โรงแรมฟอร์จูน คอร์ทยาร์ด เขาใหญ่ พักสบายตอบสนองไลฟ์สไตล์การพักผ่อน

เขาใหญ่ นับเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดนิยม ครองใจนักเดินทางของผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติ อากาศอันบริสุทธิ์ที่เย็นสบาย ฟอกปอดเสพความเขียวท่ามกลางขุนเขา เขาใหญ่สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้อน หน้าฝน หรือหน้าหนาว ที่สุดแห่งความลงตัว สำหรับสายรักสงบ ห้องพักสะอาด มีมุมร่มรื่นให้นั่งชิลล์ อาหารเช้าหน้าตาดี จัดหนักจัดเต็ม ตามอำเภอใจในทุกห้วงอารมณ์ที่แตกต่างออกไป

หากใครมีแพลนที่จะเดินทางมาเที่ยวเขาใหญ่ กำลังมองหาที่พักโดนใจสไตล์ใหม่ๆ อยากชวนให้มาสัมผัสอารมณ์สไตล์อังกฤษร่วมสมัย กันที่ โรงแรมฟอร์จูน คอร์ทยาร์ด เขาใหญ่ ที่พักเปิดใหม่ท่ามกลางธรรมชาติ เป็นโรงแรมสวย ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศทิวเขา สงบ ร่มรื่น เนรมิตพื้นที่ส่วนกลางให้เป็นสวนสวย สไตล์อังกฤษ ตกแต่งสวยงามที่ช่วยผ่อนคลายและหลบหลีกความวุ่นวายได้อย่างเยี่ยมยอด ผสมผสานสไตล์อังกฤษไว้อย่างลงตัว มีมุมสวยๆ ห้องพักที่นี่ตกแต่งสวยงาม บริการห้องพักให้บริการ 62 ห้อง ห้องปรับอากาศ ห้องน้ำในตัว และปลอดบุหรี่ทุกห้อง

โรงแรมฟอร์จูน คอร์ทยาร์ด เขาใหญ่ โรงแรมที่มีเสน่ห์ในทุกรายละเอียด บรรยากาศสุดชิลล์ วิวโซกู๊ด พักสบายท่ามกลางขุนเขา ใกล้กรุงเทพฯ ที่มีบรรยากาศดีมากๆ และสวยสุดๆ ความหรูหราที่ผ่านการออกแบบเพื่อรองรับความเงียบสงบ และเป็นส่วนตัวอย่างที่สุดหลีกหนีความวุ่นวาย ให้ความรู้สึกเหมือนก้าวเข้ามาอยู่ที่อังกฤษ ภายใต้บรรยากาศขุนเขาเรียงราย สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น โรงแรมอาคารสูง 7ชั้น สไตล์อังกฤษร่วมสมัยความเป็นส่วนตัวสูง ขนาดห้องพักกว้างขวางอยู่สบาย ขนาดห้อง 35-65 ตารางเมตร โรงแรมให้บริการห้องพักพร้อมอาหารเช้าเหมาะทั้งการเข้าพักทั้งระยะสั้นและระยะยาวหรือการพักผ่อนเพื่อสุขภาพ โรงแรมได้รับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA

โรงแรมได้รับมาตรฐาน SHA (Amazing Thailand Safety & Health Administration)

โรงแรมอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวมากมายในอำเภอปากช่อง โลเคชั่นดีติดถนน ติดถนนธนะรัชต์พร้อมต้อนรับผู้เข้าพักที่อยากได้การพักผ่อนอันเงียบสงบท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ ที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ภูเขาเขียวขจี สะดวกต่อการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่งทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติ ด้วยที่ตั้งของโรงแรมมีความโดดเด่นทำให้ใครต่อใครที่มาต่างหลงรักวิวภูเขาที่นี่ และแน่นอนคะว่าโรงเเรมเหมาะกับคนที่ชอบถ่ายรูป เป็นที่พักที่สวยทุกมุม ทั้งตัวห้องพักและบรรยากาศภายนอก ตัวโครงสร้างของโรงเเรม รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครัน เรื่องของการบริการพูดเลยว่าพนักงานน่ารักเป็นกันเอง
พักแล้วสบายใจ ที่สำคัญความใส่ใจเรื่องมาตรการด้านสาธารณสุข โรงแรมได้รับมาตรฐาน SHA (Amazing Thailand Safety & Health Administration) มั่นใจได้ว่าการเข้าพักที่ โรงแรมฟอร์จูน คอร์ทยาร์ด เขาใหญ่ ชาวท่องเที่ยวจะได้รับทั้งความสุข และความสะอาด ปลอดภัย ตลอดทริปอย่างแน่นอนค่ะ

ใครกำลังมองหาสถานที่ ไปเที่ยว ไปชิล เปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนที่นอนกัน หลีกหนีความวุ่นวาย รู้สึกราวกับว่าอยู่ที่อังกฤษ Toptotravel ขอแนะนำโรงแรมฟอร์จูน คอร์ทยาร์ด เขาใหญ่ ที่นี่บริการห้องพักแบบคลาสสิค จนถึง ห้องแกรนด์สูทแบบ 2 ห้องนอน สามารถเห็นทิวทัศน์ธรรมชาติด้านนอกโรงแรม ภายในห้องพักกว้างขวาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน อาทิ มุมครัวเล็กๆ , โต๊ะรับประทานอาหาร และยังมีบริการสระว่ายน้ำ, ด้านหน้าห้องมีระเบียงชมวิว ยิ่งช่วงเย็นๆ แสงดี ลมดีมาก การได้อยู่ในที่พักดี ตกแต่งสวย ถือเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวเช่นกัน นอกจากจุดหมายปลายทางที่ทำให้เราอยากเดินทางหลายคนอาจคิดถึงที่พักทั้งที่ตั้งใจจอง พักแล้วประทับใจจนอยากกลับไปเยือนอีกสักครั้ง

ประเภทของห้องพัก
ห้องคลาสสิกเตียงใหญ่
ห้องคลาสสิกเตียงคู่
ห้องจูเนียร์สูท
ห้องแกรนด์สูทแบบ 2 ห้องนอน

