Category Archives: Travel

Travel-Food-Drink-Party

เส้นทางรอยไหม ใยฝ้าย เปิดตำนานผืนผ้าเชื่อมโยงชุมชน 4 จังหวัด

ถัก ทอ สายใย ตำนานแห่งผืนผ้า

มนต์เสน่ห์ล้านนาตะวันออก สี่จังหวัดภาคเหนือตอนบน ชูมรดก ภูมิปัญญา
ผ้าล้านนาตะวันออก เปิดเส้นทางท่องเที่ยว รอยไหมใยฝ้ายเชื่อมโยงชุมชน 4  จังหวัด เพื่อดึงนักท่องเที่ยวสัมผัสอารยธรรมผ้าล้านนา ภายใต้คอนเซ็ป

แพร่ :   “ซิ่นงาม นามจกเมืองลอง”
น่าน :  “เสน่ห์ซิ่นน่าน สืบสานงานเครื่องเงิน”
พะเยา :   “พะเยาผ้าทอมรดกแห่งภูมิปัญญา”
เชียงราย : “อารยธรรมผ้าล้านนาตะวันออก ผ้าทอพื้นถิ่นไทยสู่สากล

กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอารยธรรมผ้าล้านนาตะวันออก เส้นทางรอยไหมใยฝ้าย (แพร่ น่าน พะเยาเชียงราย)ทั้งนี้เพื่อพัฒนาสินค้าและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผ้าทอท้องถิ่นผลิตภัณฑ์ชุมชนอันเกิดจากมรดกภูมิปัญญาของชาวล้านนาตะวันออก

บรรยากาศการร่วม  บทสนทนาระหว่าง Miss universe thailand และดารานักแสดง  เชื่อมโยงชุมชน 4  จังหวัด ในงานแถลงข่าว เส้นทางรอยไหมใยฝ้าย ล้านนาตะวันออก สวยขนาดไหนสัมผัสใกล้ชิดเธอได้ในงาน เส้นทางรอยไหม ใยฝ้าย  ของ  จังหวัดแพร่, น่าน, พะเยา, เชียงราย  กันยายน 2560
Miss Universe Thailand 2017 คุณมารีญา พูลเลิศลาภ ในงานเเถลงข่าว

กล่าวถึงการได้รับคัดเลือกให้เป็นพรีเซนเตอร์ของโครงการ ว่า ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ  โครงการ ทำให้เห็นว่ากว่าจะมาเป็นผ้าทอล้านนาในแต่
ละผืนนั้น ไม่ได้มีแค่กระบวนการผลิตที่ละเอียดทุกขั้นตอนเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องราวของผืนผ้าแต่ละชนิด แต่ละแบบที่มีความประวัติความเป็นมาแตกต่างกันมีความหมายที่สะท้อนในลวดลายของผืนผ้า ซึ่งเกิดจากการสั่งสมภูมิปัญญาของชาวล้านนาตั้งแต่เมื่อครั้งอดีต ดังนั้น  การนำเอาผ้าทอล้าน
นามาต่อยอดสู่การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ย่อมทำให้คนในรุ่นปัจจุบันมี
เปิดโอกาสเดินทางไป

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ  ตอนบน 2 โดย สำนักงานการเที่ยวและกีฬาจังหวัดแพร่ ชูมรดกภูมิปัญญาผ้าล้านนา สู่การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ชวนสัมผัสอารยธรรมผ้าล้านนาตะวันออก  บนเส้นทางรอยไหมใยฝ้ายใน 4 จังหวัด
ช่วงโลว์ซีซั่น ทั้งผลิตสารคดีท่องเที่ยวประกวดแข่งขันออกแบบสินค้าท่องเที่ยวและเครื่องแต่งกายจากผ้าพื้นเมือง พร้อมจัดเวทีแฟชั่นโชว์อัตลักษณ์ความงดงามของผ้าทอล้านนาตะวันออกสู่สากล นำโดย มารีญา พูนเลิศลาภ Miss Universe Thailand 2017

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์  ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ นางนาถนรี  ธนะปัญโญ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแพร่  นายเสริฐ ไชยานันตา  ท่องเที่ยวและกีฬา
จังหวัดน่าน  นายคมสันต์  สุมะนาถ  ท่องเที่ยวและกีฬา  จังหวัดพะเยา นางสาวปราณปริยา พลเยี่ยม  ท่องเที่ยวและกีฬา  จังหวัดเชียงราย
นางสาวเอิบลาภ  ศรีภิรมย์  ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแพร่  รวมทั้  งน.ส. มารีญา พูนเลิศลาภ Miss Universe Thailand 2017  น.ส. สุภาภรณ์  ฤทธิพฤกษ์  รอง Miss Universe Thailand 2017
และ นายพุทธิพงษ์ คล้ำจีนภาณุวงศ์  ร่วมกันแถลงข่าว การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอารยธรรมผ้าล้านนาตะวันออก เส้นทางรอยไหมใยฝ้าย  (แพร่ น่าน พะเยา เชียงราย) ตามโครงการส่งเสริมประชาสัมพันธ์และการตลาดท่องเที่ยว ณ. ลาน Event Hall The Mall 3 สาขา  รามคำแหง
จ. กรุงเทพมหานคร

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า
การท่องเที่ยวนับเป็นอุตสาหกรรมที่มีบทบาท  ต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยปัจจุบันได้มีนำเสนอจุดแข็งของไทย คือ  วิถีไทย อันเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากประเทศอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความเป็นไทยแท้ ดั้งเดิม จึงมีการต่อยอดนำเสนอสินค้าการท่องเที่ยวที่ผูกโยงกับวิถีไทย  ที่ลงลึกมากขึ้น เพื่อนำรายได้และความเข้มแข็งสู่เศรษฐกิจฐานราก ทำให้คนท้องถิ่นเกิดความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยว  นำไปสู่ความยั่งยืนของเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวในอนาคต  ซึ่งกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน  2 ประกอบด้วย จังหวัดแพร่ น่าน พะเยาและเชียงราย หรือกลุ่มจังหวัด  ล้านนาตะวันออก สนับสนุนการท่องเที่ยวทั้งเชิง ประวัติศาสตร์  ศิลปวัฒนธรรม  และนิเวศ มีการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ ชุมชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว และการส่งเสริมการตลาดแต่ที่ผ่านปริมาณนักท่องเที่ยวจะมีมากเฉพาะในฤดูกาลท่องเที่ยว หรือ ไฮซีซั่น
(High Season) เท่านั้น

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 มีความหลากหลายทางด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม กลุ่มชาติพันธุ์ การท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม  และการท่องเที่ยวชุมชนที่เกิดขึ้นมาใหม่อีกหลายชุมชน ดังนั้นกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 โดย สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแพร่ จึงได้ดำเนินโครงการ
ส่งเสริมประชาสัมพันธ์และการตลาดท่องเที่ยวขึ้น โดยกำหนดจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอารยธรรมผ้าล้านนาตะวันออก เส้นทางรอยไหมใยฝ้าย (แพร่ น่าน พะเยาเชียงราย)ทั้งนี้เพื่อพัฒนาสินค้าและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผ้าทอท้องถิ่นผลิตภัณฑ์ชุมชนอันเกิดจากมรดกภูมิปัญญาของชาวล้านนาตะวันออก นำมาส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวทางด้านศิลปวัฒนธรรมในช่วงโลว์ซีซั่น (Low Season) หรือ นอกฤดูกาลท่องเที่ยว กระตุ้นนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเยือน  จังหวัดแพร่ น่าน พะเยาและเชียงราย เพิ่มมากขึ้น อันจะนำไปสู่ การเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวสู่ชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป

นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่  กล่าวว่า  ภายใต้โครงการ
ดังกล่าวมีกิจกรรมประกอบด้วย การจัดทำสารคดีท่องเที่ยวทางโทรทัศน์ “เส้นทางรอยไหมใยฝ้าย”  นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวในแหล่งผ้าทอแต่ละจังหวัด และเชื่อมโยงกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ดิจิตอลทีวี28 ช่อง 3 (SD) การจัดประกวดแข่งขัน  ออกแบบสินค้าทางการท่องเที่ยวและเครื่องแต่งกายโดยใช้ผ้าพื้นเมืองพร้อมทั้งยังมีกำหนดจัดเวทีแสดงแฟชั่นโชว์ผ้าทอล้านนาตะวันออก ใน 4 จังหวัด

จังหวัดแพร่ : งาน “ซิ่นงาม นามจกเมืองลอง” และงาน “Thailand Indigo Fashion Week” วันที่ 1-3 ก.ย. 2560

จังหวัดน่าน : งาน “เสน่ห์ซิ่นน่าน สืบสานงานเครื่องเงิน” วันที่ 8-10 ก.ย. 2560

จังหวัดพะเยา : งาน “พะเยาผ้าทอมรดกแห่งภูมิปัญญา” วันที่ 15-16 ก.ย. 2560

จังหวัดเชียงราย : งาน “อารยธรรมผ้าล้านนาตะวันออกผ้าทอพื้นถิ่นไทยสู่สากล”   วันที่ 22-24 ก.ย. 2560

ทั้งนี้ โครงการได้รับเกียรติจาก น.ส. มารีญา พูนเลิศลาภ  Miss Universe Thailand 2017 ตัวแทนสาวไทยที่จะไปร่วมการประกวด Miss Universe 2017 ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกาในเดือนพฤศจิกายนนี้มาเป็นพรเซนเตอร์ (Presenter)  เพื่อนำเสนออัตลักษณ์ความงดงามของผ้าทอล้านนาตะวันออกสู่สากลโดย น.ส. มารีญา  พูนเลิศลาภ เข้าร่วมในพิธีเปิดงาน และเดินแบบแฟชั่นโชว์  ในชุดผ้าทอ ล้านนาตะวันออก  บนเวทีของทั้ง 4  จังหวัด
อีกด้วย

ด้าน นางนาถนรี  ธนะปัญโญ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแพร่ กล่าวเพิ่มเติมถึงการประกวดแข่งขัน การออกแบบสินค้าทางการท่องเที่ยวและเครื่องแต่งกายโดยใช้ผ้าพื้นเมืองในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2  หรือรางวัล Eastern Lanna Design Award 2017  เป็นความร่วมมือกับสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ  ที่จัดขึ้นเพื่อพัฒนาสินค้าและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ชุมชน  จากมรดกทางภูมิปัญญา  ผ้าทอท้องถิ่นโดยเปิดโอกาสให้ผู้สนใจร่วมส่งผลงานชิงเงินรางวัลรวมกว่า 8 แสนบาท โดยรูปแบบการประกวดผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วยประเภทชุดแต่งกายจากผ้าพื้นเมือง เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายสำหรับสุภาพบุรุษหรือสตรี (อย่างใดอย่างหนึ่ง) จำนวน 1 ชุด ประเภทสินค้าทางการท่องเที่ยวจากผ้าพื้นเมือง เช่น ของที่ระลึก ของฝาก ชนิดใดก็ได้ จำนวน 1 ชิ้นซึ่งผู้สมัครต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไปสัญชาติไทย และสามารถเข้าร่วมทุกกิจกรรมของโครงการทั้งนี้กำหนดเปิดรับสมัครส่งผลงานตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 18 สิงหาคม นี้

โดยส่งผลงานด้วยตนเอง หรือส่งทางไปรษณีย์ไปได้ที่ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอซอยตรีมิตร ถนนพระรามที่ 4 แขวงอพระโขนงเขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110

สนใจส่งผลงานออนไลน์ทาง
Facebook fanpace : เส้นทางรอยไหมใยฝ้ายผ้าล้านนาตะวันออก หรือ Link การสมัคร

การจัดกิจกรรม  ส่งเสริมการท่องเที่ยวอารยธรรมผ้าล้านนาตะวันออก
เส้นทางรอยไหมใยฝ้าย (แพร่ น่าน พะเยา เชียงราย) ภายใต้โครงการส่งเสริมสัมผัสเรียนรู้ถึงวิถีชีวิตของคนในชุมชนที่เป็นแหล่งผลิตผ้าทอล้านนาสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ลึกซึ้งและยังได้ร่วมกันอนุรักษ์สืบสาน
ผ้าทอล้านนา

ประชาสัมพันธ์และการตลาดท่องเที่ยว
ณ ลาน Event Hall The Mall รามคำแหง 3  จ.กรุงเทพมหานคร

#TheMallThailand #MissUniverseThailand #เส้นทางรอยไหมใยฝ้าย

เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท มัลดีฟเมืองไทย เปิดตัวที่พักโซนใหม่

The Day of Adventure
@ Lake Heaven Resort

ผ่านไปแล้วอย่างยิ่งใหญ่และสุดประทับใจ กับงาน รับลมริมเขื่อนที่ เลค เฮฟเว้น รีสอร์ท (Lake Heaven Resort)สถานที่พักผ่อนตากอากาศที่บรรยากาศดีในทุกฤดู ด้วยใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ  ไม่นานนักได้อารมณ์  โรแมนติกนิดๆ

Lake Heaven Resort จัดงานขอบคุณสื่อมวลชน ประจำปี 2560 เมื่อวันที่ 25-26 กรกฎาคม 2560  ทีมงาน Lake Heaven  สร้างสรรค์ความบันเทิงหลากหลายภายใต้บรรยากาศโลกแห่งความสุขสีฟ้า ประชันชุดราตรีสีฟ้า กับปาร์ตี้โฟมสุดสุดชิค   ในธีม   “Thank Press 2017…  BLUE  PARTY”
ของ  โรงแรม Lake Heaven Resort แบบโซนบนฝั่งที่พักสไตล์มัลดีฟ

เมื่อทีมสื่อมวลชน มาถึงทางเข้าที่พัก เลค เฮฟเว้น รีสอร์ท (Lake Heaven Resort) ได้ชมบรรยากาศที่เปรียบเสมือนมัลดีฟส์ในเมืองไทย มีทุ่นแบบมาตรฐานที่ช่วยให้ เรือนแพลอยบนผิวน้ำ  ได้อย่างมั่นคง แข็งแรง  และปลอดภัยมาก ที่พักทุกห้อง สามารถใช้ไฟฟ้าได้ ตลอด 24 ชั่วโมง มีน้ำสะอาดให้เราใช้ได้ตลอดเวลา

