Category Archives: Hotel

สัมผัสสำรับเอกแห่งฤดูร้อน สดชื่น คลายร้อน ”ข้าวแช่”

ตลอดเดือนเมษายน 2563
ณ ห้องอาหารศาลาไทย โนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต

ข้าวแช่ตำรับชาววัง วิธีการกินข้าวแช่ เริ่มที่เครื่องเคียงก่อนและตามด้วยข้าวแช่กลิ่นหอมการกินข้าวแช่ให้อร่อยนั้น ต้องมีวิธีการกินที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้สัมผัสถึงรสชาติของเครื่องเคียง และ ข้าวเย็นๆ หอมๆ อย่างถึงใจ

ข้าวแช่ ตามประวัติ เดิมทีเป็นอาหารของชาวมอญ นิยมรับประทานช่วงการทำสังเวยเทวดาตอนสงกรานต์ ต่อมาอาหารประเภทนี้ได้รับการนำมารับประทานในอาหารชาววัง เรียกว่า ข้าวแช่เสวย หรือ ข้าวแช่ชาววัง และข้าวแช่ได้มีการเผยแพร่ทั่วไปเมื่อสิ้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ต้อนรับซัมเมอร์นี้กับ “ข้าวแช่”เมนูคลายร้อนสุดคลาสสิคของคนไทย ที่พร้อมเสิร์ฟให้คุณได้สดชื่น อร่อยคลายร้อนเพียงปีละหนึ่งครั้ง ตลอดเดือนเมษายน 2563 นี้ ที่ห้องอาหารศาลาไทย โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต ลิ้มรสความหอม สดชื่น อร่อยแบบปราณีตบรรจง ที่เชฟบังอร มาลาเล็ก หัวหน้าครัวไทย

ข้าวหอมมะลิเสิร์ฟคู่น้ำอบควันเทียนต้นตำรับ และ ดอกมะลิใช้ดอกบานที่เต็มที่เท่านั้น ส่วนกลีบกุหลาบใช้กุหลาบมอญแบบชาววัง และเติมน้ำแข็ง ด้วยขั้นตอนการขัดข้าวหอมมะลิก่อนดด้วยสารส้ม และนำมาหุ่งเป็นข้าวสวย
พิถีพิถันนำข้าวหอมมะลิมาหุงสุกและบรรจงขัดข้าวให้ขึ้นเงา จากนั้นนำมาแช่กับน้ำลอยดอกมะลิอบควันเทียน พร้อมเครื่องเคียงถึง 9 อย่าง

1.ลูกกะปิชุปไข่ทอด ใช้วัตถุดิบจากเนื้อปลา กระชาย หัวหอม ตะไคร้ กะปิ หัวกะทิ ปั้นเป็นลูกกลมขนาดพอดีคำ ชุบไข่และแป้งสาลี นำไปทอดจนสีเหลืองทองน่าทาน เดี้ยวแลเวไม่ได้กลิ่นกะปิเลยคะ

2.พริกหยวกสอดไส้หมูกุ้ง ที่เชฟบังอร ไม่ได้ใช้วัตถุดิบเพียงไส้หมูอย่างเดียว เชฟได้ใส่กุ้งเพิ่มไปเพื่อเพิ่มความนุ่ม และกลมกล่อม

3.ไชโป๊วผัดหวาน หัวไชโป้วผัดไข่ ชอบทั้ง 2 อย่างคะผัดหวาน รสชาติไม่หวานมากเกินไปทานกับข้าวแช่กลมกล่อมกำลังพอดีเลย ผัดไข่ก็ไม่รู้สึกแตกต่างมาก รสชาติดีมากคะ

4.หมูฝอยและเนื้อฝอย เส้นฝอยเล็กละเอียดอ่อนมเคี้ยวง่าย ไม่แข็งกรอบนิดๆ ส่วนเนื้อฝอยแยกเผื่อสำหรับท่านที่ไม่ทานเนื้อ โดยเชฟจะแยกเป็นถ้วยเล็กออกมาต่างหาก

5.หอมยัดไส้เนื้อปลาชุกแป้งทอด อร่อยดีค่ะกลิ่นหอมกำลังดีไม่มีคาวปลา รสชาติดีทีเดียวค่ะ

6.ไข่แดงไชยา หั่นแปดแล้วนำมาปั้นลูกเล็กพอดีคำก็ชุบไข่ขาวทอด รสชาติไม่เค็มและมีความมัน

7.ปลาช่อนหวานผัดแห้ง โดยปกติใช้ปลายี่สน เชฟบอกว่าแต่ใช้ปลาช่อนมาผัด มีรสชาติเค็มปนหวานๆนิดๆ กินกับข้าวแช่

8.หัวไชโป้วผัดไข่ทานกับข้าวแช่กลมกล่อมกำลังดีเลย ผัดเค็มก็ไม้รู้สึกแตกต่างมาก รสชาติดีมากคะ

9.ผักที่ใช้รับประทานคู่กับข้าวแช่ มะม่วงดิบ กระชาย ต้นหอม ผักทุกชนิดจัดแกะให้เป็นดอก สวยงาม ทำให้ข้าวแช่น่ารับประทานยิ่งขึ้น

สำหรับวิธีการทานข้าวแช่กับเครื่องเคียงนั้นเริ่มจากทานลูกกะปิเป็นชิ้นแรกก่อน เคี้ยวให้ได้ลิ้มรสชาติ ตักข้าวแช่ขึ้นทานตามพร้อมน้ำข้าวแช่สักเล็กน้อย รสชาติความเข้มข้นของเครื่องเคียงจะผสมผสานกับความเย็นของข้าวแช่ ทำให้รสชาติในปากจะนุ่มนวลกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เชฟบังอร ยังพิถีพิถันแกะสลักผักสดไว้สำหรับทานแกล้มอย่างปราณีตงดงาม

สัมผัสสำรับเอกแห่งฤดูร้อน สดชื่น คลายร้อน ไปกับ ”ข้าวแช่” ตลอดเดือนเมษายน 2563
ชุดละ 780 บาท สำหรับการรับประทานในโรงแรม
ชุดละ 990 บาท สำหรับชุดทานกลับบ้าน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: square@novotelairtportbkk.com หรือโทรศัพท์ 02-1311111 ต่อ 1750
เว็ปไซต์: www.novotelairportbkk.com

สอบถามเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ 02-131-1111
อีเมล square@novotelairportbkk.com

สะท้อนสีสันชีวิตเมืองใจกลางกรุงเทพฯ

โรงแรม ฦทธิ์ กรุงเทพ (LiT BANGKOK Hotel)

Toptotravel มีโอกาสได้ไปพักผ่อนที่โรงแรม โรงแรม ฦทธิ์ กรุงเทพ โรงแรมรูปแบบใหม่กลางกรุงเทพมหานคร ที่ผสมผสานความทันสมัยสไตล์สากลนิยมให้เข้ากันได้ดีกับของเสน่ห์งานบริการอย่างไทย และโรงแรมแห่งนี้จัดได้ว่า Location ดีมาก สะดวกในการเดินทาง ใกล้ทุกสิ่ง เดินทางไปไหนก็ใกล้หมด ด้านหน้าก็มีห้างช้อปปิ้ง ด้วยตระหนักดีว่าแขกผู้มาเยือนจะชื่นชอบ เมื่อได้ใช้ชีวิตใจกลางเมือง อีกทั้งยังจะชื่นชมกับนวัตกรรมใหม่แห่งการดีไซน์ รวมไปถึง สิ่งอำนวยความสะดวก ชั้นเยี่ยมที่จัดเตรียมไว้ให้บริการด้วยความตั้งใจ และยิ่งไปกว่านั้น จะพบว่า

โรงแรม ฦทธิ์ ยังได้รับการออกแบบให้ท่านได้ตะลึงไปกับความแผลงของสี แสง และเส้นสาย ที่สะท้อนชีวิตที่มีอรรถรสกลางเมืองหลวงที่มีทั้งประโยชน์และความตรึงตาตรึงใจในทุกมุมมอง ห้องสะอาด โมเดิร์น มีไวไฟ มีบริการลูกค้าตลอด 24 ชม ส่วนความพิเศษทั้งหลาย จากการออกแบบนี้ ยังทำให้แขกผู้มาเยือนทุกท่านสามารถใช้ชีวิต อย่างกลมกลืนกับวิถีของชุมชน และเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้สภาพแวดล้อมใจกลางเมือง

“กรุงเทพมหานคร” คือเมืองที่ นักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุด การท่องเที่ยวและพักผ่อนอย่างมีสไตล์ที่ ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์พิเศษมากจริงๆ อยู่ใจกลางเมืองเลย ใกล้ๆ กันนั้นก็มีตึกสูงโดยรอบ โรงแรม ฦทธิ์ ประกอบด้วยห้องพักและห้องสวีท จำนวน 79 ห้อง ซึ่งห้องพักแต่ละประเภทไ ด้รับการออกแบบอย่างรอบคอบและตกแต่งแตกต่างกัน เพื่อสนองความต้องการของผู้มาเยือน ทั้งยังพรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน นอกจากนี้ทางโรงแรมยังมีสปา ฟิตเนส สระว่ายน้ำ จากุซซี ห้องอาหารและบาร์ และบริการจัดทัวร์ อินเทอร์เน็ตไร้สาย และห้องประชุม พื่อตอบสนองทุกความต้องการของผู้มาเยือน

ด้านห้องห้องพักภายในโรงแรมหรู สไตล์โมเดิร์นที่ทำให้หวนนึกถึงอดีต ด้วยจินตนาการที่สร้างความแตกต่างจากโรงแรมในเมืองทั่วไป ในส่วนของห้องพักของโรงแรม ฦทธิ์ ก็ได้รับการออกแบบให้สามารถตอบรับกับอารมณ์
และบรรยากาศที่แปรเปลี่ยนไปในแต่ ละช่วงเวลาของแต่ละวัน เพื่อสะท้อนเอกลักษณ์ของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองที่ไม่หยุดนิ่ง ห้องพักจำนวน 79 ห้อง นั้นประกอบด้วย

