All posts by Shanya

โรงแรม วารานา กระบี่ โรงแรมต้นแบบเพื่อความยั่งยืนของโลก

‘วารานา’ ที่มาของความหมายที่ลึกซึ้ง เพราะการออกแบบของทุกพื้นที่มีความหมายและได้ประโยชน์สูงสุด การมาพักที่นี่ถือเป็นเปิดประสบการณ์ใหม่การพักผ่อน และการดูแลสุขภาพ กับโรงแรมที่ออกแบบทุกองค์ประกอบด้วยหัวใจแห่งความยั่งยืน จากแนวคิด “การใช้ชีวิตอย่างสมดุล” สู่ดีไซน์ร่วมสมัยที่กลมกลืนกับธรรมชาติ

การเข้าพักเริ่มต้นด้วยการ Check-in เลือก Welcome Drink จากตู้เย็น เลือกดื่มน้ำสมุนไพรท้องถิ่น ก่อนที่พนักงานต้อนรับจะพาเรานั่งรถตุ๊กๆไฟฟ้า EV เพื่อแนะนำสถานที่โดยรอบของโรงแรม และส่งยังห้องพัก แนะนำข้อมูลต่างๆ ขอโรงแรมโดยละเอียด โรงแรมนี้เปิดใหม่ได้ไม่นานมีพื้นที่ขนาดใหญ่เราพักอาคาร 2 ห้อง 228 จากห้องพักมองเห็นสระว่ายน้ำ OLYMPIC POOL ขนาดสระ 7 x 50 ม. สำหรับว่ายน้ำแบบแข่งขันว่ายน้ำ และความลึกสูงสุดที่ 3 ม. สามารถดำน้ำฝึกสกิล Freediving มีฟินให้ใช้ Paddle board ให้พาย และมี Sea Scooter ให้เล่นไม่ต้องกังวลเพราะมีไลฟ์การ์ด สแตนบายในช่วงเวลาที่เปิดให้บริการ กิจกรรมที่เปิดให้ทุกคนเข้าร่วมคลาสไม่เหมือนกัน สามารถดูได้จากบอร์ดกิจกรรมและโปรแกรมตอนเช็คอิน

โรงแรมนี้มีเรื่องความยั่งยืน Wellness Hotel และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ทุกท่านที่มาพักจะได้สัมผัสกับประสบการณ์พักผ่อนแบบ ‘เวลเคชัน’ ท่ามกลางวิวอันงดงามของภูเขาและทะเลอันดามัน ทั้งยังเปิดรับแนวคิดการเป็นที่พักที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และที่นี่มีการจัดการอย่างยั่งยืนเอาใจสายรักตัวเองและรักโลกและสังเกตได้จากทุกอย่างภายในโรงแรม เน้นการพักผ่อน อากาศดี มีกิจกรรม ออกกำลังกาย และดูแลสุขภาพตนเองอย่างยั่งยืนด้วยวิถีธรรมชาติ
บำบัด

โรงแรมวารานา ออกแบบด้วยแนวคิด Minimal Luxury เน้นความเรียบง่าย แต่ยังคงความสวยงาม หรูหราและทันสมัยมากด้วยประโยชน์ใช้สอย อาคารที่พักแยกออกเป็น 6 หลังมีห้องพักจำนวน 141 ห้อง โดยมีห้องหลากหลายรูปแบบ อันได้แก่ Presidential Suite, Three Bedroom Suite Pool Access, Horizon Suite, Luxe Plus, Luxe Room โรงแรมวารานาจึงสอดคล้องกับนโยบาย BCG Model หรือการพัฒนาเศรษฐกิจที่ควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนเพราะ ‘เรา’ อยากเป็นจุดแวะพักที่อยู่ในความทรงจำของผู้มาเยือนด้วยประสบการณ์การพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบการเติมเต็มแรงบันดาลใจในชีวิต ด้วยการดูแลสุขภาพกายและใจ แล้วยังได้ร่วมจับมือดูแลรักษ์โลกไปพร้อมกัน”

นอกเหนือจากการห้องพักที่ทันสมัย สะดวกสบาย แล้ว สิ่งอํานวยความสะดวกต่างๆ ภายในห้องพักยังได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ประณีตและให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น พรมปูพื้นที่ถักทอด้วยเส้นใยที่ผลิตจากขวดน้ำดื่มพลาสติกที่ใช้แล้ว โซฟาบุจากผ้าที่ทอจากเส้นด้ายที่ผลิตจากเศษผ้ารีไซเคิล โคมไฟทำจากไม้ไผ่ซึ่งเป็นพืชที่ปลูกง่าย โตไว จึงเป็นทางเลือกในการใช้วัสดุอย่างยั่งยืน เฟอร์นิเจอร์ไม้บางชิ้นผลิตจากเศษไม้เก่าที่กําลังจะกลายเป็นขยะ โดยผ่านกระบวนการ ออกแบบและแปรสภาพเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหม่เป็นการสร้างชีวิตใหม่ที่มีคุณค่าให้กับเศษไม้

เรื่องอาหาร ใช้วัตถุดิบจากสวนปลูกเอง และยังสนับสนุนสินค้าจากคนท้องถิ่น คัดมาแล้วว่าปลอดสารพิษ สดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นซีฟู๊ดจากเรือประมง เนื้อสัตว์จากฟาร์มออแกนิก นำมาใช้ในส่วน ห้องอาหาร

โรงแรม วารานา กระบี่ เน้น “เรื่องกิน คือ เรื่องใหญ่” ความพิถีพิถันคัดสรรวัตถุดิบและจัดการเรื่องโภชนาการอาหาร ที่ทำให้สุขภาพกายดีไปพร้อมกับความอร่อยด้วยอาหารเช้าโฮมเมด สร้างความประทับใจเรื่องราว “Food Story”ด้วย ไฮไลท์ของเมนูไข่จากแม่ไก่เลี้ยงปล่อยอิสระตามธรรมชาติ น้ำผลไม้แยกกาก เครื่องดื่มดีทอกซ์ ชา กาแฟออแกนิค ขนมปังแป้งหมัก (Sour Dough) เชื้ออายุ 200 ปี มาจากหมู่บ้านสวิส ครัวซอง ชีส แยมผลไม้ เนยถั่ว อะโวคาโด้ เป็นวัตถุดิบพิเศษ และเพื่อมอบประสบการณ์ในการกินที่หลากหลาย โดยมีห้องอาหารให้เลือกถึง 6 แห่ง


KIN : The Taste of Asian เป็นห้องอาหารหลักที่เน้นอาหารไทยจากมิชิลินเชฟ เดวิด ทอมป์สัน อาหารจีนที่รังสรรค์เมนู โดยเชฟป้อม กระทะเหล็ก

NOOK : All Day Dining ให้บริการอาหาร เครื่องดื่ม ชา กาแฟ และเบเกอรี่ที่ทำสดใหม่ทุกวัน

SALA : Mediteranean Cuisine สัมผัสกับบรรยากาศยามอาทิตย์อัสดงจนถึงยามราตรี เพลิดเพลินกับเครื่องดื่มและอาหารสไตล์ทาปาสร่วมสมัย

SIP : บาร์เครื่องดื่มและอาหารว่างริมสระว่ายน้ำ

CLUB VARANA: Afternoon Tea, Lounge


THE BEACH CLUB อาหาร ดนตรี ริมหาด เมนูพิซซาเตาฟืน พาสต้า สลัดต่างๆ อาหารทะเลจากชุมชมประมง สถานที่จัด งานเลี้ยงรองรับได้ 300 คน กิจกรรม
บีชวอลเลบอล พายเรือ ปิงปอง และกิจกรรมอื่นอีกมากมาย

สุขภาพดี = ความสุข คือ หัวใจของการมาพักผ่อนที่โรงแรม วารานา กระบี่ อาหารอร่อยและปลอดสารเคมีทำให้สุขภาพกายแข็งแรง ความสุขทำให้จิตใจเบิกบาน จึงเป็นที่มาของ FAA Spa และ NAAM Wellness แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย


วัตถุดิบที่นำมาใช้ปรุงอาหารจะเน้นจัดหาในท้องถิ่นหรือในระยะรัศมีไม่เกิน 50 กิโลเมตร โดยเน้นวัตถุดิบที่ปลอดภัยและปราศจากการปนเปื้อนของสารเคมี นอกจากนั้นยังมีแปลงผักและสมุนไพร ที่บุคลากรในโรงแรมช่วยกันปลูกและดูแล เป็นแปลงเกษตรปลอดสารที่ใช้ปุ๋ยจากใบไม้แห้ง เศษวัชพืชและเศษอาหารที่ผ่านการคัดแยกมาทำการหมักเป็นปุ๋ย ซึ่งเป็นการจัดการขยะมูลฝอยภายในโรงแรมอย่างเป็นระบบและยั่งยืนและยังเป็นการช่วยลดขยะอินทรีย์
เข้าสู่ระบบขยะเป็นศูนย์ (Zero Waste)


FAA Spa & Onsen (ฟ้าสปา) โดมสปาทรงสามเหลี่ยมสมดุล เพราะเชื่อว่าธรรมชาติมีพลังพิเศษ จึงได้นําศาสตร์ความรู้แพทย์แผนไทยมาปรับใช้ในรูปแบบที่ทันสมัยให้เหมาะกับยุคปัจจุบัน ให้บริการนวดแบบผ่อนคลายหรือแบบรักษา นวดไทย นวดน้ำมัน นวดรักษาอาการเจ็บ อาหารไม่ย่อย นอนไม่หลับ มีห้องสตีมและห้องซาวน่า โดยเน้นการใช้สมุนไพรไทยในการอบตัว นอกจากนี้ยังมีออนเซ็นที่ผู้ใช้สามารถสัมผัสกลิ่นอายธรรมชาติ โดยมีบ่อแช่ตัวเพิ่มวิตะมินดีกลางแจ้ง ทั้งอุณหภูมิร้อนและเย็น ทั้งนี้น้ำในบ่อจะมีมวลขนาดเล็กของออกซิเจนแทรกอยู่ เป็นผลจากการนํานวัตกรรมนาโนเทคโนโลยีมาเติมออกซิเจนลงไป
ซึ่งจะทำให้สามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก

NAAM Wellness แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ที่ผสมผสานธรรมชาติบําบัดกายและจิตผ่านเรื่องราวของน้ำ ใน 10 ขั้นตอน DIY ( Do it yourself ) เช่น การพอกโคลน อบสตีมสมุนไพร ว่ายทวนกระแส แช่ออนเซ็น แช่น้ำเย็น บ่อลอยสมาธิ ซึ่งขั้นตอนการทำธาราบําบัดนี้ (Hydrotherapy) ได้ถูกออกแบบให้มีเอกลักษณ์ สำหรับ NAAM Wellness โดยเฉพาะ ประกอบด้วย 10 ขั้นตอน
เป็นการใช้น้ำในการรักษาและบรรเทาอาการปวดตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ขจัดสารพิษ และช่วยทำให้หลับสบาย ทำให้ผ่อนคลายและเป็นการรักษาสุขภาพองค์รวม ปัจจุบันนี้ธาราบําบัดได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของกายภาพบําบัดและเวชศาสตร์ฟื้นฟู

SWIM – SPORTS – ACTIVITIES – EXCURSION
FAB ฟิตเนสที่มีอุปกรณ์ครบครันในสไตล์ฟังก์ชันนอลยิม ที่ได้มาตรฐานสากลที่นักกีฬาอาชีพใช้ นอกจากนี้ยังมีสตูดิโอ
อเนกประสงค์รองรับผู้ใช้บริการได้มากถึง 60 คน สำหรับการออกกําลังกายประเภทตางๆ เช่น มวยไทย โยคะ ดนตรีบําบัด
(Sound Healing) โดยเทรนเนอร์มืออาชีพ บริเวณโดยรอบโรงแรมได้ออกแบบถนนที่สามารถเชื่อมต่อกันใช้เป็นลู่วิ่งรวมระยะทางโดยรอบยาว 1 กิโลเมตร ยังมีกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆเพิ่มเติม อาทิเช่น เกมวิบากสปาตั้น สตรีทยิม ผนังฝึกปีนหน้าผา ลานโยคะกลางแจ้ง ลานหินกรวดสำหรับนวดฝาเท้า เป็นต้น
SWIM อีกไฮไลท์หนึ่งสำหรับกิจกรรมกลางแจงคือสระว่ายน้ำต่างระดับจำนวน 4 สระ อันได้แก่สระสำหรับเด็ก สระสำหรับผู้ใหญ่ สระนวด และสระโอลิมปิกความยาว 50 เมตร มาตรฐานโอลิมปิก จำนวน 7 ลู่

โรงแรมวารานา กระบี่ ได้เปิดโอกาสให้นักกีฬาว่ายน้ำเยาวชนมาใช้สระโอลิมปิกในการฝึกซ้อมประจำสัปดาห์ โดยทำงานร่วมกับชุมชน เพื่อร่วมพัฒนาการท่องเที่ยว เช่น การจัด ทริปพิเศษให้ลูกค้า นักท่องเที่ยวได้ล่องเรือสัมผัสวิถีชาวเล เยี่ยมชมธนาคารปู และทดลองเพ้นท์ผ้า และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

โรงแรมวารานา กระบี่ มีเป้าหมายเพื่อจัดการขยะมูลฝอยภายในโรงแรมอย่างเป็นระบบและยั่งยืน รวมทั้งปลูกฝังจิตสํานึกให้บุคลากรของโรงแรมมีความรู้ความเข้าใจ เห็นความสำคัญของการลดและคัดแยกขยะโดยการปฏิบัติอย่างต่อเนื่องด้วยหลักการ 1A3R : Avoid ,Reduce , Reuse , Recycle คือการเลี่ยง ลด ใช้ซ้ำและหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ ตัวอย่างเช่น การเลิกใช้ถุงพลาสติกและกล่องโฟมและทดแทนด้วยการใช้ปิ่นโต บรรจุอาหารสำหรับแขกนําไปรับประทานในระหว่างทัศนศึกษานอกสถานที่ลดการใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียวด้วยการใช้ขวด น้ำ ที่ให้บริการในห้องพักและร้านอาหารเป็นขวดแก้วทั้งหมด หลีกเลี่ยงการใช้ขวดพลาสติกเล็กๆ ที่บรรจุสบู่เหลวและแชมพูใช้ขวดปั๊มแบบรีฟิล เพื่อลดการ
ใช้วัสดุสิ้นเปลือง

รายละเอียดเพิ่มเติม
FB : Varana Hotel Krabi

Tel : 075-656989
Reservation: 065 928 6852
rsvn@varanahotel.com
Website: varanahotel.com/kkt
Map : maps.app.goo.gl/e3oNeVJ8d9XY5uQb8

𝗧𝗵𝗲 𝗕𝗲𝗮𝗰𝗵 𝗖𝗹𝘂𝗯 𝗞𝗹𝗼𝗻𝗴 𝗠𝘂𝗮𝗻𝗴

ทริปนี้ที่จังหวัดกระบี่ ที่ THE BEACH CLUB บรรยากาศริมทะเล พิซซ่าอร่อย พระอาทิตย์ตกดินที่นี่สวยสะกดใจ ใครกำลังมองหาร้านอาหารบรรยากาศดีๆ ริมทะเล แนะนำเลย ร้านนี้ตรงข้าม โรงแรม วารานา กระบี่ บรรยากาศสบายๆ ลมทะเลเย็น วันนี้มีฝนปรอยๆๆ นั่งชิลได้ทั้งกลางวันและชาวงเย็น ถ้าฝนไม่ตกช่วงพระอาทิตย์ตก บอกเลยว่าวิวหลักล้าน

วันนี้ Toptotravel มาทานอาหารค่ำที่ THE BEACH CLUB KRABI อาหารอร่อย วิวคือดีมาก ส่วนตัวชอบ-3 เมนูนี้
Protein Bowl : สลัด
Pizza :pramaham and Andaman Seafood
Shish Kebab Chicken : เคบับไก่

Protein Bowl : สลัด
Pizza :pramaham and Andaman Seafood
Shish Kebab Chicken : เคบับไก่