โรงแรมเปิดใหม่ จัดโปรสุดคุ้ม
Fortune Hotel Group จัดโปรโรงแรมดีทั่วไทย จองวันนี้เข้าพักได้จนถึง 31 สิงหาคม 2564 สำหรับ โรงแรมฟอร์จูน คอร์ทยาร์ด โรงแรมเปิดใหม่ใจกลางเขาใหญ่ จัดโปรสุดคุ้ม ด้วยราคาพิเศษ ห้องพัก Classic 1,300 บาท/คืน (รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน) เท่านั้น ที่พักบรรยากาศดี วิวธรรมชาต ห้องพักดี ติดเครื่องปรับอากาศในห้องพักถึง 2 เครื่อง สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน การันตีความปลอดภัยสุขอนามัย มาตรฐาน SHA

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองห้องพักได้ที่
โรงแรมฟอร์จูน คอร์ทยาร์ด เขาใหญ่ : Fortune Courtyard Khao Yai Hotel
https://www.fortunehotelgroup.com/fortune-courtyard-khaoyai/
ติดตามโปรโมชั่นดีๆจากโรงแรมในเครือ ฟอร์จูน กรุ๊ปได้ที่
Line : @fortunehotelgroup
https://lin.ee/Bj1vy7p

ร้านอาหารน่านั่ง บรรยากาศดีงาม รสชาติอาหารถูกใจ Eat Drink Love Bistro

ใครที่กำลังมองหาร้านอาหารน่านั่ง บรรยากาศดีงาม รสชาติอาหารถูกใจ ที่นี่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด ห้องอาหารอีท ดริ๊งก์ เลิฟ ร้านเน้นความเรียบง่ายอาหารอร่อยรสชาติ กลมกล่อม และได้อรรถรสของความเป็นอาหารชนิดนั้นๆ ห้องอาหารอีท ดริ๊งก์ เลิฟ ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของ โรงแรมเดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ ออกแบบทันสมัย เรียบหรู มีบรรยากาศสวนสวย โดดเด่นด้วยความโมเดิร์น คาเฟ่และร้านอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น ในบรรยากาศสวนสวยถือว่าเป็นโรงแรมหรูที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในย่านลาดกระบัง /สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมนำเสนอภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ Peacefully Living with Luxurious Lifestyle

อีท ดริ๊งก์ เลิฟ มีเมนูอาหารอร่อยๆ ทุกมื้อ คัดสรรวัตถุดิบอาหารที่ดีที่สุด สำหรับนักชิมที่ชื่นชอบอาหาร สไตล์ฟิวชั่น พร้อมเสริฟด้วยการนำเทคโนโลยีการทำอาหารแบบใหม่มาผสมผสานจนได้เมนูแปลกใหม่ เช่น ซูวี หรือโมเลกูลาร์ และต่อยอด นำวัตถุดิบจากหลายๆประเทศมานำเสนอ โดยรังสรรค์ให้เป็นเมนูอาหารที่มีรสชาติใหม่ได้อย่างน่าสนใจ ทั้งรูปลักษณ์ สีสัน รสชาติ รวมถึง การเลือกใช้ภาชนะที่ทันสมัย ประดิดประดอยจัดวางอาหารอย่างประณีต และสวยงาม ภายใต้การบริหารงานโดย คุณชาตรี นุ้ยประสิทธิ์ ผู้บริหารกรุ๊ป โรงแรม เดอะ พาร์ค ไนน์ พร้อมตอบโจทย์นักชิมด้วยอาหารที่ต่อยอดจากแนวคิดมาเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่สไตล์ฟิวชั่น ที่เรียกว่า glocal sensation แนวเฉพาะของห้องอาหาร อีท ดริ๊งก์ เลิฟ เป็นการผสมผสานศาสตร์อาหารตะวันตกและเอเซียน รวมถึงเทคนิค วัตถุดิบ หรือวิธีการทำอาหารหลายๆ ชาติเข้าด้วยกัน จนกลายรสชาติของอาหารที่ลงตัว และเป็นซิกเนเจอร์เมนูใหม่เฉพาะที่ ห้องอาหารอีท ดริ๊งก์ เลิฟ และ ร้าน Cuppers ร้านกาแฟเก๋ๆ ที่อยากให้หลายคนได้รู้จัก

A Cup of Happiness
Cuppers Cafe ร้านสวยตกแต่งตามสมัยนิยม ที่เน้นการนำเสนอความเขียวขจีของต้นไม้โดยรอบ​ทั้งน่ารักและร่มรื่นบรรยากาศนั่งสบายๆ ที่พร้อมเสิร์ฟทั้งเครื่องดื่มและของหวานหลากสไตล์ ภายในร้านตกแต่งอย่างเรียบง่าย ไม่เน้นความเยอะ เมนูเครื่องดื่มมีหลากหลาย ซึ่งที่นี่ก็ขึ้นชื่อเรื่องครัวซองต์กับเค้ก อร่อย ฟินในทุกคำที่กัดไป ขอแนะนำความผ่อนคลายเครื่องดื่มรูปแบบใหม่ เรียกว่าสวรรค์ของคนรักเมนูเครื่องดื่มร้อน/เย็น ผสมสารสกัดจากธรรมชาติลดความเครียดสะสม เสริมภูมิคุ้มกัน และช่วยชลอวัยการทำงานติดต่อกันเป็นเวลานานทำให้เกิดความเครียดสะสมซึ่งไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพ สามารถเลือกสั่งเครื่องดื่มมานั่งจิบแบบยาวๆ กันได้เลย
Cannabis Hot Americano 130.-
Cannabis Fruit Punch 150.-
Cannabis Lychee Iced Tea 150.-
Cannabis Hot Chamomile Tea 110.-

Cannabis Lychee Iced Tea 150.-
Cannabis Fruit Punch 150.-

ครัวซองต์พรีเมี่ยม ด้วยคุณภาพเน้นๆ สูตรพิเศษของทางร้าน Cuppers Cafe
ครัวซองต์อบใหม่ทุกวัน ผลิตจากเนยคุณภาพเยี่ยมจากต่างประเทศ 100%
ไม่ผสมมาการีน สารกันบูด และไม่ใส่สี คือดีมากๆ สายครัวซองต์โฮมเมดไม่ควรพลาดเลยทีเดียว ครัวซองต์สีเหลือง กรอบนอกนุ่มในละลายในปากและหอมกลิ่นเนยยั่วยวนใจในทุกคำที่กัดชิ้นใหญ่อีกทั้งยังมีหลากหลายรสชาติให้เลือกชิม ครัวซองต์ ทุกชิ้นขายดีมากหมดเร็วทุกวัน

ร้าน Cuppers ครัวซองต์ของทางร้าน อบใหม่ทุกวัน ผลิตจากเนยคุณภาพเยี่ยมจากต่างประเทศ 100% ไม่ผสมมาการีน สารกันบูด และไม่ใส่สี คือดีมากๆ สายครัวซองต์โฮมเมดไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

