Category Archives: Interview

โลกธุรกิจหลังโควิด 19 ในมุมมองของ ภาคิน พลอยภิชา

Toptotravel ได้รับเกียรติจาก คุณภาคิน พลอยภิชา กรรมการผู้จัดการ โอเอซิส
สปา สปาเพื่อสุขภาพระดับพรีเมี่ยม มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองถึงโลกหลังโควิด19 วิธีปรับตัวของธุรกิจ การเปลี่ยน mindset และ ทักษะสำคัญของการบริหารพนักงาน เพื่อปรับตัวให้รอดในโลกแห่งการเปลี่ยนแปลง สปาเป็นอีกธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโควิด19 ซึ่งวิกฤตครั้งนี้รุนแรงที่สุด เป็นวิกฤตที่ไม่เคยเจอ และในช่วงโควิด19 พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนแปลง ถึงขั้นต้องปิดกิจการทุกสาขาชั่วคราว และสูญเสียรายได้ ตั้งแต่ เดือน มกราคม จนถึง ปัจจุบันและไม่สามารถคาดเดาได้ว่าวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด19 จะสิ้นสุดเมื่อใด

โอเอซิส สปา สู้โควิดสู่มาตรฐาน Hygiene สปาในรูปแบบที่มุ่งเน้นคุณภาพการให้บริการ ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน และให้ความสำคัญกับสุขภาพที่ดีของลูกค้าเป็นสำคัญ ทำให้โอเอซิสสปาได้รับการขนานนามว่า สปาอัตลักษณ์ไทย ที่สร้างประสบการณ์สปาที่น่าจดจำ เป็นที่รู้จักเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และชาวไทย ด้วยการบริการที่ “เหนือกว่า” ผสมผสานการนวดแบบแผนไทยโบราณเข้ากับการนวดสมัยใหม่ประยุกต์ ร่วมกับน้ำมันหอมระเหยสมุนไพรไทย ที่ช่วยให้ผ่อนคลายอย่างแท้จริง โดยพนักงานนวดสปามืออาชีพ

ภาคิน พลอยภิชา กรรมการผู้จัดการ โอเอซิสสปา

ภาคิน ในวันนี้ปรับตัวด้วยปัญญาผ่าวิกฤต
เพราะชีวิตต้องไปต่อ….จะเป็นภาคินในเวอร์ชั่นที่ทนที่สุด (หัวเราะ) มีสติและเป็นภาคินที่อดทนกับทุกสถานการณ์ในทุกวันได้ดี ภาคินจะเป็นภาคินที่มองอะไรน่าจะหนักแน่นมากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าเรามองคนในแง่ร้าย ความที่ โอเอซีส เป็นองค์กรและวัฒนธรรมองค์กรแบบนี้ทำให้อยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วมันอธิบายออกมาไม่ได้ เพราะเรื่องนี้มีหลายท่านที่ให้การสนับสนุนในสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ผมเชื่อสิ่งที่ ผมทำในอดีตส่งผลให้กับเราในปัจจุบันและอนาคต ไม่ว่าจะเส้นทางใด แต่ภาคินในเวอร์ชั่นปัจจุบันกับองค์กร คือ สิ่งที่น่าจะมีและแข็งแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือเรื่องของ culture ของวัฒนธรรมที่จะเข้มข้นมากยิ่งขึ้นและมีความผูกพันและสามัคคีกันในองค์กร ซึ่งสิ่งเหล่านี้เอง ทำให้โอเอซิสสปา เดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ส่วนจะไปในทิศทางใด หรือช่องทางไหน ยังไม่มีความชัดเจน เพราะความชัดเจนคือความไม่ชัดเจน แต่สิ่งที่เรามีคือความพร้อมที่จะเดินและเป็นธุรกิจที่ world wide มากขึ้น

การมีสติ ทำให้พบทางออกของการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด
สิ่งที่มนุษย์ให้ความสำคัญเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย การปรับตัวจึงเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการทำธุรกิจในยุคหลังโควิด ขอนำประสบการณ์มาเล่าให้ฟัง หลังจากที่เกิดโควิด มีปัญหาหลากหลายที่เข้ามา มันจะไม่ถูกแก้เลยหากเรารู้สึกว่าเยอะและหนักเกินไป และไม่ไหวแล้วก็จะพ่ายแพ้ไป วิธีเดียวที่จะแก้ไขปัญหาต้องนิ่งก่อน ทำอย่างไรองค์กรจึงจะอยู่รอด แล้วดูว่าปัญหาที่เกิดคือมีทางออกอะไรบ้าง เราเองก็เคยเป็น จิตแตก โวยวาย สภาพจิตใจไม่นิ่งจะหาทางออกไม่ได้ สิ่งที่เป็นทุกวันนี้ เราอยากแชร์ประสบการณ์ที่เราเป็น ในฐานะที่เป็นผู้นำคนหนึ่ง ควรต้องเป็นผู้นำที่สร้างความมั่นใจให้คนในองค์กร การฟันฝ่าอุปสรรคไปได้ ผู้นำถือเป็น หัวใจสำคัญ หากผู้นำอ่อนแอ ล้มเลยแน่นอน บางครั้งการตัดสินใจทำอะไรลงไป อาจต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคต ต้องเตรียมใจไว้ระดับหนึ่ง การแก้ไขปัญหาในตอนนี้เพื่อให้องค์กรอยู่ได้ ไม่ใช่ทุกการแก้ปัญหาจะเป็นการแก้ปัญหาแบบถาวร จริงๆ แล้วเป็นความรู้สึกที่เจ็บปวดเหมือนกัน เพื่อให้เราอยู่รอดสามเดือน การตัดสินใจหลังจากสามเดือนนี้ต่อไป