พิซซ่าที่นี่อร่อยมาก แป้งบางกรอบส่วนตรงขอบนุ่มกำลังดี อบร้อนในเตาฟืนแบบอิตาเลียน อาหารที่นี่คุณภาพดี ใช้ผักสดออร์แกนิค เน้นใช้วัตถุดิบ อาหารทะเลจากท้องถิ่น พร้อมเสิร์ฟความอร่อย มื้อกลางวันและมื้อเย็นริมทะเล ติดทะเลแบบเดินไม่กี่ก้าวถึงทราย มุมดี แสงสวย เมนูมีหลากหลายด้วย มาที่นี่ แนะนำพิซซ่าเตาฟืนที่นี่อร่อยมาก ลองไปหลายเมนู ทุกจาน อาหารจานใหญ่ อร่อยมาก

The Beach นั่งชิลล์ริมชายหาดวิวสวยมากๆๆ ลมเย็นสบาย ใส่บิกินี่หรือชุดว่ายน้ำพักผ่อนหย่อนใจ บริเวณมีสระว่ายน้ำ มีบริเวณให้นั่งๆ นอนๆ เล่นน้ำ ตากแดด บีชคลับ ริมทะเลในบรรยากาศแสนผ่อนคลาย ที่นี่เสิร์ฟค็อกเทลเย็น พิซซ่าเตาถ่าน พร้อมเสียงเพลงจาก DJ ตอนเย็นวิวพระอาทิตย์ตก คือสวยมาก อยากให้ลองมาสัมผัสเองถึงจะรู้ว่ามันดี ที่นี่ เหมาะสำหรับการนัดพบเพื่อนฝูง หรือเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้ที่ต้องการหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการพักผ่อนริมทะเล สัมผัสบรรยากาศโรแมนติก เพลิดเพลินกับอาหารอร่อย ท่ามกลางทะเลสวยและบรรยากาศสุดพิเศษ

ช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดินของที่นี่สวยสะกดใจ เป็นอีกหนึ่งที่ฮีลใจ เข้าพักที่ VARANA ข้ามถนนจากหน้าโรงแรมมาที่ THE BEACH CLUB ริมทะเล เพียงเดินออกมาจากโรงแรมไม่ถึง 100 เมตร จะมี Beach Club & restuarant บรรยากาศ ท้องฟ้ากับวิวทะเล เดินเหยียบพื้นทราย ฟังเพลงจากดีเจ ไปพร้อมกับเสียงคลื่นซัดชายฝั่ง ตัวร้านตั้งอยู่ติดหาด วิวทะเลแบบพาโนรามา นั่งรับลมธรรมชาติได้เต็มที่ มีทั้งโซนอินดอร์และเอาท์ดอร์ โต๊ะริมหาด คือไฮไลท์ของที่นี่เลย รับรองว่าฟินมากๆ คะ

𝗧𝗵𝗲 𝗕𝗲𝗮𝗰𝗵 𝗖𝗹𝘂𝗯 𝗞𝗹𝗼𝗻𝗴 𝗠𝘂𝗮𝗻𝗴
Experience the perfect blend of good vibes, international cuisine, delightful desserts, and refreshing tropical drinks.
This beachside retreat is ideal for socializing, from relaxed gatherings to lively pool parties.

ร้านอาหารติดทะเล รสชาติอาหารอร่อย พนักงานให้บริการดีมาก
มาเที่ยวกระบี่ อย่าแวะมาชิมและชมวิวสวยๆ ได้ที่
THE BEACH Club Krabi
258 Moo 3, Tambon Nongtalay Krabi, Thailand,
โทร. 075 656 858

บรรยากาศงาน Halloween Night @ Narisa Café & Creative Space

เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ความสนุก และความคิดสร้างสรรค์ที่อบอวลไปทั่วทั้งร้าน

ภายในงาน ทุกคนแต่งกายตามธีม “Color of Halloween with Thai Twist” สะท้อนทั้งความเท่และความขี้เล่นในสไตล์ของ Narisa Café — มีทั้งแม่มดในผ้าไทยสีดำ แวมไพร์ผู้สง่างาม และศิลปินรับเชิญที่ร่วมขับร้องเพลงอย่างอบอุ่นท่ามกลางแสงเทียนและบรรยากาศศิลป์ในบ้านไม้หลังเก่า

เมนูพิเศษที่เสิร์ฟในค่ำคืนนั้น ออกแบบอย่างประณีต เช่น “ข้าวเกรียบหมึกดำยำมะเขือเทศเชอรี่และองุ่น” “แกงฟักทองเนื้อตุ๋นเสิร์ฟในลูกฟักทองญี่ปุ่น” และ “ไอศกรีมกะทิซอสทับทิม” — ทุกจานคือศิลปะที่กินได้

ช่วงดนตรีสดเป็นไฮไลต์สำคัญ ศิลปินรับเชิญผลัดกันร้องเพลง ทั้งเพลงคลาสสิกและเพลงสมัยใหม่ บรรเลงโดยวงดนตรีกีตาร์อะคูสติก เสริมด้วยเสียงร้องอบอุ่นและรอยยิ้มของผู้ชม

ปิดท้าย ด้วยกิจกรรมถ่ายภาพหน้าฉาก “Happy Halloween” ที่ตกแต่งด้วยโทนส้มดำ มีโคมฟักทองและใยแมงมุมประดับทั่ว พร้อมเสียงหัวเราะของแขกผู้ร่วมงานที่ต่างถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก

คืนฮาโลวีนปีนี้จึงไม่ได้มีเพียงความน่ากลัว แต่ยังเปี่ยมด้วยความรัก ความอบอุ่น และมิตรภาพในบรรยากาศของศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ — สไตล์เฉพาะของ Narisa Café & Creative Space

ร้าน Narisa Café & Creative Space
ตั้งอยู่ในซอย (พหลโยธิน17)
กรุงเทพมหานคร ใกล้เซ็นทรัลลาดพร้าว คาเฟ่ที่ซ่อนตัว
(อยู่ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่)
และบ้านสไตล์ไทยร่วมสมัยที่อบอุ่นเป็นกันเอง

Review : Narisa Café & Creative Space
https://www.toptotravel.com/2022/02/06/narisa-cafe-creative-space-022556/

การท่องเที่ยวแห่งมาเลเซียจัดงาน Global Tourism Meet 2025

ขับเคลื่อนแคมเปญ Visit Malaysia 2026 ปุตราจายา การประชุมการท่องเที่ยวระดับโลก 2025: มาเลเซีย เตรียมเป็นเจ้าภาพงานธุรกิจการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ขับเคลื่อนแคมเปญ Visit Malaysia 2026 ปุตราจายา 

วันที่ 1 ตุลาคม 2025 – การท่องเที่ยวแห่งมาเลเซียจัดงาน Global Tourism Meet 2025  ซึ่งเป็นงานธุรกิจการท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่คาดว่าจะกลายเป็นการรวมตัวสำคัญของอุตสาหกรรม งานนี้จะเชื่อมต่อผู้ซื้อระหว่างประเทศจำนวน 600 คน และผู้แทนสื่อ 100 คนจากทั่วโลก กับผู้ขายชาวมาเลเซียจำนวน 400 รายที่เป็นตัวแทนของโรงแรม ตัวแทนท่องเที่ยว สายการบิน และผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบรวมอยู่ภายใต้หลังคาเดียวกัน งานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 ถึง 3 ตุลาคม 2025 ที่ศูนย์การค้าระดับโลกกัวลาลัมเปอร์ 

โดยโปรแกรมสามวันนี้มุ่งเสริมสร้างตำแหน่งของมาเลเซียในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่ผู้คนชื่นชอบ พร้อมปูทางสำหรับ Visit Malaysia 2026 (VM2026) ซึ่งประเทศตั้งเป้าหมายผู้มาเยือนระหว่างประเทศจำนวน 47 ล้านคน ตลอดงาน ผู้เข้าร่วมจะมีโอกาสเข้าร่วมการประชุมธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) กิจกรรมเครือข่ายที่มีผลกระทบสูง กิจกรรมจับคู่ธุรกิจเชิงกลยุทธ์

