Category Archives: Travel

Travel-Food-Drink-Party

The Cup Restaurant & Tea Room

เดอะคัพ เสิร์ฟเมนูต้อนรับเทศกาลคริสมาสต์ พร้อมเทศกาลของขวัญ จากผลิตภัณฑ์ที่รังสรรค์ขึ้นจากทางร้าน

เพราะที่นี่ คือ อีกหนึ่งไลฟ์สไตล์ที่มีจุดเริ่มต้นจาก ต้นตำรับอังกฤษแท้ รสชาติดั้งเดิม อบอุ่นในสไตล์ Homy & Friendly ครัวที่อัดแน่นไปด้วยเคล็ดลับ ร้าน เดอะคัพ อบอุ่นแห่งนี้ เดิมตั้งอยู่ที่ โอเรียนทัล พลาซ่า ในระยะแรก หลังจากนั้นย้ายไปที่เพนนินซูลา พลาซ่า จนเมื่อสิบกว่าปีก่อนได้ย้ายมาอยู่ที่ อาคาร เลค รัชดา จนถึงปัจจุบันและในปี 2563 นี้ The Cup ครบ 40 ปี แล้ว อร่อยแบบนี้ไม่ต้องไปไกลถึงเมืองนอก

เมื่อเปิดประตูเดินเข้าไปด้านในร้าน ความรู้สึกแรก คือ การตกแต่งร้านนภายในค่อนข้างโปร่ง เพราะผนังใช้กระจกใสบานใหญ่รับแสงจากธรรมชาติ ทุกมุมของร้านตกแต่งได้อย่างกิ๊บเก๋ อบอุ่นน่านั่งจิบเครื่องดื่ม โดยทางร้านแบ่งเป็น โซนมีตั้งโต๊ะที่นั่งทั้งแบบโซฟา ที่นั่งติดกระจก ตกแต่งสไตล์อังกฤษ มีความอบอุ่นและเรียบง่าย แบบให้โล่งโปร่งสบายด้วยกระจกใสรอบด้าน

เดอะคัพ จัดเป็นร้านอาหารสไตล์ยุโรป ชุดถ้วยกาแฟลวดลายงดงาม จานกระเบื้องเซรามิกหลายรูปแบบ รวมทั้งภาพติดฝาผนังแบบโบราณสามารถเห็นวิวเมืองและทะเลสาปฝั่งสวนสาธารณะ เบญจกิติด้านตรงข้ามอย่างน่ารื่นรมย์ ร้านอาหารที่จะพาหลบหลีกความวุ่นวายของเมืองสู่บรรยากาศที่อบอุ่น ให้บรรยากาศที่น่านั่งผ่อนคลายได้อย่างลงตัว ที่นี่เสริฟอาหารอังกฤษแบบดั้งเดิม ถือเป็นแหล่งนัดพบของคนที่ชื่นชอบในสไตล์อาหารในแบบเดียวกัน

คุณสุมัณฑนา โมกขะเวส เจ้าของร้าน The Cup

ร้านนี้เกิดขึ้นโดย คุณสุมัณฑนา โมกขะเวส เจ้าของร้าน The Cup ร้านอาด้วยความรักและความผูกพัน ที่จะเปลี่ยนให้เวลาหยุดนิ่ง เมื่อเพื่อนๆ ได้มาเยือน ถือเป็นอีกหนึ่งไลฟ์สไตล์ที่มีจุดเริ่มต้น เมื่อ 39 ปีก่อน ตอนนั้นเรียนจบจากอังกฤษกลับมาอยู่เมืองไทยรู้สึกคิดถึงอาหารที่เราเคยทานกันเป็นประจำตั้งแต่เด็ก ก็เลยมานั่งคุยกับเพื่อนๆ ที่เรียนจบจากประเทศอังกฤษและสวิสฯ ว่าจะทำอะไรที่ทำให้เราหายคิดถึง จึงร่วมกับเพื่อนๆ หุ้นกันเปิดร้าน เป็นร้านอาหารที่เสริฟอาหารสไตล์อังกฤษแท้คุณภาพดี ปรุงจากวัตถุดิบที่ดี แบบดั้งเดิม เพื่อให้หายคิดถึงและเพื่อให้ลูกค้าทั่วไปได้รู้จักกับอาหารรสชาติอังกฤษ

ด้วยผู้อยู่เบื้องหลัง คุณสุมัณฑนา หรือ พี่เป๊าะ บวกกับประสบการณ์และความหลงใหลรสชาติของอาหารสไตล์อังกฤษ เน้น Homy อาหารทุกจานเกิดขึ้นจากประสบการณ์ที่สั่งสมผ่านกาลเวลา กลายเป็นเมนูอาหารที่ทานในบ้าน ในแบบที่ไม่ได้หรูหรา แต่เป็นอาหารที่คุ้นเคย เฉพาะช่วงของเทศกาลปีใหม่ทั้งที ต้องปาร์ตี้กับร้านสุดพิเศษ เป็นช่วงที่เพื่อนฝูงพาครอบครัว รุ่นลูกรุ่นหลานกลับมาพบปะกัน ทุกคนรู้สึกคิดถึงอาหารที่เราเคยทานกันตั้งแต่เด็ก ก็มานั่งคุยกับเพื่อนๆ และทานอาหารสไตล์อังกฤษแท้ๆ แบบดั้งเดิม เพื่อให้หายคิดถึงและเพื่อให้ลูกค้าทั่วไปได้มีดอกาสแวะเวียนมารู้จักกับอาหารรสชาติอังกฤษแท้กัน

Make with love รสชาติของอาหารเป็นการสื่อสารรูปแบบหนึ่งด้วยความรู้สึกดี ทุกอย่างที่ออกมาทำด้วยใจ ทุกๆ จากที่อาเปาะทำนั้น ล้วนสื่อถึงความตั้งใจ อยากให้ลูกค้ามีความสุขกับอาหารทุกจาน อยากให้คนรุ่นต่อ
ไปได่้ทานอาหารที่ออกจากครัวของ The Cup ตลอดไป
Mimi Grachangnetara (ลูกค้าคนสำคัญร้าน The Cup )

The CUP ตั้งแต่ยุคแรกถือเป็นแหล่งนัดพบของเพื่อนฝูงที่จบมาด้วยกัน เหนียวแน่นกันมาก ด้วยความที่ร้านจะเหมือนกับเป็นบ้านเป็น Homy & Friendly ให้ความอบอุ่น ลูกค้าหลายคนมารู้จักกันจนกลายเป็นเพื่อน เรียกว่าทำให้สนิทสนมกันมากขึ้นที่นี่ก็ 3 เจนเนอเรชั่นแล้ว

การได้มาที่นี่ ก้าวแรกที่เข้ามาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของร้าน The Cup พร้อมรับแขกที่มาทานเหมือนทานที่บ้านพร้อมหน้าพร้อมตากัน ทุกที่นั่ง
จะถูกจัดวางด้วยจานและอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมรับประทาน

เดอะ คัพ แห่งนี้เปิดมานานเกือบสี่สิบปี เป็นที่รักของคนในสังคมที่ชื่นชอบอาหารอังกฤษดั้งเดิม ร้านอาหารในตำนานที่พร้อมรองรับนักชิมรุ่นใหม่และรุ่นเก่าให้แวะเวียนมาสัมผัสบรรยากาศที่อบอุ่นในสไตล์ Homey & Friendly อบอุ่นด้วยมิตรภาพเสมือนครอบครัวเดียวกัน
-Supintar Atthakor (ลูกค้าคนสำคัญร้าน The Cup )

Paprika Goulash
Roast pork with homemade apple sauce
French Onion Soup

ในส่วนของเมนูอาหาร ส่วนใหญ่เน้นเป็นอาหารจานเดียวว Main Course ขึ้นชื่อของที่นี่คือ ขาแกะอบ เป๊ปเปอร์สเต็ก สลัดอกเป็ด สลัดกุ้ง ตับเป็ดทอด และอื่นๆ อีกมากมาย Roast Pork เป็นอาหารพิเศษสำหรับวันจันทร์และวันพฤหัส ส่วนวันพุธจะเสริฟความอร่อยด้วย Roast Beef

Recommend
-สลัดกุ้งใหญ่ เมนูนี้ แม่ครัวที่มีความชำนิชำนาญ มีประสบการณ์ทำงานยาวนาน 40 ปี เรียกว่าตั้งแต่ร้านเปิดถึงปัจจุบัน แม่ครัวจะนำกุ้งใหญ่ที่ทำความสะอาดแล้วไปทอดในน้ำมันจนพอสุกวางบนใจ คือ เนื้อด้านในของอาติโช๊กที่ทอดนิดๆ ราดด้วยน้ำซอสส้ม ส่วนผักสลัดนั้น ราดด้วยบาลซามิ
ควินิเกรท ยกออกมาเสิร์ฟจะได้รสชาติหวานนิดๆ ซ่าๆ เพราะในน้ำสลัดมีผิวส้มผสมอยู่ด้วย

แม่ครัวจะนำกุ้งใหญ่ที่ทำความสะอาดแล้วไปทอดในน้ำมันจนพอสุกวางบนใจ คือ เนื้อด้านในของอาติโช๊กที่ทอดนิดๆ ราดด้วยน้ำซอสส้ม ส่วนผักสลัดนั้น ราดด้วยบาลซามิควินิเกรท ยกออกมาเสิร์ฟจะได้รสชาติหวานนิดๆ ซ่าๆ เพราะในน้ำสลัดมีผิวส้มผสมอยู่ด้วย

ส่วนเนื้อกุ้งไม่ต้องพูดถึง กุ้งทั้งหวานทั้งมัน เหนียวนุ่ม บวกกับซอสส้มที่ราดมา ใช้เวลาไม่นานหมดจานไม่เหลือแม้กระทั่งน้ำสลัด เอ็กซ์คลูซีฟจาก คงความเป็นเอกลักษณ์และหรูหรา เพื่อมอบให้เป็นของขวัญสุดพิเศษในช่วงเทศกาลแห่งความสุขนี้

สลัดกุ้งใหญ่ Warm King Prawn on Bed of Artichoke Heart with Orange Butter Sauce
“Paprika Goulash” สตูเนื้อวัวเนื้อนุ่มรสเข้มกำลังดี
Breaded Deep Fried Fillet of Fish with Tartare Sauce

40 ปี เรียกว่าตั้งแต่ร้านเปิดถึงปัจจุบัน เมนูที่ได้รับความนิยมต่างๆ เช่น

Breaded Deep Fried Fillet of Fish with Tartare Sauce
เมนูปลาเพื่อสุขภาพ เนื้อปลาสด หวาน กรอบนอกนุ่มใน กับทาร์ทาร์ซอส เปรี้ยวๆหวานๆมันๆ

Roast pork with homemade apple sauce
หมูอบเนื้อนุ่มนุ่ม จานนี้ต้องห้ามพลาด

Smoked Duck Breast Salad with Blackberry & Port Sauce

Rack Of Lamb กริลล์แบบกรอบนอกนุ่มใน กลิ่นหอมยั่วยวน ไม่มัน เลือกรับประทานได้กับซอสถึง 3 ชนิด คือ เกรวี่ มินต์ หรือ เยลลี่เรดเคอเร้น

Rack Of Lamb
Lamb Curry served Rice & Mango Chuyney


“น้ำสลัดรสแท้ และดั้งเดิม ติดตู้เย็นของแม่บ้านเซเลบ”
THE CUP Restaurant และ Tea Room แนะนำ “น้ำสลัดรสแท้ และดั้งเดิม เดอะคัพ ชวนชิมสลัดทำเอง น้ำสลัดอร่อยมาก สูตรอังกฤษแท้ กว่า 50 ปี ที่มาดามแอนด์ ครูสอนถาษาฝรั่งเศส มาสอนให้เฉพาะคุณเป๊าะ เจ้าของร้าน สมัยศึกษาอยู่ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นสูตรพิเศษจริงๆ ที่คุณเป๊าะนำมาปรับรสชาติอีกนิด ให้เข้ากับลิ้นของคนไทย วันนี้ลองชิมนะคะ รับประกันไม่ผิดหวังแน่นอน ปรับรสชาติเพื่อให้เข้ากับลิ้นของคนไทย

น้ำสลัดรสแท้ และดั้งเดิม ติดตู้เย็นของแม่บ้านเซเลบ

ปิดท้ายด้วยของหวาน เมนูยอดนิยมที่ใครมาต้องสั่ง ของหวาน บานอฟฟี่และบลูเบอรี่ชีทเค้ก กลมกล่อมกำลังดี เค้กอร่อยๆ หอมหวาน คุณภาพแน่น รสชาติถือว่าโอเค เป็นอีกหนึ่งร้านที่หากได้มาเยือนจะต้องว้าวไปกับการตกแต่งภายในร้านที่อลังการไม่เหมือนใคร ร้านน่ารัก เหมาะสำหรับการมานั่งชิล ทานอาหารจิบเครื่องดื่ม บรรยากาศ คือ ใช่ รสชาติอาหารเครื่องดื่มลงตัวทั้งสองอย่าง และพนักงานบริการดีน่ารัก

นั่งชิล ทานอาหารจิบเครื่องดื่ม บรรยากาศ คือ ใช่ รสชาติอาหารเครื่องดื่มลงตัวทั้งสองอย่าง และพนักงานบริการดีน่ารัก

Dessert :
American Cherries Pie Butterscotch cake เมนูนี้แนะนำ
Pecan Pie , Chocolate Spong Cake, American Cherry Pie, Fish Market Apple Pie Chocolate Fudge Cake, Assorted Cakes

ด้านหน้าร้าน มีโซนของขวัญปีใหม่ อร่อยๆ คุกกี้ และน้ำสลัด ต้นตำรับ สูตรชาวอังกฤษแท้ มีบริการที่ ร้านเดอะคัพ ทุกวัน รับประกันคุณภาพวัตถุดิบ และความอร่อย

นอกจากนี้ ยังชองฝากสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก The Cup ที่คงความเป็นเอกลักษณ์และหรูหรา เพื่อมอบให้เป็นของขวัญสุดพิเศษในช่วงเทศกาลแห่งความสุขนี้ มีเค้ก คุ๊กกี้ แฮนด์เมด บรรจุแพคเกจน่าทานจำหน่าย
Christmas Cake
น้ำสลัด
House Dressing
Balsamic Dressing
Cookies – Chocolate Chips
Cornflakes
Oatmeal Cookies

ในเทศกาลแห่งความสุข Thanksgiving ที่กำลังจะมาถึงและ วันคริสตมาสต์ ทางร้านจัดเมนูเซ็ตพิเศษ 3 วัน ระหว่างวันที่ 24-26 ธันวาคม ศกนี้ ซึ่งเป็นเมนูที่หาทานยาก คริสมาสต์ เดย์ คริสมาสต์อีฟ และบอกซิ่งเดย์ (Boxing Day) หรือวันเปิดกล่องของขวัญ ปีนี้ The Cup เตรียมของขวัญสำหรับวันคริสต์มาสต์ พลาดไม่ได้กับความอร่อยรสชาติสุดพิเศษ คริสต์มาสต์ พุดดิ้ง นำเข้าจากอังกฤษ

The Cup ชั้น 3 อาคารเลครัชดา
193/21-22 ชั้น 3 อาคารเลครัชดา ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย
เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
ตรงข้ามสวนสาธารณะ เบญจกิตติ ถนนรัชดาภิเษก
เปิดบริการเวลา 10.30 – 18.00 น. ทุกวันเว้นวันอาทิตย์

พิเศษในเดือนธันวาคม
เปิดบริการทุกวัน โทร. 02 264 – 0247-50
Facebook : TheCup 1980
โทร. 02264-0247-50, 09-4315-4397

#TheCupLakeRatchada
#TheCup #TheCupLakeratchada #เดอะคัพ #เดอะคัพเลครัชดา #Tearoom #Cake #Bakery #Coffee #yummy

Villa Market “วิลล่า มาร์เก็ท หลังสวน”

…….พาไปทัวร์ แหล่งรวมของอร่อยของดีจากทั่วโลก
“วิลล่า มาร์เก็ท หลังสวน”บ้านหลังที่ 2 ของคนเมือง มีอะไรกินบ้าง? ไปชมกัน

