม่ได้จากที่อื่น  การออบแบบครัวเปิด คุณจะได้นั่งรับประทานอาหารโดยสัมผัส
บรรยากาศแบบชิวๆ ในขณะที่มองออกไปเห็นวิวอันสวยงามและแสง สี ในยามค่ำคืนรอบๆ ตัวเมืองกรุงเทพฯ

ดังนั้น  สิ่งที่จะเป็นไฮไลท์ของร้านแฮงค์เอ้าท์ดีๆ สักร้าน จะเป็นอะไรไปไม่ได้ หากไม่ใช่เครื่องดื่ม! และรับประกันเลยว่า เครื่องดื่มทุกแก้วเติมความสดชื่นและมีประโยชน์แน่นอน  กับเมนูอาหาร ที่มีรสชาติแบบไทย ภายใต้แนวคิด (The East meets West) โดยจะเป็นการผสมผสานกันระหว่างเครื่องเทศของไทยและเอเชีย บนวัตถุดิบคุณภาพอย่างเนื้อและผักย่างบนเตาแบบและเสริฝแบบ “Rustic Stylel”

นอกจากจะมีบรรยากาศสุดชิลเหมาะแก่การมานั่งเล่น และมีเมนูอาหารแปลกๆ แหวกๆ ให้ลองทานแล้ว เมนูดริ้งของที่นี้ก็ไม่เป็นสองลองใครนะค่ะ โดยเฉพาะในเรื่องรสชาติและหน้าตา พรีเซ็นเทชั่นที่สวยงาม มาพร้อมกับลูกเล่นแพรวพราวที่จะทำให้หลายคนอดใจไม่ไหว  ถ้ามีโอกาสมานั่งผ่อนคลายเพิ่มความกระชุ่มกระชวยสวยเกร๋ของที่นี่  ต้องหยิบมือถือมาแชะๆๆ
รูปรัวๆ เก็บไว้ก่อนจะดื่มแน่ๆ


แวะมานั่งพักผ่อน เครฟ ไวน์ บาร์ แอนด์ เรสเตอรองท์ สักครั้ง  วางใจได้ถึงการบริการและฝีมือในแบบฉบับไทยเหมาะกับพาครอบครัว นัดเพื่อน ๆ ไปทานกันเยอะ ๆ มาก ๆ อร่อยคุ้มราคา ที่ Crave Wine Bar & Restaurant  (เครฟ ไวน์ บาร์ แอนด์ เรสเตอรองท์) ในซอยสุขุมวิท 11

 



Backyard Grill by Crave
ตั้งอยู่ที่ชั้น 8 ของโรงแรมโรงแรมอลอฟท์ สุขุมวิท 11
เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบประสบการณ์ดินเนอร์ แบบผ่อนคลาย
โดยราคาอาหารเริ่มต้นที่ 160++ บาท ถึง 360++ บาท เท่านั้น
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 22.00 น.
สอบถามติดต่อ : www.alofhotel.com
fb.aloftbkk@alofthotels.com

BACKYARD GRILL BY CRAVE   located on the 8th floor of Aloft Hotel Bangkok – Sukhumvit  11 from 6-10 PM.
#Bangkok #AloftBangkok #Valentines #AloftHotels

โฮ่งบิช ร้านกาแฟแบบนี้มีอยู่จริง

ร้านกาแฟเท้าแช่น้ำ เจ้าแรกของแม่ริม

เราหลงรักที่โฮ่งบีช ตั้งแต่เห้นป้าย เพราะนึกว่า…จะเจอน้องหมา ที่โฮ่งบีช ถามเจ้าร้านทำไมชื่อนี้คำตอบที่ได้ โฮ่งคือที่ลุ่มที่ราบโต๊ะริมธาร ที่นั่งยอดฮิตของลูกค้าทุกเพศทุกวัย

มาเที่ยวเชียงใหม่แลนด์ ดินแดนมหานครแห่งกาแฟ ชวนคนรู้ใจไม่ว่าจะเป็นเพื่อน เป็นครอบครัว หรือจะเป็นคนรักออกต่างจังหวัดไปสัมผัสอากาศเย็นๆ ที่อำเภอสุดสโลว์ไลฟ์ ริมน้ำมีอะไรน่าสนใจให้เราไปลองค้นหามากมาย ซึ่งเราจะถือโอกาสนี้พาเพื่อนๆ ไปท่องเมืองเที่ยว เล็กๆ น่ารักๆ แห่งนี้กัน รวมถึงกิจกรรมห้ามพลาด สุดประทับใจกับบรรยากาศมากๆ ก่อนมาที่นี่ได้อ่านรีวิวเพจต่างๆ แล้วเกิดแรงบันดาลใจ  ลุกขึ้นจุงมือ แฟนเพื่อน พ่อแม่น้อง มารับลมหนาว อากาศเย็นสบาย