วายบี ดาทุก ไครุล ฟิรเดาส์ อัคบาร์ ข่าน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรม ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของงานนี้ว่า “Global Travel Meet 2025 เป็นมากกว่าแค่กิจกรรม แต่เป็นเวทีที่เปลี่ยนความคิดไปสู่การปฏิบัติ งานนี้ถือเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำคัญในการจุดประกายพลังใหม่และขับเคลื่อนแรงผลักดันที่แข็งแกร่งสู่ปีข้างหน้า ผ่านความพยายามร่วมกันของรัฐบาล ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม และพันธมิตร ในการบรรลุเป้าหมายอันทะเยอทะยานของเราสำหรับ VM2026”

ด้วยการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากสายการบินในมาเลเซีย เช่น มาเลเซียแอร์ไลน์ แอร์เอเชีย และบาติกแอร์ Global Travel Meet 2025 จึงจัดขึ้นผ่านความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับสมาคมการท่องเที่ยว

สมาคมการท่องเที่ยวและการเดินทางชาวอินเดียมาเลเซีย (MITTA) ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญอื่นๆ ภาคการท่องเที่ยวของมาเลเซียแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและการเติบโตอย่างโดดเด่นในช่วง ไม่กี่ปีที่ผ่านมา 

ในปี 2567 มาเลเซียได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 38.0 ล้านคน เพิ่มขึ้น 31.1% เมื่อเทียบกับปี 2566 และเพิ่มขึ้น 8.3% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการระบาดใหญ่ในปี 2562 ตลาดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวสูงสุด ประกอบด้วยสิงคโปร์ อินโดนีเซีย จีน ไทย บรูไน อินเดีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และจีน ไทเป แรงกระตุ้นเชิงบวกนี้ ยังคงดำเนินต่อไปจนถึงปี 2568   เฉพาะ เดือนมกราคม ถึง กรกฎาคม ประเทศมาเลเซีย เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 24.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 16.8%   เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

วศิน วรรณพฤกษ์ รับรางวัล ผู้ส่งเสริมและสนับสนุน ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ

เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา นายวศิน วรรณพฤกษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจองค์กร บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบุคคลดีเด่นที่ได้รับรางวัล “คุ้มเกล้าเยาวชนคนสร้างชาติ” ประจำปี 2568 ในสาขา “ผู้ส่งเสริมและสนับสนุน ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ” สาขาหนึ่งของรางวัล “ซึ่งมอบให้กับบุคคลหรือองค์กรที่สร้างคุณประโยชน์และทำความดีต่อสังคมไทยอย่างโดดเด่น เพื่อส่งเสริมค่านิยมที่ดีงาม เช่น การพัฒนาสังคม การอนุรักษ์วัฒนธรรม และการทำจิตอาสา

โดยจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 7 แล้วสำหรับปีนี้ รางวัลดังกล่าวเป็นรางวัลที่มอบให้แก่ผู้ทำความดีและสร้างคุณประโยชน์ต่อสังคมอย่างโดดเด่น จัดขึ้นโดยมูลนิธิคุ้มเกล้าเยาวชนคนสร้างชาติ เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีค่านิยมที่ดีงามตามหลักปรัชญา ส่งเสริมให้เยาวชนไทยได้ศึกษา คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ พัฒนาสังคม อนุรักษ์วัฒนธรรม สืบสานศาสนา ส่งเสริมกีฬา และมุ่งมั่นจิตอาสาแบบบูรณาการ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานเอกชน นักเรียนและนักศึกษาทั่วประเทศ ร่วมรับรางวัล โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในงาน และนายสมใจ วิเศษทักษิณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้มอบรางวัล ซึ่งจัดขึ้น ณ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ

วศิน วรรณพฤกษ์ คว้ารางวัลผู้บริหารงานการตลาดภาครัฐ จากเวที ASIA TOP AWARDS 2025

งานประกาศรางวัล ASIA TOP AWARDS 2025 ครั้งที่ 4 เพื่อยกย่องบุคลากร-องค์กร วัตถุประสงค์ในการจัดงานในปีนี้ ให้ความสำคัญกับการพัฒนามูลค่าเศรษฐกิจ เป็น Soft Power อันทรงพลัง ได้แก่ อุตสาหกรรมบันเทิง การท่องเที่ยว วัฒนธรรม การแพทย์ สุขภาพและความงาม อสังหาริมทรัพย์ เพื่อขับเคลื่อน และส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกด้าน พร้อมทั้งเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างประเทศใน ภูมิภาคเอเชีย และ เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ ระหว่างประเทศ ไทย-จีน จึงมีการแต่งตั้งฑูต จากโครงการ ASIA TOP AWARDS จัดขึ้น เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 ที่ Phenix Grand Ballroom ภายใต้ธีม “Soft Power & Wellness Grand Tourism” การประกาศเกียรติคุณครั้งนี้มี ศิลปิน ดารา นักร้อง ทั่วทั้งเอเชีย อาทิ ไทย จีน เกาหลี ฮ่องกง อินโดนีเซีย พม่า เวียตนาม มาเลเซีย เป็นต้น

ผู้บริหารระดับสูงจากภาครัฐและเอกชน ที่มีผลงานดีเด่นถูกเสนอชื่อให้ขึ้นรับรางวัล หนึ่งในนั้น คือ นายวศิน วรรณพฤกษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจองค์กร บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสึแดง ขึ้นรับรางวัลผู้บริหารงานการตลาดภาครัฐยอดเยี่ยม ขึ้นรับรางวัลนี้ 3 ปีติดต่อกัน

“เป็นเกียรติสำหรับผมและครอบครัวมากครับ ผมได้รับรางวัลนี้ 3 ปีติดต่อกัน คือกำลังใจที่วิเศษในการทำงาน ผมจะตั้งใจที่จะใช้ความรู้ ความสามารถ และหัวใจ ปฎิบัติหน้าที่ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม จริยธรรม และยึดหลักการธรรมาภิบาล เพื่อยกระดับการให้บริการให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น มุ่งหวังที่จะให้ประชาชนแถวชานเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้รับความเท่าเทียมและมีความสุขในการได้รับบริการระบบขนส่งสาธารณะทางราง รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ขอบคุณครับ” นายวศิน กล่าวทิ้งท้าย

เปิดประสบการณ์รสชาติระดับไฮเอนด์ที่ REIGNWOOD PARK

REIGNWOOD PARK กับสองจุดหมายปลายทางใหม่ของนักชิม SILVERSKIN CAFÉ AND BISTRO และ THECHAMPIONSHIP RESTAURANT ที่ผสานศิลปะการกินกับไลฟ์สไตล์เหนือระดับ

REIGNWOOD PARK แลนด์มาร์กใหม่ของการใช้ชีวิตคุณภาพระดับเวิล์ดคลาส ชวนสัมผัสประสบการณ์ความอร่อยจาก 2 ร้าน SILVERSKIN CAFÉ AND BISTRO คาเฟ่และอาหารนานาชาติสุดสร้างสรรค์ที่โดดเด่นด้วยเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ และ THE CHAMPIONSHIP RESTAURANT ร้านอาหารที่สะท้อนความพิถีพิถันในการคัดสรรวัตถุดิบจากหลายวัฒนธรรมทั่วโลก เพื่อรังสรรค์เมนูหลากหลายทั้งอาหารไทย อาหารจีน และนานาชาติ ผสานการนำเสนอในสไตล์โมเดิร์นคลาสสิกที่ตอบโจทย์นักชิมสายลักชัวรี ภายใต้แนวคิด “ REIGNWOOD LIFE ” ที่ออกแบบ “วิถีชีวิต” ที่ให้ได้ใช้เวลาได้อย่างมีคุณภาพในทุกวัน ผ่านหลากหลายมิติ ทั้งธรรมชาติ กีฬา สุขภาพ ศิลปะ และอาหารพร้อมเครื่องดื่มที่สะท้อนอัตลักษณ์ระดับโลก

หนึ่งในประสบการณ์ที่โดดเด่นที่สุดของ REIGNWOOD LIFE คือการได้ใช้เวลากับอาหารที่ไม่เพียงแต่รสชาติดี แต่ยังเต็มไปด้วยความหมาย ทั้งในเรื่องวัตถุดิบ เรื่องเล่า และแรงบันดาลใจที่ใส่ลงไปในทุกจานทุกแก้ว โดยมี SILVERSKIN CAFÉ AND BISTRO และ THE CHAMPIONSHIP RESTAURANT เป็นตัวแทนของแนวคิดนี้อย่างชัดเจน