ครั้งนี้เราพักกันที่ ที่นี่  โรงแรมแบบโซนบนฝั่ง ที่พักสไตล์มัลดีฟ ในสวนใกล้ชิดติดธรรมชาติ กับความทรงจำ 2 วัน 1 คืน กับความลับน้อยที่เราคอยไปพบท่ามกลางโค้งน้ำที่สวยที่สุด ม่านหมอก แมกไม้ สายลม และ ขุนเขา ดีจังได้มาสัมผัสมหัศจรรย์ความสวยงามของธรรมชาติอันบริสุทธิ์ สะดวกสบายด้วยห้องพักเเบบบังกะโลที่เเยกเป็นหลังๆ เพื่อความเป็นส่วนตัวสูงสุด พร้อมให้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม ด้วยพื้นที่แบบเนินสูง ต่ำสลับกันไปมา มองเห็นวิวเขื่อนศรีนครินทร์  ต้นไม้ และหน้าผา ภูเขาอันสวยงาม ในแต่ละห้องประกอบไปด้วย 1 เตียงใหญ่ หรือในแบบ  2 เตียงเล็ก อีกทั้งแต่ละห้องยังมีห้องน้ำในตัว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกด้  วยชุดสุขภัณฑ์ต่างๆ ไว้บริการอย่างครบครันเหมาะสำหรับการพักผ่อน แบบส่วนตัว หรือการพักผ่อนแบบหมู่คณะ ซึ่งทางโซนใหม่ของรีสอร์ท  มีสระว่ายน้ำแล้ว  สำหรับบางท่านที่ไม่กล้าลงเล่นน้ำในเขื่อน

โรงแรมที่มีสวนน้ำ โดยแบ่งให้เลือกถึง 3 แบบ การตกแต่งห้องพักเป็นหลังๆ ในรูปแบบวิลล่า เหมือนประเทศมัลดีฟดื่มด่ำไปกับธรรมชาติรอบๆ ที่พัก และวิวภูเขา ล้อมรอบด้วยผืนน้ำกว้าง เขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี ทำให้เรารู้สึกราวกับมาพักที่มัลดีฟจริงๆ เลยค่ะ  มีโซนพักผ่อนที่เหมาะกับการเดินเล่น ถ่ายภาพสวยๆ ถูกออกแบบมาได้อย่างโดดเด่นและสง่างาม ใครมาเห็นต้องอดใจไม่ไหว หยิบกล้องขึ้นมารัวชัตเตอร์แบบไม่ยั้ง

ได้รับการรังสรรค์แนวคิดในการตกแต่งจากธรรมชาติที่มีอยู่รอบตัว และมีห้องประชุมสัมนาแบบสมบูรณ์แบบ  สำหรับหลากหลายกิจกรรมที่ต้องการ การเดินทางมาพักผ่อน และยังได้สนุกสนานไปกับกิจกรรมสันทนาการที่ทางรีสอร์ทสไตล์มัลดีฟส์เมืองไทย รับรองสวยและบรรยากาศดีจนไม่อยากกลับเลย

เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท ประกอบไปด้วยที่พัก 2 โซน ด้วยกัน  คือ

โซนบนฝั่ง ที่พักสไตล์มัลดีฟ ในสวนใกล้ชิดธรรมชาติ
เล่นกิจกรรมเหนื่อยทั้งวัน เรามานอนพักผ่อนกันให้เต็มที่ พร้อมสระว่ายน้ำบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายภายในห้องพัก ห้องพักมี 2 แบบ บ้านราชาวดี(ทรงเหลี่ยม) และบ้านราชพฤกษ์(ทรงกลม) เดินลงไปพบกับ

โซนในน้ำ ที่พักสไตล์มัลดีฟ บนน้ำ
พร้อมเครื่องเล่นและกิจกรรมมากมาย สามารถโดดเล่นน้ำหน้าบ้านตัวเองได้เลย ถ้าจะนั่งเรือข้าม 5 นาที ไปก็จะเป็น เฮฟเว่น เบย์ รีสอร์ท

เฮฟเว่น เบย์ รีสอร์ท ที่พักบนน้ำใกล้ชิดธรรมชาติิอย่างแท้จริง
ด้านหน้าติดแผ่นน้ำด้านหลังติดภูเขา พร้อมเครื่องเล่นมากมายไม่แพ้ฝั่ง เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท บ้านพักเป็นแบบพัดลมมทั้งหมด สงบเหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง

นักท่องเที่ยวจะได้สนุกสุดเหวี่ยง!กับเครื่องเล่น Water Park ภูเขาจำลองสูง 5 เมตร สไลเดอร์น้ำ จักรยานน้ำ เจ๊ตสกี   เพิ่มเข้ามาอีก 2 ชิ้น   ได้แก่ บิ๊กสไลเดอร์อและเขาวงกตน้ำ เรียกว่าคุณ คุณพลาดไม่ได้ที่จะมาลองกันสักตั้งเลยทีเดียว ขอบอกว่ามันส์สุโค่ยกันเลยทีเดียว

มาชมบรรยากาศ Thanks Press At Lake Heaven Resort
มัลดีฟ  เมืองไทย อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี  โดยประธานกรรมการบริหาร ในเครือ ฟังก์ชั่น กรุ๊ป พร้อมคณะผู้บริหารในกลุ่มฟังก์ชั่น กรุ๊ป คุณวิกร ภูวพัชร์ เชิญคณะนักข่าวลงพื้นที่สัมผัสบรรยากาศพร้อมกันในงาน Thanks Press At Lake Heaven Resort  มัลดีฟ  เมืองไทย อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรีโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแนะนำและประชาสัมพันธ์ ที่พักโซนใหม่ของรีสอร์ทฯ ที่มีความเป็นส่วนตัว ใกล้ชิดธรรมชาติพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างมากมาย อาทิ สระว่ายน้ำ อ่างจากุซซี่ อาหาร และกิจกรรมมากมาย พร้อมเปิดตัวเครื่องเล่นใหม่ 2 ชิ้นขนาดใหญ่ และปลายปีนี้เตรียมพบกับ คอนเสิร์ตโอบสายน้ำกอดขุนเขาปี 2 กับ 4 ศิลปินชั้นแนวหน้าของเมืองไทย อ๊อฟ ปองศักดิ์ บอย Peacemaker ป้าง นครินทร์และ Moderndog

แพเปียก นักท่องเที่ยวทุกท่านได่ชมวิวทะเลสาปรอบเกาะเหนือเขื่อนศรีนครินทร์

 

คุณวิกร ภูวพัชร์ ประธานกรรมการบริหาร ในเครือ ฟังก์ชั่น กรุ๊ป

แดดร่ม ลมเย็น อยากออกไปเล่นเป็นธรรมดา ทีมงาน Lake Heaven
จัดกิจกรรมสนุกๆ สุดพิเศษที่ Water Par สื่อมวลชนได้ตะลุย   ผ่าด่านสุดมันส์ กับเครื่องเล่นต่างๆ ภายในรีสอร์ท ถือว่าหลากหลายนนี้เล่นกิจกรรมเหนื่อยได้ตลอดทั้งวัน

จุดเด่นของที่นี่คือ สไลเดอร์ สูงขนาด 12 เมตร/15 เมตร สำหรับกิจกรรมทางน้ำทั้งหมด ที่ไม่ใช้น้ำมัน ทางรีสอร์ทให้เล่นฟรี! เล่นได้ มั่นใจ ปลอดภัย มีทีมงานดูแลด้านความปลอดให้ตลอดทริป

อาหารค่ำคืนนี้  พร้อมปาร์ตี้โฟมจัดเต็ม ธีม   “Thank Press 2017  BLUE  PARTY”   พร้อมแจกของรางวัลมากมายจากเลค เฮฟเว้น รีสอร์ท   และ เครื่องสำอาง ISE Cosmetic (อิเซ่ คอสเมติกส์) พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่กันน้ำได้จริง! ลองแล้ว…เค้าออกแบบมาสำหรับสาวๆ ที่ชอบกีฬาทางน้ำ

ขอบคุณเรามานอนพักผ่อนกันให้เต็มที่เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท (Lake Heaven Resort) อากาศบริสุทธิ์ สูดเข้าเต็มปอด มีกิจกรรมทางน้ำสนุกๆ ให้เล่นเพื่อผ่อนคลายสมอง ส่วนเรื่องอาหารก็มีให้รับประทานทุกมื้อ เยอะมาก  หลากหลายเมนู  ตื่นเช้าคณะสื่อมวลชนร่วมกันใส่บาตรทำบุญ


ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ สไลเดอร์ สูง 12 เมตร สำหรับกิจกรรมทางน้ำทั้งหมด Lake Heaven Resort ให้เล่นฟรี!
Water Park ลุยกัน ผ่าด่านสุดมันส์

มาชม  2 เครื่องเล่นใหม่  บิ๊กสไลเดอร์  และ เขาวงกตน้ำพร้อมเส้นทางท่องเที่ยวผจญภัยของรถ ATV และ เรือลาก Banana Boat  ที่จะพาคุณลุยไปสัมผัสสนุกสุดเหวี่ยง กับอีกด้านหนึ่งของชีวิต  ส่วนกิจกรรมอื่นๆ  ที่มีในรีสอร์ท สไตล์มัลดีฟได้แก่

ราคารถ ATV 250 บาท / 1 รอบ
Jet Ski 1,600 บาท / ชั่วโมง
เรือ Mini Boat 800 บาท/ ชั่วโมง
เรือลาก Banana Boat, โดนัท ( เรือ AB ) 1,600 บาท / ชั่วโมง
ขี่ม้า 200 บาท / รอบ
นวดแผนไทย 450 บาท/ 2 ชั่วโมง
จักรยาน  60 บาท / ชั่วโมง
คาราโอเกะ คอมพิวเตอร์  2,500 บาท
แคมป์ไฟสุดเกร์  1,000  บาท

ความสุขแทนคำขอบคุณจากใจ  สำหรับมิตรภาพของสื่อมวลชน  ที่มอบให้กับ เลค เฮฟเว้น รีสอร์ท (Lake Heaven Resort)  เป็นความทรงจำที่ไม่มีวัน
ลบเลื่อนจากใจ

พลาดไม่ได้เลยนะ เครื่องเล่นภายในรีสอร์ท ถือว่าหลากหลาย กับรีสอร์ทสวย ที่พักดีดี เครื่องเล่นสุโค่ย

ผ่านไปแล้วอย่างยิ่งใหญ่และสุดประทับใจ
ขอขอบคุณผู้บริหาร และ ทีมงาน Lake Heaven Resort
และทีมงาน เครื่องสำอาง ISE Cosmetic (อิเซ่ คอสเมติกส์)
ที่ให้การดูแลสื่อมวลชน ตลอดทริปแบบยิ้มกว้างกันทุกท่าน

ขอบคุณภาพสวยๆ จาก สื่อมวลชนทุกท่าน

ติดต่อสอบถาม: ติดตามกิจกรรมดีดี
เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
โทร. 08-4387-6771, 08-4387-6773
www.lakeheaven.com

3 สถาบัน วิ่ง-ปั่นปันน้ำใจ 3 Gether Run & Ride for Life

การรวมตัวครั้งแรกและครั้งสำคัญ
ของ 3 สถาบันการแพทย์

จัดงานพิธีเปิดโครงการ 3 สถาบัน วิ่ง-ปั่นปันน้ำใจ 3 gether : Run&Ride for Life  ด้วยการรวมตัวครั้งแรกและครั้งสำคัญของ 3 สถาบันการแพทย์ ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์,  คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อ
ผู้ป่วยยากไร้ใน 3 ภูมิภาค ซึ่งกิจกรรมทั้ง 7 วัน  รวมระยะทางกว่า 2,700 กิโลเมตร  เพื่อรณรงค์ให้ประชาชน  เห็นความสำคัญของการวิ่ง หรือ  ปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง และได้ร่วมกันทำความดี ด้วยการรณรงค์รับบริจาคเงินตลอดเส้นทาง เพื่อนำรายได้ทั้งหมดไปใช้สำหรับผู้ป่วยในแต่ละภูมิภาค

โครงการ “3 สถาบัน วิ่ง-ปั่นปันน้ำใจ 3 gether : Run & Ride for Life”
จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-28 กรกฎาคม 2560

โดยตัวแทนของทั้ง 3 สถาบันจะเริ่มต้นออกวิ่งพร้อมกัน ในวันที่ 22 กรกฏาคม 2560 ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร แล้วมุ่งหน้าสู่ 3 สถาบันการแพทย์ใน 3 ภูมิภาคของประเทศไทย โดยสายเหนือมุ่งหน้าสู่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สายตะวันออกเฉียงเหนือมุ่งหน้าสู่มหาวิทยาลัยขอนแก่น และสายใต้มุ่งหน้าสู่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

โดยกำหนดสิ้นสุดกิจกรรม  ในวันที่ 28 กรกฏาคม 2560 ที่สถาบันแพทยศาสตร์ในจังหวัดสงขลา จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดขอนแก่น

รศ.นพ. พุฒิศักดิ์ พุทธวิบูลย์ คณบดีคณะแพพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

รศ.นพ. พุฒิศักดิ์ พุทธวิบูลย์ คณบดีคณะแพพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ป่วยโรคยากและซับซ้อน ใน 14 จังหวัดภาคใต้ มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งต้องใช้ทุนทรัพย์ในการรักษาที่ค่อนข้างสูง จึงส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและครอบครัวที่เพิ่มมากขึ้นตามระยะเวลาการรักษาตัว “อาคารเย็นศิระ” จึงเกิดขึ้น เพื่อรองรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ ซึ่งตอนนี้อาคารเย็นศิระ 1 – 2 รองรับผู้ป่วยและครอบครัวได้ประมาณ วันละ 500 คน แต่ด้วยจำนวนผู้ป่วยที่มากขึ้นเกินที่ศักยภาพของทั้ง 2 อาคารจะรับได้ เงินบริจาคจากโครงการที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ทางคณะแพพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จึงตั้งใจสมทบร่วมสร้าง อาคารเย็นศิระ 3” ให้แล้วเสร็จ ซึ่งจะรอรับผู้ป่วยและครอบครัวได้มากถึง 500 คนต่อวัน “เย็นศิระ” อาจไม่ใช่ที่ที่สะดวกสบาย แต่เป็นสถานที่พักพิง เป็นเหมือนบ้านอีกหลังที่พร้อมจะพยาบาลผู้ป่วยและครอบครัวด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ ให้สมกับคำว่า ที่นี่ คือ “ที่ฝากชีวิตของคนในภาคใต้”

ศ.นพ. บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์  คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ทางด้าน  ศ.นพ. บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์  คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า เงินบริจาคที่ทางคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จะได้รับในครั้งนี้ ทางเราจะนำไปสร้างศูนย์ในการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองและผู้ป่วยระยะท้ายของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (CMU Palliative Care Center) เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งและโรคเรื้อรัง ที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมทั้งจัดตั้งโครงการธนาคารอุปกรณ์ สำหรับให้ผู้ป่วยที่ต้องดูแลแบบประคับประคองหรือโรงพยาบาลในเขต 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้มีโอกาสยืมไปใช้ในการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน รวมถึงการช่วยเหลือผู้ป่วยและครอบครัวในด้านค่าใช้จ่ายการเดินทางนำผู้ป่วยกลับไปดูแลระยะท้ายของชีวิตที่บ้าน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตด้านอื่น ๆ และจัดการฝึกอบรมพัฒนาแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครชุมชน ให้มีความรู้และทักษะในการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองและผู้ป่วยระยะท้าย ซึ่งจะนำมาสู่คุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยและครอบครัวต่อไป


รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวในฐานะที่เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญในการจัดโครงการนี้ว่า การร่วมมือของ 3 สถาบันในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะพัฒนาวงการแพทย์ในเขตภูมิภาคให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งในส่วนของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ตั้งใจนำเงินบริจาคจากโครงการไปใช้พัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของระบบบริการทางการแพทย์ให้สามารถดูแลผู้ป่วยที่มีความยุ่งยากซับซ้อนได้ลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคมของชาติได้ อีกทั้งจะพัฒนาเครือข่ายผู้ดูแลผู้ป่วย ทางทีมแพทย์ พยาบาล เภสัชกรและทีมวิชาชีพให้มีศักยภาพที่สูงขึ้นมีความสามารถดูแลผู้ป่วยในทุกระดับได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนอีกด้วย

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร ร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดงานพิธีเปิดโครงการ “3 สถาบัน วิ่ง-ปั่นปันน้ำใจ 3 gether : Run&Ride for Life” งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-28 กรกฏาคม 2560

สำหรับผู้ที่สนใจ ร่วมบริจาคได้ตลอดเส้นทางที่ขบวนวิ่ง/ปั่นมุ่งหน้าสู่จุดหมาย 3 ภูมิภาค และ สามารถบริจาคได้ที่
ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 641-3-009595
ชื่อบัญชี : 3 สถาบันแพทย์
วิ่ง- ปั่น ปันน้ำใจ เพื่อผู้ยากไร้ / 3 gether: Run & Ride for Life

ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของโครงการ
“3 สถาบัน วิ่ง-ปั่นปันน้ำใจ 3 gether: Run & Ride for Life”
https://www.facebook.com/3getherRunRideforLife

ผู้ชนะการประกวดภาพถ่าย จังหวัดสมุทรสงคราม

ภายใต้โครงการเที่ยวสุขใจ วิถีชุมชน สมุทรสงคราม เมืองสายน้ำ  สามเวลา

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม ร่วมกับ สมาพันธ์สมาคมการถ่ายภาพแห่งประเทศไทยและ  PHOTOTECH   ประกาศผลรางวัลผู้ชนะการประกวดภาพถ่าย

โครงการประกวดภาพถ่าย จ.สมุทรสงคราม  หัวข้อ  ”เมืองสายน้ำสามเวลา”

นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลการประกวดภาพถ่ายจังหวัดสมุทรสงคราม

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  (ททท.)  ได้ดำเนินการตามแผนการตลาดการท่องเที่ยว ปี 2560 ภายใต้แนวคิด  เมืองต้องห้ามพลาด

เพื่อส่งเสริมการเดินทาง  ท่องเที่ยวภายในประเทศ เป็นการประชาสัมพันธ์และกระตุ้นการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เมืองสายน้ำสามเวลา

คำนิยามของ  สายน้ำสามเวลา  คือ วิถีชีวิตของคนที่นี้ใช้สายน้ำในการดำเนินชีวิต   และที่นี่  มีสามอำเภอ คืออำเภอเมือง อำเภออัมพวา และอำเภอบางคนทีจังหวัดสมุทรสงคราม    เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีทางเลือกในการเดินทางท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ไม่ให้เกิดการกระจุกตัวของการท่องเที่ยว  ในจังหวัดหลัก

นางอินทิรา วุฒิสมบูรณ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม

นางอินทิรา วุฒิสมบูรณ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม  (สมุทรสงคราม  สมุทรสาคร)   เปิดเผยว่า   การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม ร่วมกับบริษัทมีเดีย เน็ทเวิร์ค จำกัด , สมาพันธ์สมาคมการถ่ายภาพแห่งประเทศไทย , ชมรมถ่ายภาพสมุทรสงคราม กำหนดจัดกิจกรรม  การประกวดภาพถ่าย  ในจังหวัดสมุทรสงคราม หัวข้อ  เมืองสายน้ำ…สามเวลา ซึ่งในเวลาเช้า ตักบาตรพระสงฆ์ , เวลากลางวัน เที่ยวตลาดน้ำ-ตลาดบก ไหว้พระทางน้ำ หรือล่องเรือนวด , เวลาเย็น-ค่ำ  ล่องเรือชมหิ่งห้อย   ในโครงการเที่ยวสุขใจ  วิถีชุมชน สมุทรสงคราม เมืองสายน้ำสามเวลา ตามแผนการตลาดของสำนักงาน ประจำปี  ๒๕๖๐   กลยุทธ์ที่ ๓    กระจายพื้นที่ท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด
เมืองต้องห้ามพลาด

โครงการ ประกวดภาพถ่ายจังหวัดสมุทรสงคราม หัวข้อ “เมืองสายน้ำสามเวลา” มีช่างภาพ ได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งจังหวัดสมุทรสงครามเป็น ๑ ใน ๑๒ เมืองต้องห้าม…พลาด   มีผู้สนใจส่งภาพถ่ายเข้าประกวด จำนวน ๗๔ คน มีภาพถ่ายส่งเข้าประกวด จำนวน ๓๒๕ ภาพ ซึ่งแต่ละภาพ
มีความสวยงามที่ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน หลักเกณฑ์การตัดสิน ๕ ประการ ดังนี้

๑. สวยด้วยแสง บรรยากาศสภาพแวดล้อมมีความเหมาะสม และมีการแสดงออกซึ่งความสวยงามของสถานที่

๒. แรงด้วยสี อารมณ์ และสีสันของภาพที่ถ่ายทอดออกมา
อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจในการต้องการเดินทางท่องเที่ยว

๓. ดีด้วยองค์ประกอบ มีความครบถ้วนองค์ประกอบภาพ
ตามหลักการวิจิตรศิลป์

๔. ตอบโจทย์ได้ มีความสอดคล้ององค์ประกอบภาพถูกต้อง
ตามหัวข้อการประกวด คือ เที่ยวสุขใจ วิถีชุมชน สมุทรสงคราม
เมืองสายน้ำ…สามเวลา

๕.ใช้ในการประชาสัมพันธ์ทางด้านการท่องเที่ยวได้ ซึ่งสามารถเผยแพร่
ต่อสาธารณชน ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ   ในการเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดสมุทรสงคราม

รางวัลชนะเลิศการประกวดภาพถ่าย คุณอำนาจ  ประเสริฐเขียว   ชื่อภาพ ใส่บาตรพระ

เป็นการกระจายพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวไปยังชุมชนต่างๆในจังหวัดสมุทรสงคราม ก่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนเพิ่มมากขึ้น และทาง ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม ได้เห็นความสำคัญและต้องการต่อยอดการประชาสัมพันธ์ให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ทั้งจากคนในท้องถิ่น จังหวัดใกล้เคียง และนักท่องเที่ยวทั่วไป รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการรับรู้และเข้าใจในอัตลักษณ์ของการเป็น “ เมืองสายน้ำสามเวลา ”  ของจังหวัดสมุทรสงครามซึ่ง
มีผลทำให้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต่อไป

โครงการ ประกวดภาพถ่ายจังหวัดสมุทรสงคราม หัวข้อ
เมืองสายน้ำสามเวลา” มีช่างภาพ ได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยผู้ส่งภาพเข้าประกวดจำนวน 74 ท่าน  (กทม. 28  ปริมณฑลและต่างจังหวัด 46 )

จำนวนภาพรวมทั้งหมด 325 ภาพ  ประเภทภาพแบ่งเป็น 4 หัวข้อ

1.ภูมิทัศน์  115 ภาพ

2.สถาปัตยกรรม  82 ภาพ

3.วัฒนธรรมประเพณี  27 ภาพ

4.วิถีชีวิต 100 ภาพ

  1. อื่น ๆ 1 ภาพ

คณะกรรมการตัดสินภาพ หัวข้อ เมืองสายน้ำสามเวลา

ประธานจัดงานการประกวดฯ

คุณอินทิรา วุฒิสมบูรณ์   ผู้อำนวยการสำนักงานสมุทรสงคราม ( ททท. )
ประธานการตัดสินภาพถ่าย    

คุณสวัสดิ์  ปฏิภาณประเสริฐ ประธานสมาพันธ์สมาคมการถ่ายภาพแห่งประเทศไทย

คณะกรรมการตัดสิน    

คุณสุรพล   สุภาวัฒนกุล
ผู้ชำนาญการด้านภาพถ่าย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท )

คุณสมุทร  ชูสกุล  ประธานชมรมถ่ายภาพสมุทรสงคราม

คุณเกรียงจิตร  มิตรยอดวงศ์  บรรณาธิการฝ่ายกิจกรรม PHOTOTECH

รางวัลชนะเลิศการประกวดภาพถ่าย

คุณอำนาจ  ประเสริฐเขียว   ชื่อภาพ ใส่บาตรพระ
“ใส่บาตรพระ” รางวัลชนะเลิศ ประกวด  เมืองสายน้ำสามเวลา
เงินรางวัล ๒๕,๐๐๐ บาท พร้อมถ้วยรางวัล

รางวัลชนะเลิศ อันดับ ๑
คุณกมล ชัยมงคลสวัสดิ์   ชื่อภาพ ตลาดน้ำโบราณ
รางวัลชนะเลิศ อันดับ ๑ ประกวด ”เมืองสายน้ำสามเวลา”
เงินรางวัล ๑๕,๐๐๐ บาท พร้อมถ้วยรางวัล

รางวัลชนะเลิศ อันดับ ๒
คุณวินนิวัตร ไตรตรงธนรัตน์  ชื่อภาพ  มนต์เสน่ห์อัมพวา
รางวัลชนะเลิศ อันดับ ๒ ประกวด ”เมืองสายน้ำสามเวลา”
เงินรางวัล ๑๐,๐๐๐ บาท พร้อมถ้วยรางวัล

รางวัลชมเชย ๕ รางวัล รับประกาศนียบัตร พร้อมเงินรางวัล ๑,๐๐๐ บาท

รางวัลชมเชย คือ คุณศรนนท์  สวงโท  ชื่อภาพ เคี่ยวน้ำตาล

รางวัลชมเชย คือ คุณธนพงษ์  อระวีพร  ชื่อภาพ ดารารถราง

รางวัลชมเชย คือ คุณธีรธัช  โน๊ตศิริ  ชื่อภาพ สนุกสนาน

รางวัลชมเชย คือ คุณสุรีย์  พึ่งฉ่ำ  ชื่อภาพ ยามเย็นที่วัดบางกุ้ง

รางวัลชมเชย คือ คุณชัยวัฒน์  กัณหดุล  ชื่อภาพ ตลาดน้ำยามค่ำ

จากการจัดกิจกรรมประกวดภาพถ่ายในปี ๒๕๖๐ ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากหลายภูมิภาคในประเทศไทย ซึ่งภาพที่ส่งเข้าประกวดในครั้งนี้ ทาง ททท.สำนักงานสมุทรสงครามจะได้นำภาพไปใช้ในการประชาสัมพันธ์และขยายผลทางด้านการตลาดต่อไปในอนาคต

การรับสมัครและตัดสินภาพส่งเข้าประกวด 

เปิดรับภาพ    วันที่ 15 เมษายน – 14 มิถุนายน 2560  ทั้งนี้ หากส่งทางไปรษณีย์ จะถือวันที่ประทับตราฯ  วันที่ 14 มิถุนายน 2560 เป็นสำคัญ

ตัดสินภาพ     วันที่ 22 มิถุนายน 2560
ณ กนกรัตน์ รีสอร์ท   จังหวัดสมุทรสงคราม

ประกาศผล  วันที่ 29 มิถุนายน 2560
www.phototechthailand.com
เฟสบุ๊ค:  นิตยสาร โฟโต้เทค

วันที่  19  กรกฎาคม  2560
ณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  (ททท.)

ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
สำนักงานสมุทรสงคราม จัดโครงการประกวดภาพถ่ายขึ้น พร้อมทั้งขอแสดงความยินดี  กับช่างภาพที่ได้รับรางวัล  โครงการประกวดภาพถ่ายจังหวัดสมุทรสงคราม หัวข้อ  เมืองสายน้ำสามเวลา  และขอเป็นกำลังใจให้ช่างภาพทุกท่านที่ร่วมส่งภาพเข้าประกวดในครั้งนี้

แถลงข่าวเวทีน้องใหม่ Mrs Noble Queen Thailand 2017

Mrs Noble Queen Thailand 2017
Press Conference 11 July 2017
@ Blúport Huahin Shopping Mall

เสร็จสิ้นไปแล้วสำหรับการแถลงข่าวการประกวด   Mrs Noble Queen Thailand 2017 เวทีน้องใหม่ล่าสุด เป็นเวทีที่ให้โอกาสสาวงามที่แต่งงาน
มีครอบครัวแล้วแต่ขอสานฝันอยากมีมงกุฎเกียรติยศและทำงานเพื่อสังคม พร้อมเป็นทูตวัฒนธรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองหัวหิน และเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดที่ต่างประเทศพร้อมเผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมไทย

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านที่ ณ. บริเวณ ลานชั้น 1
ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน ได้จัด งานแถลงข่าวงาน Mrs Noble Queen Thailand 2017  เวทีประกวดนางงามที่ให้โอกาสสาวงามกล้าแสดงออก พร้อมโกอินเตอร์  เป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวด  Mrs Asia Noble Queen International 2017  ในเดือน กันยายน ศกนี้ ที่ประเทศ เมียนมาร์ โดยคุณนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน เป็นประธานกล่าวเปิดงานแถลงข่าวฯ

นอกจากนี้ยังบรรดาแขกผู้ใหญ่ที่ได้ให้เกียรติมาร่วมงานและร่วมพูดคุยถึงการเตรียมความพร้อม  เพื่อรองรับสาวงามผู้เข้าประกวดฯ หลายท่านได้แก่ คุณมนตรี ชูภู่ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหัวหิน, คุณวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ และ คุณปรานอม
ชูภู่ ประธานชมรมหัวหินวูแมนคลับฯ  สมาชิกชมรมหัวหินวูแมนคลับฯ