ภายในห้องอาหารอาหารแห่งนี้ มีบริการอาหาร 3 ส่วนหลัก ประกอบด้วย เมนูอาหารยุโรปแบบอินเตอร์, เมนูอาหารไทยประยุกต์ และเมนูอาหารไทยแบบดั้งเดิม เมนูของอาหารที่นี่ก็มีให้เลือกอย่างมากมาย พื้นที่ภายในห้องอาหาร ยังได้มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซน ให้เลือกนั่งตามความชอบ เช่น โซนเปิดส่วนกลาง หรือ โซนที่มีผนังกระจกใสกั้น เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น รวมทั้ง โซนด้านในที่ให้ความเป็นส่วนตัวพิเศษ ซึ่งโดยรอบของห้องอาหารยังมีความโล่ง โปร่ง บรรยากาศสบายๆ สไตล์โมเดิร์น คุมโทนด้วยสี เขียวเทา และดำ เรียกว่า เป็นห้องอาหารที่มีความเท่อย่างมีสไตล์ แถมเพิ่มความหรูหรา ด้วยโคมทรงกลมรูปแบบโมเดิร์น สามารถรองรับได้ 25 โต๊ะหรือ 250 คน และสำหรับงานเลี้ยงแบบค็อกเทล สามารถรองรับได้ถึง 400 ท่าน พร้อมรองรับการจัดงานในรูปแบบต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของเมนูอาหารรังสรรค์โดย เชฟสราวุฒิ เพชรเอีย (ต่อม) มากประสบการณ์ การปรุงที่พิถีพิถัน คัดสรรคคุณภาพของวัตถุดิบ นอกจากที่ต้องเป็นวัตถุดิบคุณภาพดีเลิศแล้ว ยังต้องรักษาความสดไว้ให้ได้มากที่สุดไม่ว่าจะเป็นเมนูใด ออกแบบเมนูอาหารใหม่ เช่น กุ้งแม่น้ำ สั่งตรงมาจากแม่น้ำตาปี จนกลายเป็นเมนูยอดนิยมขายดิบขายดีในปัจจุบัน ซึ่งหลายคนจะคุ้นชินกับกุ้งแม่น้ำเผา หรือ ต้มยำกุ้งแม่น้ำ แต่ อีท ดริ๊งก์ เลิฟ ได้นำมารังสรรค์เป็นเมนูใหม่ที่อยากให้นักชิมได้ลิ้มลองคือ ข้าวผัดกุ้งแม่น้ำ ผสมผสานเทคนิคต่างๆเข้ากับข้าวผัดสูตรโบราณแบบไทยๆ ซึ่งต้องนำข้าวไปหมักกับไข่เสียก่อน เพื่อให้ข้าวหอมและมีความนุ่มเป็นพิเศษ ก่อนนำไปหุงและผ่านการผัดกับมันกุ้งแม่น้ำแท้ๆ ปรุงรสและผัดอย่างพิถีพิถัน วัตถุดิบของอาหารแต่ละจานนั้นผ่านการคัดสรรมาอย่างดีจากทั่วภูมิภาคในประเทศไทย ผ่านการปรุงรสชาติที่ละเอียดทุกขั้นตอน บอกเลยว่าถ้ากำลังมองหามื้อพิเศษกับคนที่รักก็ต้องที่นี่

นอกจากนี้ เชฟยังนำวัตถุดิบต่างชาติเข้ามาผสมผสาน เช่น ผักคอส หรือเรียกว่าเป็นอาหารฟิวชั่นหลอมรวมกับประสบการณ์ในการเดินทางของเชฟ ส่วนเมนูแนะนำสำหรับใช้เรียกน้ำย่อยแบบอินเตอร์ Caprese Salad อาหารต้นตำรับจากประเทศอิตาลี โดยมีการผสมผสานเทคนิคการทำอาหารจากประเทศฝรั่งเศส เป็นสลัด ที่มีการผสมผสานของเทกเจอร์ ภายในจานประกอบด้วย มอสซาเรลล่าชีส แบบสดมีความนุ่มเป็นพิเศษ แถมมีคุณค่าทางอาหารสูง, มะเขือเทศ 2 ชนิด, ใบโหระพานอก และยังราดด้วยเบซิลออย จนได้รสชาติที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ส่วนเมนคอร์สจานเด็ด Nori Wrapped Black Cod เป็นเนื้อปลาค็อดสีขาวห่อสาหร่าย และนำไปซูวี เสิร์ฟพร้อมต้นหอมญี่ปุ่น หัวผักกาดกริลล์สุกกำลังดี โดยเฉพาะหัวผักกาด ผ่านการต้ม และเซียกับเนยให้ซึมเข้าเนื้อ นำเสนอออกมามีลักษณะคล้ายกับหอยเซลล์อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ!! เสิร์ฟพร้อมกับฟอนสึโฟม ตกแต่งด้วย ซอเล่อ ที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ แบบดั้งเดิมสุดพรีเมี่ยม เรียกได้ว่ากว่าจะจัดเสิร์ฟได้ต้องใช้เวลารังสรรค์ในการจัดแต่งจานกันไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว เป็นอีกหนึ่งร้านที่นั่งสบายๆ ครัวซองต์พรีเมี่ยมด้วยคุณภาพเน้นๆ

สำหรับเมนูแนะนำขอเริ่มต้นกันที่เมนูเรียกน้ำย่อยอย่าง..
-ข้าวผัดมันกุ้ง ( Khao Phad Mun Goong ) สูตรพิเศษของที่นี่
-สลัดร็อคเก็ตกับเซลมอนรมควัน ( Pocket with Smoked Salmon )
-ปลาแบล็คคอดห่อสาหร่าย (Nori wrapped cod with poached leek, daikon and yuzu cream sauce) โดยการคัดสรรปลาแบล็คคอดที่เนื้อแน่นๆนำมาห่อกับสาหร่ายนำไม่นึ่งและเสริฟคู่กับยูสุครีมซอสต้นกระเทียมและหัวใช้เท้าตุ๋น
-ซุปหัวหอม ( French Burnt Onion )
-ลิปอายสเต็ก ( Grilled Australian Ribeye )

เมนูขนมหวาน
-ข้าวเหนียวมะม่วงมูส ( Mango mousse with sticky rice )
เสิร์ฟด้วยความน่ารักมุ้งมิ้งที่สอดคล้องกับสไตล์การจัดน้ำมะม่วงน้าดอกไม้สุกปั้นกับเฟรสครีมให้มีเนื้อเนียนและเสริฟคูกับข้าวเหนียวมูลและไอครีมกะทิ