SILVERSKIN CAFÉ AND BISTRO คาเฟ่และร้านอาหารที่หอมกรุ่นไปด้วยความใส่ใจ ที่ SILVERSKIN CAFÉ AND BISTRO ทุกเมนูคือการบอกเล่าเรื่องราว ผ่านวัตถุดิบท้องถิ่นที่ถูกนำมาแปรรูปด้วยความคิดสร้างสรรค์ อาทิ BAITOIE BREWED น้ำใบเตยหอม GI จากปทุมธานีที่มีกลิ่นกาแฟอ่อน ๆ โดยไร้คาเฟอีน และ MATCHA BAITOIE ที่กลมกล่อมละมุนระหว่างมัทฉะและกลิ่นใบเตยอย่างพอดี นอกจากนี้ยังมี SILVERSKIN’S COPY-CHAM เครื่องดื่มที่หอมละมุนด้วยชาไทยผสมกาแฟแบบโบราณ,YUZU LYCHEEและ YUZU COLD BREW ที่สดชื่นด้วยผลไม้จริง รสเปรี้ยวหวานละมุนซ่อนกลิ่นน้ำผึ้งและกาแฟสกัดเย็น

สำหรับใครที่รักอาหารสไตล์โฮมเมด พลาดไม่ได้กับ HOMEMADE NEAPOLITAN PIZZA พิซซ่าสูตรดั้งเดิมจากอิตาลี แป้งสดใหม่อบในเตาไฟแรง แป้งบางฟู ขอบนุ่ม มาพร้อมกลิ่นหอมแบบต้นตำรับที่สัมผัสได้ตั้งแคำแรก มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรสชาติที่หาที่ไหนไม่ได้

THE CHAMPIONSHIP RESTAURANT เมนูอาหารที่ถ่ายทอดแรงบันดาลใจสุดประณีตจากครัวโลกสู่ครัวไทย หาก SILVERSKIN CAFÉ AND BISTRO
คือบทกวี THE CHAMPIONSHIP RESTAURANT คือบทละครของรสชาติที่เปี่ยมไปด้วยเรื่องเล่า จากครัวไทยสู่ยุโรป จากกลิ่นเครื่องเทศสู่ไวน์แดง ทุกจานล้วนถูกออกแบบมาเพื่อให้คนที่ได้ลิ้มลอง รู้สึกถึงความหมาย

THE CHAMPIONSHIP RESTAURANT นิยามใหม่ของการรังสรรค์อาหารที่ส่งมอบทั้งรสชาติและสุนทรียแห่งอารมณ์ที่รังสรรค์จากแนวคิด WORLD-INSPIRED CUISINE ที่นำวัฒนธรรมอาหารจากทั่วโลกมาสร้างสรรค์อย่างมีเอกลักษณ์ เริ่มด้วย สลัดปูนิ่มทอดกรอบ สะท้อนความลงตัวของผักหลากสี ผลไม้สด และน้ำสลัดรสจัดจ้านแกงเขียวหวานพริกแกงตำสด เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของพริกแกง สมุนไพร และกะทิที่คล้ายพาเราย้อนกลับไปในครัวของบ้านในวัยเด็ก ซุปกระเพาะปลา บทพิสูจน์ของความเรียบหรูในแบบจีนคลาสสิก และซี่โครงแกะย่าง หรือ สเต็กเนื้อวากิวเกรดพรีเมียม ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ของมื้อค่ำที่ต้องการให้รสชาติอยู่ในความทรงจำไปแสนนาน ทุกจานถูกเสิร์ฟด้วยความตั้งใจในรายละเอียด ตั้งแต่วัตถุดิบ การย่าง ไปจนถึงการพักเนื้อและการเลือกซอสคู่จาน อย่างลงตัว

สำหรับท่านใดที่สนใจอยากไปลิ้มลองความอร่อย ในโครงการ
Reignwood Park ขนาดโครงการจำนวน 2,000 ไร่ ลำลูกกาคลอง11 เพียงแจ้งชื่อช่อง www.toptotravel.com รับฟรี HOMEMADE NEAPOLITAN PIZZA
หน้า HAWAIIAN 1 ถาด *เมื่อใช้บริการครบ 500 บาท ขึ้นไป ที่ร้าน SILVERSKIN CAFÉ AND BISTRO ระยะเวลาโปรโมชั่น 15/07/2568 – 30/09/2568

ร้านอาหารไทยรางวัล Thai SELECT signature award 2024 หนึ่งเดียวในพระนครศรีอยุธยา

กระทรวงพาณิชย์ผลักดันและส่งเสริมร้านอาหารไทยให้เข้มแข็ง สามารถยกระดับสู่มาตรฐานสากลประกอบกับการสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว ผ่านตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ซึ่งจะสร้างจุดขายสำคัญให้กับประเทศไทย และผลักดัน Soft power อาหารไทยนำไปสู่การสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชน ซึ่งได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

กระทรวงพาณิชย์ขอแนะนำร้านอาหารไทย ซึ่งเป็นร้านเดียวในจังหวัดอยุธยา ที่ได้รับรางวัล Thai SELECT Signature award 2024 โดยรางวัล Thai SELECT Signature Award เป็นรางวัลที่แสดงถึงคุณภาพและมาตรฐานของร้านอาหารไทยที่มีความโดดเด่นในด้านรสชาติ ความเป็นเอกลักษณ์ และการบริการที่ดีเยี่ยม คือร้าน The Artisans Ayutthaya ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ร่วมสัมผัสวิถีชีวิต ผ่านการทำอาหารของป้ายายในชุมชน สะท้อนวิถีชีวิตแบบไทย ที่ The Artisans Ayutthaya เปิดประสบการณ์ใหม่ในการทานข้าวที่หุงแบบเช็ดน้ำข้าวหอมมะลิหุงหม้อดินเผาเตาถ่าน ฝีมือป้าอี่ข้าวจะมีความนุ่มฟู หอมกรุ่นกลิ่นจากเนื้อดินเผาทานกับอะไรก็อร่อย

เนตรนภางค์ หงษ์อุปถัมภ์ไชย CMO ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด กล่าวว่า The Artisans Ayutthaya เกิดจากแนวคิดต้องการช่วยเหลือคนในชุมชน เป็นแหล่งที่รวบรวมองค์ความรู้ และผู้มีฝีมือภาชนะและอุปกรณ์ทั้งหมดของThe Artisans Ayutthaya เป็นงานฝีมือแบบโบราณมาจากหลายอำเภอในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเครื่องปั้นดินเผา ป้ายอ ต.คลองสระบัว อ.พระนครศรีอยุธยา
อรัญญิก อ.นครหลวง เครื่องเป่าแก้ว อ.บางปะอิน เต่าเล่า อ.บางซ้าย และเขียนลายเบญจรงค์บนเครื่องปั้นดินเผา อ.บางซ้าย งานฝีอมือทุกชิ้นมากจากคนในชุมชน โดยเฉพาะเหล่าป้า ๆ ยาย ๆ พิเศษของปู่ย่าตายายจากรุ่นสู่รุ่น ที่มีฝีมือทำอาหารแต่ขาดโอกาสสร้างรายได้ ร้านจึงเปิดพื้นที่ให้พวกป้าๆ มากประสบการณ์เข้ามาปรุงอาหารไทยด้วยรสมือและตำรับดั้งเดิม เพื่อเสิร์ฟให้ลูกค้า ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ต้องดิ้นรนในการใช้ชีวิต เพราะไม่มีลูกหลาน หลายคนใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ป้า ยาย หลายท่านมีความเป็นอยู่และมีชีวิตที่ดีขึ้นพร้อมเติมเต็มคุณค่าและความหมายให้กับผู้สูงวัยในชุมชน