วันนี้ Toptotravel พาไปทัวร์ “วิลล่า มาร์เก็ท หลังสวน” แหล่งรวมของอร่อยของดีจากทั่วโลก ของใหม่ที่ใครๆ ก็ต้องลองมาสัมผัสประสบการณ์ช็อปปิ้งรูปแบบใหม่ รู้ใจทุกไลฟ์สไตล์ที่ “วิลล่า มาร์เก็ท หลังสวน”แหล่งรวมของอร่อย ของดีจากทั่วโลกเปิดให้บริการแล้วสำหรับบ้านหลังใหม่ ของ วิลล่า มาร์เก็ท กับ สาขาหลังสวน ซึ่งการกลับมาของวิลล่าฯ หลังสวน ในครั้งนี้ทำเอาเหล่านักช็อปหัวใจพองโตกันพอดูเพราะจัดเต็มทั้งบรรยากาศที่ดูอบอุ่น หรูหรา แบ่งโซนเป็นสัดส่วน เดินง่าย และมีสินค้าอิมพอร์ตจากทั่วโลกมาให้ช็อปกันเพลินการเดินทางมาก็ง่ายแสนง่าย เพราะทำเล วิลล่า มาร์เก็ท หลังสวน

ตั้งอยู่ซอย 2 ชั้น B1 โครงการเวลา สินธร วิลเลจ มีที่จอดรถชั้นใต้ดิน เรียกได้ว่า สะดวกสุดๆ สำหรับชีวิตคนเมืองที่ต้องขับรถมาทำงานและอยากจะแวะช็อปปิ้งก่อนกลับบ้านในส่วนของบรรยากาศ วิลล่า มาร์เก็ท สาขา หลังสวนตกแต่งอย่างอบอุ่นให้อารมณ์เหมือนเดินอยู่ในครัวที่มีของให้เลือกหยิบมาทำเมนูแสนอร่อยอย่างไม่รู้จบและยังมีโซนที่เปิดโอกาสให้ได้ลิ้มลองสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ

โดยแบ่งออกเป็น 6 โซน สนองนีสไลฟ์สไตล์ ของทุกเจเนอเรชั่น แค่เดินลงมายังชั้น B1 ก็จะพบกับ โซน V Space
(วี สเปซ) ที่นั่งรับรองบริการใหม่ล่าสุดสำหรับสมาชิกวิลล่า มาร์เก็ท (VPlus) โดยเฉพาะ ซึ่งสามารถมานั่งจิบกาแฟ เครื่องดื่ม นั่งพักชิลๆ

V Space (วี สเปซ) ที่นั่งรับรองบริการใหม่ล่าสุดสำหรับสมาชิกวิลล่า มาร์เก็ท (VPlus)

เป็นอีกโซนที่ทำให้ชีวิตคนเมืองที่เหนื่อยกับการทำงานและการเดินทางผ่าจราจรอันแสนจะติดของกรุงเทพฯ คนรักสุขภาพ ชอบทานผัก ผลไม้ ต้องถูกใจ Fruit & Vegetables Zone (ฟรุต แอนด์ เวทเทอะเบิ้ล โซน) เพราะที่สาขานี้มีการจัดวางเรียงผัก ผลไม้ ได้อย่างล่อใจ โดยเฉพาะ ผักผลไม้ Organicนานาชนิดจากทั่วโลก เรียกว่า หากต้องการทาน องุ่นก็มีหลายหลายชนิดให้เลือกสรร ทั้งจากประเทศญี่ปุ่นและออสเตรเลีย

สายเนื้อต้องร้อง OMG! ให้กับ Butcher & Seafood Zone
(บุชเชอร์ แอนด์ ซีฟู้ด โซน) โซนนี้ถือว่าเด็ดเพราะรวบรวมเนื้อคุณภาพดีจากทั่วโลก อย่าง ออสเตรเลีย, อเมริกา,อาร์เจนติน่า และ ญี่ปุ่น ส่วนพระเอกของโซนนี้ยกให้ Tomahawk เนื้อโทมาฮอว์ก จาก ออสเตรเลีย, Ribeye เนื้อริบอาย, Tenderloin เนื้อเทนเดอร์ลอยน์ มีให้เลือกมากมาย
เป็นสวรรค์ของคนรักสเต็กก็ว่าได้ และยังเก๋ด้วยป้ายราคาดิจิตอล ซึ่งจะอัพเดทราคาสินค้า ล้ำนำเทรนด์ไปอีก

อาหารทะเล ของสด และปลาน้ำจืด โซนอาหารทะเลสดๆ ที่มีให้เลือกมากมาย ทั้งกุ้งแม่น้ำ ปลาทะเล ปลาหมึก ส่วนพาร์ทอาหารทะเลก็ไม่ธรรมดาละลานตาไปด้วย ปลาสดๆ หลากหลายชนิด โดยมีการใช้เทคโนโลยีเครื่องพ่นไอน้ำจากญี่ปุ่น เพื่อช่วยรักษาความสดใหม่และฆ่าเชื้อโรค

“V” Make a new home โซนนี้สำหรับคนชอบดริ้ง Wine Cellar Zone (ไวน์ เซลเลอร์ โซน) โซนสุดเอ็กซ์คลูซีฟ พิเศษมากสาขานี้มี Wine Cellar รวมไวน์จากทั่วโลกมาไว้ในห้องนี้ ถ้ามีคำถามห้องนี้มี Wine Specialist คอยดูแลแนะนำ พิเศษสุดสำหรับสมาชิก V Plus Member ใช้ Vplus Point เพื่อลองชิมไวน์ แหล่งรวมไวน์หลากหลายชนิดจากทั่วโลก

โซนนี้นอกจากตื่นตาตื่นใจกับความหลากหลายของสินค้าแล้วยังเก๋เลิศกับบริการให้ท่านได้ลิ้มลองรสสัมผัสไวน์ก่อนตัดสินใจซื้อ โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์คอยให้คำแนะนำใครที่อยากได้เครื่องดื่มจิบคู่กับอาหารมื้อพิเศษ อยากแนะนำให้ลองมาที่ โซน Wine Cellar Zone ของ วิลล่าฯ หลังสวนรับรองได้ไวน์รสเลิศถูกใจกลับบ้านแน่นอน

Activity Zone (แอคทีวิตี้ โซน) โซนสาธิตวิธีปรุงอาหารสด และReady to Eat Zone (เรดดี้ ทู อีท โซน) เป็นอีกโซนที่ทำให้ชีวิตคนเมืองที่เหนื่อยกับการทำงานและการเดินทางผ่านจราจรอันแสนจะติดของกรุงเทพฯได้ผ่อนคลายกับช่วงเวลาแห่งความสุขบ้าง ซึ่ง Activity Zoneให้บริการปรุงอาหารสดพร้อมทานซึ่งหากต้องการทานสเต็กดีดีสักมื้อก็สามารถเดินไปเลือกเนื้อดีดีสักชิ้นในโซน Butcher & Seafood Zone
มาให้ทางเชฟปรุงได้เลย

ส่วนใครที่ชอบความรวดเร็วก็แวะ Ready to Eat Zone หาของอร่อยทานจะมื้อเช้า สาย เที่ยง เย็น ก็มีบริการ ทั้งเมนูอาหารญี่ปุ่น Omakase Set ในราคาย่อมเยาว์ อยากลิ้มลองอาหารซูชิสุดหรูแบบเชฟจัดให้ คุณภาพระดับพรีเมี่ยม และอาหารสไตล์เวสเทิร์นทำคอร์สออกมาได้น่าสนใจและท้าทายมาก

ปิดท้าย การพาทัวร์บ้านหลังใหม่วิลล่าฯ สาขา หลังสวน
ด้วยความเก๋เริ่ดกับ บริการ Eat & Shop (อีท แอนด์ ช็อป) หรือบริการเลือกซื้อสิ้นค้าเพียงปลายนิ้วสัมผัส ซึ่งสามารถเลือกช็อปปิ้งแบบไม่ต้องเดินให้เมื่อย เพียงแค่นั่งรอในโซน V Space หรือ กำลังนั่งทานอาหารใน Ready to Eat Zone แล้วอยากช็อปแต่ไม่มีเวลามากพอก็สามารถใช้บริการนี้ได้
สะดวกสบายสุดๆ ไปเลย

การเดินทางด้วยรถยนต์ ใช้เส้นทางถนนเพลินจิต จากนั้นเลี้ยวเข้าไปที่ถนนหลังสวน (*เดินรถเพียงทางเดียว) จาก ถ.เพลินจิต เข้าสู่ถนนหลังสวนประมาณ 700 เมตร Villa Market LangSuan จะอยู่ทางซ้ายมือ

ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ สำหรับ BTS สายสีลม สามารถลงที่สถานีราชดำริ และ BTS สถานีชิดลมสำหรับสายสุขุมวิท นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการ MRT โดยใช้สถานีสีลม

อยากให้ลองมาสัมผัสประสบการณ์ช็อปปิ้งรูปแบบใหม่ รู้ใจทุกไลฟ์สไตล์ที่ “วิลล่า มาร์เก็ท หลังสวน” ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ “V” Make a new home
ได้แล้ววันนี้ที่ ชั้น B1 โครงการเวลา สินธร วิลเลจ

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/villamarketofficial/

Urai Benjarong เครื่องเบญจรงค์มรดกทางปัญญาของไทย

ช่วงสิ้นปีกำลังมาแรงหลายคนเตรียมตัวเดินทางท่องเที่ยวไปยังภาคต่างๆในช่วงวันหยุดยาว และเตรียมฉลองปีใหม่ Toptotravel วันเดียวก็เที่ยวสมุทรสาคร กำลังจะพาทุกคนไปรู้จัก Urai Benjarong หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี อยู่ในอำเภอกระทุ่มแบน สินค้าสุดยอดหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ระดับ 5 ดาว ชุมชนบ้านดอนไก่ดีเป็นหมู่บ้านที่สืบทอดการผลิตเครื่องเบญจรงค์กันมาหลายชั่วอายุคน ปัจจุบันนับเป็นผลงาน OTOP ระดับ 5 ดาว ที่สืบสานมรดกทางปัญญาไทย

คุณป้าอุไร แตงเอี่ยม เป็นประธานกลุ่มหมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี ในฐานะ
ผู้บุกเบิก จัดตั้งชุมชนแห่งน่าอยู่แก่งนี้ โดย คุณป้าอุไร เจ้าของเรื่องราวกว่าจะเป็นหมู่บ้านเบญจรงค์ ซึ่งทุกวันนี้ รูปแบบเบญจรงค์ของคุณป้านั้น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยจะเน้นเบญจรงค์ที่มีลวดลายโบราณในสมัยรัชกาลที่ 2 และรัชกาลที่ 5 แต่มีการออกแบบลวดลายใหม่ๆ เป็นเจ้าของเรื่องราวกว่าจะเป็นหมู่บ้านเบญจรงค์ทุกวันนี้ รูปแบบเบญจรงค์ของคุณป้านั้น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยจะเน้นเบญจรงค์ที่มีลวดลายโบราณในสมัยรัชกาลที่ 2 และรัชกาลที่ 5 แต่มีการออกแบบลวดลายใหม่ๆ ส่วนลวดลายที่สร้างชื่อเสียง และได้รับความนิยมให้กับหมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี คือ ลวดลายวิถีไทย ลายประเพณีสงกรานต์และลายตลาดน้ำ ซึ่งทางกลุ่มเป็นผู้ริเริ่มทำก่อน จนสร้างชื่อเสียงเรื่องลายให้เป็นที่รู้จักกันส่วนสินค้าจะถูกหรือแพงนั้นก็พิจารณาจากลวดลายในการเขียน ความประณีตของงาน ชนิดของวัสดุที่ใช้ และปริมาณของวัสดุที่ใช้ ส่วนชิ้นงานที่ได้รับรางวัลก็มีมากมายยกตัวอย่าง เช่น เครื่องเบญจรงค์ชุดกาแฟ ชุดแจกัน ชุดโถ ปชุดพริกไทย ชุดโตกใส่อาหารแบบไทยๆ ฯลฯ ผู้ประกอบการ OTOP และการจัดระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์

URAI BENJARONG

ขั้นตอนการผลิตงานเบญจรงค์ดอนไก่ดี ศิลปะชั้นสูงหลากหลาย
ขั้นตอนที่ 1: ปั้นดิน ขึ้นรูปเครื่องเบญจรงค์ และตากให้แห้ง

ขั้นตอนที่ 2: ชุบน้ำยาเคลือบแล้วนำไปเผา

ขั้นตอนที่ 3: นำเครื่องเบญจรงค์ที่เป็นสีขาวจากเคลือบ นำมาเพื่อมาเขียนลายเส้นสีทอ

ขั้นตอนที่ 4: ลงสีบนเคลือบตามที่ต้องการ

ขั้นตอนที่ 5: วนทองด้วยรูปแบบลวดลายเฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์

ขั้นตอนที่ 6: นำเข้าเตาเผาด้วยอุณหภูมิ 800 องศาเซลเซียส

ณ.หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี มีร้านเบญจรงค์มากลุ่มอยู่ด้วยกัน ซึ่งผลิตภัณฑ์ของแต่ละร้านมีเอกลักษณ์เฉพาะเครื่องเบญจรงค์ที่ถูกออกแบบเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันต่างๆ มากมาย

อุไรเบญจรงค์
คุณป้าอุไร แตงเอี่ยม ประธานกลุ่มหมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี และเป็นเจ้าของเรื่องราวกว่าจะเป็นหมู่บ้านเบญจรงค์ทุกวันนี้ รูปแบบเบญจรงค์ของคุณป้านั้น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยจะเน้นเบญจรงค์ที่มีลวดลายโบราณในสมัยรัชกาลที่ 2 และรัชกาลที่ 5 แต่มีการออกแบบลวดลายใหม่ๆ เพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณี เช่น ลายตลาดน้ำ และการละเล่นสงกรานต์

หนูเล็กเบญจรงค์
จุดเด่นคือ เบญจรงค์พุทธประวัติ ลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ลายไม้เลื้อย ลายจักรีและภาพศิลปะที่ใช้เทคนิคการเขียนลายแบบเบญจรงค์ที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้บ้านของคุณป้าหนูเล็กยังเป็นบ้านที่ร่มรื่น น่านั่งพัก

แดงเบญจรงค์
เครื่องเบญจรงค์ที่ถูกออกแบบเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น นาฬิกา กรอบรูป พวงกุญแจ และผลิตภัณฑ์สำหรับสปา เป็นต้น นอกจากนี้ภายในบ้านยังมีห้องสรงและห้องเสวยที่สมเด็จพระเทพฯเคยเสด็จมาประทับ

ปานรดาเบญจรงค์
เครื่องเบญจรงค์มากมายแล้วยังมีโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีประสบการณ์และเยี่ยมชมการลงสีของเครื่องเบญจรงค์ได้

นอกเหนือจากเครื่องเบญจรงค์ในขนาดมาตรฐานแล้วก็ยังมีการผลิตเครื่องเบญจรงค์ขนาดจิ๋วออกมาเพื่อเป็นการเอาใจลูกค้าอีกด้วย เครื่องเบญจรงค์ที่นี่จึงได้รับการคัดสรรเป็นสุดยอดหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ที่หมู่บ้านแห่งนี้นักท่องเที่ยวและลูกค้าที่สนใจสามารถ เลือกชมเลือกซื้อเครื่องเบญจรงค์ได้ ตามบ้านที่เปิดเป็นร้านค้าอยู่ตลอดสองข้างทาง ส่วนใหญ่คุณภาพจะอยู่ในระดับเดียวกันเนื้อดีฝีมือประณีต งานฝีมือพื้นบ้าน หนึ่งในชิ้นงานที่สะท้อนเอกลักษณ์ไทยได้ดีที่สุดอย่างหนึ่ง คือ เครื่องเบญจรงค์ บ้านดอนไก่ดี จ.สมุทรสาคร

หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี อยู่ในอำเภอกระทุ่มแบน ชุมชนบ้านดอนไก่ดีเป็นหมู่บ้านที่สืบทอดการผลิตเครื่องเบญจรงค์กันมาหลายชั่วอายุคน จนปัจจุบันนับเป็นผลงาน OTOP ระดับ 5 ดาว ที่มีมาตรฐานระดับสากล มีการพัฒนาด้านลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของไทยด้วยสี 5 สี และยังมีการใช้สีที่สวยงามยิ่งขึ้นอย่างเช่น ลายน้ำทอง มีสีทองช่วยเสริมความสวยงามและโดดเด่นของลวดลาย การพัฒนางานเบญจรงค์แพร่ออกไปอย่างกว้างขวาง จากถ้วยโถโอชามก็มีภาชนะอื่นๆ มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเปิดโฮมสเตย์เป็นที่พักให้นักท่องเที่ยวที่สนใจงานเบญจรงค์เข้าไปศึกษาวิถีชีวิตและเรียนรู้กระบวนการผลิตของหมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี เอกลักษณ์อันโดดเด่นของลวดลายที่ปรากฏอยู่บนเครื่องเบญจรงค์ของที่นี่ กลายมาเป็นจุดดึงดูดที่น่าประทับใจต่อผู้คนที่พบเห็น

การเดินทาง ถ้ามา จาก กทม.ใช้เส้นทางพระรามสอง มาถึงมหาชัย (สมุทรสาคร) เลี้ยวซ้ายเข้าเมืองมหาชัยพร้อมกับชิดขวาตามป้ายที่บอกทางไปกระทุ่มแบนอ้อมขึ้นสะพานวิ่งตามถนนเศรษฐกิจตรงไปประมาณ 10 กิโลเมตรจะเห็นป้ายบอกทางไปหมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดีให้เราเลี้ยวซ้ายแล้ว ตรงไปตามทางอีกประมาณ 5 กิโลเมตร ก็จะเจอหมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ร้านคุณอุไร เบญจรงค์
กลุ่มหมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี
โทร. 0-3447-3480, ‪081-861-4626‬

Café De Oasis… เยียวยาหัวใจ ในยามฝนพรำ

มาเชียงใหม่ทั้งที พลาดร้านนี้ได้อย่างไร?
เริ่มต้นกันที่ Cafe de OASIS โอเอซิสแห่งใหม่ในเชียงใหม่ เพราะว่าเวลาฝน ชอบทำให้คนเหงา ขอต้อนรับทุกคน เข้าสู่เดือนกันยายน มาเทืี่ยวเชียงใหม่ ในฤดูฝนกันบ้าง บ่ายนี้คิดอยู่นาน ร้านไหนดี ร้านไหนเด็ด ที่นั่งแล้วช่วยเยียวยาหัวใจในยามฝนพรำ ได้นั่งอิ่มอร่อยไปกับหลากหลายเมนู ร้านตกแต่งสวย กาแฟหอม และเค้กอร่อย ทำให้ Tototravel อิ่ม ฟิน และ
ชิลล์ อยากรู้กันหรือยังว่าสไตล์คาเฟ่ของที่นี่เป็นอย่างไรไปชมกัน

Cafe de Oasis พิกัดของร้านอยู่ถนนข้างศูนย์ประชุมนานาชาติ
จ. เชียงใหม่ คงคอนเซ็ปต์ความสุขและความมีชีวิตชีวาตามชื่อร้าน ขอเอาใจคนที่ไม่ถนัดเข้าเมืองเชียงใหม่ cafe แห่งนี้เปิดอิงแอบซ่อนตัวอยู่ในแมกไม้ ชวนมาจิบกาแฟเพลิน ๆ พร้อมหลีกหนีจากความวุ่นวายกันที่ เป็นร้านที่ค่อนข้างมีพื้นที่สีเขียวเยอะมาก จัดสรรให้ออกมาน่ารักได้อย่างลงตัวประสบความสำเร็จด้วยสไตล์ล้านนา คลาสสิค หรูหรา เก่าแก่ ทุกเมนูราคาเหมาะสม

ที่ Cafe de Oasis บริเวณโดยรอบมีแสงแดดอ่อนๆ ลอดผ่านเข้ามาสร้างความอบอุ่น อีกทั้งยังมีมุมโต๊ะไม้ที่ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้เเห้ง ข้าวของเครื่องใช้สไตล์วินเทจ ไม่ว่าจะเป็นแจกัน ภาพวาดชุดจาน-ชามใบงาม และเชิงเทียนสวยๆ ที่ทางร้านตั้งใจให้ทุกคนได้มีมุมพิเศษ ไว้เข้าเซ็ตกับเมนูต่าง ๆ ของทางร้าน

สร้างบรรยากาศผ่อนคลายในไสตล์ Oasis ด้วยกันดีที่นี่นับว่าเป็นคาเฟ่ที่มีมากกว่ากาแฟ เพราะยังเสิร์ฟอาหารไทยแบบดั้งเดิมให้เลือกรับประทานหลากหลาย ตั้งแต่อาหารเช้าจนถึงมื้อกลางวัน


Cafe de Oasis ให้บริการ ทั้งเมนูเครื่องดื่ม เมนูบรันช์ เมนูอาหาร และเรื่องของเครื่องดื่มอย่างกาแฟ ได้เพื่อนบ้านจากหมู่บ้านห้วยฮอม จ. แม่ฮ่องสอน เมล็ดคุณภาพจาก หมู่บ้านห้วยฮอม กาแฟอาราบิก้าพันธุ์ดี ปลูกในพื้นที่สูง จากระดับน้ำทะเล 1,600 เมตร ปลอดสารพิษ โดยได้รับการส่งเสริม จากโครงการหลวงแม่ลาน้อยแม่ฮ่องสอน มาตรฐาน GAP มาช่วยดูแลเมนูประจำร้าน ให้คอกาแฟได้ดื่มกาแฟกัน

Cafe de Oasis พิกัดร้านอยู่ถนนข้างศูนย์ประชุมนานาชาติ จ. เชียงใหม่
สปาเก็ตตี้เบคอน ผัดพริกแห้ง ใบกะเพราอิตาเลียน, Pad Thai with Shirmp ผัดไทยกุ้งสด, สลัดอกไกอโวคาโด, ข้าวราดกระเพราะปลาดอลลี่+ไข่ดาว

หลังจากสนุกกับการถ่ายรูป คาเฟ่ เดอ โอเอซิส กลังฝนโปรยปรายมีแสงแดดอ่อนๆ ลอดผ่านเข้ามาสร้างความอบอุ่นมีมุมโต๊ะไม้ที่ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้เเห้ง ข้าวของเครื่องใช้สไตล์วินเทจ ไม่ว่าจะเป็นจานใบงาม และเชิงเทียนสวยๆ ที่ทางร้านตั้งใจให้ทุกคนได้มีมุมสุดพิเศษไว้เข้าเซ็ตกับเมนูต่างของทางร้าน

Pad Thai with Shirmp
ข้าวราดกระเพราเนื้อแกะ**
ข้าวกระเพราะปลาดอลี่+ไขดาวกรอบๆ

เมนูอาหาร มีทั้งอาหารไทย และอาหารอินเตอร์สไตล์อาหารเช้า และ เมนู
Brunch ส่วน Toptotravel ไม่พลาดเมนูไทยเด็ดๆ อย่าง ข้าวราดกระเพราเนื้อแกะ, สปาเก็ตตี้เบคอน ผัดพริกแห้ง ใบกะเพราอิตาเลียน ผัดไทยรสเข้มๆ และเค้กอร่อย รวมไปถึงรสชาติของอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นแบบโฮมเมด ให้ความอิ่มท้องอิ่มใจแก่แขกที่แวะเวียนมานั่งชิลล์อย่างแน่นอน

มาถึงเมนูเครื่องดื่มที่นี่เน้นเป็นเครื่องดื่มดื่มง่าย ราคาไม่แพง เอาใจเหล่านักท่องเที่ยว และพนักงานออฟฟิศ ช่วงเที่ยงถ้าต้องการกาแฟดี ๆ สักแก้วหรือทานอาหารมื้อเที่ยง ก่อนกลับไปทำงานต่อ Cafe de Oasis อยู่ข้ามประตู 5 และประตู 7 ของศูนย์ประชุมนานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่

Coconut Crapes with Ice cream 140 บาท

สำหรับ เมนูเบเกอรี่ของที่นี่ ทุกเมนูล้วนมาในคอนเซ็ปต์น่ารัก ใส่ใจในทุก รายละเอียด เริ่มตั้งแต่การเลือกใช้วัตถุดิบนำเข้าคุณภาพดี ไปจนถึงเรื่องของความสวยงามและรสชาติ มีให้เลือกหลากหลาย เพราะความสุขบนโต๊ะ กาแฟ น้ำผลไม้สด และขนมเค้กดีๆ เกิดได้ทุกวัน ไม่จำเป็นต้องเป็น
‘วันเกิด’ เสมอไป

Cafe de Oaisis ถือเป็นร้านคาเฟ่น่านั่งแห่งของเชียงใหม่ บรรยากาศร่มรื่น เป็นหันเอง นั่งเล่น นั่งทำงาน ก็อย่าลืมสั่งขนมเค้กสุดคลาสสิค ทานคู่กับเครื่องดื่ม แนะนำ เเครปเค้กมะพร้าวอ่อน เมนูใหม่สดๆ ร้อนๆ ดัดแปลงมาจาก เค้กมะพร้าวอ่อน Signature ขึ้นชื่อของที่นี่ ใช้แป้งเครป บางๆ สอดไส้ด้วยครีมผสมเนื้อมะพร้าวอ่อนอย่างดี รสหวานน้อมเข้มข้นเนื้อนุ่มมีกลิ่มมะพร้าวอ่อนหอมทุกคำ เมนูนี้จำกัดจำนวนเสิร์ฟต่อวันเพื่อความสดใหม่ของวัตถุดิบ โดยเฉพาะวัตถุดิบอย่างมะพร้าวอ่อน

ซื้อกลับบ้าน ครัวซองต์ ติดดาว*** เสิร์ฟพร้อมแยมสตรอว์เบอร์รี่ และเนยสด (65 บาท) ครัวซองต์ชิ้นใหญ่มาก อบมาสดใหม่ หอมเนยสุดๆ กรอบนอกนุ่มใน หน้าตาดูดี จะกินเปล่า หรือทาเนยทาแยมผลไม้ก็อร่อยไปอีกแบบ ดีงามจนต้องสั่งกลับไปกินต่อที่บ้านเลยคะ

Line ID: @cafedeoasis
For more information, Please call: +6653920191
เลขที่ 202/2 หมู่ที่ 1 ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50300
โทรติดต่อร้าน 053-920191
เวลาเปิด – ปิดร้าน : ทุกวัน : 08:00 น. – 17:00 น.

Wonderful moments together at Cafe de Oasis
#Afternoontea #afternoon #green #greencafe #fusioncuisineCafedeOasis #CafeChiangmai #ChiangMai #Cafe #Weekend #Coffee #Cake #fooddessert #latte #coffeelover #lifestyle #Chiangmailifestyle #toptotravel

ฝากกดติดตามเพจ Facebook : toptotravel.com


อันยองฮาเซโย 안녕하세요

มาเติมความรักกันให้เต็มที่ ที่ให้ความรู้สึกโรแมนติกยิ่งขึ้นไปอีก ไปเที่ยวชมดอกไม้สวยๆ กับที่พักสุดหรูโรแมนติก

อ่านรีวิวคนอื่นมานักต่อนักแล้ว คราวนี้ขอรีวิวของตัวเองบ้าง เป็นครั้งแรกของเรากับการได้ไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ (ปกติไปแบบต่างคนต่างไป) ขอเริ่มด้วย เกาะเชจูทริปนี้ มาพร้อมกันที สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารขาออกชั้น 4 เคาเตอร์JEJU AIR (BOEING 737-800) สายการบินเจจู เป็นสายการบินชั้นนําที่พัฒนา ขยายตัวอย่างรวดเร็วโดยการปรับปรุงราคาให้มีความยุติธรรมแก่ลูกค้า

เมื่อทุกคนพร้อมแล้ว ไปคะ ออกเดินทางกันเลยดีกว่า การเดินทางของ toptotravel 4 วัน 2 คืน กำลังเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง กับทริปต่างประเทศที่เกาะทริปสั้นๆ เกาะเชจู เกาะที่สำคัญมีตำแหน่งเป็น 1 ใน 9 จังหวัดของเกาหลีใต้ พื้นใหญ่ส่วนใหญ่ครอบคลุมเกาะเชจูเป็นเกาะใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดช็อลลาใต้ ยังเป็นโลเคชั่นที่ถ่ายทำซีรีย์ดังๆ หลายเรื่อง มาเที่ยวเกาะแห่งนี้ รับรองว่าได้เจอความรักและความโรแมนติก

Toptotravel ทริปเดินทางด้วยสายการบิน Jeju Air นั่ง 5 ชม. ท่าอากาศยานนานาชาติเชจู (Jeju International Airport) ไม่ต้องไปต่อเครื่อง เลือกเดินทางมาช่วงเดือน สิงหาคม 2562 คงไม่ต้องบอกนะว่าอากาศ ร้อนแค่ไหน ลืมบอกท่าอากาศยานที่เรามาครั้งนี้ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของเกาหลีใต้รองจากท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน

เกาะเชจู จัดเป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศยอดฮิตของคนเกาหลี ใครคิดใส่กางเกงขายาวมาเปลี่ยนได้เลย ไปดูกันเลยดีกว่าว่าทริปนี้ไปไหนกันมาบ้าง Tototravel เริ่มต้นที่สนามบิน สุวรรณภูมิราวๆ เที่ยงคืน เพื่อรอขึ้นเครื่องในเวลาตี 2 กว่าๆ พอถึงเวลาขึ้นเครื่อง ก็หลับไปด้วยความเหนื่อยล้าแต่ไม่นานแสงยามเช้าก็ส่องเข้ามากระทบตาถึงแล้วเกาะเชจู

ไม่นานนักมาถึงเกาะเชจู ที่เกาหลีใต้ เหมาะกับการมาเที่ยวกับบริษัททัวร์มาด้วยราคาและค่าเดินทาง รวมค่าอาหาร ค่าบริการนำเที่ยวสถานที่ต่างๆ รวมอยู่แล้ว เกาะเชจูเหมาะกับการซื้อทัวร์มาเที่ยวมากกว่าการแบกเป้มาเที่ยว
ด้วยตนเอง ด้วยราคาสุดประหยัด

ระหว่างเครื่องลง ลองหยิบหนังสือต่างๆที่ทาง JEJU AIR ใส่ไว้ตรงหน้าที่นั่ง ขึ้นมาดูข้อมูลต่างๆ ของเยอะเลยคะ ใครอยากซื้อตั๋วเข้าที่เที่ยว ในราคาพิเศษสามารถเรียกแอร์ได้เลย

ดังนั้น การเดินทางครั้งนี้ Topototravel ใช้วิธีซื้อทัวร์ดีดี อาหารการกินในทัวร์รวมทุกมื้อ ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ บอกแล้วไงคะว่ามากับทัวร์ คือดีจบครบทุกอย่าง จองจากงานท่องเที่ยว และเลือกโปรแกรมจากอินเตอร์เน็ต ระบุวันเดินทาง พร้อมชำระเงิน จากนั้นได้ใบ booking มา ทีมทัวร์ส่งเอกสารนัดหมายการเดินทาง เมื่อถึงจุดหมายปลายทางที่สนามบิน
มีเจ้าหน้าที่ ไกด์ รถบัส ต้อนรับให้บริการเต็มรูปแบบ อยากให้ทุกท่านไปสัมผัสความสวยงามของเกาะเชจู ด้วยตาของท่านเองนะคะ

จุดหมายแรก รถบัสมารับแล้วหิวคะ ไปทานมื้อเที่ยงด้วยกัน คือ การไปกินข้าว เพราะตอนนี้ท้องร้อง มาทานอาหารกันที่ ชิมอาหารพื้นเมือง และเริ่มท่องเที่ยวตามโปรแกรมที่เราเลือกไว้ โดยมีไกด์สาวสวย คุณแพรวา ให้บริการข้อมูลและคำแนะนำตลอดทริปการเดินทาง เริ่มไปชมสถานที่ท่องเที่ยวได้เลยคะ

