Category Archives: Lifestyle

โครงการ Artisan Ratchada ต่างจากคอนโดอื่นอย่างไร?

อาร์ติซาน ช่าง เลือก กับเทรนด์ที่อยู่อาศัยจริง ยิ่งใหญ่และงดงาม บนถนนเทียมร่วมมิตร

ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ฟังดูแล้วชวนให้ตื่นเต้น  เปิดแกลลอรี่จำลองการอยู่อาศัยจริง “Artisan Ratchada” การจะเลือกโครงการที่ถูกใจตามอัธยาศัย เรื่องการหาทำเลที่ตั้งของโครงการเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของตัวเอง ความน่าเชื่อถือของโครงการ หรือผู้พัฒนาก็มีความสำคัญ คอนโดมิเนียมใหม่ส่วนใหญ่ต้องรอสร้างเสร็จประมาณ 1-3 ปี คอนโดยิ่งสูงยิ่งแพง เพราะถูกจำกัดการสร้างตึกสูงด้วยผังเมือง ค่าก่อสร้างตึกสูงที่แพงกว่ามาก วิวของห้องก็เป็นปัจจัยสำคัญอีกข้อนึงของคนทั่วไป ระหว่างการตัดสินใจเลือกซื้อห้อง เพราะเวลาที่เราจะตัดสินใจซื้ออะไรบางอย่าง เราก็จะพยายามเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง วิวมุมสูงเห็นได้ระยะไกล ขนาด และจำนวนยูนิต ก็เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงรองมา ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ในแบบที่แตกต่างไปจากเดิมที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนปัจจุบันที่นิยมชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ แนวคิดการออกแบบ โมเดิร์น คอนเทมโพราลี่ สไตล์ ดีไซน์ในลักษณะแบบร่วมสมัย มีความเรียบง่าย ใช้ชีวิตอย่างใส่ใจสุขภาพ

ที่นี่ ณ โครงการ Artisan Ratchada คือ เริ่มต้นคุณภาพชีวิตที่เหนือกว่า
ด้วยระบบสาธารณูปโภคครบครันทันสมัย ประกอบด้วยการส่งเสริมมาตรฐานคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งในด้านความปลอดภัย สวัสดิภาพ สุขภาพ การศึกษา การป้องกันภัยพิบัติที่สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย โดย MRT สายสีน้ำเงิน สถานีห้วยขวาง แอร์พอร์ตลิงค์ และทางด่วน บริเวณโดยรอบของโครงการยังเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และสถานศึกษาชั้นนำ

สิ่งที่ทำให้ โครงการ อาร์ติซาน คอนโด รัชดาภิเษก ทำเลศูนย์กลางของธุรกิจและระบบสาธารในอนาคต รายล้อมไปด้วยโครงการอื่น ที่มีศักยภาพมากมายในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง Toptotravel เดินชมภายในโครงการที่นี่ออกแบบให้ผู้อยู่อาศัยเพลิดเพลินกับการใช้พื้นที่ส่วนกลาง ที่มีขนาดใหญ่ สิ่งอำนวยความสะดวก โดยมีแนวคิดในการพัฒนา เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้อยู่อาศัยได้รับความสะดวกสบายในพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร ผสมผสานระหว่างที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน และที่พักผ่อนได้อย่างลงตัว


เปิดตัวไปเรียบร้อยแล้ว โครงการ Artisan Ratchada โครงการ Mixed-use บนทำเล NEW CBD ย่านรัชดา-พระราม 9 พัฒนาภายใต้บริษัท บีจีวาย แอนด์ ทีเอฟดี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัทที่เกิดขึ้นจากการลงทุน ระหว่างบริษัทที่มีชื่อเสียงในระดับต้นของประเทศในอาเซียน โดยเข้าตลาดหลัก ทรัพย์ ในประเทศฮ่องกง และบริษัทชาวไทยที่มีชื่อเสียงทางด้านอสังหา
ริมทรัพย์มากกว่า 40 ปี เข้าตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ปี 2540 โดยวัตถุประสงค์ของการลงทุนครั้งนี้สร้างไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม

ทีมผู้บริหาร นายเฑียร จึงวิรุฬโชตินันท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดแห่งประเทศไทย ไรส์แลนด์ (ประเทศไทย) และนายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยตลาด ไรส์แลนด์ (ประเทศไทย)

ด้วยเหตุนี้ทำให้ ไรส์แลนด์ (ประเทศไทย) โดยทีมผู้บริหาร นายเฑียร จึงวิรุฬโชตินันท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดแห่งประเทศไทย ไรส์แลนด์ (ประเทศไทย) และนายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยตลาด ไรส์แลนด์ (ประเทศไทย) จัดงานเปิดตัวโครงการ Artisan Ratchada โครงการ Mixed-use บนทำเล NEW CBD ย่านรัชดา-พระราม 9 เพื่อจัดสรรพื้นที่ทั้งหมดให้ลงตัว โครงการ Artisan Ratchada บนพื้นที่ 8.2 ไร่ มูลค่าโครงการมากกว่า 6,000 ล้านบาท บนทำเล NEW CBD ย่านรัชดา-พระราม 9 พัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ Mixed-use อสังหาริมทรัพย์ที่ผสมผสานระหว่างห้องพักเพื่อการอยู่อาศัย และพื้นที่ Lifestyle shop และ Business center พร้อมด้วยพื้นที่ส่วนกลางกว่า 6,000 ตารางเมตร อวดโฉมแกลลอรี่จำลองการอยู่อาศัยจริง

จุดเริ่มต้นของชีวิตที่ดี การคมนาคมที่สะดวก สบาย เข้าออกได้สองทาง คือ ทั้งฝั่งของ ถนนเทียมร่วมมิตร และ ฝั่งประชาอุทิศ24 (เหม่งจ๋าย) โดยรอบโครงการเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็นแหล่ง Shopping อาทิเช่น Central rama 9, Esplanade, The Street ,ตลาด นัดรถไฟรัชดา, Fortune Town, Cyber World Tower, AIA Capital Center, G Land Tower รวมไปถึง Super tower ที่ในอนาคตจะมีการก่อสร้างขึ้นตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง



เพราะต้องการสร้างไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ในแบบที่แตกต่าง  โครงการ อาร์ติซาน คอนโด รัชดาภิเษก  จึงออกแบบเพื่อสร้างปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาก่อน โครงการ Artisan Ratchada สร้างขึ้นภายใต้ Concept แบบ Mixed-use เป็นการผสมผสานระหว่างการอยู่อาศัย และ lifestyle แบ่งเป็น community mall ขนาดพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 6,000 ตารางเมตร จํานวน 3 ชั้น ประกอบด้วย supermarket ขนาดใหญ่ ร้านนอาหาร และร้านค้าต่างๆ เรียกได้ว่าที่เดียวจบครบทุกเรื่อง ตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายเสมือนพักอาศัยอยู่ในโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว

การบริการเป็นสิ่งที่ทางผู้บริหารได้ให้ความสําคัญและใส่ใจกับผู้อาศัยมาโดยตลอด โครงการ Artisan Ratchada มาพร้อมกับการบริการตลอด 24 ชั่วโมง เสมือนพักอาศัยอยู่ในโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ด้วยประสบการณ์ทางด้านการบริการยาวนานถึง 25 ปี ทั้งนี้ยังมีระบบ รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ทําให้หมดปัญหากังวลใจ ยิ่งไปกว่านั้นเพียงผู้พักอาศัยดาวน์โหลด แอปพลิเคชั่น “phoenix system” ก็สามารถเรียกใช้บริการต่างๆภายในโครงการได้ อาทิเช่น การเรียก ซ่อมบํารุง บริการส่งอาหาร ทําความสะอาด เรียกแท็กซี่ เป็นต้น

ทั้งนี้ ยังสามารถตรวจเช็คผู้มาเยี่ยมเยือนได้ผ่านทางแอปพลิเคชั่น เช่น เมื่อมี เพื่อนหรือญาติคนสนิทมาหา ผู้อาศัยจะสามารถดูจอผ่านแอปพลิเคชั่น ได้ จากนั้นหากอนุญาตให้เข้ามา ก็กดตกลงหรือหากไม่อนุญาต สามารถกดปฏิเสธได้เช่นกัน โดยที่ลูกบ้านไม่จําเป็นต้องเสียเวลาเดินลงไปเพื่อเปิดประตู ทั้งนี้ยังสามารถป้องกันพวกมิจฉาชีพได้เป็นอย่างดี

ภายในโครงการได้นําเทคโนโลยีที่ลํ้าสมัยมาใช้ในระบบรักษาความ ปลอดภัย โดยในประเทศไทยยังไม่เคยใช้มาก่อน ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์ สไตล์ในยุคปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง โดยมีระบบความปลอดภัยและอํานวย ความสะดวกให้กับลูกบ้านได้อย่างดีเยี่ยม อาทิเช่น ระบบการสแกนป้าย ทะเบียนรถยนต์อัตโนมัติด้วยระบบจดจําอัจฉริยะ ระบบเปิดประตูล็อบบี้ ผ่านทางแอปพลิเคชั่น ระบบสแกนลายนิ้วมือเพื่อเข้าห้องพัก

ในส่วนพื้นที่บริเวณชั้น 4 ของโครงการจะมีสิ่งอํานวยความสะดวกใน ด้านต่างๆ อาทิเช่น Fitness ขนาดใหญ่ ห้องโยคะ ห้องอบไอน้ำ ห้อง เซาว์น่า สระว่ายน้ำสำหรับผู้ใหญ่ และยังมีสระว่ายน้ำสำหรับเด็กอีกด้วย นอกจากนี้ทางโครงการยังมีพื้นที่สำหรับเด็ก และสนามเด็กเล่นทั้งในร่มและกลางแจ้ง รวมไปถึงห้องสมุด มุมนั่งเล่น และ Wi-Fi บริเวณรอบโครงการ

โครงการ Artisan Ratchada ตั้งอยู่บน ถนนเทียมร่วมมิตร เขตห้วยขวางทำเลใจกลาง New CBD ขนาดพื้นที่ 8.2 ไร่ ซึ่งตัวโครงการจะมีทั้งหมด 4 อาคารๆละ 34 ชั้น จำนวน 1,337 ยูนิต โดยภายใน พื้นที่จะมี Community mall ขนาดพื้นที่มากกว่า 6,000 ตารางเมตร มีทั้งหมด 3 ชั้น ในส่วนของที่จอดรถจะมีทั้งหมด 6 ชั้นครึ่ง เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปลายปี 2560 และคาดว่า
จะแล้วเสร็จ ในปี 2563

ครั้งแรก! ในประเทศไทย พร้อมเปิดชมห้องตัวอย่าง มาตรฐานการก่อสร้างระดับโลก Showcase เทคโนโลยีการก่อสร้าง “Artisan Experience Hall”
ลงตัวในทุกฟังก์ชัน ด้วยพื้นที่ใช้สอยขนาด 28 ตารางเมตร(ตร.ม.) จนถึง 78 ตารางเมตร ณ Sale Gallery

ขอบคุณสถานที่ : โครงการ อาร์ติซาน คอนโด รัชดาภิเษก ถนนเทียมร่วมมิตร กรุงเทพฯ
http://www.artisanbangkok.com

เลสโต คอนโด สุขุมวิท 113

เลสโต คอนโด แต่งครบใกล้สถานีสำโรง

เปิดกลยุทธ์บิลท์ แลนด์ ปี 61 รุกขาย “เลสโต” คอนโดแต่งครบใกล้สถานีสำโรง มั่นใจโกยยอดขายทะลุเป้าพันล้าน สร้างความเชื่อมั่นมุ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ปี 62

Lesto Condo Sukhumvit 113 ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญที่ดึงดูดสายตาผู้พัฒนาโครงการรายต่างๆเข้ามาเก็บแลนด์แบงก์ในพื้นที่ทำเลนี้คือการใกล้เปิดบริการของรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายสถานี สำโรง – ปู่เจ้าสมิงพราย และเป็นจุดต่อรถไฟฟ้ากับสายสีเหลืองในอนาคต

บริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) เผยความสำเร็จจากการเติบโตต่อเนื่อง เปิดแถลงกลยุทธ์รุกตลาดอสังหาฯ ปี 2561 มั่นใจโกยรายได้สูงกว่า 1,000 ล้านบาท และอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมยื่นไฟล์ลิ่งนำบริษัทฯ เข้าตลาดหลักทรัพย์ช่วงไตรมาส 4 เร่งปิดการขายห้องชุดสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ แต่งครบ “เลสโต คอนโด สุขุมวิท 113” สถานีสำโรง จัดงาน OPEN HOUSE 19-20 พ.ค.นี้ พบโปรโมชั่นสุดคุ้ม ฟรีทุกค่าใช้จ่ายในวันโอน หรือฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.45 ล้านบาท

นายชัยรัตน์ ธรรมพีร  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ภาพรวมเศรษฐกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2561 มีแนวโน้มเติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้นมากกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากมีปัจจัยที่ดีขึ้นทั้งจากการส่งออก การท่องเที่ยว อัตราดอกเบี้ยทรงตัวค่อนข้างต่ำ นอกจากนี้ภาครัฐยังมีการลงทุนโครงการด้านสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ต่อเนื่อง จึงเป็นสัญญาณที่ดีของภาคอสังหาริมทรัพย์ ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่น และเริ่มกลับเข้าสู่การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับปัจจุบันชาวต่างชาติหันมาซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เพราะราคายังถูกอยู่มากเมื่อเทียบกับราคาในประเทศของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จีน สิงคโปร์ ฮ่องกง คอนโดมิเนียมที่ยังได้รับความสนใจอยู่จะเป็นบริเวณแนวรถไฟฟ้า รถไฟฟ้าใต้ดินทั้งที่สร้างเสร็จแล้วและส่วนต่อขยาย ในขณะที่กำลังซื้อที่ดินของผู้ประกอบการที่จะนำมาพัฒนาโครงการยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะมีแหล่งเงินทุนจากต่างชาติเข้ามาลงทุนร่วมกับคนไทยในการประกอบธุรกิจคอนโดมิเนียม โดยเฉพาะ ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ ส่งผลให้ราคาที่ดินดิบมีราคาสูงต่อเนื่อง ทำให้ในอนาคตราคาคอนโดมิเนียมจะมีราคาสูงเพิ่มขึ้นตาม ตลาดก็จะมีการแข่งขันมากยิ่งขึ้น ซึ่งจำเป็นที่ผู้ประกอบการจะต้องหาตลาดใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดที่รองรับกำลังซื้อของคนต่างชาติ

โครงการ “เลสโต คอนโด สุขุมวิท 113”  สถานีสำโรง เป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร จำนวน 786 ยูนิต

สำหรับโครงการล่าสุดของ  บริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน)  คือ “เลสโต คอนโด สุขุมวิท 113”  สถานีสำโรง เป็นคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จแล้ว  แต่งครบพร้อมเข้าอยู่ บนเนื้อที่ 7 ไร่เศษ เป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร จำนวน 786 ยูนิต มูลค่ากว่า 1,000  ล้านบาท ซึ่งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูง ห่างจาก BTS สถานีสำโรงเพียง 400 เมตร และในอนาคตสถานีนี้จะเป็นสถานี Interchange เชื่อมต่อเพื่อเปลี่ยนไปสายสีเหลืองที่วิ่งไปทาง รัชดา – ลาดพร้าว ได้ด้วย”

ด้วยประสบการณ์ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์  ของ  บริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) ที่มีมากว่า 10 ปี และประสบความสำเร็จอย่างสูงในการปิดขายโครงการต่างๆ ในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้นในปี 2561 บริษัทจึงตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2560 โดยบริษัทเน้นที่อัตราการทำกำไรให้สูงขึ้น เนื่องจากโครงการต่างๆ ที่มีอยู่นั้น บริษัทได้มีการปรับขึ้นราคาขายไปแล้ว 5-10% โดยเฉพาะโครงการห้องชุด ซึ่งอยู่ในแนวรถไฟฟ้า เช่น โครงการ “เลสโต คอนโด สุขุมวิท 113” สถานีสำโรง ซึ่งเป็นย่านชุมชนที่ยังมีความต้องการที่พัก อาศัยค่อนข้างสูง โดยเป็นโครงการที่มีความคุ้มค่าเงินสูงสุดในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย และเป็นคอนโดมิเนียมเพียงไม่กี่แห่งที่มีรถไฟฟ้าผ่านถึง 2 เส้นทาง (สายสีเขียวและสายสีเหลือง) เพื่อความสะดวกในการเลือกเดินทาง หรือกรณีใช้รถยนต์ส่วนตัวสามารถใช้ถนนสุขุมวิท หรือทางด่วนเข้าสู่กรุงเทพฯ ชั้นในได้สะดวกเช่นกัน

นอกจากนี้ นายชัยรัตน์ ธรรมพีร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) ยังมีเป้าหมายที่จะนำ “บิลท์ แลนด์” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในปี 2562 เพื่อรองรับแผนการขยายการลงทุนในอนาคต

สำหรับแผนการกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ “บิลท์ แลนด์” นั้น บริษัทฯ จะเพิ่มทุนอีกจำนวน 100 ล้านหุ้น เพื่อขายให้แก่ประชาชนทั่วไป ส่วนราคาเสนอขายก็จะต้องรอปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงินก่อน ปัจจุบันธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยังเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างผลกำไรได้สูง เนื่องจากเรามีความเชี่ยวชาญในการบริหารบริษัทอสังหาริมทรัพย์ มองขาดในเรื่องทำเล คุณภาพของงานก่อสร้าง ครอบคลุมไปถึงการบริหารจัดการหลังการขายที่มีบริษัท บิลท์ ฮาร์ท จำกัด ช่วยในการบริการลูกค้า จัดการบริหารอาคารนิติบุคคล คอยรองรับการบริหารห้องชุดให้ลูกค้าในกรณีที่มีความต้องการขายต่อหรือให้เช่า รวมทั้งรู้จักกลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้าของเราเป็นอย่างดี

นายชัยรัตน์ ธรรมพีร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน)

สำหรับโครงการในอนาคตจะเน้นไปที่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวสูง
เป็นหลักที่ระดับราคา 2-5 ล้านบาท เพื่อกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่ต้องการใช้ชีวิตอิสระ ปลอดภัย สะดวกสบายในการดูแลรักษา และง่ายต่อการเดินทาง ส่วนแผนการร่วมทุนบริษัทข้ามชาตินั้น บริษัทยังเปิดกว้างอยู่ตลอด ที่ผ่านมาได้มีหลายบริษัทในประเทศเอเชีย เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะมีส่วนสนับสนุนการขยายตลาดไปสู่ลูกค้าต่างชาติมากขึ้น โดยในการพิจารณาผู้ร่วมทุนนั้น บริษัทให้น้ำหนักเรื่องเม็ดเงินลงทุนและแนวทางการทำงานร่วมกันว่าสามารถร่วมกันได้หรือไม่เป็นหลัก ส่วนในเรื่องเทคโนโลยีหรือโนว์ฮาวต่างๆ นั้นเป็นเรื่องรองลงมา” นายชัยรัตน์ กล่าว

บริษัท บิลท์ แลนด์ จํากัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2552 เพื่อดําเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โครงการบ้าน ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม ทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑล รวมถึงแนวรถไฟฟ้า เน้นการออกแบบที่อยู่อาศัยตามความต้องการพื้นฐานเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่มีอยู่อย่างจํากัดได้อย่างคุ้มค่า โดยผลงานที่ผ่านมา ประกอบด้วย

· ปี 2552 – เปิดตัวโครงการแรก คือ The Tempo ร่วมฤดี มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท

· ปี 2553 – เปิดตัวโครงการ The Tempo พหลโยธิน มูลค่าโครงการ 395 ล้านบาท

· ปี 2554 – เปิดตัวโครงการ The Tempo รัชดา มูลค่าโครงการ 312 ล้านบาท และ The Tempo M ติวานนท์ มูลค่าโครงการ 295 ล้านบาท

· ปี 2555 – เปิดตัวโครงการแนวราบ โครงการแรก Tempo Town รัตนาธิเบศร์-ไทรม้า มูลค่าโครงการ 136 ล้านบาท

· ปี 2556 – เปิดตัวโครงการตึกสูง Tempo Grand สาทร-วุฒากาศ มูลค่าโครงการ 2,690 ล้านบาท

· ปี 2557 – เปิดตัวโครงการ Tempo One รามคำแหง-พระราม 9 มูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท

· ปี 2558 – เปิดตัวโครงการ Tempo Quad สะพานใหม่ มูลค่าโครงการ 350 ล้านบาท

· ปี 2559 – เปิดตัวโครงการ The Ritmo ชัยพฤกษ์-วงแหวน มูลค่าโครงการ 1000 ล้านบาท และโครงการ Lesto Condo สุขุมวิท 113 มูลค่าโครงการ 1068 ล้านบาท

บริษัท บิลท์ ฮาร์ท จํากัด  เปิดขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ในการรองรับการบริการหลังการขายของ บริษัท บิลท์ แลนด์ จํากัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมิได้มีวัตถุประสงค์หลักในเรื่องของผลกำไร แต่ช่วยในการบริการลูกค้า ในการจัดการบริหารอาคารนิติบุคคล และคอยรองรับการบริหารห้องชุดให้ลูกค้าในกรณีที่มีความต้องการขายต่อ หรือให้เช่า พร้อมกันนี้บริษัท บิลท์ ฮาร์ท เองก็จะทําการศึกษาข้อมูลทางการตลาดจากสภาวะแวดล้อมจริง พร้อมกับประเมินความเสี่ยง ปัจจัยต่างที่จะส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อนําข้อมูลส่งต่อให้กับกลุ่มบริษัทฯ เพื่อใช้ในการปรับปรุง และพัฒนาบริษัทและผลิตภัณฑ์ต่อไป

โครงการ “เลสโต คอนโด สุขุมวิท 113”  สถานีสำโรง เป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร จำนวน 786 ยูนิต ที่มีพื้นที่ส่วนกลางกว่า 3,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย Triple Club คลับเฮ้าส์ 3 ชั้น หน้าโครงการ ไว้ให้พักผ่อนหรือรองรับเพื่อนฝูง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกระดับ 5 ดาว ไม่ว่าจะเป็น Fitness Room, Swimming Pool, Yoga Fly, Play Room, Movie Room, BBQ Deck, Library Room, Co-Working Space พร้อมสวนขนาดใหญ่รายล้อมโครงการ เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับทุกอาคาร สามารถตอบโจทย์ความสุขของการอยู่อาศัยได้อย่างรอบด้าน

ทั้งนี้ ในวันเสาร์ที่ 19  และวันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม นี้   “บิลท์ แลนด์”  จะจัดงาน “LESTO OPEN HOUSE” ในธีม “รวมร้านเด็ดย่านสำโรง” เปิดให้ผู้ที่สนใจเข้ามาร่วมชมห้องชุด  แต่งครบพร้อมเข้าอยู่ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.45 ล้านบาท พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมเวิร์คช้อปสุดคูล และชิมอาหารจานเด็ดแนะนำจาก Wongnai

สำหรับผู้ที่จองในวันงาน
เลือกฟรี! ทุกค่าใช้จ่ายในวันโอน หรือ ฟรี! เครื่องใช้ไฟฟ้า
นอกจากนี้ยังฟรี! วอลล์เปเปอร์ทุกยูนิต ฟรี! เครื่องปรับอากาศ 15,000 บีทียู และเครื่องทำน้ำอุ่น และในวันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม 2561

ช่วงระหว่างเวลา 16.00-17.00 น. ร่วมสนุกกับมินิคอนเสิร์ตจาก
“ป๊อป-ปองกูล” ณ TRIPLE CLUB คลับเฮ้าส์ 3 ชั้น หน้าโครงการ
“เลสโต คอนโด”

เว็บไซต์โครงการ: builtland.co.th/lestocondo

 

 

Tommy Tang สุดยอดเชฟเซเลบฯ ระดับตำนานของดาราฮอลลีวู้ด

เจ้าของตำราการทำอาหารชื่อว่า
“อาหารไทยยุคใหม่”