“แรงบันดาลใจในการสร้าง ดิ อาร์ทิซานส์ อยุธยาอาหารที่ทำจากแม่ครัวชาวบ้านจริงๆ เป็นร้านอาหารไทยโบราณ เป้าหมายเพื่อต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ดีขึ้น ซึ่งเราเชื่อว่า เราได้สัมผัสกับคนในชุมชนที่มีองค์ความรู้ ภูมิปัญญา ที่ตกทอดรุ่นสู่รุ่น มีคุณค่าและมีพลังมากพอที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนความสำเร็จของจังหวัด และประเทศไทยอย่างแท้จริง

The Artisans อยุธยา ตัวร้านมีเอกลักษณ์ เป็นทรงสามเหลี่ยมที่มี5หลัง แต่ละหลังจะมีชื่อเป็นของตัวเอง คือ ป้าเสงี่ยม , ป้าขันทอง , ป้ารี , ป้าอี่ และป้าแตน ซึ่งเป็นร้านที่รวบรวมฝีมือการปรุงอาหหารของคนในชุมชน เป็นแนวความคิดที่ดีมากก รสชาติอาหารแบบไทยดังเดิม เหมือนได้นั่งกินที่บ้านบรรยากาศดี ติดแม่น้ำ ร้านถูกซ่อนตัวอยู่ในชุมชนที่เป็นชายขอบของจังหวัดอยุธยา ซึ่งตอนนั้นที่เจอป้า ๆ บางคนรับจ้างรายวัน บางคนทำไร่ทำนา ส่วนคุณป้า ที่หุงข้าว คือป้าที่เข็นรถขายน้ำแก้วละสิบบาท ซึ่งแต่ละคนมีองค์ความรู้ที่ซ่อนอยู่ในตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร เรื่องของงานฝีมือ หรือว่าวิถีชีวิตวัฒนธรรมต่าง ๆ การดำรงชีวิตหระสบการณ์ที่หลอมรวมอยู่ในคนคนนึง เพราะที่นี่ไม่ได้มีเพดานอายุ สูงสุดตอนนี้อยู่ที่อายุเจ็ดสิบสี่ เราก็ให้ทำงานกับเราซึ่งปรับแต่งตำแหน่งที่เหมาะสม เราสามารถที่จะช่วยส่วนไหนได้เราช่วย ถ้าไม่ได้มาทำงานที่นี่ สามารถส่งวัตถุดิบส่งสินค้ามาให้เรา ยกตัวอย่างที่อรัญญิก ยังมีอีกประมาณสิบครอบครัว เนื่องจากอรัญญิกเมื่อก่อนตีแต่ดาบ เราจะเคยเห็นแต่มีดอรัญญิก แต่ว่าตอนนี้มีดอรัญญิกไม่มีใครเลือกซื้อเยอะ ต้องปรับตัว โดยผลิตเป็นจานอาหารจานของอรัญญิก ช้อนส้อมของอรัญญิก และเราเอาวิธีการทานแบบสมัยก่อนที่ชาวบ้านรองด้วยใบตอง วิธีการกินอาหารแบบนี้เป็นวัฒนธรรมเก่า ๆ ดั้งเดิมและอยากให้คนได้สัมผัสเพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างใช้ฝีมือในการทำของภูมิปัญญาดั้งเดิม อย่างเช่น ข้าวหุงหม้อดินเช็ดน้ำไม่ง่ายนะคะ ต้องมีความเชี่ยวชาญ คือเหมือนเป็นช่างฝีมือที่เกี่ยวกับด้านอาหา รและขนมโดยเฉพาะ คำว่า ไทย คราฟท์ทีซานส์ คูซีน เหมาะกับเรามาก ๆ เวลาใครถามเราบอกว่า เราไม่ใช่ authentic เราไม่ใช่ royal เราไม่ใช่ progressive เราไม่สามารถนิยามตัวเราเองว่าอะไรเลย จนกระทั่งเรามาคุยกันเองในครอบครัว โดยเราแยกทุกอย่างออกจากกันไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น ที่นี่ไม่ใช่แค่ร้านอาหารแต่มีภูมิปัญญา มีองค์ความรู้ดั้งเดิม วิถีการกิน หรือ วัฒนธรรมการทานแบบเก่า ๆ ที่ยังมีอยู่ที่นี่ ดังนั้นแล้วถ้าเกิดมาสัมผัสแล้วไม่ใช่เข้ามาทานอาหารแล้วจบ ทุกคนจะได้พบกับประสบการณ์อื่น ๆ ที่ ดิ อาร์ทิซานส์ซ่อนอยู่ในอยุธยา อย่างแน่นอน

ส่วนเมนูที่ประทับใจ รังสรรค์ทีไรแล้วปลื้มใจทุกครั้ง เมนูข้าวปลาเกลือย่างถ่าน เริ่มจากข้าวใช้ข้าวหุงหม้อดิน เป็นวิธีแบบเช็ดน้ำ ที่ป้าๆ ยายๆ หุง เวลาเช็ดน้ำเสร็จก็จะมีน้ำข้าว เสิร์ฟร้อมน้ำข้าวและงบน้ำอ้อย กับดอกเกลือ อันนี้เป็นวิธีการทานแบบดั้งเดิม และผงโรยข้าว ชื่อว่า พริก กับเกลือ มีส่วนผสมของ น้ำตาลมะพร้าว มะพร้าว แล้วก็ดอกเกลือ 3 อย่าง เป็นพริกกับเกลือที่ไม่มีพริก อีกอันนึง ก็จะเป็นพริกขิงแห้งที่ไม่มีขิง ความหมายคือเผ็ดเท่าขิง แต่ไม่มีขิง ใช้คำว่า พริกขิงแห้ง ก็เป็นผงโรยข้าวอีกอันนึง ต่อมาก็จะเป็นตัวปลาเกลือย่างถ่าน ตัวปลาเกลือ เราเอามาจากเสนา เป็นอำเภอที่อยู่ในอยุธยา เราก็นำปลาไปย่างใช้เวลาย่างประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ถึง 2 ชั่วโมง ย่างด้วยไฟอ่อน ๆ มีความหอมของควัน เเกลิ่นของใบตอง และเนื้อปลา ย่างเตาถ่ายไฟอ่อนให้มันสุกมีความฟู มีความเค็มอ่อน ๆ ทานคู่กับแตงโมและมะม่วงสุก อันนี้เป็นเมนูที่ทำให้เพลิดเพลิน เพราะว่าเราใช้มือทานได้เลย เราจะได้สัมผัสถึง ข้าวหุงหม้อดินแบบเช็ดน้ำ ปลาเกลือทานพร้อมแตงโม หรือ มะม่วงสุก ยกนิ้วให้เลยค่ะเมนูนี้ห้ามพลาดเด็ดขาด

เชิญชวน ลิ้มลองรสชาติอาหารแบบไทยดั้งเดิม เสิร์ฟแบบ Private เมนูเด็ดที่อยากแนะนำและทำเป็น Thai Select คือ แกงขี้เหล็กเนื้อย่าง เมนูนี้กะทิคั้นเอง ใช้กะทิสด พริกแกงตำเอง ผัดขี้เหล็กปลูกเองของชาวบ้าน ใช้ใบเพสลาด เพราะว่าถ้าอ่อนเกินไปเมื่อนำไปต้ม จะแข็งเกินไปทานรสชาติไม่อร่อย เพราะฉะนั้นที่นี่ก็ทุกองค์ประกอบทางร้านทำเองหมด ปกติบางร้านจะใช้น้ำปลาร้าแต่ของทางร้านเป็นปลาอินทรีย์แล้วก็ใส่เนื้อปลากดย่างเข้าไปอีกต้องบอกว่าเป็นเมนูที่ใครไม่เคยทานขี้เหล็ก หรือเคยทานแล้วบอกว่าไม่ชอบมาทานที่นี่ รับรองว่าทานได้ทุกคน รสชาติดีไม่ขมยังมีสรรพคุณเดิมอยู่ เพราะว่าป้าและยายที่นี่ สมมุติว่าไปวัด แล้วคุยกันว่า…. เมื่อคืนนอนไม่หลับเลย พรุ่งนี้จะต้มแกงขี้เหล็กทานอันนี้เป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมที่ถ้าเกิดนอนไม่หลับกินแกงขี้เหล็กจะช่วยได้ ซึ่งทานแล้วมีประโยชน์สำหรับร่างกายของเราด้วย