ห้อง Extra Radiance Room จำนวน 25 ห้อง ขนาด 32 ตารางเมตร ห้องพักออกแบบมาเน้นให้มีความรู้สึกอบอุ่น และกลมกลืนไปกับแสงสีน้ำเงิน แดง ที่สามารถปรับเล่นหรือผสมแสงได้ตามสุนทรียภาพของผู้เข้าพัก ห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย ออกแบบสำหรับการใช้งานได้เป็นอย่างดี เรื่องของเรื่องคือ นึกเสียดายตลอดเวลาว่า เราน่าจะมีเวลาพักผ่อนนานกว่านี้อีกสักนิด

ห้อง Different Degree Room จำนวน 44 ห้อง ขนาด 34 -36 ตารางเมตร ห้องพักแนวใหม่ที่สลัดความจำเจด้วยการเปลี่ยนมุมมองในการออกแบบให้ส่วนของห้องนอนและห้องน้ำคู่ขนานกัน โดยมีผนังกั้นทอดเป็นแนวยาว ผสมผสานกับเทคนิคการจัดแสง และการหักเหของมุมต่างๆ

ห้อง Full Spectrum Suite จำนวน 5 ห้อง ขนาด 48 ตารางเมตร ห้องสวีทที่ได้รับการออกแบบอย่างมีรสนิยม สะท้อนความมีชีวิตชีวาไปกับแสงและสีสัน จัดแยกพื้นที่ใช้สอยอย่างเป็น
สัดส่วนเพื่ออำนวยความสะดวกสบายในการพักผ่อน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ห้อง Triple Luxe Suite จำนวน 5 ห้อง ขนาด 52 ตารางเมตร มีการแบ่งแยกสัดส่วนของห้องนั่งเล่น และห้องนอนที่มี 3 เตียง เหมาะสำหรับผู้เข้าพัก 3 ท่าน เน้นความโอ่โถงและความใส่ใจ
ในการออกแบบเพื่อความสะดวกสบายในการพักผ่อน พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอันทันสมัยครบครัน

ที่ตั้งและการเดินทาง บนทำเลที่ดีที่สุดระหว่างใจกลางกรุงเทพ
โรงแรม ฦทธิ์ กรุงเทพ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้ถนนพญาไทและถนนพระราม 1 สะดวกสบายในการเดินทางทั้งรถไฟฟ้า BTS และรถยนต์ส่วนตัว อีกทั้งยังอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง
สยามดิสคัฟเวอรี่ สยามเซ็นเตอร์และสยามพารากอน

การเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS:
จากสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ทางออกหมายเลข 1 หรือหมายเลข 3 เข้าซอยเกษมสันต์ 1 เดินตรงไปประมาณ 150 เมตร โรงแรม ฦทธิ์จะตั้งอยู่ทางด้านซ้ายมือ

การเดินทางโดยรถยนต์:
เข้าซอยเกษมสันต์ 1 จากถนนพญาไท ก่อนถึงสะพานหัวช้าง จากนั้นเลี้ยวซ้าย โรงแรม ฦทธิ์จะตั้งอยู่ทางด้านขวามือ

สำรองห้องพักและพบกับรายละเอียดของสิทธิพิเศษเพิ่มเติมได้ที่
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 026 123 456
https://www.litbangkok.com/hotel

IT’S TEA TIME! AFTERNOON RETREAT

ชวนไปปักหมุดไปเช็คอินด้วยกันได้ที่ BCDE @ LIT Bangkok Hotel (โรงแรมฦทธิ์) สะท้อนสีสันชีวิตเมืองใจกลางกรุง ที่ผสมผสานความทันสมัยสไตล์สากลนิยมให้เข้ากันได้ดีกับเอกลักษณ์ของเสน่ห์งานบริการอย่างไทย แต่ก่อนที่จะไปดูรายละเอียดและรสชาติของขนม AFTERNOON RETREAT ชุดใหม่นี้ ขออนุญาตพาทุกคนไปรู้จักกับที่ตั้งของโรงแรม, ห้องอาหารที่ให้บริการ และบรรยากาศรอบๆ ของ โรงแรม ฦทธิ์ กรุงเทพโดยชุด Afternoon Tea หรือชุดชายามบ่ายของโรงแรม ให้บริการที่ห้องอาหาร BCDE (Bistro of Creative Drinking and Eating ชั้น 2

ลักษณะของห้องอาหาร เป็นห้องอาหารขนาดกลางๆ ที่สามารถรองรับคนได้ประมาณ 80-100 คน มีเพดานห้องอาหารที่สูง และผนังทั้งสามด้านเป็นกระจกขนาดใหญ่เราสามารถมองเห็นวิวต่างๆ บริเวณได้โดยรอบ โดยเฉพาะวิวโดยรอบ ของ ซอยเกษมสันต์1 ถนนพระราม1 ส่วนบรรยากาศของห้องอาหาร Toptotravel ได้มีโอกาสได้มาเยือนและกำลังนั่งอยู่นี้ จัดได้ว่าเป็นห้องอาหารที่ รวบรวมรสชาติและความคิดสร้างสรรค์ของอาหารไทยและอาหารนานาชาติเพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสศาสตร์และศิลป์ของการปรุงอาหารในแบบที่ไม่ซ้ำใคร

BCDE หรือ Bistro of Creative Drinking and Eating เป็นห้องอาหารที่ตั้งอยู่ในโรงแรม ฦทธิ์กรุงเทพ (LiT Bangkok Hotel) ได้รับการออกแบบและตกแต่งอย่างสวยงามมีชีวิตชีวาในสไตล์โมเดิร์น โคซี่ ผสานกับการใช้แสงไฟสีเหลืองนวลให้บรรยากาศแสนโรแมนติก ให้ลูกค้าได้รับความอบอุ่น ดูเป็นกันเอง และผ่อนคลาย เมื่อมารับประทานอาหารที่นี่ ชื่อของห้องอาหารแห่งนี้มีความหมายว่า เป็นแหล่งรวมรสชาติและความคิดสร้างสรรค์ของอาหารและเครื่องดื่ม สามารถรองรับลูกค้าที่เข้ามานั่งรับประทานอาหารในแบบสบายๆ ได้กว่า 80 คน ซึ่งไม่ใช่เพียงบรรยากาศที่แสนโรแมนติกเท่านั้น เมนูอาหารในแต่ละเมนูยังได้รับการรังสรรค์ด้วยศาสตร์และศิลป์แห่งการปรุงพร้อมจัดแต่งจากเชฟที่มากประสบการณ์ เพื่อให้ทุกท่านได้รับความประทับใจ

ห้องอาหาร BCDE ศิลปะกับอาหารสุดลงตัว
สำหรับเมนูของห้องอาหารแห่งนี้มีอยู่หลากหลาย เมนูที่มีรสชาติเป็น เอกลักษณ์ เฉพาะตัว ทั้งอาหารไทยและอาหารนานาชาติ มีเมนูแนะนำหลากหลาย

วันนี้ Toptotravel มีโอกาสได้นั่งจิบชุดชายามบ่ายและทานขนมสุดเก๋ไก๋ ที่ร้าน BCDE ของโรงแรม ถือว่าเป็นขนมโฮมเมด รสชาติใหม่ๆ เชฟจัดแต่งสวยเก๋ หรูหรา ยามบ่ายแบบนี้ มาทานขนม จิบน้ำชา บรรยากาศกลางสวน ชุดจิบชายามบ่ายชุดใหม่ที่มีหน้าตาที่หรู มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และที่สำคัญ วัตถุดิบทำขนมยังเน้นที่ปรุงจากวัตถุดิบคุณภาพระดับพรีเมี่ยม เรามาชมภาพและจิบเครื่องดื่มสุดพิเศษ ในชุดน้ำชายามบ่าย AFTERNOON RETREAT
โฉมใหม่นี้ ประกอบด้วย

ICED MATCHA 140 GREEN TEA LATTE
ICED THAI MILK TEA 140
ICED COFFEE LATTE 140

LIT SWEET COMBINATION 240
• Lemon Panna Cotta & Berry Drizzle
• Italian Crumble with Apple Compote & Cream
• Tiramisu Shot

HAM & CHEESE PANCAKE 240

NUTELLA CHOCOLATE LAVA CAKE
Served with choices of Vanilla or Chocolate Ice Cream & Berry + Vanilla Sauce

CLASSIC SUGAR CRUSHED WAFFLE 220
Served with Maple Syrup & Whipping Cream

SUGAR CRUSHED WAFFLE WITH CARAMELIZED BANANA 220

SUGAR CRUSHED WAFFLE WITH BLUEBERRY COMPOTE 200

SUGAR CRUSHED WAFFLE WITH VANILLA & CHOCOLATE SAUCE 220

CLASSIC SUGAR CRUSHED WAFFLE 220

SUGAR CRUSHED WAFFLE WITH CARAMELIZED BANANA 220

SUGAR CRUSHED WAFFLE WITH BLUEBERRY COMPOTE 200

SUGAR CRUSHED WAFFLE WITH VANILLA & CHOCOLATE SAUCE 220

FLUFFY PANCAKE WITH BLUEBERRY COMPOTE 200

AFTERNOON RETREAT

BCDE ห้องอาหาร บริการเมนูของหวานนานาชนิด เช่น ทิรามิสุ สัมผัสกลิ่นหอมหวานของกาแฟ และเนื้อครีมนุ่มๆ หรือจะเป็น พานาคอตต้าผลไม้รวมที่มีความพิเศษอยู่ที่สีสันของพานาคอตต้าที่มีถึง 3 สีในแก้วเดียว ก่อนจะเพิ่มท็อปปิ้งด้วยผลไม้ แล้วราดด้วยเบอร์รี่ซอส รสชาติเข้ากันอย่างลงตัว รสชาตินุ่มเนียนและหวานเล็กๆ กำลังพอดี เป็นการปิดท้ายมื้ออาหารที่สุดประทับใจอย่างยิ่ง

LIT SWEET COMBINATION 240
• Lemon Panna Cotta & Berry Drizzle
• Italian Crumble with Apple Compote & Cream
• Tiramisu Shot
HAM & CHEESE PANCAKE 240
CLASSIC SUGAR CRUSHED WAFFLE 220
CLASSIC Fluffy Pancake
NUTELLA CHOCOLATE LAVA CAKE

BCDE (Bistro of Creative Drinking and Eating) โดยรวมของห้องอาหารนั้นจะเน้นไปที่ความหรูหราเรียบง่าย ห้องอาหารจะมีการเลือกใช้ขาวสีหลัก โดยมีการใช้สีน้ำตาล, ทอง และสีไม้ธรรมชาติมาผสม ทำให้โทนโดยรวมออกมาดูดีสบายตา ส่วนเวลาในการเปิดให้บริการของห้องอาหารนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ตั้งแต่เวลา 07.00 น. – 22.00 น.