แนะนำ โปรโมชั่นร้านล่าสุด…
สัมผัสความสดใหม่อร่อยโดนใจพบกับเมนูใหม่ของห้องอาหารได้แล้ววันนี้ และเมนูพิเศษสำหรับฤดูกาล เสิร์ฟในทุกๆ 4 เดือน ที่เรียกว่า Seasons Change เป็นสีสันอาหารแบบใหม่ ที่มีการเปลี่ยนสีอาหารตามไปฤดู เช่น สีเหลือง แสดงถึงฤดูร้อน เช่น แกงเหลือง, แมงโก้มูส, ไอศกรีมทุเรียน หรือ สีเขียว ตัวแทนฤดูฝน โดยจะเน้นอาหารโทนสีเขียวเป็นหลัก ที่มีความสดชื่น ส่วนฤดูหนาว จะเน้นโทนสีม่วง เช่น บีทรูท หรือมันม่วง ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่วัตถุดิบในการประกอบอาหารในฤดูนั้นๆ ให้ลิ้มลองแบบไม่รู้เบื่อ ร่วมสัมผัสประสบการณ์อาหารแนวใหม่ที่น่าประทับใจ

โรงแรมเดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ
599, 599/1 ถ.ลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ 10520
โทร: +66 (2) 019 9111
อีเมล: reservations.suv@theparknine.com
เว็บไซต์ www.theparknine.com/suvarnabhumi/
เฟสบุ๊ค theparkninesuvarnbhumi
อีเมล์ : reservations.suv@theparknine.com
เฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/TheParkNineSuvarnabhumi

#restaurant #alldaydining #foodlover #healthyfood #fooddelivery #theparkninehotelParkNineSuvarnabhumi #eatdrinklove #takeaway #drivethru #foodboxes #Croissant #ชัญญ่าว่าดี #toptotravel

แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เปิดจำหน่ายบัตรโดยสารสมาร์ทพาสลายใหม่ทุกประเภท

รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เปิดจำหน่ายบัตรโดยสารสมาร์ทพาสลายใหม่ทุกประเภท วันที่ 16 มิ.ย. 2564 นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้มีการเผยแพร่ลายหน้าบัตรโดยสารลายใหม่มาระยะหนึ่งผ่านทาง Facebook Official Page Airport Rail Link ได้มีบรรดาผู้โดยสารและแฟนพันธุ์แท้รถไฟฟ้าให้ความสนใจและสอบถามมาเป็นจำนวนมาก บริษัทฯจึงได้ประกาศเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 16 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป ซึ่งบริษัทจะเปิดจำหน่ายบัตรโดยสารสมาร์ทพาสรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ลายใหม่ก่อน 3 ประเภท ได้แก่

-บัตรสมาร์ทพาสบุคคลทั่วไป (Adult Card) รับส่วนลดร้านค้าและบริการ

-บัตรสามร์ทพาสนักเรียน นักศึกษา (Student Card) รับส่วนลดการเดินทาง 20% ทุกการเดินทาง

-บัตรสมาร์ทพาสผู้สูงอายุ (Senior Card) รับส่วนลดการเดินทาง 50% ทุกการเดินทาง

โดยผู้โดยสารสามารถหาซื้อได้ที่ห้องจำหน่ายบัตรโดยสารทั้ง 8 สถานี

นอกจากนั้น สำหรับบัตรสมาร์ทพาสลายพิเศษประเภทบุคคลทั่วไป ( Adult Card) อีก 2 ลายใหม่ ได้แก่ “Happy Birthday Card” และ “Happy Gift Card” ที่ออกแบบเป็นลายไทย มีลักษณะเป็น “ลายประจำยาม” ซึ่งเป็นลวดลายที่มีรูปร่างสี่เหลี่ยมจัตุรัสตะแคง มีลักษณะคล้ายดอกไม้ โดยดัดแปลงมาจากดอกไม้ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “ดอกสี่ทิศ” เหมาะสำหรับให้ผู้โดยสารได้เก็บสะสมเป็นที่ระลึก หรือ มอบเป็นของขวัญในโอกาสพิเศษต่างๆ จะทำการเปิดจำหน่ายในเร็วๆนี้อีกด้วย

ส่วนบริการลูกค้าสัมพันธ์ Call Center 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง www.facebook.com/AirportRailLink , Twitter : Airport Rail Link

Diva Café & Bistro พร้อมเสิร์ฟเมนูเสริมสุขภาพสไตล์โฮมเมดคูซีน

ร้านอาหาร Diva Cafe’ & Bistro ตั้งอยู่ในย่านดัง RCA ที่มีบริการครบเครื่องทั้งเครื่องดื่มน่าลอง เมนูอาหารรสเลิศ และเอนเตอร์เทนในที่เดียวกัน แถมรีโนเวทร้านเพื่อสร้างสีสันใหม่ ให้ทุกท่านได้เข้ามาดื่มด่ำบรรยากาศ รวมไปถึงการเปิดให้บริการเดลิเวอรี่ ส่งมอบอาหารอร่อยที่ทำด้วยใจ แบ่งปันด้วยความรัก ในรูปแบบอาหารใหม่ โฮมเมดคูซีน ล่าสุด เสริมจุดเด่นให้ถูกใจคนไทยมากขึ้นด้วยอาหารประเภทยำ จากฝีมือ เชฟอรรถพล สุทธิประภา และบริหารงานโดย คุณดวงตวัน เตชวิวัฒน์วาณิชย์ (แจง) แต่จากสถานการณ์ของ COVID-19 ทำให้เราเห็นถึงปรากฏการณ์ ที่คนทั้งโลกหันมาสนใจเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น

Diva Cafe’ & Bistro ตั้งอยู่ในย่านดัง RCA ย้ายจาก The Corner Sport club ถนนบรมราชชนนี มาที่ RCA ปรับปรุงรายการอาหาร ปรับปรุงการแต่งร้านปรับปรุงรสชาติและคุณภาพให้ดีขึ้นกว่าเดิมเพื่อให้ลูกค้าทุกท่านได้รับการบริการที่ดีขึ้น ที่ร้านมีมาตรการด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัดในช่วงโควิด-19 มีการเช็ดทำความสะอาดจุดสัมผัสในทุกชั่วโมง และทุกโต๊ะจะมีบริการเจลแอลกอฮอล์วางไว้ให้ รวมทั้งจุดวัดอุณหภูมิก่อนเข้าร้าน