Camellia Hill
สวนดอก Camellia หรือ ทงแบ็ก(동백) ในภาษาเกาหลี เป็นสวนพฤกษชาติที่มีดอกคาเมเลียประมาณ 6000 ต้น มากกว่า 500 สายพันธุ์ ปลูกอยู่ในสวน ในช่วงฤดูร้อนเป็นช่วงที่ดอกไม้บานสะพรั่ง โดยเฉพาะดอกไฮเดรนเยีย (Hydrangea) ซึ่งจะแข่งกันชูช่ออวดโฉมกันแบบสุดฤทธิ์สุดเดช ถ้าใครมา
ที่เกาะเชจูในฤดูหนาว จะเห็นดอกทงแบ็กบานอยู่เต็มไปหมด

Jeju Hello Kitty Island
ที่นี่จัดการแสดงเรื่องราว Hello Kitty หรือพูดง่ายๆว่า ทั้งตึกนั้นเป็น “คิตตี้” เมื่อเราซื้อตั๋วแล้ว จะมี แผนผังนำเที่ยวให้เรา ภายในร้านจะเป็น แนวสีสันสวยสดใส แต่จะเน้น Kitty ป็นสวนสนุกที่ตกแต่งด้วยรูปแบบ Kitty ทั้งหมด โดยจุดท่องเที่ยวหลักๆ คือ Movie Hello Kitty 4D ด้านในมี 3 ชั้น แต่ละชั้นก็มีขนาดพื้นที่ใหญ่ มีกิจกรรมให้ได้สนุกสนานเพลิดเพลินสำหรับทุกเพศทุกวัย ที่สำคัญคือมีคาเฟ่ที่ชื่อ Hello Kitty Cafe นั่งชิลล์กับกาแฟ เครื่องดื่มต่างๆ กับขนมหวานในธีมฮัลโหลคิตตี้ เหมาะมากสำหรับผู้ที่ชื่นชอบคิตตี้กับโลกสีชมพูหวานแหวว

O’Sulloc Green Tea Farm And Museum ไร่ชาโอซุลลอค
ดินแดนที่ได้รับของขวัญจากธรรมชาติทําให้เป็นที่ปลูกชาเขียวคุณภาพสูงของเกาะเชจู นอกจากจะได้ชมวิวไร่ชาเขียวสวยๆ ความน่าสนใจของที่นี่เริ่มจากโครงสร้างตึกที่มองดูคล้ายๆ ถ้วยชาวางอยู่ตรงกลาง

โดยมีทุ่งชาเขียว โอบล้อมเอาไว้ เรียกว่าเป็นการออกแบบที่เก๋มาก ด้านในพิพิธภัณฑ์ก็มีการจัดแสดงเรื่องราวประวัติความเป็นมาและวัฒนธรรมการชงชาของเกาหลี ขนมและเครื่องดื่ม ดื่มชาเขียวทั้งแบบร้อนและเย็น ไอติม แน่นอนว่าทุกเมนูทำจากชาเขียวคุณภาพระดับพรีเมียมจากไร่ เป็นสวรรค์ของคนรักชาเขียว ที่นี่ก็น่าทานมากถามว่าคุ้มค่าไหม สำหรับร้านนี้บอกเลย ถ้าใครชอบถ่ายรูป ชอบมุมชิวๆ ร้านนี้ ต้องมา เลยคะ คาเฟ่น่านั่งมากค่ะ คือบรรยากาศดี ปิดท้าย ด้วย…ไอติมชาเขียวของที่นี่นะมันดีมาก เรียกว่าเป็นร้านยอดฮิตของคนเกาหลีเลย

ที่เกาะเชจูจะเจอหินคุณปู่ได้ตามสถานที่และข้างทางทั่วไปเลย

โชว์กายกรรม (CIRCUS WORLD SHOW)
ชมโชว์กายกรรม สุดยอดกายกรรม โชว์กายกรรมสด ๆ การแสดงความสามารถของนักแสดงในการโชว์หวาดเสียวและความยืดหยุ่นของร่างกาย เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของผู้ชม มีทั้ง แสง สี เสียง ท่านจะได้รับความสนุกสนาน เพลิดเพลิน และหวาดเสียว ไปพร้อมๆกัน เช่น โชว์ลอดห่วง โชว์ต่อตัว เป็นต้น แต่ไฮไลท์ของโชว์นี้ คือ มอเตอร์ไซค์ผาดโผนในพื้นที่จำกัด

วัดซันบังซา (Sanbangsa Temple)
วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนเขาซันบัง และอยู่ใกล้กับวัดโบมุนซา โดดเด่นในเรื่องของการขอพรเรื่องสุขภาพ การมีบุตร และเงินทอง เป็นอีกวัดที่อยากแนะนำให้เพื่อนๆ มาเที่ยวชมและถ่ายภาพกับวิวสวยๆ หลังจากอิ่มอาหารกลางวันกันแล้วกันแล้ว ไปต่อที่วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนเขาซันบังหันหน้าออกสู่ทะเล

สุดท้ายคือ การขอพรเรื่องเงินทองกับรูปปั้น วิธีการขอพรคือลูบหน้าท้องรูปปั้นแล้วทำท่าโกยเงินเข้ากระเป๋าถือเรา จากนั้นก็ปิดกระเป๋าเราให้เรียบร้อย เหมือนประมาณว่าเงินทองจะเข้ากระเป๋าถ่ายรูปเล่นก่อน ถ้าไปช่วงแดด ดีดี รับรองวิวจะสวยมากเลยทีเดียว ฮวงจุ้ยดีที่สุดในเกาะเชจู เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเขาซันบังหันหน้าออกทะเล ในวัดจะประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ชาวเกาะเชจูนับถือ

ภายในวัดจะประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ซึ่งเป็นพระประธานที่มีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เลื่อมใสของชาวบ้านบนเกาะเชจู และชาวเกาหลีใต้ที่นับถือศาสนาพุทธ และรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมซึ่งหันหน้าออกสู่ทะเล นอกจากนั้นยังมีรูปปั้นพระสังกัจจายน ซึ่งหากได้ลูบพุงก็จะรํ่ารวยเงินทอง และบริเวณโดยรอบท่านจะได้พบกับพระพุทธเจ้ามีพระสงฆ์สาวกจำนวน 500 รูป ซึ่งแต่ละรูปก็จะมีลักษณะหน้าตาที่แตกต่างกันไปท่านจะได้พบกับวิถีการทําบุญของชาวเกาหลีใต้ที่แตกต่างกับวัฒนธรรมไทย

ศูนย์น้ำมันสนเข็มแดง (Red Pine Center)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ศูนย์น้ำมันสนเข็มแดง (Red Pine Center) มหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ ผ่านผลงานการวิจัยมากมายจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติ ประเทศเกาหลีใต้ มีสรรพคุณช่วยลดไขมันและน้ำตาลในกระแสเลือด ป้องกันการเกิดเส้นเลือด ตีบ แตก ตัน สามารถล้างสารพิษในร่างกาย เพื่อเพิ่มภูมิต้านทานและทำให้อายุยืนแบบชาวเกาหลี ซึ่งกำลังเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมจากคนในประเทศเกาหลีเป็นอย่างมาก

หมู่บ้านวัฒนธรรม “ซองอึบ” Seongeup Folk Village
การเดินทางไปตามเส้นโปรแกรมการท่องเที่ยวนี้เราได้แวะไปหาอาจุมม่าที่ หมู่บ้านวัฒนธรรมซองอึบ หมู่บ้านโบราณอายุมากกว่า 300 ปี ที่นี่ยังมีชาวบ้านอาศัยอยู่จริง เป็นเขตอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นบ้านและวิถีชีวิตในแบบดั้งเดิมของชาวเกาะเชจู ในอดีตที่นี่เป็นศูนย์กลางด้านการปกครองของเกาะ

ด้วยเอกลักษณ์ของการสร้างบ้านที่นี่ คือใช้ดินเหนียวผสมมูลม้า ยึดก้อนหินก้อนอิฐเข้าด้วยกันเป็นโครงสร้าง วิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ และประวัติความเป็นมาต่างๆ โอมีจา หรือ แบล็คราสเบอร์รี่ ที่หมักในไหที่วางเรียงรายกันอยู่ตามบ้านเรือน ที่นี่ไม่ใช่ไหกิมจิจะเป็น ไหสำหรับหมักโอมีจา หรือ แบล็คราสเบอร์รี่ ที่จะมีการผลิตโดยตรงเฉพาะบนเกาะเชจูนี้เท่านั้น

วิธีการชาวบ้านจะนำผลเบอรี่ป่า มาใส่ลงไปในไหพร้อมกับน้ำผึ้ง และหมักไว้สามปี ก่อนที่จะนำมารับประทานได้ รสชาติหวานอมเปรี้ยว และในสมัยก่อนเคยถูกใช้วินิจฉัยอาการเจ็บป่วย และรักษาอาการเจ็บคอ ไอเรื้อรัง ปัจจุบันนี้ก็เป็นสินค้าที่ผู้มาเยี่ยมเยือนมักซื้อกลับไปรับประทาน และซื้อเพื่อเป็นของฝาก ลืมบอก…เรื่องราวและข้อมูลต่างๆ บนเกาะเชจูให้ฟัง โดยคุณแพรวา ไกด์สาวสวย คอยแปลเป็นไทย ใครมาที่นี่ต้องไม่พลาดได้ของดีกลับบ้าน

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ อควา แพลนเนท (Aqua Planet Jeju)
AQUA PLANET พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและแหล่งเรียนรู้ทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เปิดโลกใต้ท้องทะเลเอาใจเด็กๆ และคนรักโลกทะเล สำหรับเส้นทาง ภายใน ที่บอกว่าระยะทาง ยาวหลาย กิโลเมตร มการแสดงสัตว์น้ำและถ่ายรูปเพลิดเพลิน กับตู้ปลาขนาดมหึมาที่มีความสูงถึง 8.5 เมตร แต่เอาเข้าจริงเดินเพลินๆ สวยๆ มารู้ตัวอีกทีก็ ถึงทางออกเสียแล้ว ทางออกจะร้านของฝาก ให้เลือกซื้อกัน ถ้าใครไม่สนใจของฝาก ก็เดินไปตามทางเรื่อยๆ ไปทางออกได้เลย ควรจะเผื่อเวลาเดินเล่นในนี้ ราวๆ ไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมงได้เลยนะคะ ยิ่งถ้ามาช่วง ที่ได้ชมการแสดงต่างๆ อาจจะต้องเผื่อเวลาให้มากกว่านี้นะคะ

เขาซองซานอิลชุบง (Seongsan Ilchulbong Peak)
จากนั้นเดินทางสู่ เขาซองซานอิลชุบง (Seongsan Ilchulbong Peak) เป็นภูเขาไฟที่ดับแล้ว ปากปล่องภูเขาไฟที่มีลักษณะเหมือนมงกุฎ เป็นสถานที่โด่งดังที่ผู้คนมาขอพรและชมพระอาทิตย์ขึ้น เป็นหนึ่งใน 10 สถานที่สวยงามในเกาะเชจู

ปล่องภูเขาไฟซองซานอิลจุลบง อีกหนึ่งไฮไลท์ของทริปนี้ ที่ได้รับยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่ทางธรรมชาติของโลก เป็นปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้ว เราจะต้องเดินขึ้นไปเพื่อชมปล่องภูเขาไฟ เดินขึ้นประมาณ 1 กม. วิวระหว่างทางเดินขึ้นสวยมาก และพอขึ้นไปจะเห็นปล่องภูเขาไฟที่มีลักษณะเหมือนมงกุฎ ใครมาเกาะเชจูก็ต้องห้ามพลาดเด็ดขาด ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึงนะ ในบริเวณนี้มีที่สวยงามแห่งหนึ่งของเกาะเชจู โดยที่นี่มีชาดหายที่เป็นหินสีดำที่เป็นจุดดำน้ำยอดนิยมของกลุ่มแฮนยอ และเกาะเชจูเพราะได้รับรางวัลเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของประเทศเกาหลีใต้ จึงจะมีเหรียญรางวัลให้เราได้ถ่ายรูป

อากาศวันนี้ เย็นสบายเกาะเชจู วิวดี อากาศดี เหมาะแก่การไปพักผ่อนหย่อนใจมาก หรือจะไปออกเดทสไตล์คู่รักก่อนอื่นเราเริ่มการเที่ยวที่นี่ ด้วย เดินลงไปที่ พิพิธภัณฑ์แฮนยอ

พิพิธภัณฑ์แฮนยอ ( Haenyeo Museum )
แฮนยอ คือนักดำน้ำที่ลงไปเก็บอาหารทะเลบริเวณรอบๆ ชายฝั่งของเกาะ
เชจูด้วยวิธีการตามแบบฉบับดั้งเดิมของเกาหลีผู้หญิงวัยกลางคนกลุ่มหนึ่งบนเกาะเจจู ที่มีอาชีพดำน้ำจับสัตว์ทะเล ด้วยอุปกรณ์สามัญธรรมดา ไฮไลท์ของแฮนยอคือจุดที่ดำลงไปจะลึกเกือบร้อยเมตร แต่แฮนยอก็ดำลงไปได้โดยไม่ต้องใช้ถังออกซิเจน แสดงให้เห็นว่าพวกเธอนั้นมีความแข็งแกร่ง
ส่วนอาหารที่หามาได้นั้นก็มีหลากหลายทั้งสาหร่าย หอยเป๋าฮื้อ เม่นทะเล หมึกยักษ์ ฯลฯ อันสะท้องถึงความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล

แฮนยอ ลงไปเก็บอาหารบริเวณรอบๆชายฝั่งของเกาะเชจู ชุดดำน้ำดั้งเดิมของแฮนยอ กล่าวได้ว่า แฮนยอ นี่ถือเป็นนางเงือกแห่งห้องทะเลเลย หลายๆคนอาจจะเคยเห็นตามในซีรีย์บ้างที่มีหญิงสูงอายุดำน้ำหาอาหารทะเลกัน แบบที่ไม่ต้องใช้ถังอ๊อกซิเจนเลย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเล่าเรื่องราวต่างๆของ แฮนยอ ให้ได้รู้ถึงความเป็นมาและวิถีชีวิตมาแล้วจะรู้สึกทึ่งกับชีวิตของเหล่าแฮนยอสุดๆ อาชีพดำน้ำเก็บหอย เก็บสาหร่าย แต่ที่น่าสนใจก็คือ เหล่าอาจุมม่า มีเพียงชุดสีดำเท่ๆ กับการกลั้นหายใจที่ยาวนาน และน้ำทะเลอันเย็นเฉียบ

มาถึงมื้อค่ำ อาหารเย็นพร้อมเสริฟด็วยเมนู ย่างอาหารเกาหลีมักจะมาคู่กันนะคะ อย่างที่ทุกคนรู้จักกัน คือ “หมูย่างเกาหลี” ซัมกย็อบซัล เป็นอาหารที่นิยมของชาวเกาหลี โดยการนําหมูสามชั้นไปย่างบนแผ่นโลหะที่ถูกเผาจนร้อน ซัมกย็อบซัลจะเสริฟพร้อมกับเครื่องเคียงต่างๆ

ได้แก่ กิมจิ พริกเขียว กระเทียมหั่นบางๆ พริกไทยป่น เกลือ และนํ้ามันงา ถึงแมวาซัมกยอบซัลจะมีการเตรียมการที่สุดแสนจะธรรมดา คือไม่ได้มีการหมักหรือมีส่วนผสมที่หลากหลาย แตวาถ้าพูดถึงรสชาติแล้ว นับว่าพลาดไม่จากนั้นพาทุกท่านเเข้าพักที่โรงแรมของทริปค่ำคืนนี้มีชื่อว่า Sea & Hotel เป็นโรงแรมเล็กๆ มี 5 ชั้น โรงแรมใหม่ สะอาดตรงล๊อปบี้ มีมินิมาร์ท
เดินจากโรงแรมประมาณ 10 นาที มีชายหาดและร้านสะดวกซื้อริมทะเล