Tiramisu Shot

BCDE ให้บริการอาหารทั่วๆ ไป เช่น ขนม, ของว่าง, เครื่องดื่ม และอาหารต่างๆ ส่วนเวลา 13.00 น. – 17.00 น. ให้บริการชุด Afternoon Tea เพิ่มเติม ส่วนใครที่อยากจะมาทาน Afternoon Tea ที่นี่ รายละเอียดเมนูต่างๆ ใน BCDE Afternoon Tea พบกับชุดต้อนรับปี Summer กันเลยนะคะ โดยชุด Afternoon Tea จะมีขนมให้เราทาน ส่วนราคากับวันที่เปิดบริการก็ตาม
นี้เลยคะ

ICED MATCHA GREEN TEA LATTE

เมนูเครื่องดื่ม
ICED COFFEE LATTE 140
ICED THAI MILK TEA 140
ICED MATCHA GREEN TEA LATTE 140
THAI ICED TEA 120
THAI ICED LEMON TEA 120
SMOOTHIES 150

Best hotel in Bangkok next meeting, workshop or event.
BCDE (Bistro of Creative Drinking and Eating)
ตั้งอยู่บนชั้น 2 โรงแรม ฦทธิ์ กรุงเทพ
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.
36/1 ซอยเกษมสันต์1 ถนนพระราม 1 ปทุมวัน กรุงเทพฯ

การเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS: จากสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ทางออกหมายเลข 1 หรือหมายเลข 3 เข้าซอยเกษมสันต์ 1 เดินตรงไป ประมาณ
150 เมตร โรงแรม ฦทธิ์ ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายมือ
โทรศัพท์ 0-2612-3456

สำรองห้องพักและพบกับรายละเอียดของสิทธิพิเศษเพิ่มเติมได้ที่
https://www.litbangkok.com/hotel

#staycation #instacity #outdoorbar #relaxingday #instacity #staycation #litbangkokresidence #saturdayvibes

BlueSpice Dining Room @ Grande Centre Point Sukhumvit 55

เจอแบบนี้ใครจะอดใจไหว บุฟเฟต์ข้าวต้มมื้อค่ำทองหล่อ อัดเต็มพิกัดไม่จำกัดเวลา

วันนี้เราจะพาไปกินบุฟเฟ่ต์ข้าวต้มเกรดพรีเมี่ยม BlueSpice Dining Room ร้านอาหารสไตล์ร่วมสมัยที่ไม่ธรรมดา และขึ้นชื่อเรื่องบุฟเฟต์ข้าวต้ม ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนในย่านทองหล่อ บุฟเฟต์ข้าวต้มโต้รุ่งเจ้าเดียวในทองหล่อ ภายในร้านตกแต่งสุดหรู การบริการดีระดับโรงแรม 5 ดาว มีเมนูอาหารทั้งของคาวและของหวาน นำเอาความเป็นสากลของอาหารต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่น อาหารฝรั่ง เข้ามาเป็นตัวชูโรงให้รสชาติของ BlueSpice ขึ้นชื่อเรื่องบุฟเฟต์ข้าวต้ม

ซึ่งทางร้านมีเมนู “ข้าวต้ม” ให้เลือกทานหลากหลายแบบจัดเต็ม เริ่มกันเลยกับโซนบุฟเฟ่ต์ข้าวต้มที่มีให้เลือกถึง 5 แบบ ดีต่อสุขภาพ มีทั้งข้าวต้มธัญพืช ข้าวต้มเผือก ข้าวต้มข้าวกล้อง ข้าวต้มมันเทศ หรือ ข้าวต้มธรรมดา มาพร้อมกับเครื่องเคียงสูตรดั้งเดิมให้ได้เลือกสรร โดดเด่นด้วยเมนูหลากหลายรสชาติ แต่จะมีอะไรหน้าตาแบบไหนบ้างไปดูกันจ้า

ถ้าให้นึกถึงโอกาสดี ๆ หรือเดทพิเศษ ๆ อาหารอร่อย ๆ ขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ ​เต็มอิ่มจุใจไปกับบุฟเฟ่ต์ กับบรรยากาศแบบนี้ อย่าลืมชวนสังสรรค์กันพร้อมหน้ากับเพื่อนฝูงหรือครอบครัว คนรัก มาอิ่มฟินได้อย่างจุใจ ให้คุณและเพื่อนๆ ได้ฟินแบบไม่จำกัดเวลา กินอร่อย เพลินๆ ยาวๆ เอาใจคนนอนดึก พร้อมเปิดประสบการณ์จัดเต็มสุดๆ กับหลากหลายเมนูข้าวต้ม พร้อมอาหารพิเศษหลากรสชาติ ให้ได้ลิ้มลอง อิ่มอร่อยด้วยความฟินในบรรยากาศสุดชิลล์เคล้าแสงไฟอบอุ่นในยามค่ำคืนที่คุณจะตกหลุมรักจนอยากจะไปซ้ำแล้วซ้ำอีก

มาที่นี่ นอกจาก ดื่มด่ำไปกับเมนูอาหารรสเลิศ กันแบบจุใจ ไม่จำกัด โซนเมนูซิกเนเจอร์ที่จะปรับเปลี่ยนไปทุกวัน เมนูประจำสุดฮอต อาทิ ขาหมูพะโล้ แซลม่อนแซ่บ กุ้งอบวุ้นเส้น พร้อมโจ๊กสุดอร่อย และที่สำคัญสามารถมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ผลงานในการทำอาหาร ได้ทั้งความสนุก และความอร่อย ยำ DIY ที่คุณสามารถเลือกวัตถุดิบและความแซ่บได้ตามใจชอบ สารพัดเมนูผัดผักให้คุณเลือกและนำไปให้เชฟปรุงกันสด ๆ และเมนูอาหารพิเศษสุดอร่อยที่ขนกันมาแบบไม่ซ้ำกัน

Shabu Shabu
น้ำจิ้มชาบูสูตรพิเศษ
ลาดเป็ดทอด

ปิดท้ายความอร่อยด้วยของหวานนานาชนิด ทั้งไอศกรีมโฮมเมด แพนเค้ก ผลไม้ เต้าฮวย ขนมปัง อีกทั้งยังมีเมนูน้ำแข็งใสคลายร้อน เย็นฉ่ำถึงใจ ให้คุณได้ DIY เพียงแค่ทุกคนเลือกท็อปปิ้งให้สะใจได้อีกกว่า 20 รายการ ลิ้มลองเมนูน้องใหม่ อย่างก๋วยเตี๊ยวลุยสวย ลาบเป็ดทอด และ ชาบู อาหารที่นี่เค้าแบ่งสัดส่วนสวยงามและชัดเจน โดยในเมนูแต่ละวันอาจจะปรับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป

ของหวานมาแล้ว ความพิเศษอยู่ที่ สังขยาใบเตย หรือ สังขยาชาไทย ซึ่งเป็นสูตรลับของทางร้าน มีความหอมหวานกลมกล่อม การันตีว่าเข้มข้นและอร่อยที่สุด และ ไอศกรีมโฮมเมด ตบท้ายด้วยผลไม้

กระซิบอีกนิด Blue Spice บุฟเฟ่ต์ข้าวต้มโต้รุ่งเกรดพรีเมี่ยมกับโปรพิเศษมาเป็นคู่มีส่วนลด สายปาร์ตี้ห้ามพลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด นำเข้ามาดื่มได้ฟรีไม่คิดค่าเปิดขวด ทางร้านมีแก้วและน้ำแข็งให้บริการ ดื่มด่ำในบรรยากาศดี ๆ เพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย พร้อมรับประทานอาหาร อร่อยๆ ได้อีกด้วย

ช่วงนี้ทางร้านมี โปรใหม่ที่น่าจับตามอง อย่าลืมพาคนพิเศษมาดื่มด่ำบุฟเฟ่ต์มื้อแบบสบายท้อง แบบพรีเมี่ยมกันพบกับอาหารคุณภาพชั้นนำ และการให้บริการอันยอดเยี่ยมของพนักงานทุกคนที่พร้อมให้บริการทุกท่านที่
BlueSpice Dining Room @Grande CentrePoint Sukhumvit 55

BlueSpice Dining Room
@Grande Centre Point Sukhumvit 55 ชั้น Lobby
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 17:00 – 23:00 น.
โทร. 02-020-8000 ต่อ 4440 / 02-042-8056 / 090-961-9494
สำรองที่นั่งโทร. 02-020-8000 ext.4440

บุฟเฟต์ข้าวต้มมื้อค่ำทองหล่อ
Theme: Shabu-Shabu Festival
โปรโมชั่น: ลด 50% สำหรับท่านที่ 2
(เฉพาะ วันจันทร์ – วันพฤหัสบดี เท่านั้น)
Period: 1 มกราคม – 29 กุมภาพันธ์ 2563
Daily @ BlueSpice Dining Room เวลา : 17.00 – 23.00

บุฟเฟต์ข้าวต้มมื้อค่ำทองหล่อ #BlueSpiceDiningRoom

โอเอซิส บ้านแสนดอย สปารีสอร์ท OASIS BAAN SAEN DOI SPA

ทริปนี้มีโอกาสกลับมาเชียงใหม่อีกครั้งในรอบหนึ่งปี เอาจริง….เชียงใหม่สำหรับ Toptotravel เป็นอีกหนึ่งจ้งหวัดที่มากี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ หลงรักความช้าๆ เรื่อยๆ เอื่อยๆ ของเมืองนี้ ยิ่งได้มากับเพื่อนที่รู้ใจยิ่งดีงาม เริ่มต้นทริปที่เชียงใหม่ด้วยการชมแสงแรกพร้อมอาหารเช้าสบาย เชียงใหม่ เมืองในฝัน ของใครหลายคนที่อยากไปสัมผัสช่วงเวลาดีๆ บรรยากาศของเมืองในหุบเขาสงบสบายมาเก็บเกี่ยวความสุขกันให้เต็มที่เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ามาทำสปากันหน่อยมั้ย?