คุณภาคิน อธิบายเพิ่มเติมว่า.. เมื่อโลกเปลี่ยนแปลงไป ธุรกิจจะอยู่รอดได้ถ้าคิดใหม่และปรับตัว การตัดสินใจในครั้งนี้อาจจะไม่ใช่การตัดสินใจที่ดีในอีกสามเดือนต่อไป หรือหกเดือน ต้องหนักแน่นและยอมรับสิ่งที่ผมตัดสินใจ และก็เชื่อเสมอว่าต้องมีทางออก ตัวอย่างที่แชร์คือทุกครั้งที่เกิดปัญหา คืนนั้นจะเป็นคืนที่คิดไปต่างๆ นานามากมายจนทำให้คิดไปเยอะ คิดไปหลากหลาย เมื่อถึงเวลาจริงๆ ในวันรุ่งขึ้นตัวผมต้องแก้ปัญหา บางปัญหาก็ไม่ใช่ยิ่งใหญ่มหาศาลเหมือนในคืนนั้นที่ผมคิดไว้ วันรุ่งขึ้นจะพิสูจน์ให้เห็นว่าเรื่องต่างๆ ไม่ได้เลวร้าย ผมก็จะรู้สึกว่าเดี๋ยวก็จะผ่านพ้นไปได้

… เมื่อก่อน ผมเป็นเซลขายยาอยู่ตามโรงพยาบาล ทำให้มีโอกาสเข้าไปที่ รพ.ตลอดเวลา ขายยาหลายชนิด จนสุดท้ายยาส่วนที่รับผิดชอบจะเป็นยาต้านเชื้อไวรัสเอชไอวี การเดินทางเข้าออกโรงพยาบาล ทำให้เห็นสภาพของผู้ป่วยป่วย และคนเสียชีวิตมาโดยตลอด จึงมีโอกาสได้คุยกับเพื่อนในวงการว่ามันเศร้า คนเราน่าจะมีทางเลือกในทางที่ดูแลตัวเอง ดูแลสุขภาพให้มากกว่านี้ ผมคุยกันกับเพื่อนว่า ถ้าเป็นแกจะทำอะไร? คนหนึ่งจบเทคนิคการแพทย์ จบเภสัชมา อีกคนจบพยาบาล บอกว่า การที่จะมีชีวิตเป็นผู้แทนขายยาในโรงพยาบาลจนตาย มันหดหู่ไปทุกวัน หันมาทำงานที่เพิ่มความสุข ดูแลสุขภาพ นั่นคือยี่สิบปีที่ผ่านมาจนกระทั่งปี 2002 ภาคิน ลาออกจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายยา และมาเปิด
สปาในปี 2003 ซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญมาก การประจวบเหมาะที่ทำให้ผมกลายมาเป็นผู้บริหารขององค์กรใหญ่ระดับประเทศ