สัปดาห์นี้ ขอชวนแฟนๆ รายการ  เชฟทัวร์ ครัวติดดิน Street  Chefs  มารู้จักและ พูดคุยกับเชฟอาหารไทย ขวัญใจฮอลลีวูด Tommy Tang (ทอมมี่ แทง) รายการน้องใหม่ “เชฟทัวร์ ครัวติดดิน Street Chefs”  เป็นรายการที่จะพาไปเฟ้นหาร้านอร่อยสุดๆ  ค้นหาวัตถุดิบสุดเด็ดประจำท้องถิ่นนั้นๆ แล้วนำมารังสรรค์เป็นเมนูใหม่จานพิเศษ  ด้วยฝีมือของเชฟทอมมี่ Tommy Tang หนึ่งในผู้บุกเบิกที่ทำให้อาหารไทยเป็นที่รู้จัก นิยมในอเมริกา และทั่วโลก  ตั้งแต่เด็กจนโต จากการเดินทางไปเสี่ยงโชคที่ประเทศอเมริกา

Tommy Tang เริ่มด้วยการเป็นผู้จัดการวงดนตรีร็อก และ  Music Producer และมาเริ่มชอบทำอาหารมาตั้งแต่เริ่มงานในตำแหน่ง  ผู้จัดการร้านและเป็นเชฟร้านอาหารไทย ความสนใจในอาหารรสเลิศที่เพิ่มมากขึ้น กำลังช่วยยกระดับอุตสาหกรรมนี้ ทำให้บรรดาเชฟท้องถิ่นก็เรียนรู้เพิ่มขึ้นจากร้านอาหารในต่างประเทศ โดยใช้เวลาแค่เพียง 1 ปี แต่ในที่สุด Tommy Tang ได้ค้นพบว่าคำตอบสำหรับชีวิตที่แท้ของเขานั่นคืออาหาร ด้วยความสามารถและเป็นเอกลักษณ์ของ Chef Tommy Tang   อาหารไทยก็เป็นที่รู้จัก และนิยม โดยมีเหล่า Celebrities คนดัง ระดับฮอลลีวูด ติดใจกับอาหารไทยที่ Chef Tommy Tang ปรุง เช่น Jackson Browne, Earth Wind and Fire, Queen, Orson Wells, Cher, Tom Cruise, Robin Williams, Billy Crystal

Tommy Tang ทำงานและเรียนในประเทศสหรัฐอเมริกา  โดยในราวปี
คริสศตวรรษที่ 70  จบการศึกษาที่วิทยาลัยพาลอสเวอดี้ในรัฐแคลิอร์เนียภาคใต้ ประสบการณ์จากการได้รางวัลไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ในอเมริกา

-ผู้จัดการวงดนตรีร็อคและผู้อำนวยการผลิตงานเพลง

-ผู้บุกเบิกร้านอาหารและชอปปิ้งบนถนนเมลโรส ปี1986

-เจ้าของและเป็นเชฟทำอาหารที่ร้านอาหารไทย ชื่อร้านTommy Tang
ในเมืองเวสท์ฮอลลีวูด และ ที่นิวยอร์ค ดาราและผู้มีชื่อเสียง เช่น  แจ็กสันบราวน์วงดนตรีเอิร์ธวินด์แอนด์ไฟร์  วงดนตรีควีนวงดนตรีโรลลิ่งสโตนนักแสดงออร์สันเวลส์นักแสดงอย่างแฮริสันฟอร์ดโรเบิร์ทเดอนิโรทอมครูซโรบินวิลเลี่ยมส์บิลลี่คริสตัลเดวิดเลตเตอร์แมนมาเป็นลูกค้าขาประจำ และชื่นชอบอาหารไทยที่ร้านมาก

-เขียนตำราการทำอาหารชื่อว่า “อาหารไทยยุคใหม่” ได้พิมพ์ออกจำหน่ายในปี1991หนังสือเล่มนี้  ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนังสือที่ให้ความกระจ่างของศิลปะในการเตรียมอาหารไทยยุคใหม่

Tommy Tang (ทอมมี่ แทง) รายการน้องใหม่ เชฟทัวร์ ครัวติดดิน Street Chefs

ในที่สุดได้มีการพิมพ์จำหน่ายซ้ำ รวมทั้งหมดแปดครั้งด้วยกัน ใน ปี 1995  สถานีโทรทัศน์ของ PBS USA ได้เชิญ คุณทอมมี่ ทำรายการการทำอาหาร การท่องเที่ยวรายการ TOMMY TANG’S   EASY THAI COOKING  จนกระทั่งรายการฮิตติดอันดับหนึ่งหลายปีติดกัน

Tommy Tang เชฟไทยที่โด่งดัง ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจากการทำรายการทีวีผ่าน PBS อเมริกาประเภทรายการการทำอาหารและการท่องเที่ยวที่ชื่อ  Tommy Tang – Easy Thai Cooking และTommy Tang- Let’s Get Cooking ทางสถานีโทรทัศน์ PBS อเมริกาแคนาดา  ด้วยเรตติ้งสูงสุดหลายปีติดต่อกัน

Tommy Tang (ทอมมี่ แทง) เชฟอาหารไทย ขวัญใจฮอลลีวูด

การเดินทางมาครั้งนี้  เพื่อถ่ายทำรายการ เชฟทัวร์ครัวติดดิน Street Chefs  ทีวีในประเทศไทยเป็นครั้งแรกของ รายการ เชฟทัวร์ ครัวติดดิน Street Chefs ทางช่อง 7 สี  รายการที่เฟ้นหา สุดยอดร้านอร่อย และค้นหาสุดวัตถุดิบคุณภาพดีจากทั่วประเทศ แต่ละชนิดเป็นวัตถุดิบเด็ดประจำท้องถิ่นนั้นๆ  โดย เชฟอาหารไทย ขวัญใจฮอลลีวูด นำมารังสรรค์เป็นเมนูใหม่จานพิเศษ  ทั้งขั้นตอนการปรุงที่มีเทคนิคการจัดเตรียม ตั้งมีด เขียงแต่ละชนิดที่ใช้เตรียมอาหารก่อนปรุง จนจบขั้นตอนเป็นเมนูสุดยอดของแต่ละร้าน

เชฟทัวร์ครัวติดดิน Street Chefs   โดยมี  หนุ่มอนุวัต  และ ปุ้ม  เปรมสุดา
ทำหน้าที่พิธีกร  ทุกวันจันทร์ และ อังคารออกอากาศ เวลา 13.00 น.
ทางช่อง 7 สี

ดีป้า โชว์สุดยอด 5 ผลงาน จากผู้เชี่ยวชาญด้านวีอาร์ของเมืองไทย

จัดแสดงผลงานผู้สร้างฝีมือคนไทย
ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ

เทคโนโลยี Virtual Reality  ที่กำลังน่าจับตามองในปัจจุบันสำหรับใครหลายคนคงไม่พ้นเทคโนโลยี Virtual Reality หรือ VR เทคโนโลยีวีอาร์จากผู้สร้างฝีมือคนไทย  เป็นโครงการที่มุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีดิจิทัล  ให้เป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ

ดีป้า  เดินหน้าต่อเนื่อง  สร้างคนพันธุ์ดิจิทัลภายใน 5 ปี  เทคโนโลยีวีอาร์ มีบทบาทสำคัญมากขึ้นต่ออุตสาหกรรมหลายแขนง ทั้งในประเทศและระดับสากล เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อน  วงการดิจิทัลไทย ให้ก้าวหน้าเติมเต็ม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตลาดหลักทรัพย์ การแพทย์ การซื้อขาย การท่องเที่ยวเยี่ยมชมสถานที่ หรือการผลักดันจินตนาการณ์ต่างๆ ให้กว้างออกไปมากที่สุดจากขีดจำกัดเดิมๆ เป็นโอกาสอันดีสำหรับคนรุ่นใหม่ ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก และมีการสนับสนุนที่หลากหลาย เราอยากจะให้เด็กๆ ได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการดีๆ แบบโครงการ VR Inventors

VR คือคำตอบที่ตอบโจทย์ในทุกๆสิ่ง โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีวีอาร์ที่ทวีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นต่ออุตสาหกรรมแขนงต่างๆ ทั้งในประเทศและระดับสากล ให้เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนวงการดิจิทัลไทยให้ก้าวหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) จัดแสดงผลงานวีอาร์ของนักพัฒนาคนรุ่นใหม่จาก โครงการ VR Inventors เพื่อผลิตนักพัฒนาโปรแกรมและเนื้อหาโลกเสมือนจริง (Virtual Reality) หลังผ่านการบ่มเพาะมายาวนานกว่า 2 เดือน พร้อมโปรแกรมศึกษาดูงาน ณ กรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ อีก 1 เดือนเต็ม ภายใต้คำแนะนำและดูแลอย่างใกล้ชิดจากผู้เชี่ยวชาญ ก่อนคัดเลือกเหลือสุดยอด 5 ผลงาน ได้แก่ M72LAW Simulator วีอาร์จำลองการใช้งานเครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง , Falling Down เกมการศึกษา  ชั้นเปลือกโลกและธรณีวิทยา ผ่านการนั่งยานแสนสนุกลงใต้พิภพ , What the Tower? วีอาร์เกมแข่งต่อกล่องขึ้นไปให้สูงที่สุดภายใต้เวลาอันจำกัด , Music Band VR พัฒนาศักยภาพด้านสมองด้วยการฟังเสียงดนตรี เสริมสร้างทักษะการฟังเสียงของเครื่องดนตรีแต่ละชนิด , Land of Smiles  วีอาร์   โดยนำเสนอสถาปัตยกรรมไทย ความน่ากลัวของผีไทย และ ไสยศาสตร์ไทย โดยทั้งหมดจัดแสดง ณ บูท VR Inventors รอยัล พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การ
ค้าสยามพารากอน วันก่อน

นายนรสิทธิ์ ยอขันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมดิจิทัล กล่าวว่า
“อรรถประโยชน์ของวีอาร์มีมากมาย เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่างๆ เช่น เรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้วไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้ สถานการณ์หรือสถานที่ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เราก็สร้างวีอาร์ขึ้นมาจำลองสถานการณ์ขึ้นมา รวมไปถึงใช้วีอาร์เพื่อการฝึกฝนและสร้างความรู้ความเข้าใจในเหตุการณ์หรือทฤษฎีต่างๆ ที่มีความซับซ้อนให้เข้าใจได้
ง่ายยิ่งขึ้น

ดีป้าเล็งเห็นว่า วีอาร์เป็นเทคโนโลยีที่กำลังมีความสำคัญมากขึ้นในอนาคต โครงการนี้นับได้ว่าเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการสนับสนุนจากรัฐและเอกชนด้าน VR อย่างเต็มที่ แม้แต่คนที่ไม่ได้สนใจโครงการก็อยากให้ลองศึกษาดูเพราะเป็นเทคโนโลยีใกล้ตัวและส่งผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจดิจิทัล จึงเห็นว่าควรเพิ่มจำนวนนักพัฒนาวีอาร์ และผลักดันให้นักพัฒนาวีอาร์ในประเทศไทยของเราสามารถก้าวขึ้นเทียบเท่านักพัฒนาวีอาร์ระดับโลกต่อไปได้ ทั้งนี้ ดีป้ามั่นใจว่า การพัฒนาบุคลากรและสร้างคนด้านดิจิทัล ในระยะสั้นต้องเร่งผลักดันให้เห็นผลภายใน 5 ปี เนื่องจากเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว”

นายจัตุพร รักไทยเจริญชีพ กราฟฟิค ดีไซน์เนอร์ VR M72LAW Simulator กล่าวว่า “M72LAW Simulator ที่ทีมเราพัฒนานี้เป็นวีอาร์จำลองการใช้งานเครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถังไปยังเป้าหมายเพื่อประหยัดงบประมาณในการฝึก และให้ผู้ฝึกได้รับประสบการณ์แบบไร้ขีดจำกัด โดยจำลองโลกเสมือนจริงในทุกๆ การกระทำและทุกๆ สภาวะ ไม่จำกัดกระสุน อุปกรณ์ในรูปแบบต่างๆ เราได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารโดยตรง  มาช่วยแนะนำรูปแบบการผลิต ให้สอดคล้องกับการนำไปใช้งานได้จริงในองค์กรทางทหาร หลังจากเสร็จสิ้นโครงการนี้วางแผนพัฒนาต่อยอดให้การฝึก
ทางยุทธวิถีเต็มรูปแบบมากขึ้น”

นายจิระพัฒน์   เต็มเปี่ยม  โปรแกรมเมอร์  VR Land of Smiles  กล่าวว่า
“ตั้งใจนำเสนอสถาปัตยกรรมไทย ความน่ากลัวของผีไทย และไสยศาสตร์ไทย แต่ยังคงความสนุกของเกมยิงแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่ง โดยมีจุดเด่นคือ การใช้อาวุธไสยศาสตร์และมี Mission ที่เพิ่มความสามารถของผู้เล่นได้ ข้อดีที่ได้รับจากโครงการนี้คือ การได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญอธิบายให้เข้าใจ ออกแบบเกมได้เป็นระบบและเข้าที่มากขึ้น การจูนให้พอดีและสนุก ซึ่งมันมีหลายส่วนมาก ถ้าอะไรมากเกินไปนิดนึงเสียสมดุลไปก็จะไม่สนุกครับ”