ทริปนี้พกตากล้องส่วนตัวมาด้วย Toptotravel มีจุดถ่ายรูปเด็ดๆ เยอะมากชวนมาสูดความสดชื่นของสายน้ำและธรรมชาติสีเขียว ที่ โอเอซีส บ้านแสนดอยสปารีสอร์ท โรงแรมในเครือโอเอซิสสปา อาคารทรงล้านนาประยุกต์ เป็นต้นแบบของวัฒนธรรมล้านนาผสมผสานสวยงามของวัฒนธรรมชนเผ่าที่หลากหลายสะท้อนผ่านการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยผ้าทอมือ เครื่องเงิน และแผ่นทองแดง ได้รับการตกแต่งด้วยงานศิลป์และศิลปวัตถุของแท้ พร้อมผ่อนคลายไปกับที่พักเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนที่รู้สึกเครียด เหน็ดเหนื่อยจากเรื่องต่างๆ อาจจะกำลังมองหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ให้ลืมเรื่องเครียดๆ เพลิดเพลินไปกับการพักผ่อนบริการด้วยโปรแกรมทรีตเม้นท์มากมาย เน้นกินนอนพักเหนื่อยผ่อนคลาย จะได้มีแรงกลับไปสู้กับงานใหม่อย่างสดใส ให้ได้ใช้เวลาผ่อนคลายสวยงามให้อารมณ์แตกต่างกันไป

แบรนด์ลักชัวรี่ของ เดอะ โอเอซิส สปา สถานที่ตั้งของ “บ้านแสนดอย”
อยู่ในหมู่บ้าน เป็นโครงการบ้านในฝัน 2 ห่างจาก สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ แม่ริม เพียง 2 กิโลเมตร ตกแต่งสวยงามทั้งภายนอกและภายในสไตล์ล้านนา หรูหรามีระดับ มาพร้อมกับการบริการที่ประทับใจของพนักงาน เหมาะสำหรับการเข้าพักในช่วงวันหยุดพักผ่อน และช่วงวันที่ต้องการความพิเศษ มาชาร์จแบตให้ร่างกายหายเหนื่อย ที่ Oasis Luxury
บ้านแสนดอย บรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน ผ่อนคลายกับสปารีสอร์ทสุดสบายบนเนินเขา เงียบสงบและดีไซน์สุดเก๋ ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกได้ผ่อนคลายไปกับสปา ที่มีให้เลือกมากมาย ทั้งทรีตเมนต์แบบเฉพาะของที่นี่ นวดแผนไทย หรือเล่นโยคะท่ามกลางธรรมชาติสดชื่น ที่ช่วยให้จิตใจสงบเต็มอิ่มกับการพักผ่อน ให้การพักผ่อนเต็มไปด้วยความสปา ที่
สปารีสอร์ทแห่งนี้

ลองมาสัมผัสบรรยากาศที่ โอเอซิส บ้านแสนดอย สปารีสอร์ท สำหรับโซนของสถานที่การพักผ่อน ห้องพักแบ่งออกเป็น 2 อาคาร คือ อาคารแรกตั้งอยู่บริเวณด้านหน้ามีด้วยกัน 2 ชั้น ประกอบไปด้วย ส่วนของรีเซ็ปชั่น ห้องพัก และห้องอาหาร อีกหนึ่งอาคารตั้งอยู่อีกฝากไม่ไกลบริเวณวงเวียนของหมู่บ้านในฝัน2 ซึ่งเป็นทั้งที่พักและสปา โดยมีการแบ่งแยกประเภทให้เลือกตามความเหมาะสมของผู้เข้าพัก


รีสอร์ทสไตล์ Luxury ตกแต่งสไตล์ล้านนาในบรรยากาศสงบ เป็นส่วนตัวที่มีเพียง 11 ห้อง

ห้อง “DELUXE ROOM” ห้องพักสวยงามให้อารมณ์ที่อบอุ่น ภายในคุมโทนด้วยสีขาวสะอาดตา ประดับประดาด้วยของตกแต่งของชาวเขา พร้อมด้วยวิวสวยทรอปิคอลบริเวณระเบียงส่วนตัว และห้องน้ำที่กว้างขวาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ห้องน้ำแยกส่วนแห้ง ส่วนเปียก

ห้อง “คอเนอร์สวีท” เป็นห้องที่มีพื้นที่การใช้งาน 70 ตารางเมตร มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน คนรักการเที่ยวภูเขาน่าจะหลงรักที่นี่ได้ไม่ยากเลย

ห้อง “LUXURY CORNER” สไตล์ล้านนาดั้งเดิม พร้อมด้วยศิลปะ ชนเผ่าดั้งเดิมของเชียงใหม่ ด้วยตัวห้องดูแล้วหรูหรา แบบหนึ่งนอน เตียงนอนระดับคิงไซส์

ห้อง “GRAND SUITE” ห้องนี้จะอยู่บริเวณชั้น 2 ของบ้านแสนดอย มีขนาดห้องที่กว้างขวาง มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนห้องพักประเภทอื่น ๆ คือ มีระเบียงศาลาแบบไทย มาพร้อมด้วยมุมมองของสวนและและวิวของดอยอินทนนท์

ห้อง “CORNER SUITE POOLSIDE” ห้องที่มีขนาดพื้นที่การใช้สอยกว้างขวาง เพดานสูง ตกแต่งสวยงามสไตล์ล้านน ตกแต่งด้วยคอลเลกชั่นชิ้นงานศิลปะของชนเผ่า มาพร้อมด้วยพื้นที่นั่งเล่น ห้องน้ำที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบ

ลักซ์ชัวรีสวีทริมสระว่ายน้ำ (Luxury Suite Poolside)
Toptotravel พักห้องพูลวิลล่าที่ดีที่สุดของบ้านแสนดอย “CORNER SUITE POOLSIDE” สัมผัสที่มาของความเป็นไทยร่วมสมัยได้อย่างดี ห้องนอนที่กว้างขวาง เพดานสูง ระเบียงที่เหยียดยาว และพื้นที่เหลือเฟือ รวมกันกลายเป็นสวรรค์ส่วนตัวแบบย่อม ๆ ขนาดพื้นที่การใช้สอยกว้างขวาง ตกแต่งสวยงามสไตล์ล้านนาและคอลเลกชั่นชิ้นงานศิลปะของชนเผ่า
มาพร้อมด้วยพื้นที่นั่งเล่น ห้องน้ำขนาดใหญ่เป็นพิเศษ มีฝักอาบน้ำและจากุซซี่ ระเบียงส่วนตัวขนาดกว้าง ห้องน้ำที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบ สามารถมองเห็นวิวของสระน้ำ เดินไปยังสระว่ายน้ำนิดเดียว ชอบบรรยากาศเงียบสงบ ห้องพูลวิลล่าที่ดีที่สุดของบ้านแสนดอย
มีความหรูหรา และความเป็นส่วนตัวสูง

โซนที่ Toptotravel เข้าพักประกอบไปด้วย 3 ห้องนอน ตกแต่งภายในด้วยศิลปะชาวเผ่า ที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ เพียงพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น ห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร ห้องน้ำ จากุซซี่ขนาดใหญ่ ห้องอาบน้ำกลางแจ้ง และสระว่ายน้ำส่วนตัว เหมาะสำหรับการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง สำหรับท่านใดที่ขับรถเดินทางด้วยตัวเอง สามารถจอดรถที่ด้านหน้าที่พัก

บริเวณโดยรอบที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมไปถึงสโมสรสระว่ายน้ำกลางของหมู่บ้าน ครบครันในส่วนห้องนอนก็กว้างขวาง เดินทางสะดวก ห่างจากตัวเมืองไม่มาก ใช้เวลาขับรถเพียง 10 นาที ก็ถึงคูเมืองเชียงใหม่

สปา
ในส่วนของ OASIS SPA มอบประสบการณ์พิเศษคุณภาพเยี่ยมที่มุ่งเน้น
ไปยังการดูแลแบบส่วนตัว การมีส่วนร่วมของทุกประสาทสัมผัสผลลัพธ์สุดพิเศษ แต่ละทรีตเมนต์รวมเอาความหรูหราร่วมสมัยเข้ากับแผนการรักษาแบบโบราณ เพื่อยกระดับความสมดุลของร่างกาย



สถานที่ตั้ง :199/135 หมู่ 3 (บ้านในฝัน 2) ถนนชลประทาน
ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50100
เบอร์โทรศัพท์ : 053 920 199
โทรสาร : 053 920 198
อีเมล์ : cs@oasisluxury.net
เว็บไซต์ : www.oasisluxury.net
เฟสบุ๊ค : www.facebook.com/oasisluxury
https://www.oasisluxury.net/

โนโวเทล สุวรรณภูมิ จัดเมนูพิเศษ“เทศกาลไก่ฟ้า (Pheasant Festival)

จากไก่ฟ้าโครงการหลวง รังสรรค์เป็นสี่จานเด็ดสุดพิเศษสไตล์กวางตุ้ง เทศกาลไก่ฟ้า หนึ่งในวัตถุดิบที่กำลังได้รับความนิยมในการปรุงอาหาร
โดยเฉพาะในกลุ่มคนรักสุขภาพ เพราะเนื้อของไก่ฟ้ามีไขมันน้อย ทำให้ไก่ฟ้ากลายเป็นวัตถุดิบที่ท้าทายความสามารถในการคิดค้น และสร้างสรรค์เมนูอาหารชั้นเลิศ หากใครก็ตามคิดถึงรสชาติอาหารจีนแบบดั้งเดิม คุณภาพเกินราคา ชวนมาสัมผัสรสชาติประสบการณ์ที่สั่งสมมานานกว่า 20 ปี ที่ร้านอาหารจีนรุ่นเก๋า ฝีมือฉมังที่เล่าขานกันเป็นตำนานรสชาติ ที่ห้องอาหารจีนโกลเด้น วิลเลจ โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต เปิดเมนูพิเศษสำหรับผู้หลงใหล วัตถุดิบเพื่อสุขภาพ

