Category Archives: Lifestyle

GIT เปิดเวที! GIT’s World Jewelry Design Awards 2021

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GITชวนนักออกแบบไทย-เทศ ปลดปล่อยพลังความคิดสร้างสรรค์ ส่งผลงานออกแบบเครื่องประดับ ชิงรางวัล GIT’s World Jewelry Design Awards 2021 ภายใต้แนวคิด Intergeneration Jewelry ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุค New Normal

นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ กล่าวว่า ท่ามกลางวิกฤต Covid 19 ทำให้พฤติกรรมการใช้เครื่องประดับของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ในปีนี้ เราได้ออกแบบการประกวดภายใต้แนวคิด

นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ

“Intergeneration Jewelry” – jewelry for every generation เครื่องประดับที่ก้าวข้ามข้อจำกัดของเจนเนอเรชั่น การหลอมเป็นความคิดและประสบการณ์ของคนในแต่ละเจนเนอร์เรชั่น โดยการนำเสนอคุณค่า ความงดงาม ของวัสดุ/วัตถุดิบอันมีค่าที่เลือกใช้ ผสมผสานผ่านการนำเสนอแนวคิดในการออกแบบเครื่องประดับเพื่อทุกคน (Design for all) ซึ่งการประกวดครั้งนี้ เป็นโจทย์ที่ท้าทาย เพราะนักออกแบบรุ่นใหม่ จะต้องนำแนวคิด ประสบการณ์ ความชื่นชอบเครื่องประดับของผู้คนในทุกช่วงอายุ มาหล่อหลอมรวมและรังสรรค์ออกมาเป็นเครื่องประดับแบบใหม่ เพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดคนในแต่ละเจเนอเรชั่น

เราคาดหวังจะได้เห็นผลงานออกแบบใหม่ๆ ที่ฉีกกรอบเดิม และสร้างสรรค์ผลงานอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังเปิดให้นักออกแบบนำวัสดุใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เช่น ไม้ พลาสติก เรซิ่น รวมทั้งนวัตกรรมอื่นๆ มาออกแบบตามความเหมาะสม และจะต้องสามารถนำมาพัฒนาเป็นจิวเวลรี่ที่จำหน่ายได้จริง โดยเบื้องต้นสถาบันจะตัดสินรอบคัดเลือกแบบวาด และนำแบบวาดที่เข้ารอบสุดท้าย 4 แบบวาด มาผลิตเป็นเครื่องประดับจริงเพื่อนำไปตัดสินอีกครั้ง และประกาศรางวัลผู้ชนะเลิศ พร้อมทั้งแสดงแฟชั่นโชว์ด้วยดารานางแบบชั้นนำ ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน จากนั้นสถาบันจะนำผลงานการออกครั้งนี้ไปจัดแสดงในงานแสดงสินค้าต่างๆ อาทิ โชว์ในงานบางกอกเจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่ แฟร์ และ งานเทศกาลนานาชาติพลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2021 เพื่อเป็นการตอกย้ำการเป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้าอัญมณีและเครื่องประดับโลกของประเทศไทย” (Thailand’s Gems and Jewelry Hub of The World)

การประกวดครั้งนี้มีรางวัลมูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท หรือ 10,000 เหรียญสหรัฐ โดยผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 4,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ รองชนะเลิศอันดับ 1 รับเงินรางวัลมูลค่า 3,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ รองชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัล 1,500 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ และรางวัลชมเชย

1 รางวัล เงินรางวัล 1,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ โดยจะประกาศผลการตัดสินรอบแรกจากแบบวาดในวันที่ 15 มิถุนายน นี้ โดยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากทั่วโลก อาทิ นางสิริพร ภาณุพงศ์ อดีตอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา รองประธานกรรมการ สำนักกฎหมาย Royal Law ม.ล. คฑาทอง ทองใหญ่ นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ นายสุริยน ศรีอรทัยกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทบิวตี้เจมส์ แฟคตอรี่ จำกัด นายชาญชัย เลิศกุลทานนท์ รองประธานกรรมการ การผลิตกลุ่มและผลิตภัณฑ์ใหม่ บริษัท PANDORA PRODUCTION, ดร.ธัชวิน สุรเศรษฐ กรรมการผู้จัดการ L.S.Jewelry Group (Lee Seng Jewelry), Prof. Paolo Torriti: Professor at the University of Siena, Italy และ Mr. Saeed Mortazavi Founder & CEO of Mortazavi Design Academy, Iran, Prof. Kwon Ju Han: Professor at College of Art and Design, Faculty of Applied Arts, Republic of Korea

ทั้งนี้ นักออกแบบจะต้องส่งแบบวาดไม่จำกัดเทคนิค หรือภาพเขียนจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ตรงกับหัวข้อ จำนวนไม่น้อยกว่า 3 ชิ้นใน 1 ชุดหรือคอลเลคชั่น โดยในคอลเลชั่นนั้นจะต้องมีสร้อยคอเป็นหลัก และเครื่องประดับอื่นๆ เช่น ต่างหู แหวน กำไล เป็นต้น

ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัครและส่งผลงานเข้าประกวดได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2564 ผ่านทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.gitwjda.com หรือส่งผลงานพร้อมใบสมัครทางไปรษณีย์ หรือส่งผลงานด้วยตัวเองที่ฝ่ายฝึกอบรม สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) 140 อาคารไอทีเอฟ ทาวเวอร์ ชั้น 3 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ฝ่ายฝึกอบรม โทร. +66 2 634 4999 ต่อ 301-306 และ 311-313 และดูรายละเอียดการรับสมัครได้ที่ www.gitwjda.com

แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เปิดตัวบัตรสมาร์ทพาสลายใหม่ และ ลายพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี

รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เปิดตัวบัตรสมาร์ทพาสลายใหม่ และลายพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผยว่าเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี ของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ บริษัทจึงได้ออกแบบบัตรสมาร์ทพาสลายใหม่ทุกประเภท ทั้งบัตรประเภทบุคคลทั่วไป (Adult Card) คิดอัตราค่าโดยสารตามระยะทางปกติ , บัตรประเภทนักเรียน นักศึกษา ( Student Card ) รับส่วนลด 20% จากอัตราค่าโดยสารปกติทุกเที่ยวการเดินทางสำหรับนักเรียน นักศึกษาที่อายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่งกำลังศึกษาในสถานศึกษาในประเทศ และบัตรประเภทผู้สูงอายุ ( Senior Card ) รับส่วนลด 50% จากอัตราค่าโดยสารปกติทุกเที่ยวการเดินทาง สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปสัญชาติไทย

นอกจากนั้นในโอกาสพิเศษนี้ บริษัทยังได้ออกแบบบัตรสมาร์ทพาสลายพิเศษประเภทบุคคลทั่วไป ( Adult Card) “Happy Birthday Card” และ “Happy Gift Card” ที่ออกแบบเป็นลายไทย มีลักษณะเป็น “ลายประจำยาม” ซึ่งเป็นลวดลายที่มีรูปร่างสี่เหลี่ยมจัตุรัสตะแคง มีลักษณะคล้ายดอกไม้ โดยดัดแปลงมาจากดอกไม้ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “ดอกสี่ทิศ” เหมาะสำหรับให้ผู้โดยสารได้เก็บสะสมเป็นที่ระลึก หรือมอบเป็นของขวัญในโอกาสพิเศษต่างๆ

ส่วนงานบริการลูกค้าสัมพันธ์ Call Center 1690 หรือ www.srtet.co.th , www.facebook.com/AirportRailLink และ Twitter : Airport Rail Link