นางสาวประยุดา อนาพร กราฟฟิค ดีไซน์เนอร์ VR Music Band VR กล่าวถึงแนวคิดที่พัฒนาวีอาร์เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านสมองด้วยการฟังเสียงดนตรี เสริมสร้างทักษะการฟังเสียงของเครื่องดนตรีนี้ว่า “วีอาร์นี้เปรียบเสมือนเพลย์กราวด์ของผู้เรียน เป็นเหมือนเครื่องมือให้ได้ทดลองผสมเสียงเครื่องดนตรีต่างๆ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างทักษะการฟังเสียงดนตรีแต่ละชนิด นอกเหนือจากนี้ยังสามารถวิเคราะห์ และแยกแยะเสียงเครื่องดนตรีแต่ละชนิดได้ และยังสามารถทำแบบทดสอบเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจด้านดนตรีได้อีกด้วย”

นายศรัณย์ รัตนกุลวรานนท์ โปรแกรมเมอร์ VR Falling Down กล่าวว่า “Falling Down คือเกมการศึกษาเกี่ยวกับชั้นเปลือกโลก และธรณีวิทยาสำหรับเด็กอายุ 6-12 ปี ผ่านประสบการณ์นั่งยานแสนสนุกลงใต้พิภพ ในรูปแบบเสมือนจริง พร้อมตื่นตาไปกับสิ่งมีชีวิตและสภาพแวดล้อมแสนสวยงาม อีกทั้งภายในเกม ผู้เล่นยังสามารถสนุกสนานไปกับการตามล่าสิ่งของพิเศษที่รอให้สะสมอีกด้วย ภายในเกมผู้เล่นจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับชั้นเปลือกโลกภาคพื้นทวีป ชั้นเมนทัลและแก่นโลก นอกจากนี้ผู้เล่นยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิต หินแร่ และฟอสซิลที่มีอยู่ในชั้นต่างๆ เช่น ปลาปักเป้า ปลาจาละเม็ด สาหร่าย ปะการัง หินอัคนี ฟอสซิลทีเร็กซ์ และอื่นๆ อีกมากมาย”

นายสุภชัย ชูสิทธิ์ โปรแกรมเมอร์ VR What ‘s the! ? Tower กล่าวว่า
“What ‘s the! ? Tower เป็นวีอาร์ที่มีแนวคิดต้นกำเนิดมาจากเกมกระดาน โดยต่อกล่องขึ้นไปให้สูงที่สุด โดยการจำกัดเวลา และใช้ความสูงที่ผู้เล่นทำได้มาเป็นเกณฑ์การให้คะแนน ผู้เล่นจะพบความท้าทายและประหลาดใจ ที่จะช่วยส่งเสริมอารณ์ในขณะเล่นเกม หลังจากนี้วางแผนจะต่อยอดโครงการโดยนำไปพัฒนาต่อให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น และเตรียมนำวีอาร์ขึ้นแอพสโตร์ให้ผู้สนใจทุกคนดาวน์โหลดมาเล่นได้จริง”

สถานที่ บูท VR Inventors รอยัล พารากอน ฮอลล์
ศูนย์การค้าสยามพารากอน
รายละเอียดโครงการ  www.VRInventors.depa.or.th

วัตถุดิบทดแทน ที่มาจากการรีไซเคิลขยะ แปรรูปเป็นพลังงานทดแทน

กระบวนการผลิตแล้วนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ เพื่อเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน!

กพร. ตั้งเป้าส่งเสริมและพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย 4.0

กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ตั้งเป้าส่งเสริมและพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทนด้านแร่ โลหะ และสารประกอบโลหะ เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย 4.0 เน้นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วยนวัตกรรมสร้างการมีส่วนร่วมและการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นายวิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่
ตัวอย่างเศษวัสดุต่างๆ ที่สามารถนำมาใช้รีไซเคิล

นายวิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กล่าวว่า… ตามนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมสู่อุตสาหกรรมไทย 4.0 กระทรวงอุตสาหกรรมได้มีการปรับโครงสร้างกระทรวงอุตสาหกรรมที่เน้นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วยนวัตกรรม การสร้างการมีส่วนร่วม และการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่ง กพร. เป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีการปรับบทบาทภารกิจและโครงสร้างให้เป็นเชิงรุกมากขึ้น

โดยมุ่งเน้นการดำเนินงานในฐานะที่เป็นหน่วยงานจัดหาและบริหารจัดการวัตถุดิบ เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านวัตถุดิบให้แก่ภาคอุตสาหกรรม ทั้งวัตถุดิบจากแหล่งแร่ธรรมชาติ (Natural Mineral Resources หรือ Primary Raw Materials) วัตถุดิบทดแทน ที่ได้จากการรีไซเคิลขยะหรือของเสีย (Secondary Raw Materials) และวัตถุดิบขั้นสูง (Advanced Raw Materials) ที่เป็นแร่ โลหะ สารประกอบโลหะชั้นคุณภาพสูง เพื่อรองรับ
การพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายในอนาคตของประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพ (First S-curve) ซึ่งได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อุตสาหกรรมเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ และอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร และกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (New S-curve) ซึ่งได้แก่ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมเชื้อเพลิง ชีวภาพ และ  เคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมดิจิตอล และอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร รวมทั้งรองรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ หรือ Mega Projects ของรัฐบาล ซึ่งในการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย (ยกเว้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว) และโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ดังกล่าว จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบตั้งต้นที่เป็นแร่ โลหะ สารประกอบจากแร่และโลหะ ที่มีความหลากหลาย มีคุณภาพสูง
มีปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ และสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก

อพร.เดินชมผลงานจากการใช้เทคโนโลยีรีไซเคิล

นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ในเรื่องของวัตถุดิบทดแทนที่มาจากการรีไซเคิลขยะหรือของเสีย กพร. ได้ให้ความสำคัญกับการรีไซเคิลขยะหรือของเสีย เพื่อแยกสกัดแร่และโลหะกลับมาใช้ประโยชน์ รวมถึงแปรรูปเป็นพลังงานทดแทน หรือที่เรียกกันในหลายประเทศว่า   “การทำเหมืองแร่ในเมือง”
หรือ “Urban mining” โดยที่ผ่านมาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ได้ดำเนินโครงการต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมการนำขยะ วัสดุเหลือใช้ รวมถึงผลพลอยได้ (By-products) จากกระบวนการผลิต กลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ เพื่อเป็นแหล่งทรัพยากร ทดแทนให้แก่ภาคอุตสาหกรรม ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติใหม่ ลดการเกิดขยะและปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการขับเคลื่อนสู่  Zero Waste Society
โดยอาศัยจุดแข็งของกรมฯ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีแต่งแร่ และด้านเทคโนโลยีโลหการ ซึ่งเป็นรากฐานของเทคโนโลยีรีไซเคิล ร่วมดำเนินงานกับที่ปรึกษาที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งนี้ เพื่อให้วัสดุเหลือใช้และกากของเสียที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเฉลี่ย 50 ล้านตันต่อปี กลายเป็นแหล่งวัตถุดิบด้านแร่ โลหะ และพลังงานทดแทนที่สำคัญของประเทศ ซึ่งจากการติดตามประเมินผลการดำเนินงานที่ผ่านมาจากผู้ประกอบการที่ได้รับการฝึกอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีรีไซเคิลจาก กพร. พบว่า ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มในประเทศจากการลงทุนและ/หรือการรีไซเคิลของเสียเป้าหมาย 100–130 ล้านบาทต่อปี ซึ่งปัจจุบัน กพร. มีเทคโนโลยีรีไซเคิลขยะหรือของเสีย รวม 69 ชนิด โดย 39 ชนิด ได้พัฒนาเป็นเทคโนโลยีรีไซเคิลต้นแบบของ กพร. ซึ่งมีศักยภาพในการถ่ายทอดเทคโนโลยีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ

และภายใน  เดือนสิงหาคม 2561 นี้  กพร. จะเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาเทค
โนโลยีรีไซเคิลของรัฐแห่งแรกของประเทศ ซึ่งมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลทั้งในระดับห้องปฏิบัติการ (Lab scale) และขยายผล
ไปสู่โรงงานต้นแบบ (Pilot scale) เพื่อผลักดันนวัตกรรมและเทคโนโลยีรีไซเคิลสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ รวมทั้งเป็นต้นแบบให้ผู้ประกอบการได้ศึกษาเรียนรู้กระบวนการรีไซเคิล และการจัดการมลพิษที่เกิดขึ้นตามหลักวิชาการ โดยจะสามารถรองรับการฝึกอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีรีไซเคิล
ให้แก่ผู้ประกอบการ  ทั้งใน Lab scale และ  Pilot scale ได้ไม่น้อยกว่า
200 รายต่อปี

ประเทศไทยมีขยะหรือของเสียเกิดขึ้นเฉลี่ย 50 ล้านตันต่อปี เป็นของเสียครัวเรือน 25-26 ล้านตันต่อปี   โดยมีสัดส่วนการใช้ประโยชน์ในประเทศเฉลี่ยเพียง 18-20% และของเสียอุตสาหกรรม 25-30 ล้านตันต่อปี โดยมีสัดส่วนการใช้ประโยชน์ในประเทศเฉลี่ย 70-75% ซึ่งหากสามารถเพิ่มอัตราการใช้ประโยชน์ของเสียครัวเรือนและอุตสาหกรรมได้อีก 10% มีการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขยะ หรือของเสียที่มีประสิทธิภาพ  และครบวงจรตั้งแต่กิจกรรม/กระบวนการที่ก่อให้เกิดของเสีย กระบวนการคัดแยก การจัดเก็บรวบรวม การขนส่ง การรีไซเคิล การบำบัด และการกำจัด รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีการรีไซเคิลในประเทศ คาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มในประเทศจากการลงทุน/การนำของเสียเป้าหมายกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่เพิ่มขึ้น ไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี โดยกุญแจสำคัญ คือ การสร้างความร่วมมือแบบ 3 ฝ่าย ระหว่างรัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา ผมมองว่า ด้วยนวัตกรรมและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ เราสามารถเปลี่ยนขยะหรือของเสียให้กลายเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทนที่สำคัญ เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายในอนาคตของประเทศได้ ดังเช่นในประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งหลายประเทศไม่มีแหล่งแร่ธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังเป็นการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติใหม่ ลดการเกิดขยะและปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ตามแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการขับเคลื่อนสู่  Zero Waste Society
-นายวิษณุ กล่าวทิ้งท้าย

พร้อมกันนี้ กพร. เตรียมจัดสัมมนาหัวข้อ “Innovation for materials value-added” มีวัตถุประสงค์เพื่ออภิปรายทิศทางความต้องการใช้วัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรม  สร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน  ในวันพฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561
เวลา 08.30 – 15.45 น. ณ ห้องวาสนา 6 – 8 ชั้น 3
โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน กรุงเทพมหานคร

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม
ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2202 3555
www.dpim.go.th

อร่อยเด็ดถึงเจ็ดโลก! ลองยังอาหารไร้เนื้อสัตว์อาหารเพื่อสุภาพ

Ben Flavour Restaurant อาหารสุขภาพ

การดูแลเอาใจใส่สุขภาพ อย่ารอจนกว่า คุณจะป่วยแล้วค่อยหามาทาน
ต่อไปนี้  หันมาเลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพอาทิตย์ละครั้ง เราไม่สามารถลดละเลยได้ก็จริง แต่เราสามารถเลือกบริโภคได้ เริ่มต้นง่ายๆ จากการกินอาหารเมนูอาหารมังสวิรัติที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หันมาดูแลเอาใจใส่สุขภาพโดยเริ่มต้นจากการกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อาหารสุขภาพสไตร์คนรักสุขภาพ แบบคนรุ่นใหม่เราใส่ความคิดสร้างสันลงไปรสนิยมรสชาติ “อย่างจุดเด่นของอาหารจีน ต้องไม่มันรสชาติกลมกล่อม วัตถุดิบเครื่องปรุงจะต้องดี ใส่ใจพิถีพิถันเป็นเรื่องสำคัญ