เรื่องราวของ Diva Cafe’ & Bistro ไม่ได้เป็นเพียงแค่ ร้านอาหารเพียงอย่างเดียว ซึ่งคุณแจง เจ้าของร้าน ซึ่งคลุกคลีอยู่ในธุรกิจผับบาร์ร้านอาหารมาก่อน สำหรับร้าน Diva Café & Bistro ใน RCA เปิดให้บริการมาเป็นปีที่ 5 แต่หากนับรวมสาขาที่ตลิ่งชัน (ซึ่งปิดไปแล้ว) ก็จะเป็น 7ที่นี่มีเมนูใหม่และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่มีเป้าหมายในการเป็น Community ของคนรักสุขภาพ ผ่านการแบ่งปันความรู้และความเข้าใจในการกินใหม่ๆ ให้กับคนไทย ภายใต้แนวคิดที่ว่าคนไทยชอบกินแต่อาหารที่ตัวเองชอบ ในบางครั้งอาจจะไม่ได้คำนึงถึงเรื่องสุขภาพ Diva Cafe’ & Bistro อยากเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ในการกิน ที่ถึงแม้จะไม่ได้เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ 100% แต่อย่างน้อยคุณก็ได้กลับมาทานอาหรคุณภาพ วัตถุดิบใหม่สดสะอาด โดยเริ่มต้นจากการกินเมนูง่ายที่เราชอบ และอย่างน้อยคุณก็ได้กลับมาเติมสิ่ดีๆ ให้กับตัวเองทีละน้อย เพียงเริ่มต้นจากการได้กินของอร่อยเสริมสุขภาพ

คุณดวงตวัน (แจง) เตชวิวัฒน?วานิชย์

Diva มาจากความชอบส่วนตัวของคุณดวงตวัน (แจง) เพราะเรา….เข้าใจคนรักสุขภาพเป็นอย่างดีว่าการเลือกสิ่งดีๆ เข้าสู่ร่างกายเป็นเรื่องสำคัญ แจงและน้ำฝน โดยเริ่มจากความพิถีพิถัน จึงกลายเป็นโจทย์อันท้าทายของสองสาวผู้ริเริ่มเมนูอร่อยเพื่อสุขภาพ หากให้พูดถึงความพิเศษของเมนูอาหารของ Diva Cafe’ & Bistro คงต้องเริ่มจากรัก ใส่ใจและความพิถีพิถัน คัดเลือกวัตถุดิบต่างๆ รวมไปถึงเครื่องปรุง มีความง่ายในการกินเหมือนเดิม แต่ต้องไม่มีผงชูรส ทั้งยังมีโซเดียมน้อย ส่วนผสมของแต่ละเมนู ไม่ใช้สารปรุงรสเพิ่มเติม เพื่อให้ได้รสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบ และเป็นเมนูที่ดีต่อสุขภาพ ยังคงความอร่อยในรูปแบบ อาหารสไตล์โฮมเมดคูซีน ซึ่งดีต่อร่างกายมาก

เมนูแนะนำยอดนิยม ที่โดดเด่น เช่น สลัดดีว่า สลัดไส้กรอก สลัดซี่โครงหมูบาร์บีคิวชื่อดัง ขาหมูเยอรมัน ซี่โครงหมูบาร์บีคิว หรือ น้ำพริกหมูชะมวง ข้าวผัดกิมจิ เมนูอาหารทั้งหมดในร้าน มีเมนูอาหารกว่า 100 เมนู ให้เลือกลิ้มลองได้ไม่รู้จบ รวมถึงอาหารจานเดียวของทอดจานเด็ดต่างๆ มากมาย เมนูแนะนำที่ไม่ควรพลาด อาทิ เช่น ข้าวผัดน้ำพริกมันกุ้ง ,ก๋วยเตี๋ยวหลอดโบราณ ,ยำไข่สามยาม , สปาเก็ตตี้ปลาเค็ม เมนูขายดิบขายดีในช่วงที่ผ่านมา สปาเกตตีสไตล์อิตาเลียนแท้ , ขาหมูเยอรมัน ขาหมูเยอรมัน สูตรของดีว่า โด่งดังในย่าน RCA , ตอร์ติญ่า

นภัสศรณ์ กุลทวีพัฒน์ (น้ำฝน)
สปาเก็ตตี้ปลาเค็ม
ตอร์ติญ่า
ยำไข่สามยาม
ข้าวผัดน้ำพริกมันกุ้ง
ขาหมูเยอรมัน สูตรของดีว่า โด่งดังในย่าน RCA

DIVA CAFÉ & BISTRO
เลขที่ 23/51 ซอยศูนย์วิจัย แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
เปิดบริการตั้งแต่เวลา 12.00-20.00 น.
วันศุกร์-วันเสาร์เปิด ถึง 21.30 น.
สนใจสอบถามรายละเอียดหรือสำรองที่นั่งโทร. 096-935-9565

โครงการตามรอยพ่อฯ ก้าวสู่ปีที่9 ตอกย้ำบทบาท สื่อพอดี

เดินหน้าสร้างแรงบันดาลใจและองค์ความรู้ศาสตร์พระราชา ให้คนไทยสู้ทุกวิกฤตอย่างยั่งยืน จัดกิจกรรมรณรงค์ควบคู่การสร้างองค์ความรู้ผ่านบทเรียนออนไลน์ “คู่มือสู่วิถีกสิกรรมธรรมชาติ”

​โครงการ “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน” (ตามรอยพ่อฯ) เดินหน้าสู่ปีที่ 9 ร่วมฝ่าวิกฤตโควิด-19 มุ่งทำหน้าที่ “สื่อพอดี” ให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับศาสตร์พระราชาและหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแก่ชาวไทย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจสู่การลงมือปฏิบัติ อันจะเป็นเกราะป้องกันจากวิกฤตโควิด-19 และวิกฤตอื่นๆ ได้อย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “9 ปี แห่งพลังสามัคคี ฟันฝ่าทุกวิกฤต สู่ทางรอดที่ยั่งยืน” ด้วยการจัดทำบทเรียนออนไลน์ “คู่มือสู่วิถี กสิกรรมธรรมชาติ” เพื่อให้ผู้สนใจได้ศึกษาทฤษฎีและแนวทางการปฏิบัติ พร้อมด้วยคลิปให้กำลังใจและสร้างแรงบันดาลใจจาก 7 บรมครู เผยแพร่บนเว็บไซต์ของและเฟซบุ๊กของโครงการฯ ควบคู่กับการจัดกิจกรรมเอามื้อสามัคคีที่จังหวัดนครราชสีมา และพระนครศรีอยุธยา และกิจกรรมประกาศความสำเร็จ 9 ปีของโครงการที่จังหวัดสระบุรี และรายการ “เจาะใจ” โดยวางมาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของผู้ร่วมกิจกรรมอย่างเข้มข้น