กุนเชียงหมูแบรนด์ กล่องทิพย์ พร้อมลงสนามตลาดกุนเชียง 6 พันล้าน

กุนเชียง นั้นนับได้ว่าเป็นหนึ่งในอาหารแปรรูปยอดนิยมของคนไทย ยิ่งในยุคโควิด-19 กุนเชียงยิ่งขายดี เพราะสามารถเก็บไว้ในบ้านได้นาน ในช่วงที่คนไม่ค่อยออกไปไหน ที่สำคัญสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น กุนเชียงทอด, ยำกุนเชียง, ข้าวผัดกุนเชียง ,ขนมปังไส้กุนเชียง (สไตล์เวียดนาม) ก๋วยเตี๋ยวหลอด ฯลฯ


อีกทั้งบริโภคครั้งใดก็อร่อย กุนเชียงจึงเป็นสิ่งที่หลายบ้านมีติดตู้เย็นไว้ หิวเมื่อไรก็นำมาประกอบอาหารทานได้ทันที เรียกว่าทั้งอร่อย กลมกล่อม ทานง่าย ทานได้ทุกเพศทุกวัย รวมทั้งเหมาะกับการดำรงชีวิตอย่างเร่งรีบของคนในยุคปัจจุบัน เพราะมีกระบวนการทำที่รวดเร็ว สุกง่าย ไม่ยุ่งยากในการประกอบอาหารอีกด้วย
นางฐนิวรรณ กุลมงคล เจ้าของแบรนด์อาหาร “กล่องทิพย์” และอีกบทบาทคือนายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า พร้อมจะนำกุนเชียงหมูภายใต้แบรนด์กล่องทิพย์ลงตลาด โดยเน้นเป็นกุนเชียงคุณภาพเกรด A ด้วยความร่วมมือกับนายสมพล ถ้ำน้อย เจ้าของบริษัท โชคนิพลหมูป่า ผลิตกุนเชียงหมูที่มีเนื้อหมูในสัดส่วนถึง 95% หวานน้อย ไขมันต่ำ ไม่ผสมแป้ง

กุนเชียงกล่องทิพย์ เน้นเป็นกุนเชียงคุณภาพสูง อร่อย ภายใต้ราคาไม่แพง และเราพร้อมแล้วที่จะลงสนามตลาดกุนเชียงที่มีมูลค่าต่อปีสูงถึง 6 พันล้านบาท แม้จะมีคู่แข่งจำนวนมาก และหลายรายเป็นเจ้าตลาดรายใหญ่ แต่เรามั่นใจในคุณภาพสินค้าและช่องทางต่างๆ ที่จะขยายต่อไปในอนาคต

ในอนาคตแบรนด์กล่องทิพย์และโรงงาน โชคนิพลหมูป่า พร้อมที่จะนำสินค้าตัวอื่นๆ ลงสนามไปสู่ผู้บริโภคและเจ้าของร้านอาหาร โดยจะเป็นความร่วมมือในการนำนวัตกรรมต่างๆ ที่มี มาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคและร้านอาหารให้มากที่สุด โดยสินค้าตัวต่อไปเช่นหมูชาชู ขาหมูเยอรมัน ขาหมูพะโล้ หมูหัน ลูกชิ้นหมู ฯลฯ

ในระยะแรกของการทำตลาดกุนเชียงกล่องทิพย์ จะเน้นการเจาะกลุ่มตลาดร้านอาหาร รวมถึงการเจาะตรงถึงผู้บริโภค ทั้งการขายปลีกและขายผ่านเอเย่นต์ ซึ่งหากสนใจเป็นเอเย่นต์ของกุนเชียงกล่องทิพย์หรือหากร้านอาหารที่สนใจสั่งกุนเชียงเป็นจำนวนมาก หรือแม้แต่สนใจสั่งแบบขายปลีก ก็สามารถติดต่อมาได้ที่เบอร์ 091-119-8875

ก่อนหน้านี้ แบรนด์กล่องทิพย์สร้างสรรค์อาหารไทยและอาหารกล่อง เพื่อรองรับยุค Dilivery โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยจัดทำอาหารกล่องสำหรับงานประชุมสัมมนา รวมถึงสำนักงานต่างๆ ที่ต้องการอาหารไทยชาววังในบรรจุภัณฑ์สวยงาม อร่อย ปรุงสุกใหม่ ในระดับราคาไม่แพง

นางฐนิวรรณในฐานะนายกสมาคมภัตตาคารไทย ให้มุมมองสำหรับธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคารว่า ตั้งแต่เกิดโควิด 19 ระลอกแรกยิ่งตอกย้ำว่า งานวิจัยที่มีบริษัทชั้นนำเคยทำไว้เป็นความจริงว่าในไม่ช้าร้านอาหารจะมีขนาดหน้าร้านเล็กลง ผู้คนจะซื้อของขายของกันทางออนไลน์หรือทางอากาศ ร้านอาหารที่เป็น Fine Dining จึงจะอยู่รอด เพราะค่าแรงจะสูงขึ้น แรงงานจะหายากขึ้น ในที่สุดโควิด19 ซึ่งขณะนี้มาถึงระลอก 3 แล้ว ก็สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจอาหารยุคนี้จำหน่ายกันบนอากาศหรือทางออนไลน์มากจริงๆ และร้านอาหารต้องปรับตัวขนานใหญ่ เพื่อให้ดำเนินธุรกิจกันต่อไปได้

ก่อนหน้านี้สมาคมภัตตาคารไทยได้เคยเรียกร้องต่อรัฐบาล ให้เห็นใจผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคารในเรื่องเวลาเปิดปิดในยุคโควิด 19 เพื่อให้สามารถประคองธุรกิจฝ่าวิกฤตการณ์โควิดไปได้ ซึ่งล่าสุดก็ได้รับการตอบรับที่ให้ร้านอาหารสามารถนั่งได้ถึง 21.00 น.

สนใจสั่งแบบขายปลีก ก็สามารถติดต่อ 091-119-8875
#กุนเชียงกล่องทิพย์ #กุนเชียง

GFC (เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์) ศูนย์รวมบริการทางการแพทย์สำหรับมีบุตรยากแบบครบวงจร

GFC เผยไทยมีแนวโน้มอัตราการเจริญพันธุ์เหลือ 1.5 เทียบเคียงประเทศญี่ปุ่น
เกิดจากความพร้อมมีบุตรอายุเกิน 35 ปี ส่งผลให้เข้าสู่ภาวะมีบุตรยาก
พร้อมเปิดตัว Eeva เทคโนโลยีเลือกตัวอ่อนที่แม่นยำมาใช้เป็นแห่งแรกในประเทศไทย GFC (เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์) ศูนย์รวมบริการทางการแพทย์สำหรับมีบุตรยากแบบครบวงจร ระบุอัตราการเจริญพันธุ์รวมของประเทศไทยลดลงเหลือเพียง 1.5 เทียบเคียงกับประเทศญี่ปุ่น

เนื่องจากกลุ่มคนวัยทำงานตัดสินใจมีลูกในช่วงอายุ 35 ปีขึ้นไป ส่งผลให้อยู่ในภาวะมีบุตรยาก จึงต้องอาศัยเทคโนโลยีทางการแพทย์เข้าช่วยพร้อมเปิดตัว Eeva เทคโนโลยีเลือกตัวอ่อนใหม่ล่าสุดซึ่งนำมาใช้เป็นแห่งแรกในประเทศไทย ที่มีประสิทธิภาพแม่นยำ สามารถเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์ได้สูงถึง 70 %เมื่อเทียบค่ามาตรฐานทั่วไป

นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (GFC)

นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (GFC) ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเปิดเผยว่า จากผลการสำรวจและสถานการณ์ของประชากรในปัจจุบันประเทศไทยเป็น 1ใน23 ประเทศที่มีงานวิจัยระบุว่า ในอีก 80 ปีข้างหน้า จำนวนประชากรจะลดลงจาก 71 ล้านคน เหลือเพียง35 ล้านคน ซึ่งสาเหตุเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ค่านิยมการอยู่เป็นโสด ผู้หญิงมีความสามารถและการศึกษาสูงขึ้น ต้องการทำงานสร้างฐานะเป็นอันดับแรก ชะลอเรื่องการแต่งงานมีครอบครัวประกอบกับข้อมูลจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุขพบว่าสถิติทางสาธารณสุขของอัตราการเจริญพันธุ์รวม (Total Fertility Rate – TFR) ของประเทศไทยลดลงเหลือเพียง 1.5 ซึ่งเป็นอัตราเทียบเคียงกับประเทศญี่ปุ่น และมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ส่งผลให้ในอนาคตประเทศไทยจะประสบกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานและก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างเต็มตัวจากการที่กลุ่มคนวัยทำงานตัดสินใจมีบุตรในช่วงอายุที่มากขึ้น ประกอบกับความเครียดจากการทำงาน ทำให้คู่สมรสหลายคู่ต้องหันมาพึ่งพาเทคโนโลยีทางการแพทย์จากปัจจัยดังกล่าว GFC ในฐานะที่ปรึกษาและศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากที่เปิดดำเนินการเข้าสู่ปีที่ 5มองว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจและแสดงถึงศักยภาพทางการแพทย์ของไทยโดยพบว่าในปี 2562 การให้บริการเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ สามารถสร้างรายได้ให้ประเทศราว4,500 ล้านบาท

“ปัจจุบันความก้าวหน้าของวิทยาการทางการแพทย์มีการพัฒนามากขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทช่วยด้านการเจริญพันธุ์นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีศักยภาพที่ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ใช้บริการทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ซึ่งกลุ่มลูกค้าของ GFC เป็นคนไทยประมาณ90% ส่วนอีก10% เป็นกลุ่มที่สามีหรือภรรยาเป็นคนไทยกับคนต่างชาติ”

นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกียรติ กรรมการบริหาร/ กรรมการด้านการเงินและพัฒนาธุรกิจ

ด้าน รศ.นพ.พิทักษ์ เลาห์เกริกเกียรติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากศริริราชและประธานกรรมการบริหาร เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ (GFC) กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาการมีบุตรยากของคนไทยเพิ่มมากขึ้นทุกปีเนื่องจากรอความพร้อมด้านการเงิน หน้าที่การงาน ส่งผลให้แต่งงานช้าลง โดยความต้องการมีบุตรอายุเฉลี่ยอยู่ที่35 – 40 ปีซึ่ง85% ของคู่สมรสจะสามารถมีบุตรได้ภายใน 1 ปี หลังการแต่งงานและ 95% ของคู่สมรสจะมีบุตรได้ภายใน 2 ปี หากเกินช่วงเวลาดังกล่าวจะถูกจัดในภาวะมีบุตรยากซึ่งการมีบุตรตอนอายุมากโดยเฉพาะผู้หญิงที่อายุ 35ปี ขึ้นไปความสมบูรณ์ของไข่จะมีน้อยและคุณภาพไข่ไม่ดี ส่วนผู้หญิงที่อายุเกิน 48ปี
ไม่ควรท้องด้วยวิธีธรรมชาติ

เนื่องจากเป็นช่วงที่สุขภาพและความพร้อมของร่างกายไม่สมบูรณ์เต็มที่เหมือนช่วงวัยหนุ่มสาวส่งผลให้เด็กที่เกิดมีโอกาสเป็นดาวน์ซินโดรมได้ดังนั้นการนำเทคโนโลยีทางการแพทย์เข้ามาช่วยจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะวิธีทำเด็กหลอดแก้วและNGS เพื่อตรวจความสมบูรณ์ของโครโมโซม

รศ.นพ.พิทักษ์ เลาห์เกริกเกียรติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากศริริราชและ
ประธานกรรมการบริหาร เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ (GFC)

พญ. ปรวัน ตั้งธรรมแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ของ Genesis Fertility Center และผู้ก่อตั้งเพจ มีลูกยาก ปรึกษา หมอมิ้งค์
กล่าวเสริมว่า GFC มีเทคโนโลยีชื่อ Eeva ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเลือกตัวอ่อนใหม่ล่าสุด ที่ GFC Clinic นำมาใช้แห่งแรกในประเทศไทย โดยมีใช้ในต่างประเทศมาประมาณ 5 ปี ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าว สามารถเลือกตัวอ่อนได้มีประสิทธิภาพและแม่นยำ เนื่องจากมีการนำระบบ AI มาใช้ในการตรวจจับการเติบโตของตัวอ่อน ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อคัดเลือกตัวอ่อนที่ดีที่สุดในการนำมาฝังตัว ซึ่งเมื่อทำเด็กหลอดแก้วร่วมกับการตรวจ NGS จะสามารถเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์สูงถึง73%เมื่อเทียบกับมาตรฐานที่อื่นซึ่งมีอัตราตั้งครรภ์อยู่ที่ประมาณ30-50% สำหรับจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือการเป็นตู้เลี้ยงตัวอ่อนแยกของแต่ละเคส โดยตู้เลี้ยง 1ตู้สำหรับ1 คนไข้ ไม่ใส่รวมปะปนกัน เพื่อลดการรบกวน พร้อมควบคุมอุณหภูมิและความชื้นให้เหมาะสม เพราะเราให้ความสำคัญกับความสำเร็จของคนไข้เป็นอันดับแรก พญ.ปรวัน ตั้งธรรม -กล่าว

พญ.ปรวัน ตั้งธรรมแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ของ Genesis Fertility Center
และผู้ก่อตั้งเพจ มีลูกยาก

พร้อมกันนี้ ยังได้สร้างช่องทางในการให้คำปรึกษาสำหรับผู้ที่สนใจ โดยได้ทำ
การไลฟ์สดผ่านทางเพจเฟซบุ้กทุกๆ 2 สัปดาห์ เน้นเนื้อหาเหมือนคุณหมอมา
จัดรายการวิทยุให้ฟัง เพื่อให้คนที่มีปัญหาหรือต้องการ สอบถามข้อมูล ได้เข้ามาถาม-ตอบกันแบบสดๆ ซึ่งทั้งหมดเป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจ

ทั้งนี้ผู้ที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.genesisfertilitycenter.co.th
หรือที่เฟซบุ้ก www.facebook.com/GFC.Bangkok/

เปิดแนวคิด นโยบายเรือนจำท่องเที่ยว

อายุตม์ สินธพพันธุ์
อธิบดีกรมราชทัณฑ์

จากนโยบาย ของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในการพัฒนาพื้นที่เรือนจำทัณฑสถานให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ส่งเสริมและสร้างโอกาสให้ผู้ต้องขังได้ฝึกทักษะด้านต่างๆ สามารถต่อยอดเป็นอาชีพหลังพ้นโทษได้อย่างยั่งยืน จนปรากฏผลเป็นรูปธรรม และเมื่อปลายปีที่ผ่านมาได้มีการเปิดโครงการเรือนจำท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด “Cook & Coff @ราชบุรี ท่องเที่ยวเกษตรวิถี…คืนคนดีสู่สังคม”
ล่าสุด อธิบดีกรมราชทัณฑ์ สานต่อนโยบาย รมว.ยุติธรรม ในการนำพื้นที่บริเวณโดยรอบเรือนจำเพื่อใช้ประโยชน์ ทั้งเพื่อสร้างความหวังและประกายแห่งความเชื่อมั่นที่ดีของสังคมในการหยิบยื่นโอกาสให้ผู้ต้องขังให้กลับตัว แก้ไขสิ่งผิด มีรายได้เลี้ยงตนเอง และยังเพื่อทำให้พื้นที่เรือนจำก่อให้เกิดประโยชน์ รวมถึงเตรียมนำเรือนจำท่องเที่ยวมาจัดนิทรรศการในงาน นิทรรศการกรมราชทัณฑ์ ที่เรือนจำกลางคลองเปรมในเดือนพฤษภาคมนี้อีกด้วย