มื้อกลางวันสุดพิเศษ เทศกาลไก่ฟ้า (Pheasant Festival) หนึ่งในสุดยอดวัตถุดิบอันเลอค่าจากโครงการหลวง โดยใช้สายพันธุ์ไก่ฟ้าจากทางการประเทศฝรั่งเศส เชฟเนตเซอร์ เจาะจง ได้อินสไปร์เมนูจากไก่ฟ้า สุดเอ็กซ์คลูซีฟโดยเฉพาะ พลิกตำนาน เมนูสุดพิเศษ กับเทศกาลไก่ฟ้า (Pheasant Festival) เชฟเล่าให้ฟังว่า ด้วยเอกลักษณ์ของเนื้อไก่ฟ้า เนื้อที่แน่นและนุ่ม ที่มีความแน่น นุ่มไม่เหนียวจนเกินไป อีกทั้งยังมีไขมันน้อย เหมาะสำหรับผู้รักสุขภาพ เป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์เมนูพิเศษในแบบฉบับของอาหารจีน สไตล์กวางตุ้ง เชฟเนตเซอร์ ได้ฝึกฝนฝีมือ และเทคนิคการทำอาหารในหลายแนว และมีความรักและเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ

ไก่ฟ้าที่นำมาเสริฟเป็นอาหารนี้ มีที่มาจากมูลนิธิโครงการหลวง ดำเนินงานวิจัยพันธุ์พืชและสัตว์ที่เหมาะสมเพื่อส่งเสริมแก่เกษตรกร โดยมีสถานีวิจัย 4 แห่ง และศูนย์พัฒนาโครงการหลวง 38 แห่ง ในจังหวัดทางภาคเหนือของประเทศไทย ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พะเยา และลำพูน ครอบคลุมพื้นที่ 1,068 ล้านไร่ โดยการควบคุมการใช้สารเคมีอย่างปลอดภัยภายใต้ระบบการจัดการตามมาตรฐานสากล ซึ่งหนึ่งในวัตถุดิบจากโครงการที่เราได้คัดสรรและนำมาใช้ประกอบอาหารนั่นก็คือ “ไก่ฟ้า” จากโครงการซึ่งจะมีเฉพาะฤดูกาลเดือน ก.ย. – มี.ค. และได้คัดสรรเมนูตามรายการที่ทุกท่านต้องชื่นชอบ

ไก่ฟ้าคอแหวน เป็นหนึ่งในสองชนิดของไก่ฟ้าที่เรียกกันว่า true pheasant หรือ common pheasant ซึ่งเป็นไก่ฟ้าที่เพาะเลี้ยงไว้ เพื่อนำไปปล่อยให้คนล่าเป็นเกมกีฬา และนำมาปรุงเป็นอาหาร (สมาคมอนุรักษ์ไก่ฟ้าโลก หรือ World Pheasant Association : W.P.A. ได้กำหนดให้ไก่ฟ้าในสกุล Phasianus ได้แก่ ไก่ฟ้าคอแหวน และไก่ฟ้าสายพันธุ์อื่นๆ อีก 34 ชนิด เป็นไก่ฟ้าที่สามารถเพาะเลี้ยงไว้เพื่อการกีฬา และสามารถนำมารับประทานได้)

ไก่ฟ้าคอแหวน ที่แพร่หลายที่สุด คือ Chinese ring-neck pheasant (Phasianus colchicus, torquatus) มีถิ่นกำเนิดทางฝั่งตะวันออกของจีน อาศัยอยู่ในพื้นที่ระดับต่ำถึงระดับสูงปานกลาง ทำรังตามพงหญ้าหรือใต้ต้นไม้ เนื่องจากสามารถขยายพันธุ์ได้ง่าย ไก่ฟ้าฟ้าคอแหวนนี้ มีข้อเสียตรงตื่นตกใจง่าย ทำให้บินชนกรงจนหัวแตกหรือเกิดบาดเจ็บได้ง่าย ผู้เลี้ยงต้องมีความระมัดระวังในการเลี้ยงอย่างมาก เป็นที่ทราบกันดีว่า มูลนิธิโครงการหลวงนั้น มีหน้าที่รับผิดชอบ ด้านการส่งเสริม และพัฒนาความเป็นอยู่ของชาวไทยภูเขา ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การหาสัตว์ชนิดใหม่ๆ ซึ่งมีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ มีราคาสูง และชาวไทยภูเขา สามารถนำไปเลี้ยงเป็นอาชีพ เพื่อเป็นรายได้เสริมของครอบครัวนั้น ก็อาจจะช่วยในการพัฒนาความเป็นอยู่ของพวกเขาได้อีกทางหนึ่ง

ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของการศึกษาวิจัยการเลี้ยงไก่ฟ้าในพื้นที่โครงการหลวงเกิดขึ้นตามมานั่นเอง โดยมูลนิธิโครงการหลวง ได้เริ่มมีการศึกษาวิจัยการเลี้ยงไก่ฟ้า ครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 และต่อมาได้รับมอบไข่ไก่ฟ้าจาก Mr. Jean-Michel Beurdeley ประเทศฝรั่งเศส เพิ่มมาอีก 482 ฟอง โดยในช่วง 1-2 ปีแรก ได้ทำการวิจัยเพื่อศึกษาอัตราการฟัก และสมรรถภาพการผลิต รวมทั้งการปรับตัวของไก่ฟ้า ในสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย และหลังจากนั้นเป็นการเลี้ยงเพื่อจำหน่าย โดยมีแหล่งผลิตอยู่ที่สถานีเกษตรหลวงอ่างข่าง และปางดะ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ ขุนวาง และแม่หลอด

“ไก่ฟ้าที่โครงการหลวง ผลิตออกจำหน่ายนี้ มีจุดเด่นคือเนื้อที่แน่นและนุ่ม อีกทั้งยังเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สร้างรายได้เสริมให้แก่เกษตรกรบนดอย นอกเหลือจากการปลูกพืชได้อีกด้วย”

เชฟ เนตเซอร์

เมนูโปรดอาหารจีนมื้อพิเศษของเชฟ และเมนูซิกเนเจอร์ที่ห้ามพลาด คืออะไรคะ?……..
เอ่อ… (เชฟเนตเซอร์) ” ที่ผมชอบมากเลย คือ เมนู สลัดไก่ฟ้าแมงกะพรุนซอสเซี่ยงไฮ้ เมื่อพูดถึงเมนูไก่ฟ้า จริงๆ เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจในช่วงขณะที่ ผม ทำงานห้องอาหารจีน ในโรงแรมหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เชฟได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของการใช้วัตถุดิบสดใหม่ในการทำอาหาร เล่าต่อ….ถึงเมนูสุดพิเศษจากไก่ฟ้า เชฟรังสรรค์เมนูสุดพิเศษนี้โดย เริ่มต้นจาก เมนูสลัดไก่ฟ้าแมงกะพรุนซอสเซี่ยงไฮ้ , ซุปไก่ฟ้ากระเพาะปลาสดเห็ดชิเมจิน้ำแดง, ไก่ฟ้ากระเทียมน้ำแดง และไก่ฟ้าผัดขิงต้นหอมญี่ปุ่นราดอีหมี่ น้ำซุปสูตรเด็ดของร้านเป็นตัวชูโรงพร้อมเส้นหมี่ซั่วเหนียวนุ่มที่ดูดซับรสชาติความเข้มข้นและกลมกล่อมของน้ำซุป

สลัดไก่ฟ้าแมงกะพรุนซอสเซี่ยงไฮ้

ถึงตอนนี้ ได้เวลาสัมผัสความน่าทึ่งของเมนู ไก่ฟ้า ที่พร้อมบอกเล่าความอร่อยอย่างมีเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยน้ำซุปอุ่นๆ ที่เข้มข้นถึงรสชาติ ยิ่งช่วยเสริมให้มื้อเมนูในมื้อนี้อร่อยแบบไม่จำเจ และพลาดไม่ได้กับเมนูสุดพิเศษ
ที่ถูกบรรจุเอาไว้เฉพาะ ’LA CARTE DISHES

  1. Shanghai “Pheasant” with Jelly fish Salad
    • สลัดไก่ฟ้าแมงกะพรุนซอสเซี่ยงไฮ้ 450 บาท
  2. Braised Pheasant with Fresh fish maw shimeji mushroom
    • ซุปไก่ฟ้ากระเพาะปลาสดเห็ดชิเมจิน้ำแดง 350 บาท
  3. Sautéed Pheasant with French Bean in mild Chili Sauce
    • ไก่ฟ้าผัดถั่วแขกโครงการซอสพริกเสฉวน 350 บาท
  4. Braised Pheasant with Garlic in Brown Sauce
    • ไก่ฟ้ากระเทียมน้ำแดง 380 บาท
  5. Poached Sliced Pheasant with Enoki mushroom
    • ไก่ฟ้าแป๊ะซะเห็ดอิโนกิ 350 บาท

Set Menu 1,300 Net.

  1. Shanghai “Pheasant” with Jelly Fish Salad
    • สลัดไก่ฟ้าและแมงกะพรุนซอสเซี่ยงไฮ้
  2. Double-Boiled Dang Gui soup with Chinese dates, Pheasant and baby abalone
    • ซุปใสไก่ฟ้าตุ๋นโสมตังกุยกับเป๋าฮื้อ
  3. Stir-fried sea prawn fresh fish maw and monkey head mushroom with homemade XO
    • เห็ดปุยฝ้ายกระเพราะปลาสดผัดกุ้งซอส X.O
  4. Steamed grouper fillet with Chinese pickle “Mui-choy” in soya sauce
    • ปลาเก๋านึ่งซอสผักดอง ”หมุ่ยชอยจีน”
  5. Pheasant with Ginger and Japanese Spring Onions on Noodles
    • ไก่ฟ้าผัดขิงต้นหอมญี่ปุ่นราดอีหมี่

6.Gingko nuts and white Fungus in Ginger sweet tea
-แปะก๊วยเห็ดหูหนูขาวในชาขิงร้อน

Gingko nuts and white Fungus in Ginger sweet tea
ลิ้มรสจานพิเศษจากไก่ฟ้า ในระหว่างวันที่ 5 – 18 สิงหาคม 2562 นี้

“เทศกาลไก่ฟ้า (Pheasant Festival)”
ณ ห้องอาหารจีนโกลเด้น วิลเลจ
ราคาเริ่มต้นเพียง 350 บาท/ต่อจาน และเซ็ตเมนูในราคา 1,300 บาท เมนูพิเศษของเชฟเนตเซอร์ จะมีให้บริการต้อนรับเทศกาศวันแม่ ที่กำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้ ลิ้มรสจานพิเศษจากไก่ฟ้า

ในระหว่างวันที่ 5 – 18 สิงหาคม 2562 นี้ ในมื้อกลางวัน 11.30 -14.30 และมื้อค่ำ 18.00 – 22.30 น.