ทั้งนี้ ขอขอบคุณกระทรวงพาณิชย์ รางวัลนี้เป็นแรงผลักดันให้เรามุ่งมั่นสืบสานอาหารไทยพื้นบ้านสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้มาเยือนทุกท่าน ขอบพระคุณทุกการสนับสนุนจากทางกระทรวงพาณิชย์ มอบสัญลักษณ์ Thai select ซึ่งเป็นการการันตีได้ว่าร้านมีคุณภาพด้านการบริการ อาหาร และรสชาติ และช่วยให้ร้านอาหารได้มีพื้นที่ในการบอกต่อ และเชื่อมั่นว่า The Artisans อยุธยา เป็นร้านอาหารไทยแท้สูตรต้นตำหรับได้อย่างภาคภูมิใจ รวมถึงยังช่วยสนับสนุนเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้The Artisans อยุธยาเป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย

สำหรับทุกท่านที่อยากร่วมสัมผัสประสบการณ์ที่ The Artisans Ayutthaya ร้านอาหารพื้นบ้านงานฝีมือโดยคนในชุมชนวัตถุดิบจากชุมชน เพื่อคนในชุมชน เรามั่นใจว่าที่นี่จะมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครให้แน่นอนค่ะ กล่าว”

พิกัดร้าน : https://maps.app.goo.gl/YU88hBZ7QWi9KjDZ8
Tel : 061 195 9514
Facebook : The Artisans Ayutthaya อาร์ทิซานส์

#Ayutthaya #อยุธยา #ร้านอาหารอยุธยา #คาเฟ่อยุธยา #TheArtisansAyutthaya

จุ๊บ – นัยนา ยังเกิด เปิดฟาร์มเห็ดพร้อมแบ่งปันความรู้ให้ผู้ที่มาเยือนได้ลองทำอะไรสนุกๆ


วันนี้ toptotravel มีโอกาสมาเยี่ยมชม กระท่อมเห็ดฟาร์ม แอนด์ คาเฟ่ @ ไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี และทานอาหารเมนูพิิเศษจากเห็ดสายพันธุ์ต่างๆ บรรยากาศร้านดูร่มรื่น ขนาดของร้านไม่ได้ใหญ่มากนัก ด้านหน้าทางเข้าเจอกระท่อมที่ใช้ในการปลูกเห็ดเรียงรายอยู่รอให้เพื่อนๆ และเด็กๆ เข้ามาเก็บเห็ด พร้อมโซนกิจกรรมสนุก ๆ สำหรับครอบครัว และโซนคาเฟ่ สำหรับสายชิล เป็นกิจกรรมที่ให้ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกัน

มัชรูม คอตเทจ ฟาร์มเห็ด ที่นี่เกิดขึ้นจากความคิดของ คุณนัยนา ยังเกิด กรรมการผู้จัดการ ที่นี่มีจุดเริ่มต้นมาจากเดิมตัวเองเป็นพนักงานสถาบันการเงินและได้ใช้เวลาว่างการการทำงานมาทำเกษตรเพาะเห็ด Mushroom Cottage Farm จากฟาร์มเห็ดเล็ก ๆ ในจังหวัดนนทบุรี  เริ่มจากเป็นธุรกิจเล็ก ๆ เมื่อก่อนนี้ ก็เป็นมนุษย์เงินเดือนเหมือนทั่ว ๆ ไป แต่คิดว่างานประจำไม่มีอะไรแน่นอนเลยมองหาอาชีพเสริมไว้รองรับเพื่อความมั่นคง ความที่เราชอบทานเห็ดเลยอยากทำในสิ่งที่เราชอบ ก็เริ่มไปหาความรู้ ไปเข้าศึกษาหลักสูตรสั้น ๆ ใน ม.เกษตร ฯ  หลังจบปี 2555 ตัดสินใจลงทุนทำฟาร์มเห็ดกับเพื่อนคุณปรียนันท์ แสงดี เริ่มจากเช่าพื้นที่แถวบางบัวทอง 300 ตรว. ก่อนจะมาซื้อที่ดินที่นี่ 2 ไร่ ซึ่งเลยเซ็นทรัลเวสต์เกท เพียงสิบกว่ากิโลเท่านั้น”

คุณจุ๊บ – นัยนา ยังเกิด ต่อยอดสู่ธุรกิจจากเห็ดแบบครบวงจร ศูนย์การเรียนรู้ นำเห็ดนานาสายพันธุ์ มารังสรรค์เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ เมนูเห็ดสุดครีเอทีฟที่ไม่เคยลองมาก่อน รวมไปถึงการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตร รวมไปถึงการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อีกมากมาย

กระท่อมเห็ด ฟาร์ม นอกจากจะเป็นศูนย์เรียนรู้การเพาะเห็ดและสร้างอาชีพแล้ว ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ระดับดีมากจ.นนทบุรี ( ปี 2565-2568 ) และล่าสุด Mushroom Cottage Farm ได้เข้าร่วมการยกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ( Agro Genius DIPromt 2566 ) จากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยการนำ “เห็ดนางนวลสีชมพู” หาสารสกัดที่มีความโดดเด่นแตกต่างกว่าสินค้าเกษตรอื่นๆสินค้าเกษตรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เซรั่มบำรุงผิวหน้าจากเห็ดนางนวลสีชมพู ที่พัฒนาร่วมกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนได้รับรางวัล ‘The Best Success Case’ จากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม 

นัยนา ยังเกิด ก่อตั้ง Mushroom Cottage Farm ในปี พ.ศ. 2555 จากความชอบรับประทานเห็ดเป็นการส่วนตัว เริ่มต้นจากการทำกระท่อมเห็ดจิ๋ว ควบคู่กับการแบ่งปันความรู้การเพาะเห็ดเบื้องต้น และเปิดหลักสูตรอบรมสำหรับผู้ประกอบการฟาร์มเห็ดรุ่นใหม่ พร้อมทั้งขยายพื้นที่ เป็นศูนย์การเรียนรู้เรื่องการเกษตรเชิงท่องเที่ยว เพื่อเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ เข้ามาทำกิจกรรมและเรียนรู้เรื่องราวของเห็ดหลากหลายสายพันธุ์ นอกจากเพาะเห็ด ก็เปิดหลักสูตรสำหรับผู้ประกอบการเพาะเห็ดสมัยใหม่ให้มีประสบการณ์ มีโรงเรือนแบบ SMART MUSHROOM COTTAGE มีเครื่องควบคุมอุณหภูมิ การรักษาความชื้น ก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ เพื่อผลผลิตที่สม่ำเสมอและการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ เป็นโรงเรือนแบบปิด
ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาเรียนรู้ ที่นี่เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้เรื่องของการเกษตรเชิงท่องเที่ยว อยากให้เด็ก ๆ ได้เข้ามาเรียนรู้เห็ดสายพันธ์ต่างๆ และยังสามารถเก็บเห็ดใส่ในตะกร้า แล้วกลับบ้าน เพื่อยกระดับคุณภาพเกษตรปลอดภัยด้วยสินค้าและการท่องเที่ยว

นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์จากกระท่อมเห็ด ฟาร์ม แอนด์ คาเฟ่ มีบริการหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นที่ฟาร์มหลัก อ.ไทรน้อย , ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อาทิ ที่ สยามพารากอน (โซนกรูเม่ มาร์เก็ต) อีกทั้งเตรียมรุกตลาดต่างประเทศ ยังมีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็นโซนต่าง ๆ ก้อนเห็ดคุณภาพสูงพร้อมให้ผลผลิตเร็วและสม่ำเสมอสูตรเฉพาะของฟาร์ม อัตราการออกดอกดี คุ้มค่าในการลงทุนเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้น ให้คำแนะนำและสอนดูแลโรงเรือนแวะมาเยี่ยมชมและเรียนรู้เทคนิคการดูแลเห็ดที่ง่าย โตไว ออกดอกสวยได้ที่ฟาร์ม เพราะที่นี่ไม่เพียงแต่จำหน่ายก้อนเห็ด แต่ยังสอนการดูแลตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการเก็บเกี่ยว เพื่อให้มือใหม่เพาะเห็ดได้อย่างมั่นใจ