วันนี้แนะนำร้านอร่อย ย่านพระราม 9  สำหรับคนรักการกินผัก หลากหลายเมนูที่นี่เลือกสรรคสูดรเด็ดสุดเด็ดโดยเฉพาะ  เมนูที่ช่วยล้างพิษ พิชิตโรค Benflavour (เบน เฟลเวอร์) ร้านอาหารมังสวิรัติ อาหารหน้าตา รสชาติอร่อย และหากินไม่ได้ที่ไหน เพราะ ที่นี่อาหารเจ และมังสวิรัติ 100 เมนู

สูตรอาหารมังสวิรัติไม่ได้มีแค่เมนูผักเพื่อสุขภาพเท่านั้น ตอนนี้กลับเป็นตัวเลือกและหลักปฏิบัติต้นๆ สำหรับคนที่อยากดูแลรูปร่าง การที่เราอยากจะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง

นอกเหนือจากการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอแล้ว การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เลือกอาหารที่สะอาด มีประโยช์ต่อร่างกาย ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ ร้านอาหาร เบนเฟลเวอร์  ร้านเดียวในกรุงเทพ ที่มีอาหารให้เลือกหลายรสชาติการตกแต่ง รวมไปถึงการบริการทุกอย่าง เป็นเทสของ Ben FLavour

วรัญญู ชัยเฉลิมมงคล (เบน) ฟู้ด เจ้าของร้าน Ben FLavour

วรัญญู ชัยเฉลิมมงคล (เบน) ฟู้ด เจ้าของร้าน Ben FLavour เชฟหนุ่มที่ไม่ได้เรียนการทำอาหาร  แต่มีความสามารถสร้างสรรค์เมนู อาหารเจ และ มังสวิรัติ ได้อย่างลงตัว ตอนเด็กรักการทำอาหาร  เป็นลูกมือแม่ในครัวเสมอ   (แม่เป็นคนเวียดนาม พ่อเป็นคนจีน) ประสบการณ์ดีดีเหล่านี้เกิดจาก ครอบครัวเปิดร้านอาหาร ได้ช่วยเป็นลูกมือพ่อ-แม่ ช่วยให้ชิม ช่วนเตรียมวัตถุดิบ ช่วยปรุงซึมซับเทคนิคมาเป็นสุดยอดเชฟชื่อดังจนถึงทุกวันนี้

จาก “Veggie Fusion” และต่อยอดมาเป็นร้านอาหาร Ben Flavour Restarant

อาหารเจ และ มังสวิรัติ  อร่อยและสวยงามอย่างเหลือเชื่อ คุณเบน บอกว่าเริ่มต้นตัดสินใจเปิดร้าน เพราะเป็นคนชอบทำอาหารมาก และอาหารประเภทที่ทานแล้วได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ และการชอบเสิร์ฟอะไรแปลกๆ  ได้ลองลงมือด้วยตัวเอง   หลายเป็นจุดเริ่มต้นของร้าน Ben FLavour

สายเฮลธ์ตี้ผู้รักสุขภาพโดยเฉพาะ มาดูกันว่า อาหารสุขภาพ อาหารมังสวิรัติกินอะไรได้บ้าง?  เมนูอาหารเจ และอาหารมังสวิรัติที่ห้ามพลาด วันนี้มาดูเมนูอร่อยๆ ทานกันค่ะ

ขนมปังตับบด Ben FLavour
หมี่อายุยืน Ben FLavour
ข้าวหม้อแม่นาก Ben FLavour
ยำมะเฟือง Ben FLavour
จานนี้ของแนะนำ ปลาม้วนผักสด Ben FLavour

เบน ‘เฟลเวอร์’ มีความตั้งใจอยากให้ลูกค้าได้ทานอาหาร มังสวิรัติ เพื่อสุขภาพที่ดี ทุกเมนูสร้างความแตกต่าง และ สร้างแรงบันดาลใจให้สังคมตื่นตัว บรรจงสร้างเมนูพิเศษขึ้นด้วยมากกว่า 100 เมนู ทุกเมนูถูกคัดสรรวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน การเลือกอาหารที่สดใหม่ สะอาด มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ไม่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบ

จุดเด่นของ เบน เฟลเวอร์ รสชาติของอาหารทุกจาน ต้องไม่มัน กินแล้วไม่เลี่ยน รสชาติกลม อาหารหน้าตาออกมาน่าทาน

บรรยากาศและการตกแต่งร้าน สไตล์อาเซียน  Mix & Matched Traditional  มีกลิ่นอายสไตล์จีน ผสมเวียดนาม ด้วยการเอาของสะสมมาตกแต่งร้าน จึงออกมาดูเก๋ๆ กลิ่นอายจีนๆ  โดยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์คลาสสิกแอนทีค สไตล์การตกแต่งที่โดดเด่นและเมนูอาหารที่อร่อยและได้สุขภาพ แต่ในบรรยากาศแบบนี้สามารถเสิร์ฟอาหารได้ทุกประเภท

ร้านอาหาร เบนเฟลเวอร์ (Ben Flavour Restaurant) ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ เมนูของร้านไม่เหมือนใครในโลก มีหลายอย่างที่คุณจะไม่สามารถหากินได้ที่ไหนในโลกนี้ทุกเมนูเป็นอาหารมังสวิรัติ ปราศจากเนื้อสัตว์เพื่อสุขภาพที่ดี อิ่มท้องและอิ่มบุญไปพร้อมกัน

เพื่อนๆ  มีเวลาลองแวะไปชิมกันนะคะคนรุ่นใหม่ใส่ใจรักสุขภาพ อิ่ม อร่อย และได้บุญด้วย มาทานที่ ร้านเบน เฟลเวอร์ ได้ทานอาหารเจ และ มังสวิรัติสัตว์สไตล์ฟิวชั่น อาหารสุขภาพสไตล์คนรุ่นใหม่ เลือกออกร้าน จัดงานเลี้ยง ด้วยอาหารสุขภาพสไตล์คนรุ่นใหม่  Toptotravel แนะนำร้านนี้ค่ะ

เบนเฟลเวอร์ Ben Flavour Restaurant
ที่อยู่ : 589-589/1 ซ.พระรามเก้า ซอย 51 ถ.พระราม 9 สวนหลวง
กรุงเทพฯ 10250
โทรศัพท์ : 096 191 9159
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Benflavour

ธรรมชาติโอบกอดเราไว้ บ้านระเบียงดาว

เรื่องมีอยู่ว่า อยากตามรอยสถานที่ท่องเที่ยวสุดฟิน ของเมืองเชียงใหม่ 

ชีวิตคือการเดินทางเพื่อสะสมความทรงจำดีดี  และจุดหมายปลายทางที่เราเลือกไว้ เป็นพักที่เหมาะกับการหลีกหนีจากความแออัดในเมืองหลวง มาชมความอลังการของดอยหลวง  และแวะสูดอากาศบริสุทธิ์ ท่ามกลางขุนเขาอันเขียวขจี ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์สุดๆ  ระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ จนถึงที่พัก บ้านระเบียงดาวประมาก  100  กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง

การเดินทางไปเพื่อพักผ่อนที่บ้านระเบียงดาวทริปนี้  นั่งเครื่องบินไปลงที่สนามบินเชียงใหม่ วันเดินทางฝนตกปรอยๆ  อากาศค่อนข้างดีมาก ต่อด้วยเช่าของ Avis ได้รถ Suzuki Swift ราคา 600 กว่าบาท  มาหลายคน แนะนำว่าให้เช่ารถขับไปเองสะดวกและคุ้มกว่า  เพราะสามารถควบคุมเวลา แวะเที่ยว จอดซื้อผลไม้ริมทาง ได้กว่าการไปด้วยรถสาธารณะ และทางไปดอยหลวงเชียงดาวก็ขับไม่ยากเท่าไหร่ใช้กูเกิลแมฟเป็นผู้ช่วยนำทาง ขับไปเรื่อยๆ วิ่งยาวๆ ไปบนเส้นทางหลวงหมายเลข 107 เส้นทางค่อนข้างจะไกลคดเคี้ยว แต่ก็เต็มไปด้วยความร่มรื่นของต้นไม้ทั้งสองข้างทาง ระหว่างทางเห็นความงดงามและธรรมชาติที่สุดแสนอลังการของดอยหลวง  พอถึงทางเข้า ค่อนข้างจะลึกพอประมาณ  สังเกตุง่ายมาก ทางซ้ายมือจะเป็นถ้ำเชียงดาว แวะสักการะและเดินชมความสวยงามของถ้ำเชียงดาว  แล้วเดินทางต่อไปยังที่พักก่อนจะค่ำออกจากถ้ำเชียงดาว การมุ่งหน้าไปบ้านระเบียงดาว เราต้องขับตรงเข้าไปไป ผ่านหมู่บ้านนาเลาใหม่ อยู่ทางซ้ายมือ  ขับตรงไปอีกจะเป็นอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง  และแล้วก็มาถึงระเบียงดาว  เป็นความอลังการของธรรมชาติ มาชมวิวทิวทัศน์สวยๆ กัน

วันที่เราขึ้นไปนอนที่ อ.เชียงดาว ที่พักที่นี่เหมาะกับการหลีกหนีจากความแออัดในเมืองหลวงไม่อยากพลาดชมแสงอาทิตย์อาบขุนเขา เพราะว่าที่แห่งนี้จองยากมากๆ บ้านระเบียงดาว เป็นที่พักสไตล์โฮมสเตย์ ราคาไม่แพง ตั้งอยู่ใน หมู่บ้านลีซอ ชื่อหมู่บ้าน นาเลาใหม่  เป็นภาพบรรยากาศท่ามกลางขุนเขาของดอยหลวง

ดอยหลวง ที่นี่ค่อนข้างขึ้นขื่อว่าจองยาก จองเย็นไม่ใช่อะไรเป็นเพราะความสวยงามของสถานที่ตั้ง วันนี้จะพาไปนอนชมวิวสวยๆกับที่ เที่ยวเชียงดาว ดูหมอกและดาว โฮมสเตย์ทริปนี้จะพาไปเที่ยว “บ้านระเบียงดาว” ที่พักซึ่งตั้งอยู่แนบชิดดอยหลวงเชียงดาว อ.เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ทางไปถ้ำเชียงดาว เป็นเส้นทางที่มีวิว panorama ที่มองเห็นดอยหลวงเชียงดาวในระยะใกล้ทำให้ความต้องการของคนที่อยากจะไปพักที่นั้นมีจำนวนมาก และจำนวนห้องพักมีไม่เพียงพอ ทำให้ต้องจองล่วงหน้ากันหลายเดือน

ออกจากเชียงดาวก็ย้อนกลับมาทางเดิมมุ่งตรงไปยังเส้น อ.แม่ริมแล้วเลี้ยวขวาเข้าสายแม่ริม-สะเมิง ขับไปประมาณ 15 กิโลแล้วเลี้ยวขวาตรงบ้านโป่งแยก และขับต่อไปอีกประมาณ 6 กิโล เส้นทางช่วงนี้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะเป็นทางเข้าหมู่บ้านม้งถนนพอสวนกันได้ มีโค้งหักศอกแคบๆอยู่ประมาณ 2-3 จุดก่อนถึงยอดม่อนแจ่มแวะกราบลาศาลเจ้าหลวงคำแดง ที่อยู่ตรงจุดเริ่มเดินขึ้นยอดดอยหลวง แวะถ่ายภาพวัดถ้ำเชียงดาว

ทริปนี้ไปนอนชมดาว “บ้านระเบียงดาว” ที่พักซึ่งตั้งอยู่แนบชิดดอยหลวงเชียงดาว อ.เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ทางไปถ้ำเชียงดาว เป็นเส้นทางที่ชวนให้หลงไหล ผ่านถ้ำเชียงดาว คือทางไปบ้านระเบียงดาว จากถนนสายหลักถึงสีแยก เลี้ยวขวาจะไปตัวอำเภอเชียงดาว แต่เราจะเลี้ยวซ้ายขับเข้าไปจนถึงวัดถ้ำเชียงดาว ให้เริ่มต้นที่นี่เลยเลี้ยวขวาขับเข้าไปตามทางที่คดเคี้ยว ผ่านหน่วยพิทักษ์ป่าสบห้วยผาตั้ง – นาเลา ผ่านจุดเริ่มเดินดอยหลวงเชียงดาว-อ่างสลุง จนในที่สุดก็มาถึงบ้านระเบียงดาว ด้วยความลุ้นระทึก บีบแตตลอดเส้นทาง นั่งพักสักแปร๊ป ชาวเขาก็นำอาหารเย็นมาเสริฟ ส่วนอาหารเช้าของที่นี่เป็นข้าวต้มร้อนๆ กับกาแฟ โอวัลติน อากาศเย็นสบาบ และวิวที่เติมได้ไม่อั้น ค่าบริการนั้นจะคิดเป็นรายหัว ราคา 500 บาท สำหรับที่พัก 1 คืน พร้อมอาหาร 2 มื้อ