Sea & Hotel เป็นโรงแรมเล็กๆ มี 5 ชั้น โรงแรมใหม่ สะอาด

ซีฟู๊ดนึ่งสไตล์เกาะเชจู (Seafood Steamer)
พร้อมเสิร์ฟทุกท่านด้วยเมนู ซีฟู๊ดนึ่งสไตล์เกาะเชจู (Seafood Steamer) ประกอบไปด้วยหอย และกุ้ง เกาะเชจูขึ้นชื่อด้วยอาหารทะเลสดๆ อยากให้ทุกท่านได้ลิ้มความหอมหวานของหอย เสิร์ฟด้วยข้าวสวยและเครื่องเคียงต่างๆ ขาย โซจู เบียร์ เครื่องดื่ม กับแกล้ม มาม่าเกาหลี สามารถออกไปเดินเล่นนอกโรงแรมได้ หน้า รร เป็นถนน อีกฝั่งเป็นทะเล

อาหารเช้า รับประทานที่โรงแรม อาหารเช้าของชาวเกาหลีประกอบไปด้วยข้าวสวย ข้าวต้มซุป ผักปรุงรส กิมจิ (ผักดองเกาหลี) ไส้กรอก และผลไม้ เป็นหลัก

ยงดูอัมร็อค หรือ โขดหินรูปหัวมังกร
โขดหินรูปหัวมังกร ยงดูอัมร็อค หรือโขดหินรูปหัวมังกร หินธรรมชาติที่เกิดจากการกัดกร่อนของคลื่นลมทะเล มีรูปทรงเหมือนหัวมังกรกำลังอ้าปาก โขดหินรูปหัวมังกรเป็นเพราะมีเรื่องเล่าว่าที่บริเวณนี้มีมังกรอาศัยอยู่และได้ขโมยลูกแก้วที่สำคัญประจำเกาะ ทำให้เทพฮัลลาโกรธและวางแผนหลอกล่อให้มังกรขึ้นมาจากใต้น้ำ พอหลอกสำเร็จ เทพก็ได้เสกเอาลูกแก้วคืน มังกรพยายามจะแย่งคืนแต่ก็ไม่ทัน โดนสาปซะก่อนเลยกลายเป็นหินอยู่
ในท่าอ้าปากเพราะต้องการจะขโมยลูกแก้วคืน เป็นหนึ่งจุดที่มาถ่ายรูปสวย โขดหินรูปหัวมังกรหรือชื่อในภาษาเกาหลีคือยงดูอัมร็อก เป็นโขดหินบะซอลต์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของเกาะ โดยรูปร่างที่มองเห็นในปัจจุบันนั้นเกิดจากก้อน ที่นี่มีร้านปลาหมึกย่างที่อร่อย

หินเหล่านี้ได้ถูกคลื่นลมในทะเลกัดกร่อนเป็นเวลานาน จนทำให้มีสภาพและรูปทรงที่มองดูคล้ายกับหัวมังกรที่กำลังอ้าปากผุดขึ้นมาจากท้องทะเล
วันนี้ ที่มาเที่ยว ดินแดนแห่งทุ่งหญ้า ท้องฟ้า และสายลมเกาะเชจู ประเทศเกาหลีใต้.ที่น่าโอบกอดสำหรับคนที่ชอบมองวิวทะเล บอกเลยที่นี่ ให้คุณนั่งชิววว ฟังเสียงคลื่นได้ทั้งวัน แถมได้จิบกาแฟ พร้อมขนมทานได้อย่างมีความสุข พร้อมฟังเพลง แม้จะเป็นภาษเกาหลี แต่ก็ทำ ให้ ใจลอยพร้อมหลงรัก สถานที่พักผ่อนตากอากาศริมทะเลสุดฮอตของเกาหลีใต้ ยังพบเจอสิ่งมีชีวิตในทะเลที่หลากหลาย

ศูนย์สมุนไพรบำรุงตับ ฮอกเก็ตนามู (Raisin Tree Center)
ศูนย์สมุนไพรบำรุงตับ ฮอกเก็ตนามู ศูนย์สมุนไพรที่ได้รับการจดลิขสิทธิ์เป็นสมุนไพรที่ทั่วโลกยอมรับ รวมถึงสถาบันต่างๆ ว่าเป็นสมุนไพรที่มีคุณภาพดีที่สุดในการบำรุง และดูแลตับ อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยขับล้างดี
ท็อกสารพิษออกจากร่างกาย เช่น แอลกอฮอล์ สารกันบูด สีผสมอาหาร ฯลฯ

ปิดท้ายด้วยไฮไลท์เด็ดอีกหนึ่ง สินค้าปลอดภาษี (Duty Free Shop)ช้อป
อย่าง Duty Free และในตัวเมืองชิคๆ เครื่องสำอางแบรนด์ต่างๆของเกาหลีetude , the face shop , skin food , innisfree และอื่นๆ มากมาย อย่างแหล่งช้อปปิ้ง Jeju Jungang Shopping Mall เป็นร้านค้าที่เปิดขาย
กันอยู่ในทางเดินใต้ดิน มีประตูทางเข้าออกหลายประตู ที่น่าสนใจก็คือ ประตู 11 เป็นที่ว่าการของเกาะเชจู เปิดให้เข้าด้านในด้วยนะคะ แต่ต้องเสียค่าเข้าค่ะ แต่จะเดินเล่นถ่ายรูปด้านหน้าก็สวยดี

สุดท้ายและก็ถึงเวลาเดินทางกลับประเทศไทย กับการเดินเที่ยว เกาะเชจู ก่อนจะจบทริป Toptotravel ได้มาเที่ยวที่จุดสุดท้าย เพราะคุณเกาะเชจู แตกต่างกว่าที่ไหนๆ จนวันนี้ที่มีโอกาส มาสัมผัสดินแดนมรดกโลกเกาะเชจู จบลง แล้วและหวังว่ารีวิวนี้จะเป็น ประโยชน์ต่อทุกๆคนในการมาเที่ยวเกาะเจจู ซึ่งสำหรับการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ เกาะเชจูโดยรถบัสนั้นเราว่าสะดวกสุดๆ

ขอบคุณ เครื่องทริปทัวร์ ราคาถูกกับ True World Travel ทัวร์ถูกมาก
ราคา 6,200 บาท ทำให้ Toptotravel เดินทางมาเที่ยว เกาะเจจู ได้ใน
ราคาถูกมาก รู้อย่างนี้แล้วจะรออะไร บอกเลยว่าไม่ผิดหวัง

ใครสนใจ เข้าไปดูได้ที่
True World Travel 022862732-34

Face Book:
https://www.facebook.com/TrueWorldTravelFanpage/?ref=br_rs
Hotline 0988277522 , 098-8277825-26

เจแปนแสนรัก ดอกซากุระดอกไม้ สีชมพูที่สวยที่สุดในโลก

นั่งสบตาดอกซากุระ กับเทศกาลฮะนะมิ (Hanami) ที่โตเกียวไปญี่ปุ่นแล้วมาฮานามิ ใต้ต้นซากุระ ทริปนี้เพอร์เฟ็คท์มาก

ครั้งนี้บินไปเที่ยวไกลถึงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หลบร้อน หาเวลาสัก 4 วันไปชมดอกซากุระ ดูภูเขาและสิ่งที่ต้องมีในทริปนี้ ครั้งหนึ่งในชีวิตขอนั่งชิวใต้ต้นซากุระ 

สวนอุเอโนะ หนึ่งในสวนสาธารณะยอดนิยมใจกลางกรุงโตเกียว ใครอยากชมซากุระแบบคนญี่ปุ่น หรือที่เรียกว่า เทศกาลฮานามิ ก็มาปิกนิกที่นี่ได้นะ บริเวณโดยรอบแวดล้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งวัด ศาลเจ้า ทะเลสาบ สวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ ฯลฯ นอกจากนั้นภายในสวนยังเต็มไปด้วยต้นซากุระมากกว่า 1,000 ต้น เรียงรายตามสองฟากฝั่งของถนนที่ทอดยาวภายในสวน โดยในช่วงที่ดอกซากุระกำลังบาน ที่สวนอุเอโนะก็มีการจัดงานเทศกาลชมดอกซากุระ รวมถึงการเปิดไฟไลท์อัพสวยๆ

Ueno Park สวนสาธารณะแห่งแรกและเก่าแก่ที่สุดในโตเกียว ใกล้ถึงเทศกาล “ฮานามิ” หรืองานเฉลิมฉลองของญี่ปุ่น ขอเรียกทริปเกร๋ๆ นี้ว่า เจแปนแสนรัก ได้กอดคอเพื่อนเที่ยวญี่ปุ่น เดือนเมษา  ขอลาพักร้อนได้ยาวๆ ลองจัดทริปกับแก๊งเพื่อนเลิฟ ที่ประเทศญี่ปุ่นก็จะมีดอกซากุระสีชมพูบานสะพรั่งต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก บริเวณโดยรอบมีที่ช้อปปิ้งรอบๆ ให้ไปเที่ยวกันได้ตลอดทั้งปี บอกเลยว่าไปทั้งทีไม่ผิดหวัง แถมยังเดินทางง่ายด้วยนะ

12670665_1374714882554379_5585578028886749032_n

ทำงานเหนื่อย ก็ต้องหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ คนไทยที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นนอก
จากไปกับทัวร์แล้ว อีกทางที่ฮิตมากมายเลยคือ นั่งรถไฟฟ้า เจอาร์เที่ยวเองไปกับกลุ่มเพื่อน ตรงนี้เราสามารถซื้อเลือกจากเมืองไทย มีให้เลื่อก มากมายเลือกซื้อตามสบาย และ มื้อแรกที่ถึงโตเกียวเก็บกระเป๋าอะไรเสร็จแล้ว รออะไร นั่งรถไฟจากเมืองไทย เข้าใจง่ายสบายๆ  อยากไปเที่ยวบ้างทำได้ง่ายๆ วางแผนกันเลยแต่ถ้าซื้อ JR pass อื่น เช่น  JR Kanto pass สามารถไปซื้อที่สนามบินได้ ที่ JR office ไม่ต้องซื้อล่วงหน้าจากไทยไปก่อน

ถ้าหากจะซื้อ JR pass ให้คำนวณถึงค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายก่อน บางที อาจจะจ่ายในส่วนที่แพงเกินจำเป็น อยู่แค่ใน tokyo หรือ ออกนอก tokyo นิดหน่อย  JR  pass ไม่มีความจำเป็นเลย ใน tokyo ซื้อ metro one day pass หรือ metro+ Toei ดูแล้วคุ้มมาก และสามารถหาข้อมูลจากการอ่าน japan-guide.com

sakura-85

ค่ำนี้นอนไหนกันดี แผนที่ของเราในครั้งนี้เริ่มออกเดินทางจากสนามบินนาริตะ โตเกียว แล้วเดินทางเที่ยวรอบๆ โตเกียวทั้งหมด โดยเราจองที่พักไว้ล่วงหน้าก่อน….โชคดีที่จองล่วงหน้าก่อนเดินทาง 3 เดือนไม่งั้นโรงแรมอาจเต็มหมด เพราะเป็นช่วงเทศกาลซากุระ นักท่องเที่ยวมาก ตลอดทางที่เราแวะเที่ยวถ่ายรูป ดูเมืองเล็กๆ ที่มีนักท่องเที่ยวมายจากทั่วโลก เส้นทาง…..ระหว่างเรามุ่งหน้าไปเมือง……ชื่นชมกับถนน เพราะเป็นวิวแม่น้ำโค้าเป็นสโลปสวยๆ ให้เราได้เห็นก่อนเดินทางต่อ  มื้อแรกที่ถึงโตเกียวแบบง่ายๆ อาหารหยอดเหรียญ

โตเกียว อากาศดีไม่ร้อน ไม่หนาว อุณหภูมิเฉลี่ย 12-20 องศา แถมทีขนมและอาหารอุดมสมบูรณ์จริงๆ  อาหารและผลไม้สดมาก เห็นแล้วอยากมาอยู่มากินของดีที่นี่ จะได้แข็งแรงอายุยืนอย่างคนโตเกียวบ้างจัง

12928387_1374714925887708_5531270961918680054_nช่วงซากุระบานของคนญี่ปุ่น ที่สวนอุเอโนะ (Ueno Sakura Matsuri-Cherry Blossom Festival) ดูซากุระก่อนใคร ขอบอกว่านาทีนี้เที่ยวญี่ปุ่นเมืองไหน ไม่เก๋เท่ามาโตเกียว เพราะเมืองนี้เต็มไปด้วยสีชมพู ซากุระที่จังหวัดโตเกียว คือพันธ์ุ….. ซากุระ โดยดอกจะมีสีชมพุเข้มสดกว่าพันธ์อื่นๆ เมื่อบานเต็มที่ ออกดอกเต็มต้น จึงค่อนข้างสวยงามตัดกับขอบฟ้าสีเข้ม ถ่านรูปกันเพลินทีเดียว ในช่วงปลายเดืนอมีนาคม ดอกซากุระเริ่มเบ่งบานกันแล้ว รับรองว่าใครได้มาที่นี่และลิ้มลองผลผลิตจากดอกซากุระมากมายอย่าง ไอศกรีมซสกุระ ชาซากุระ หรือเบียร์ซากุระก็มี
12923126_1371994506159750_3049440124495360946_nเราก็ได้มาอินกับดอกซากุระที่โตเกียว พร้อมกับดอกสีพาสเทลสวยงาม กันแล้วจุดนี้ห้ามพลาด

12961462_1374714885887712_7056154906277349972_n

ทำงานเหนื่อย ก็ต้องหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ กันดีกว่า
สวนอุเอโนะ เข้าชม : ฟรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิด 24 ชม.
(การแสดงไฟตลอดช่วงซากุระบาน 17.00-20.00 น.)
การเดินทาง : เดิน 5 นาที จากสถานีรถไฟ Ueno

เดอะทับแขกกระบี่ ปันความสุข ปล่อยใจ เอนกาย ท่ามกลางทะเลธรรมชาติ

มาแบ่งปันพระอาทิตย์ตกดินกันเถอะ

ทำไมต้องไป “กระบี่” จังหวัดที่มีชื่อเสียง ดังไกลระดับโลก อย่างเกาะพีพี ทะเลแหวก ส่วนใครมีความหลงไหลในธรรมชาติ รักการเรียนรู้ ชอบการค้นหาอะไรใหม่ๆ ที่ชายหาดทับแขก ให้ความรู้สึกที่ต่างออกไป ที่พักหรูสุดโรแมนติก ชายหาดที่มีรูปทรงโค้ง น้ำทะเลเป็นสีฟ้า บรรยากาศเงียบสงบ ริมหาดสุดชิลล์ ฟีลกู๊ดกับวิลล่าริมทะเล ณ. เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท

ด้วยความโดดเด่นของทะเลที่คงความเป็นธรรมชาติ แถมบรรยากาศล้วนๆ ที่นี่เพื่อนๆ ที่มีโอกาสมาปักหมุดที่ชายหาดแห่งนี้ หลึกหนี มลภาวะและทิ้งความเครียดโยนลงทะเล แล้วที่นี้มานอนสูดอากาศดีสักคืน-สองคืน บอกเลยว่าช่วยรีเฟรชร่างกายได้ดีนะคะจะบอกให้!