ร้านโฮ่งบีช คือที่ลุ่มที่ราบด้วยความ บรรยากาศป่าเขาลำเนาไพร แต่ไม่ไกลจากตัวเมือง มีลำธารน้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา ชมกันเพลินๆ ให้ได้เลือกเล่นน้ำ ถ่ายรูป ด้วยสไตล์การตกแต่งร้านที่ดูโดดเด่นไม่เหมือนใคร  บรรยากาศชองร้าน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพักผ่อน จะเลือกนั่งชิลๆ อิงแอบสายธารของน้ำตกแม่สา ที่นี่เปิดให้บริการมาหลายปี เป็นหนึ่งในร้านกาแฟที่เหมาะสำหรับพาครอบครัว เพื่อนฝูงไปพักผ่อน ด้วยบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและสายน้ำที่ช่วยหล่อเลี้ยงชีวิต  ความเป็นอยู่ของอำเภอเล็กๆ ริมน้ำแห่งนี้ อาหารมีทั้งอาหารคาว และหวาน เป็นธารน้ำไหล นั่งแช่เท้าได้ ส่วนอาหาร เครื่องดื่ม มีหน้าตาเมนูที่น่ารักและแปลก แต่รสชาติดี

ใครมีโอกาสไปเที่ยวเขตตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริมเชียงใหม่ บนถนนแม่ริม-สะเมิง อยู่ตรงข้ามป้อมตำรวจ แม่แรม  เป็นเส้นทางก่อนถึงน้ำตกแม่สา 200 เมตร บรรยากาศธรรมชาติ ท่ามกลาง สายน้ำที่ใสไหลเย็น รับรองว่า ได้พักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ บรรยากาศสงบ สโลว์ไลฟ์แน่นอน การตกแต่งในร้านเน้นความเป็นธรรมชาติ เรียบง่าย เงียบสงบ ท่ามกลางธรรมชาติของป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์ในอำเภอ แม่แรม อิ่มรสชาติอาหารท่ามกลางบรรยากาศสุดฟินตั้งอยู่เส้นแม่ริม-สะเมิง ร้านอยู่ใกล้สวนบัว แม่สาออร์คิดส์ จ. เชียงใหม่ (ขับเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสะเมิงประมาณ 800 m. มองเห็นป้ายร้านอยู่ทางขวามือ ก่อนถึงน้ำตกแม่สาประมาณ1 กิโล  ร้านโฮ่งบีช ตั้งตรงข้าม  ป้อมตำรวจ ต.แม่แรม) เดินเข้ามานิดเดียว เห็นป้าย โฮ่งบีช 0 กม. คือใช่  เดินตรงไปอีกนิด ลงบันไดไปอีกหน่อย ร้านกาแฟขาแช่น้ำ เจ้าแรกของแม่ริม โดยพี่เหน่ง จันทรา แห่งตะวันแดง

ร้านกาแฟขาแช่น้ำ เจ้าแรกของแม่ริม จ. เชียงใหม่

 

โฮ่งบีช ที่จอดรถ(มีที่จอดรถ) มี Wi-Fi บริการ รับจองล่วงหน้า เหมาะสำหรับเด็กๆ เหมาะสำหรับมาเป็นกลุ่ม แอลกอฮอล์ (เหล้า เบียร์)ไปรับรองติดใจค่ะ ที่จอดรถอยู่ฝั่งตรงข้ามกว้างมาก มาคี่คันก็จิดพอ




แวะมา โฮ่งบีช รับรองเลยว่าทริปเชียงใหม่นี้จะต้องประทับใจ
กว่าทริปไหนๆ อย่างแน่นอน
โฮ่งบีช 
เปิดบริการ สิบโมงเช้า-ถึงสองทุ่ม ทุกวัน
โทรไปถาม :  094 603 8886

#โฮ่งบีช #ChiangMai