ไปเที่ยวใหม่ ให้ใจฉ่ำ บันทึกความทรงจำที่ชุมพร ล่องทะเลสุดฟินกินปูห้อยขาลั้นลาวิถีถิ่น

Toptotravel มีโอกาสได้มาท่องเที่ยวจังหวัดชุมพรอีกครั้ง ความงดงามบรรยากาศท้องทะเลกว้างไกลสุดสายตา พาให้เรารู้สึกโปร่ง โล่ง สบาย  ได้ย่ำเท้าบนชายหาดสีขาวนวล ท่ามกลางบรรยากาศที่ชวนให้ผ่อนคลาย ใครหลายคนจึงตกหลุมรักทะเลแบบหัวปักหัวปำ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เมื่อไหร่ ก็คิดถึงทะเลอยู่เสมอ อย่างที่จังหวัดชุมพร ประตูสู่ภาคใต้ เมืองที่หลายคนอาจมองผ่าน แต่เต็มไปด้วยความชื่นบาน จนอยากจะหยุดเวลาไว้นาน ๆ

               
โครงการ “Refresh life …by the way ไปเที่ยวใหม่ ให้ใจฉ่ำ” โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ชวนเดินทางไปสัมผัสกับบรรยากาศแห่งท้องทะเลอันกว้างใหญ่ ปักหมุดให้สุดชิลกันที่ อ.ปะทิว จ.ชุมพร เมืองเลียบทะเลชายฝั่งอ่าวไทย อันเป็นที่ตั้งของสนามบินชุมพร  เริ่มต้นกันที่ “บ้านเกาะเตียบ”เวิ้งหาดเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้กับแนวป่าโกงกางอันกว้างไกลสุดสายตา ที่อยู่อาศัยของกุ้ง หอย ปู ปลา ที่พร้อมเสิร์ฟตลอดทั้งปี

กินปูห้อยขา ลั้นลาที่บ้านเกาะเตียบ
“เกาะเตียบ” เป็นเกาะเล็ก ๆ บริเวณหน้าชายหาดบ้านเกาะเตียบ มองจากฝั่งที่มีภูเขาเป็นฉากหลัง จะสังเกตเห็นลักษณะคล้ายฝ่ามือ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนในหมู่บ้าน ชาวบ้านมีความเชื่อว่าเมื่อมาขอพรที่เกาะเตียบ หากสมหวังแล้วก็จะปีนขึ้นไปผูกผ้าแพรไว้บนเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ ท่ามกลางวิถีอันเรียบง่าย ที่นี่ยังได้ชื่อว่าเป็นแหล่งอาหารทะเลที่ขึ้นชื่อ กลุ่มคนรักการกินปูต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า “สดและคุ้ม”

สายรุ้ง สาธิตศานนท์ หนึ่งในผู้นำท่องเที่ยวชุมชนบ้านเกาะเตียบ เจ้าของกิจการ “สายรุ้งนำเที่ยว”

“สายรุ้ง สาธิตศานนท์”หนึ่งในผู้นำท่องเที่ยวชุมชนบ้านเกาะเตียบ เจ้าของกิจการ “สายรุ้งนำเที่ยว” เล่าให้ฟังว่า ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรที่บ้านเกาะเตียบ บริเวณอ่าวทุ่งมหา มาจากความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านในการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ โดยเฉพาะพันธุ์ปู ซึ่งชาวบ้านจะนำปูไข่นอกกระดองมาปล่อยให้ขยายพันธุ์ตามธรรมชาติ ประกอบกับแนวป่าชายเลนนับพันไร่ จึงเป็นระบบนิเวศที่เป็นมิตรกับการอยู่อาศัยของสัตว์น้ำ ทำให้บ้านเกาะเตียบมีกุ้ง หอย ปู ปลา ให้กินทั้งปี พร้อมนำเสนอไอเดีย “กินปูห้อยขา” เพื่อสร้างสีสันแปลกใหม่ให้กับนักท่องเที่ยว

จากชายหาดบ้านเกาะเตียบ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที เรือหางยาวพาเรามาถึงเกาะยอ เกาะเล็ก ๆ อันเป็นที่ตั้งของแพขนาดใหญ่ จุดเช็คอินกลางทะเลอันแสนสดชื่น ภายในแพมีการออกแบบโต๊ะกระจกใส และช่องสำหรับการนั่งหย่อนขาลงไป เพื่อให้มองเห็นน้ำทะเลด้านล่าง นักท่องเที่ยวที่ติดต่อเข้ามาล่วงหน้า สามารถจองแพ็กเกจ “กินปูห้อยขา” ที่เสิร์ฟทั้งปูม้า ปูทะเล และอาหารทะเลอีกหลายชนิดที่หาได้จากแหล่งธรรมชาติ รับประกันความสด ในรสชาติอร่อยเด็ด หลายคนร้องว้าวกับไข่ปูดำที่อัดแน่น ใครเห็นแล้วอยากตามไปชิม ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น

อิ่มท้องกันแล้วเดินข้ามสะพานไม้ไปชมวิวกันบนเกาะยอ  หรือจะเดินทางต่อออกไปดำน้ำดูปะการังที่เกาะร้านเป็ด และเกาะร้านไก่ ซึ่งอยู่ในละแวกใกล้เคียง นักท่องเที่ยวต่างบอกต่อกันว่า เป็นแนวปะการังที่มีดอกไม้ทะเลที่สวยงามอลังการแห่งหนึ่งของประเทศไทย หากวันไหนอากาศเป็นใจก็จะได้ชมฉลามวาฬยักษ์ที่อาศัยอยู่ในท้องทะเลชุมพรอีกด้วย

กิจกรรมกินปูห้อยขา เกาะยอ
เปิดทุกวัน เวลา8.00 -16.00 น.
สายรุ้งนำเที่ยว
โทร.0872769390
Facebook/กินปู ห้อยขา พาดูปะการัง กับสายรุ้งนำเที่ยว

เช็คอินวิวอลังการร้านต้นไม้ไอเดียเก๋
บริเวณชายฝั่งบ้านเกาะเตียบ มีบริการท่องเที่ยวของชุมชน ร้านค้า ร้านอาหาร
ตั้งอยู่อย่างกลมกลืนกับวิถีชุมชน ชายหาดแห่งนี้ยังเป็นที่นิยมของเหล่าแคมป์ปิ้ง หรือจะเลือกพักแบบโฮมสเตย์ ก็สามารถดื่มด่ำบรรยากาศอันแสนสดชื่นท่ามกลางความเงียบสงบ

ออกจากบ้านเกาะเตียบแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถแวะจุดชมวิวที่วัดแก้วประเสริฐ จะสามารถมองเห็นเวิ้งอ่าวทุ่งมหาได้แบบสุดลูกหูลูกตา การันตีความอุดมสมบูรณ์ด้วยภาพของป่าชายเลนสีเขียวที่ปกคลุมเป็นผืนกว้างหรือจะแวะที่
“ซุ้มทิพย์” ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าวัด เป็นร้านขายไม้ประดับสุดเก๋ นอกจากทำเลอันอลังการแล้ว เจ้าของยังมีไอเดียว่า คนที่มาซื้อต้นไม้จะต้องใช้เวลาในการคัดเลือกสินค้านาน จึงสร้างคาเฟ่ขนาดกะทัดรัด ให้ผู้ติดตามที่รอคอยได้โชว์ฝีมือชงเครื่องดื่มด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นชาหรือกาแฟ ก็คิดราคาเพียง 20 บาทเท่านั้น

ชื่นวิถีดีต่อใจ บ้านไม้ชายคลอง
ชุมพรเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะมาเยือนเมื่อไหร่ก็จะได้สัมผัสกับภาพบรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงไปน้อยมาก นั่นเป็นเพราะความเข้มแข็งของชุมชนที่ร่วมมือกันป้องป้องทรัพยากรธรรมชาติในบ้านของตัวเองเอาไว้ และวันนี้เราทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างบรรยากาศดี ๆ นี้ได้จะเป็นอย่างไรต้องลองแวะไปที่ “บ้านไม้ชายคลอง” ต.บางสน อ.ปะทิว จ.ชุมพร

สมโชค พันธุรัตน์ ประธานกลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชนคลองบางสน

“สมโชค พันธุรัตน์”ประธานกลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชนคลองบางสน เจ้าของ “บ้านไม้ชายคลอง โฮมสเตย์” เล่าว่า ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ นักท่องเที่ยวที่เข้ามาจะได้สัมผัสกับธรรมชาติริมคลองบางสน ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมดำน้ำ ตกหมึก ตกปลา พายเรือคายัค ล่องเรือไปหาหอย ไปชมหิ่งห้อย หรือออกไปชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่ปากอ่าว ได้ดื่มด่ำกับวิถีชุมชนอันเรียบง่าย กินอยู่แบบคนพื้นถิ่น แน่นอนว่าจะต้องได้ชิมเมนูอร่อย ๆ จากอาหารทะเลสด ๆ  รวมทั้งได้ร่วมลงมือทำอาหารหรือขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมจาก ที่ใช้วัสดุใกล้ตัวมาสร้างสีสันของวันพักผ่อน

จากความตั้งใจของชุมชนในการสร้างการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ธรรมชาติ จึงเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาได้เป็นหนึ่งของกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การอนุรักษ์พันธุ์ปูม้า  กิจกรรมปลูกป่าชายเลน ฯลฯ ถือเป็นการท่องเที่ยวเพื่อชุมชน เพื่อสังคม และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเจ้าของบ้านและนักท่องเที่ยว

บรรยากาศของบ้านไม้ชายคลองเต็มไปด้วยความสดชื่น ลานระเบียงกว้างขวางของที่พักเหมาะสำหรับการเลือกมุมเหมาะ ๆ นั่งพักสายตาไปกับสายน้ำและผืนป่าชายเลนตรงหน้า บริเวณชั้น 2 ของบ้านยังเปิดเป็น “บ้านไม้ชายคลองคาเฟ่” ในบรรยากาศสุดว้าว เหมาะกับการจิบเครื่องดื่มเพื่อความผ่อนคลาย ทางร้านใช้เมล็ดกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าที่ปลูกในจังหวัดชุมพรเบลนด์กับกาแฟอาราบิก้าของทางเชียงราย จนได้รสชาติของตนเองอีกทั้งยังสร้างสรรค์เมนูจากวัตถุดิบท้องถิ่น อาทิ กาแฟนมมะพร้าว มะม่วงหาวมะนาวโห่สมูทตี้ เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีสินค้าชุมชนวางจำหน่ายในร้านอีกด้วย

ชื่นกายชื่นใจ มาแล้วได้มากกว่าการพักผ่อน แต่หมายถึงการส่งต่อสิ่งดี ๆ ต่อสิ่งแวดล้อม ต่อชุมชน ให้เราได้มีธรรมชาติสวย ๆ ของกินอร่อยๆ พร้อมรอยยิ้มอันยืนยาวของทุกคน

บ้านไม้ชายคลอง โฮมสเตย์
โทร. 0807791650
Facebook /บ้านไม้ชายคลองโฮมสเตย์ 

ตามนายใหญ่เข้าสวนชวนเล่นหนาม
ในเขตอำเภอปะทิว จ.ชุมพร นอกจากวิถีชีวิตแบบชาวเลแล้ว ยังมีวิถีชาวสวนให้ตามไปชมกันอีกหลายจุด เพราะจังหวัดชุมพร เป็นหนึ่งในดินแดนแห่งผลไม้ หากสนใจเข้าไปเรียนรู้หรืออุดหนุนผลผลิต หนึ่งในสวนเกษตรที่น่าสนใจคือ “สวนนายใหญ่ คนเล่นหนาม” เห็นชื่อแล้วไม่ต้องตกใจ นายใหญ่ใจดี แถมหนามที่ว่า ยังนำมาซึ่งความอร่อยอีกด้วย

สุวัชช์ ขยายแย้ม” เจ้าของสวนนายใหญ่ คนเล่นหนาม เล่าวว่าที่นี่เป็นสวนเกษตรผสมผสานท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อยู่ห่างสนามบินชุมพรเพียง 2 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวที่รอขึ้นเครื่องจึงนิยมแวะเข้ามาเที่ยวชมและชิมผลผลิตทางการเกษตร ภายในพื้นที่ 10 ไร่ ปลูกพืชสวนผสมตามคอนเซ็ปต์ “คนเล่นหนาม” โดยจะเน้นต้นไม้ที่มีหนาม เช่น ทุเรียน และสละ รวมทั้งการปลูกพืชผักสวนครัว และการเลี้ยงผึ้ง นอกจากแวะเข้ามาซื้อหาผลไม้แล้ว ยังเปิดให้ทุกคนได้เรียนรู้วิถีเกษตร เช่น การผสมเกสรดอกสละ เนื่องจากสละเป็นพืชที่แยกเพศอย่างชัดเจน ต้นตัวผู้จะไม่มีลูก ส่วนต้นตัวเมียจำเป็นต้องรอเกสรจากตัวผู้มาผสมเพื่อออกผล เราจึงต้องนำเกสรตัวผู้มาผสมกับเกสรตัวเมีย หลังจากนั้นก็ติดป้ายบอกวันเวลาไว้ นับไปอีก 8 เดือนก็จะออกผลที่หอมหวานพร้อมรับประทาน หากสนใจผลสละจากการผสมเกสรของตัวเอง ก็สามารถสั่งจองไว้ได้

สุวัชช์ ขยายแย้ม เจ้าของสวนนายใหญ่ คนเล่นหนาม

“สุธารัตน์ ขยายแย้ม” ทายาทคนเล่นหนาม อธิบายเพิ่มเติมว่า หากนักท่องเที่ยวเข้ามาที่สวน จะพบผลผลิตตามฤดูกาล เช่น ทุเรียน และมังคุด ส่วนผลผลิตที่มีให้ชิมทั้งปีคือสละ ทั้งสละสด และสละลอยแก้ว รวมทั้งน้ำผึ้งเดือนห้า ซึ่งทางสวนจะทำบ้านพักผึ้งไว้ตามป่าชายเขาและริมคลอง เมื่อผึ้งมารวมตัวกันแล้ว ก็จะนำกลับมาเลี้ยงไว้ในสวน เลี้ยงด้วยเกสรสมุนไพรต่าง ๆ และจะเก็บน้ำผึ้งตอนเดือนห้าเท่านั้น

 นอกจากนั้นยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ  เช่น ปลาดุกร้าดองน้ำผึ้งเดือนห้าโดยการนำผลผลิตจากชุมชนมาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า รวมทั้งผลิตภัณฑ์ตะกร้าจักสาน ที่ชาวบ้านร่วมกับผลิตเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว

สวนนายใหญ่ คนเล่นหนาม
โทร.0937319587  , 0927726788
Facebook/สวนนายใหญ่ คนเล่นหนาม