ทำพื้นที่ให้เกิดประโยชน์
โดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการฝึกอบรม ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ พัฒนาพื้นที่เรือนจำ-ทัณฑสถานเปิดทุกจังหวัดเป็นแหล่งท่องเที่ยว เชื่อเป็นประโยชน์ผู้ต้องขังได้ฝึกอาชีพ จากจำนวนเรือนจำทั่วประเทศ 143 แห่ง ปัจจุบัน ได้เริ่มมีการนำร่องใช้พื้นที่เรือนจำชั่วคราวและด้านหน้าเรือนจำที่มีพื้นที่ เพื่อใช้ประโยชน์ที่ดินในการนำร่องปรับเป็นเรือนจำท่องเที่ยว นำร่อง 5 แห่งในปี 2563 และ ในปี 2564 เตรียมดำเนินการเพิ่มเติม 24 แห่ง
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงที่มาของเรือนจำท่องเที่ยวว่า เรือนจำท่องเที่ยวเกิดจากนโยบายของ พณ.รมว.ยุติธรรม สมศักดิ์ เทพสุทิน ปัจจุบันเรือนจำทั่วประเทศมีจำนวน 143 แห่ง เรือนจำท่องเที่ยวเราใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณเรือนจำชั่วคราวและหน้าเรือนจำที่มีด้านหน้า ด้านข้าง เพื่อปรับเป็นแหล่งท่องเที่ยว คำว่าเรือนจำท่องเที่ยว ไม่ใช่หมายถึงท่องเที่ยวในเรือนจำ แต่หมายถึงพื้นที่ด้านหน้าเรือนจำ เหมือนคำโบราณที่เรียกว่า หับเผย หับแปลว่าปิด เผยแปลว่าเปิดออก เหมือนประตูคุก ที่ท่องเที่ยวบางที่อยู่ที่หน้าเรือนจำชั่วคราว บางที่อยู่หน้าเรือนจำ ส่วนเรือนจำที่ทำแล้ว ได้แก่ เรือนจำชั่วคราวดอยคาจังหวัดเชียงราย เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้งจังหวัดเพชรบุรี เรือนจำชั่วคราวเขาระกำจังหวัดตาก เรือนจำชั่วคราวเขาไม้แก้วจังหวัดระยอง และที่เรือนจำชั่วคราวสวรรคโลก หลักการคือ เราทำพื้นที่ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ มีการฝึกเรื่องทำอาหาร ทำกาแฟให้กับผู้ต้องขัง ก็นำมาด้านหน้าให้มีร้านกาแฟของเรือนจำแต่ละแห่ง Cook &Coffในพื้นที่นั้นอาจจะมีการประกอบอาหาร ขายกาแฟ และพื้นที่ที่ทำเกษตรพอเพียง โครงการพระราชทาน โคก หนอง นา น้ำใจแห่งความหวังด้วย รองรับธุรกิจการบริการและท่องเที่ยวในอนาคต เพื่อเป็นแหล่งศึกษาโครงการพระราชทานเกษตรทฤษฎีใหม่”

สร้างอาชีพ สร้างรายได้
ในแต่ละพื้นที่ของเรือนจำท่องเที่ยว จะถูกปรับแปลงโฉมให้เหมาะสมตามโลเคชั่น และเพื่อให้เป็นที่สนใจและน่าเข้ามาท่องเที่ยวของประชาชน
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวต่อว่า “โดยในปี 2563 ได้มีการดำเนินการนำร่องมาแล้ว 5 แห่ง และปี 2564 จะมีเพิ่มเติม 24 แห่ง ซึ่งตอนนี้ รมว. ยุติธรรม เปิดไว้ 2 แห่ง ต้องเรียนว่ามีเรือนจำอีกหลายแห่งที่ทำล่วงหน้าไปแล้ว อย่างที่สวรรคโลก ซึ่งกิจกรรมเรือนจำท่องเที่ยวมีหลายกิจกรรมขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่อย่าง
ทัณฑสถานเปิดห้วยโป่ง มีกิจกรรมอาชาบำบัด โดยการนำม้ามาให้ประชาชนขี่ในช่วงเวลาว่าง หรือการบำบัดเด็กพิเศษ โดยมีผู้ต้องขังเป็นผู้จูงม้าโดยแต่ละแห่ง
จะมีการประกอบอาหาร การทำร้านกาแฟ ร้านค้าผลิตภัณฑ์งานฝีมือของผู้ต้องขังจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งการฝึกการประกอบอาหารถือเป็นอาชีพหนึ่งที่สร้างรายได้ให้กับผู้ต้องขัง” เพื่อสร้างทักษะความชำนาญในสถานที่ปฏิบัติงานจริง และยังมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของผู้ต้องขังให้กับผู้ที่มาเยี่ยมถือเป็นการสร้างรายได้จากการฝึกวิชาชีพให้แก่ผู้ต้องขังภารกิจการคืนคนดีสู่สังคม เป็นสิ่งที่ต้องทำให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการสร้างโอกาสการยอมรับจากสังคมภายนอก

ยกเรือนจำท่องเที่ยวร่วมโชว์
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวต่อว่า การสร้างความประทับใจให้กับประชาชนที่มาท่องเที่ยว location แต่ละแห่งไม่เหมือนกัน บางแห่งมีบึงน้ำกว้าง เช่น เรือนจำชั่วคราวเขาระกำ ก็จะมีกิจกรรมกีฬาทางน้ำ มีพายเรือคายัค มีการขายสเต็ก ด้านเปิดทัณฑสถานห้วยโป่งมีการจำหน่ายผัดไท แต่ละแห่งมีความแตกต่างไม่เหมือนกันซึ่งในประมาณปลายเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนมิถุนายน จะมีงานนิทรรศการกรมราชทัณฑ์ ซึ่งจำหน่ายสินค้าหลายอย่างส่วนใหญ่เป็นเฟอร์นิเจอร์จากการฝึกอาชีพของผู้ต้องขัง ปกติจะจัดขึ้นทุกปีอยู่แล้ว แต่เรื่องเรือนจำท่องเที่ยว ปีนี้จะเป็นปีแรกที่มีการนำมาจัดนิทรรศการร่วมด้วย

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมายหลายโซน อาทิ การแข่งขันการทำอาหารโดยทัณฑสถานหญิงแต่ละแห่งแข่งขันการทำผัดไท ทำไข่พะโล้ ส่วนทัณฑสถานชาย จะมีการแข่งทำราดหน้า หมูปิ้ง ผัดซีอิ๊วเป็นต้น และที่สำคัญมีการแสดงผลผลิตจากโครงการพระราชทาน เศรษฐกิจพอเพียง โคก หนอง นา น้ำใจแห่งความหวัง “และที่แตกต่าง คือ โซนจำหน่ายสินค้าเฟอร์นิเจอร์กรมราชทัณฑ์ที่แตกต่างกัน เช่น ไม้ชิงชัง ไม้ประดู่ ไม้พะยูง รวมถึงงานดีไซน์ใหม่ๆ
ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ได้ทำ MOU กับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมมาออกแบบเฟอร์นิเจอร์ให้ ซึ่งจะทำให้รูปแบบงานดีไซน์ดีขึ้นจากในอดีตในส่วนภาคใต้
เช่น นราธิวาส ยะลา ปัตตานี การเดินทางค่อนข้างไกล จึงไม่ค่อยได้นำสินค้า
ขึ้นมาร่วมจำหน่ายในงาน ส่วนใหญ่จะจัดนิทรรศการในพื้นที่ภาคใต้แต่ปีนี้
จะนำขึ้นมาจัดแสดง และจำหน่ายด้วยที่บริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม”