จัดทัพรับมือโรคระบาด
​ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร นายกสมาคมดินโลก และผู้ก่อตั้งมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ กล่าวว่า “พระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานข้อความ ‘สามัคคีเป็นพลังค้ำจุนแผ่นดินไทย’ เตือนสติคนไทยผ่าน ส.ค.ส. ปี พ.ศ. 2547 ซึ่งเป็นสิ่งที่คณะทำงานยึดมั่นถือมั่นในการทำงานอย่างมีสติมาตลอดระยะเวลา 9 ปี ของการดำเนินโครงการตามรอยพ่อฯ ซึ่งไม่ว่าจะเกิดปัญหาหรือวิกฤตใดก็ตาม ทั้งวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อม โรคระบาด ภัยแล้ง หมอกควัน วิกฤตด้านเศรษฐกิจ วิกฤตด้านความเหลื่อมล้ำทางสังคม และวิกฤตด้านการเมือง ศาสตร์พระราชา คือ องค์ความรู้ในการจัดการ ดิน น้ำ ป่า และพัฒนาคน ก็จะเป็นทางรอดที่ยั่งยืนในทุกวิกฤต ทำให้เราสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างพอกิน พอใช้ พออยู่ พอร่มเย็น ทั้งยังสามารถแบ่งปันและสร้างรายได้ เป็นการสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะเมื่อมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปทั่วโลก ความอดอยากขาดแคลนอาหารในโลกจะมีขึ้นอย่างแน่นอน คนที่แม้ไม่เจ็บป่วยก็จะได้รับผลกระทบจากการไม่มีอาหารกิน ฉะนั้นจึงต้องสร้างฐาน 4 พอ คือ พอกิน พอใช้ พออยู่ และพอร่มเย็น ให้แน่น ให้พึ่งตนเองให้ได้จริง ต้องมั่นคงแข็งแรงพอ จึงจะมีกำลังไปช่วยคนอื่นให้รอดไปด้วยกัน โดยเชื่อมั่นว่าความสามัคคีของเครือข่ายและคนไทยทุกคนจะเป็นพลังให้เรารอดจากทุกวิกฤตได้อย่างยั่งยืน”

ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร นายกสมาคมดินโลก และผู้ก่อตั้งมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ

​|นายไตรภพ โคตรวงษา ประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ กล่าวว่า “เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างยิ่งกับคนไทยทุกคน มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติและเครือข่ายจึงได้เตรียมการวางแผนรับมือกับวิกฤตในครั้งนี้ เบื้องต้นได้จัดทัพรับมือโรคระบาด โดยแบ่งทีมทำงานออกเป็น 5 ทีม ได้แก่

  1. ทีมบวร (บ้าน วัด โรงเรียน) มีหน้าที่รวมรวมข้อมูลแปลงของสมาชิกเครือข่ายทั้งหมดในแต่ละจังหวัด รวมทั้งวัด โรงเรียน ชุมชน เพื่อเก็บข้อมูลของทุกศูนย์และแปลงของสมาชิกเครือข่าย หากเกิดการล็อกดาวน์จะใช้ข้อมูลนี้ให้ความช่วยเหลือกันได้ ตั้งแต่ระดับหมู่บ้านจนถึงระดับลุ่มน้ำ
  2. ทีม CMS (Crisis Management Survival Camp) มีหน้าที่เก็บข้อมูล วิเคราะห์ข่าวสารทั้งในและต่างประเทศ เพื่อประเมินสถานการณ์ แจ้งเตือนภัย เพื่อพัฒนาและเตรียมพร้อมไปสู่ขั้นการเป็นศูนย์พักพิงหลุมหลบภัย หรืออาจไปถึงขั้นเป็น Hospitel ทั้งในระดับ เล็ก(บ้าน) กลาง ใหญ่ โดยยึดหลักป้องกันบำบัด ฟื้นฟู
  3. ทีมพอรักษา มุ่งเป้าเร่งด่วนเรื่องโควิด-19 โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ป้องกัน (ผู้ไม่ป่วย) บำบัด (ผู้ที่ป่วยอยู่) และฟื้นฟู (ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว) โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาหารและยาที่ควรใช้ รวมถึงเทคนิคต่าง ๆ ตามข้อมูลจากทางแพทย์แผนปัจจุบัน-ไทย-จีนและทางเลือกอื่น ๆ
  4. ทีมสื่อพอดี มีหน้าที่นำข้อมูลของทั้ง 3 ทีม มาสื่อสารต่อยอดและเผยแพร่ เพื่อให้ข้อมูล ให้ความรู้ แนะทางออก ผ่านช่องทางทางการเผยแพร่ต่าง ๆ
  5. ทีมข้อมูล มีหน้าที่จัดการวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล และออกแบบการจัดเก็บข้อมูล เพื่อใช้ในการบริหารจัดการและขับเคลื่อนเครือข่าย เพื่อฝ่าวิกฤตที่กำลังเผชิญในปัจจุบันและอนาคต ในภาวะวิกฤตเช่นนี้เราไม่ควรรอความหวังหรือความช่วยเหลือจากหน่วยงานไหน ต้องพึ่งพาตัวเองและพึ่งพากันเองให้ได้มากที่สุด เชื่อมั่นว่าความสามัคคีของเครือข่ายและคนไทยทุกคนจะเป็นพลังให้เรารอดจากทุกวิกฤตได้อย่างยั่งยืน​
    โดยที่ผ่านมาเราได้เปิดรับศิษย์ เครือข่าย คนมีใจ และประชาชนที่สนใจมาเป็นอาสาสมัครให้กับทีมงานขับเคลื่อนทั้ง 5ทีม ตามความถนัดเฉพาะด้านของแต่ละคน ซึ่งการรวมกันเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็งและพึ่งพากันในยามวิกฤตด้วยองค์ความรู้ศาสตร์พระราชาจะทำให้เราทุกคนอยู่รอดปลอดภัย”