ร่วมเก็บเกี่ยวความทรงจำดี ๆ กับวิถีของชาวชุมพรอันน่าชื่นชม ในโครงการ “Refresh life …by the way ไปเที่ยวใหม่ ให้ใจฉ่ำ” ชวนทุกคนออกเดินทางสร้างความสุขจากแหล่งท่องเที่ยวทั่วเมืองไทย ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอันแสนสดใส มีโอกาสเมื่อไหร่ ต้องชวนกลับไปให้หายคิดถึง

ร่วมเก็บเกี่ยวความทรงจำดี ๆ กับวิถีของชาวชุมพรอันน่าชื่นชม ในโครงการ “Refresh life …by the way ไปเที่ยวใหม่ ให้ใจฉ่ำ” โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ชวนทุกคนออกเดินทางสร้างความสุขจากแหล่งท่องเที่ยวทั่วเมืองไทย ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอันแสนสดใส มีโอกาสเมื่อไหร่ ต้องชวนกลับไปให้หายคิดถึง

ไปเที่ยวใหม่ ให้ใจฉ่ำ ดื่มด่ำวิถีระยอง ในมุมมองน่ารัก

สไลว์ไลฟ์ริมชายหาด  อัศจรรย์ป่าชายเลน เดินเล่นสวนไม้หอม

ความเร่งรีบกดดันในแต่ละวัน อาจทำให้คนเราสะสมความเครียดไว้โดยไม่รู้ตัว ทางออกที่ดีคือการได้หยุดพักผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ พาตัวเองออกไปพบเจอกับมุมมองที่โล่ง โปร่ง สบายตา พร้อมเติมเต็มแรงบันดาลใจจากผู้คนรอบข้าง อย่างที่จังหวัดระยอง แม้จะเป็นเมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ แต่ก็มีมุมสโลว์ไลฟ์ให้เลือกชิลอยู่หลายจุด ภายใต้บรรยากาศของท้องทะเลชายฝั่ง ที่ยังคงความเงียบสงบ

โครงการ Refresh life …by the wayไปเที่ยวใหม่ ให้ใจฉ่ำชวนออกเดินทางไปผ่อนคลายในมุมที่น่าชื่นตาชื่นใจ ในจังหวัดระยอง ขับรถออกจากตัวเมืองเพียง 5 กิโลเมตร ก็จะได้พักสายตาไปกับชายหาดที่ทอดยาว ไล่เรียงตั้งแต่หาดแหลมเจริญ หาดแสงจันทร์ ไปถึงหาดสุชาดา โดดเด่นด้วยโค้งเว้าของแนวกำแพงหินที่สร้างไว้เพื่อป้องกันการกัดเซาะของชายฝั่ง และทำให้การลงเล่นน้ำเป็นไปอย่างปลอดภัย เรียงรายด้วยที่พัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านจำหน่ายสินค้าชุมชน ผสมผสานเรื่องราวของวิถีชาวประมงชายฝั่ง ที่ยังคงดำเนินไปอย่างเรียบง่าย

หาด Coffee Truck เพียงแรกพบก็ตกหลุมรัก

                ประโยคที่ว่า “อยากไปนั่งโง่ ๆ ริมทะเล” แม้จะออกแนวประชดประชัน แต่สะท้อนภาพความผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี การได้นั่งเฉย ๆ สบาย ๆ ไม่ต้องคิดกังวลใด ๆ กลายเป็นเทรนด์ฮิตบนชายหาดแหลมเจริญ บรรดา Food Truck และ Coffee Truck พร้อมบูทจำหน่ายสินค้าและอาหารแบบดั้งเดิม เรียงรายไปตลอดทาง แต่ก็ทิ้งระยะห่างเพื่อสร้างพื้นที่ส่วนตัวให้ทุกคนได้สัมผัส

                ที่โดดเด่นมากในตอนนี้คือบรรดา Coffee Truck คาเฟ่เคลื่อนที่สไตล์มินิมอล ให้บริการกาแฟและเครื่องดื่มแบบต่าง ๆ มาพร้อมสไตล์ของตัวเอง เป็นสีสันใหม่ของการนั่งเล่นริมชายหาด นอกจากเมนูเด็ดของแต่ละร้านแล้ว การเลือกเก้าอี้ชายหาดเก๋ ๆ มาให้บริการฟรีสำหรับลูกค้า เป็นแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวและชาวระยอง เข้ามานั่งเล่นกันตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะกลุ่มเพื่อน ครอบครัว หรือจะฉายเดี่ยว ต่างก็นั่งหันหน้าทิ้งสายตาไปกับทะเลกว้าง นับเป็นบรรยากาศการพักผ่อนที่ดีต่อใจสุด ๆ

วิถีชาวเล กลุ่มประมงพื้นบ้านตำบลปากน้ำ

บริเวณชายหาดแหลมเจริญ เป็นที่ตั้งของชุมชนประมงพื้นบ้านชายฝั่ง ภาพที่ทุกคนจะได้เห็นคือเรื่องราวชีวิตชาวประมงที่ยังคงสืบสานวิถีชีวิตของชาวบ้านชายทะเลที่มีมาอย่างยาวนาน คนเฒ่าคนแก่ไปจนถึงลูกเด็กเล็กแดง ยังทำประมงพื้นบ้านแบบดั้งเดิม และเต็มไปด้วยเสน่ห์เรียบง่าย อบอุ่นใจเมื่อได้พบเจอ

“ส้ม-กุสุมา ชูทอง ทรัพย์ประเสริฐ”สมาชิกวิสาหกิจชุมชนวิสาหกิจชุมชนชายฝั่ง ต.ปากน้ำระยองเล่าให้ฟังว่า ชาวบ้านบริเวณนี้เป็นประมงเรือเล็กพื้นบ้านที่ผูกพันกับทะเลมานานในทุกวันสามีของเธอจะออกไปวางอวนทิ้งไว้ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันรุ่งขึ้นก็จะออกไปเก็บอวนกันตั้งเช้ามืด จากนั้นเธอและลูก ๆ ก็นำมาคัดเลือกด้วยความระมัดระวัง เพราะสิ่งที่ติดอวนมาจะค่อนข้างพัลวัน หากเส้นอวนขาดก็ต้องเสียเวลาซ่อม จึงต้องใช้เวลานาน สมาชิกในบ้านก็ต้องมาช่วยกันทั้งหมด

ผลผลิตที่ได้ก็คละ ๆ กันไป ทั้งปูดำ ปูม้า ปูแป้น หอย ปลา รวมทั้งขยะที่ติดมากับอวน จึงต้องใช้เวลาทำความสะอาดเป็นอย่างดี ก่อนจะนำไปวางในทะเลอีกครั้ง เป็นอยู่อย่างนี้ทุกวัน สนใจมาชมแนะนำว่าให้มาประมาณแปดโมงเช้า เพราะเป็นช่วงที่มีผลผลิตมาก หากต้องการซื้อก็สามารถติดต่อได้ทันที บางเจ้าก็นำไปส่งให้ร้านอาหาร บ้างก็ส่งตลาดในระยอง บางส่วนก็วางขายกันหน้าหาด ในราคาแบบชาวบ้าน และรับประกันความสด นอกจากนั้นยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปอื่น เช่น ปลาเค็ม ปลาแห้ง หมึกแดดเดียว ฯลฯ วางจำหน่ายริมสองข้างทางบริเวณหน้าหาด

ล่องเพลิน เดินชิล ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ

ระยองเป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์ที่จับต้องได้ไม่ยาก จากเอกลักษณ์ของตัวเมืองที่ติดทะเล โดดเด่นด้วยทรัพยากรอันสมบูรณ์ ชื่นตาชื่นใจจากความอลังการของผืนป่าชายเลนขนาดใหญ่ขนาด 500 ไร่ ครอบคลุม ต.ปากน้ำ และ ต.เนินพระ เป็นผืนป่าที่อยู่คู่เมืองระยองมาอย่างยาวนานประกอบด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ เช่น ต้นแสม โกงกาง เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำหลากชนิด จึงมีความหลากหลายทางชีวภาพ ที่สำคัญคือสวยงามมาก

ความอลังการของผืนป่ากว้างที่มองได้จากมุมสูง นอกจากการขึ้นหอชมวิวแล้ว สามารถเลือกที่พักริมชายหาดที่มองเห็นผืนป่าได้อย่างอลังการเช่น หาดแสงจันทร์ อันเป็นที่ตั้งของร้านอาหารและที่พักสวยหลายแห่ง รวมทั้ง “โรงแรมฟอร์จูน แสงจันทร์บีช ระยอง” ระเบียงของทุกห้องจะมองเห็นความอัศจรรย์ของสองฝั่ง ทั้งฝั่งชายทะเล และฝั่งของคลองที่ลัดเลาะเลียบแนวป่าชายเลน เป็นภาพประทับใจ ท่ามกลางการเข้าพักที่แสนสะดวกสบาย

นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือหรือเดินเล่นบนสะพานเลียบป่าชายเลนระยะทางยาวกว่า 7 กิโลเมตรเพื่อชื่นชมความงดงามของ “ป่าในเมือง” หรือทีเรียกกันว่า“ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ” ด้วยความโดดเด่นของเจดีย์ที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำ ล้อมด้วยป่าชายเลนท่ามกลางอากาศอันบริสุทธิ์สร้างขึ้นตั้งแต่งปี พ.ศ. 2416 เพื่อแสดงให้ผู้ที่เดินเรือรู้ว่ามาถึงระยองแล้ว สามารถเดินล่องเรือหรือขับรถเข้าไปชมได้อย่างสะดวก

กรุ่นกลิ่นกฤษณา กับช่วงเวลาแสนผ่อนคลาย               

เพราะกลิ่นเป็นส่วนประกอบหนึ่งของความผ่อนคลาย ในเส้นทางเที่ยวระยองครั้งนี้ จึงขอแนะนำแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่สอดแทรกความรู้เรื่องไม้กฤษณา พร้อมช่วงเวลาอันน่าประทับใจ ในพื้นที่ของ “มีสุข ฟาร์ม” (Mesook Farm)ต.กะเฉด อ.เมือง จ.ระยอง 

“พิกุล กิตติพล”ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรผลิตไม้กฤษณาเล่าว่าในพื้นที่กว่า 200 ไร่ เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อปลูกป่าเบญจพรรณ เช่น ไม้สักยางนา มะค่าโมง มะค่าแต้ รวมทั้งประดู่ กระถินณรงค์ และต้นไผ่กว่า 180  ชนิด นับเป็นแหล่งเรียนรู้การปลูกไม้กฤษณาอย่างครบวงจร ตั้งแต่การปลูกไปจนถึงการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ปัจจุบันมีการส่งออกไม้ น้ำมัน และผลิตภัณฑ์จากกฤษณา ไปกว่า 10 ประเทศ

มาแล้วต้องแวะร้านจำหน่ายสินค้า “บ้านมีสุข” มีผลิตภัณฑ์จากไม้กฤษณากว่า 40 ชนิด เช่นธูปปั้น ธูปหอม น้ำมันหอม น้ำหอมระงับกลิ่นกาย โลชั่น แชมพู เซรั่มโฟมล้างหน้า ฯลฯ นักท่องเที่ยวที่เข้ามาอุดหนุนสินค้า จะได้สัมผัสกับน้องหมาซามอยด์แห่งผืนป่ากฤษณาที่จะร่วมแอคท่าถ่ายรูปกับทุกคน

“มีสุข ฟาร์ม” ยังนำเสนอความสุขของการเข้าพักในสวนป่าที่รายล้อมบึงน้ำขนาดใหญ่  มีบริการทั้งที่พัก และร้านอาหาร “คาเฟ่ มีสุข” ให้บริการอาหารท้องถิ่นเมนูเพื่อสุขภาพที่ได้รับรางวัลเชฟชุมชน พร้อมเครื่องดื่มนานาชนิดพร้อมเมนูซิกเนเจอร์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันกฤษณาที่ให้ความหอมและผ่อนคลาย อาทิ กาแฟน้ำผึ้ง กฤษณามรกต กฤษณารัญจวน ฯลฯ อิ่มแล้วก็ไปพบกับฐานการเรียนรู้แนวแอดเวนเจอรอีก 14 ฐาน หรือจะออกไปพายเรือ เดินชมน้องควาย น้องแพะ จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับคนทุกวัย

               

ใครที่อยากเติมพลังรับพลังธรรมชาติตามศาสตร์ฮวงจุ้ย แนะนำได้เดิมข้าม“สะพานเปี่ยมสุข” และ “สะพานแขวน” ที่ได้รับการยืนยันจากปากของซินแสขาวสิงคโปร์ว่า สายลมที่พัดโชยในผืนป่ากว้าง พร้อมอากาศอันบริสุทธิ์ ถือเป็นแหล่งรับพลังที่ดีมาก

               

ออกไปผ่อนคลายในบรรยากาศอันน่าชื่นใจที่จังหวัดระยอง กับโครงการ “Refresh life …by the way ไปเที่ยวใหม่ ให้ใจฉ่ำ” ชวนท่องเที่ยวเมืองไทย ไปซบไหล่ธรรมชาติ รับพลังอันแสนบริสุทธิ์ พร้อมสนับสนุนแง่มุมดี ๆ ให้กับชุมชน ถือเป็นเส้นทางแห่งความสุขและการส่งต่อแรงบันดาลใจ เติมพลังจิตพลังใจก่อนที่จะกลับมาต่อสู่กับงานอีกครั้ง

วิสาหกิจชุมชนชายฝั่ง ต.ปากน้ำระยอง

กุสุมา ชูทอง

โทร.0824618933

(มีบริการปูนึ่งพร้อมน้ำจิ้ม-หากต้องการเนื้อปูแกะต้องสั่งล่วงหน้า)

ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ

เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน เวลา 06:00 – 18:00 น.

สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ 1  โทร. 038 020 070

ติดต่อเรือ โทร. 095225 7993 (เรือออกช่วงบ่าย ค่าบริการรอบละ 300 บาท นั่งได้ 6 ท่าน)

ททท.สำนักงานระยองโทร : 038 655 420

มีสุขฟาร์ม(ห่างจากตัวเมือง 42 กิโลเมตร)
เปิดบริการทุกวัน : 09.00 – 17.00 น.
โทร.0828987886

(กรุณาติดต่อล่วงหน้า สำหรับกิจกรรมฐานเรียนรู้ และการเข้าชมเป็นหมู่คณะ)

ไปเที่ยวใหม่ ให้ใจฉ่ำ รับพลังธรรมชาติ ที่ บ้านไร่ยายชะพลู

วิถีเกษตรปลอดภัย สุขกาย สุขใจ ในมุมมองใหม่ของมวกเหล็ก

เที่ยวหน้าฝน รับอากาศเย็น เห็นทะเลหมอก ตามแบบฉบับคนรักการท่องเที่ยว
สีเขียวเป็นสีที่มองเห็นแล้วสบายตา วันที่ผ่านการทำงานอย่างเหนื่อยล้าอยู่กับหน้าจอ เราจึงอยากพักสายตาเพื่อมองหาความเขียวขจีของต้นไม้ใบหญ้า ไม่ว่าจะอยู่ในกระถางเล็ก ๆ บนโต๊ะทำงาน หรือจะมองออกนอกหน้าต่าง แต่จะดีแค่ไหน หากได้เดินทางออกไปในที่โล่งกว้าง ผ่านถนนหนทางที่เต็มไปด้วยความเขียวขจี ได้ซึมซับรับพลังบวกท่ามกลางขุนเขา พื้นที่เที่ยวมีความกว้างใหญ่มาก อุดมไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์เหล่าต้นไม้ใบหญ้าได้ส่งพลังธรรมชาติเพื่อฟื้นฟูกายใจ ให้สดใสยิ่งกว่าเดิม

โครงการ “Refresh life …by the wayไป เที่ยวใหม่ ให้ใจฉ่ำ” โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ขอแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวรับพลังธรรมชาติท่ามกลางความเขียวขจี ในดินแดนที่แสนดีต่อใจ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ที่เที่ยวหน้าฝน ใกล้กรุงเทพ สัมผัสกับความกรีนแบบฉ่ำๆ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นภาพภูเขาเขียวชอุ่ม อากาศเย็นสบาย เต็มไปความเขียวขจีของภูเขาและต้นไม้ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นสีเขียวขจีของต้นไม้น้อยใหญ่

ที่นี่เครือขายเกษตรปลอดภัยรวมตัวอยู่กันเป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือ
“บ้านไร่ยายชะพลู” ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี มุมพักกายพักใจที่แสนอบอุ่น จากบรรยากาศอันแสนสงบ ด้วยสภาพอากาศอันบริสุทธิ์ ลมพัดโชยเย็นสบายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงปลายปี ที่จะมีอากาศหนาวเย็นยิ่งขึ้น

พักกาย พักใจ ในมุมผ่อนคลาย บ้านไร่ยายชะพลู

พักกาย พักใจ ในมุมผ่อนคลาย บ้านไร่ยายชะพลู
“บ้านไร่ยายชะพลู” เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรบนพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง 400 เมตรจากระดับน้ำทะเล  ภายในไร่มีการปลูกพืชผักสวนครัว สวนผลไม้ สวนสมุนไพร และไม้ดอกไม้ประดับ  อาทิ อะโวคาโด มัลเบอร์รี่ ฯลฯ ตามแนวทางของการทำการเกษตรอย่างปลอดภัย และเป็นหนึ่งในกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อการผลิตพืชผักผลไม้เพื่อความปลอดภัย (GAP)

นอกจากความโดดเด่นด้านธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์แล้วการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้ประกาศให้บ้านไร่ยายชะพลู เป็นหนึ่งในเส้นทาง Dark Sky Thailand เพื่อการท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ด้านดาราศาสตร์ (Astro Tourism) ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ซึ่งเป็นพื้นที่กว้างที่สามารถมองเห็นทิศเหนือ ทิศตะวันออกทิศ และทิศตะวันตกได้อย่างชัดเจน ประกอบกับสภาพท้องฟ้าที่มีคุณภาพในระดับที่ดีเหล่าสาวกดวงดาวหรือนักดาราศาสตร์ จึงมุ่งหน้าเข้ามาลงหลักปักเต้นท์กันอย่างไม่ขาดสาย รวมทั้งนักท่องเที่ยวสายแคมป์ปิ้ง ที่หลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองเพื่อมานอนนับดาวกันที่นี่ นอกจากนั้นยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกได้ในที่เดียวกันอีกด้วย

แพทย์หญิงวนิดา ศศิวิมลกุล เจ้าของบ้านไร่ยายชะพลู เล่าให้ฟังว่า เดิมทีคุณหมอวนิดา และคู่ชีวิต “นายแพทย์วิบูลย์ ศศิวิมลกุล”เป็นคุณหมออยู่ในกรุงเทพฯ จนถึงวัยเกษียณ เมื่อปี 2554 จึงมองหาพื้นที่สำหรับการพักผ่อนและการทำงานที่เรียบง่าย หลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองหลวง ออกจากสภาพการดำเนินชีวิตที่ส่งผลต่อความเครียดโดยไม่รู้ตัว เมื่อได้มาเจอที่นี่แล้วได้มองเห็นวิวโล่งกว้างท่ามกลางความเขียวขจี จึงรู้สึกผ่อนคลาย สบายทั้งกายและใจ

สำหรับ “บ้านไร่ยายชะพลู” ตั้งตามหลานยายที่มีเพียงคนเดียวในกลุ่มหลาน 7 คน สื่อความหมายเป็นบ้านไร่ที่คุณยายสร้างขึ้น และคุณยายมีหลานยายชื่อ “ชะพลู” เพื่อแสดงถึงความรักความผูกพัน และความตั้งใจที่จะส่งเสริมให้เด็ก ๆ เกิดความรักธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ซึ่งตรงกับแนวคิดที่ว่า อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสกับธรรมชาติที่รายล้อมรอบตัวอย่างแท้จริง เนื่องจากสภาพพื้นที่บริเวณ ต.หนองย่างเสือ มีเนินเขาสลับซับซ้อน เต็มไปด้วยความเขียวขจีและอากาศอันบริสุทธิ์

นายแพทย์วิบูลย์ ศศิวิมลกุล และ แพทย์หญิงวนิดา ศศิวิมลกุล

“จุดเริ่มต้นเมือ 10 ปีก่อน เนื่องจากบริเวณนี้เป็นที่ดินเพื่อการเกษตร เราจึงเริ่มเข้ามาปลูกผัก ผลไม้ และร่วมก่อตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนจากการรวมตัวของเกษตรกรในพื้นที่ ส่วนใครอยากปลูกอะไรก็ได้ แต่ต้องอยู่ในแนวทางของเกษตรปลอดภัย เน้นใช้ปุ๋ยธรรมชาติ เพื่อสร้างอาหารจากธรรมชาติเพื่อการบริโภคและจำหน่ายผลผลิตที่ปลอดภัยส่งต่อให้ลูกค้า”คุณหมอวนิดา กล่าว

เริ่มต้นเที่ยวพักผ่อนที่ บ้านไร่ยายชะพลู จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบธรรมชาติ และรักความสงบ ทางไร่มีลานกางเต้นท์ให้บริการ หรือจะนำเต้นท์มาตั้งแค้มป์เองได้ บริเวณลานกางเต้นท์มีบริการปลั๊กไฟ มีห้องน้ำที่สะอาดสะอ้านเป็นสัดส่วน

นอกจากนั้นบ้านไร่ยายชะพลู ยังให้บริการห้องพักท่ามกลางธรรมชาติ เป็นบ้านเดี่ยวสำหรับ 2-6 ท่าน จำนวน 2 หลัง ซึ่งแต่ละหลังมีลานระเบียงพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ห้องน้ำ เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น ไมโครเวฟ อ่างล้างจาน อุปกรณ์สำหรับรับประทานอาหาร ฯลฯ และยังมีบ้านแคปซูล 5 หลัง พักได้ 2 ท่านต่อหลัง (ไม่มีส่วนครัว) แอบอิงอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบวิวแบบมินิมอลแต่ให้ภาพสวยหลักล้าน

“แม้จะอยู่ใกล้เมือง ด้วยความห่างจากถนนใหญ่เพียง 500 เมตร แต่สถานที่แห่งนี้มีสภาพเหมือนเข้ามาอยู่ในป่า เพราะฉะนั้นการดูแลเรื่องอาหาร คงต้องใช้เวลา หากท่านประสงค์ให้เราบริการเรื่องอาหารก็ต้องแจ้งล่วงหน้า” คุณหมอวนิดากล่าว

นอกจากบรรยากาศแสนดี พร้อมที่พักวิวสุดแจ่มแล้ว บ้านไร่ยายชะพลูยังมีร้านกาแฟสด พร้อมจุดเช็คอินเพื่อชมวิวท่ามกลางหุบเขา หากวันไหนอากาศเปิดสามารถมองเห็นเขื่อนป่าสักได้อย่างชัดเจน ให้บริการกาแฟสดที่คั่วบดใหม่ ที่เป็นไฮไลต์คือผลผลิตจากการเกษตร อย่าง นมสดมัลเบอร์รี่ ที่ทุกคนห้ามพลาด

รังสรรค์ผลผลิตเกษตรปลอดภัย ไปสู่เมนูสุขภาพสุดเก๋

สุกัลยา ไชยเชาวน์ หรือ “คุณยิ้ม” เจ้าของไร่สอาดจิตร

กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อการผลิตพืชผักผลไม้เพื่อความปลอดภัย (GAP)
ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก มีสมาชิก 10 ราย ก่อตั้งมาแล้ว 8 ปี โดยมี “นายแพทย์วิบูลย์ ศศิวิมลกุล”เป็นประธาน สมาชิกแต่ละรายเป็นเกษตรกรผู้ปลูกผัก ผลไม้ และปศุสัตว์ อาทิ ทุเรียน หม่อน (มัลเบอร์รี่) อะโวคาโด มะม่วง น้อยหน่า การเลี้ยงแพะ ฯลฯ   นอกจากการรวมตัวในการทำเกษตรอย่างปลอดภัยแล้ว ยังมีการพัฒนาไปสู่การแปรรูป และการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตอีกด้วย

นายแพทย์วิบูลย์ ศศิวิมลกุล ประธานสมาชิกเกษตรกร
มัลเบอร์รี่อัญชัน

หนึ่งในนั้นคือ “นางสาวสุกัลยา ไชยเชาวน์” หรือ “คุณยิ้ม” เจ้าของไร่สอาดจิตร ที่ได้ต่อยอดผลผลิตทางการเกษตร มาสู่แบรนด์ “มียิ้ม” ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากมัลเบอร์รี่ ที่อุดมไปด้วยอุดมไปด้วยวิตามินซี ธาตุเหล็ก วิตามินเค 1 วิตามินอี และโพแทสเซียม โดยได้แปรรูปเป็น แยม ท้อปปิ้ง น้ำสลัดมัลเบอร์รี่ มัลเบอร์รี่ทูอินวัน ฯลฯ  ปัจจุบันวางจำหน่ายที่ร้านกาแฟ บ้านไร่ยายชะพลู และร้านข้าวโพดหวานไร่สุวรรณ รวมทั้งรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่

หากนักท่องเที่ยวนัดหมายล่วงหน้า ก็จะได้ลิ้มลองความสด สะอาด ปลอดภัย พร้อมเมนูอร่อย ๆ จากเกษตรกรในพื้นที่ เช่นเดียวกับวันนี้ ทางคุณยิ้มได้นำผลผลิตมาเสิร์ฟที่บ้านไร่ยายชะพลู ให้ทุกคนได้ร้องว้าวกับเมนูสุขภาพที่อร่อยเกินคาด

เรียกน้ำย่อยด้วย “มัลเบอร์รี่อัญชัน” เครื่องดื่มลูกผสมสีสันสดใส รสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดี ดื่มแล้วชื่นใจ ตามมาด้วย “สลัดผักกับน้ำสลัดมัลเบอร์รี่” ชิมแล้วต้องบอกว่ากระปุกนี้ต้องมีติดบ้าน วันนี้ได้ผักสด ๆ เป็นผักปลอดสารพิษจากเกษตรกรในพื้นที่ พร้อมด้วยผลมัลเบอร์รี่สดและอะโวคาโด ยิ่งทำให้สลัดชามนี้พิเศษยิ่งขึ้น โดยน้ำสลัดมัลเบอร์รี่แบรนด์ “มียิ้ม” เป็นน้ำสลัดที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำส้มสายชู แต่จะใช้มัลเบอร์รี่สีแดงที่ให้ความเปรี้ยวแทน สีของน้ำสลัดจึงเป็นสีชมพู มี 2 สูตร คือ สูตรผสมพริกไทย และสูตรไม่ผสมพริกไทย รสชาติไม่หวานมาก เปรี้ยวกำลังดี

เส้นหมี่หมูตุ๋นใบหม่อน
เส้นหมี่หมูตุ๋นใบหม่อน

มาถึงเมนูหลักในวันนี้ “เส้นหมี่หมูตุ๋นใบหม่อน” ใช้ยอดใบหม่อน หรือ ใบของต้นมัลเบอร์รี่มาต้มสุกแทนถั่วงอก รสชาติหวานมัน น้ำซุปหอมเข้มข้นด้วยสมุนไพร  ใช้กระเทียมและกระชายเป็นส่วนผสม เคี่ยวหมูตุ๋น 4 ชั่วโมงจนเปื่อย เพิ่มความหอมด้วยโหระพาซอยละเอียด กินกับน้ำจิ้มสูตรของทางไร่ เน้นรสเผ็ดเปรี้ยว ซึ่งผักต่าง ๆ มาจากพืชสวนครัวที่ปลูกเองในเส้นทางเกษตรปลอดภัย อร่อยและมั่นใจได้ ส่วนที่ใช้เส้นหมี่ เพราะเป็นเส้นที่มีอยู่คู่ครัว เกษตรกรสามารถซื้อติดบ้านไว้ใช้ได้ตลอดเวลา

“มักกะโรนีซอสมัลเบอร์รี่
สลัดผักกับน้ำสลัดมัลเบอร์รี่

              

มัลเบอร์รี่ชีสพาย

อีกเมนูที่อยู่ในขั้นตอนการสร้างสรรค์ คือ “มักกะโรนีซอสมัลเบอร์รี่”โดยใช้ตัวซอสที่ผลิตจากมัลเบอร์รี่ เกิดเป็นรสชาติใหม่อันเป็นเอกลักษณ์ ปิดท้ายกันที่ของหวาน“มัลเบอร์รี่ชีสพาย” ดูเผิน ๆ เหมือนบลูเบอร์รี่ชีสพาย แต่ใช้มัลเบอร์รี่เป็นท้อปปิ้งแทน ด้านล่างเป็นแคร็กเกอร์ผสมเนย ชั้นที่สองเป็นครีมชีส ส่วนชั้นบนสุดจะก็คือมัลเบอร์รี่ชีสที่เก็บจากสวน

นอกจากจากมัลเบอร์รี่แล้วยังมี “น้อยหน่าฝ้ายเกษตร” ที่ปลูกในไร่ตามหลักการเกษตรปลอดภัย ให้ชิมกันอีกด้วยนับเป็นช่วงเวลาแสนอร่อยและอบอุ่นใจ ได้เห็นผลผลิตจากสวนที่ปลอดภัยต่อร่างกาย แปลงร่างมาเป็นเมนูที่เป็นทั้งอาหารตาและอาหารใจ ด้วยรสชาติที่ถูกปากถูกใจ กินไปยิ้มไป เสมือนชื่อแบรนด์เลยจริง ๆ

อ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก
อ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก

รับพลังแห่งธรรมชาติที่อ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก ไม่ไกลจากบ้านไร่ยายชะพลู ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้แวะชมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไร่องุ่น สวนผลไม้ สวนดอกไม้ หรือน้ำตก และที่สดใหม่ไม่อยากให้พลาด คือ “อ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก”ที่สามารถขับรถออกจากบ้านไร่ยายชะพลูได้ในระเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้นอ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก ตั้งอยู่ที่ ต.คำพราน อ.วังม่วง จ.สระบุรี มีลักษณะเป็นเขื่อนดิน กว้าง 9 เมตร สูง 44 เมตร ยาว 1,157 เมตร สามารถเก็บกักน้ำได้ราว 61 ล้านลูกบาศก์เมตร ครอบคลุมพื้นที่ชลประทานกว่า 25,500 ไร่ ใช้เป็นแหล่งน้ำสำหรับการผลิตน้ำประปา และส่งให้พื้นที่ชลประทานอีก เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในการทำการเกษตร

ความสวยงามของอ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก มาจากสภาพพื้นที่โล่งท่ามกลางผืนป่าและผืนน้ำกว้างใหญ่ มีภูเขาน้อยใหญ่เป็นฉากหลัง ถนนรอบอ่างเก็บน้ำมีความคดเคี้ยวเป็นระยะทางยาว ถือเป็นจุดชมวิวที่เงียบสงบ เพียงได้มายืนนิ่ง ๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ก็ได้รับพลังบวกให้กับวันพักผ่อนอย่างสดชื่นในทุกเวลา โดยเฉพาะยามเย็นที่แห่งนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกอันงดงาม หลายคนหลงรักจนต้องมาซ้ำเมื่อมีโอกาส ท้องฟ้าหลังฝนตกยังสวยอย่าบอกใคร

กดปุ่มรีเฟรชเติมความสดใส กับโครงการ “Refresh life …by the wayไปเที่ยวใหม่ ให้ใจฉ่ำ”ชวนทุกคนออกไปเดินทางท่องเที่ยวกันอีกครั้ง เติมพลังทั้งกายและใจ เพราะเมืองไทยยังมีหลากเรื่องราวให้เราไปค้นหา หลายมุมมองให้เราได้ค้นพบการพักผ่อนในช่วงเวลาอันแสนพิเศษ

บ้านไร่ยายชะพลู (กรุณาติดต่อล่วงหน้า)
บ้านหนองมะกรูด ตำบล หนองย่างเสือ อำเภอมวกเหล็ก สระบุรี
Facebook/บ้านไร่ยายชะพลู โทร. 081443 4016

ผลิตภัณฑ์จากไร่สอาดจิตร แบรนด์ “มียิ้ม”
โทร.0915621987 (คุณยิ้ม)

ติดตามชมเส้นทางท่องเที่ยว Refresh life …by the way
ท่องเที่ยวใหม่ ให้ใจฉ่ำ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ได้ที่ YouTube : https://youtu.be/xlnOuzFrf-Y

Refresh life …by the way
ท่องเที่ยวใหม่ ให้ใจฉ่ำ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี

สูตรเด็ดอาหารเหนือ เฮือนแม่ญิ๋ง เขาใหญ่ by ควีนส์ออฟเบเกอรี่

รับประทานอาหารเหนือแท้ๆ ที่เขาใหญ่ ร้านเฮือนแม่หญิ๋ง เขาใหญ่สวัสดีคะ วันนี้ Toptotravel มาพบกับร้านอาหารเหนือ น่าลอง ในเขาใหญ่ด้วยกัน และช่วงนี้ใครหาร้านอาหารเหนือแท้ เฮือนแม่ญิ๋ง เขาใหญ่ ร้านอาหารเหนือ โลเคชั่นดีตั้งอยู่ทางขึ้นเขาใหญ่ ที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนไปลองอาหารเหนือแบบรสชาติต้นตำรับรสชาติแบบฉบับคนพื้นเมืองแท้ๆ ที่มีเอกลักษณ์ถึงเครื่องรับรองว่าลำแต้ๆ อย่างแน่นอน และไม่เพียงแต่ เมนูอาหารเหนือแบบต้นตำรับเท่านั้น
ที่เฮือนเฮือนแม่ญิ๋ง ยังสร้างสรรค์เมนูอาหารเหนือแบบฟิวชั่นที่มีการผสมผสานระหว่างวัตถุดิบและวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว ที่สำคัญทางร้านมีเมนูแนะนำให้เลือกมากมายและหลากหลาย อาทิเช่น ทางร้านมีเมนูแนะนำให้ เลือกมากมายและหลากหลายไม่ว่าจะ ชุดออร์เดิฟเหนือ ลาบคั่ว น้ำเงี้ยวหมู แกงฮังเล ข้าวซอยไก่/เนื้อ หมูเส้นทอดเกลือ หมูยอลวกจิ้ม แกงโฮ๊ะ

นอกจากเมนูอาหารที่จัดเต็มแล้วบรรยากาศยังร่มรื่นและสบายตาเพราะถูกโอบล้อมไปด้วยความเขียวขจีของต้นไม้นานาชนิด แถมโซนที่นั่งโล่งโปร่งสบาย แนะนำเลยว่ามาเที่ยวเขาใหญ่ครั้งต่อไป ใครอยากลองอาหารเหนือต้องมาเยือนที่ เฮือนแม่ญิ๋ง เขาใหญ่ ถึงเวลาลิ้มรสชาติแต่ละจานแบบจัดเต็มกันแล้ว บอกเลยว่าเลือกไม่ถูกจริงๆ

แนะนำ ‘ข้าวซอยเนื้อ’ น้ำเข้มข้น เนื้อนุ่ม เส้นเหนียวนุ่มแถมให้มาเยอะมาก กินคู่กับผักกาดดองไม่เปรี้ยวมาก ช่วยตัดเลี่ยนได้ดี

ร้านอาหารเหนือบรรยากาศชิลๆ เจ้าของร้าน คุณนพลักษณ์ ทัศน์ธนาวัฒน์ ผู้บริหาร เฮือนแม่ญิ๋ง เขาใหญ่ by ควีนส์ออฟเบเกอรี่……..


กว่าจะมาเป็น ฮือนแม่ญิ๋ง เขาใหญ่ ที่มาของการเปิดร้านอาหารเหนือ ต้นตำรับ ทางร้านรังสรรค์เมนูอาหารเหนือจากมรดกตกทอดก้นครัว อาหารพื้นเมืองสูตรโบราณ ด้วยคอนเซ็ปต์อาหารแบบบ้านบ้าน บริการแบบเมืองเมือง
บทบาทของการเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหารเหนือรสชาติแบบดั้งเดิม ในบรรยากาศร้านแบบสบายๆ สไตล์พื้นบ้านล้านนา ในจังหวัดนครราชสีมา เพราะเราเป็นคนเหนือและในช่วงที่มาอยู่เขาใหญ่ใหม่ๆ เมื่อยี่สิบปีก่อน เคยเสริฟด้วยอาหารเหนือ อย่าง ข้าวซอย ขนมจีน อาหารเหนือ ปรากฎว่าได้รับการตอบรับดีมาก สามารถมาขยายกิจการได้ เพราะอาหารเหนือ ด้วยความเป็นคนเหนือของเรา และอยากให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเขาใหญ่ได้ลิ้มรสชาติของอาหารเหนือแท้ๆ โดยที่ไม่ต้องไปถึงเชียงใหม่คุณแม่ เป็นคนลำปาง แต่พี่ไปอยู่เชียงราย และมาอยู่เขาใหญ่ สำหรับที่เขาใหญ่ ความตั้งใจเดิมคือต้องการมาหาบ้านหลังเล็กๆ ที่นี่ เพราะไม่ค่อยสบาย ตอนนั้นเริ่มมีปัญหาเรื่องสุขภาพ เผอิญว่าเราเห็นแล้วว่าเมื่อมาอยู่ที่นี่ เลือกทำธุรกิจอะไรสักอย่าง ถึงแม้เชียงรายตอนนั้นอากาศดีแต่ครอบครัวอยู่กรุงเทพฯ พี่ก็ต้องมาอยู่เขาใหญ่ เพราะเหนือไกล ตอนนั้นเลยคิดว่าเปิดร้านอาหารเหนือเล็กๆ เสริฟให้ลูกค้า ชื่อร้าน อิน เขาใหญ่ เป็นร้านกาแฟเล็กๆ แต่มีเสริฟอาหารเหนือร่วมด้วย

ทั้งความคิดที่อยากลาออกจากงานประจำ แล้วหันมาทำอาชีพที่หล่อเลี้ยงคนในครอบครัว เมื่อก่อนพี่เคยทำงานเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่กรุงเทพฯ แล้วลาออกมา ทำธุรกิจครอบครัวเป็นสิ่งพิมพ์โฆษณา พอทำงานไปอยากพักผ่อน เลยมามองหาพื้นที่ในเขาใหญ่ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ จากอินเขาใหญ่ เปิดอยู่ 5-6 ปี ก็มีบ้านพักและรีสอร์ท เป็นโฮมสเตย์ ชื่ออิน เขาใหญ่ พอดีเราอยากให้มีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวมีอาหารเสริฟ เมื่อทำโรงแรมเซเว่นวิลล่าเขาใหญ่

ควีนส์ออฟเบเกอรี่ เป็นร้านเบเกอรี่ที่เราผลิตเอง มีโรงงานเล็กๆ เพื่อเสริฟลูกค้าและส่งตามร้านต่างๆ ที่เขาไม่ได้ทำเบเกอรี่เอง โดยเป็นเบเกอร์รี่แบบพรีเมี่ยม ส่วนอาหารเหนือเพิ่งย้อนอดีตกลับมาเสริฟที่ควีนส์ออฟเบเกอรี่ ประมาณสองเดือนมานี้ หลังจากที่เคยเปิดมาเมื่อยี่สิบปีก่อน โดยรสชาติของอาหารเหนือที่เสริฟนั้น ต้องบอกว่า อาหารเหนือจริงๆ จะผสมผสานกัน อย่างรสชาติข้าวซอย
ซึ่งต้องถือว่าข้าวซอยเชียงใหม่อร่อย แต่ถ้าน้ำเงี้ยวก็ต้องเชียงราย ก็ผสมผสานกันไป เพราะเป็นอาหารผสมผสานของไทยสิบสองปันนา ไทยลื้อ ไทเขิน ที่มาจากแม่น้ำเหลือง จากไทยเชียงตุง ของลาวบ้าน ก็มาผสมผสานกัน รสชาติจะเข้มข้นแต่หอมกรุ่นด้วยสมุนไพรตอนนี้เชียงรายจะมีที่บ้านพักเท่านั้น ส่วนที่เขาใหญ่ปัจจุบัน ก็มีเฮือนแม่ญิ๋งซึ่งอยู่ที่เดียวกันในควีนส์ออฟเบเกอรี่

วิกฤตโควิด ไม่เคยปิดร้าน จริงๆ แล้ว ตั้งแต่มีโควิด เข้ามา ทางควีนส์ออฟเบเกอรี่ไม่เคยปิดร้าน ในช่วงโควิด -19 เราจะเซฟพนักงานโดยกักตัวในบริเวณบ้านพักของเรา เราจะมีการนำเข้าของวัตถุดิบ จึงไม่มีการพบปะผู้คนโอกาสเสี่ยงก็จะน้อยทุกวันจะมีการทำเบเกอรี่ตลอดเวลา เพราะไม่เพียงแต่จำหน่ายเบเกอรี่เท่านั้น แต่เรายังดูแลสังคมด้วย โดยนำเบเกอรี่เสริฟยังกลุ่มคนต่างๆ ทั้งคุณหมอ สาธารณสุข ทั้งจุดศูนย์วัคซีน มีการส่งอาหารและขนมไปยังหน่วยอาสาฯ ต่างๆ รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ด้วย ผ่านทาง ฟู้ด ฟอร์ ไฟล์ทเตอร์

ความคิดเห็นหลังจากเขาใหญ่ ได้รับโปรโมทให้เป็น จุดหมายปลายทางด้าน นวัตกรรม เวลเนส ยกระดับเป็นเมืองสุขภาพ พลิกฟื้นเศรษฐกิจ
ผู้บริหาร เฮือนแม่ญิ๋ง เขาใหญ่ กล่าวว่า “เป็นไปได้ และถ้าเกิดขึ้นแล้วจะดีมาก จะทำให้เขาใหญ่ มีทั้งเฮลทตี้ ทั้งคุณภาพชีวิต ถือว่าเทรนด์ที่มาแรงมากในช่วงโควิดระบาด ซึ่งจังหวัดนครราชสีมา มีความพร้อมที่จะเปิดตัวเป็น “เมืองสุขภาพ”
และทุกภาคส่วนในจังหวัด เป็นเหมือนสโลว์ไลฟ์ผู้ประกอบการกะมีเป้าหมายที่ชัดเจน ผู้ใช้บริการหรือนักท่องเที่ยวก็จะรู้เป้าหมายของตัวเองว่ามาที่นี่แล้วจะได้พบกับอะไรcเช่น อากาศดีดี อาหารปลอดภัย สปาหรือการท่องเที่ยวเดินป่าต่างๆ หรือสวนผัก ผลไม้ ที่เป็นออร์แกนิกส์ และก็ได้แวะมาทานอาหารเหนืออร่อยๆ ใครกำลังแพลนไปเที่ยวเขาใหญ่ต้องไปลอง

การเดินทางมา เฮือนแม่ญิ๋ง เขาใหญ่ by ควีนส์ออฟเบเกอรี่ ในวันนี้ Toptotravel รู้สึกดีมากๆ ที่ได้เห็นความตั้งใจ ของคุณนพลักษณ์ ทัศน์ธนาวัฒน์ในการรังสรรค์แต่ละเมนู รวมถึงมีอีกหลายอย่างที่ทำเองกับมือร่วมกับเชฟนี่แหละร้านที่อยากให้ทุกคนมา รับรองว่าถ้าได้มาสัมผัสบรรยากาศสไตล์โฮมมี่ที่นี่แล้ว คุณคงอยากนั่งนานๆ แทบไม่อยากกลับอย่างแน่นอน

Queen of Bakery at Khaoyai
72 Moo 4 Thanarat Road, Moo-si อำเภอปากช่อง นครราชสีมา 30130
พิกัด: ติดถนนธนะรัชต์ กม.ที่18 ตรงข้ามร้านอาหาร Roma
☎062-545-2354

https://www.facebook.com/pages/category/Bakery/Queen-of-Bakery-At-Khao-Yai-109506723965261/

วน!! อัพเดท Special Trip ผู้บริหาร True World Travel ชวนท่องเมืองมรดกโลก “เกาะเจจู” ตลอดสิงหาคมนี้ เอาใจชาวไทยสุดๆ