Mushroom Cottage Farm and Cafe 
มัชรูม คอตเทจ ฟาร์ม และ คาเฟ่
ตั้งอยู่ที่ไทรน้อย นนทบุรี เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์)
ติดต่อที่ 097 3246155
หรือแอดไลน์: @mushroomcottage

ฉลองครบรอบ 2 ปี “โรงแรมลิลิต บางลำพู”

สานต่อกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมมือกับ “กลุ่มลูกเหรียง” รังสรรค์เชฟเทเบิลสุด Authentic

เรียกว่าเป็นโรงแรมที่มีความ Authentic และความนำสมัย ให้บริการครบรอบมา 2 ปีแล้ว สำหรับ โรงแรม “LILIT BANG LUMPHU” (ลิลิต บางลำพู) ในการยืนหยัดให้ประสบการณ์แบบ The Best of Both World ผสมผสานย่านเมืองเก่าและความทันสมัยของยุคใหม่ พร้อมกับให้ทุกคนสามารถมาค้นพบเรื่องราว Find Your Story in Every Stay ที่ลิลิต ทั้งประสบการณ์เข้าพักระดับ Luxury ทุกการเข้าพัก โดยล่าสุดได้ ครีเอต “ลิลิต บางลำพู x ครัวลูกเหรียง” ร่วมมือกันในการรังสรรค์ เชฟเทเบิล สุดพิเศษโดยนำเอาวัตถุดิบจากทางภาคใต้และวัตถุดิบจากย่านบางลำพูมาผสมผสานร่วมกัน เริ่มตั้งแต่ 27 มิถุนายน – 26 กรกฎาคม 2568 เอ็กซ์คลูซีฟ เพียง 4 รอบเท่านั้น โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้กับกลุ่มลูกเหรียง

คุณวรินดา ดำรงผล หรือ ดีเจ.ดาด้า ผู้ร่วมก่อตั้งโรงแรมลิลิต บางลำพู กล่าวว่า ลิลิต บางลำพู แห่งนี้เกิดขึ้นจากใจของทุกคนในตระกูลดำรงผล พวกเราเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ที่เป็นเจ้าของพื้นที่แห่งนี้ จึงมานั่งตกผลึกกันว่าอยากพัฒนาอาคารเหล่านี้ที่มีอายุกว่า 60 ปี ให้กลุ่มนักท่องเที่ยวสามารถมาสัมผัสบรรยากาศในย่านโอลด์ทาวน์ได้ แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถพักผ่อนได้อย่างสบาย Facility ครบครัน ด้วยตัวคอนเซ็ปต์โรงแรมเองเราอยากเล่าย้อนไปถึงย่านเมืองเก่า ที่แถบนี้จะมีต้นลำพู มีหิ่งห้อย ฉะนั้นในโลโก้ของเราจะมีแฝงความสว่างของหิ่งห้อยอยู่ในนั้นด้วย ส่วนชื่อ ลิลิต ที่หมายถึงหนังสือที่แต่งด้วยคำประพันธ์ประเภทโคลงและร่าย ก็เป็นการเล่าย้อนไปยังอดีตของย่านนี้ด้วยเช่นกัน อยากให้ทุกคนที่มาพักได้สัมผัสประสบการณ์ของแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้อย่างครบครัน สำหรับลิลิต บางลำพู เรามีการจัดเชฟเทเบิลเป็นประจำในทุกๆ ปี แต่ในปีนี้ความพิเศษในโอกาสครบรอบ 2 ปี จึงคุยกันกับทางกลุ่มลูกเหรียง เพราะมีเรื่องราวที่น่าสนใจ มีการทำกิจกรรมเพื่อสังคม ซึ่งสอดคล้องกับโรงแรม ที่มีการทำกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งความเป็นเอกลักษณ์ของอาหารที่ครัวลูกเหรียงได้รังสรรค์ขึ้นนั้น มีความแปลกใหม่เสมอ เราจึงร่วมมือกันในพัฒนาเมนู และใช้วัตถุดิบทางภาคใต้และวัตถุดิบจากย่านบางลำพูมาผสมผสานออกมาเป็นเมนูสุดพิเศษในครั้งนี้

ด้าน คุณวรรณกนก เปาะอีแตดาโอะ หรือ คุณชมพู่ นายกสมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ หรือกลุ่มลูกเหรียง กล่าวว่าสมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ หรือกลุ่มลูกเหรียง เติบโตจากการรวมตัวของเด็กเยาวชนที่สูญเสียบุคคลในครอบครัวจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ จชต. รวมตัวกันเพื่อเยียวยาและดูแลกัน จากจุดเริ่มต้น คุณแม่ชมพู่ ผู้ก่อตั้งบ้านลูกเหรียง สูญเสียครอบครัว 4 คนจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ท่ามกลางการสูญเสียและความรับผิดชอบที่ต้องดูแลเด็กๆหลายคน จนก่อตั้งเป็นบ้านลูกเหรียงในวันนี้ โดยในส่วนของครัวลูกเหรียง เอง เราตั้งใจทำอาหารเพื่อให้อาหารมื้อนี้ทำมาเพื่อคุณเป็นพิเศษ จากวัตถุดิบ ผัก ผลไม้ อาหารที่มีอยู่ในท้องถิ่น เป็นเมนูดั้งเดิมในพื้นที่ชายแดนใต้รังสรรขึ้นมาให้แบบฟิวชั่น ครัวเป็นธุรกิจเพื่อสังคมที่ดำเนินการโดยคนที่ทำงานเพื่อสังคม มีเชฟชุมชนที่ทำอาหารอร่อย พัฒนาเมนูต่างๆจากวัตถุดิบในท้องถิ่นเพื่อเพิ่มมูลค่าทางอาหาร นอกจากจะอิ่มอร่อยแล้วยังอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยเหลือผู้คนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไปด้วย

สำหรับเมนูพิเศษของ “ลิลิต บางลำพู X ครัวลูกเหรียง” ในการสร้างสรรค์ขึ้นมานั้น มีหลากหลายได้แก่ ตูปะซูตง อาหารกึ่งคาวกึ่งหวานของชาวไทยมุสลิม มีลักษณะเป็นปลาหมึกยัดไส้ข้าวเหนียว นิยมรับประทานในแถบจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส, เมี่ยงปูมะม่วงเบา ที่ให้รสชาติแบบออริจินัล แต่เซอร์ไพรส์รสชาติที่คุณคาดไม่ถึง, ข้าวยำข้าวตัง, ไก่สะเตะซอสถั่วโรตีบากา, ตาลโตนดโซดา, ชาชัก ฯลฯ

นอกจากนั้น ภายในงานแถลงข่าวที่จัดขึ้น นอกเหนือจากทีมผู้บริหารที่มาร่วมภายในงานแล้ว ยังมีเหล่าคนดัง ที่มาร่วมแสดงความยินดีในโอกาสครบรอบ 2 ปี อาทิ เอ – ศุภชัย, ป้าตือ – สมบัษร ถิระสาโรช, ดีเจ.ต้นหอม – ศกุนตลา, ดีเจ.บุ๊คโกะ – ธนัชพันธ์, ดีเจ.มะตูม – เตชินท์, ดีเจ.อ๋อง – เขมรัชต์, นานา ไรบีนา, ดีเจ.บอย – ฌาฆฤณ คุณชลรัศมี งาทวีสุข ฯลฯ ในครั้งนี้อีกด้วย

มาร่วมสัมผัสประสบการณ์เชฟเทเบิลสุดเอ็กซ์คลูซีฟรสฝีมือจาก ลิลิต บางลำพู และครัวลูกเหรียง ที่รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย จะนำไปช่วยพัฒนาให้เด็กและเยาวชนเติบโตเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมและสร้างสันติสุข
โดยจัดทั้งหมด 4 รอบ ได้แก่ 27 – 28 มิถุนายน 2568 และ 25 – 26 กรกฎาคม 2568 รอบละ 30 ที่นั่งเท่านั้น (Early Booking ภายใน 31 พฤษภาคม 2568 พิเศษเพียง 2,900 บาท จากราคาปกติ 3,200 บาท)

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือจองที่นั่งได้แล้ววันนี้ทาง
โทร. 061 879 3436 หรือ 02 026 6949