คุณจริยา หรรษาวงศ์ ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน คุณสิฤดี ชูตระกูล ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมหัวหิน กู๊ดวิวฯ   คุูณ รัชดาภรณ์   เกตุเทศ กรรมการผู้จัดการที่รัก สตูดิโอ คุณณชพัฒน์  หอมขจร ในฐานะผู้อำนวยการ
กองการประกวด  Mrs Noble Queen Thailand 2017   นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก นางงามที่มีชื่อเสียงที่ได้มาร่วมงาน อาทิ  เช่น ดร. กันธิชา ฉิมศิริ Mrs International 2016 ในฐานะนางงามรุ่นพี่ที่ประสบผลสำเร็จมากมายทั้งเส้นทางนางงาม  และชีวิตส่วนตัว หมูทอง กมณชนก ก้านบัว มิสแกรนด์ชุมพร  2016  ใบหม่อน โสภิดา ศิริวัฒนานุกูล  มิสทิฟฟานี่ ยูนิเวิร์ส 2015
และ บรรดานางแบบกิติมศักดิ์ จากชมรมหัวหินวูแมนคลับอีกหลายท่าน
ที่ได้ให้เกียรติมาร่วมเดินแบบโชว์ชุดราตรีสวยอย่างสวยงาม ได้สร้างสีสันให้งานดำเนินไปอย่างสนุกสนานจากองเชียร์ที่มาจากครอบครัว  และญาติสนิทมิตรสหายของนางแบบ และประชาชนที่สนใจมาร่วมงานอย่างคับคั่ง รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอพปร.เมืองหัวหิน รวมทั้งเหล่าสปอนเซอร์ใจดีให้การสนับสนุนฯการประกวดอีกเป็นจำนวนมากและบรรดาสื่อมวลชนทั้งจากส่วนกลางและจากท้องถิ่นในหัวหินฯ

บรรยากาศงานงานแถลงข่าวเป็นไป สนุกสนานอบอุ่นและเป็นกันเองเมื่อพิธีกรกล่าวเปิดงาน พร้อมเชิญแขกกิติมศักดิ์ขึ้นกล่าวฯบนเวทีทั้ง 5 ท่าน ได้แก่ คุณนพพร  วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน คุณปรานอม  ชูภู่ ประธานชมรมหัวหินวูแมนคลับ ดร.กันธิชา ฉิมศิริ  Mrs International 2016 คุณมนตรี ชูภู่ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหัวหิน และ คุณวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ การเตรียมความพร้อมในการต้อนรับ

สาวงาม เพื่อประชาสัมพันธ์เมืองหัวหิน เมืองท่องเที่ยวชายทะเลชื่อดัง
ที่สามารถเที่ยวได้ครบทุกรสชาด  ทั้ง ทะเล ป่าเขา วัดวาอาราม อาหารทะเลที่สดอร่อย เมืองหัวหินมีครบครันให้เลือกสรรค์ การเตรียมความพร้อมของสาวงาม ความพร้อมของสถานที่เก็บตัวการประกวดเมืองหัวหิน  ที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย

นางงามรุ่นพี่อย่าง  ดร.ยุ้ย  นางงามผู้มากความสามารถ กล่าวให้กำลังใจสาวงามที่เข้าประกวด   แม้จะมีครอบครัวแต่ไม่ควรหยุดฝัน ควรทำตามความฝันของตัวเองและดูแลครอบครัวให้อบอุ่น  การจะพิชิตมงกุฎเวทีนานาชาติได้เราต้องพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ภาษามีส่วนสำคัญสำหรับการสื่อสารกับเพื่อนต่างชาติ  เมื่อประสบความสำเร็จ ได้มงกุฎ จะนำมาซึ่งความภาคภูมิใจได้ ไปประชาสัมพันธ์ประเทศชาติยังต่างประเทศ และโอกาสดีๆ ในชีวิตอีกมากมาย

ไฮไลท์ของการจัดงานแถลงข่าวฯ  ครั้งนี้คือ การเดินแบบจากนางงามและนางแบบแบบกิติมศักดิ์ นำทีมโดย ดร.   กันธิชา ฉิมศิริ Mrs International 2016 (คุณยุ้ย) หมูทอง กมณชนก ก้านบัว มิสแกรนด์ชุมพร 2016 ใบหม่อน โสภิดา ศิริวัฒนานุกูล มิสทิฟฟานี่ ยูนิเวิร์ส 2015 และน้องน้ำหวาน ปุญญาพร ราชฤทธิ์ นางสาวสมิหลาประจำปี 2560 โดยเดินแบบลงมาจาก  บันไดเลื่อนของห้างฯ พร้อมเดินต่อบนเวทีได้อย่างสวยงา งานนี้ทุกคนจัดเต็มทั้งเสื้อผ้า หน้าผม เครื่องประดับ เพื่อให้ได้ภาพข่าวที่สวยงามจะได้เผยแพร่ต่อไป โดยเฉพาะ  ดร.ยุ้ย Mrs International 2016 ที่ลงทุน  ขับรถสปอร์ตหรูคู่ใจ เฟอร์รารี่ 488  จากกรุงเทพฯ เพื่อมาร่วมงานโดยเฉพาะ  บรรยากาศยังดูดดื่มไปด้วยไวท์รสดี  พร้อมเสริ์ฟกับอาหารว่าง ซึ่งให้ทำให้บรรยากาศยามบ่ายกลับคึกคักขึ้นมาทันที

ดร.ยุ้ย Mrs International 2016

งานสำเร็จไปได้ด้วยดีในครั้งนี้คณะผู้จัดงาน”Mrs Noble Queen Thailand 2017 ” ขอกราบขอบพระคุณผู้ให้การสนับสนุนการประกวดฯ สปอนเซอร์ใจดีทุกๆท่าน หน่วยงานองค์กรของเมืองหัวหินทุกภาคส่วน และที่จะขาดไม่ได้คือศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน ห้างสุดหรูและใหญ่ที่สุดของเมืองหัวหิน ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการจัดงานแถลงข่าวฯและเวทีตัดสินรอบสุดท้าย

เวที  Mrs Noble Queen Thailand 2017 
เป็นเวทีประกวดที่เฟ้นหาสาวงาม อายุระหว่าง 27- 48 ปี  เพื่อค้นหาตัวแทนประเทศไทยในการประกวด “Mrs. Asia Noble Queen International 2017” ที่ประเทศเมียนมาร์ และเป็นทูตวัฒธรรมการท่องเที่ยวเมืองหัวหิน และงานสาธารณกุศลอื่นๆ พร้อมชื่อเสียงเกียรติยศอื่นๆ

อีกมากมากมาย

เงินรางวัลสำหรับเวที Mrs Noble Queen Thailand 2017

• เงินรางวัลผู้ชนะ 30,000 บาท มงกุฎประจำตำแหน่ง และสายสะพาย

• รองอันดับ1 เงินรางวัล 20,000 บาท มงกุฎประจำตำแหน่ง และสายสะพาย

• รองอันดับ2 เงินสด 10,000 บาท มงกุฎประจำตำแหน่ง และสายสะพายและรางวัลพิเศษอื่นๆมากมายจากสปอนเซอร์ที่ให้การสนับสนุน

สำหรับรอบตัดสินชิงมงกุฎจะจัดขึ้น  วันที่ 3 สิงหาคม 2560
เวลา 16.00 – 18.30  น. ณ บริเวณลานอเนกประสงค์ ชั้น1
ศูนย์การค้าบลูพอร์ต อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

เชิญชวนสาวงามมาสมัครกันเยอะๆ อย่าลืมมาให้กำลังใจผู้เข้าประกวดที่หนงานกันในบรรยากาศชิลๆ อากาศดีๆ ที่  ห้างบลูพอร์ต ใจกลางเมืองหัวหิน ช่วงนี้ยังรับสมัครสาวงามฯ จนถึงวันที่ 20 กรกฎาคม 60 นี้โอกาสดีมาถึงแล้ว

ข้อมูลรายละเอียดการรับสมัครติดตาม
เบอร์โทร คุณนุก 0649639679
FB: https://www.facebook.com/MrsNoble-Queen-Thailand-523470121…/

คุณณชพัฒน์  หอมขจร  (นุก)
โทร.  0649639679
#อย่าหยุดฝัน อายุมิใช่อุปสรรค #นางงามมีเกียรติยศ

แวะชิมริมทาง ฟังเพลงไพเราะ คอนเสริต์เทิดไท้องค์ราชัน

หน้าศาลากลาง  จังหวัดสมุทรสงคราม
เพชรสมุทรคีรี ตามรอยพระบาท
ตามศาสตร์พระราชา

ร่วมสร้างความประทับใจกับบทเพลงเทิดพระเกียรติฯตามรอยพระบาท ตามศาสตร์พระราชา นักท่องเที่ยวร่วมใจกันมาฟังเพลงอันทรงคุณค่า ในงาน เพชรสมุทรคีรี  3D Mapping เพชรสมุทรคีรี  ตามรอยพระบาท ตามศาสตร์พระราชา ณบริเวณหน้าศาลากลาง จังหวัดสมุทรสงคราม

วันนี้ toptotravel ได้รับเกียรติจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทริปครั้งนี้เราเดินทางไปยัง จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นจังหวัดในภาคกลางที่มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดของประเทศไทย

มาร่วมงานดนตรี คอนเสิร์ตเทิดไท้องค์ราชันย์ กลุ่ม  จังหวัดเพชรสมุทรคีรี ตามรอยพระบาท ตามศาสตร์พระราชา  3D MAPPING กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 จัดโดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ไปใช้ชีวิตแบบสโลว์ เที่ยวชิลล์ๆ นอนชิลล์ๆ ประหยัดงบในกระเป๋า แต่ได้ประสบการณ์ท่องเที่ยวเต็มเปี่ยม และยังได้สัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่น ใครกำลังมองหาที่เที่ยว
ใกล้กรุงเทพ เดินทางไปง่าย มีอะไรให้เที่ยวเยอะมาก  ลองแวะไปเที่ยว  จังหวัดสมุทรสงคราม  เมืองแม่กลอง ดินแดนหอยหลอดและปลาทู
แสนอร่อย

สัปดาห์นี้เราอยู่กันที่หน้าศาลากลาง จังหวัดสมุทรสงคราม โดยงานเริ่มตั้งแต่ 18.00  น. เป็นต้นไป  เข้าชมฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ  งานดีๆ ที่
ทุกท่านไม่ควรพลาด

หลายคนที่เบื่อกับการเที่ยวแบบขับรถไกลๆ เราเริ่มต้นการเดินทางจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ถ.เพชรบุรี  กรุงเทพ  มุ่งหน้า จ.สมุทรสงคราม 9 โมงครึ่งออกเดินทางเช้านี้รถค่อนข้างติดเป็นเรื่องธรรมดา ของวันหยุดยาวอย่างวันอาสาฬหบูชา ทุกคนมุ่งหน้าน่าจะไปเที่ยวทำบุญ รถเต็มถนนใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงครึ่ง กว่าจะถึงจุดหมายปลายทางที่ จ .สมุทรสงคราม สถานที่แรกที่เราจะไปเที่ยวชมกันสำหรับทริปนี้ คือ

เล่าอดีตผ่านพิพิธภัณฑ์บ้านเขายี่สาร
ติดกับวัดเขายี่สาร ตั้งอยู่ติดกับวัดที่อยู่บนภูเขาหิน เป็นภูเขาลูกเดียวของสมุทรสงคราม พิพิธภัณฑ์บ้านยี่สาร  เริ่มก่อตั้งราวปี พ.ศ. 2539 จากการที่ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งช่วยกันเก็บรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ โบราณวัตถุจากวัดเขายี่สาร และรับบริจาคสิ่งของต่าง ๆ เป็นสถานที่ที่มีความเก่าและงดงาม สัมผัสวิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรมและเป็นบ้านเก่าที่มีคุณป้าดูแลให้คำแนะนำ อาคารชั้นล่างจัดแสดงภูมิปัญญาบ้านเขายี่สาร พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านท้องถิ่น ความจริงมีชุมชนที่มีความเก่าแก่มากมายหลายแห่ง ถ้าใครอยากได้ประสบการณ์เที่ยวที่ไม่เหมือนทุกวันที่น่าไปตามมา

พิพิธภัณฑ์บ้านเขายี่สาร
วัดเขายี่สาร ต.ยี่สาร อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม 75110

กินมื้อกลางวันร้านดัง  คุณจ๋า ร้าอยู่ใกล้ๆ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน  ที่ร้านคุณจ๋า อากาศดีไม่ร้อน นั่งชมวิวริมคลองขุดเขายี่สาร ร้านอยู่ใกล้วัดเขายี่สาร ทานอาหารพื้นบ้านอาหารซีฟู้ดที่มีเมนูแนะนำอย่างใบชะคราม เป็นนางเอกและทุกโต๊ะจะได้ทานใบชะครามกับน้ำพริกกะปิเป็นออร์เดิร์ฟ ใบชะคราม เอ่ยชื่อนี้เคยทานกันหรือเปล่าคะ ถ้าอยากลองต้องมาที่ครัวคุณจ๋า  เมนูที่เราสั่งกันวันนี้มีหลายอย่างเช่นปลาทูทอดน้ำปลาอร่อยมากแกงส้มใบชะครามกุ้งสด และแม่หนูที่ห้ามพาดอีกอย่างหนึ่งคือยำสาหร่ายเม็ดองุ่นผสมเนื้อปูน้ำจิ้ม
รสเด็ดแซ่บมาก  รวมไปถึงหอยจ๊อทะเลอันนี้คุณภาพทะเลจริงๆ

ครัวคุณจ๋า ในวัดเขายี่สาร อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม

โรงแรมอัมพวารี จังหวัดสมุทรสงคราม หลังจากอิ่มท้องแล้ว เดินทางต่อค่ะ โรงแรม น้องหมาพักได้ เที่ยวชมตลาดน้ำอัมพวา ถ้า อยากพักโรงแรมสวยต้อนรับสุนัข ทุกสายพันธ์ สะอาด ไม่แพง ต้องมาเข้าพักได้สบายๆ คนกรุงอย่างเราจะได้มีโอกาสพักผ่อนสบายๆ ในวันหยุด อากาศบริสุทธิ์และสะอาด การเดินทางและที่พักสะดวกสบาย พวกเราเข้าพักที่โรงแรมอัมพวาตีเป็นที่พักที่เปิดใหม่ มีที่จอดรถกว้างมองเห็นวิวของกวางรอบรอบ  แนะนำที่นี่นะคะห้องพักกว้างใหญ่ สบายที่นอนสะอาดมาก ห้องน้ำสะดวก บริการดีมีอาหารเช้าเสียนิดเดียวที่นี่ไม่มีลิฟท์ค่ะ

โรงแรม น้องหมาพักได้ เที่ยวชมตลาดน้ำอัมพวา
ต้อนรับสุนัข ทุกสายพันธ์ สะอาด ไม่แพง เข้าพักได้สบายๆ

อัมพวารี สมุทรสงครามสมุทรสงคราม-บางแพ Amphawa, Samut Songkhram, Thailand  โทร. 034 710 888
เว็บไซต์  http://www.amphawaree.com/


มื้อเย็นสุดฟิน  ร้านน่ารัก บ้านตาลหอม
พักผ่อนซักแป๊บ  ก่อนไปชม แสง สี เสียง 3D Projection Mapping แวะทานมื้อเย็นที่ ร้านน่ารัก บ้านตาลหอม   ร้านอาหารพื้นบ้านต้นตำรับปักษ์ใต้ ที่มี รสชาติจัดจ้าน ในบรรยากาศสบายๆ สไตล์การตกแต่งเรียบง่าย เน้นโทนสีเหลืองนวล