ทำไม!! ต้องไปเยือนเกาะเจจู ภายใต้การเดินทางกับบริษัท True World Travel วินาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักบริษัท True World Travel บริษัทเดียวที่ได้รับการความร่วมมือและการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาะเจจู โดยมีสายการบิน JEJU Air ที่บินตรงจากกรุงเทพฯ สู่ เกาะเจจู สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการเดินทางไปสัมผัสกับประสบการณ์สุดคูล ดินแดนมรดกโลก ที่เกาะเจจู เที่ยวบินเหมาลำเพียงบริษัทเดียวในเมืองไทย

https://www.youtube.com/watch?v=O128vW03qb0

ล่าสุด หลังสถานการณ์โควิด -19 ทางเกาะเจจูเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างคึกคัก โดยเฉพาะตลอดเดือนสิงหาคมนี้ สิทธิพิเศษสำหรับคนไทยมีอะไรบ้าง ผู้บริหาร True World Travel มาเล่าให้เราฟัง ….
คุณพธู ณ สงขลา ผู้บริหาร True World Travel โดยกล่าวถึง ความพิเศษนี้ว่า Summer นี้เดินทางหนีร้อนไปเที่ยวเกาะเจจูดินแดนมรดกโลกแห่งเกาหลีใต้กันดีกว่าคะ เพราะไปง่ายเข้าง่าย เอกสารไม่ยุ่งยาก เพราะเจจู เป็นที่เดียวในเกาหลีใต้ที่ไม่ต้องใช้ K-ETA บินตรงสู่เกาะโดยไม่ต้องใช้ K-ETA และเดือนสิงหาคมนี้จะเปิดเดินทางตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม นี้เป็นต้นไป บินทุกวัน พร้อมมีแพคเกจให้เลือกถึง 3 แพคเกจ

  1. โกลด์แพคเกจ บินตรงท่องเที่ยวเกาะเจจู 4 วัน 2 คืน
  2. สเปเชียลแพคเกจ บินตรงท่องเที่ยวเกาะเจจู 5 วัน 3 คืน
  3. เอกซ์เพรสแพคเกจ บินตรงท่องเที่ยวเกาะเจจู 3 วัน 1 คืน
    “เที่ยวเกาะเจจูราคาเริ่มต้นเพียง 10,999 บาท ถือว่าคุ้มค่าสุดๆ และแค่นี้ยังไม่พอใครที่เที่ยวเกาะเจจูในเดือนสิงหาคมนี้ยังได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมอีกมากมาย นั่นคือ 1. จะได้รับสิทธิตรวจโควิดที่เกาะเจจูมูลค่า 80,000 วอน ฟรี
  4. หากติดโควิดก่อนเดินทางได้สิทธิเลื่อนการเดินทางพร้อมผู้ติดตามอีก ฟรี 1 คน
  5. หากติดโควิดที่เกาะเจจูจะได้สิทธิอยู่เกาะเจจู 7 วัน พร้อมผู้ติดตามฟรี อีก 1 คน ฟรีเช่นเดียวกัน
    และหลังจากกักตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะได้ท่องเที่ยวในเกาะเจจูพร้อมผู้ติดตามอีก 1 คน ฟรี
    เฉพาะเดือนสิงหาคมนี้เท่านั้น อย่ารอช้ารีบเก็บกระเป๋าไปเที่ยวเกาะเจจูเมืองมรดกโลกกันคะ” คุณพธู กล่าวในตอนท้าย

หมอแยม พญ.รุ่งไพลิน รัตนชีวร แนวคิดชีวิตคิดบวก บนพื้นฐานความจริง เวิร์คไลฟ์บาลานซ์

Toptotravel มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษมาพบปะพูดคุยกับพบกับ หมอความงาม หมอแยม พญ.รุ่งไพลิน รัตนชีวร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและศาสตร์ชะลอวัย รวมไปถึงการดูแลปัญหาต่างๆ ของร่างกาย และการรักษาสุขภาพแบบองค์รวม ฝีมือและประสบการณ์ของคุณหมอที่ฉีดถือเป็นข้อสำคัญมาก หากคุณหมอไม่เชี่ยวชาญากไม่รู้จักทุกจุด ทุกมุมบนใบหน้าคนไข้แต่ละคน ยากมากที่จะออกมาตามแบบที่ต้องการ

เพื่อเข้ามาช่วยดูแลปัญหาเกี่ยวกับหน้าตา ผิวพรรณและบุคลิกภาพ การเสริมความงามก็เป็นศาสตร์ในแขนงหนึ่งทางการแพทย์ หมอจะเป็นด่านแรกในการปรึกษา เพื่อการรักษาที่ตรงจุด ไม่มีพนักงานขายของ เพื่อประโยชน์ของคนไข้มากที่สุด ทั้งเรื่องของการได้รับผลลัพธ์ทันที และไม่สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ” เรียกว่าเป็นนิยามของ หมอแยม หรือ พญ.รุ่งไพลิน รัตนชีวร แพทย์ผู้มีประสบการณ์เชี่ยวชาญด้านความงาม กับการทุ่มเทการรักษาดูแลคนไข้ หรือแม้แต่ผู้ที่เข้ามาปรึกษาด้านความงามไม่ใช่การมุ่งเน้นทำธุรกิจ เป็นบริการครบวงจรตั้งแต่เรื่องผิวหน้า รักษาสิว ฝ้า กระ ปรับรูปหน้า ยกกระชับใบหน้า รวมถึงร้อยไหม ฉีดฟิลเลอร์ และบริการอื่นๆ

THOMAS CLINIC (โทมัส คลินิก) สถานที่ทำงานของคุณหมอแยม

คุณหมอที่เชี่ยวชาญด้านความงาม คลินิกที่กำลังพูดถึงมีชื่อว่า โทมัสคลินิก ทองหล่อ กรุงเทพ บนชั้น 2 อาคารฟิฟตี้ฟิฟทองหล่อ ติดหน้าถนนทองหล่อ ซอย2 THOMAS CLINIC สถานที่ทำงานของคุณหมอแยม ซึ่งแค่เห็นชื่อคลินิก รู้สึกเห็นถึงความแตกต่างแบบไม่ซ้ำใครแล้ว ยิ่งเดินเข้ามาในคลินิก สัมผัสได้ถึงความเป็นส่วนตัวอย่างชัดเจน หมอแยม เล่าให้ฟังว่า เหตุผลที่ตั้งชื่อคลินิกแบบนี้ เพราะลูกค้าส่วนหนึ่งที่เข้ามาใช้บริการนั้น เป็นผู้ชาย “ลูกค้าเกือบครึ่งหนึ่งของคลินิก เป็นผู้ชายแท้ๆ ซึ่งตอนที่คิดเปิดคลินิก อยากได้ชื่อที่ทำให้ผู้ชายรู้สึกอยากเข้ามาใช้บริการ อันจะนำมาซึ่งความมั่นใจของลูกค้าในเรื่องหน้าตาและบุคลิกภาพของตนเอง”


แพทย์ผู้มีประสบการณ์เชี่ยวชาญด้านความงาม การทำงานของ หมอแยม ความเชี่ยวชาญที่จริงใจและใส่ใจ ในทุกรายละเอียดของความงามพร้อมมาตรฐานการทำงานที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เพื่อความพึงพอใจและปลอดภัยอย่างสูงสุดของลูกค้า “ขณะเดียวกัน คลินิกเสริมความงาม ไม่ใช่เพียงคลินิกที่มีคอร์สทรีทเม้นท์มากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นการรักษาและบำรุงจากภายใน เช่นบางรายมีปัญหาเรื่องเส้นผม หรือ ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย มีปัญหาข้อเข่า มีบริการดูแล และหาสาเหตุอาการแต่ละจุดตามที่ลูกค้าต้องการเป็นรายบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลจริง นี่อาจเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใดก็ตาม เรามักจะได้ยินได้ฟังกันเสมอว่าทำในสิ่งที่เรารักเราชอบ แล้วเราจะทำมันอย่างมีความสุข”

หลังจากอยู่ในวงการความงามได้ประมาณ 10 กว่าปี จะว่าไปแล้ว วันนี้ผู้ชายจำนวนไม่น้อยหันมาให้ความสนใจเรื่องของความงามไม่ต่างจากผู้หญิง ยิ่งเป็นผู้ชายในแวดวงธุรกิจ แล้ว ทำให้เขาเห็นความสำคัญในเรื่องภาพลักษณ์บริษัท หรือ ธุรกิจที่ทำอยู่หรือ บางราย ผู้หญิงสวยๆ ก็มักจะพาแฟน หรือ สามี มารับบริการ เพื่อให้ดูดีเหมือนกัน” ส่วนวิธีการดูแลด้านความงามของผู้ชาย คุณหมอแยม เล่าว่า แตกต่างไปจากผู้หญิง ผู้ชายบางคน มีริ้วรอยแห่งวัย ก็อยากจะให้เราช่วยรักษาให้ริ้วรอยลดลง อาจไม่ต้องให้ถึงกับหายไปเลย แต่ให้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องทำเยอะเหมือนผู้หญิง บางคนมาด้วยปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย เราก็จะช่วยยกกระชับใบหน้าให้ ทำให้ไม่เพียงลูกค้าจะรู้สึกใบหน้ากระชับเท่านั้น แต่ยังได้ความอ่อนวัยกลับไปด้วย

“วันนี้จำนวนลูกค้าที่เป็นผู้ชายที่เข้ารับบริการกับทางคลินิกของเรามีถึง 40% ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะชื่อของคลินิก การตกแต่ง รวมไปถึงการดูแลรักษาของเรา ที่มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างมาก และจุดเด่นอีกอย่างของคลินิกเรา ไม่ต้องมานั่งรอคิวเยอะๆ และไม่มีเซลล์มารบกวนลูกค้าเลย เราจะทำนัดลูกค้าทุกคน พอมาถึงคลินิก ก็เข้าห้องรักษาเลย เสร็จแล้วก็กลับบ้านค่ะ” เรียกว่าตอกย้ำถึงความเป็นส่วนตัวอย่างเห็นได้ชัดประเด็นความยากง่ายการรักษา คุณหมอแยมเล่าว่า การดูแลรักษาผู้ชายก็ยากเหมือนกัน “ช่วงแรก ๆ ยากมากค่ะ ยิ่งผู้ชายที่ไม่เคยเข้ารับบริการด้านความงามมาก่อน ก็ยากมาก เพราะเขาจะรู้สึกว่า ทำไปทำไม ทำแล้วได้อะไร และยิ่งกว่านั้น ผู้ชายเป็นคนกลัวเจ็บ กลัวเข็ม ต่างจากผู้หญิงที่มีความอดทน โดยเฉพาะการอดทนเพื่อความสวย แต่พอผู้ชายได้ทำไปแล้ว เขาก็จะรู้สึกดี และไม่ทำให้เขาดูเปลี่ยนแปลงเยอะ มีความเป็นธรรมชาติ ทำให้รู้สึกมั่นใจ” คุณหมอแยม บอกด้วยว่า หลังจากที่ผู้ชายเปิดใจกับสิ่งใหม่แล้ว ความใส่ใจ ความจริงใจ ขอ คำนึงถึงผลประโยชน์ที่ลูกค้าควรจะได้รับอย่างแท้จริง เขาก็จะเป็นคนตัดสินใจเองว่า ทำโปรแกรมอะไรต่อไป

โดยที่ทางคลินิกไม่ต้องนำเสนอโปรแกรมอะไรเลยไม่ว่าจะเป็น เซเลบริตี้ หรือ ดารานักแสดง รวมถึงคนดังในแวดวงต่างๆ หากเข้ามารับบริการในคลินิก สิ่งหนึ่งที่จะไม่เจอเลยคือ การถ่ายภาพ เพื่อไปทำโฆษณา หรือแม้แต่การขายคอร์ส ขายโปรแกรม “เพราะเราไม่ทำการตลาดแบบนั้นอยู่แล้ว ยิ่งการถ่ายภาพ Before & After เรารู้สึกว่าเหมือนเป็นการทำภาพให้ดูเกินจริง ทางคลินิกของเราจึงเน้นทำให้ลูกค้าเห็นผลกันจริงๆ เลยดีกว่า แล้วแนะนำเป็นคอนเนคชั่นแบบบอกต่อกันไป”

อีกสิ่งหนึ่งที่คุณหมอแยม ทำมาตลอดคือ การให้คำปรึกษากับลูกค้าโดยตรง “หมอจะเป็นคนบอกลูกค้าเองว่า เขาควรทำอะไร และดูแลจุดใดเป็นพิเศษ ขณะที่เทียบกับคลินิกอื่น ก็จะเป็นการปรึกษากับเซลล์ที่ไม่ได้จบแพทย์ หรือ พยาบาล บางทีมีการบอกคอร์สผิด ก็มาขายคอร์สเพิ่มให้ลูกค้า ทำให้สิ้นเปลือง และสร้างความสับสนให้กับลูกค้า เราเลยเน้นไปที่ การให้คำปรึกษากับลูกค้าโดยตรง เพราะเราเองก็เป็นแพทย์อยู่แล้ว จะตอบคำถามลูกค้าเองหมด แม้แต่ในไลน์ หมอก็จะเป็นแอดมิน คุยกับลูกค้าโดยตรง”


เชื่อหรือไม่ โทมัส คลินิก ไม่เคยลงโฆษณาในสื่อเลย นอกเสียจากมีสื่อเข้ามาสัมภาษณ์เอง “เนื่องจากเรามีฐานลูกค้าเป็นแบบไพรเวท วีไอพี หากเราไปลงโฆษณา ลูกค้าก็จะไปดูที่ราคาเป็นหลัก และเขาก็จะไม่ได้รู้จักเราจริงๆ ส่งผลให้เกิดความยากในการทำงาน ไปจนถึงต้นทุนค่าใช้จ่าย” ในช่วงวิกฤตโควิดที่ผ่านมา คุณหมอแยม เล่าว่า ทางคลินิกแทบไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลยจากวิกฤต ขณะที่บางคลินิก มุ่งแต่จะลงโฆษณา แล้วสู้กันที่ราคาว่า ใครถูกกว่ากัน “ยิ่งเราไม่มีเซลล์ ก็ไม่ต้องแบ่งรายได้ 20-30% ให้เซลล์ และเราก็สามารถลดราคาให้กับลูกค้าได้เอง ที่สำคัญเราไม่ได้ตั้งราคาสูงเกินไป ทำให้ลูกค้ามักกลับมารักษากับเราอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจของลูกค้าที่ให้กับเราค่ะ”

“ด้วยความรู้สึกที่ว่า… ถ้าเราอยากเป็นนักธุรกิจ ควรไปประกอบอาชีพอื่นดีกว่า แต่เรามองว่าเราเกิดมาเป็นแพทย์อยากทำหน้าที่แพทย์ให้ดีที่สุด จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต ซึ่งทำให้เรารู้สึกดี และภูมิใจในตัวเองมากที่สุด”