วัน ศ-ส-อา ส่วนใหญ่จะเต็ม เพราะบ้านระเบียงดาว โฮมสเตย์  ทำให้ความสุขของการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติและหมู่บ้านเล็กๆ กลางป่าใหญ่แห่งนี้ ไม่มีที่ไหนเหมือน การได้นอนโอบล้อมธรรมชาติ ตื่นเช้าเราลืมตาเห้นทิวเขา
เห็นปุยเฆม อากาศเย็นสบาย เติมเต็มกับธรรมชาติ สูดอากาศดี 100%

ราคาที่พัก 500/คน มีอาหารมื้อเย็นและเช้า ขนาดของบ้านพักมีทั้งแบบนอนพักได้ 2 คน 4 คน ถ้า หลังใหญ่ 6 – 8 คน และมีจุดตั้งแคมป์เล็กๆ ส่วนอากาศยามค่ำคืนหน้าฝนก็เย็นๆ แต่ไม่ถึงกับหนาวมาก

ออกจากที่พัก บริเวณโดยรอบหมู่บ้านมีร้านกาแฟ นั่งจิบพร้อมวิวแบบไม่เหมือนใคร พูดเลยคุ้มค่าที่ขึ้นมา เหมาะเหลทอเกินกับการหลีกหนีจากความแออัดในเมืองหลวง เห็นดอยหลวงชัดมาก ไปเที่ยวกับเพื่อนคือที่สุดแล้ว สภาพอากาศวันนั้นค่อนข้างอบอ้าวไปสักนิด

ที่ตั้ง บ้านระเบียงดาว โฮมสเตย์
เลขที่ 55 หมู่ 10 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
บ้านระเบียงดาว เบอร์ โทร 089-998-0712 , 089-903-0083

เว็บไซต์ bannrabeangdao.blogspot.com
Facebook :  บ้านระเบียงดาว

 

 

คิดแต่ไม่เคยพูด อารัช วิทยากรณ์ มิสเตอร์ซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์

อารัช  วิทยากรณ์
กับช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่

สืบเนื่องจากภาพ profile ในชุดกีฬา Fitsuits  แห่งหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Tototravel ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับหนุ่มหล่อที่ร้อนแรงที่สุด  วันนี้มีโอกาสมาพร้อมกับบทสัมภาษณ์ของหนุ่มหล่อกระชากใจสาวหลายคน

อารัช  วิทยากรณ์ หนุ่มเข้มลูกครึ่ง ไทย-ปากีสถาน อายุ 24 ปี  ปัจจุบันเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอล ฝ่าฟันภารกิจสุดหิน ที่เป็นบททดสอบทั้งความฟิตและสติปัญญา จนในที่สุด อารัช วิทยากรณ์ สอบผ่านแบบไม่ธรรมดาจริงๆ พิสูจน์แล้วว่ามีความคูลที่สุด จนคว้าตำแหน่ง…ชนะเลิศอันดับ1
Mister supranational thailand 2017

Aratch Wittayagone
Cr: ภาพ FB: Aratch Wittayagone

การประกวด Mister Supranational 2017 เวทีเฟ้นหาสุดยอดนายแบบระดับโลก ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 โดยในปีนี้ทางกองประกวด ทำการเก็บตัวทำกิจกรรมต่างๆ ถึง 2 ประเทศยุโรป ได้แก่ ประเทศโปแลนด์ และ ประเทศ
สาธารณรัฐเช็ก เก็บตัวและร่วมทำกิจกรรมกับกองประกวด ระหว่างวันที่
20 พย. 60 – 2 ธค. 60  รอบตัดสินวันที่ 2 ธค. 60 ที่ประเทศโปแลนด์  ร่วม
กับสุดยอดนายแบบระดับโลก จากประเทศต่างๆ 60 กว่าประเทศ โดยผู้ชนะจะได้เงินรางวัลกว่า 10,000 USD และลงนามทำสัญญาเป็นนายแบบกับกองประกวดอีก 1 ปี

Mister Supranational Thailand 2017 เริ่มเป็นที่รู้จักจากการประกวดเวทีประกวดหนุ่มหล่อที่ร้อนแรงที่สุดและเป็นเวทีค้นหาหนุ่มหล่อทั่วไทยซึ่งเป็นความลับของมนต์เสน่ห์  ที่น่าค้นหา ล่าสุด อารัช  วิทยากรณ์ เตรียมพร้อมสำหรับการ ประกวดที่จะเดินทางไปประกวด Mister Supranational 2017 ที่ประเทศโปแลนด์  ในเดือน พฤศจิกายน 2560

Aratch Wittayagone
Bright Yonng Thing

วันนี้เราจะมาดูกันว่า อารัช  วิทยากรณ์การเตรียมตัว ฟิตร่างกาย และเตรียมอะไรไปโชว์เพื่อเผยแพร่ชื่อเสียงประเทศไทยสู่เวทีนานาชาติ มีแนวคิดและคำแนะนำดีๆ อะไรบ้างที่จะมาฝากแฟนเพจ toptotravel ให้ได้ติดตามกัน และการเดินทางก้าวต่อไปของ อารัช กำลังจะเริ่มขึ้น  ไม่มีใครน่าจับตามองไปกว่า มิสเตอร์ซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์  คนนี้อีกแล้ว

หนุ่มหล่อเข้มลูกครึ่งไทย- ปากีสถาน มีภูมิลำเนา จากจังหวัดเชียงใหม่ อายุ 24 ปี เจ้าของความสูง 190 ซม. สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาธุรกิจ
การบินมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต วิทยาเขตหัวหิน เป็นบุตรชายคนโต ของนายเพิ่มศักดิ์ วิทยากรณ์ ปศุสัตว์จังหวัดลำปาง อารัช จะต้องบินไปร่วมประกวดสุดยอดนายแบบโลก Mister Supranational 2017 กลางเดือนนี้

คุณอารัช วิทยากรณ์  ตัวแทนประเทศไทย ไปประกวด Mister Supranational 2017

การประกวดครั้งแรก เวที 2015  เมื่อก่อนไม่เคยรู้ตัวเลยว่า  ประสบการณ์จากกองประกวดทำให้เราสนุกมากกับการประกวด เอาจริงเพราะผมขี้อายมาก เคยเป็นแต่นักกีฬา  สำหรับเวที เมนส์เฮลธ์ กายส์ ชาลเลนจ์ 2015 ทำให้ได้มีโอกาสเรียนรู้การทำงาน และเพราะเป็นงานที่ไม่น่าเบื่อ ทำให้
รู้สึกตื่นเต้น ท้าทายในการทำงานต่างๆ  ซึ่งจากประสบการณ์ หลายครั้งผมโชคดีมากที่ได้รับโอกาสดีดีเข้ามาจากผู้ใหญ่ และผู้สนับสนุนหลักต่างที่
กรุณาให้ความเมตตา  ดีใจที่สุดกับโอกาสที่ได้รับ  การที่ผมติด 1 ใน 10
เวที Men’s Health Guys’ Challenge 2015  ซึ่งการเฟ้นหาที่สุดแห่งสุภาพบุรุษสุขภาพดีล้วนๆ  ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของงานที่ผมรัก    -อารัช กล่าว

วันนี้สำหรับใครที่อยากรู้จักตัวตนหนุ่หล่อวัย 24 ปีคนนี้ มาติดตามคำถามแบบ เปิดใจ  อารัช  วิทยากรณ์ มิสเตอร์ซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ โดยเขาเล่าว่า ตัวเองชอบเล่นกีฬาตั้งแต่อายุ  10 ขวบ เติบโตและเรียนหนังสือจบพอจบมัธยมต้น เขาย้ายไปเรียนโรงเรียนใหม่  ตอนนั้นตั้งใจเรียนมากขึ้น พร้อมกับหารายได้พิเศษไปด้วย โดยเริ่มต้นจากการถ่ายโมษณา จนปัจจุบันเรียนจบปริญาตรี

ด้วยความที่ อารัช วิทยากรณ์ เป็นคนชอบที่ชอบการออกกำลังกาย และเป็นนักกีฬาของมหาวิทยาลัย คุณสมบัติที่สำคัญและความฝันอยากเป็นนักกีฬาชอบเล่นกีฬา เล่นกีฬาได้เกือบทุกชนิด

สนุกกีฬาที่ชอบได้ทำงานและการรับหน้าที่ในวันนี้  เป็นสิ่งที่ผมทำจะไปได้ไกลที่สุด นับเป็นครั้งแรก  ที่ผมจะเป็นตัวแทนของประเทศไทย เดินทางไปประกวด Mister Supranational 2017 ที่ประเทศโปแลนด์

ถ้าถามว่าแนวทางการทำงานที่สำคัญคือเป็นอีกครั้งที่ได้เปลี่ยนคาแรกเตอร์ ขยันให้มาก อดทนให้เยอะ และทำให้เราหลุดจากกรอบที่เคยทำ  ถ้าอยากเติบโตต้องลงแข่ง ต้องพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง   และสิ่งที่มีค่ายิ่งกว่ารางวัล คือประสบการณ์ เพราะในทุกการแข่งขันจะได้รับโจทย์ที่ท้าทาย
สิ่งนี้เองที่จะบังคับให้เราลองของใหม่และกล้าหยิบมาใช้ในการทำงาน คิดบวก การคิดลบกับสิ่งใดๆ ตามมันไม่ได้ทำให้สุขภาพจิตเราดีขึ้นเลย แต่หากเจอปัญหาให้เราคิดว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป และอย่าไปใส่ใจ หลายๆครั้งเรื่องที่ดูซีเรียส
อารัช วิทยากรณ์ มักมองกลับกันเป็นเรื่องตลก

หากเรามองมันเป็นเรื่องปรกติ มันก็จะเป็นเรื่องปรกติ คือ  ดูแล้วผู้ชายคนนี้พูด ชีวิตคิดบวก ตั้งเป้าหมาย ตั้งใจทำไม่ต้องรีบร้อน สักวันผลลัพท์อาจจะมาเกินความคาดหมาย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ต้องยิ้มสู้ และอดทนให้เยอะและทำงานตรงหน้าให้ดีที่สุด  –อารัช  วิทยากรณ์

นอกจากจะเป็น มิสเตอร์ซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ ยังขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายที่รักสุขภาพ ออกกำลังกายฟิตหุ่นอยู่เสมอ มีวิธีการดูแลตัวเองอย่างไรหลายคนเวลาที่ต้องควบคุมน้ำหนัก บางคนเลือกอดอาหาร คุณอารัช มีความเห็นในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง?

การอดอาหารทำให้น้ำหนักลดลงในช่วงแรก ระบบเผาผลาญพัง ลดก็จริงนะแต่พอกลับไปกินเหมือนก็ยิ่งอ้วน นน. หนักกว่าเดิม เราไม่ควรที่จะอดอาหารแต่ เราสามารถกำหนดได้เลยว่ามื้อนี่จะทานอาหารชนิดไหน ปริมาณเท่าไหร่ น้ำหนักกี่กรัม เพราะเราสามารถชั่งวัตถุดิบได้ตามความต้องการทั้ง แป้ง เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ ผักและอาหารชนิดอื่นๆเพื่อที่เราจะได้รู้ปริมาณที่เราทานในแต่ละมื้ออย่างแม่นยำแค่เลือกทานแล้วหันมาออกกำลังกายหุ่นดีขึ้น แถมสุขภาพดีครับ

เชื่อได้ว่าหลายคนคงมองภาพผู้ชายคนนี้มุมมองในการการทำงาน และการบริหารจัดการชีวิต และแง่คิดที่สะท้อนถึงสังคมไทยในปัจจุบัน สามารถเป็นแรงบันดาลและกำลังใจให้กับหลายๆคน สู่การเปลี่ยนแปลงได้ ด้วยการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้เป็น Version ที่ดีที่สุด
ติดตามและให้กำลังใจ อารัช วิทยากรณ์  ตัวแทนประเทศไทย ไปประกวด Mister Supranational 2017 Toptotravel ต้องขอขอบคุณ เทคนิคและแชร์ข้อคิดดีๆ จาก น้องอารัช วิทยากรณ์ ตำแหน่ง ชนะเลิศอันดับ1  Mister Supranational Thailand2017 ให้เราได้รู้จักและยังเป็นตัวแทนนายแบบไทยไปประกวดยังต่างประเทศ

ติดตามข่าวสารข้อมูลการประกวดได้ที่
http://www.mistersupranational.com/
https://www.facebook.com/MisterSupranationalThailand/
https://www.facebook.com/MisterSupranational/

ถูกใจฝากแฟนคลับแชร์วนไปได้เลยนะค่ะ
#MisterSupranationalThailand2017

ความลับที่ซ่อนอยู่ใน ออร่าพลัส

ดื่มแล้วรู้เลยมันจะเนียนๆ เพราะอะไร
ลองอ่านดู!