สำหรับเมนูเด็ดแนะนำของที่นี่ อาทิ ปลากระบอกต้มส้ม แกงส้มไข่ปลาริวกิว ปูทะเลไข่นึ่ง กุ้งแม่น้ำซอสมะขาม ปลาทูต้มมะดัน ปลาเก๋าผัดพริกไทยดำ และอีกเมนูอาหารหลากหลายให้เลือกรับประทาน ที่นั่งทางร้านจะแยกเป็น โซนอาหารและโซนขนม

บ้านตาลหอม (banntarnhom cafe & restaurant)
บ้านตาลหอม รับจัดเลี้ยง สัมมนา (ราคาไม่แพง)
สนใจโทร.สอบถามข้อมูลโทร.  087-1545522

เดินทางต่อตามจุดหมายปลายทางที่เราคิดที่เราตั้งใจจะมาร่วมงานกันหรือตามรอยพระบาทตามศาสตร์พระราชาเป็นคอนเสิร์ตถ้าใช้องพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9

เราถึงที่นั่นประมาณ 6 โมงเย็น  บริเวณโดยรอบมีร้านอาหารมีร้านขนม ไอติม อาหารอร่อยประจำจังหวัด  ลืมบอก สถานที่จัดงานอยู่ที่ ศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม

การบรรเลงบทเพลงอันทรงคุณค่านี้จะบรรเลงด้วยวงดนตรีแบบออกเคสตร้าจำนวน 40 ชิ้นจากวงดุริยางค์กองทัพเรือ  ประกอบกับการขับร้อง  บทเพลงจากศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ  ซึ่งใช้บทเพลงอันทรงคุณค่าในการเล่าเรื่องราวต่างๆของการศึกษาพระราชปณิธาน และพระราชกรณียกิจที่ทำเพื่อประชาชนอันเป็นที่รักและสร้างความจงรักภักดี  ให้กับเราพสกนิกรและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาร่วมกิจกรรม

ร่วมสร้างความประทับใจ แสง สี เสียง  3D Projection  Mapping   กับบทเพลงเทิดพระเกียรติฯนายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กิจกรรม  เพชรสมุทรคีรี ตามรอยพระบาท ตามศาสตร์พระราชา  คือการบรรเลงบทเพลงอันทรงคุณค่าในการเล่าเรื่องราวต่างๆ ของการสืบสานพระราชปณิธานพร้อมกับการฉายวิดิโอ Mapping ลงบนฉากที่ออกแบบมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ แบ่งเป็นเรื่องราวทั้งหมด 4 องก์ ได้แก่

องก์ที่ 1 ตามรอยพระบาท ตามศาสตร์พระราชา

องก์ที่ 2 ตามศาสตร์พระราชา

องก์ที่ 3 ปวงประชาแซ่ซ้อง

องก์ที่ 4 น้อมสดุดีมหาราชา

เปิดงาน เพชรสมุทรคีรี ตามรอยพระบาท ตามศาสตร์พระราชา การแสดงดนตรีประกอบ 3D Projection Mapping ณ บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม

นายคันฉัตร ตันเสถียร ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานในการเปิดงาน “เพชรสมุทรคีรี ตามรอยพระบาท ตามศาสตร์พระราชา” และการแสดงดนตรีประกอบ 3D Projection Mapping  ณ. บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม ในการนี้  มีผู้เข้าร่วมเปิดงานประกอบด้วย นางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี, นางสุจิตรา จงชาญสิทโธ รอง ผู้ว่าการ ททท.ทำหน้าแทนผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.), นางอินทิรา วุฒิสมบูรณ์ ผอ.ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และนายธนศร ดอกเดื่อ ท่องเที่ยวและกีฬา  จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งแขกผู้เกียรติประกอบด้วย นางศิริโสภา ตันเสถียร นายกเหล่ากาชาด  จังหวัดสมุทรสงคราม, นายสมชาย ชมภูน้อย ผอ.ททท.ภูมิภาคภาคกลาง, นางปานจิตร  สันทัดกลการ ผอ.กองตลาดภาคกลาง ททท.และนายอัครวิชย์ เทพาสิต ผอ.ททท.สำนักงานเพชรบุรี ผู้แทน
ผู้ว่าราชการ  จังหวัดเพชรบุรี นอกจากนี้ ยังมีหัวหน้าส่วนราชการ แขกผู้มีเกียรติ สื่อมวลชน และนักท่องเที่ยวเข้ากิจกรรมในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

การจัดงานในครั้งนี้  เป็นกิจกรรมที่พสกนิกรชาวไทยทุกคนได้ร่วมกันน้อมรำลึกพระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร  ด้วยการอันเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์ และเพลงที่พสกนิกรประพันธ์  เพื่อสรรเสริญองค์พระมหากษัติริย์ ด้วยความจงรักภักดีในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นหาที่สุดมิได้ ตัวแทนจากจังหวัดสมุทรสงคราม,จังหวัดสมุทรสาคร ตัวแทนจากจังหวัดเพชรบุรี  และ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

กลุ่มจังหวัดเพชรสมุทรคีรี โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  ได้มีการอัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์ และบทเพลงต่างๆ นำมาสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าชมงาน ซึ่งจะมีการจัดขึ้นทุกวันเสาร์ ตลอดเดือนกรกฎาคม 2560

พิธีเปิดสำหรับกิจกรรมตามรอยพระบาทตามศาสตร์พระราชาครั้งที่ 2   ที่ จ.สมุทรสงคราม  หลังจบคอนเสิร์ตที่พบความประทับใจหลายหลายเพลงเอาทำคนฟังซาบซึ้งจนน้ำตาซึม

ภาพบรรยากาศงาน เพชรสมุทรคีรี ตามรอยพระบาท ตามศาสตร์พระราชา เราอยู่กันที่จังหวัด สมุทรสงคราม

กลุ่มจังหวัดเพชรสมุทรคีรี ได้แก่ เพชรบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และประจวบคีรีขันธ์ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมจัดงานมหกรรมคอนเสิร์ต “เพชรสมุทรคีรี ตามรอยพระบาท ตามศาสตร์พระราชา” ซึ่งเป็นการแสดงดนตรีประกอบ 3D Projection Mapping

กิจกรรม เพชรสมุทรคีรี ตามรอยพระบาท ตามศาสตร์พระราชา จะจัดขึ้นด้วยกันทั้งหมด 4 ครั้ง  4 พื้นที่  4 จังหวัด
(เริ่มตั้งแต่เวลา 18 .00 น.เป็นต้นไป)  ดังต่อไปนี้

​​วันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม    ณ ท่าน้ำมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร
​​วันเสาร์ที่ 8 กรกฎาคม    ณ บริเวณหน้าศาลากลาง จังหวัดสมุทรสงคราม
​​วันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคม ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติรัชการที่ 4
จังหวัดเพชรบุรี
​​วันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคม  ณ อุทยานราชภักดิ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

การสืบสานพระราชปณิธาน และพระราชกรณียกิจที่ทำเพื่อประชาชนอันเป็นที่รัก เหล่าพสกนิกรและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาร่วมกิจกรรม พร้อมศิลปินอาทิเช่น

คุณปีเตอร์ คอร์ปไดเรนดัล มาในบทเพลงต้นไม้ของพ่อ และรูปที่มีทุกบ้าน

คุณสุเมธ องอาจ กับเพลงตามรอยพระราชา ดวงใจกับความรัก

คุณเบิร์ดกะฮาร์ท มาขับกล่อมบทเพลง When , Still on my mind

คุณฝน ธนสุนทร   มาในสไตล์ลูกทุ่ง เพลงล้นเกล้าเผ่าไทย    ร่วมด้วยศิลปิน
S2S (ผู้พิการทางสายตา) และศิลปินอีกหลายท่านมากมาย ร่วมมือร่วมใจกันจากหลากหลายค่ายเพลงและแนวดนตรี ต่อด้วยตัวแทนจาก จ.เพชรบุรี,จ.สมุทรสงคราม,จ.สมุทรสาคร และ จังหวัประจวบคีรีขันธ์

สะพานแขวน@วัดปากน้ำ
ตื่นเหลังอาหารเช้า เช็คเอาท์ เรียบร้อย  10.00 น. พวกเราเดินไปที่  สะพานแขวน UNSEEN  สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกของชาวบ้านและการขึ้นสะพานแขวน  สามารถเดินได้ครั้งละ 15 ท่านเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย พวกเราเดินไปถ่ายภาพกลางสะพาน มองเห็นแม่น้ำและเรือขายของวิ่งผ่านเรื่อยๆ  ช่วงเช้านักท่องเที่ยวยังไม่เยอะและอากาศไม่ร้อนมาก สลับกันถ่ายรูปวิวสวยสวยจบจากสะพานแขวนแล้วนอกจากจะอิ่มบุญอิ่มใจแล้ว ยังมีไฮไลท์ที่สะพานแขวนหน้าตาคล้ายสะพานพระราม 8 แบบย่อส่วนลงมาเราจะได้ไปทำความรู้จักกับการท่องเที่ยวที่เรียกได้ว่าเป็นการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เป็นการออกไปเรียนรู้ สัมผัสธรรมชาติ วัฒนธรรม วิถีชีวิต และเรื่องราวทุกอย่าง ที่ชุมชนแห่งนี้่ มาทอดสะพานมาสวยแบบนี้ มีหรือที่เราจะไม่ข้ามไป

มหัศจรรย์ โบสถ์ปรกโพธิ์ วัดบางกุ้ง

มหัศจรรย์ โบสถ์ปรกโพธิ์
วัดบางกุ้ง โบสถ์ปรกโพธิ์ ชมโบสถ์ปรกโพธิ์ที่ปกคลุมไปด้วยต้น เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในเขตตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อนิลมณี พระพุทธรูปปรางมาวิชัย หรืออีกชื่อหนึ่งคือหลวงพ่อดำ มีชื่อเสียงเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพกราบไหว้ขอพรของชาวบ้านและนักท่องเที่ยว โบสถ์ปรกโพธิ์ คือเป็นโบสถ์ที่ถูกปกคลุมทั้งหลังด้วยต้นไม้ใหญ่ ได้แก่ ต้นไทร ต้นโพธิ์ ต้นกร่าง และต้นไกร ทำให้โบสถ์มีลักษณะที่โดดเด่น รากไม้และลำต้นที่ห่อหุ้มตัวโบสถ์ยิ่งทำให้ดูขลังและศักดิ์สิทธิ์

มื้อกลางวันก่อนกลับกรุงเทพฯ แดงอาหารทะเล  (เจ๊แดง)  เจ้าเก่าของสมุทรสงคราม 1 ใน 10 ร้านอร่อยที่ต้องโดน ก่อนกลับกรุงเทพฯ ฝากท้องครัวเจ้แดง เจ้แดง เจ้าของสูตรต้นตำรับอาหารทะเลดั้งเดิม เปิดมานานกว่า 30 ปี การันตีความอร่อยด้วยลูกค้าที่มากันอย่างคับคั่งเมนูที่ขึ้นชื่อคือ ปูนึ่ง ข้าวผัดกุ้งตัวโต เมื่อมาถึงมหาชัยที่ขึ้นชื่ออย่างปลาทูสด ต้มยำ

นอกจาก การเดินทางแวะชิมริมทาง ฟังเพลงไพเราะ คอนเสริต์เทิดไท้องค์ราชัน  ยังมีการแสดงศิลปวัฒนธรรม ที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัด  ซึ่งหาชมได้ยากในปัจจุบัน สามารถเข้าร่วมชมงานได้ในวันเวลาและสถานที่ดังกล่าวข้างต้น   ติดตามรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมที่
FACEBOOK / INSTAGRAM : เพชรสมุทรคีรี (@phetsamutkhiri)

สอบถามรายละเอียดข้อมูลท่องเที่ยว
ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม
(รับผิดชอบพื้นที่การตลาดท่องเที่ยวสมุทรสงคราม และสมุทรสาคร)
150/8-9 ถ.สมุทรสงคราม-บางแพ ต.อัมพวา อ.อัมพวา จ. สมุทรสงคราม
โทรศัพท์ 034-752847-8 โทรสาร 034-752846
แฟนเพจ TAT Samut Songkhram

สอบถามรายละเอียดข้อมูลท่องเที่ยว
ททท.สำนักงานเพชรบุรี
500 / 51 ถ.เพชรเกษม อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี 76120
โทรศัพท์ 032-471005-6 โทรสาร 032-471502
แฟนเพจ:  TAT Phetchaburi

สอบถามรายละเอียดข้อมูลท่องเที่ยว
ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์
39/9 ถ.เพชรเกษม อ.หัวหิน จ. ประจวบคีรีขันธ์
เบอร์โทรศัพท์ 032 513 885 , 032 513871
เบอร์โทรสาร 032 513 898  แฟนเฟจ: TAT PRACHUAP

ขอบคุณกิจกรรมดีแบบนี้จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
#เพชรสมุทรคีรี #ตามรอยพระบาทตามศาสตร์พระราชา

 

3 สาว 3 วัย ขวัญใจมวลชน สาวๆ แห่สมัครล้น กระแสดีเกินคาด

3 สาว 3 วัย ขวัญใจมวลชน  จัดออดิชั่นรอบพิเศษ สำหรับภาคกลางอีก 1 รอบ!