คุณหมอแยม เล่าต่อถึง แนวคิดชีวิตคิดบวก บนพื้นฐานความจริง แนวคิดที่เธอวางไว้เหล่านี้ทำให้เธอ รู้สึกถึงความสมดุลในชีวิต “เรียกว่า เวิร์คไลฟ์บาลานซ์ ของเราในวันนี้ดีทุกอย่าง มีเวลาส่วนตัวมากพอ ที่จะได้ทำในสิ่งที่อยากทำ เช่นการทำบุญ หรือออกงานสังคม พบเพื่อนฝูง ขณะเดียวกันเรายังมีเวลาที่จะได้ดูแลลูกค้าด้วย เพราะวันนี้ การทำงาน ถือเป็นความสุขของเราจริงๆ” ด้วยการได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง

ปรึกษา คุณหมอแยม-พญ.รุ่งไพลิน รัตนชีวร ได้ที่ THOMAS CLINIC
(ชั้น 2) อาคารฟิฟตี้ฟิฟ ทองหล่อ (ปากซอยทองหล่อซอย 2)
สุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110

โทรศัพท์ 063-5569-669 หรือ ที่ IG :@ThomasClinic
Facebook: Thomas Clinic (@thomasclinic.thonglor)

คุณเบนเนท ชาง ผู้บริหารโรงแรม สยาม เบย์ชอร์ รีสอร์ท พัทยา (Siam Bayshore Resort Pattaya)

วันหยุดที่ผ่านมา หลายคนได้ไปเที่ยวกับครอบครัว หรือไม่ก็หากิจกรรมสนุก ๆ Toptotravel อยู่ที่ โรงแรม สยาม เบย์ชอร์ รีสอร์ท พัทยา (Siam Bayshore Resort Pattaya) มีโอกาสพบกับ คุณเบนเนท ชาง(Bennet Chang) Genral Manager ผู้บริหารโรงแรมยาม เบย์ชอร์ รีสอร์ท พัทยา ชวนมาทำวันธรรมดาๆ ให้เป็นวันหยุดพักผ่อนที่แสนพิเศษกันที่โรงแรม สยาม เบย์ชอร์ รีสอร์ท พัทยา

…..ที่นี่ Siam Bayshore พร้อมที่จะตอบโจทย์ในทุกๆ ความต้องการ ผมอยากเห็นทุกคนมีความสุข โรงแรมตระหนักถึงศักยภาพของตัวเองในการส่งต่อความสุข ไปยังสิ่งแวดล้อมร่มรื่นของธรรมชาติที่เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียว เหมาะมากกับการพาร่างกายมาชาร์จพลังในช่วงวันหยุด ไปยังคนรอบตัวพบกับความสะดวกสบายและการบริการอย่างมีระดับ ไม่ว่าจะเป็นห้องพักที่มีให้เลือกหลากหลายประเภท เพราะที่นี่เป็นเพียงโรงแรมเดียวในพัทยาชื่อเสียงมาอย่างยาวนานมากกว่า 40 ปี อยากได้อะไรมีเซอร์ไพรส์น่ารักให้เสมอแจ้งมาเลยโรงแรมจัดให้

เบนเนท ชาง (Bennet Chang)
General Manager Siam Bayshore Resort Pattaya

โรงแรม Siam Bayshore Resort Pattaya เป็นโรงแรมในเครือ A Sukosol Hotel มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน บนเนื้อที่ 45 ไร่ โรงแรม 5 ดาว ที่มีความเป็นส่วนตัว
ร่มรื่นโรงแรมติดท่าเรือแหลมบาลีฮาย สะดวกมากถ้าต้องการเดินทางไปเที่ยวเกาะล้านหรือลงมาเดินเล่นจากโรงแรม ใกล้บริเวณถนนคนเดิน สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนหรูผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมอันทันสมัยกับความงดงามเอกลักษณ์ของความเป็นไทยแบบเอเชียอย่างลงตัว ราคาคุ้มค่ากับความหรูหรา สะดวกสบาย

✅️ เดินทางสะดวกที่จอดรถกว้างขวาง
✅️ ที่พักพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
✅️ บรรยากาศดี สวนสวย สระว่ายน้ำใหญ่ ชิวๆ วิวทะเล
✅️ อาหารอร่อย โปรโมชั่นเยอะ
พนักงานทุกแผนก ให้การต้อนรับคุณอย่างอบอุ่น ยินดีต้อนรับ ทั้งลูกค้าทั่วไป ลูกค้ากลุ่มสัมมนา งานเลี้ยงสังสรรโอกาสพิเศษต่างๆ

ห้องพักสะอาด และกว้างขวาง ทุกห้องมีวิวจากระเบียง แบ่งโซนห้องพัก ออกเป็น 2 โซน ทุกห้องมีขนาดใกล้เคียงกัน (ประมาณ 35-37 ตรม.)
Ocean Wing Building
ประกอบไปด้วยห้องพัก
53 ห้อง

  • Deluxe Suite 8 ห้อง
    -ห้อง Executive Deluxe 30 ห้อง
  • ห้อง Ocean Deluxe
    15 ห้อง

Garden Wing (มีห้องพัก 2 ประเภท) คือ

  • Tropical Deluxe Pool view 54 ห้อง
  • Tropical Deluxe Garden 160 ห้อง

ยังมีบ้านพัก Siam Villa อีก 1 หลัง เป็น private zone อยู่บริเวณข้างๆ สระว่ายน้ำ Garden pool บ้านพักมีห้องพักขนาดใหญ่ 2 ห้อง และห้องเล็ก 2 ห้อง มีบริเวณห้องนั่งเล่น ครัวขนาดเล็ก และมีสระ จากุซซี อยู่ภายในวิลล่าด้วย

สระว่ายน้ำ จำนวน 2 สระ
(สระขนาดใหญ่ Garden pool อยู่บริเวณ Garden Wing มีสไลเดอร์สำหรับเด็กขนาดใหญ่ให้บริการ)

Beach pool อยู่บริเวณด้านหน้าหาด ฝั่งตรงข้ามกับ Ocean wing บริเวณนี้สามารถจัดงานปาตี้ริมสระน้ำได้ ในบรรยากาศริมทะเล
นอกจากนี้….ยังมี สนามเทนนิส ( ขนาดมาตรฐาน 4 คอร์ท )
เปิดบริการตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. (ทุกวัน)

ห้องอาหาร ซันไรส์ ซันเซท ตั้งอยู่บริเวณล็อบบี้ของทางโรงแรม
ให้บริการแบบ All Day Dining ถือว่าเป็นห้องอาหารหลักของโรงแรม
Western Cuisine ที่ห้องอาหาร SUNRISE SUNSET กับ 3 เมนูพิเศษสุด (Chef Recommendation)

3 เมนูพิเศษสุด (Chef Recommendation)***
ซีซ่าสลัด
ขนมปังฝรั่งเศสคลับแซนด์วิช
พิซซ่าหน้ามะม่วง
  1. Mango Pizza พิซซ่าหน้ามะม่วง
  2. Caesar Salad ซีซ่าสลัด
  3. Barguette Club sandwiches ขนมปังฝรั่งเศสคลับแซนด์วิช
    แต่ละเมนูที่เราสั่งมาวันนี้ บอกเลยว่ารสชาติอร่อยมากๆ
มะม่วงปั่น และ น้ำมะพร้าวสด

Beverage แนะนำเครื่องดื่ม Mango smoothies มะม่วงปั่น และ Coconut น้ำมะพร้าวสดจากลูก

High Tea set + twinning tea THB 390 net
High Tea set + twinning tea (กรณีำม่ดื่มชา สามารถเปลี่ยนเป็นกาแฟได้)

รื่นรมย์ยามบ่ายด้วย มูนเค้ก อาฟเตอร์นูน ที จิบชาชั้นดีเคียงคู่ขนม High Tea set + twinning tea THB 390 net จิบน้ำชายามบ่ายพร้อมของว่างแสนอร่อยกับโปรโมชั่นสุดพิเศษ ชุดน้ำชายามบ่าย “อาฟเตอร์นูน ที”

พร้อมให้บริการที่ห้องอาหาร SunRise SunSet Restaurant เริ่มไลน์ตั้งแต่ 06.00-11.00 น. เป็นห้องอาหารสไตล์ all day dining เปิดบริการทั้งวัน

ซีฟู้ด บาบีคิว บุฟเฟต์ ทานแบบไม่อั้นกับบรรยากาศริมทะเล ณ โรงแรมสยาม เบย์ชอร์ รีสอร์ต พัทยาใครเป็นสายบุฟเฟ่ต์นานาชาติ เราบอกเลยว่าพลาดไม่ได้! กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ในราคาที่คุ้มค่ากว่าเดิม สำหรับบุฟเฟ่ต์ ซีฟู้ดไนท์ จัดเต็มกับขบวนอาหารทะเลสดใหม่คุณภาพเยี่ยมทั้ง อาหารไทย, อาหารจีน,อาหารญี่ปุ่น และอีกเพียบ! รวมไว้ในที่เดียว สั่งได้เติมแบบไม่อั้น นั่งทานสบายๆ กับวิวทะเลอันงดงาม ด้านหน้าหาดแหลมบาลีฮาย ภายในโรงแรมสยามเบย์ชอร์ รีสอร์ทเพลิดเพลินไปกับอาหารทะเลย่าง เนื้อหวานฉ่ำ อาหารเอเชีย สลัด อาหารนานาชาติ เย้ายวนใจด้วยของหวานอีกมากมาย และเครื่องดื่มเย็นฉ่ำชื่นใจ

BBQ Buffet at Bali-Hai by the sea
ราคา/ 777 THB/Net

Siam BayShore PATTAYA
โทรศัพท์ จองได้ที่ 038 428 678
Line ID : @siambayshore
http://www.siambayshorepattaya.com/
https://www.facebook.com/SiamBayshorePattaya

#siambayshoreresort #pattaya #relaxgarden #tropicalgarden
#garden #swimmingpool #Toptotravel

คุยเรื่องท่องเที่ยวไทยหลังโควิด กับ อรชร ลักษณะสุต (นิ่ม) โฮเทล เมเนเจอร์ จากโรงแรมเวฟพัทยา และ โรงแรมเดอะเบย์วิวพัทยา

โรงแรมเดอะเบย์วิวพัทยา

วันนี้ทีมงาน Toptptravel อยู่ที่ Wave Hotel Pattaya โรงแรมสไตล์บูทีค 5 ดาว ได้รับเกียรติ คุยเรื่องท่องเที่ยวไทยในโลกหลังโควิด กับ อรชร ลักษณะสุต (นิ่ม) โฮเทล เมเนเจอร์ จากโรงแรมเวฟพัทยา และ โรงแรมเดอะเบย์วิวพัทยา เนื่องจากปัจจุบัน ยังไม่มีจีเอ็มโรงแรมเดอะเบย์วิว พัทยา ก็จึงดูแลทั้งสองที่ ซึ่งโรงแรมเวฟพัทยา เป็นโรงแรมในเครือของกลุ่มสุโกศล มีคุณกมลา สุโกศล เป็น owner คุณมาริสา บริหารเรื่อง Operation การตกแต่งเป็นอาร์ตเดคโค การตกแต่งเป็นไมอามี่ สไตล์แบบชิคๆแตกต่างจากที่อื่น ซึ่งเนื่องจากว่าเจ้าของอยากมีอะไรที่แปลกใหม่ มีสไตล์ ของเราสี่โรงแรมที่ผ่านมาจะออกแนวคอนเทมโพรารี่บ้าง แบบไทยบ้าง จะมี The Siam เริ่มเป็นไทยแต่การตกแต่งเป็นอาร์ตเดคโค ของโรงแรมเวฟ เป็นน้องเล็กสุด เหมือนเป็นน้องเล็ก ของเดอะสยาม โดยคุณน้อย วงพรู เป็นคนนำของตกแต่งเข้ามาของเก่า Retro, Antique สะสมที่หาดูได้ยาก และคุณน้อยแฮปปี้ที่เข้ามาทำตรงนี้

Wave Hotel Pattaya

ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติที่อายุ 40 ขึ้นตอนแรกเราคิดว่าเป็นวัยรุ่น 25-35 คนทำงาน ปรากฏว่าเปิดมา 6 เดือน กลายเป็นแขกผู้ใหญ่ที่ชื่นชอบความเงียบและความเป็นส่วนตัว และน้องๆก็จะดูแลคล้ายๆ บัดเลอร์ เราช่วยเหลือหมด ลูกค้าแต่ละคนก็จะกลับมาหลายครั้ง จะมาซ้ำไม่ต่ำกว่าห้าครั้ง ช่วงนี้เมืองไม่มีเทสแอนด์โก พร้อมบินมาก ลูกค้าส่วนใหญ่ค่อนข้างกลับมามากแล้ว ของเวฟมี 18 ห้อง 3 สวีทซ์ ที่เป็นทไวไรซ์สวีทว์ 3 ห้องและห้องซันเซต 15 ห้อง ทั้งหมดทุกห้องจะเป็นวิวทะลทั้งหมด และไซส์ห้อง 45 ห้อง ใช้โทนสีพาสเทล เรียกว่า สีทิฟฟานี่บลู คือมาทันช่วงที่กำลังฮิต โรงแรมสร้างเสร็จพอดี รถคาดิแลค ที่จอดอยู่ด้านหน้าของโรงแรม ที่เป็นที่มาของชื่อของห้องอาหาร cadillac ของโรงแรม เวฟ ถือว่าเป็นไอเดียของคุณสุกี้ สุโกศล ทางไมอามี่จะมีรถจอดหน้าโรงแรม
เราจอดข้างนอกไม่ได้ จึงเข้ามาจอดหน้าตึกในรั้ว ห้องอาหารคาดิแลค คาเฟ่ เสริฟอาหารไทย เม็กซิกัน อเมริกัน เชฟอำนาจ เป็นคนสร้างสรรเมนูหรือบางอย่างที่ลูกค้าดูแล้วทานไม่ได้ก็สามารถบอกเชฟได้ เชฟเมดทูออเดอร์ ลูกค้าต้องการทานแบบไหน ทางเชฟดูแลให้อย่างเต็มที่

เสริฟอาหารเช้าแบบ A La Carte

โดยเฉพาะกับอาหารเช้าที่ถือว่าเป็นไฮไลต์ของการเข้ามาพักที่นี่ ถือเป็นสิ่งที่ซัพพอร์ตโรงแรม เพราะจุดเด่นของโรงแรม คือ หนึ่งสไตล์ของโรงแรม สองการบริการ สามอาหารเช้า เสริฟเป็น A La Carte ลูกค้าสามารถสั่งได้ all u can eat จนกว่าคุณจะอิ่ม และอาหารสวยงามทุกจานด้วยความใส่ใจใส่รายละเอียดและอร่อย ทำสดๆใหม่ ๆ ทำเสร็จก็เสริฟเลย ลูกค้าแฮปปี้กับอาหารเช้าของเรามาก เขามาที่ห้องพักเช็คอินขึ้นไปลูกค้าส่วนใหญ่ชอบอยู่ในห้อง เงียบสงบนอนดูทะเล ก็ค่อนข้างชอบ