    ตามรอยพ่อฯ ปี 9 เดินหน้าภารกิจ “สื่อพอดี”
    ด้าน นายอาทิตย์ กริชพิพรรธ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิตจำกัด เปิดเผยว่า “โครงการตามรอยพ่อฯ พร้อมที่จะเข้าไปเสริมและสนับสนุนยุทธศาสตร์การเตรียมการรับมือวิกฤตโควิด-19 ของมูลนิธิฯ อย่างเต็มที่ ในฐานะสื่อพอดี เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้เกิดการนำองค์ความรู้ศาสตร์พระราชาไปลงมือปฏิบัติจนเกิดผลเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่โครงการตามรอยพ่อฯ ดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนถึงปีนี้เป็นปีที่ 9 ผ่านกิจกรรมลงพื้นที่และการสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากทั่วประเทศกว่า 20,000 คน และยังมีผู้ที่ได้รับความรู้และแรงบันดาลใจจากสื่อที่โครงการผลิตขึ้นอีกมากมาย โดยเราจะมุ่งทำหน้าที่นี้อย่างเข้มแข็งและต่อเนื่องเพื่อสื่อสารว่าศาสตร์พระราชาคือทางรอดจากทุกวิกฤตอย่างแท้จริง

    ทั้งนี้ โครงการตามรอยพ่อฯ ปี 9 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘9 ปี แห่งพลังสามัคคี ฟันฝ่าทุกวิกฤต สู่ทางรอดที่ยั่งยืน’ จะเดินหน้าจัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ โดยเน้นช่องทางออนไลน์เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมีไฮไลท์คือการจัดทำบทเรียนออนไลน์คู่มือสู่วิถีกสิกรรมธรรมชาติในรูปแบบบทความและวีดิทัศน์ บอกเล่าเนื้อหาเกี่ยวกับศาสตร์พระราชาและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ครอบคลุมทั้งภาคทฤษฏีและปฏิบัติ รวม 14 บท เพื่อให้ผู้สนใจสามารถนำองค์ความรู้ไปลงมือทำเองได้ หากติดขัดหรือสงสัยเรามีช่องทางถามตอบในสื่อออนไลน์ของโครงการทั้งเว็บไซต์ เฟซบุ๊กและไลน์ (@inspiredbytheking)

นายอาทิตย์ กริชพิพรรธ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิตจำกัด

นอกจากนั้น โครงการตามรอยพ่อฯ ปี9 ยังมีแผนที่จะจัดกิจกรรมเอามื้อสามัคคีที่ จ.นครราชสีมา และพระนครศรีอยุธยา ณ พื้นที่ของคนมีใจที่นำศาสตร์พระราชาไปปฏิบัติจนประสบความสำเร็จ เพื่อให้ผู้สนใจได้มาเรียนรู้และเกิดแรงบันดาลใจผ่านการทำกิจกรรมลงแขกอย่างโบราณ และยังกำหนดจะจัดงานสรุปผลการดำเนินโครงการ 9 ปี ที่ สวนล้อมศรีรินทร์ จ.สระบุรี ที่เป็นจุดเริ่มต้นโครงการอีกด้วย โดยจะวางมาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัยและ การเว้นระยะห่างของผู้ร่วมกิจกรรมอย่างเข้มข้น และส่งท้ายด้วยการรวบรวมคนต้นแบบและบรมครูผู้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการฯ ตลอดทั้ง 9 ปี เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวความประทับใจในรายการเจาะใจซึ่งจะออกอากาศทางช่อง MCOT HD”

นายโจน จันใด ผู้ก่อตั้งสวนพันพรรณ ศูนย์การเรียนรู้เพื่อการพึ่งตนเองและศูนย์เมล็ดพันธุ์

สร้างความมั่นคงทางอาหาร สู้วิกฤต
ด้านนายโจน จันใด ผู้ก่อตั้งสวนพันพรรณ ศูนย์การเรียนรู้เพื่อการพึ่งตนเองและศูนย์เมล็ดพันธุ์ และประธานธรรมธุรกิจ กล่าวแนะนำการดำเนินชีวิตในช่วงวิกฤตโรคระบาดนี้ว่า “เราประเมินไม่ได้ว่าเหตุการณ์จะยาวนานขนาดไหน การรอให้เศรษฐกิจดีขึ้นแล้วหวังว่าเราจะดีขึ้นเอง ก็ดูจะเป็นความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ที่แทบเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นสิ่งที่ควรจะทำ คือ การกลับมาคิดถึงการพึ่งตนเองในเรื่องของอาหารเป็นอันดับแรก เราจะหาอาหารมาจากไหน ถ้าอยู่ในเมืองก็อาจต้องคิดถึงการปลูกอาหารเองง่าย ๆ เช่น การเพาะถั่วงอก หรือการปลูกผักแนวตั้ง อีกวิธีหนึ่งคือการเชื่อมต่อกับกลุ่มเกษตรกรที่เขาทำอยู่แล้ว ให้เขาส่งวัตถุดิบมาให้ ซึ่งควรเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในสภาวะปกติด้วย ที่เราควรจะรู้แหล่งที่มาของอาหารที่เราบริโภค

ฉะนั้นการเชื่อมต่อกันอีกครั้งจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในสภาวะปัจจุบัน การหันกลับมาพึ่งตนเองมากขึ้น กลับมาพึ่งกันเองมากขึ้น ต่อให้ระบบพังหรืออะไรจะเกิดขึ้นเราก็ยังอยู่ได้ นี่คือแนวทางที่เราควรจะต้องกลับมาใคร่ครวญพิจารณา เครือข่ายของเรามีครบทุกอย่างไม่ว่าจะข้าว ปลา กะปิ เกลือ ผัก ฯลฯ และยิ่งถ้าคนสนใจทำแบบนี้มากขึ้นจะทำให้เกิดระบบเศรษฐกิจแนวใหม่ ระบบการค้าแนวใหม่ ที่ทำให้คนได้คุยกันตรงมากขึ้นโดยไม่อ้อม นี่คือสิ่งที่ผมเห็นว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ นี่คือแนวโน้มที่จะทำให้เราอยู่ได้ในช่วงโควิด-19”

​ผู้ที่สนใจติดตามกิจกรรมในโครงการ “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน” ได้ทาง www.facebook.com/ajourneyinspiredbytheking หรือดูรายละเอียดที่ https://ajourneyinspiredbytheking.org