บริษัท โคเมดี้ ไลน์ จำกัด โดย “เป็ด เชิญยิ้ม” จับมือ หมอมวลชน จัดการประกวด “โครงการ 3 สาว 3 วัย ขวัญใจมวลชน” เพื่อเปิดโอกาสให้สาวๆจากทั่วประเทศทั้ง 3 วัย (วัยใส อายุ 18 – 23ปี, วัยทำงาน อายุ 24-35 ปี, วัยมากประสบการณ์ อายุ 36 ปีขึ้นไป) ได้มีโอกาสเป็น 1 ใน 3 พรีเซนเตอร์หน้าใหม่ของหมอมวลชน และร่วมเป็นนักแสดงในรายการก่อนบ่ายคลายเครียด ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 พร้อมชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 5 แสนบาท

หลังจากได้ไปเฟ้นหา 3 สาว 3 วัย มากความสามารถจากทั่วประเทศครบทั้ง 4 ภาค จนได้ตัวแทนสาว 3 วัยแต่ละภาค ที่ผ่านการออดิชั่นมาแล้วนั้น แต่ด้วยกระแสตอบรับในรอบออดิชั่นจากสาวๆ ทั่วประเทศทีมีอย่างล้นหลาม


ทำให้มีผู้สนใจเข้าร่วมสมัครกันอย่างถล่มทลาย เราจึงเปิดออดิชั่นรอบพิเศษขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้สาวๆ มาแสดงความสามารถกันอีกครั้ง โดยในรอบออดิชั่นพิเศษนี้เราจะคัดเลือกผู้เข้ารอบอีกจำนวน 3 ท่าน

ในวันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม 2560  ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น1
เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต

สาวๆ ท่านใดที่พลาดโอกาสในครั้งก่อน สามารถดูกติกา
และติดตามรายละเอียดการรับสมัครได้ที่
Facebook Fanpage : 3 สาว 3 วัย ขวัญใจมวลชน

รีบมาสมัครกันเยอะๆ นะคะ

ทริปอมตะ เลอค่า ครั้งเดียวในชีวิต

แอ่วล้านนาหน้าฝน ยลเมืองหละปูน
แลเขลางค์นคร

สวัสดีหน้าฝน   จะไปไหนมาไหน  หลายคนมักจะบ่นเป็นเสียงเดียวว่ากลัวเปียก กลัวแฉะ ไม่อยากไปไหนเลย แต่ถ้าจะบอกว่าเราอยู่ใต้ฟ้าจะกลัวไป
ใยกับน้ำฝน หากเรามีการเตรียมความพร้อมซะอย่าง เราก็ไปได้ทุกที่ ถ้ามองอีกมุม หลังฝนตกคราใดท้องฟ้าก็จะแจ่มใส ใบไม้ใบหญ้า ก็มีความเขียวขจีขึ้นมาทันที ที่เราๆ ได้ยินได้ฟังภาษาของการท่องเที่ยวก็คือ Green Season นั่นเอง

เมืองต้องห้าม….พลาด จังหวัดลำปาง เขลางค์นคร เมืองแห่งรถม้า เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา   มาถึงลำปางแล้ว  เราต้องรู้ ต้องเห็น ต้องมาสัมผัสให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะไปได้ทางลัดของเรานั่นคือนั่งรถรางชมเมือง จุดนัดพบกันที่ วัดประตูป่อง นั่งรถรางเที่ยวชมชุมชนท่องเที่ยวบ้านท่ามะโอ ย่านเมืองเก่าของจังหวัดลำปางซึ่งนับว่ามีอายุเก่าแก่นับ 100  ปี  ที่นี่ในอดีตเป็นย่านการค้าไม้ของจังหวัดลำปาง ชมประวัติศาสตร์ที่สำคัญๆ  ชมวัดสำคัญๆ  อันงดงาม ตามรอยอารยธรรมล้านนาตะวันตก อาทิ วัดปงสนุก, วัดพระแก้วดอนเต้า, กราบสังขารหลวงพ่อเกษม เขมโก, วัดประตูต้นผึ้ง, วัดประตูป่อง

วันนี้  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  สำนักงานลำปาง ขอเชิญทุกท่านร่วมเดินทางมาที่ จ.ลำพูน และ ลำปาง เพื่อมาสัมผัส  กลิ่นอายดินแดนอารยธรรมเก่าแก่แห่งล้านนา อายุมากกว่า 1400 ปี น่าสนใจจนต้องบอกต่อ
ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ บวกกับวิถีชีวิตที่เรียบง่าย คงไว้ซึ่งวัฒนธรรมดั่งเดิม ทำให้ที่นี่มีมนต์เสน่ห์ที่ใครได้มาแล้วต้องหลงรัก

กิจกรรมครั้งสำคัญในชีวิตในวันแม่ 12-14 สิงหาคม 2560 ขอบอกได้เลยว่า “ทริปอมตะ เลอค่า ครั้งเดียวในชีวิต” ต้อง…ห้ามพลาด ทริปนี้มีอะไรดีๆ บ้าง เชิญตามมาเลยค่ะ

ที่นี่จังหวัดลำพูน เมื่อเดินทางมาถึง จ.ลำพูนแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดวาอาราม โบราณสถานที่สำคัญๆ ที่เราไม่ควรพลาด

พระธาตุหริภุญชัย
พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองลำพูน และยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีระกาตามคติของชาวล้านนา พระธาตุองค์นี้สร้างขึ้นใน พ.ศ.1651 ในสมัยพระเจ้าอาทิตยราช กษัตริย์องค์หนึ่งของอาณาจักรหริภุญชัย ต่อมาได้รับการบูรณะต่อเติมมาเป็นลำดับ ปัจจุบันกลายเป็นปูชนียสถานสำคัญในภาคเหนือ เป็นที่เคารพสักการะของชาวลำพูนและนักท่องเที่ยวมากมาย

วัดจามเทวี
วัดเก่าแก่ก่อตั้งคู่ดินแดนล้านนามาอย่างยาวนาน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า
“วัดกู่กุด” สัณนิฐานว่าพระนางจามเทวีสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1298 โดยใช้ช่างฝีมือชาวละโว้ ลักษณะพระเจดีย์เป็นสี่เหลี่ยมแบบพุทธคยา  ในประเทศอินเดีย แต่ละด้านมีพระพุทธรูปยืน ปางประทานพรอยู่เป็นชั้นๆ ภายในเจดีย์บรรจุอัฐิของพระนางจามเทวีปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย ตามตำนานเล่าว่าเจ้าอนันตยศและเจ้ามหันตยศ ราชโอรสของพระนางจามเทวีได้สร้างขึ้น เพื่อบรรจุอัฐิของพระนางเมื่อ ปี พ.ศ. 1298 เดิมมียอดห่อหุ้มด้วยทองคำ ต่อมาจะเป็นสมัยใดไม่ทราบชัด ยอดพระเจดีย์หักหายไปชาวบ้านจึงเรียกว่า กู่กุด หรือมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า พระเจดีย์สุวรรณจังโกฏ นอกจากนั้นยังมี รัตนเจดีย์ซึ่งตั้ง อยู่ทางขวาของวิหาร สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 17 โดยพระยาสรรพสิทธิ์ ฐานล่างสุดเป็นรูป 8 เหลี่ยม มีเส้น ผ่าศูนย์กลาง 4.40 เมตร สูงจรดยอด 11.50 เมตร องค์เจดีย์เป็นรูปสี่เหลี่ยมแต่ละเหลี่ยมเจาะเป็นซุ้ม ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนก่ออิฐถือปูนทั้งองค์



อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี
อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ตั้งอยู่ตำบลในเมือง บริเวณสวนสาธารณะหนองดอก สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระนางจามเทวี ซึ่งเป็นองค์ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย พระนางเป็นปราชญ์ที่มีคุณธรรม มีความสามารถ พร้อมทั้งความกล้าหาญ อีกทั้งเป็นผู้นำพระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรมมาเผยแพร่ในดินแดนแถบนี้จนมีความรุ่งเรืองสืบมาจนถึงปัจจุบัน เป็นที่เคารพสักการะของชาวเมืองลำพูนและจังหวัดใกล้เคียง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามกุฏราชกุมารได้เสด็จมาทรงเปิดอนุสาวรีย์เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2525

กู่ช้าง-กู่ม้า
เป็นโบราณสถานที่ศักดิ์สิทธ์ของชาวลำพูน กู่ช้างเป็นสุสานช้างศึกคู่บารมีของพระนางจามเทวี ชื่อ “ภูก่ำงาเขียว” ซึ่งหมายถึงช้างผิวสีคล้ำ งาสีเขียวที่ทรงอานุภาพและ อิทธิฤทธิ์ในสงคราม และมีเรื่องเล่ากันว่าเมือเกิดศึกสงครามเจ้าช้างเชือกนี้มองไปที่ผู้ใดจะทำให้ผู้นั้นมีอันเป็นไปหรือเสียชีวิต ส่วนกู่ม้า เป็นสุสานม้าทรงของพระโอรสของพระนางจามเทวี

 

วัดมหาวัน
ประดิษฐานพระศิลาดำไว้ที่นี่ ต่อมาหริภุญชัยเกิดสงครามกับขุนลัวะวิลังขะ พระฤๅษีจึงใช้พระศิลาดำเป็นต้นแบบสร้างพระเครื่องรางแจกจ่ายชาวเมืองเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการออกศึก พระเครื่องส่วนที่เหลือบรรจุไว้ในเจดีย์ที่วัดมหาวัน ต่อมาเมื่อเจดีย์หักพังลง ชาวบ้านจึงนำพระเครื่องเหล่านี้ไปบูชาและพบอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ต่างๆ พระเครื่องเหล่านั้นได้ชื่อว่า “พระรอด” และที่วัดมหาวันนี้เป็นวัดสำคัญต้นกำเนิดพระรอดลำพูน หนึ่งในพระเครื่องชุดเบญจภาคี ที่มีราคาแพงที่สุดองค์หนึ่ง ประกอบด้วย พระสมเด็จวัดระฆัง, พระรอดมหาวัน, พระนางพญา, พระผงสุพรรณ และพระซุ้มกอ
สำหรับเซียนพระดังๆ จะรู้ถึงความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างดี และในทริป “อมตะ เลอค่า ครั้งเดียวในชีวิต” จะพาทุกท่านเข้าร่วมพิธีศักิด์สิทธิ์ และที่สำคัญทุกท่านจะได้ร่วมสร้างพระรอดลำพูนให้แม่ หรือแม่ให้ลูกแบบ DIY. ( Do It Yourself ) พระรอดทุกองค์ที่ท่านสร้างจะมีเพียงองค์เดียวในโลก ที่บรรจุเส้นเกศาของมารดาผู้เป็นแม่ของทุกคน และทุกท่านจะได้ร่วมแผ่พลังอภิจิตอธิฐานอานุภาพแห่งพุทธคุณลงในองค์พระ พร้อมกับพิธีพุทธภิเสกกับพระคุณเจ้าเพื่อเป็นมรดกอันล้ำค่าต่อไป

วัดสร้างขึ้นในสมัยที่พระนางจามเทวีครองเมืองหริภุญชัย ตำนานเล่าว่า
เมื่อพระนางจามเทวีเสด็จมาครองเมืองหริภุญชัยนั้น พระองค์ได้อัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญมาด้วย 2 องค์ คือ พระเสตังคมณี (พระแก้วขาว) และพระพุทธสิกขิ (พระศิลาดำ) พระองค์ทรงสร้างวัดมหาวันขึ้นและ

วัดพระยืน
วัดพระยืน เป็นวัดเก่าแก่ซึ่งสันนิษฐานว่าพระนางจามเทวีทรงสร้างขึ้นในราว พ.ศ.1213 ชื่อของวัดพระยืนมาจากองค์

พระพุทธรูปยืนเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1606 ในสมัยพระเจ้าธรรมมิกราช (กษัตริย์องค์ที่ 32 แห่งหริภุญชัย) และต่อมาใน พ.ศ.1712 พระยากือนา ผู้ครองนครเชียงใหม่และลำพูน ได้สร้างพระพุทธรูปยืนเพิ่มเติมขึ้นอีก 3 องค์
เจดีย์วัดพระยืน มีลักษณะโดดเด่นตรงที่เป็นศิลปกรรมพม่า คล้ายกับเจดีย์วัดสัพพัญญูในเมืองพุกาม สร้างยกพื้นลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ มีบันไดเดินขึ้นสู่ลานประทักษิณชั้นบนที่ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว และมีเจดีย์บริวารองค์เล็กอยู่ทั้ง 4 มุม องค์เจดีย์งดงามน่าชมยิ่งนัก

วัดประตูป่อง
วัดประตูป่อง อยู่ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ปูชนียวัตถุ มีพระพุทธรูปลงรักปิดทอง โบราณสถานมีเจดีย์และวิหารซึ่งสร้างขึ้นสมัยเจ้าญาณรังษี เจ้าผู้ปกครองนครลำปาง สร้างขึ้น พ.ศ. 2409
ส่วนวัดประตู่ป่องสร้างขึ้นประมาณ พ.ศ. 2120 ตามประวัติเมืองลำปางในเขตตำบลเวียงเหนือนี้ สมัยโบราณคือ เมืองนครเขลางค์ สร้างขึ้นราว พ.ศ. 1223 มีลักษณะคล้ายรูปหอยสังข์ มีกำแพงชั้นบน เป็นอิฐ ชั้นล่างเป็นคันดิน คาดว่าชั้นอิฐเป็นกำแพงที่สร้างเสริมในรุ่นหลัง ความยาวโดยรอบราว 4,400 เมตร พื้นที่ราว 600 ไร่

วัดปงสนุก
วัดปงสนุก หรือวัดปงสนุกเหนือ ตั้งอยู่ในเขต ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง เป็นวัดสำคัญคู่กับจังหวัดลำปางมาช้านาน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยที่เจ้าอนันตยศ ราชบุตรของพระนางจามเทวีแห่งหริภุญชัย (ลำพูน) เสด็จมาสร้างเขลางค์นคร (ลำปาง) เมื่อ พ.ศ.1223 หรือ 1,328 ปีก่อน
ที่ผ่านมา พระครูโสภิตขันตยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดปงสนุกด้านเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง พึ่งรับมอบรางวัลดี (Award of Merit) ด้านการอนุรักษ์มรดกทางด้านวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ตามโครงการ 2008 Asia-Pacific Heritage Award for Cultural Heritage Conservation  จากองค์การ UNESCO

วัดพระแก้วดอนเต้า
วัดพระแก้วดอนเต้า มีตำนานกล่าวว่า นางสุชาดา ได้พบแก้วมรกตในแตงโม (หมากเต้า) และนำมาถวายพระเถระรูปนั้นจึงจ้างช่างให้นำมรกตนั้นไปแกะสลักเป็นพระพุทธรูปซึ่งก็คือ พระแก้วดอนเต้า ซึ่งต่อมาได้รับการอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดพระธาตุลำปางหลวงสาเหตุจากตำนานบอกว่า มีผู้ไปฟ้องเจ้าเมืองลำปางในขณะนั้นว่า พระเถระและนางสุชาดาคบหาในลักษณะชู้สาว เจ้าเมืองลำปางจึงให้จับนางสุชาดาไปประหารชีวิตริมน้ำ ก่อนสิ้นพระนางได้หันกลับมามองวัดพระแก้วดอนเต้า ความทราบถึงเจ้าเมืองจึงดำริให้สร้างวัดเป็นอนุสรณ์ ณ จุดประหาร และได้ตั้งชื่อว่าวัดนางเหลียว ส่วนพระเถระองค์นั้นทราบข่าวก็ได้อัญเชิญพระพุทธรูปหนีไป โดยได้นำไปฝากไว้ที่วัดพระธาตุลำปางหลวงจนถึงปัจจุบัน

กราบสังขารหลวงพ่อเกษม เขมโก ณ สุสานไตรลักษณ์
หลวงพ่อเกษม เขมโก หรือ ครูบาเจ้าเกษม เขมโก (นามเดิม เจ้าเกษม ณ ลำปาง) เป็นพระเถระและเกจิอาจารย์ ผู้เคร่งครัดในธุดงควัตร ปลีกวิเวก พุทธศาสนิกชนในจังหวัดลำปาง และชาวไทยเคารพนับถือว่าท่านเป็นพระเถราจารย์ปูชนียบุคคลรูปหนึ่งของประเทศไทย และมีผู้มีความเคารพศรัทธาเป็นจำนวนมากในปัจจุบัน อีกทั้งท่านยังเป็นเจ้านายในราชวงศ์ทิพย์จักร ที่ออกผนวชอีกด้วย