Rayong Marriott Resort & Spa Rayong

โรงแรมหรู ธรรมชาติงดงามในราคาเบาๆ Rayong Marriott Resort & Spa Rayong ห้องพักวิวสวย ติดทะเล ติดชายหาด บรรยากาศดีเลิศ Rayong Marriott Resort & Spa ให้มันเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจการออกเที่ยวหลังสถานการณ์ปกติ

ต้อนรับการกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งของ Rayong Marriott Resort & Spa ให้มันเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจการออกเที่ยวหลังสถานการณ์ปกติ Lobby แบบเปิดโล่ง รับลมทะเลกันเต็มที่ มีโซฟาเก้าอี้ให้นอนเล่น ช่วงนี้ Social Distancing พนักงานก็จะเน้นเรื่องความปลอดภัย ใส่ Mask ทุกคน มีเครื่องวัดอุณหภูมิ มีการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อในการทำความสะอาดที่พักและผู้เข้าพัก

วาเลนไทน์ที่ผ่านมา toptotravel ได้ไปเยือนจังหวัดระยอง ครั้งนี้อยากจะพาทุกคนไปรู้จักรีสอร์ตแห่งนี้ และค่อนข้างมั่นใจว่าคุณจะตกหลุมรักที่นี่แบบ toptotravel ที่อยากให้ทุกท่านได้ชม

โรงแรมระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์สปา รีสอร์ตในฝันที่วัดไม่ได้ด้วยระดับดาวสำหรับการพักผ่อนที่นี่ยังถือเป็น Rare experience ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้แวะเวียนมา ณ รีสอร์ตแห่งนี้ มากกว่า1ครั้ง โดยความน่าสนใจอยู่ตรงที่ มองไป…เป็นทะเลที่สวย และมีความอุดมสมบูรณ์ของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล หมู่เกาะ สัมผัสทะเลอันแสนสงบและสายลมสบายๆ พร้อมชมพระอาทิตย์

อะไรคือความพิเศษของ ที่แตกต่างจากรีสอร์ตอื่นในประเทศไทย?
Rayong Marriott Resort & Spa Rayong โรงแรมหรู 5 ดาว ติดหาดแหลม
แม่พิมพ์ ที่นี่นอกจากจะเป็นโรงแรมแล้ว ยังถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกด้วย เพราะในบริเวณโรงแรม ห้องพักกว้างขวาง เริ่มต้นที่ไซส์ 40 ตรม. มีอ่างจากุชชี่ให้นอนแช่น้ำทุกห้อง มีระเบียงส่วนตัว ห้องน้ำมีแยกโซนเปียกแห้ง กระจกเป็นทรงกลม Amenities และผลิตภัณฑ์ชื่อดังจาก Thann มีจากุชชี่ ส่วนห้องน้ำแยกห้องอาบน้ำและห้องชักโครก และพื้นที่อำนวยความสะดวกกว้างขวาง

ห้องสวีทโอเชียน มีเพียง1ห้อง ขนาด 130 ตร.ม.

ROOM TO ENTERTAIN
ระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา พื้นที่กว้างมีสระว่ายน้ำ 2 สระ ห้องอาหาร 5 ห้อง สปา ฟิตเนส และคิดส์คลับ Rayong Marriott ห้องพักมีทั้งหมด 205 ห้อง ทุกห้องมีระเบียงชมวิว แบ่งเป็นห้อง 6 แบบ
1.ห้องดีลักซ์เมาน์เทนวิว มีระเบียงชมวิวภูเขา ขนาดห้อง 40 ตร.ม.
มีทั้งหมด 63 ห้อง
2.ห้องดีลักซ์โอเชียนวิว ห้องนี้เห็นวิวทะเล มี112 ห้อง ขนาด 40 ตรม.
3.ห้องพรีเมียร์โอเชี่ยนวิว มี12 ห้อง ขนาด67 ตรม.
4.ห้องสวีทสตูดิโอคอร์เนอร์ มี 8 ห้อง ขนาด 70 ตร.ม.
5.ห้องสวีทเตียงเดี่ยวโอเชียน มี 9 ห้อง ขนาด 80 ตร.ม.
6.ห้องสวีทโอเชียน มีเพียง1ห้อง ขนาด 130 ตร.ม. แยกเป็นห้องนอน และ
ห้องนั่งเล่น พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว

ห้องสวีทโอเชียน เป็นห้องท็อปที่สุด มีเพียง 1 ห้องเท่านั้น โดยแยกเป็นห้องนอน และห้องนั่งเล่น โซนนั่งทำงาน พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว ห้อง Ocean Pool Suite, Suite, 1 King, Ocean view, Private pool เรียกว่าใหญ่โตอลังการ มีห้องรับแขกแยก มีห้องนอนแยกออกมา พื้นที่กว้างถึง130 ตรม. อาจจะเอาไว้ใช้แต่งงาน ห้องเจ้าบ่าวเจ้าสาว หรือกิจกรรมสังสรรค์ ระเบียงห้องมองเห็นความงดงามและความเงียบสงบของท้องทะเล ที่นี่มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างมาก
สิ่งอำนวยความสะดวกถือว่าดีมาก การตกแต่งภายในจะออกเรียบ ไม่ได้หวือหวาอะไร แต่ก็ใช้งานจริงได้ดีและสะดวกสบาย โดย พื้นที่บริเวณสระว่ายน้ำ อ่างอาบน้ำ ไปจนถึงห้องน้ำนั้น กว้างกว่าพื้นที่ในห้องนอนเสียอีก

มาที่ โรงแรมมีสระว่ายน้ำ 2 แบบพร้อม Beach Bar มีทั้งแบบ Infinity Pool เป็นสระแบบ Lagoon มีสไลเดอร์ สระว่ายน้ำจะเป็น Infinity Pool ไปกับวิวทะเล ยิ่งตอนพระอาทิตย์ตกสวยมาก หรืออยากว่ายแบบเป็นส่วนตัวที่ Island View Pool

ห้องอาหาร
Rayong Marriott Resort & Spa มีห้องอาหาร 5 ห้อง คือ C-Salt Cafe ‘ Java + Fish Bar The lounge และ Pool Bar

Salt Cafe ‘
ห้องอาหารขนาดกว้างขาง โอ่โถงโปร่งสบาย อยู่ใกล้กับล็อบบี้ ดีไซน์สวย ห้องสว่าง มองเห็นทะเล มีทั้งด้านในติดแอร์ และโซนด้านนอกชมวิว

ทั้งหมดมันคือความสุดยอดที่ผสมกันอย่างลงตัวของตัวรีสอร์ต แนวคิด และ สถานที่ตั้ง ทุกๆ ประสบการณ์ที่จะเกิดขึ้นถูกสร้างออกมาอย่างพิเศษ ให้กับผู้พักโดย วัฒนธรรมสถาปัตยกรรมอันสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ และเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของทำเลบนหาดทรายระยอง พร้อมด้วยธรรมชาติสีเขียวชอุ่ม กับความมหัศจรรย์ของน้ำทะเลสีใส เม็ดทรายละเอียด ที่สะท้อนแสงอาทิตย์ซึ่งส่องเปลี่ยนน้ำทะเลเป็นสีฟ้าสดใส รายล้อมด้วยทราย ทั้งหมดนี้ทำให้การมาพักที่ โรงแรมระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์สปา ให้ไปนอนแช่น้ำในอ่างส่วนตัว ชมวิวทะเลสวย ๆ บรรยากาศสบาย ๆ เหมือนสรวงสวรรค์ กลายเป็นประสบการณ์หายาก และควรค่าแก่การมาเยือนสักครั้งในชีวิต