รายละเอียด
http://www.novotelairportbkk.com/offers/pheasant-festival/


ท้าให้ลอง Indian food ต้นตำรับแดนภารตะ ณ ห้องอาหารเดอะสแควร์

โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต


เคยมีคนถามว่าชอบอาหารอินเดียมั้ย​?
แฟนคลับที่ติดอกติดใจ ที่สุดของอาหารอินเดียเมนูเด็ดของ ร้านบาวาร์ชิ ร้านอาหารอินเดียชั้นนำจากต้นตำรับ แดนภารตะ รังสรรค์โดยเชฟ ผู้มากประสบการณ์จากร้านบาวาร์ชิ ร้านอาหารอินเดียชั้นนำระดับประเทศ ด้วยรางวัลการันตีคุณภาพมากมาย

Toptotravel มาถึงแล้วไม่รอช้า ตักของอร่อยมาชิมกันเลย กินอาหารอินเดียครั้งแรกอร่อยกว่าที่คิด อาหารอินเดียที่คนไทยทานได้ง่ายๆ ที่นี่จัด แบบบุฟเฟ่ต์อาหารอินเดีย โดยโรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต ร่วมกับร้าน บาวาร์ชิ ซึ่งเป็น ร้านอาหารอินเดียชั้นนำ จัดเทศกาล อาหารอินเดีย ณ ห้องอาหารเดอะสแควร์ของโรงแรมฯ ลองกันในครั้งนี้ รับรองว่าอร่อยถูกปากแน่นอน

ข้าวพิลาฟร้อนๆ

บอกเลยที่เด็ดของ อาหารอินเดีย ที่ห้องอาหารเดอะสแควร์ของโรงแรม โนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต เมื่อมาถึงรับ welcome drink เครื่องดื่มต้อนรับ ผสมโยเกิร์ต เครื่องดื่มที่ช่วยระบบย่อย และดับกลิ่นเครื่องเทศและรสชาติของอาหารอินเดีย กับเมนูอาหารอินเดียที่คนไทยทานได้ง่ายๆ ประสบการณ์แห่งความอร่อยครั้งนี้ ส่งตรงจากต้นตำรับแดนภารตะ รังสรรค์โดยเชฟผู้มากประสบการณ์จากร้านบาวาร์ชิ ร้านอาหารอินเดียชั้นนำระดับประเทศ ด้วยรางวัลการันตีคุณภาพมากมาย โดยได้รับรางวัลจาก Thailand Tattler ให้เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดในประเทศไทยเป็นเวลาหลายปีติดต่อกันและยังได้รับ Certificate of Excellence จาก Trip Advisor เป็นประจำ รวมไปถึงรางวัลจาก Readers Choice สไตล์อินเดียที่มีชื่อเสียงมานานเป็นร้านอาหารอินเดียที่ดีที่สุดในต่างประเทศ โดยสภาร้านอาหารอินเดีย พร้อมเสิร์ฟอาหารรสจัดจ้าน รวมถึงเมนูอย่างอื่นอีกมากมายหลายอย่างคะ อาหารระดับพรีเมี่ยมในราคาแสนสบาย ให้ได้เอ็นจอยกันกับการกินสุดดีงาม

วันนี้ เชฟกัลยาณี จิริฐิติกาลโชติ แนะนำและขอพาชมไลน์อาหารก่อนเลยนะ อาหารแห่งคาบสมุทรอินเดีย จัดจ้านด้วยเครื่องเทศของดีที่อยากให้ลิ้มลอง แกงกะหรี่เนื้อแกะ แกงผักโขมกับชีส ไก่ย่างเคี่ยวในซอสแกงกะหรี่ มันฝรั่งและดอกกระหล่ำบดใส่เครื่องเทศ โรตีและขนมปังอินเดีย ทานคู่กับแป้งนาน ทำสดใหม่ และข้าวพิลาฟหุงร้อนๆ ส่วนอาหารอินเดียต่างๆ เหล่านี้ แนะนำเป็นอย่างยิ่งจากความอร่อยส่วนตัว อาหารอร่อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมนูเด็ดอื่นๆ อีกมากมาย รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติ ให้เลือกสรรความอร่อยได้อย่างไม่จำกัด รับรองถูกปากคนไทยแน่นอน

ซิกเนเจอร์จุกๆ ที่ต้องจัด
Chicken tikka Masala ไก่มาซาลา
Lamb Roganjosh แกงกะหรี่เนื้อแกะ
Malabari Fish Curry แกงกะหรี่ปลา
Panner lababda r แกงกะหรี่ชีส
Daal Makhani แกงถั่วใส่เนย
Aloo Gobhi มันฝรั่งและดอกกระหล่ำบดใส่เครื่องเทศ
Assorted Indian Bread โรตี และ ขนมปังอินเดีย
Chicken Samosa and Vegetable Samosa ซาโมซ่าไก่ และซาโมซ่าผัก

ของหวาน : Lassi ลาสซี่
Gulab Jamun กุหลาบจามุน

โรตีและขนมปังอินเดีย ทานคู่กับแป้งนาน

สำหรับคนที่ชอบทาน Lobster ต้องทานให้ได้นะคะ กริลล์หอมกรุ่นอร่อยกว่าที่อื่นหลายเท่าตัว ในกรุงเทพยังหา LOBster ตัวใหญ่ที่อร่อยเท่านี้ได้ยากมาก แม้แต่โรงแรม 5 ดาวหลายๆ ที่ก็เถอะคะ Toptotravel ยอมใจให้ที่นี่ คุ้มมากจริงๆ

พิเศษสุดคุ้ม! “มา 4 จ่ายเพียง 3”
เมื่อชำระผ่านบัตรเครดิต Aeon, KTC ,Krungsri และ SCB

ลิ้มลองรสชาติความอร่อยเลิศของอาหารอินเดีย
บุฟเฟ่ต์ที่นี่จัดเฉพาะวันที่ 10 – 23 มิถุนายน 2562
Lunch buffet ราคา 820 บาท เน็ต เวลา 11.30-14.00 น.
Dinner buffet 1,120 บาท เน็ต เวลา 18.00-22.30 น.
Sunday Brunch 1,299 บาท เน็ต (lobster 1 ตัวต่อท่าน)
เริ่มที่เวลา 11.30-15.00 น.

Farm Stays in Singburi บ้านข้าวหอมโฮมสเตย์ สวรรค์บ้านทุ่ง

ทดลองใช้ชีวิตแบบพอเพียง ท่ามกลางความสุขที่เพียงพอ ชีวิตพอเพียง เพื่อสุขที่เพียงพอ
จุดแรกของทริปนี้ กับวิวท้องทุ่งนา ที่กว้างสุดลูกหูลูกตา กับวิวพาโนรามาแบบ 180 องศา เราได้เเที่ยวเชิงเกษตรแบบดั้งเดิม ที่นี่เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจจากคำสอนของในหลวง ร.9 และได้ลงมือทำเพื่อเดินตามรอยแนว ความพอเพียงของพ่อหลวง

FARM STAYS IN SINGBURI

ที่พักสไตล์ฟาร์มสเตย์ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว นักเดินทางที่มองหาที่พักอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ใช้ชีวิตอย่างง่ายๆ เปิดให้เป็นศูนย์การเรียนรู้เรื่องปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง ให้เข้ามาศึกษาหาความรู้

บ้านข้าวหอมโฮมสเตย์ ถูกล้อมรอบไปด้วยนาข้าว ได้ยินเสียงนกร้องปลุกผู้มาเยือน ท่ามกลางบรรยากาศแบบส่วนตัว บ้านพักที่พักแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำหรับคนที่กำลังอยากทดลองใช้ชีวิตในแบบพอเพียง เป็นที่พักเชิงเกษตร หรือ ฟาร์มสเตย์ ที่เกิดจากความตั้งใจที่ต้องการจะนำผืนดินเล็กๆ กับที่พักสไตล์ฟาร์มสเตย์ ตั้งอยู่ใจกลางขุนเขา แวดล้อมไปด้วยความสงบและความสุขจากธรรมชาติ แต่เดิมที่นี่ทำนา ปลูกข้าว ด้วยใจรักในเรื่องของสุขภาพ และอยากให้คนในครอบครัว ได้รับประทาน เริ่มแบ่งปันให้คนรอบข้าง จนเริ่มมีผู้มาเยือนที่นี่บ่อยขึ้นจึงค่อยๆ พัฒนาที่นี่ เป็นที่พักเชิงเกษตร ตามแนวพระราชดำริในการใช้ชีวิตที่พอเพียงให้กลายเป็นบ้านทรงไทยกลางทุ่งนาเขียวขจีที่แสนอบอุ่น

ข้าวหอม ฟาร์มสเตย์ (Farm Stay) เป็นสถานที่คงความอุดมสมบูรณ์และสวยงามตามธรรมชาติเอาไว้ได้ครบทั้งหมด ความสุขในวิถีเกษตร ท่ามกลางบรรยากาศขุนเขา บนเนื้อที 20 ไร่ ผสมผสานกับความเรียบง่ายที่พอเพียง แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ภายในบ้านพักแต่ละหลังครบครัน และเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน พื้นที่ส่วนกลางของที่พักเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ ที่ถูกล้อมรอบไปด้วยทุ่งนาสีเขียวขจีในช่วงปลายฝน ก่อนผลัดเปลี่ยนเป็นสีทองในช่วงหน้าหนาว

ภายในห้องพักตกแต่งแบบเรียบง่าย แต่ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น และที่สำคัญคุณยังได้เรียนรู้การทำเกษตร และยังได้รับประทานอาหารออร์แกนิคที่สดใหม่ปราศจากสารเคมี ที่พักจะมีแปลงเกษตรให้ผู้ที่สนใจได้ร่วมลงมือและเรียนรู้การปลูกผักออร์แกนิค ตามธรรมชาติตามวิถีชีวิตดั้งเดิมแบบบ้านนอก ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่นี่ น่าจะช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่ได้ดี