หลวงพ่อเกษม เขมโก เป็นพระสายวิปัสสนาธุระ ไม่ยึดติดแม้แต่สถานที่ ท่านได้ปฏิบัติธรรม ณ สุสานไตรลักษณ์ตลอดชนม์ชีพ เป็นพระที่เคารพสักการะของคนในจังหวัดลำปางและทั่วประเทศ ท่านปฏิบัติศีลบริสุทธิ์ตามพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยไม่ติดยึดในกิเลสทั้งปวง สรีระของท่านนั้นก็ยังความอัศจรรย์ด้วยเนื่องจากไม่เน่าเปื่อยเหมือนอย่างสังขารทั่วไป ทั้งยังเขียนป้ายบอกผู้ที่มาเคารพสรีระท่านด้วยว่า ให้พนมมือไหว้ที่หน้าอกเพียงครั้งเดียวแล้วไม่ต้องกราบนะคะ

ชุมชนแกะสลักบ้านหลุก
หมู่บ้านหลุกเป็นชุมชนเล็ก ๆ ตั้งอยู่ใน อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง หมู่บ้าน OTOP แห่งนี้ได้รับรางวัลทั้ง 4 ดาวและ 5 ดาว เพื่อเป็นการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนในครัวเรือนด้านการท่องเที่ยว และสินค้าหัตถกรรม โดยมีการนำไม้จามจุรี หรือไม้ฉำฉา และไม้สักมาแกะสลักเป็นรูปต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์ที่สามารถนำมาให้ประโยชน์ในบ้านได้ อย่างเช่น แกะสลักไม้เป็นรูปสัตว์ต่างๆ ตั้งแต่ตัวเล็กๆ จนถึงขนาดใหญ่ เป็นโต๊ะ เป็นเก้าอี้ เครื่องประดับต่างๆ จำหน่ายราคาขายส่ง สามารถซื้อเป็นของฝาก หรือจะสั่ง Order ทางชุมชนแห่งนี้ก็จัดหาให้ได้เช่นกัน รายละเอียดสอบถามแต่ละบ้านกันเองได้เลย

เที่ยวลำปาง เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา ด้วยเวลาที่จำกัดช่วงเวลาแห่งความสุขแห่งดินแดนล้านนาที่เดินทางมากัน 3 วัน 2 คืน ก็ต้องหมดลง แต่มนต์ขลังยังคงติดตราตรึงใจ มิเสื่อมคลาย มาเที่ยวแล้วก็ยังอยากมาเที่ยวอีก ขอเชิญทุกท่านมาสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งดินแดนล้านนาด้วยกัน ที่สำคัญกับภารกิจ “อมตะ เลอค่า ครั้งเดียวในชีวิต” ตามโครงการแอ่วล้านนาหน้าฝน ยลเมืองหละปูน แลเขลางค์นคร เพื่อร่วมสร้างพระรอดลำพูนให้แม่ หรือแม่ให้ลูกแบบ DIY. ( Do It Yourself ) ซึ่งทางคณะจะเดินทางไปวันที่ 12-14 สิงหาคม 2560   รายละเอียดเพิ่มเติมสอบถาม 095 950 1559

ขอขอบคุณ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
สำนักงานลำปาง โทร.  054  222 2214-5
Travel Line : 089 108 8484,  095 950 1559
ภาพ : www.phototechthailand.com

เส้นทางเดินไหว้เทพทั้ง 8 องค์ แห่งแรกใจกลางเมือง

RATCHAPRASONG
SHRINE & CULTURE WALK

โลเคชั่นเป็นมิตรกับโซเชียลบูชาเทพทั้ง 8 องค์ได้ใน 1 วัน เดินสักการะองค์เทพ  RATCHAPRASONG SHRINE & CULTURE WALK ราชประสงค์ เชื่อมต่ออาณาจักรสมบูรณ์แบบ เปิด  ราชประสงค์วอล์ก  Ratchaprasong Walk โครงข่ายเส้นทางเดินรอบย่านฯ ประเดิมกิจกรรมเดินสักการะองค์เทพ RATCHAPRASONG SHRINE & CULTURE WALK 2017

ทางเดินลอยฟ้า R-Walk หรือ Ratchaprasong Walk ทางเดินลอยฟ้าสุดอลังการดาวล้านดวง เนรมิตการเชื่อมต่อเส้นทางสู่ 18 สถานประกอบการในย่านราชประสงค์เป็นเส้นทางใหม่ล่าสุดที่รวบรวมไลฟ์สไตล์สุดชิคของคนกรุงเทพ อะไรคือเหตุผลที่คุณต้องรีบมาเช็คอินที่ย่านราชประสงค์ อ่านจบแล้ว มาเช็คอินด่วน

ราชประสงค์วอล์ก R-Walk เป็นต้นแบบของย่านธุรกิจและเป็นแห่งแรกของเมืองไทย ที่เดินเชื่อมต่อ 18 ตึกในย่านราชประสงค์ได้อย่างทั่วถึง ตั้งแต่ออกบีทีเอส สถานีชิดลม และสถานีสยาม ซึ่งสามารถเดินไปยังฝั่ง The Platinum Fashion Mall โดยเท้าไม่ต้องแตะพื้นถนน สะดวกสบายตลอดทั่วทั้งย่านราชประสงค์ ไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดออกก็ไร้กังวล เพราะมีหลังคาคอยป้องกันตลอดทั้งเส้นทาง R-Walk หรือ Ratchaprasong Walk
เพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน (Safety & Security) มีกล้อง CCTV ติดตั้งเพื่อคอยดูแลคุณตลอดเส้นทาง มีสายตรวจเดินตรวจตลอด 24 ชม. เชื่อมต่อ Lifestyle แบบ 360 องศา ทุกรูปแบบ ไม่ว่าร้านอาหารสุดเริ่ดที่ใครๆ ก็มารีวิว, “PRAY” บูชาเทพทั้ง 8 องค์ได้ใน 1 วัน และ “SHOP” จากศูนย์การค้าชื่อดังได้เพลินๆ โนสนโนแคร์เงินในกระเป๋า โลเคชั่นเป็นมิตรกับโซเชียล เพราะไม่ว่าจะถ่ายรูปแล้วอัปโหลดโชว์เพื่อนๆ จากมุมไหนของ ราชประสงค์วอล์ก ก็สวยล้ำอินเทรนด์ไม่มีใครเกิน แน่นอนค่า

สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) เปิดประสบการณ์แห่งการเชื่อมต่อกับเมกะโปรเจ็กต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี  ราชประสงค์วอล์ก  Ratchaprasong Walk โครงข่ายเส้นทางเดินเชื่อม 18 สถานประกอบการอย่างไร้รอยต่อรอบทิศทาง เริ่มต้นพ.ศ. 2542 ที่ก่อสร้างทางเดินลอยฟ้าเชื่อมฝั่งตะวันออกและใต้  จากสถานีรถไฟฟ้า ชิดลม ศูนย์การค้าเกษร ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค็อก และศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า ถือเป็นการเชื่อมโยงครั้งแรก ต่อมาในปี พ.ศ. 2546 ราชประสงค์วอล์ก ได้เชื่อมต่อไปไปถึงศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของย่านราชประสงค์ ในปี พ.ศ. 2558 ขยายศักยภาพเป็นโครงข่ายที่เชื่อมสู่ทิศเหนือไปยังแพลทินั่ม แฟชั่นมอลล์ และ  โรงแรมโนโวเทล แพลทินั่ม ประตูน้ำ กรุงเทพฯ พร้อมทั้งเชื่อมเข้าเกษรวิลเลจสู่เส้นทางฝั่งตะวันออกทำให้ย่านราชประสงค์เชื่อมต่อเข้าสู่ 18 สถานประกอบการสำคัญใจกลางกรุงเทพมหานครอย่างไร้รอยต่อ ภายใต้กลยุทธ์ Walkable Urbanism เพิ่มพื้นที่เชื่อมต่อเพื่อเข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ใช้เวลาที่ย่านราชประสงค์อย่างเพลิดเพลินและยาวนานยิ่งขึ้น

เพื่อให้เกิดการใช้เวลาภายในย่านมากที่สุด พร้อมสร้างปรากฏการณ์ไลฟ์สไตล์เต็มสตรีมครบวงจรทั้ง กิน ช้อป และไหว้   ล่าสุด  ร่วมมือกับ ททท. ประเดิมประสบการณ์เต็มรูปแบบที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม กับการ เดินสักการะองค์เทพ แห่งแรกใจกลางเมืองที่ใช้เวลาเดินเพียง 30 นาที เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เดินทางมาร่วมสัมผัสไลฟ์สไตล์ของย่านราชประสงค์มากกว่า 600,000 คนต่อวัน

สืบเนื่องจากกการเปิดราชประสงค์วอล์ก  Ratchaprasong Walk สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ ร่วมกับ  ททท. สร้างสรรค์กิจกรรม RATCHAPRASONG SHRINE & CULTURE WALK 2017 เปิดเส้นทางเดินพลังศรัทธาแห่งมหาเทพทั้ง 8 พระองค์ นำนักท่องเที่ยวสู่บริบทแห่งการสักการะและท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมใจกลางย่านราชประสงค์ ซึ่งสามารถเดินสักการะได้ภายใน 30 นาที ด้วยความสะดวกสบายกับป้าย  Cultural signage  ที่บอกรายละเอียด ขององค์มหาเทพทั้ง 8 พระองค์ พร้อมข้อมูลสำคัญของแต่ละองค์


1. พระพิฆเนศวร  แห่งห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ  และการเริ่มต้น ซึ่งต้องบูชาก่อนเริ่มพิธีใดๆ เพื่อเป็นการคารวะในฐานะบรมครูผู้ประสาทปัญญาและความสำเร็จ สามารถขจัดอุปสรรคทั้งปวงให้หมดสิ้นไป

2. พระตรีมูรติแห่งห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มีความศักดิ์สิทธิ์ด้านการประทานพรให้พบเจอคู่ครองที่เหมาะสม และครองคู่กัน ซึ่งเป็นองค์เทพที่เก่าแก่ที่สุดในย่านนี้ เนื่องจากได้มีการสร้างตั้งแต่ครั้นยังเป็นวังเพชรบูรณ์

3.พระแม่อุมาเทวีแห่งบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาราชดำริ พระแม่ผู้เป็นใหญ่ในจักรวาล มีพลังอำนาจยิ่งใหญ่หาสิ่งใดเทียบ ทรงประทานชัยชนะเหนือศัตรู ทำลายสิ่งชั่วช้า และพระองค์ยังทรงประทานพรด้าน ความผาสุกทางการครองเรือนอีกด้วย

4.พระแม่ลักษมีแห่งเกษรวิลเลจ ถือเป็นหนึ่งในเทพศักดิ์สิทธิ์แห่งย่านราชประสงค์ประดิษฐานอยู่ ณ ดาดฟ้าชั้น 4ผู้ได้ชื่อว่าเทพีแห่งความงดงาม ความมั่งคั่ง ร่ำรวย และโชคลาภ พระองค์มักประทานความสำเร็จ ในการประกอบกิจการ การเจรจาต่อรอง การทำมาค้าขาย ตลอดจนประทานโภคทรัพย์ แก่ผู้หมั่นบูชาพระองค์ และประกอบความดีอยู่เป็นนิจ

5.ท้าวจตุโลกบาล  แห่งเกษรวิลเลจ เทพที่รักษาทุกข์ สุข ของมนุษย์โลกไว้ทั้ง 4 ทิศ และทำหน้าที่ป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่มนุษย์โลกทั้งหลาย ซึ่งนับว่าเป็นเทพองค์ล่าสุดของย่านราชประสงค์

6.พระนารายณ์ หรือ พระวิษณุแห่งโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ หนึ่งในสามมหาเทพ มีอำนาจประทานความสุข  ความสำเร็จ  ในหน้าที่การงาน ช่วยแก้ไขปัญหาให้ผู้บูชาฟันฝ่าอุปสรรคไปได้   พร้อมทั้งประทานอำนาจบารมี และคุ้มครองชีวิตให้ปลอดภัยร่มเย็นเป็นสุขตลอดไป

7. ท้าวมหาพรหม  แห่งโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ หนึ่งในสามเทพสูงสุดซึ่งเป็นผู้สร้าง  และลิขิตความเป็นไปของสรรพสิ่ง พระองค์ยังทรงเปี่ยมไปด้วยความเมตตา ทรงสามารถประทานพรทุกประการ

8. ท้าวอัมรินทราธิราช    แห่งศูนย์การค้าอัมรินทร์ พลาซ่า เทพผู้ผดุงไว้ซึ่งความดี อำนาจของพระองค์จะช่วยปัดเป่าความชั่วร้ายหรือสิ่งไม่ดีทั้งสิ่งที่มองเห็นและมองไม่เห็น  พร้อมทั้งปกป้องรักษาธุรกิจให้เจริญรุ่งเรือง ซึ่งท่านจะคอยคุ้มครองผู้ที่กระทำความดีอยู่เสมอ

คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ในส่วนของ ททท. ได้มีแคมเปญในการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับประสบการณ์ท้องถิ่นโดยตรงหรือ Local Experience ซึ่งช่วยให้เกิดการเดินทางและหมุนเวียนการใช้จ่ายไปยังผู้ประกอบการโดยตรง ซึ่งสำหรับในกรุงเทพมหานคร ททท.ได้มีโครงการ “กรุงเทพฯ เดินเที่ยว หรือ Walking Bangkok” ที่ส่งเสริมให้เกิดการเดินเที่ยวในย่านต่างๆ ซึ่งย่านราชประสงค์ก็เป็นหนึ่งในเส้นทางที่ ททท. ได้ดำเนินการ และเผยแพร่ไปสู่นักท่องเที่ยวต่างประเทศอีกด้วย ย่านราชประสงค์ถือเป็นย่านธุรกิจและมีกิจกรรมเชิงการท่องเที่ยวที่หลากหลาย สามารถตอบสนองนักท่องเที่ยวได้ทุกกลุ่ม ถือเป็นสิ่งดีอย่างยิ่งที่มีอำนวยความสะดวกให้กับการเดินเที่ยว ซึ่งจะช่วยให้การเดินเที่ยวเชื่อมต่อในย่านราชประสงค์นี้ สะดวกสบายยิ่งขึ้น

คุณชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) กล่าวว่า “ย่านราชประสงค์นับว่าเป็นย่านโมเดลธุรกิจและไลฟ์สไตล์ตัวอย่างที่สะท้อนมุมมองและนำเสนอการดำเนินกิจกรรมด้านต่างๆ เกิดจากความร่วมมือในการทำงานของภาครัฐ เอกชนพันธมิตร และชุมชนควบคู่กัน โดยมีแผนนำเสนอกิจกรรมไลฟ์สไตล์ซิกเนเจอร์ที่มีความโดดเด่นและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาภายในย่านฯ ตลอดทั้งปี