เพื่อนสาวบอกว่า ออร่า พลัส ดังมากและนี่เป็นของฝากจากเวียงจันทน์ ที่ได้รับความนิยมสุดๆ ณ. เวลานี้  เคยลองและมองหายาสตรีที่จะมาช่วยบำรุงให้เลือด ลม เลือกอาหารการกินยาก อะไรทำให้ผิวแย่? กินอะไรทำให้ผิวสวย?เพื่อให้มีสุขภาพดี พร้อมผิวพรรณสวย เปล่งปลั่ง ขาวเนียนสดใสจากภายใน สู่ภายนอก เอาแบบว่าที่ยิ่งกินยิ่งสุขภาพผิวดี แค่วันละ 1-2 ช้อน กินกับอะไรก็ได้ กินกับใครก็ได้ง่ายๆ สะดวกดี เพราะทุกเดือนอาการที่แสดงออกในผู้หญิงก่อนการมีประจำเดือน และอาการที่เกิดขึ้น มีลักษณะแตกต่างกันแต่ละเดือน เดือนนี้ปวดหัว เดือนหน้าปวดท้อง ท้องเสีย หรือปริมาณของประจำเดือนไม่แน่นอน อาจจะมากหรือน้อย บางอาการทำให้ร่างกายผอมแห้ง ไม่ค่อยสดชื่น ไม่มีแรง โลหิตแห้ง โบราณเรียกว่า เลือดไม่งาม จะแสดงออกทางใบหน้า  ทำให้หน้าตาหมองคล้ำ มีสิวฝ้า กระ ยาน้ำออร่า พลัส ช่วยได้

ได้รับของฝาก ของดี มาก่อนดื่มยาน้ำสตรี ต้องมาทำควารู้จักกัยคำว่า เลือดลมสตรีกันก่อน ในภาษาโบราณจึงไม่ได้หมายความว่า การที่เลือดไม่ดีนั้น คือ การที่ร่างกายขาดธาตุเหล็ก เหมือนอย่างแผนปัจจุบัน และยาบำรุงเลือดในแพทย์แผนไทย ไม่ได้เป็นยามีธาตุเหล็กอย่างแผนปัจจุบันด้วยค่ะ

ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับสุภาพสตรี ช่วยต่อต้านความเสื่อมแห่งวัย รูปร่างและสุขภาพดี จากภายใน สดใสสู่ภายนอก แก้ปัญหาสำหรับผู้หญิง เช่น การ ปวดท้องระหว่างมีประจำเดือน และประจำเดือนมาไม่สม่ำ เสมอ สีผิวหมองคล้ำ แห้ง หยาบกร้าน เป็นฝ้า กระ จุดด่างดำ หน้าอกหย่อนคล้อย ภาวะตกขาว ช่องคลอดไม่กระชับ แห้ง แสบ หมดอารมณ์ทางเพศ อาการวัยทอง ปวดศรีษะ ร้อนวูบวาบ และปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย ปัญหาเหล่านี้ล้วนมาจากการขาดสมดุลในระบบฮอร์โมนเพศ

รับรู้ได้เลยถึงความพรีเมียมสวยจากข้างใน ปลอดภัยด้วยสมุนไพรธรรมชาติ

สมัยโบราณมีการใช้ยาสำหรับสตรี กันอย่างแพร่หลาย ความลับที่ทุกคนอยากรู้ กับแบรนด์สุดปังยาบำรุงสำหรับสตรีมีคุณสมบัติในการบำรุงเลือดบำรุงร่างกายเจริญอาหารแก้ประจำเดือนไม่ปกติและเป็นยาแทนการอยู่ไฟขับน้ำคาวปลาช่วยฟอกโลหิต ที่ได้จากการทานเบนโลคือผิวพรรณผุดผ่องค่ะรู้สึกว่าตัวเองมีน้ำมีนวลมันช่วยให้เจริญอาหารด้วยส่วนประกอบสำคัญวัตถุดิบหลัก ส่วนผสมของสมุนไพรกว่า 17 ชนิด ส่วนผสมที่มีคุณประโยชน์
หลากหลายชนิด

ว่านชักมดลูก
มีสรรพคุณที่ใช้รักษาอาการประจำเดือนมาไม่ปกติ ตกขาว กระชับช่องคลอด กระชับหน้าท้อง ที่หย่อนยานจากการคลอดลูก และช่วยกระชับกล้ามเนื้อให้ดูฟิตตลอดเวลา

ตังกุย 
สรรพคุณช่วยขยายหลอดเลือด ลดการบีบตัวและลดหดเกร็งของมดลูก

ฮอร์โมนแอนโดเจน
เป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการสร้างน้ำมันใต้ผิวหนัง พบมากในเพศชาย แต่ก็พบได้ในผู้หญิงเช่นกัน เมื่อฮอร์โมนนี้มีมากเกินไป หรือวัยเริ่มมีประจำเดือน จะพบปัญหา “สิวจากฮอร์โมน”

ดอกคำฝอย ที่สาวๆ ปลาบปลื้มช่วยบำรุงโลหิต ช่วยขับระดูโลหิตประจำเดือน แก้ประจำเดือนคั่งค้างมาไม่เป็นปกติ ช่วยระงับอาการปวดประจำเดือน ช่วยแก้อาการปวดมดลูก และลดอาการอักเสบของมดลูกช่วยรักษาอาการไข้หลังคลอด

ผงไข่มุก
สมุนไพรจีนที่ใช้ในศาสตร์การแพทย์แผนจีนมาหลายพันปี ปลอดภัยสูง มีทั้งรูปแบบกิน และทา สรรพคุณในการบำรุงผิวพรรณ ทำให้ผิวเรียบ เนียน เปล่งปลั่ง มีออร่า ช่วยชะลอริ้วรอย ป้องกันผิวหนังเหี่ยวย่น ช่วยในการผลัดเซลล์และสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดความมันบนใบหน้า

สำหรับวิธีการ  ดื่มยาน้ำออร่าพลัส ดื่มง่ายในแบบของเค้า มีกลิ่นหอมของสมุนไพร หรือกลิ่นคล้ายๆ ยาธาตุน้ำแดง ดื่มรู้สึกว่าดีงาม ที่สุดของที่สุด
คือเหมือนยาขับลม เย็นชุ่มคอ ดื่มแล้วรู้สึกเลยว่าสวยจากภายในปลอดภัยด้วยสมุนไพรธรรมชาติแท้ๆ แบบนี้นี่เอง  ด้วยคุณประโยชน์ของยาบำรุงโลหิตสตรีแผนโบราณที่ช่วยเรื่อง ผิวสวย กระจ่างใส มีออร่า ดูแลร่างกาย ส่งเสริมให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศให้เข้าสู่ภาวะปกติ ตรงใจตรงที่ลดปัญหาสตรีวัยทอง ขับของเสีย ที่คั่งค้างภายในร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณมดลูก ป้องกันและลดปัญหาการปวดประจำเดือน และช่วย
ให้ช่องคลอดยกกระชับ ลดอาการตกขาว ลดปัญหา กลิ่นไม่พึงประสงค์
ช่วยปรับผิวให้ขาวเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ

เคล็ดลับการทานให้ได้ประโยชน์สูงสุด
สำหรับสาวๆ ที่เริ่มทานยาน้ำสตรีอยากเน้นประโยชน์จริงๆ จากยาน้ำ ออร่าพลัส  Aura Plus  ขอแนะนำว่า  ควรรับประทานติดต่อกัน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ จะช่วยให้ได้ผลเร็ว (เมื่อเปิดขวดแล้ว ควรแช่ไว้ในตู้เย็นเท่านั้น)  อย่าลืม เขย่าขวดก่อนรับประทาน ดื่มเช้า-เย็น หลังอาหารโลด เพราะยาน้ำ  Aura Plus  ส่วนผสมเข้มข้นกว่า และ คัดสรรเฉพาะเพื่อแก้ปัญหาของ
ผู้หญิงอย่างแท้จริง รสชาติดีกินง่าย จึงทำให้เห็นผลไว ผู้ใช้ต่างบอกต่อ หน้าใส ร่างฟิต อกฟู ดูดีมี ออร่า

หมายเหตุ : เป็นไข้, ตัวร้อน, เด็ก , สตรีมีครรภ์ ไม่ควรรับประทาน
หรือให้หยุดยาไว้ก่อน

ขอปิดท้ายด้วยเรื่องภายในของผู้หญิงกับผิวพรรณ สำหรับผลลัพธ์ที่เห็นผลเอาจริงๆ เราเป็นคนดูแลตัวเองตลอด ดื่มน้ำค่อนข้างเยอะ และหาเวลาออกกำลังกายสม่ำเสมอ  ทาครีมบำรุงและกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิวหน้าทุกวัน  ผิวตัวชุ่มชื่นและลื่นปรื้ดอยู่แล้ว ไม่งั้นคงตอบให้ไม่ได้จริงๆ ว่าดื่มยาน้ำ  Aura Plus  สูตรนี้แล้ว ผิวหน้าสดใสจากภายในสู่ภายนอก  ตอบโจทย์และยังช่วยแก้ปัญหาสำหรับผู้หญิงโดยตรง  และลดอาการ ปวดท้องระหว่างมีประจำเดือน เพราะประจำเดือนเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการสร้างน้ำมันใต้ผิวหนังช่วยให้ผิวเปลี่ยนแปลงได้ขนาดไหน ส่วนตัวมองว่าอยาน้ำสำหรับสตรีทั่วไป ถ้าทานในปริมาณที่เหมาะสมจะเป็นตัวช่วยให้เรามีสุขภาพผิวและสุขภาพกายที่ดีไปนานๆ

สำหรับน้ำยา ออร่า พลัส  Aura Plus  สูตรนี้ ดีเด่นกว่าอื่นเดิมตรงที่มีสารส่วนผสมของสมุนไพรกว่า 17 ชนิด เป็นส่วนผสมที่มีคุณประโยชน์ต่างๆ มาช่วยบำรุงในกลุ่มให้ความชุ่มชื่นของผิว  ต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงค่อนข้างเหมาะ
กับคนที่มีกังวลในเรื่องความเสื่อมตามวัย หรือเริ่มเลยคำว่าวัยรุ่นตอนปลายมาแล้ว ส่วนผสมที่เค้าใส่มาคือส่วนประกอบที่เรามีตามธรรมชาติแต่จะลดลงเมื่อสาวอายุเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ดังนั้น  Aura Plus จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ร่างกายเสื่อมตามวัยช้าลง ส่วนผสมช่วยบำรุงร่างกาย แต่ก็ต้องอย่าลืมเรื่องการทานอาหาร ดูแลตัวเองด้านอื่นตามไปด้วย คือ จะมาหวังแต่ว่า ดื่มน้ำยาออร่าพลัส เสริมแล้วแต่ใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ไม่เลือกทานอาหาร ไม่ออกกำลังกาย ไม่พักผ่อนให้เพียงพอ
มันก็ไม่ได้ช่วยให้สาวๆ ดูดึขึ้นได้ทันตาเห็นอยู่แล้ว ง่ายๆ กันเลย ถ้าตอนนี้อายุยังน้อยอยากบำรุงร่างกาย ลดเรื่องการปวดประจำเดือน กังวลเรื่องฝ้า
กระ ริ้วรอยจากอายุที่เพิ่มขึ้น  ประโยชน์จัดเต็มกว่ายาสตรีอื่น แน่นอน