หยุดเวลาไว้ที่ อยุธยา รีทรีต

วันเดียวเที่ยวอยุธยา รีทรีต อีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร
การท่องเที่ยวครั้งนี้ เริ่มจากกรุงเทพฯ มุ่งสู่จังหวัดอยุธยาเมืองมรดกโลกที่ใครหลายคนเคยไปเยือนมาแล้วหลายครั้ง ครั้งนี้ Toptotravel จะพาไปย้อนวันวาน
ที่บ้านทรงไทย ท่องเที่ยว สนุกแบบปลอดภัย ห่างไกลโควิด อย่างไรก็ตามปีนี้ กลางปี หรือเมื่อไหร่ก็ตาม เราก็ตั้งตารอการกลับมาเที่ยวได้อีกอีกครั้ง เพราะการท่องเที่ยวก็ยังเป็นสิ่งที่คนไทย และคนทั่วโลกรอคอย

อยุธยา รีทรีต
Ayutthaya Retreat เรือนไทยคาเฟ่

อยุธยา รีทรีต ไม่ไกลจากวัดไชยวัฒนาราม เป็นทั้งโรงแรมและร้านอาหาร ริมทุ่งนาที่อยู่ห่างจากเกาะอยุธยาไปไม่ไกล โดนจะมีถนนตัดผ่านอยู่อีก 2 เส้น แนะนำเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการท่องเที่ยวในช่วงเวลากักตัวอยู่บ้านให้ท่องเที่ยว สนุกปลอดภัย ห่างไกลโควิด

หนีร้อนมานั่งรับลม Ayutthaya Retreat อยุธยา รีทรีต
ร้านอาหารกึ่งคาเฟ่บรรยากาศอบอุ่น ในจังหวัดอยุธยา และรีสอร์ท เรือนไม้สักสวยงาม ในบรรยากาศย้อนยุค กลางอยุธยา ภายในคราค่ำไปด้วยต้นไม้หลากหลายพันธุ์ สัมผัสได้ถึงความรื่นรมย์

อยุธยารีทรีต คาเฟ่ตกแต่งสไตล์ไทย ๆ ลักษณะเป็นบ้านทรงไทย ล้อมรอบบึงบัว โซนที่นั่งมีให้เลือกหลากหลายทั้งอาหาร-เครื่องดื่ม-พักผ่อน-ถ่ายรูป เมนูที่เราได้ลองทานกันวันนี้…

ลุงตุ้ย-ทัศนะ จรัสศรี (ซ้าย)

ลุงตุ้ย คุณทัศนะ จรัสศรี คือผู้ริเริ่มที่ทำให้อาคารเรือนไทยไม้สักหลังเดิมถูกแปลงโฉมให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง Ayutthaya Retreat เปิดให้บริการเมื่อปี 2554 โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งชื่นชอบบรรยากาศแบบไทยโบราณ ในรูปแบบของโรงแรมบ้านทรงไทยโบราณ สุดชีคที่แฝงด้วยความเป็นไทย และร้านอาหารผู้ริเริ่มร้านเปิดคาเฟ่ และโรงแรมอยุธยา รีทรีต แห่งนี้ขึ้นมา เรือนไทยโบราณที่มีลักษณะ เรือนหมู่ โดยมีเรือนหลัก และเรือนย่อย อยู่ในบริเวณเดียวกัน และมีพื้นที่ส่วนกลางเปิดโล่งมี หอกลาง เหมือนที่เราคุ้นเคยกันในละครไทยไทย และที่นี่ ยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำละครดังหลายเรื่อง อาทิ
ข้าบดินทร์ ขมิ้นกับปูน แรงชัง เขยใหญ่สะใภ้เล็ก หรืออื่นๆ อีกมากมาย ลุงตุ้ยได้เข้ามาปรับปรุงพื้นที่แห่งนี้เพียงต้องการการสร้างบ้านเพื่อใช้ชีวิตตามเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยเนื้อที่ที่ทำให้สามารถใช้พื้นที่ให้คุ้มค่าได้ทั้งหมด

อยุธยา รีทรีต โรงแรมทรงไทย สวยสบาย จนใครได้ไปพักสักครั้งต้องติดใจจนไม่อยากกลับ พร้อมต้อนรับผู้รักความสงบงามของธรรมชาติ เหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ สูดอากาศสดชื่น ในรูปแบบเสมือนบ้านสวน ที่มีความอบอุ่น เงียบสงบ เหมาะแก่การมาพักผ่อน

เรือนไทยที่มีอายุกว่า 50 ปี
ด้านบนของเรือนไทย เป็นห้องพักมีทั้งแบบสุพีเรียและดีลักซ์
ด้านบนของเรือนไทย เป็นห้องพักมีทั้งแบบสุพีเรียและดีลักซ์
ห้องน้ำชั้นบน (เปิดจากห้องนอน)
ทุ่งธรรมชาติของพระนครศรีอยุธยา

ก้าวเข้ามายังภายในบริเวณของโรงแรม แล้วจนอยากแต่งตัวในชุดไทยสวย โรงแรมมีห้องพักที่ตกแต่งสวยงามที่พักออกแบบมาให้ใกล้ชิดธรรมชาติมีให้เลือก 3 รูปแบบ คือ ห้องวิลลาไทยเดิม (TRADITIONAL THAI VILLA), ห้องดีลักซ์ (DELUXE) และห้องห้องซูพีเรีย บัลโคนี (SUPERIOR BALCONY) ทุกห้องพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เข้าไปภายในห้อง สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทีวีดาวเทียม สัญญาณ Internet Wifi ทุกห้อง ตู้เย็น แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น ห้องกว้างขวาง สะอาด โทรทัศน์จอแบน, กระจก, และห้องน้ำที่แปลกตากว่าที่อื่น ๆ ผสมผสานความเป็นไทยกับตะวันตกได้อย่างลงตัวบรรยากาศโดบรอบโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติสวยช่วยให้ผ่อนคลาย วที่พักปลูกสร้างแบบใกล้ชิดธรรมชาติใช้วัสดุจากธรรมชาติเป็นหลัก เน้นสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุดใครดูภาพเสร็จแล้วอยากไปก็ไปจองกันได้

อยุธยา รีทรีต Ayutthaya Retreat
ที่อยู่ 5/4 หมู่ 4 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 
พิกัดบริเวณ เลียบคลองชลประทานอยุธยา-บางบาลติดวัดป้อมใหญ่ เลยวัดท่าการ้อง 1 กิโลเมตร
อยุธยา รีทรีต คาเฟ่เรือนไทย เปิดบริการตั้งแต่เวลา 09.30-18.00 น.
ร่วมกับการเว้นระยะห่างตามมาตรการ
พิกัด https://maps.app.goo.gl/SbwDaPhXsUCkgCUJ6

#อยุธยารีทรีต #AyutthayaRetreatCafRestaurant
#เรือนไทยคาเฟ่ #toptotravel