ทั้งศูนย์การค้า โรงแรม อาคารสำนักงาน ศิลปะ วัฒนธรรม และอาหาร ย่านราชประสงค์  เกิดเป็นไลฟ์สไตล์ที่เติมเต็มนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาสัมผัสภายในย่านสำคัญและยังไม่เคยมีใครรู้มาก่อน ด้วยกลยุทธ์การพัฒนาย่านผ่านการเชื่อมโยงไลฟ์สไตล์ทุกอย่างเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็นชุมชน ผู้สัญจรขึ้น คือ ราชประสงค์วอล์ก Ratchaprasong Walk โครงข่ายเส้นทางเดินเชื่อมลอยฟ้าที่เกิดจากแนวคิด และความร่วมมือของทุกฝ่ายตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2542 จนปัจจุบัน นับเป็นโครงการที่ตอบสนองการใช้ชีวิตของคนในย่านราชประสงค์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยเป็นทั้งเส้นทางเดินสัญจรที่ปลอดภัยสะดวกสบาย ช่วยบรรเทาการจราจรและปัญหาการข้ามถนนได้เ
ป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือในการจัดทำหนังสือคู่มือสักการะเทพและแผนที่
เส้นทางการเดินสักการะ 2 ภาษา พร้อมทั้งให้นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถดาวน์โหลดได้ทางเว็บไซต์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและเว็บไซต์ของย่านราชประสงค์ หรือสามารถรับหนังสือได้ที่  ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวใจกลางย่านราชประสงค์ (Ratchaprasong Tourist Information Center) ชั้น 2 ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่าและ ชั้น 1 เกษรวิลเลจ

ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวนี้ ยังรวมรวบข้อมูลสำคัญของย่าน ของที่ระลึก รวมทั้งแพ็คเกจท่องเที่ยวต่างๆ ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างครบครัน พร้อมบริการทัวร์ไหว้เทพไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอีกอีกด้วย

สำหรับกิจกรรมไลฟ์สไตล์ที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษกับราชประสงค์วอล์ก ได้แก่ แคมเปญ WALK เดินสักการะองค์เทพ – RATCHAPRASONG SHRINE & CULTURE WALK จัดแคมเปญต่อเนื่องอย่าง RATCHAPRASONG FLAVOR WALK ถ่ายทอดไลฟ์สไตล์การกินอาหารภายในย่านราชประสงค์ที่เข้าถึงร้านชั้นนำหรือร้านดั้งเดิม อาทิ สตรีทฟู้ดร้านยอดนิยม อาหารจานเด่น อาหารจานด่วน อาหารที่ห้ามพลาด อาหารหากินยาก รวมถึงอาหารสไตล์ไฟน์ไดนิ่ง และสกายไดน์นิ่ง พร้อมเสริมไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งกับ RATCHAPRASONG SHOPPER’S WALK ที่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสการช้อปปิ้งแบรนด์หรู สินค้าแฮนเมด ตลอดจนสินค้าโฮลเซล (Wholesale) พร้อมจุใจกับข้อเสนออย่างโปรโมชั่นสุดพิเศษให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติได้ช้อปปิ้งภายในย่าน ซึ่งในปีนี้ เราจะเห็นและเดินสู่ความเปลี่ยนแปลงนับจากนี้ไป โดยทุกประสบการณ์จะถูกเชื่อมต่อด้วย ราชประสงค์วอล์ก Ratchaprasong Walk บนพื้นที่ธุรกิจและไลฟ์สไตล์ใจกลางกรุงเทพฯ ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของมหานครที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างครบวงจร

ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวใจกลางย่านราชประสงค์
(Ratchaprasong Tourist Information Center) ชั้น 2
ศูนย์การค้าอัมรินทร์พลาซ่าและ ชั้น 1 เกษรวิลเลจ

เว็บไซต์ของย่านราชประสงค์
www.bkkdowntown.com

เว็บไซต์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย www.tourismthailand.org/thaifest

TAXI ไทยปัญหาระดับชาติ

โครงการ Taxi V.I.P
ปฏิวัติวงการรถแท็กซี่ไทยสู่มาตรฐานสากล

ปัญหาหลักของวงการรถแท็กซี่ไทย มีอยู่ 2 เรื่องคือ ผู้ขับขี่และตัวรถแท็กซี่ สำหรับปัญหาเรื่องผู้ขับขี่ คือ  การขาดวินัยและจรรยาบรรณในการให้บริการ ซึ่งปัจจุบันมีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ  และเอกชนได้เข้าแก้ไข โดยได้จัดอบรมผู้ขับขี่รถแท็กซี่ ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ภาษา  และกฎระเบียบต่างๆ รวมถึงสร้างจิตสำนึกที่ดีในการให้บริการ  อีกปัญหาหนึ่งของแท็กซี่ คือเรื่องรถ

TAXI VIP  เป็นการเพิ่มทางเลือกในการให้บริการของประชาชน โดยใช้รถ
ที่มีมาตรฐานขนาดตัวรถ สมรรถนะรถที่สูงกว่ารถแท็กซี่ทั่วไป เพิ่มอุปกรณ์ส่วนควบสำหรับให้บริการที่มีความสะดวกสบาย  เพิ่มเติมจากข้อกำหนด
การติดตั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ส่วนควบตามโครงการ ทำให้ระบบการบริหารจัดการด้วย ฐานข้อมูลที่เป็นระบบ สามารถพัฒนาศูนย์ประวัติ  รถแท็กซี่ที่จดทะเบียนในระบบทุกคัน และประวัติผู้ขับรถทุกคน ตลอดจน การบันทึก ติดตามการกระทำผิดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากมาตรการกำกับ ควบคุมและบังคับใช้กฎหมายกับรถแท็กซี่ กรมการขนส่งทางบกมีมาตรการเชิงบวก หรือยกย่องคนขับรถแท็กซี่ที่กระทำดีหรือสร้างประโยชน์ให้สังคม

วันนี้ Toptotravel  มีโอกาสเข้าสัมภาษณ์ โครงการ Taxi V.I.P ตอบสนองนโยบายของภาครัฐ  ด้วยการเปิดช่องทาง การสร้างงานสร้างอาชีพ  และ
รายได้เสริมให้แก่ผู้ที่สนใจ  ราคาที่ดาวน์ต่ำ ดอกเบี้ยถูก หรือจะเลือกผ่อนดาวน์  0% นาน 10 เดือน เเละผ่อนค่างวดเฉลี่ย  เพียงวันละ 500 กว่าบาท พร้อม พ.ร.บ และประกันภัย ชั้น 1 รวมถึง  ยังเปิดช่องให้กลุ่มผู้ลงทุนที่ต้องการเปิดกิจการรถเเท็กซี่ให้เช่าเป็นของตนเอง ได้เข้ามาปรึกษาเพื่อขยายธุรกิจเกี่ยวกับกลุ่มรถเช่าในระยะยาว 

คุณเกียรติศักดิ์ กีรติยากรสกุล (เรย์) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เค.พี.เอ็น. มอเตอร์คาร์ จำกัด เจ้าของและผู้ริเริ่มก่อตั้งโครงการ Taxi V.I.P ปรับลุคใหม่
ให้กับวงการแท็กซี่ไทย ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก และ ภายใน ที่แตกต่างจากแท็กซี่ทั่วไป

กล่าวต่อว่า ปัญหารถแท็กซี่ไทยในปัจจุบัน ถือเป็นปัญหาระดับชาติที่ส่ง
ผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ  อาทิ ปัญหาอาชญากรรม การให้บริการ สุขอนามัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารบริษัทฯได้เล็งเห็นปัญหาดังกล่าวจึงเกิดโครงการ Taxi V.I.P  เพื่อมาช่วยปรับภาพลักษณ์ใหม่ให้กับแท็กซี่ไทย

คุณเกียรติศักดิ์ กีรติยากรสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เค.พี.เอ็น. มอเตอร์คาร์ จำกัด

ทุกวันนี้ ธุรกิจยานยนต์ของบริษัท KPN มีครบวงจร ทั้งจำหน่ายยางรถยนต์ผลิตและจำหน่ายแท็กซี่ รับจัดไฟแนนซ์รถยนต์สินเชื่อแท็กซี่ ตัวแทนขายประกันภัย พ.ร.บ. รถยนต์ทุกชนิด ติดตั้งระบบก๊าซรถยนต์ให้กับ  ดีลเลอร์รถยนต์โตโยต้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ควบคุมน้ำมัน KPN E85 ขยายธุรกิจจำหน่ายรถแท็กซี่  ร่วมกับ  บริษัท
โตโยต้า 15 สาขา ส่วนสาขาของ KPN MORTOR อีก 3 สาขา รวมทั้งสร้างศูนย์บริการยางรถยนต์มาตรฐาน KPN AUTO TYRES 2 สาขา รวมทั้งได้รับสิทธิเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์มือสองทุกชนิด จากจากการแต่งตั้งโตโยต้าชัวร์  3 สาขา  พร้อมเป็นผู้จำหน่ายยางรถยนต์ให้  กับบริษัท โตโยต้า 30 สาขา 5 จังหวัด นอกจากนี้ยังทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร

คุณเรย์ เล่าให้ฟังว่า การทำแท็กซี่วีไอพี บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและยกระดับวงการอาชีพรถแท็กซี่ของเมืองไทยให้ได้มาตรฐาน โดยเราทำตรงนี้  เพื่อเป็นการตอบแทนสังคมเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แท็กซี่ไทยที่มักมีปัญหาภาพลักษณ์ไม่ดีอยู่เป็นระยะเกี่ยวกับคนขับแท็กซี่   นอกจากนั้น  ยังเน้นย้ำด้านบริการด้วยมิตรภาพและจรรยาบรรณที่ดีและเรายังทำข้อตกลงว่าคุณจะต้องไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร พร้อมกันนี้เรายังเปิดอบรม ฝึกมารยาท ภาษา และ  หลักในการบริการลูกค้าแบบมาตรฐานสากล  ให้กับคนขับในโครงการแท็กซี่วีไอพีด้วย จึงนับว่าเป็นการเปลี่ยนทัศนคติใหม่ของวงการแท็กซี่ไทยที่ใครเห็นก็อยากนั่ง ดังนั้น รถแท็กซี่ที่ให้บริการดีสะดวกสบายและปลอดภัย ถือเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศและความประทับของผู้โดยสาร

บริษัท เค.พี.เอ็น. มอเตอร์คาร์ จำกัด ผู้ริเริ่มก่อตั้งโครงการ Taxi V.I.P

อีกทั้งยังเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพที่น่าภาคภูมิใจอย่างถูกกฏหมาย พร้อมกับรักษาอาชีพของคนไทยทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้ขับแท็กซี่หน้าใหม่เข้าสู่ระบบผ่านการอบรม  และพัฒนาสร้างจิตสำนึกการให้บริการที่ดี
มีคุณธรรม เพื่อปรับยุคสมัยสู่ไทยแลนด์ 4.0 ต่อไป

ทีมงานพนักงานขับ TAXI VIP

โดยทาง บริษัทฯ  ได้จัดให้มีการอบรมสำหรับผู้ขับขี่รถแท็กซี่ขึ้น โดยให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษ  และกฎระเบียบต่างๆของทางราชการ รวมถึงสร้างจิตสำนึกที่ดีในการให้บริการกับผู้โดยสารและอีกปัญหาหนึ่งของแท็กซี่ คือเรื่องรถโดยประเทศไทยถูกจัดอันดับเป็นลำดับต้นๆ เฉพาะด้านความคุ้มค่าในเรื่องของราคาค่าโดยสารเท่านั้น

เราจึงต้องการแก้ปัญหานี้ผ่านโครงการ Taxi V.I.P ด้วยการนำรถหรูป้ายแดง  อาทิ   Toyota Camry ,Toyota Fortuner ,Toyota Altis ฯลฯ

เข้าสู่โครงการโดยให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพรถยนต์ ตั้งแต่กระบวนการ
พ่นสีตัวรถที่เลือกใช้สีแบบแห้งช้า เกรดเดียวกับที่พ่นรถยุโรป   ระบบก๊าซ NGV / LPG ด้วยอุปกรณ์จากประเทศอิตาลีทั้งหมด โดยใช้ศูนย์ติดตั้งก๊าซ  ที่ได้มาตรฐานจากหน่วยงานภาครัฐ ทั้ง  ปตท. กรมธุรกิจพลังงาน และกรมการขนส่งทางบก รวมถึงปรับโฉมภายในด้วยการหุ้มเบาะหนังแท้พร้อมทั้งการกรุพื้นปกป้องฝุ่นภายในรถ มีระบบมิเตอร์ดิจิตอล  แบบสัมผัสพร้อมใบเสร็จรับเงินภายในตัว และระบบชำระค่าแท็กซี่ผ่าน บัตรเครดิตทุกธนาคาร รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ  การมีสายต่อเชื่อม USB  เพื่อชาร์ตเบตเตอร์รี่โทรศัพท์มือถือ บริการฟรี Wifi  และน้ำดื่ม

ทั้งนี้เพื่อเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้านความปลอดภัย  และความสะดวกสบายให้กับรถแท็กซี่ไทยและโครงการนี้ยังรองรับรถแท็กซี่เก่าที่กำลังจะหมดอายุในปีนี้กว่า 20,000 คัน


สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ Taxi V.I.P นำรถหรูป้ายแดงมาทำแท็กซี่ เพื่อสร้างอาชีพและรายได้เสริม ต้องการเป็นเจ้าของรถแท็กซี่ส่วนบุคคล  โดยทำรถแท็กซี่ให้เป็นรถอเนกประสงค์  ขับไปทำงาน หรือรับส่งคนในครอบครัวก็ยังสามารถรับส่งผู้โดยสารหลังเลิกงานประจำได้ ราคาที่ดาวน์ต่ำ  ดอกเบี้ยถูก หรือเลือกโปรเเกรมผ่อนโดยฟรีดอกเบี้ย0% นาน 6 เดือน ผ่อนค่างวดเฉลี่ยเพียงวันละ 500 กว่าบาท พร้อม ประกันภัย ชั้น 1 ประกันอุบัติเหตุให้ผู้ขับขี่ฟรี วงเงินคุ้มครองสูงถึง 1.2 ล้านบาท

รวมถึงยังเปิดช่องให้กลุ่มผู้ลงทุน ที่ต้องการเปิดกิจการรถเเท็กซี่ให้เช่าเป็นของตนเองได้เข้ามาปรึกษาเพื่อขยายธุรกิจเกี่ยวกับกลุ่มรถเช่าในระยะยาว
ติดต่อ โครงการ Taxi V.I.P ด้วยการนำรถหรูป้ายแดงโทร. 086 794 9999

WWW.KPNMOTORCAR.COM
Lind Id: @KPNMOTORCAR
Facebook: KPN MOTORCAR