คุณสายพิน ชูเชื้อ เล่าถึงที่มาของ บ้านข้าวหอมโฮมสเตย์ หลังจากหันหลังให้กับอาชีพพยาบาล จากทำงานหนักมาตลอด ภายหลังหันมาให้ความสนใจในการดูแลสุขภาพ ทั้งอาหารและการใช้ชีวิต เขาจึงตัดสินใจเปิดที่พักนี้ขึ้น เปิดให้เป็นศูนย์การเรียนรู้เรื่องปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้เกิดการพึ่งพาตัวเอง สู่วิถีเกษตรท้องถิ่น ปลูกข้าวไรซ์เบอรี่แบบเกษตรอินทรี โดยไม่พึ่งสารเคมี และปลูกผักปลอดสารพิษ รวมถึงยังเปิดเป็นสถานที่สำหรับการเรียนรู้ ให้นักท่องเที่ยวได้มาทำกิจกรรมปลูกข้าว ดำนา เก็บผัก ล่องเรือ และยังเปิดเป็นโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อน บนเรือนไทยไม้สัก เคียงข้างท้องทุ่งนาสีเขียวขจีกว่า 20 ไร่

คุณสายพิน ชูเชื้อ บ้านข้าวหอมโฮมสเตย์

จากที่ดินผืนเดิมถูกปรับให้เหมาะกับการทำที่พักเชิงเกษตร อาหารเราใช้ ได้จาก ทุ่งนาสีเขียวกับการเรียนรู้วิถีชีวิตเรียบง่าย ผักที่ปลูกเองมาเป็นวัตถุดิบ ถึงแม้ที่นี่จะไม่ได้รายล้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม แต่มีความสะดวกสบายบวกกับได้การเรียนรู้ ถ้ามาพักที่นี่ ตื่นเช้ามาทำบุญใส่บาตร ทานอาหารเช้าแล้ว ตื่นมาอาจจะปลูกผัก รดน้ำผัก มาทำเกษตร ปั่นจักรยานชมท้องนา, ใส่บาตรพระตอนเช้า, ชมการปลูกผักปลอดสารพิษ, ชมโรงสีข้าว หรือถ้ามาช่วงเข้าออกรวงก็มาเกี่ยวข้าวกัน ซึ่งก็แล้วแต่ฤดูกาล ข้าวไรซ์เบอรี่สิงห์บุรี ที่ได้มาตรฐานพร้อมส่ง ภายใต้แบรนด์ บ้านข้าวหอม ซึ่งเป็นความสำเร็จของบ้านข้าวหอมโฮมสเตย์ เป็นความฝันที่มีคนร่วมฝันเป็นคนในครอบครัว

การทำนาแบบปลอดภัย กว่าจะมาเป็นข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ ที่บ้านข้าวหอมโฮมสเตย์ ทำนาเชิงคุณภาพมากกว่าเชิงปริมาณ เน้นเรื่อง ข้าวปลอดสาร เน้นความสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน จึงมีการทำทุกกระบวนการอย่างมีคุณภาพ จนได้รับมาตรฐานของกรมการข้าวและอย.อยากให้ทุกคนรักสุขภาพ ด้วยการกินอาหารที่ดีมีคุณภาพ ถือเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และยากต่อการเจ็บป่วย โดยเริ่มต้นที่ข้าว ซึ่งเป็นอาหารพื้นฐานของคนไทย ควรเลือกทานข้าวที่มีประโยชน์ สะอาดและปลอดภัย ดังคำพูดที่ว่า ทานข้าวเป็นยา อย่าทานยาแทนข้าว รับรองพักที่ฟาร์มสเตย์แห่งนี้ทั้งอิ่มท้อง ทั้งอิ่มใจเลยล่ะ
-คุณสายพิน ชูเชื้อ

คุณสายพิน ชูเชื้อ

นอกจากนี้หากมีเวลาเหลือก็ต้องไม่พลาดไปเที่ยวชมธรรมชาติเชิงอนุรักษ์มากมาย ที่พักสไตล์ฟาร์มสเตย์ที่คุณจะได้สัมผัสอากาศที่เย็นสบาย ห้องพักออกแบบมาได้อย่างน่ารัก รวมไปถึงพื้นที่ สำหรับการทำกิจกรรม เป็นกลุ่มสุดสนุกและได้เรียนรู้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การปลูกผัก เก็บผักตามฤดูกาล ดำนา เกี่ยวข้าว ปลูกข้าวโพด พายเรือ และเรียนรู้วิถีเกษตรอินทรีย์ บ้านข้าวหอมโฮมสเตย์ ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองสิงห์บุรี ประมาณ 22 กิโลเมตร มาชมทุ่งนาสีเขียวๆ ใกล้ชิดกับวิถีชีวิตชนบทที่มีความเรียบง่าย ทำไร ทำนา ปลูกผัก ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ แต่มากไปด้วยความสุข ความพอเพียง พร้อมเปิดบ้านรอต้อนรับอย่างอบอุ่นราวกับเป็นคนในครอบครัว

ติดต่อ บ้านข้าวหอมโฮมสเตย์ ห้องพักในเรือนไทย
ที่พัก : บ้านข้าวหอมโฮมสเตย์
ราคา : 500-800 บาท/คน
(ที่พัก + อาหาร 2 มื้อ + อาหารว่าง + กิจกรรมท่องเที่ยว)
Facebook : บ้านข้าวหอมสิงห์บุรี
ติดต่อ โทร : 082 724 0322
พิกัด : https://goo.gl/maps/psyxFn8enTK2

โปรโมชั่นสุดคุ้ม ! ไฮไลท์มาเต็ม บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดมื้อเที่ยงวันเสาร์

ห้องอาหารเดอะสแควร์ โรงแรมโนโวเทล เพลินจิต

กลับมาพบกันอีกครั้งในวันเสาร์สุดสัปดาห์ เอาใจคนรักบุฟเฟ่ต์และอาหารทะเลกันอย่างต่อเนื่อง กับมื้อเที่ยงวันเสาร์ช่วงเวลาเดิม เพิ่มเติมคือความคุ้มแบบจัดเต็ม พบกันได้แล้ววันนี้

โปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์มื้อเที่ยงวันเสาร์จัดให้หนัก!

ทั้งอร่อย ทั้งสบายกระเป๋า แน่นอนว่าสามารถกินได้จนกว่าจะจุกแบบไม่ 3 ชั่วโมงเต็มๆ เลยทีเดียว


บุฟเฟ่ต์โรงแรมดีๆ ในกรุงเทพฯ ที่เราอยากบอกต่อ ไม่อยากให้พลาดลองของดี คุ้มค่า คุ้มราคา อิ่มอร่อยไปกับ ซีฟู้ดมื้อเที่ยงวันเสาร์ ที่ห้องอาหารเดอะสแควร์ ท่ามกลางบรรยากาศเปิดโล่งผ่อนคลาย พร้อมให้บริการคุณแล้ว เราขอนำเสนอเมนูไฮไลท์ ไม่ว่าจะเป็นซีฟู้ดออนไอซ์ที่จัดเต็มกันมาแบบแน่นๆ สำหรับวัตถุดิบไฮไลต์ของที่นี่คือ ปูม้า, กุ้งขาว, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ และหอยแมลงภู่ดำ ส่วนใครที่ชอบแบบร้อนๆ เราก็มี กุ้งตัวใหญ่ ปูสดๆ ปลาตามฤดูกาล และกุ้งแม่น้ำเผาเตาถ่าน ที่หอมกรุ่นเกินห้ามใจ

ที่นี่ เสิร์ฟอย่างไม่ขาดสาย อิ่มและอร่อยกับความหลากหลายของไลน์บุฟเฟ่ต์ที่มาพร้อมคุณภาพระดับโรงปรมห้าดาว รวมไปถึงอาหารจานเดี่ยว ปรุงสดใหม่ เตรียมพร้อมเสิร์ฟให้เพื่อนๆ ได้จัดเต็มกับบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลเกรดคุณภาพ

เต็มอิ่มกับอาหารสไตล์บุฟเฟ่ต์ที่เชฟของห้องอาหารบรรจงรังสรรค์ขึ้น เริ่มต้นความอร่อยด้วย ซูชิ, ซาซิมิ นอกจากนี้ยังมีเนื้อเกรดพรีเมียม ขาแกะอบพร้อมซี่โครงหมู และแฮม ไม่หมดเพียงเท่านี้ยังมีพาสต้า, สลัดบาร์, อาหารไทยและตะวันตกอีกมากมาย สามารถเดินเลือกได้เองตามชอบใจ ปิดท้ายกับวันเสาร์อันแสนสุข ด้วยขนมหวานและไอศกรีมนานาชนิด ทั้งหมดเพียง 1,100++ ต่อท่าน รวมเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้งไม่อั้น เอาเป็นว่า…ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์อีกต่างหาก

โปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์มื้อเที่ยงวันเสาร์ สุดอลังการที่คุณจะได้ใช้เวลาวันหยุดสบายๆ กับครอบครัวและเพื่อนอย่างเต็มที่ ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบายซึ่งโรงแรมของเราติดกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีเพลินจิต ทางออก 4

ข้อเสนอพิเศษ!สายกินห้ามพลาด โปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ด อันลิมิเต็ด สำหรับแฟนเพจ Toptotravel

เพียงจองผ่านลิ้งค์ด้านล่าง จากราคา 1,100++ บาท (ราคาเต็มรวม Vat และค่าบริการ 1,295 บาท)
รับส่วนลดสูงสุดถึง 50 % เพียง 707 บาทสุทธิ
เมื่อจองออนไลน์
http://bit.ly/2W9g1c3

สมาชิกแอคคอร์ พลัส รับส่วนลดเพิ่มอีก 10% (4 ท่านต่อบัตร) เพียง 590 บาท โปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดมื้อเที่ยงวันเสาร์ ห้องอาหารเดอะสแควร์ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ เพลินจิต

ะยะเวลาโปรโมชั่น: ทุกวันเสาร์ เวลา 12.00 – 15.00 น.
ราคา 1,100++ บาท/ ท่าน
(เริ่มต้น 707 บาทสุทธิ รวมเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้งค์ไม่อั้น)
สำรองที่นั่งได้ที่: 02 305 6000
จองออนไลน์: http://bit.ly/2W9g1c3