คุณนิ่ม กล่าวต่อว่า “ตอนนี้เปิดเมืองพัทยา คึกคักมากขึ้น จากเดิมเมื่อสองปีที่แล้วมีแขกวันละ 10-20 ห้อง บรรยากาศก็จะเศร้าเหงาหงอย คนละเรื่องกับทุกวันนี้ แต่ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่มีการเปิดเมือง เราเห็นนักท่องเที่ยวกลับมแทบจะเหมือนเดิม แต่ราคาเรานยังไม่สูงเท่าแต่ก่อนก็จะค่อยๆปรับไปด้านตลาดคนไทย เราจะให้ความสนใจตรงนี้เพราะเป็นตลาดเดียวที่สนับสนุนเราช่วงโควิด รวมถึงคุณกมลาย้ำเสมอว่าต้องดูแลคนไทย เพราะเกิดอะไรขึ้นคนไทยก็ยังเที่ยวในบ้านของเขา พอวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์โควิด -19 เขาก็มาจริงๆ แล้วก็สนับสนุนเรา
ในส่วนของพนักงานตั้งแต่โควิดเข้ามา จาก 100 กว่านิดๆ ก็เหลือ 90 กว่าชีวิต ตรงนี้เราร่อนละ ทุกคนอดทน และรักที่นี่เพราะคุณกมลา ท่านดูแลเราดีมาก ทั้งหมดเรามี 3 โรงแรมในเมืองพัทยา โรงแรมสยามเบย์ชอว์ โรงแรมเดอะเบย์วิวพัทยา โรงแรมเวฟ สามโรงแรมนี้เราก็จะเกาะกลุ่มกัน หากรร.นี้ไม่พอก็จะมีการช่วยเหลือกัน โดยเฉพาะแผนกจัดเลี้ยง

ในช่วงโควิดที่ผ่านมา การทำงานที่นี่ทำให้พนักงานรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าและได้รับความไว้วางใจในการตัดสินใจเป็นของตัวเองหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 เริ่มเข้ามาในไทย สิ่งแรกที่ต้องมีคือสติ คิดและพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นรวมทั้งแนวโน้มที่จะตามมาในอนาคต ฅเริ่มจากการตั้งสติ ยอมรับในสิ่งที่มันเป็นก่อน และดูว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นเป็นอย่างไร สถานการณ์ที่เป็นอยู่เป็นอย่างไร และสถานการณ์มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นเป็นอย่างไร แล้วเรามาดูว่าเราพอจะหาวิธีรองรับสถานการณ์ต่างๆ เหล่านั้นที่มีโอกาสจะเกิดขึ้น

ในช่วงนั้น เราเคยส่งพนักงานไปซัพพอร์ตที่กรุงเทพฯ เพราะที่กรุงเทพฯเปิดให้บริการก่อน โดยในส่วนของตลาดต่างประเทศตอนนี้เริ่มกลับมาคึกคักแล้ว ช่วงโควิด-19 วีคเดย์แทบจำนวนลูกค้าซีโร่ โรงแรมมีลูกค้าเพียงวันเสาร์วันเดียวที่เป็นคนไทย พอเปิดเมืองปุ๊บตัวเลขเริ่มขึ้น บรรยากาศคึกคัก สนุกสนาน พนักงานดีใจมาก คำว่าเหนื่อยไม่มีในสมองเลย นึกถึงว่าวันที่โรงแรมปิดไปสามเดือน อยู่แบบเงียบเหงา ซึ่งเคยมีแขกเต็มตลอดเวลา ถึงเวลานี้ดีใจมาก ลูกค้ามาเท่าไหร่ทีมงานยินดีต้อนรับ ทุกคนช่วยกันดูแลจนได้รับคำชมเชยมากมาย และในต้นเดือนที่ผ่านมา เพิ่งเปิดไปไม่นาน ผลตอบรับค่อนข้างดีมากๆ โดยมีกลุ่มลูกค้าคนไทย 75 % ต่างชาติ 25% คิดว่าถ้าสถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ โควิดไม่ได้มีผลอะไร ตลาดน่าจะกลับมาเร็วขึ้น พัทยาจะเฟื่องฟูเหมือนเดิม

“อยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่าน นิ่ม เป็นหนึ่งในนามผู้ประกอบการในเมืองพัทยา มีส่วนเกี่ยวข้องจำเป็นจะต้องปรับตัว หาแนวทางสร้างรายได้ที่แตกต่างจากในอดีต พัทยามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางวัน หรือไนท์ไลฟ์ รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ สถาปัตยกรรมต่างๆ สวนน้ำ คาเฟ่เก๋ๆ ชิคๆ ต้องมานะคะ พัทยาตอนนี้เปิดเมืองแล้วอย่าลืมกลับมาเที่ยวพัทยานะคะ” -คุณนิ่ม กล่าวในตอนท้าย

Wave Hotel Pattaya โรงแรมสไตล์บูทีค 5 ดาว มีห้องพักทั้งหมด 18 ห้อง สอง Room Type Sunset Room และ Twilight Room ตัวโรงแรมจะหันหน้าออกสู่ชายหาดพัทยากลาง ตกแต่งในสไตล์ไมอามี่ ผสมกับความเป็นไทย มีการเล่นสีสันโรงแรมให้ออกมาโมเดิร์นๆ อีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจคือ ทุกห้องพักจะหันหน้าเข้าหาทะเล ทำให้เห็นวิวของทะเล และ Streetของเมืองพัทยาได้อย่างชัดเจนข้างๆล้อบบี้ มีสระว่ายน้ำ และบาร์เล็กๆ ให้ได้นั่งพักผ่อน สบายๆ มีห้องอาหาร Cadillac Cafe & Bar ตั้งอยู่ด้านหน้าของโรงแรม สามารถนั่งได้ทั้งโซน Indoor และ Outdoor มีเมนูอาหารก็มีทั้ง ไทย นานาชาติ ให้เลือกและห้องอาหาร สำหรับดินเนอร์ชั้นบนสุดของโรงแรม สามารถมองเห็นบรรยากาศยามเย็นของเมืองพัทยาได้อย่างถนัดตา

โรงแรมเวฟ พัทยา
310/2 ถนนเลียบชายหาด พัทยา ชลบุรี 20150 ประเทศไทย
Facebook : https://www.facebook.com/WaveHotelPattaya/
เบอร์โทรศัพท์ : 038 410 577

สูดกลิ่นไอทะเลพร้อมวิวทะเล โรงแรม เดอะ เบย์วิว พัทยา
โรงแรม เดอะ เบย์วิว พัทยา ตั้งอยู่ใกล้ชายหาดพัทยาและมองเห็นวิวทะเลงดงาม โรงแรม เดอะ เบย์วิว พัทยา ยังเงียบสงบ หลบหลีกความวุ่นวายจากริมถนนเลียบหาดพักผ่อนอย่างแท้จริง และสัมผัสการบริการแบบไทยระดับเฟิร์สคลาส พร้อมเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของโรงแรมฯ ที่ตกแต่งดีไซน์ทันสมัย และได้รับการปรับปรุงใหม่ให้มีชีวิตชีวา สุขสบายในวันหยุดภายในห้องพัก สีสันสดใส พร้อมเตียงขนาดคิงไซส์ หรือเตียงคู่ เฉพาะห้องที่เป็นเตียงขนาดคิงไซส์สามารถขอเตียงเสริมเพิ่มได้ และประทับใจไม่รู้ลืมกับระเบียงส่วนตัวที่ให้ได้สัมผัสเสน่ห์ของทะเลเมืองพัทยา ห้องประเภทต่าง ๆ
DELUXE GARDEN VIEW
ห้องดีลักซ์ พูลวิว
ห้องดีลักซ์ ซิตี้วิว
ห้องดีลักซ์ ซีวิว
2-BEDROOM FAMILY STUDIO
ห้องธีมสวีท
ห้องสยามสวีท
ห้องดีลักซ์ สวีท

พักผ่อนและรื่นรมย์ไปกับอาหารรสชาติเลิศ ท่ามหลางบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวภายในห้องพัก พบกับเมนูมากมายหลากสไตล์ทั้งไทยและเทศให้ท่านได้เลือกสรร ถ้าไม่มีในเมนู กรุณาแจ้งเราได้เลย เชฟมืออาชีพของเราพร้อมให้บริการทุกเมื่อ เปิดบริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

THE BAYVIEW
310/2 Beach Road, Pattaya City Cholburi, 20150, Thailand
Bangkok Sales Office : +66 2 247 0123
Phone : +66 38 423 877 or +66 38 710 513
Email : thebayview@sukosolhotels.com

Paulaner Garden Srinakarin ร้านอาหาร สไตล์เบียร์การ์เด้นแห่งแรกในประเทศไทย

ร้านอาหารพอลลาเนอร์ การ์เด้นท์ สาขาศรีนครินทร์ เป็นร้านอาหารเยอรมันยอดนิยมที่นักชิมต่างรู้จักเป็นอย่างดีมากว่า 16 ปี ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นจากความชื่นชอบในการเสาะหาอาหารอร่อยของเจ้าของร้านในฐานะนักชิม นำมาเป็นแรงบันดาลใจเพื่อส่งมอบความสุขจากอาหารดี ๆ ผสมผสานกับความชื่นชอบร้านอาหารที่มีความโปร่ง โล่ง นั่งสบาย เหมือนนั่งในสวนหน้าบ้าน ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง เสมือนมาสังสรรค์ที่บ้านเพื่อนสไตล์เยอรมัน

การใช้ชีวิตประจำวันของทุกคนเปลี่ยนไป ความสบายใจที่หาได้จากธรรมชาติ ทุกคนเริ่มคุ้นชินกับสไตล์ New Normal ที่ต้องดูแลสุขภาพและป้องกันโควิด นักชิมไม่ต้องกังวล เพราะ ร้านอาหารพอลลาเนอร์ การ์เด้นท์ ศรีนครินทร์ ใส่ใจเป็นพิเศษ โดยจัดที่นั่งแบบเว้นระยะห่าง พร้อมด้วยเจลแอลกอฮอล์และ อุปกรณ์วัดอุณหภูมิก่อนเข้าร้าน ที่สำคัญที่สุดเป็นร้านอาหารที่ได้รับ SHA มาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข จึงมั่นใจได้อีกระดับหนึ่งอย่างไรก็ตามด้านให้บริการอาหารและเครื่องดื่มในสไตล์เยอรมัน Paulaner Garden คัดสรรวัตถุดิบมาเป็นอย่างดีเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น คอเบียร์ หรือคนที่ชื่นชอบอาหารในสไตล์บาวาเรียน แถมยังได้เพิ่มเติมเมนูอาหารไทยที่โดนใจนักชิม

ร้านอาหารพอลลาเนอร์ การ์เด้นท์ เมนูต่างๆ อร่อยติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย คอนเซ็ปต์ร้าน และเมนูอาหารที่ยังคงโดดเด่นเหมือนเดิม และยังได้มีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมบางส่วน เช่น บริการพิเศษส่งอาหารบริการแบบเดลิเวอรี่ถึงที่บ้าน บรรยากาศในร้าน นอกจากจะเป็นบ้านสไตล์โมเดิร์นที่ผสมผสานกลิ่นอายความเป็นเยอรมันแล้ว ยังมีจุดเด่นซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของร้านอาหารพอลลาเนอร์ นั่นก็คือ เสาบริเวณหน้าร้าน ที่เรียกว่า May Pole ซึ่งบนเสาจะมีรายละเอียดแสดงถึงสัญลักษณ์โดดเด่นของแต่ละท้องถิ่น ของแคว้นบาวาเรียน ซึ่งสามารถพบเห็นได้ที่ร้านพอลลาเนอร์ สาขาศรีนครินทร์ เท่านั้น เดิมทีร้าน Paulaner Garden ตั้งอยู่ย่านแจ้งวัฒนะ ปัจจุบันได้ย้ายมาอยู่ย่านศรีนครินทร์ เป็นร้านใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม แต่ยังคงความอร่อยและเต็มไปด้วยความสุขเช่นเดิม

กานต์พิชชา คงสมบัติ ผู้บริหารร้านอาหารพอลลาเนอร์ การ์เด้นท์ สาขาศรีนครินทร์

นอกจากความพิเศษอันดับหนึ่งของ Paulaner Garden น่าจะอยู่ที่ “บรรยากาศ” ส่วนโดยรอบร้านด้านหน้าร้าน มีที่นั่งทานอาหารสบายๆ ในสวน พร้อมดื่มด่ำบรรยากาศช่วงเวลาแห่งความสุข รวมถึงด้านในร้านเองมีการจัดวางโต๊ะอาหารตามโซนต่างๆ ถึง 2 ชั้น ให้บริการได้ถึง 80 ที่นั่ง พร้อมกับการเพลิดเพลินไปกับภาพบนผนัง ที่สื่อเรื่องราวขบวนการผลิตเบียร์ สีสันงานเทศกาลเฉลิมฉลองของชาวบาวาเรียน หรือเทศกาลงานเลี้ยงมีการตั้งชื่อต่าง ๆ และยังทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง เสมือนมาสังสรรที่บ้านเพื่อนสไตล์เยอรมัน ทางร้านมีห้องไวน์เซลล่า เพื่อรองรับการประชุมหรือสังสรรค์ จัดกิจกรรมต่างไว้บริการด้วย และเครื่องดื่ม เบียร์เยอรมันและอังกฤษหลากหลายชนิด ให้ลิ้มลองทั้งของ Paulaner ,Hacker Pschorr , Fuller’s ,St Austel , Smuel Smith ,Cornish Cider และ Wine , เบียร์สดดื่มอย่างจุใจ

“กานต์พิชชา คงสมบัติ” ผู้บริหารร้านอาหารพอลลาเนอร์ การ์เด้นท์ สาขาศรีนครินทร์ กล่าวว่า หลังจากกลับมาเปิดเหมือนเดิมหลังจากปิดชั่วคราวในช่วงการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ทางร้านได้การรับรองมาตรฐาน SHA และตระหนักถึงสุขภาพและความปลอดภัยของลูกค้า มีการจัดโต๊ะแบบเว้นระยะห่าง พนักงานในร้านผ่านการฉีดวัคซีนครบโดส ทุกสุดสัปดาห์ทางร้านจะมีตรวจ ATK ให้กับพนักงาน ลูกค้าที่เข้าร้านต้องทำการสแกนคิวอาร์โค้ด “ไทยชนะ” และตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิด้านหน้าร้าน ส่วนภายในร้านมีการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ และมีบริการเจลแอลกอฮอล์ให้บริการในทุกมุมของร้าน รวมถึงในห้องน้ำ นอกจากนั้น ทางร้านยังได้เตรียมช้อน มีด ส้อม ทิชชู ใส่ซองแยกเป็นส่วนตัวให้กับลูกค้าทุกคน