วันนี้ เราไปพักกันที่ วิลล่าติดทะเล ติดชายหาด บรรยากาศดี วิวสวยที่สุดในโลก The Tubkaak Krabi Boutique Resort ใช้เวลาในการเดินทางเพียงแค่ 40 นาทีจากสนามบินนานาชาติกระบี่

“ทับแขก” หรืออีกนัยหนึ่ง หมายถึง บ้านพักสำหรับผู้มาเยือน ชายหาดที่เราสามารถนั่งชมพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างงดงาม เพราะที่นี่… ถือเป็น First impression และยังได้สูดโอโซนชั้นดีกับที่พักริมทะเลบรรยากาศสุดสโลว์ไลฟ์ความเงียบสงบ และธรรมชาติที่โอบล้อม ด้านห้องพัก มีจำนวนห้องพักทั้งหมด 59 ห้อง โดยมีส่วนที่เป็น pool villa จำนวน 18 ห้องพักหรูระดับ 5 ดาว ที่ตกแต่งด้วยสไตล์ Contemporary Tropical ห้องพักตั้งอยู่บนหาดคลองหินและโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม หาดทรายสีขาว น้ำทะเล
สีฟ้าเข้มๆ ภูเขาสีเขียวชอุ่มที่เหมือนเป็นฉากหลังให้กับที่วิวที่พักริมทะเล

เข้าสู่โหมด ห้องพักหรู ตกแต่งต่างสไตล์ ลดหลั่นกันลงมาตามเนินเขามากถึง 6 แบบ คือ Deluxe Ocean View, Grand Deluxe Jacuzzi Ocean View, Tropical Villa, Tropical Pool villa, Beach Front Pool Villa และ Presidential Pool Villa 2 Bedroom แต่ละห้องยังตกแต่งผสมผสานความเป็นศิลปะจามแบบร่วมสมัยอย่างลงตัวและงดงาม ภายในห้องนอนคงคอนเซ็ปต์ของความเรียบหรูและยังคงเน้นสีขาวให้ตัดกับเฟอร์นิเจอร์สีน้ำตาลเพื่อความอบอุ่นและนุ่มนวล ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้ง ทีวีแอลซีดี ตู้เย็น ลำโพงไอพอด เครื่องทำกาแฟ เครื่องทำน้ำอุ่น และยังฟรีมินิบาร์ทั้งขนมและเครื่องดื่มแบบที่ไม่ต้องกลัวว่าจะหิว ละที่เป็นไฮไลท์ของห้อง Beach Front Pool Villa คือสระว่ายน้ำส่วนตัวที่อยู่ทางด้านหน้าห้องซึ่ง เป็นสระว่ายน้ำที่เราสามารถมองเห็นวิวทะเลได้แบบ 180 องศา พร้อมเตียงชายหาดให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ

จากวิลล่าพรีเมียร์กับสระว่ายน้ำ ให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุดสำหรับการพักผ่อนที่แสนโรแมนติก การตกแต่งภายในที่จากแนวคิดอันลึกซึ้ง วิลล่ามีขนาดกว้างขวางและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน หรูหราและห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำกลางแจ้ง และห้องอาบน้ำฝักบัวองค์ประกอบของการออกแบบในประเทศรวมทั้งหัวเตียงกราฟิกขนาดใหญ่ เพดานโค้งสูงหลังคาลาดวัสดุธรรมชาติสร้างความรู้สึกของสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นภาคใต้

เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท อีกหนึ่งที่พักสวย ที่อยู่ในลิสต์ที่พักในฝันของใครหลายๆ คน เมื่อเข้ามายังพื้นที่ของรีสอร์ท ก็เหมือนหลุดเข้ามาในดินแดนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงไหลและได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ส่วนด้านหน้าจะเป็นส่วนของล็อบบี้ที่เป็นอาคารเปิดโล่งแบบ Open Air ที่เปิดรับลมจากธรรมชาติ ที่พักมาในรูปแบบวิลล่าสุดเรียบง่าย ที่เน้นดีไซน์จากธรรมชาติ ทั้งไม้ งานจักรสาน แต่ก็ยังแฝงความโมเดิร์นน่าพัก ได้อีกความรู้สึกซึ่งหายากในปัจจุบัน ส่วน มุมชิลล์ก็ต้องยกให้กับห้องพักติดทะเล ที่มีความเป็นส่วนตัว ที่เราสามารถหย่อนขา ตกปลา และชมวิวอาทิตย์ลับขอบฟ้าได้จากมุมนี้ เหมาะแก่การหนีความวุ่นวายมาให้ร่างกายได้รีแลกซ์กันสุดๆ ที่นี่ถือเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางที่แสวงหาประสบการณ์การพักผ่อนที่แตกต่าง

เดอะทับแขกเป็นบูทีค รีสอร์ท ความรักเล็กๆ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการอยู่ในระดับชั้นยอดเยี่ยม รวมไปถึงการบริการที่ใส่ใจในรายละเอียดจากพนักงานทุกคนที่มีคอยช่วยเหลือดูแลให้กับผู้เข้าพัก ไมว่าจะเป็นบริการทำความสะอาดเสื้อผ้า หารถเช่าโดยที่ผู้เข้าพักสามารถผ่อนคลาย ปล่อยความเหนื่อยล้า ความเครียดไปกับสระว่ายน้ำสวย ๆ อ่างจากุซซี่หรู หรือว่าจะหยิบหนังสือดี ๆ มาอ่าน หรือดูหนังดีวีดี หรือเล่นโยคะให้สบายใจนั้น ทางรีสอร์ทได้จัดมุมส่วนตัวให้คุณได้หาความสุขง่าย ๆ สะดวกสบายอย่างครบครัน

รุ่งเช้าหลังละเมียดกาแฟ….ยามเช้าและเบรกฟาสท์เบาๆ อย่างที่รู้กันว่ามื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดของวัน หลังอาหารเช้าเรามีโปรแกรมนั่งเรือไปเกาะ
กลางทะเล เพืื่อชมความงดงามของเกาะห้อง จากหาดทับ แขกสามารถเช่าเหมาเรือหางยาว (ติดต่อโรงแรม) วิ่งตรงมาเที่ยวชมความงามของเกาะห้อง ท่องเที่ยวกินบรรยากาศทะเลฝั่งอันดามัน เที่ยวชมหมู่เกาะห้อง (Koh-Hong) หรือ “เกาะเหลาบิเละ” เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ใช้เวลาเดินทางไม่มากนัก นั่งอยู่ที่หาด ก็มองเห็นเกาะห้อง หลังเที่ยงก็กลับได้จะได้ไม่ร้อนมาก

สำหรับมื้อเช้าและมื้อเที่ยง เราฝากท้องที่ห้องอาหาร Arundina ให้บริการอาหารไทยและอาหารยุโรป ตั้งอยู่ท่ามกลางสระบัว มีบรรยากาศที่มีเสน่ห์มากตั้งอยู่ท่ามกลางแมกไม้เขียวขจี หันหน้าไปทางริมหาดเห็นทะเลกระบี่ที่สวยงาม เพลิดเพลินไปกับเมนูอาหารที่หลากหลาย รสชาติแสนอร่อย โดยพ่อครัวที่มีประสบการณ์ทั้งอาหารยุโรปและอาหารไทยคลาสสิก คัดสรรวัตถุดิบที่สดใหม่ Arundina ยังเปลี่ยนบรรยากาศที่สดชื่นระหว่างวัน มาเป็นความโรแมนติกของอาหารมื้อค่ำที่เยี่ยมยอดภายใต้ฟ้าเปิด เสียงดนตรีเคล้าเสียงทะเล เติมเต็มการสัมผัสผู้เข้าพักได้อย่างเพอร์เฟค

มื้อเที่ยงไม่ต้องออกไปไหนไกลเพราะสามารถสั่งอาหาร โดยในแต่ละเมนูเป็นอาหารที่มีรสชาติเข้มๆ แบบทางใต้ เลือกทั้งโซนอินดอร์ด้านในและโซนเอ้าท์ดอร์ นั่งรับลมทะเลแบบชิลล์ๆ

ห้องอาหาร Arundina มีบรรยากาศที่มีเสน่ห์มากตั้งอยู่ท่ามกลางแมกไม้เขียวขจี หันหน้าไปทางริมหาดเห็นทะเลกระบี่ที่สวยงาม ที่มีเพียงที่เดียวบนเหาดทับแขก เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท ที่ให้ทุกคนได้นั่งเรือ ไปชมความงามของเกาะ สามารถดำน้ำดูประการังและสัตว์น้ำหลากสีสันได้อีกด้วย ช่วงบ่ายหรือช่วงเย็นก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเหงาหรือไม่ต้องกลัวจะไม่มีอะไรทำ เพราะที่ ห้องอาหาร Arundina ที่เป็นห้องอาหารแบบ All Day Dining มีเต็นท์กระโจมปิกนิกสีขาว ริมชายหาด เหมาะกับช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน นั่งปล่อยอารมย์ ฟังเสียงคลื่นพร้อมทานอาหารสุดพิเศษอย่าง น้ำมะพร้าวสดๆ น้ำผลไม้ และพิซซ่า รับรองว่ามุมนี้ ช่างสวยถูกใจจนจะต้องพกกล้องมารัวชัตเตอร์ไว้เอารูปไปอวดเพื่อนๆ รับรองร้องว้าว! อย่างแน่นอน

ห้องอาหาร Arundina ห้องอาหารแบบ All Day Dining
จะพาทุกคนไปดื่มด่ำกับบรรยากาศริมทะเลตลอดทั้งวัน
ตั้งแต่เวลา 07.00 – 23.00 น.

ชกร นันทวิสัย General Manager เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท
ยิ้มหวาน…….กับคำกล่าวที่ว่า ที่รีสอร์ท น้อมนำหลักปรัชญาศก.พอเพียงมาใช้ในการดำเนินธุรกิจโรงแรม ปริมาณพอเหมาะพอเพียง เราก็อยู่ได้ ทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์ของคนรักทะเลกระบี่ นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกจากทุกมุมโลกต่างประทับใจ และที่โรงแรมยังถือเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ชอบการท่องเที่ยวยังเกาะต่างๆ สามารถเที่ยวชมเกาะห้อง เกาะละดิง เกาะผักเบี้ย ฯลฯ นักเดินทางออกเที่ยวได้ทุกฤดูกาล ดื่มดำธรรมชาติ ก่อนจะกลับมาชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่ ริมหาด เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท

เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท เวิ้งชายหาดที่มีภูเขากลางน้ำกลางกั้นคลื่นสึนามิ ที่นักท่องเที่ยวมาพักผ่อนแบบสงบท้องทะเลที่สวยงามที่มีจุดขายเด่นชัด เป็นโรงแรมด้านสุขภาพ และกีฬาแบบครบวงจรแห่งแรกในจังหวัดกระบี่หากความประทับใจแรกเกิดขึ้นที่ไหน ไม่ว่าจะเป็น คน สิ่งของ หรือแม้แต่สถานที่ก็จะทำให้เราหลงรักได้อย่างหมดใจเช่นเดียวกับ First impression ที่ได้เกิดขึ้นที่ ดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท สถานที่ที่เป็นเหมือนดินแดนแห่งฝันที่มีครบทั้งความสวยงาม ความสะดวกสบายเปรียบดั่งสวรรค์ของคนรักทะเลจริงๆ

นอกจากนี้ เทรนด์การบริโภคอาหารสุขภาพคือหัวใจสำคัญที่ต้องทำควบคู่กับโรงแรมสุขภาพ โดยทุกเมนูที่ให้บริการจะเป็นอาหารสุขภาพ (clean & healthy food) ปรุงจากวัตถุดิบออร์แกนิก เช่น ผัก-ผลไม้จากฟาร์มออร์แกนิกที่ปลูกเอง บริเวณแปลงปลูกผักภายในหอพักพนักงานโรงแรม รีสอร์ท ระดับ 5 ดาว ยังได้ให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ด้านอาหารที่ยอดเยี่ยมให้กับผู้มาเยือน โดยได้เนรมิต “สวนครัว” ขึ้นภายนอกของโรงแรม โดยมีหัวหน้าพ่อครัวเป็นผู้รังสรรเมนูที่หลากหลายจากผลิตผลของสวนครัวแห่งนี้ รวมถึงวัตถุดิบอื่นที่ได้มาจากแปลงผักแห่งนี้

เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท เป็นรีสอร์ตระดับ 5 ดาว จุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลผลิตสดใหม่จากแปลงพัก และฟาร์ม บริเวณหอพักพนักงาน โดยได้ตั้งเป้าหมายในการรวบรวมเสน่ห์และความสง่างามของจุดหมายปลายทางแห่งนี้เอาไว้ให้มากที่สุด

พร้อมทั้งให้การสนับสนุนชุมชนและรักษ์สิ่งแวดล้อมให้หาดทับแขก มากที่สุด ด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูงสุดแก่แขกของโรงแรม เพราะผักสดทั้งหมดที่เราทานมื้อกลางวันนี้ มีการเก็บสดใหม่ทุกวัน ไร้สารเคมี ผักและผลไม้บางส่วนของที่นี่ ถูกปลูกในแปลงบริเวณหอพักพนักงาน เพื่อต้องการเสริมรายได้พนักงาน และผลิตวัตถุดิบคุณภาพปลอดสารเคมีเพื่อความสุขอีกด้านหนึ่งของผู้มาเยือน

The Tubkaak Krabi Boutique Resort
วิลล่าติดทะเล ติดชายหาด บรรยากาศดี วิวสวยที่สุดในโลก

เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท
THE TUBKAAK KRABI BOUTIQUE RESORT
123 หมู่ 3 ตำบลหนองทะเล อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ 81180
โทรศัพท์: +66 (0) 7562 8456 แฟกซ์: +66 (0) 7562 8499

#beachdinner #thearundina#tubkaakrestaurant
#localthaifood #wongnaikrabi #krabitrip

ทุ่งนาขั้นบันได…ใจกลางโรงแรม

“พูลแมน หลวงพระบาง” (Pullman Luang Prabang Hotel)

ยินดีต้อนรับ….สู่สถานที่พักผ่อนอันน่าทึ่งของครอบครัว ตื่นรับอรุณพร้อมชมวิว ทุ่งนาขั้นบันได…ใจกลางโรงแรม หลวงพระบางเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมรดกทางวัฒนธรรมอันอุดมสมบูรณ์ของลาว ตั้งแต่สถาปัตยกรรม ศิลปะและหัตถกรรมดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน รวมไปถึงผลผลิตสดใหม่จากทุ่งนาและฟาร์ม

“พูลแมน หลวงพระบาง” (Pullman Luang Prabang Hotel) โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว กำลังถูกยกให้เป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศลาว เป็นโรงแรมเปิดใหม่ เพิ่งเปิดมาได้ 9 เดือน ด้วยพื้นที่ 100 ไร่ ความสูงของอาคาร 2 ชั้น ถูกออกแบบใสในรูปแบบเรียบง่าย ที่นี่จัดเป็นสถานที่พักผ่อนที่มีสวยงาม ตั้งอยู่ท่าม กลางธรรมชาติ ธารน้ำ ภูเขาโอบล้อม รวมไปถึงทุ่งนาขั้นบันไดบริเวณใจกลางโรงแรม เป็นคอลเลกชั่นล่าสุดของ แบรนด์พูลแมน อันโด่งดังของเครือ Accor กลางหลวงพระบาง เมืองมรดกโลก

ภายในโรงแรมมีพื้นที่ห้องจัดประชุมใหญ่ที่สุด ในหลวงพระบาง ใครอยากมาเที่ยวหลวงพระบาง แล้วได้ฟีลเก๋หลายๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวคนอาจจะเห็นว่ามีการเปิดตัวของโรงแรมใหม่ๆ คับคั่งมากหน้าหลายตา บางที่มาพร้อมกับจุดขายเก๋ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำเลที่ตั้ง การบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงดีไซน์และการตกแต่งที่เป็นจุดสำคัญในการทำให้ผู้เข้าพักประทับใจ


ที่สุดของบริเวณ Lobby พร้อรับบริการ

เรียนรู้กับการใช้ชีวิต เมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของยูเนสโก ด้วยวิถีชีวิตเรียบง่ายและยั่งยืน จึงทำให้ภาพรวมของ พูลแมน หลวงพระบาง รีสอร์ท ที่มีความรู้สึกที่แฝงไปด้วยประวัติศาสตร์ของความเป็นหลวงพระบางแบบดั้งเดิม ซึ่งจะเป็นที่ประทับใจของแขกที่มาพักทุกเชื้อชาติ