มอนท์เอซัวร์ จับมือ แอคคอร์ เปิดตัว “เอ็มแกลเลอรี เรสซิเดนซ์” แห่งแรกในไทยบนเกาะภูเก็ต

โรงแรมระดับโลกสู่ “มอนท์เอซัวร์”
โครงการแลนด์มาร์คซูเปอร์ไฮเอนด์ขนาด 454 ไร่


MontAzure โครงการแบบผสมผสานซูเปอร์ไฮเอนด์ ที่ได้รับรางวัลมากมายในระดับสากล บนหาดกมลา เกาะภูเก็ต

“มอนท์เอซัวร์” (MontAzure) โครงการแบบผสมผสานซูเปอร์ไฮเอนด์ ที่ได้รับรางวัลมากมายในระดับสากล บนหาดกมลา เกาะภูเก็ต เปิดตัว “มอนเอซัวร์ เลคไซด์” (MontAzure Lakeside) โครงการที่พักอาศัยแห่งใหม่ มูลค่า 2,000 พันล้านบาท พร้อมจับมือ “แอคคอร์” (Accor) และแบรนด์โรงแรมห้าดาวในเครือ “เอ็มแกลเลอรี เรสซิเดนซ์” (MGallery Residences) มาเป็นผู้บริหารงานภายใต้คอนเซ็ปต์โรงแรมและเรสซิเดนซ์

“M” ใน MGallery สื่อถึง “Memorable” (ประสบการณ์ที่น่าจดจำ) และ “Magical” (น่ามหัศจรรย์) ซึ่งผู้เข้าพักที่มาเยือนจะได้รับแรงบันดาลใจในการเดินทาง ณ จุดหมายปลายทางนั้น ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศตามถนนหนทาง สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ไปจนถึงได้รื่นรมย์กับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์อย่างแท้จริง…

“เอ็มแกลเลอรี เรสซิเดนซ์ มอนท์เอซัวร์ เลคไซด์” (MGallery Residences, MontAzure Lakeside) ตั้งอยู่บริเวณใจกลางของโครงการมอนท์เอซัวร์ (Heart of MontAzure) แวดล้อมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติจากเชิงเขาสู่ชายหาดกมลา เชื่อมต่อการใช้ชีวิตอันเป็นส่วนตัวภายในห้องชุดกับบรรยากาศภายนอกได้อย่างลงตัว ตัวโครงการสร้างอยู่บนพื้นที่ประมาณ 22 ไร่ ประกอบไปด้วยอาคารที่พักอาศัย ทะเลสาบและสวนภูมิทัศน์ที่คงไว้ตามธรรมชาติ ให้ผู้อยู่อาศัยได้ดื่มด่ำกับรูปแบบวันพักผ่อนในบรรยากาศและกลิ่นอายของลมทะเล กับผืนทรายขาวละเอียดของหาดกมลาท่ามกลางทิวเขาที่ยังอุดมสมบูรณ์ พร้อมเพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกระดับมาตราฐานสากลและการบริการระดับโรงแรมห้าดาวแบบครบวงจร

โครงการมอนท์เอซัวร์ เลคไซค์ ประกอบด้วยห้องชุดขนาดกว้างขวางรวม 236 ยูนิต ในแบบสตูดิโอ (Studio) และ 1 ห้องนอน (One Bedroom) ภายในตกแต่งแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สะท้อนองค์ประกอบตามธรรมชาติของเกาะภูเก็ต เน้นความเรียบง่ายแต่ยังคงโดดเด่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบเฉพาะของโครงการ ลูกค้าสามารถเลือกวิวทะเลสาบ วิวภูเขาหรือวิวทะเล ผ่านหน้าต่างและระเบียงขนาดใหญ่ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่ต้องการห้องชุดขนาด 2 ห้องนอนขึ้นไป สามารถเชื่อมต่อห้องชุดเพื่อสร้างห้องขนาดใหญ่อีกด้วย

นอกจากนั้น ภายใต้การบริหารงานของ เอ็มแกลเลอรี เรสซิเดนซ์ เจ้าของห้องชุดจะได้รับบริการระดับพรีเมียม และสิทธิประโยชน์จากโรงแรมและรีสอร์ททั่วโลกในเครือแอคคอร์ ในฐานะสมาชิกระดับวีไอพีอีกด้วย

ภายในโครงการฯ มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ซึ่งได้รับการออกแบบตามมาตราฐานโรงแรมห้าดาวอย่างเอ็มแกลเลอรี ไม่ว่าจะเป็นศาลาพักผ่อน ลู่วิ่งจ๊อกกิ้ง ห้องโยคะ และเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ทั้งยังรองรับลูกค้าที่มาพักผ่อนพร้อมครอบครัว ด้วยสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ถึง 2 สระ สระว่ายน้ำสำหรับออกกำลังกาย (lap pool) สระว่ายน้ำฟรีฟอร์มพร้อมสระว่ายน้ำเด็ก และคลับสำหรับคุณหนู ๆ นอกจากนั้น ยังมีร้านอาหาร ที่ให้บริการตลอด
วัน (all-day dining) บาร์เครื่องดื่มที่สระน้ำ (Pool bar) ห้องฟิตเนส และ
คลับเฮาส์

เจ้าของห้องชุดสามารถดื่มด่ำกับประสบการณ์การพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอันเป็นส่วนตัว ขณะเดียวกันก็ยังได้รับบริการสุดพิเศษในแบบฉบับ เอ็มแกลเลอรี เรสซิเดนซ์

นายเศรษฐพล บุตรโท กรรมการบริหาร โครงการมอนท์เอซัวร์

นายเศรษฐพล บุตรโท กรรมการบริหาร โครงการมอนท์เอซัวร์ กล่าวว่า “ด้วยสถาปัตยกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต สิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรา และทำเลที่ตั้งที่สมบูรณ์แบบบนชายฝั่งตะวันตกของภูเก็ต ทั้งยังได้ “เอ็มแกลลอรี เรสซิเดนซ์”หนึ่งใน พรีเมี่ยมแบรนด์ของ แอคคอร์ มาเป็นทีมบริหาร ทำให้เรามั่นใจว่า “มอนเอซัวร์ เลคไซด์” เป็นโครงการที่น่าสนใจและคุ้มค่าสำหรับนักลงทุนทั้งในด้านการบริการและผลตอบแทนในอนาคตอย่างแน่นอน”

ด้าน มร.แพทริค บาสเซ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ แอคคอร์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตอนบนและเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและมัลดีฟส์ กล่าวว่า “โครงการมอนท์เอซัวร์ เลคไซด์ นับเป็นโอกาสที่ลงตัวในการเปิดตัว “เอ็มแกลลอรี เรสซิเดนซ์” ครั้งแรกในประเทศไทย โดย “เอ็มแกลลอรี เรสซิเดนซ์” เป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่เน้นการนำเสนอเรื่องราวและความงดงามของสถานที่นั้น ๆ ซึ่งโครงการมอนเอซัวร์มีที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามและเงียบสงบ สะท้อนเสน่ห์ของเกาะภูเก็ตได้อย่างลงตัว เราเชื่อว่า การร่วมมือของ เอ็มแกลลอรี กับ มอนท์เอซัวร์ จะสร้างประสบการณ์อันเป็นที่จดจำให้แก่ผู้เข้าพัก และยกระดับคุณภาพที่อยู่อาศัยในภูเก็ตให้เหนือระดับยิ่งขึ้น”

มร.แพทริค บาสเซ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ แอคคอร์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตอนบนและเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและมัลดีฟส์

ทั้งนี้ โครงการมอนท์เอซัวร์ อาณาจักรมิกซ์ยูสมูลค่ากว่าหมื่นห้าพันล้าน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว่า 454 ไร่ บนหาดกมลา ประกอบไปด้วย ที่พักส่วนตัวระดับลักซัวรี่ คอนโดมิเนียมริมทะเล รีสอร์ตระดับ 5 ดาว ไลฟ์สไตล์มอลล์ และศูนย์สุภาพ รวมถึงร้านอาหารและบีชคลับบนชายหาดมลา เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เหนือระดับอีกมากมาย โดยมอนท์เอซัวร์ได้รับรางวัลระดับภูมิภาครวมถึง “Best Mixed-Use DevelopmentThailand” จากเวที Asia Property Awards อีกด้วย

เอ็มแกลลอรี เรสซิเดนซ์ นับเป็นแบรนด์โรงแรมระดับไฮเอนด์ล่าสุดที่ร่วมเป็นพันธมิตรกับมอนท์เอซัวร์ หลังจาก คาเฟ่เดลมาร์ (Cafe del Mar) ทวินปาล์ม เรสซิเดนซ์ มอนท์เอซัวร์ (Twinpalms Residences MontAzure) และ อินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท (InterContinental Phuket Resort) ซึ่งมีกำหนดจะเปิดในปีนี้ ผู้พักอาศัยที่ “เอ็มแกลเลอรี เรสซิเดนซ์ มอนท์เอซัวร์ เลคไซด์” สามารถเพลิดเพลินไปกับร้านอาหารและบีชคลับบนหาดกมลาที่อยู่ภายในโครงการมอนท์เอซัวร์ ลูกค้าสามารถเดินหรือใช้บริการรถรับ-ส่งฟรีไปยังชายหาดได้อีกด้วย

เจ้าของห้องชุดทุกยูนิตจะได้รับสิทธิประโยชน์จาก Accor Ownership Benefits Program ในสถานะ “VVIP” และได้รับเชิญเข้าร่วมเป็นสมาชิกแพลตตินั่มของ Le Club AccorHotels พร้อมส่วนลด 20% และอัพเกรดห้องพักสำหรับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือกว่า 4,000 แห่งทั่วโลก

“เอ็มแกลเลอรี เรสซิเดนซ์ มอนท์เอซัวร์ เลคไซด์”
ราคาเริ่มต้น 7.2 ล้านบาท มีกรรมสิทธิ์ถือครองแบบสมบูรณ์ (Freehold)
พร้อมการบริหารในรูปแบบโรงแรมสำหรับนักลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชม
www.montazure.com
อีเมล sales@montazure.com หรือโทร +66 93 624 8800