ตอนแรก toptotravel ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ กับคำว่า “สัมผัสบริการระดับโลก” ที่โรงแรมระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์สปา กล่าวไว้ แต่สุดท้ายมันอธิบายด้วยตัวเองจากความครบในทุกแง่มุมของรีสอร์ต ตามมา toptotravel จะพาไป ห้องC-Salt Cafe ‘ อาหารหลัก แบบ All Day Dining เช้า สาย บ่าย เย็น มีทั้งโซน indoor และ outdoor ในห้องพัก ห้องนั่งเล่น ห้องเก็บไวน์ ฟิตเนสขนาดย่อม สระว่ายน้ำ สระว่ายน้ำใหญ่โต มีสไลเดอร์ Kid’s Club และชายหาดที่เป็นของตัวเอง ประทับใจกับทุกมื้อ ในทุกห้องอาหาร ดื่มอะไรเย็นๆ บนกระเช้าพร้อมกับชมวิวทะเลระยอง และเพลิดเพลินกับชายหาดส่วนตัวของรีสอร์ต สปา ,โยคะ ,ว่ายน้ำ ,พายเรือ และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

เรียกว่าถ้ากลางวันไม่อยากลงไปเจอแดดที่ร้อนเปรี้ยงๆ จะมาว่ายน้ำเล่นรอแดดร่ม Island View Pool มีมุมถ่ายรูปเยอะมากจ้า ไม่ว่าจะชิงช้าที่ต้นไม้หรือแนวโขดหินต่างๆ หรือโทรจองนวดตัวสบายๆ ที่ Quan Spa มีห้องทรีทเมนท์ 8 ห้อง รวมถึงห้องสำหรับคู่รัก บริการต่างๆ ได้แก่ การนวดแบบดีพทิชชู การนวดด้วยหินร้อน การนวดสวีดิช และการนวดไทย สปาแห่งนี้มีซาวน่า อ่างสปา และห้องอบไอน้ำ
สปามีบริการบำบัดที่หลากหลายอาทิเช่น อโรมาเธอราพี และจบด้วยการแช่น้ำอุ่นๆ สูตรเฉพาะของ โรงแรมระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์สปา ก่อนจะกลับมากรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

โรงแรมระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์สปา ฝ่ามรสุม COVID-19
เปิดขายแล้ว…ข้าวมันไก่ 5 ดาว สูตรพิเศษที่มีตำนานกว่า 50 ปี และข้าวหน้าหมูทงคัตสึ สูตรพิเศษจากโรงแรม Rayong Marriott Resort & Spa ขายทุกวันจนถึง 4 โมงเย็น ใครยังไม่ทราบว่ากลางวันนี้ทานอะไร? ลองข้าวมันไก่ศุตรพิเศษของโรงแรม บอกเลยจานเดียวไม่พอ
ขายทุกวันตั้งแต่เวลา 06.30 – 16.00 น.
วันนี่ – เป็นต้นไป
สั่งได้เลยที่ 038 998 000 สั่งครบ 500 บาท ส่งฟรี
(ในระยะ 10 กิโลเมตร จากโรงแรม)

สามารถจองเข้าพักได้ตั้งแต่วันนี้
Rayong Marriott Resort and Spa (ระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา)
99/5 Moo 2 Pae-Klaeng-Kram Road ตำบล ชากพง อำเภอแกลง ระยอง 21190
โทรศัพท์ : 038-998-000
rayongreservation@marriott.com
www.rayongmarriottresort.com
www.facebook.com/MarriottRayong/posts/3937293463018481

#ระยองจองเลย #ระยองปลอดภัย #ระยองเมืองรองไม่เป็นสองรองใคร
#แมริออทรีสอร์ทอนด์สปา #toptotravel

บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง

รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เดินหน้าสู่การดำเนินงานปีที่ 10 อย่างยิ่งใหญ่ จัดกิจกรรมสุดพิเศษ! ทั้งกิจกรรมการตลาดออนไลน์ และออฟไลน์ รวมทั้งกิจกรรมเพื่อสังคม ส่งมอบความสุขให้แก่ผู้โดยสาร และประชาชน

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด
เปิดเผยว่าในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ที่จะถึงนี้บริษัทจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 ในการดำเนินงานแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้มุ่งมั่นดำเนินงานเพื่อเป็นผู้นำในการให้บริการเดินรถไฟฟ้าที่มีมาตรฐานในระดับสากลตามวิสัยทัศน์ของบริษัท โดยได้นำระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001 : 2015 ที่บริษัทผ่านการรับรองเข้ามาใช้ทั้งในด้านการเดินรถ และซ่อมบำรุง จนทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามมาตรฐาน ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสาร และรายได้มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดให้บริการ ซึ่งปัจจุบันมีผู้โดยสารรวมมากกว่า 190 ล้านคน และรายได้รวมกว่า 6,000 ล้านบาท รวมทั้งในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บริษัทได้ดำเนินการมาตรการต่างๆตามนโยบายของกรมการขนส่งทางราง และกระทรวงคมนาคม จนสามารถสร้างความมั่นใจในการใช้บริการให้แก่ผู้โดยสารได้เป็นอย่างมาก

ดังนั้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จ และการก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 ในการดำเนินงาน บริษัทจึงได้จัดกิจกรรมสุดพิเศษ! ทั้งกิจกรรมการตลาดออนไลน์ ออฟไลน์ รวมทั้งกิจกรรมเพื่อสังคม ( CSR ) ส่งมอบความสุขให้แก่ผู้โดยสาร และประชาชน โดยเริ่มจากการเปิดตัวกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ทีมที่ประกอบด้วยเหล่าคนดังทั้งพระเอกช่อง 3เด่นคุณ งามเนตร, มิสไทยแลนด์เวิล์ด 2019-2020 เกรซ นรินทร , นักแสดงช่อง 7 ซูกัส บัณฑวิช และอาธ กษิดิ์ธัช มณีพันธุ์ ทายาทผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย มาร่วมประชาสัมพันธ์การให้บริการและกิจกรรมการตลาดตลอดทั้งปี และเพื่อเป็นของขวัญชิ้นพิเศษ บริษัทได้ผลิต Video Viral ครบรอบ 10 ปีของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 และเปิดโอกาสให้ผู้โดยสารได้ร่วมสนุกตั้งชื่อ Video Viral เฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ผ่านทางเฟสบุ๊ค Airport Rail Link ( Official Page ) ลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษ พร้อมกันนี้ในวันเดียวกันยังมีกิจกรรมการตลาดแบบออฟไลน์แจกผ้าเช็ดทำความสะอาด (Refreshing Wipe) จำนวน 10,000 ชิ้น มูลค่าชิ้นละ 65 บาท ฟรี ให้แก่ผู้โดยสารทุกคนที่ แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ สถานีพญาไท และสถานีมักกะสัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป

นอกจากนั้นเพื่อความเป็นสิริมงคล บริษัทได้จัดงานทำบุญเลี้ยงพระเนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ณ แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ สถานีมักกะสัน และได้เชิญชวนหน่วยงานภายนอกใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม รวมทั้งหน่วยงานพันธมิตร ร่วมบริจาคสมทบทุนเพื่อประโยชน์สาธารณกุศลกับมูลนิธิสายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ได้มีแผนการจัดกิจกรรมการตลาดแบบออฟไลน์เอาใจผู้โดยสารตามแต่ละสถานี โดยเตรียมส่งคาราวานดารา นายแบบ เน็ตไอดอล คนดัง 10 คน ออกแจกเจลแอลกอฮอล์ ฟรี ที่สถานีรถไฟฟ้าทุกสถานี ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมสุขอนามัยให้แก่ผู้โดยสาร และลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้ข้อกำหนดตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ของกระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางรางอย่างเข้มงวด เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสุข และปลอดภัยในการใช้บริการ

ด้านกิจกรรมเพื่อสังคม ( CSR ) ซึ่งเป็นนโยบายที่บริษัทให้ความสำคัญมาโดยตลอด ด้วยการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ ทั้งในพื้นที่ชุมชน และโรงเรียนใกล้เคียงพื้นที่รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ รวมถึงพื้นที่ห่างไกลในต่างจังหวัด เช่นล่าสุดเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา “Lost & Found สานฝันเพื่อน้อง ปี 2” มอบวัสดุอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา เครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมปรับปรุงอาคารเรียนอเนกประสงค์ ให้แก่โรงเรียนบ้านหัวแม่โถ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 10 นี้ บริษัทได้จัดกิจกรรมเพื่อสังคมอีกครั้ง โดยเป็นกิจกรรมเพื่อสังคมแบบทุกมิติ ทั้งการมอบเครื่องอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นให้แก่กรมราชทัณฑ์ , มอบข้าวสาร และอาหารแห้งให้แก่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 , มอบรถวีลแชร์ให้แก่โรงพยาบาลสงฆ์ และมอบทุนการศึกษาให้แก่มูลนิธิสงเคราะห์ชาวไทย เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งทุกโครงการจะแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้

ทั้งนี้ บริษัทยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ที่จะมุ่งมั่นเพื่อเป็นผู้นำในการให้บริการเดินรถไฟฟ้าที่มีมาตรฐานในระดับสากลเพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวก
และปลอดภัยในการใช้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ต่อไป

หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข Call Center 1690 หรือ https://www.srtet.co.th/index.php/th/
www.facebook.com/AirportRailLink และ Twitter : Airport Rail Link

รพ.ยันฮี ประกาศความพร้อมก้าวเข้าสู่ตลาดออนไลน์ พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 13:45 น. โรงพยาบาลยันฮี จัดงานแถลงข่าวประกาศความพร้อมเพื่อก้าวสู่ตลาดออนไลน์ พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารเสริมตัวใหม่ล่าสุด เพื่อนำร่องสู่ตลาดออนไลน์ โดยมีนพ.สรรพสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการบริษัท ยาอินไทย จำกัด เป็นประธาน ร่วมด้วย นางสาวปิยลักษณ์ อุดมชาติ กรรมการบริษัท เอฟโวชั่นสกิน จำกัด นพ.วัสสะ วัชรากร หัวหน้าศูนย์แพทย์ทางเลือกและเวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลยันฮี และแขกผู้มีเกียรติที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน ณ ห้องรับรองแผนกแพทย์ทางเลือก และเวชศาสตร์ชะลอวัย ชั้น 7 โรงพยาบาลยันฮี กรุงเทพฯ

นพ.สรรพสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการบริษัท ยาอินไทย จำกัด กล่าวว่า บริษัท ยาอินไทย จำกัด บริษัท ในเครือ รพ.ยันฮีเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง และยาสมุนไพร ให้แก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศมายาวนานโดยโรงพยาบาลยันฮีถือเป็นโรงพยาบาลชั้นนำที่มีชื่อเสียงของเมืองไทยมายาวนานกว่า 34ปี ได้มองเห็นโอกาสต่อยอดความคิดที่ว่าเราสามารถย่อโลกทั้งใบ ให้ใกล้กันได้เพียงปลายนิ้ว โดยมีเป้าหมายคืออยากเห็นคนไทยได้มีสุขภาพดี ด้วยวิธีที่ถูกต้อง ผ่านคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด สะดวก และรวดเร็ว ซึ่งเรามั่นใจว่านี่จะเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ยันฮีเป็น Online Health Hospital and Digital Marketing Product ชั้นนำของเมืองไทย

การจัดงานครั้งนี้ ถือเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญของ 2 ผู้นำ ที่มีความสามารถคนละศาสตร์ แต่มีเป้าหมายเดียวกัน ยันฮี ได้จับมือ บริษัท เอฟโวลูชั่นสกิน จำกัด ผู้มีประสบการณ์ทางด้านการจำหน่ายสินค้าออนไลน์มากว่า 10 ปี อีกหนึ่งแรงสำคัญในการผลักดันผลิตภัณฑ์ของโรงพยาบาลยันฮี ให้ก้าวเข้าสู่ Platform Online Marketing อย่างเต็มรูปแบบเพื่อเป็นสะพานเชื่อมให้ผู้บริโภค ได้ปรึกษากับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางได้อย่างใกล้ชิด เพื่อสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และรวดเร็ว

นางสาวปิยลักษณ์ อุดมชาติ (คุณนุ้ย) กรรมการบริษัท เอฟโวลูชั่นสกิน จำกัด

นางสาวปิยลักษณ์ อุดมชาติ (คุณนุ้ย) กรรมการบริษัท เอฟโวลูชั่นสกิน จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันทิศทางการตลาดของอาหารเสริมในเมืองไทยจะเปลี่ยนไปไม่เพียงแต่ผลลัพธ์ที่ผู้บริโภคต้องการแล้ว แต่ผู้บริโภคจะคำนึกถึงเรื่องความปลอดภัย ความมั่นใจ และผลข้างเคียงที่จะตามมามากขึ้น ซึ่งรพ.ยันฮีได้สร้างความมั่นใจ เชื่อใจ และสัมผัสได้ถึงความปลอดภัยในสินค้าและบริการของโรงพยาบาลตลอดมาด้วยการทำงานที่เป็นระบบ ตั้งแต่การระดมความคิด คิดค้นและวิจัยจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้วยมาตรฐานและจรรยาบรรณทางการแพทย์ เพื่อสรรหา ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ต่อความต้องการของผู้บริโภค ทำให้สามารถวางใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ของโรงพยาบาล เป็นคำตอบที่ดีที่สุด

ภายในงาน มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใหม่ล่าสุดของโรงพยาบาลยันฮี
“ยันฮีอัลติเมท แอล-คาร์นีทีน (YANHEE ULTIMATE L-CARNITINE)” วิตามินรีเซ็ตรูปร่างโดยนพ.วัสสะ วัชรากร หัวหน้าศูนย์แพทย์ทางเลือกและเวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลยันฮี กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม “ยันฮีอัลติเมท แอล-คาร์นีทีน” เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่อยากมีรูปร่างอย่างที่ใจต้องการ เป็นวิตามินที่ช่วยในเรื่องการปรับระบบเผาผลาญร่างกายโดยตรง ด้วยความจริงใจ และความใส่ใจของทีมแพทย์ ที่เน้นแก้ปัญหาอย่างถูกจุดให้กับผู้บริโภค โดยคำนึกถึงความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่สำคัญที่สุดของการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดี เพื่อดูแลสุขภาพของคุณ