สรุปสั้นๆ เอาว่า น้ำยาออร่าพลัส เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้หญิงที่ต้องการดูแลตัวเอง  ด้วยสูตรสมุนไพรแท้ๆ กว่า 17 ชนิด รสชาติทานง่าย ทานหลังกับ อาหาร หรือ ก่อนอน  ไม่ทำให้เจริญอาหาร ไม่ต้องกลัวอ้วน
เป็นแบรนด์จาก ประเทศเพื่อนบ้าน ที่หลายคนรู้จักกันดี ยาน้ำออร่า พลัส ยังได้รับ Good Manufacturing Practice เรียกย่อว่า GMP คือการปฏิบัติที่ดีในการผลิตอาหาร เป็นระบบประกันคุณภาพที่มีการปฏิบัติในการผลิตอาหาร เพื่อให้ เกิดความปลอดภัย เชื่อถือได้มีมาตรฐานการผลิต แต่อาจจะหาซื้อยากสักนิด

#สวยจากข้างในปลอดภัยจากสมุนไพรธรรมชาติ

 

 

เกิดปรากฎการอันน่ามหัศจรรย์ งานเททองหล่อพระพิฆเนศ

โทนี่ นักเต้นอมิตตาทาทายัง บอกบุญ

พร้อมแล้วสร้าง พิธีหล่อพระพิฆเนตร (ปางลีลาประทานพรเงินล้าน ๘ พระกร) พร้อมคณะศิษย์ คุณโทนี่ นักเต้นอมิตตาทาทายัง ณ วัดท่าไม้ จังหวัดสมุทรสาคร

พระพิฆเนศ หรือ พระพิฆเนศวร ก็มีความหมายว่า เทพผู้ปัดเป่าอุปสรรค “พระพิฆเณศ”เชื่อกันว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จ


 

ต้องอึ้งกับแรงศรัทธาในพระพุทธศานา และแวดวงการบันเทิงของไทย คุณธวัชชัย โอสถานนท์ หรือคุณโทนี่ นักเต้นอมิตตาทาทายัง ชื่อดัง ประธานในพิธี ผู้ศรัทธาในองค์พระพิฆเนศ ซึ่งนับเป็นพิธีกรรมที่สร้างความเป็นสิริมงคลอย่างมาก คุณโทนี่ นักเต้นอมิตตาทาทายัง บูชาพระพิฆเนศเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ  ซึ่งการจัดงาน ที่วัดท่าไม้  สมุทรสาคร เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม ติดแม่น้ำท่าจีน ธรรมชาติร่มรื่น  Toptotravel เพิ่งไปครั้งแรกประทับใจมากและจะกลับไปอีกแน่นอน

ปรากฎการอันน่ามหัจรรย์งานเททองหล่อพระพิฆเนศปางลีลาประทานประทานพรเงินล้าน8พระกร

โดยภายในงานพระครูปลัดอุเทน สิริสาโร เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ เป็นประธานในพิธีเททองหล่อใหญ่จัดสร้างองค์พระพิฆเนศปางลีลาประทานพรเงินล้าน 8พระกร  ในวันอาทิตย์ที่  24.ก.ย. 2560 ที่  วัดท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยมี ท่านญาณภัทร ภททจาโร สถานปฎิบัติธรรมอารามผาหมื่น จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยคุณธวัชชัย โอสถานนท์ หรือ คุณโทนี่  นักเต้นอมิตตาทาทายัง ประธานในพิธี ได้ร่วมทำพิธีมหาบุญใหญ่ปลดปล่อย 2199 ชีวิตพร้อมลอยกระทงเปิดวังองค์พญานาค จุดเทียนเปิดทรัพย์ที่แม่น้ำท่าจีน และพิธีขอขมากรรมต่อครูบิดามารดาครูอาจารย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์  เป็นการเปิดจิตเพื่อรับบุญใหญ่ก่อนพิธีเททองหล่อใหญ่จัดสร้างองค์พระพิฆเนศปางลีลาประทานพรเงินล้าน8พระกร โดยในงานเริ่มจาก

การทำพิธีบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 16ชั้นฟ้า 15ชั้นดิน

พิธีเททองพระใหญ่ จุดเทียน
9 นพเคราะห์ บูชาเทียน เชิญพระพิฆเณศมาประทับ ณ.องค์หล่อทอง

พิธีเคราะห์เศียรพระพิฆเณศ

จบพิธีด้วยการรับพรพร้อมรับของที่ระลึก

สำหรับความเชื่อพระพิฆเนศมหาสำเร็จ สามารถขจัดอุปสรรคทั้งปวงให้หมดสิ้นไป กิจการทุกอย่างจึงสำเร็จลุล่วง ถือว่าเป็นพุทธคุณรอบด้านครอบจักรวาล ในด้านการทำมาค้าขายให้โชคให้ลาภ เรียกโชคลาภ หรือ ลูกค้าเข้าร้าน ทำมาค้าขายเจริญก้าวหน้า ทำธุรกิจเจริญรุ่งเรือง เจริญขึ้นไปไม่มีเสื่อม มั่งคั่งมั่นคง ปกป้องคุ้มครองป้องกันภัย ทำให้ร้ายกลับกลายเป็นดี
ใครพบเห็นก็บังเกิดความรักใคร่เอ็นดู หากบูชาดีจะมีแต่โชคมีลาภไม่ขาด ค้ำคูณเจ้าของ มีฤทธิ์ทำให้เกิดโชคลาภน้อยใหญ่ บันดาลทรัพย์สินเงินทองจากหน้าที่การงาน เป็นที่รักเมตตาแก่ผู้พบเห็น มีโชคบอกลาภอยู่เป็นประจำ ช่วยเหลือกิจการหน้าที่การงานต่างๆ ปรับดวงเสริมดวงแก้ดวงตกต่ำ ได้เป็นอย่างดี

คุณธวัชชัย โอสถานนท์ หรือคุณโทนี่ นักเต้นอมิตตาทาทายัง เททองหล่อใหญ่จัดสร้างองค์พิฆเนศปางลีลาประทานพรเงินล้าน8พระกรประสบความสำเร็จทุกวันนี้ได้เพราะมาจาการ บูชาพระพิฆเนศมาตลอดหลายสิบปี อย่างต่อเนื่อง บรรยากาศงานเททองหล่อ วัดท่าไม้ ริมแม่น้ำท่าจีน เกิดปรากฎการณ์ที่มหัศจรรย์ ก่อนเริ่มทำทำพิธี มีลมแรงมาก ฝนตั้งเค้าจะตกหนัก เริ่มพิธีก็มีก้อนเมฆลอยตัวรวมกันลงไปที่พระอาทิตย์ทำให้เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ

โอมศรีศรี คเณษายะ มาร่วมสร้างพระพิฆเณศกับครูโทนี่ ธวัชชัย โอสถานนท์ เททองหล่อ มหาเทพ พระพิฆเนศปางลีลาประทานพรเงินล้าน 8 พระกร ผู้ยิ่งใหญ่ใน 3 ภพ สร้างพ่อเททองพิธีบรวงสรวง เททองหล่อท่านพ่อคุรุเทพมหาคเนษศวร ปางนาถราถ ลีลาประทานทรัพย์ ณวัดท่าไม้ อานิสงส์การสร้างผลบุญที่ได้นี้มันต่อเนื่อง เมื่อมีคนไปกราบไปไหว้หลวงพ่อที่หนึ่ง สายบุญเหล่านั้นก็จะไหลไปยังเทพบุตรเทพธิดาอย่างต่อเนื่องเหมือนสายน้ำตก แกก็ลองนึกดูเถิดว่าวัน ๆ หนึ่งมีคนไปกราบหลวงพ่อเหล่านั้นมากเพียงไร คณะใดกลุ่มใดมีศรัทธาจะสร้างเพื่อเป็นกุศลต่อตนเองและส่วนรวม

วัดท่าไม้ ริมแม่น้ำท่าจีน อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านที่ประชาชนนิยมเดินทาง
เข้ามาเคารพสักการะนั้น ได้แก่ ราหู กวนอิม พระพิฆเนศ พระอินทร์ พระพรม
เจ้าแม่ตะเคียน นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมในวันสำคัญทางศาสนา สำหรับถาวรวัตถุที่สำคัญภายในวัดท่าไม้ ณ ปัจจุบัน มีดังนี้

พระอุโบสถ มีพระพุทธชินราชจำลองหน้าตัก 69 นิ้ว เป็นพระประธานในพระอุโบสถ รวมทั้งมีพระเชียงแสน พระสุโขทัย และพระอู่ทอง ร่วมประดิษฐานในพระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ มีพระพุทธหิรัญราช เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องกษัตริย์ปางประทานพร เป็นพระประธานในศาลาการเปรียญ ศาลาชินบัญชร เป็นสถานที่รองรับพุทธศาสนิกชนในการปฏิบัติธรรมรักษาศีลเจริญสติปัฏฐานสี่ ศาลาบูรพาจารย์ เป็นศาลาที่ประดิษฐานพระเกจิดังในเมืองไทย ซึ่งทางวัดท่าไม้ได้อัญเชิญประดิษฐานไว้ 4 รูป

1. หลวงปู่ทวด วัดช้างให้
2. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
3. พระไพโรจน์วุฒาจารย์ (รุ่ง ติสสโร) เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำท่าจีน
4. หลวงพ่อยี

ศาลาเทวาพิทักษ์ เป็นที่ประดิษฐานพระราหูเป็นศาลาประกอบพิธีกรรมการสวดดาวนพเคราะห์ย้ายรวมถึงใช้เป็นศาลาอเนกประสงค์ต่างๆ ศาลาพระธรรมจักรแก้ว ศาลาเจ้าแม่กวนอิม เป็นที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม ศาลาพระแม่สิริมหามายา หอฉัน หอกลอง หอระฆัง หอวัตถุมงคลและของที่ระลึก

สำหรับผู้ที่สนใจร่วมบูชาเพื่อเป็นกุศล ในวันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน 2560
ณ วัดท่าไม้  ( งานเริ่มเวลา 14.00.น  เป็นต้นไป-เวลา 16.00.19  นาที)
ตรงกับเดือนเกิดของพระองค์ท่าน วันดี ฤกษ์มงคล สวรรค์ เทพเทวดา อํานวยอวยพรชัยให้ชีวิตของทุกคนที่มาร่วมงาน พบความสําเร็จความรุ่งเรือง
ความรํ่ารวย ความรุ่งโรจน์ตลอดไป

ประธานในพิธี  คุณโทนี่ นักเต้นอมิตตาทาทายัง

บุญกุศลอันเป็นต้นบุญเชื่อมต่อด้วยสะพานบุญไปถึงทุกๆ ท่าน ขอปฏิหารย์จงบังเกิดแก่ทุกท่าน แสงแห่งพุทธบารมี เปิดทางชีวิต  เปิดดวงชะตา
ให้รุ่งเรือง รุ่งโรจน์ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติ ด้วยเทอญ สาธุ

ไหว้พระอิ่มบุญ แล้วก็มาอิ่มท้อง มาเลี้ยงปลา”ทานอาหาร”ไหว้พระสวดมนต์”มาปฏิบัติกรรมฐาน”มาสร้างบารมี “ทำทาน “พักผ่อนจิตใจมุมสงบ”  เพื่อเราจะได้สติ “เกิดปัญญา เดินถึงจุดมุ่งหมายด้วยกัน

โดยประธานในพิธี  คุณโทนี่ นักเต้นอมิตตาทาทายัง กราบนมัสการครูบาญานภัทร ขอบพระคุณ ครอบครัวนักเรียนทุกท่าน ประชาชน ได้ร่วมพิธีทองทองหล่อครั้งนี้ ขอบคุณดารานักแสดงเด็ก และสื่อมวลชนทุกท่านที่ร่วมทำบุญเททองหล่อและเพื่อน Fc ตลอดไป  จนถึงกาลยามิตรทั้งหลาย
มีแต่ความเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป

ร่วมสร้างบุญใหญ่ทันใจ!!ทำบุญแผ่นทอง เงิน นาค หรือก้อนทอง ตามกำลังศรัทธา ณ. วัดท่าไม้ วันอาทิตย์ 24 กันยายน 2560

ขอขอบคุณข้อมูลจากวัดท่าไม้ : wattamai.org
ขอขอบคุณประธานในพิธี:
คุณธวัชชัย โอสถานนท์  หรือคุณโทนี่ นักเต้นอมิตตาทาทายัง และครอบครัว