พูลแมน หลวงพระบาง ให้บริการห้องพักรวม 123 ห้อง ในรูปแบบโลว์ไรส์ (low-rise) มีทั้งแบบห้องสวีท ไปจนถึงพูลวิลล่าขนาด 2 ห้องนอน พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว ออกแบบตกแต่งสไตล์ Laos Contemporary อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในห้องพักทันสมัยครบครัน พนักงานที่นี่เค้าสามารถเข้าใจภาษาไทย ได้รับความมั่นใจจากนักท่องเที่ยวเรื่อยมาตั้งแต่เปิดให้บริการโดยในส่วนของห้องพักมี ให้เลือกหลากหลาย เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละแบบ พร้อมพักผ่อนในห้องพักสุดหรูอย่างเต็มที่เหมาะกับชีวิตสโลว์ไลฟ์

หลังจาก เช็คอินที่ล็อบบี้ พร้อม Welcome Drink ด้านหน้าโรงแรมล็อบบี้และที่จอดรถอยู่ฝั่งเดียวกับตัวตึก ตรงบริเวณล็อบบี้มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะเราจะเห็นร้าน Junction Bar รวมถึงมีคอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง ที่เราสามารถนั่งเล่นอินเตอร์เนต

โดยรีวิวนี้ Toptotravel จะแบ่งเป็น ห้องพัก, สระว่ายน้ำ และห้องประชุม , อาหารเช้า และ สปา นะคะ พร้อมแล้วตามมาดูกันเลย


รูปแบบห้องพัก + สิ่งอำนวยความสะดวก
ให้รางวัลกับร่างกายและให้ของขวัญกับตัวเอง ด้วยการไปพักผ่อน วันนี้เ
Toptotravel มีโอกาสได้มาพักห้องพรีเมี่ยมดีลักซ์ Premium Deluxe Room ห้องใหญ่มากที่พักมี 2 ชั้น จากทั้งหมด 4 ห้อง ของตัวตึกโรงแรม ตกแต่งในรูปแบบ เน้นความเป็นไม้และสีสันสว่าง สไตล์โมเดิร์นที่มีกลิ่นอายของล้านนา ห้องน้ำใหญ่ ต่ละห้องมีระเบียงส่วนตัวที่มองเห็นวิว ห้องน้ำมีฝักบัวอาบน้ำหรืออ่างอาบน้ำ และเลือกได้ระหว่างเตียงขนาดคิงไซส์ที่หรูหรา 1 เตียง หรือเตียงขนาดนอนได้สองคน 2 เตียง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในห้องพักได้แก่ เครื่องปรับอากาศที่สามารถควบคุมอุณหภูมิแบบแยกส่วน มินิบาร์ อุปกรณ์ชงชาและกาแฟ ตู้นิรภัยในห้องพัก ไดร์เป่าผม เครื่องชั่งน้ำหนัก เตารีด เครื่องรับโทรทัศน์จอแบน พร้อมช่องรายการดาวเทียม โทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศ และบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย

เปิดเข้ามาห้องน้ำก็จะนอนแช่น้ำ จากห้องน้ำ แช่น้ำไปเห็นวิวสระว่ายน้ำและสนามหญ้า และทุ่งนาขั้นบันไดใจกลางโรงแรม ส่วนการเดินทางไปจุดต่างๆ ภายในโรงแรม สามารถกดเรียกปุ๊บแทบจะมาทันที ห้องพักที่นี่ใช้ระบบคีย์การ์ดจนถึงเข้าห้องพัก ค่อนข้างปลอดภัยแน่นอน ถ้าขี้เกียจเดิน โรงแรมเค้ามีการส่ง ไม่มีอะไรดีกว่านี้แล้ว

เรื่องหมอนและเตียง นี่คิดว่าคือจุดเด่น หมอนนอนแล้วไม่ปวดคอ อันนี้ตัวชัญญ่าเอง ค่อนข้างประทับใจเลย กลับจากมาเที่ยวเหนื่อยๆ นอนบนเตียงและหมอนดีๆ คือช่วยให้เราหายเหนื่อยได้เร็วมาก นอกจากนี้ ในห้องเค้ายังมีตู้เซฟไว้ให้เราใส่ของมีค่า มีทีวี มีราวแขวนเสื้อที่ให้ไม้แขวนมาเหลือเฟือ และมีไวไฟสัญญาณแรงๆ เล่นเน็ตเร็วปรี๊ดมาก สิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานที่โรงแรมให้มาคือค่อนข้างครบ

เมื่อเราเดินเข้ามายังตัวโรงแรม ด้านหน้าโรงแรม เราจะเห็นร้านอาหารที่ชื่อว่า Junction Bar ซึ่งเป็นพื้นที่พักผ่อนที่นำคุณไปสู่มุมมองของนาข้าวขั้นบันได ส่วนด้านหน้าโรงแรมนั้นมีที่จอดรถ รวมถึงถ้า ใครเช่ารถมาไม่ต้องห่วงเรื่องที่จอดรถเลย อีกสิ่งหนึ่งที่เก๋คือ ห้องพักที่นี่มีทั้งแอร์และพัดลมติดเพดาน แอร์เย็นฉ่ำ แต่ถ้าใครแพ้แอร์ ก็เปิดหน้าต่าง + เปิดพัดลมได้เลยส่วนห้องน้ำทำออกมาได้ค่อนข้างดีมาก สบู่ ยาสระผม และครีมนวดผมในตัว ที่ดีและประทับใจมากคือ ทุกห้องของที่นี่ฝักบัวแรงสะใจ อันนี้ชอบมากๆ เพราะปกติถ้าฝักบัวไม่แรง นี่จะเฟลกับการอาบน้ำ

ในส่วนห้องพัก มีการออกแบบให้แขกได้รับอารมณ์ของวิถีชีวิตเรียบง่ายและยั่งยืน ให้ความสำคัญที่ความสะดวกสบาย พักแล้วรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง Facilities ครบมาก ที่นี่มีสระว่ายน้ำถึง 3 สระด้วยกัน

บรรยากาศดี การบริการ เน้นความน่ารักเป็นกันเองของพนักงาน ต้อนรับด้วยรอยยิ้ม ให้บริการด้วยใจ แต่คงไว้ซึ่งมาตราฐานระดับสากล โรงแรมระดับ 5 ดาวทั่วโลก ของตกแต่งที่เลือกใช้ก็สื่อถึงวัฒนธรรมของลาว จึงทำให้ภาพรวมของตัวรีสอร์ท มีความรู้สึกที่แฝงไปด้วยประวัติศาสตร์ของความเป็นหลวงพระบางดั้งเดิม เป็นที่ประทับใจของแขกที่มาพักทุกเชื้อชาติ

อาหารเช้า ที่ห้องอาหาร L’Atelier ห้องอาหารริมทะเลสาบ อาหารเช้าที่ห้องอาหาร มีบริการอาหารเช้าแบบคอนติเนนตัลหรือแบบบุฟเฟต์ All-Day Dining อยู่แล้ว เมนู A La Carte มีอาหารหลากหลาย ทั้งลาว ไทย และ ตะวันตก อาหารของที่นี่ได้จากฟาร์มสู่โต๊ะอาหาร (farm-to-table) โรงแรมใช้วัตถุดิบท้องถิ่นออร์แกนิกตามฤดูกาล สมุนไพรลาว ผักและผลไม้เมืองร้อนที่ปลูกในสถานที่ของโรงแรม รวมถึงเก็บเกี่ยวข้าวจากทุ่งนาขั้นบันไดภายในรีสอร์ทมาใช้ในร้านอาหาร

“The Junction” เลานจ์ และห้องสมุดที่ให้บริการเครื่องดื่มและอาหารว่าง ศูนย์ออกกำลังกายตลอด 24 ชั่วโมง สปา คิดส์คลับ สระว่ายน้ำ 3 แห่ง
พร้อมพูลบาร์ “H2O” และพื้นที่จัดการประชุมและกิจกรรมที่สามารถรองรับได้ถึง 300 คน ใหญ่ที่สุดในหลวงพระบางเพลิดเพลินกับการพักผ่อนแล้ว เปิดประสบการณ์กับโปรแกรมท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่หลากหลายที่ทางโรงแรมจัดให้อย่างเต็มอิ่ม อาทิ โยคะยามเช้า ไทชิ บนดาดฟ้าของรีสอร์ท

ขอบคุณข้อมูลต่างของโรงแรม ด้วยการดูแลและแนะนำของ :
Khun : Supatta Noimuang (ZII)
Director of Sales Marketing
Khun : Sheila May Reas Buenafe
PR & Marketing Communication Manager

Khun : Supatta Noimuang (ZII) and Khun : Sheila May Reas Buenafe

สุดท้าย Toptotravel ขอพาไปชม พูลแมน สปากันค่ะ ตรงนี้เราขอเข้าไปชมบรรยากาศ และ พูดคุยกับ คุณณันท์นภัส ไกรหิรัฐปวีร์ SPA & WELLNESS MANAGER

สรุปทุกอย่างดีงาม ตามท้องเรื่องในระดับห้าดาวของโรงแรมพูลแมน
พูลแมน สปา ตั้งอยู่ภายในบริเวณ Pullman Hotels and Resort หลวงพระบาง อยู่ด้านในสุดของโรงแรม โดยมีแนวคิดว่า เพื่อให้ผู้มาใช้บริการได้สัมผัสได้ถึงความเป็นส่วนตัวแลความเงียบสงบ รู้สึกผ่อนคลาย

พูลแมน สปา ประกอบด้วยห้องทรีทเมนท์ทั้งหมด 6 ห้อง แต่ละห้องสร้างแบ่งแยกจากกันเป็นสัดส่วน ทุกห้องทาสีขาวสะอา ห้องทรีทเมนท์ออกแบบอย่างเรียบง่ายหรูหราด้วยการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ คุณณันท์นภัส เล่าให้ Toptotravel ฟังในขณะพาเราเดินเข้าเยี่ยมชม บริเวณภายใน พูลแมน สปา เราเรียกห้องทรีทเมนท์เป็นตึก 1 -3 เป็นห้องเตียงคู่ ตึก 4 เป็นห้องเตียงเดี่ยวสำหรับการนวด ตึก 5 เป็นห้องนวดไทยมี 4 เบาะ สำหรับนวดไทยโดยเฉพาะ และตึกสุดท้ายก็จะเป็นห้องนวดเท้าซึ่งสามารถทำเล็บ

… ด้วยสนนราคาที่ไม่แพง ผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้บริการ โดยเฉพาะกับฝีมือการนวดของเทอราปิส ที่ผ่านการฝึกอบรมและผ่านประสบการณ์มาอย่างดี ทำให้ พูลแมนสปา ปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เรียกว่าต้องจองกันล่วงหน้า เพราะคิวยาวอย่างไรก็ตาม หากมาเที่ยวที่ หลวงพระบาง และอยากทดลองฝีมือการนวดของเทอราปิสชาวลาว ระดับพรีเมี่ยม ต้องลองแวะเข้ามา แล้วจะประทับใจ

ที่นี่ พูลแมน สปา….หากใครต้องการอยากไปหรืออยากสอบถามเพิ่มเติมการจองบริการสปา ที่นี่เปิดทุกวัน 10.00 -21.00 น.
ลูกค้าจากภายนอกโรงแรมสามารถเข้ามาใช้บริการได้โดยติดต่อผ่าน
โอเปอร์เรเตอร์ของโรงแรม Pullman Luang Prabang

พูลแมน หลวงพระบาง คือการคงไว้ซึ่ง วิถีชีวิตเรียบง่ายและยั่งยืนของชาวหลวงพระบางที่เป็นรากฐานของเมืองมาตั้งแต่โบราณ โดยได้เชื่อมต่อกับกลิ่นอายของหลวงพระบางเอาไว้ในทุกย่างก้าวของโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นการรังสรรค์การบริการที่เป็นพันธมิตรกับท้องถิ่น การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ การทำฟาร์มและสวนครัวแบบยั่งยืนภายในโรงแรม และการคิดค้นเมนูอาหารจากวัตถุดิบขึ้นชื่อในพื้นที่ ควบคู่ไปกับโปรแกรมรักษ์โลก Planet 21 ที่เครือข่าย Accor ทั่วโลก

เคล็ดลับอย่างแรก ถ้าเราคิดจะมาพักโรงแรมในเครือ ACCOR แนะนำให้จองห้องพักโดยตรงกับเว็บไซต์ เพราะนอกจากเว็บโรงแรมจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรงแรมที่ครบครัน เว็บไซต์หน้าตาดีแล้ว คือเราจะได้เรทห้องพักที่ถูกกว่าที่อื่นๆ อย่างแน่นอน

เรื่องทำเลที่ตั้งของ Pullman Luang Prabang
Amazing huge room. Lovely staff. Great pool and nice restaurant.
สัมผัสวิถีลาวบทใหม่ที่ พูลแมน หลวงพระบาง ได้แล้ววันนี้
Pullman Luang Prabang
Ban Pong Wanh, 06000 LUANG PRABANG LAO PDR
Tel: +856 71 211 112
อีเมล H9112@accor.com

สรุปบทสัมภาษณ์ของ ทวีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร TK Palace

วันนี้….หากใครก้าวเข้าไปยังโรงแรม ทีเค พาเลซ จะสัมผัสได้ถึงโฉมใหม่ของสถานที่แห่งนี้ แต่รู้หรือไม่ว่า เรื่องราวของผู้ชายชื่อทวีศักดิ์ พันธุ์เสงี่ยม ประธานกรรมการบริหาร ทีเค. จุดเริ่มต้นจาก ความตั้งใจที่ต้องการพัฒนาโรงแรม ที.เคใหญ่ขึ้น และเป็นหนึ่งในกิจการโรงแรมที่ยิ่งใหญ่และดีที่สุดใน ย่านแจ้งวัฒนะ พร้อมให้บริการอย่างดีที่สุด

คุณทวีศักดิ์ พันธุ์เสงี่ยม เริ่มเล่าให้ฟังว่า … ย้อนหลังไป 3 ปีที่แล้ว จนถึงในปัจจุบัน จะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของ ทีเค. โดยมองเรื่องของวิสัยทัศน์ก่อนว่า วันนี้ การทำธุรกิจอะไรก็ตาม ต้องไม่มีอะไรเหมือนกัน ต้องสร้างความแตกต่างเพื่อสร้างจุดขาย

ผู้ชายคนนี้มีเบื้องหลังแนวคิดการทำธุรกิจอย่างไร?
จุดเริ่มต้นในธุรกิจนี้ วิสัยทัศน์ของผม มีเพียงแค่การอยู่รอด และช่วงสามปีต่อจากนี้ไป เราคิดกันว่า น่าจะมีโรงแรมที่ไม่เหมือนคนอื่น เน้นเรื่องของ Green hotel เราลงทุน กับการปลูกต้นไม้ทั้งหมด 10 กว่าล้านบาท และนำสถาปนิก ปรับเปลี่ยนดีไซน์ทุกส่วนในพื้นที่ของโรงแรม ไม่ว่าจะเป็น ล็อบบี้ ห้องพัก ห้องประชุมสัมมนา ต้นไม้ พรม วัสดุอุปกรณ์ภายในห้องพัก ปรับเปลี่ยนใหม่ให้มีความทันสมัย

ผมคาดหวังว่า โรงแรมเราจะกลายเป็นหนึ่งในกิจการ โรงแรมที่ดีแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ขณะเดียวกัน มีเพื่อนที่คอยสนับสนุนและพร้อมจะลงทุนไปด้วยกัน โดยการร่วมทุน 1,500 ล้านบาท เพื่อนที่พูดถึงคือ นิ่มซี่เส็ง ซึ่งประกอบธุรกิจมาสามสิบกว่าปี ผมโชคดีที่มีนายทุนเป็นเพื่อนสนิท ให้แบบไม่มีข้อแม้ เหมือนเป็นเพื่อนและเป็นผู้ที่มีพระคุณกับโรงแรมของเรา”

การทำธุรกิจโรงแรมในวันนี้ ต้องมีวิสัยทัศน์ มองหลายมิติ โรงแรมมีลักษณะผสมผสาน เพื่อให้มาตรฐานสากล โรงแรมส่วนมากคนมีทุนสูง มีเงินเยอะเป็นเจ้าของ โดยจ้าง GM เข้ามาบริหาร เขาก็จะบอกกับ GM ว่า จะต้องทำยอดให้ได้สมมติเดือนละ 30 ล้าน ทีนี้ GM กับลูกน้อง Relation ไม่ค่อยมี GM ต้องปั้นเงินให้ได้ เพื่อนำพาตัวเองให้รอด การทำงานไปกดดันกับลูกน้อง ลูกน้องก็อยู่ยาก และลาออกในที่สุด สำหรับที่ ทีเค เจ้าของจะยืนอยู่เคียงข้างคู่กับลูกน้องเสมอ เพราะผมเชื่อว่าในอนาคตเราจะเติบใหญ่ขึ้น และโตกว่านี้ไปด้วยกันอย่างแน่นอน

แนวคิดการบริหารโรงแรมหลังผุดอาคารหรู
คุณทวีศักดิ์ เล่าว่า …เราสร้างอาคารใหม่โดยกลุ่มเป้าหมาย ผมมองว่าถนนแจ้งวัฒนะเป็นย่านคนรวย แต่จะพบว่าที่ถนนแห่งนี้ ไม่มีโรงแรมระดับที่ว่าเข้ามาแล้วประทับใจ สำหรับเรา ผลตอบรับคือลูกค้าค่อนข้างพอใจพร้อมสัมผัสลุคใหม่กับทีเค บนถนนแจ้งวัฒนะ ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ได้พักผ่อนควบคู่ไปกับการทำงาน ในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็น การประชุมหรือสัมมนา สามารถดำเนินธุรกิจ จนประสบความสำเร็จภายใต้สภาพแวดล้อมของสังคมไทย

ด้วยพื้นที่ใช้สอย และในอนาคต จะใช้นโยบายการสร้างความแตกต่างเรื่อยๆ …คัดเกรดลูกค้า และสร้างแรงจูงใจ รวมถึงงานดีไซน์ที่ถูกออกแบบตกแต่งมาอย่างดี อย่างล็อบบี้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจุดแข็งของโรงแรมทีเค ถามว่าเหนื่อยมั๊ย? กับการลงทุน ต้องยอมรับว่าเหนื่อย แต่ทุกวันนี้พอใจกับกระแสตอบรับของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อถึงจุดหนึ่งจะเลือกได้ว่า…จะรับลูกค้ากลุ่มไหน?

ปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายเป็นคนไทย 60% ที่เหลือ คือต่างชาติและแขกที่เป็นเอเย่นต์ คอร์เปอร์เรท ณ วันนี้ ธุรกิจโรงแรม สร้างรายได้ไม่ cover เงินกู้ มองแบบนักเศรษฐศาสตร์ที่มองสองทาง ทั้ง direct และ indirect ไดเรคคือ ทางตรง และอินไดเรค ที่จะมาจากรถไฟฟ้า ซึ่งจะเปิดทางให้ลูกค้าเข้ามา ….นี่คือเป้าหมาย”

คุณทวีศักดิ์ พันธุ์เสงี่ยม

ภายใน 3 ปี โรงแรมต้องขายตัวเอง 50% ขึ้นไป รายได้เดือนหนึ่งสุมมติ 30 ล้าน โรงแรมต้องขายตัวเองได้ 20 ล้าน นอกนั้นเซลล์ขาย ถ้าทำได้จะสบายในระยะยาว การที่เราจะบริหารจัดการไปได้ ต้องอยู่ที่สินค้าอย่างเดียวเท่านั้น เมื่อลูกค้าเข้ามาแล้วบอกต่อ วันนี้มีการพัฒนาเรื่องของอาหาร มี F&B ช่วย จะบริการเพียงห้องพักอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีประชุมสัมมนา จึงจะถึงเป้า 30 ล้านใน 3 ปีข้างหน้า

อย่าไรก็ดี ด้วยพื้นที่ใช้สอย ตระหง่านบนพื้นที่ 30ไร่ ริมถนนแจ้งวัฒนะ โรงแรมใช้พื้นที่เต็มจำนวนทั้งหมด โดยในปัจจุบัน ราคาซื้อขายกัน 500,000 บาท 10 ไร่ 2,000 ล้าน เลยหนี้ ในแต่ละวันแอคทีฟเก็บเงินได้
ทุกวัน ถือเป็นทรัพย์แอคทีฟ ทำให้มีมูลค่าทางธุรกิจสูงและทรัพย์สิน ซึ่งผมเป็นหนี้ 1,500 ล้านบาท จะผ่อนไป 3-40 ปีมั๊ย? สมกับความตั้งใจและโดยฝีมือของสถาปนิก ภายใต้แนวคิดที่ผสมผสานธรรมชาติ มนุษย์ ด้วยเหตุผลโรงแรมของเรามีพื้นที่จำนวนมาก ทำให้เรามีจุดแข็งที่จะแข่งขันกับโรงแรมในเมืองที่มีพื้นที่น้อย

ดังนั้น ในยุคนี้ งานบริการ มีความเปลี่ยนแปลงไปมาก ผมจะเน้นเรื่องเพื้นที่
สีเขียว สวนสวยเป็นเรื่องสำคัญ ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเริ่มเห็นภาพลักษณ์ใหม่ เริ่มตั้งแต่บริเวณทางเข้าด้านหน้าโรงแรม สีเขียวโดดเด่น ส่วนด้านใน Lobby โดยเฉพาะส่วนของคอฟฟี่ช็อปในปัจจุบัน ถูกปรับให้เป็นห้องอาหารหลักของโรงแรม ตกแต่งสไตล์รีสอร์ท พร้อมประดับตกแต่งสวนสวยสีเขียว มีระเบียงไม้สุดชิค และที่สำคัญ มีการผสมผสานกันระหว่างอาคารสมัยใหม่อย่างลงตัว

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญของธุรกิจโรงแรม ส่วนสำคัญที่สุด คือ งานบริการ ซึ่งนั่นหมายถึง บุคลากรของโรงแรม ซึ่งผู้บริหารโรงแรมทีเคฯ กล่าวถึงปัญหาและแนวทางการบริหารทรัพยากรบุคคลเช่นกัน คุณทวีศักดิ์ กล่าวว่า “วันนี้เหมือนกับการก้าวกระโดด โรงแรมเราไปถึง 5 ดาว แต่บุคลากรยังตามไม่ทัน ซึ่งในเวลานี้่ แม้กระทั่งเจ้าของยังตามไม่ทัน บางครั้งนอนตื่นมายังคิดว่าฝันไปรึเปล่า!

สิ่งที่ดีที่สุด คือเราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับบุคคลาการ ทุกสิ่งทุกอย่างเติบโตไปถึงจุดหนึ่ง แต่ถ้าบุคลากรของเรายังช้า ต้องมีการอบรมและพัฒนาการทำงาน การปรับตัวให้ทันยุคสมัย เพราะวัฒนธรรมของโรงแรมเราคือต้องการให้พนักงาน win win กับเราด้วย ทุกคนไม่ได้ทำงานเพราะเงินเดือนเพียงอย่างเดียว แต่พนักงานทุกท่านทำด้วยสปิริต ซึ่งโรงแรมมีการดูแลด้านสวัสดิการอย่างเต็มที่ มีงบห้าล้านเป็นสวัสดิการของพนักงาน อีกทั้งเงินเดือนจะพิจารณาปรับขึ้นตลอด เพราะเจ้าของไม่ได้หวังวันนี้ เจ้าของหวังอีกสามปี เพราะการไม่ได้หวัง พนักงานช่วยเต็มร้อย การทำงานในปัจจุบันมีไลน์กลุ่มกับลูกน้องทั้งหมด จะดูเสมอว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ผมได้ประสบการณ์มากมายจากการทำงานร่วมกับพนักงานตรงนี้ ได้มีโอกาสร่วมงานกับผู้ร่วมงานที่มีความหลากหลาย ได้ศึกษาคนและอารมณ์ของคน รวมไปถึงการฝึกคนหรือพนักงานบริการให้มีความอดทน รักในงานบริการ ยิ้มให้เพื่อนร่วมงาน และสนับสนุนให้พนักงานมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมให้น่าอยู่

ผู้บริหาร ทีเค พาเลซ กล่าวถึง แนวนโยบายด้านการตลาดว่า แนวทางการทำตลาดในลักษณะของไลฟ์สไตล์ที่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง การใช้ช่องทางการขายผ่านออนไลน์ ที่ผ่านมา ในเดือนมีนาคม เป็นช่วงที่พีคที่สุดถึง1,200 ห้อง/ไนท์ ซึ่งมาจากการปรับเรื่องข้อมูลออนไลน์และช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยตั้งเป้าไว้ที่ 1,500 รูมไนท์ ข้อดีของการขายออนไลน์คือขายห้องอย่างเดียวไม่ต้องกังวลถึงเรื่อง เบรกฟาสต์

โรงแรมตั้งมา 25 ปีแล้ว ผมทำงานตั้งแต่ปี 2 สมัยเรียน ม.เกษตร จนจบเศรษฐศาสตร์และจบ MBA ม.เกษตร เช่นกัน วัคซีนค่อนข้างแข็งแรง มีปัญหาเข้ามาก็พร้อมที่รับมือ

การทำงานทุกอย่าง หากเราทำด้วยใจก็จะทำให้การทำงานนั้นมีประสิทธิ์ภาพสูงสุด โดยเฉพาะงานด้านบริการจะต้องคำนึงถึงการเอาใจเขามาใส่ใจเรา เราจะต้องบริการลูกค้าอย่างที่เราคาดหวังว่าเราจะได้รับการบริการเช่นเดียวกัน….ทำธุรกิจอะไรก็ตามต้องต่อยอดไปได้หรือไม่ อยู่ที่การคิด การใช้สมอง และอย่าคิดระยะสั้น ต้องมองระยะยาวไม่ใช่การขายไปวันๆ ธุรกิจโรงแรมต้องเข้ามาคลุกคลีจึงจะเห็นปัญหา แต่เรากลับสนุกกับปัญหาได้อยู่กับลูกค้า ชินกันคุ้นเคยกันไปหมด อยู่กันแบบสบายๆ แต่ละเดือนวันนี้ลูกค้าอยู่ที่ 80 % ถือว่าถึงจุดที่โอเคแล้ว

“อยากบอกว่า ทั้งหมดนี้คือการเปลี่ยนแปลงที่ธุรกิจโรงแรมต้องปรับตัวอย่างมหาศาล เพื่อรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป”

ทุกวันนี้ เงินหายากไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อน พฤติกรรมต้องเปลี่ยนให้ทัน ต้องคิดว่าเทคโนโลยีเข้ามาแล้วจะแก้กับมันอย่างไร ไม่ใช่พอเทคโนโลยีเข้ามาแล้วบอกว่าตัวเองไม่เอาแล้วไม่ได้” คุณทวีศักดิ์ กล่าวท้ายสุด

สถานที่ : โรงแรม TK.Palace Hotel & Convention
ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพ
ที่อยู่: 54/7 ถนน แจ้งวัฒนะ แขวง ทุ่งสองห้อง เขต หลักสี่
กรุงเทพมหานคร 10210 โทรศัพท์: 02 574 1588

แผนที่คลิ๊ก
https://goo.gl/maps/8mCDCoZ7GZQgPzP5A


Familiarization Trip เปิดประตูเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ เชื่อมโยง๔มรดกโลก

ทกจ.เพชรบูรณ์ จัดทริป ดึงผู้ประกอบการไทย-ต่างชาติ เปิดประตูเส้นทางท่องเที่ยวใหม่เชื่อมโยง ๔ มรดกโลก

เส้นทางประวัติศาสตร์ อุทยานประวัติศาสตร์ อีกแห่งที่นักเรียน นักศึกษา นิยมมาลั๊นลากันอยู่บ่อยครั้งหลายคนอาจจะคุ้นหู และได้ยินคำว่า ‘มรดกโลก’ กันมาบ้างแล้ว ซึ่งมรดกโลกที่ว่านี้ อาจจะ
ไม่ได้หมายถึงแค่เมือง หรืออนุสาวรีย์เสมอไป มาตามรอยเมืองแห่งตำนาน ๔มรดกโลกเปิดประตูเส้นทางท่องเที่ยวใหม่เชื่อมโยง ๔ มรดกโลก

นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์

สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา  จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดกิจกรรม Familiarization Trip ดึงผู้ประกอบการไทย-ต่างชาติ เปิดประตูเส้นทางท่องเที่ยวใหม่เชื่อมโยง ๔ มรดกโลก อยุธยา ศรีเทพ สุโขทัย หลวงพระบาง พร้อมจัดสัมมนาทางวิชาการและเจรจาธุรกิจ เพื่อสร้างเครือข่าย  ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวทั้งจากในและต่างประเทศ และสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น

นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ดำเนินโครงการเปิดประตูเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง ๔ มรดกโลก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยวใหม่ให้กับภาคเหนือ และสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศให้รู้จักแหล่งท่องเที่ยวใหม่และสนใจการท่องเที่ยวในประเทศไทย และเป็นสื่อแนะนำผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวและนักลงทุน

โดยจัดกิจกรรม Familiarization Trip และสำรวจแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ รวมถึงสร้างเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น โดยใช้โอกาสด้านศักยภาพที่ตั้งที่สามารถเชื่อมโยงระหว่างภาคและเชื่อมโยงการพัฒนาตาม North-South Economic Corridor และ East-West Economic Corridor และประตูเชื่อมโยงชายแดนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ที่จังหวัดตาก และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่จังหวัดเลย

Familiarization Trip และสำรวจแหล่งท่องเที่ยวบนเส้นทางเชื่อมโยง ๔ มรดกโลก ที่ขึ้นชื่อว่า  เส้นทางดังกล่าวเป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยจะมีการสัมมนาทางวิชาการและเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมต่อยอดธุรกิจและสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวทั้งจากในและต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลบวกให้กับการท่องเที่ยวรวมทั้งเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม สร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย

Toptotravel ได้เดินทางไปสำรวจแหล่งท่องเที่ยวบนเส้นทางเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยว โดยเราเริ่มต้นจากกรุงเทพมหานคร มุ่งสู่แหล่งท่องเที่ยวทางมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็นสถานที่สำคัญที่บันทึกประวัติศาสตร์การดำรงชีวิตมากว่า 5,000 ปี จากนั้นใช้เส้นทางหลวงหมายเลข ๒๑ มุ่งสู่จังหวัดเพชรบูรณ์

ซึ่งมีอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ แหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ซึ่งคาดว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า ๑,๐๐๐ ปี และกำลังเสนอรายชื่อเป็น Tentative List เพื่อรับรองให้เป็นมรดกโลกในอนาคตของประเทศไทย จากนั้นเดินทางต่อผ่านเมืองเพชรบูรณ์ อำเภอหล่มสัก อำเภอหล่มเก่าของจังหวัดเพชรบูรณ์

ที่มีวัฒนธรรมไทหล่มที่มีความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยผ่านด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง จังหวัดเลย เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังเมืองแก่นท้าว แขวงไชยบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จากนั้นมุ่งสู่เมืองหลวงพระบาง แหล่งท่องเที่ยวทางมรดกโลกที่สำคัญ จากนั้นกลับเข้าสู่ประเทศไทยอีกครั้ง แล้วเดินทางมุ่งสู่แหล่งท่องเที่ยวมรดกโลก คือ อุทยานประวัติศาสตร์เมืองเก่าสุโขทัย และอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย เชื่อมโยงต่อไปยังจังหวัดตาก และออกจากประเทศไทยอีกครั้งที่ด่านแม่สอด ไปยังประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ และหลังจากนั้นเดินทางกลับเข้าสู่ประเทศไทยอีกครั้งจากด่านแม่สอด จังหวัดตาก มายังจังหวัดพิษณุโลก และกลับสู่กรุงเทพมหานคร

ขอคุณข้อมูลการเดินทาง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย Familiarization Trip
โครงการเปิดประตูเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง ๔ มรดกโลก
ครั้งที่ 1 วันที่ 8-12 มิ.ย. 2561
ครั้งที่ 2 วันที่ 29 มิ.ย. – 3 ก.ค. 2561