เมนูไฮไลท์พอลลาเนอร์ การ์เด้นท์
-ไส้กรอก บาวาเรียน (Bavarian Sausage) เสิร์ฟมาพร้อมกับมันฝรั่งผัดเบคอนและซาวเคราท์ ซึ่งภายในจานจะมีไส้กรอก 3 ชนิด ประกอบด้วย ทูริงเจอร์ เป็นไส้กรอกที่ม้วนเป็นกลมๆในจาน ไส้กรอกชีส และ เยอรมันบราทเวิร์ส เนื่องจากทางร้านสั่งทำเฉพาะทางร้านพอลลาเนอร์การ์เด้นท์เท่านั้น และคิดค้นสูตรไส้กรอกตั้งแต่ร้านเปิดมา ซึ่งใช้เวลาลองผิดลองถูก จนมาลงตัวด้วยรสชาติที่อัดแน่นไปด้วยสมุนไพรเยอรมันนานาชนิด และมีเนื้อนุ่มมากเป็นพิเศษ และที่พิเศษก่อนเสิร์ฟไส้กรอกทางร้านจะนำไปต้มก่อนเพื่อรีดไขมันออก จากนั้นจึงนำไปย่าง เมื่อกินไส้กรอกจะไม่เลี่ยน

ขาหมูเยอรมัน สูตรเพื่อสุขภาพ เพราะผ่านขบวนการทำกว่า 3 ชั่วโมง ด้วยเคล็ดลับที่ดีต่อสุขภาพหรือเรียกว่า ขาหมูรีดมัน ด้วยวิธีการหมักกับเครื่องเทศอย่างดีนำไปต้มจนสุกแล้วนำเข้าเตาอบ แถมยังมีการเพิ่มเบียร์เยอรมันเข้าไปผสมผสานเพิ่มความหอม และเพิ่มความนุ่มเป็นพิเศษ รับรองได้ว่าไม่เหมือนใคร การันตีความอร่อยด้วยการโทรจองล่วงหน้า จะได้ทานขาหมูเยอรมันที่อร่อยเลิศ กรอบนอก นุ่มใน และกรอบนาน อร่อยได้อย่างแน่นอน เสิร์ฟพร้อมด้วย น้ำจิ้ม 3 สูตรเด็ด สุดแซ่บเวอร์ โดยเฉพาะน้ำจิ้มซีฟู้ด

ขาหมูเยอรมัน

เพรสเซลขนมปังสไตล์เยอรมันรูปหัวใจ เสริฟคู่กับตับบดเนื้อเนียนนุ่มสูตรเยอรมัน อบใหม่ร้อนๆ

ตับบดเนื้อเนียนนุ่มสูตรเยอรมัน
เพรสเซลขนมปังสไตล์เยอรมันรูปหัวใจ
ขนมปังเพรสเซล
-พล่าปลาแซลมอนสด

-พล่าปลาแซลมอนสด พล่าแซลมอนเนื้อปลาแลมอนชิ้นโต คลุกเคล้ากับเครื่องปรุงพล่ารสจัดจ้านแบบไทยๆ จานนี้เด็ด มาต้องสั่งเหมือนกัน

สปาเก็ตตี้

แอปเปิ้ลสตูเดิล เป็นขนมแบบดั้งเดิมของประเทศออสเตรีย มีส่วนผสมของ
แอปเปิ้ล ห่อด้วยแป้งพายพับอบกรอบแผ่นบางคล้ายแป้งฟิโล เสิร์ฟคู่ไอศครีมวนิลา อร่อยรสชาติไม่หวานมาก

แอปเปิ้ลสตูเดิล

นอกจากนี้ ทางร้านยังมีเมนูเพื่อสุขภาพอีกมากมายไม่เว้นแม้แต่ พิซซ่า ซึ่งเป็นพิซซ่าแผ่นสี่เหลี่ยม เป็นแบบเฉพาะของที่ร้านแป้งบางๆ มีหลายหน้าให้เลือกลิ้มลอง เช่น พิซซ่าเจหรือพิซซ่าหน้าผัก ที่อัดแน่นไปด้วย มะเขือเทศ ผักโขม หอมใหญ่ หอมดอง เห็ดแชมปิญอง นอกจากนี้ ยังมีพิซซ่าหน้าซีฟู๊ด เซลามี่ พามาแฮม หรือ พิซซ่าหน้าแซลมอนสด ทางร้านเลือกใช้แซลมอน เกรดพรีเมียมจากนอร์เวย์สไลด์มาเป็นชิ้นบางๆ วางบนแผ่นพิซซ่า เป็นอีกเมนูที่อยากให้มาลิ้มลอง

รวมถึงเมนูเด็ดยอดนิยมที่กำลังมาแรงเช่น สปาเก็ตตี้ไส้กรอกพริกแห้งกระเทียม เป็นเมนูขายดีถูกใจคนไทย เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่รวม 3 สัญชาติไว้ด้วยกัน เพราะมีเส้นสปาเก็ตตี้จากอิตาเลียน ไส้กรอกจากเยอรมัน และพริกแห้งและกระเทียมจากไทย น้ำมาผัดกับน้ำมันมะกอก ปรุงรสจัดจ้านแบบไทยๆ เส้นเหนียวนุ่มกลิ่นหอมของชีสและเผ็ดนิดๆ ทางร้านยังมีเด็ดมากมายเช่น ลาบแซลมอนทอด พล่าปลาแซลมอนสด, ยำขาหมูพอลาเนอร์, ยำเห็ดสามอย่าง หอยแมลงภู่ชิลีผัดเบียร์ดำ ที่ต้องลอง และไม่ลืมปิดท้ายความสุขด้วย ของหวานจานโปรดที่ขายดิบขายดี คือ แอปเปิ้ลสตูลเดิ้ล เป็นเมนูของหวานสไตล์เยอรมัน ด้านในเป็นแอปเปิ้ลผัดกับชินเนม่อน ห่อด้วยแป้งและอบจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศกรีมวานิลลาหรือช็อคโกแลต ซึ่งสามารถเลือกรสชาติไอสกรีมได้ หรือ ช็อคโกแลต
บราวนี่ ที่เสิร์ฟกับไอศกรีมวนิลลา จนอยากลิ้มลองเสียทั้งคู่

นอกจากจะเปิดบริการตามปกติแล้ว ทางร้านยังรับจัดงานนอกสถานที่ และการจัดกิจกรรมต่างๆ ภายในร้านด้วย เช่น งานเลี้ยงสังสรรค์ที่เป็นกลุ่มส่วนตัว หรือจัด
อีเว้นท์ได้ในบรรยากาศสไตล์เยอรมันเหมือนได้ไปกินที่ประเทศเยอรมัน ซึ่งมีทั้งพื้นที่ส่วนในร้านและในสวน นอกจากนี้ยังมีห้องส่วนตัวสำหรับรองรับได้ประมาณ 25 ท่าน พร้อมชุดคาราโอเกะไว้บริการอีกด้วย

พิเศษทุกวันศุกร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 19.00-21.00 น. 2 ชั่วโมงเต็ม นักชิมจะได้เพลิดเพลินฟังเพลงไพเราะ ไปกับวงดูโอ ศิลปินจากเวทีประกวดเดอะวอยซ์ไทยแลนด์ ( บัง & เขี้ยว ) ทั้งดนตรีไทยและสากลให้ได้ฟังกันอย่างเพลินๆ ท่ามกลางบรรยากาศในสวนสวยสบายๆ สไตล์เยอรมัน เหมาะกับการพบปะสังสรรค์กลุ่มเพื่อนๆ ในวันสุดสัปดาห์

ร้านอาหารพอลลาเนอร์ การ์เด้นท์ สาขาศรีนครินทร์ https://www.youtube.com/watch?v=2v3AY_HtHtY

ร้านอาหารพอลลาเนอร์ การ์เด้นท์ สาขาศรีนครินทร์
ซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 9 แยก 2 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ

ที่ร้านมีบริการเดลิเวอรี่
เปิดบริการ 16.00-23.00 น. โทร. 08 2790 1782
พิเศษทุกวันศุกร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 19.00-21.00 น. (2 ชั่วโมงเต็ม)

รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.paulaner-garden.com

อัพเดทโฮมสเตย์สุดน่ารักที่ จังหวัดสระบุรี “บ้านไร่ไชยคิ้ม” เรียบง่าย แต่มีความสุข

สวัสดีเพื่อนๆ วันนี้ Toptotravel มีโอกาสไปพักที่ จังหวัดสระบุรี ไปเจอที่พักเปิดใหม่สุดน่ารัก ….ที่พักอยู่ติดกับธรรมชาติ เรียบง่าย พักสบายกายและใจ คืนนี้นอนโฮมสเตย์กลางทุ่งนาชิลๆ มองวิวภูเขา เป็นที่พักที่มีความ Minimal ที่นี่มีชื่อว่า บ้านไร่ไชยคิ้ม และความเงียบสงบของ อำเภอหนองแซง จังหวัดสระบุรี

บ้านไร่ไชยคิ้ม โฮมสเตย์ บรรรยากาศดี๊ดี โฮมสเตย์ริมบึงท่ามกลางนาข้าว ขุนเขา แนะนำไปสโลว์ไลฟ์กับเมืองสงบใกล้กรุงเทพนิดเดียว อย่างจังหวัดสระบุรี ด้วยบรรยากาศโอบล้อมด้วยธรรมชาติ ผู้คนใจดี ตัดกับไร่นาสีเขียวชะอุ่มของชาวบ้าน พ่วงด้วยความเป็นอยู่แบบชาวบ้านที่เนิบช้า ทำให้ที่นี่ กลายเป็นอีกหนึ่งที่พักปักหมุดที่เราไม่อยากให้คุณพลาด

ที่พักที่เกิดจากความหลงในความงามของธรรมชาติ ต้นไม้ และภูเขา ที่นี่ในช่วงเดือนมีนาคม อากาศร้อนในช่วงกลางวัน แต่มีลมพัดผ่านตลอด หน้าหนาวช่วงค่ำอากาศเริ่มขึ้นเรื่อยๆ ชอบที่พักสไตล์นี้มาก ให้ความรู้สึกอบอุ่น มีความน่ารักเต็มไปหมด โฮมสเตย์ที่พักตกแต่งด้วยไม้เก่าดัดแปลงได้สวยงามทันสมัย ตกแต่งด้วยโทนสีธรรมชาติ ผสมผสานกับงานไม้กับบ้านแบบไทย ที่ดูอบอุ่น มีความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อนเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบน้อยชิ้น แต่ทุกอย่างดูเข้ากันอย่างลงตัว ผู้เข้าพักจะได้สัมผัสกับธรรมชาติและเรียนรู้วิถีชีวิตเชิงเกษตร ชมวิวหลักล้านแบบนี้ได้แค่เอื้อม เป็นอีกหนึ่งที่พักทีเหมาะแก่การมาพักผ่อนชิลๆ นอนเล่นอ่านหนังสือ เดินชมหมู่บ้านใช้ชีวิตเนิบๆ จริงๆ ค่ะ

สำหรับห้องพักของที่นี่ ภายในห้องพัก บ้านไร่ไชยคิ้ม โฮมสเตย์
ด้านในตกแต่งไปด้วยเฟอร์นิเจอร์แนววินเทจสุดน่ารัก มีสิ่งอำนวยความสะดวกปกติตามมาตรฐานโฮมสเตย์ นอกจากนั้นยังมี แอร์ พัดลม ที่นอน หมอน ผ้าห่ม พร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง ขนาดกว้างขวาง มีมุมนั่งเล่นเล็กๆ สำหรับพักผ่อนด้วย และห้องน้ำซึ่งเป็นไฮไลท์ อาบน้ำไปสบตากับวิวภูเขา และผ่อนคลายกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ทำให้รู้สึกแนบชิดธรรมชาติ ในบรรยากาศเงียบสงบ ส่วนเรื่องของไฟฟ้าจะสามารถใช้ได้ตั้ง 6 โมงเย็น ไปจนถึงเช้า ด้วยความที่โฮมสเตย์แห่งนี้ปราศจากสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น โทรทัศน์ อินเตอร์เน็ต จึงทำให้ผู้เข้าพักที่มาเยือนที่แห่งนี้ได้ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติและคนสนิทได้แบบเข้าอกเข้าใจกันอย่างแท้จริง และความพิเศษของบ้านหลังนี้ยังไม่หมด เค้ามีระเบียงชมวิว และบันไดเดินลงไปยังพื้นที่ด้านล่างซึ่ง บ้านไร่ไชยคิ้มมีความตั้งใจให้เป็นมุมนั่งเล่น รวมถึงทานอาหารเช้า อาหารเย็น

อาหารเช้าของที่นี่ยังเสิร์ฟจะเป็นเมนู สุดเลิฟ ข้าวต้มหอมมะลิเสิร์ฟมาเป็นเซตพร้อมไข่ออนเซน ตื่นมาได้ทานช่วงเช้าคือดีมากๆ

หากใครกำลังคิดถึงที่พักท่ามกลางธรรมชาติ ค้นหาตัวเอง หาที่พักแบบเงียบสงบ และมองหาที่พักน่ารักๆ บอกเลยที่นี่ตอบโจทย์มากมีมุมนั่งเล่น เดินชิลในสวน และเดินถ่ายภาพเพียบ แถมบรรยากาศของที่พักกว้างขวางน่ารัก อบอุ่นรับประกันได้เลยว่า เป็นที่พักที่ใกล้ชิดธรรมชาติและสะดวกสบายอย่างแน่นอน

ที่นี่เป็นบ้านไม้หลังใหญ่ กึ่งไม้กึ่งปูน ภายในตกแต่งเรียบง่ายขนาดสองชั้นห้องพักที่นี่มีเพียง 2 ห้อง /ห้องพักแบบบ้าน 2 หลัง เท่านั้น !!! อยากชวนจองมาเที่ยวกันนะคะ ช่วงนี้อากาศกลางวันและมีแดดแรงแต่ถ้าอยู่ในที่ร่ม มีลมพัด เย็นช่วงกลางคืน อากาศประมาณ 24-29 องศา ใครที่มากันเป็นกลุ่มหลายคนก็สามารถเหมาหลังได้ค่ะ

ติดต่อ คุณเหน่ง เบอร์โทร 0854795642

ราคาโปรโมชั่นสอบถาม บ้านไร่ไชยคิ้ม
ราคานี้รวม

  • พักได้ 2 -4 ท่าน
  • รวมอาหารเช้าสไตล์ไทย
  • สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

พร้อมเปิดให้บริการแล้ว บ้านไร่ไชยคิ้ม หนองแซง สระบุรี โฮมสเตย์เล็กๆ บรรยากาศดี ใกล้ธรรมชาติ เปิดจองห้องพัก ราคาถูก ร่มเย็น พอเพียง
ติดต่อเบอร์โทร 0854795642 คุณเหน่ง
บ้านไร่ไชยคิ้ม @baanraichaikim

บ้านไร่ไชยคิ้ม Ep.1 ตอน เปิดโฮมสเตย์อย่างเป็นทางการ #หนองแซง #สระบุรี
https://www.youtube.com/watch?v=TLygwQdG4R0

เที่ยวทั่วไทย อร่อยไปทั่วโลก Lifestyle