ติดต่อสั่งสินค้าได้ที่ บริษัทเอฟโวลูชั่นสกิน จำกัด
โทร052-009599หรือ 090-3184615

ลาลามูฟ ส่งความรักมอบความสุขถึงหน้าบ้านอย่างปลอดภัย

ลาลามูฟ LALAMOVE บริการรับ–ส่งสินค้าตามความต้องการ (on-demand delivery service)ตลอด 24 ชั่วโมง อาสาเป็นตัวกลางอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งส่งความรักมอบความสุขถึงหน้าบ้านอย่างปลอดภัยปรับลดอัตราค่าบริการเริ่มต้น มอบส่วนลดค่าบริการและโปรโมชั่นพิเศษจากร้านค้าพารท์เนอร์ชื่อดังอีกมากมายต้อนรับเทศกาลแห่งความรักมุ่งลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ใช้บริการในฐานะผู้ให้บริการขนส่งมืออาชีพที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ ลาลามูฟ LALAMOVEพร้อมส่งมอบความรักในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ด้วยอัตราค่าบริการเริ่มต้นพิเศษขนส่งโดยรถมอเตอร์ไซค์ เริ่มต้นเพียง 36 บาทและไม่มีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นจากงานขนส่ง(ค่า GP) อีกทั้งธุรกิจต่างๆ สามารถไว้วางใจในความสะดวกและความปลอดภัยของสินค้าของลาลามูฟด้วยบริการกล่องโครงเหล็กกันน้ำ เก็บอุณหภูมิร้อนและเย็น สำหรับขนส่งสินค้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น ขนมเค้ก และช่อดอกไม้ สำหรับสิ่งของชิ้นใหญ่ไม่ว่าจะเป็นเซตเค้กชุดบุฟเฟต์สำหรับปาร์ตี้ หรือลูกโป่ง สามารถเรียกใช้บริการขนส่งด้วยรถยนต์ 5 ประตู เริ่มต้นเพียง 130 บาทเท่านั้น และสำหรับธุรกิจที่ต้องการขนย้ายสินค้าจำนวนมาก สามารถเรียกใช้บริการขนส่งด้วยรถกระบะตู้ทึบหรือรถกระบะโครงเหล็กสูงได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 310 บาท

นอกจากนี้ ลาลามูฟยังยกทัพรวมร้านเด็ด ดีลดัง พร้อมส่วนลดพิเศษจากร้านค้าพาร์ทเนอร์คัดสรรของขวัญพิเศษร่วมกับร้านค้าชื่อดัง อาทิThe Rolling Pinn, Balloon Bar, Homm Flower และ Flower Lab by Chanana ส่งความรักมอบความสุขถึงหน้าบ้านอย่างปลอดภัย บริการไวจัดส่งภายใน 24 ชั่วโมง

พิเศษสำหรับช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ตั้งแต่วันที่ 8 – 15 กุมภาพันธ์ 2564 ลาลามูฟ มอบส่วนลดพิเศษค่าบริการทุกประเภท รองรับบริการขนส่งของขวัญทุกรูปแบบตั้งแต่ ของขวัญ ช่อดอกไม้ ลูกโป่ง ตลอดจนของตกแต่งบ้าน โดยแบ่งเป็น ส่วนลดสำหรับรถจักรยานยนต์50 บาท ส่วนลดสำหรับรถยนต์5ประตู 100 บาท

สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น LALAMOVE ได้แล้ววันนี้ ทั้งโทรศัพท์มือถือระบบ Android และ IOS และสำหรับผู้ประกอบการที่สนใจการขนส่งเพื่อเพิ่มยอดขายทางธุรกิจ ด้วยบริการขนส่งมืออาชีพ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.lalamove.com/thailand/bangkok/th/corporate

รถไฟฟ้าสายสีแดง ตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิต 10 ปีที่รอคอย เปิดใช้แล้ว

แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จัดกิจกรรมการตลาดออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ให้ผู้โดยสาร
ได้ร่วมเฉลิมฉลอง และลุ้นรางวัลสุดพิเศษจากเทศกาลสำคัญในช่วงเดือนกุมภาพันธ์แบบ New Normal ทั้ง “ตรุษจีน” และ “วาเลนไทน์”

รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จัดกิจกรรมการตลาดออนไลน์สุดพิเศษในเดือนกุมภาพันธ์ ให้ผู้โดยสารร่วมเฉลิมฉลองความสุขกับเทศกาล “ตรุษจีน” และ “วาเลนไทน์” ลุ้นรับอั่งเปา และบัตรของขวัญมูลค่า 1,000 บาท รวม 60 รางวัล

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และวันเด็กที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินการจัดกิจกรรมการตลาดในรูปแบบออนไลน์ เพื่อส่งมอบความสุขให้แก่ผู้โดยสารด้วยของขวัญสุดพิเศษ และลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยเปิดโอกาสให้ผู้โดยสารได้ร่วมสนุกผ่านกิจกรรมทางเฟซบุ๊ก Airport Rail Link ( Official Page ) ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้โดยสารเข้าร่วมสนุกกับกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจากความสำเร็จดังกล่าวทำให้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์บริษัทจึงได้ดำเนินการจัดกิจกรรมการตลาดแบบออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบความสุขและให้ผู้โดยสารได้ร่วมลุ้นรับของรางวัลใน 2 เทศกาลสำคัญทั้ง “ตรุษจีน” และ “วาเลนไทน์”

สำหรับกิจกรรมการตลาดแบบออนไลน์ในเทศกาลวันตรุษจีน เปิดโอกาสให้ผู้โดยสารได้ร่วมสนุกเพียงทำตามกติกาง่ายๆดังนี้โพสต์ภาพกิจกรรมที่ทำวันตรุษจีนของตัวเองในรูปแบบใดก็ได้ไม่จำกัด ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายกับ
ครอบครัว หรือภาพกิจกรรมที่เกี่ยวกับเทศกาลตรุษจีน ในโพสต์กิจกรรมทางเพจเฟซบุ๊ก Airport Rail Link ( Official Page )

เขียนพรที่อยากได้ในเทศกาลตรุษจีนปีนี้ใต้ภาพ

ติดแฮชแท็ก “#AirportRailLinkมั่งมีมั่งคั่งสมหวัง” ผู้โดยสารสามารถร่วมสนุกได้ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 ระหว่างเวลา 06.00 – 20.00 น. โดยภาพ และพรที่ขอใต้ภาพที่ถูกใจคณะกรรมการจะได้รับอั่งเปา มูลค่า 1,000 บาท จำนวน 30 รางวัล

ส่วนกิจกรรมต้อนรับเทศกาลแห่งความรัก วันวาเลนไทน์ เปิดโอกาสให้ผู้โดยสารได้ร่วมสนุก เพียงทำตามกติกาง่ายๆดังนี้

  1. โพสต์รูปคู่ระหว่างตัวเองกับคนรัก ในโพสต์กิจกรรมทางเพจเฟซบุ๊ก Airport Rail Link ( Official
    Page )
  2. เขียนนิยามความรักในรูปแบบของคุณใต้ภาพ

ผู้โดยสารสามารถร่วมสนุกได้ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564 ระหว่างเวลา 06.00 – 20.00 น. โดยภาพที่ได้ยอดกดเลิฟ (หัวใจ ) สูงสุดจะได้รับบัตรของขวัญ ( Gift Card ) มูลค่า 1,000 บาท จำนวน 30 รางวัล

ทั้งนี้การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นสิ้นสุด โดยจะมีการประกาศผลผู้ได้รับรางวัลผ่านการไลฟ์สดทางเฟซบุ๊ก Airport Rail Link ( Official Page ) พร้อมกันทั้ง 2 กิจกรรมในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2564 สำหรับผู้ได้รับรางวัล บริษัทจะจัดส่งรางวัลถึงบ้านโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดการร่วมสนุกได้ทาง เฟซบุ๊ก Airport Rail Link ( Official Page )

หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่
หมายเลข Call Center 1690 หรือ www.srtet.co.th , www.facebook.com/AirportRailLink และ Twitter : Airport Rail Link