“ผมมีความคิดว่า….การทำธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ ไม่ได้ดูเทรนด์หรืออะไรทั้งสิ้น (ความคิดในเวลานั้น) ไม่ได้มองเทรนด์ในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร ไม่ได้คิด เพียงแต่รู้สึกว่าเบื่อและเหนื่อยที่ต้องเห็นแต่คนเสียชีวิตจากโรงพยาบาล จึงจบลงด้วยการดูเรื่องสุขภาพ” ทีนี้ก็มาคิดว่า แล้วสุขภาพจะทำอะไร เพื่อนแนะนำบอกขายอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งผมคิดว่าไม่ใช่แนวเรา เพราะต้องไปหาอะไรมาขาย แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว เบื่อการขายคิดว่าเปิดร้านนวดดีกว่า ไม่ต้องเหนื่อยมาก
หลังจากนั้นค่อยเสริมอย่างอื่นร่วมด้วย ระหว่างนั้นเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ มีโอกาสลองใช้บริการสปาในต่างประเทศ ซึ่งรู้สึกว่าแพงและคุณภาพการนวดไม่ดีมากมายไปกว่าบ้านเรา ในเมืองไทยตอนนั้น ค่านวดครั้งละ 150 บาทเท่านั้น แต่นวดต่างประเทศเริ่มต้นประมาณ 3,000 บาท ผมจึงมามองบ้านเรา ซึ่งการนวดดีมาก ผมจึงคิดว่า น่าจะทำสถานที่นวดแบบมีมาตรฐานขึ้นมา แต่ผมจะไม่ทำนวดราคา 150 บาท คิดว่าให้ดูดี บริการดี สถานที่สวยงาม ระหว่างความคิดตรงนั้นคิดไปเรื่อยๆ สวยไปเรื่อย ไม่ได้จดทะเบียนอะไร ยอดขายได้วันละ 8,000 บาท ถือโอเคแล้วณ.ตอนนั้น ง่ายๆ เลยขายได้วันละ 8000 บาทค่าพนักงาน ค่าเช่า รายได้ถือว่าโอเคแล้ว ชีวิตผมง่ายๆเลย นั่นคือที่มาของ โอเอซีสแห่งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ สร้างขึ้นบนพื้นที่สองร้อยตารางวา คอนเซ็ปต์เป็นบ้านหลังเล็กๆ หรือวิลล่ากลางเมือง มีสวนสวย มีshower ทำในแบบของเรา ภายหลังเปลี่ยนเป็นใช้คำว่า สปา ส่วนชื่อ โอเอซิส สปา ก็ได้มาจากความบังเอิญ แต่ที่ที่เราอยู่มีแหล่งน้ำ เข้าไปเหมือนหลุดอีกโลกหนึ่ง เพื่อนคุณโทบี้เข้ามาเขาบอกว่าเหมือน OASIS ก็เลยได้ที่มาของคำว่า โอเอซิส สปา ไม่ต้องคิดเยอะ ไม่ทำอะไรเป็นBusiness plan เป็นแบรนด์หรืออะไรเลย พอเปิดปุ๊บ ติดตลาดในเวลาหนึ่งเดือน ตอนนั้น ราคานวด 1,200 บาท นวดไทย 750 บาท

ตอนนั้น ผมรู้ว่าคนไทยไม่มาแน่นอน ไม่ได้ตั้งเป้าต้องเป็นลูกค้าต่างประเทศ
แต่แนวทางเป็นที่ที่เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้บริการ ที่ยินดีที่จะจ่ายกับมาตรฐานที่มีให้ แต่ปรากฏว่า….ไปตอบโจทย์นักท่องเที่ยว กลายเป็นว่านักท่องเที่ยวบอกว่าราคาไม่แพง และดูดี มาตรฐานการนวดถูกใจ จึงกลายเป็น talk of the town ภายในช่วงไม่ถึงเดือน ตัวผมเอง เข้าใจเรื่อง trainer ,marketing ,service mild เนื่องจาก ผมเคยอยู่บริษัทยามาก่อน ทุกอย่างไม่ง่าย แต่เหมือนทุกอย่างเรามี connection ที่ดีก็หยิบมาใช้ พอดี trainer เคยทำงานที่โรงแรมfour season แล้วลาออกมาทำงานสปา ก่อนที่จะทำสปา คิน มีร้านคาเฟ่อยู่ในริมปิงซุปเปอร์มาร์เก็ต ตอนนั้นทำงาน part time บริษัท ยาและมีร้านกาแฟอยู่ด้วย

ร้านกาแฟเก๋ๆ ในสมัยนั้นยังมีไม่มากปรากฏว่ามีหมอ ผู้บริหาร มีใครต่อใครเข้าไปกินในนั้น มีคนทำงานสปาใกล้ๆ เป็นพยาบาล ก็จะมาบ่น ว่าเหนื่อยมาก คนไม่เข้าใจสปา ฉันไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว ต้องให้ Knowledge อย่างไร โดยฟังๆ ไปไม่ได้สนใจอะไรมาก ปรากฏว่า วันหนึ่งเขาก็ท้อใจ ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดเรื่องที่เคยคุยกันไว้ จนวันหนึ่งคิดขึ้นมา อ้าวเขาจะไม่ทำแล้วนี่นา เราก็จะทำร้านนวด ก็เลยคลิคขึ้นมาว่าเราก็เปลี่ยนมาเป็นสปา โดยเอาเขามาทำงานด้วย มาเป็น trainer ทำให้ได้คนที่เป็น trainer ที่ดีมากมาจาก four season จึงเก็บมาเป็นระบบเทรนนิ่ง โดยเซ็นต์สัญญาร่วมกัน ตั้งแต่ช่วงแรกเริ่มต้นที่หกคน ปัจจุบันสามคนยังอยู่ด้วยกันตลอดตั้งแต่แรก โอเอซิสเกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ Location ได้ด้วยความบังเอิญ trainer ก็ได้ด้วยความที่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว จึงกลายมาเป็นโอเอซิสในปัจจุบันนี้

การออกแบบ รวมไปถึง เรื่องงานตกแต่ง คอนเซ็ปต์ที่คิดเสมอ คือ ความรู้สึกผ่อนคลาย สบาย 1. คือ ต้องเข้ากับโสตประสาททั้งห้า คือ สบายตา สบายตาไม่ได้ก็ต้องสบายใจ เข้าไปแล้ว สะดวกสบายไม่อึดอัด โล่งโปร่งสบาย นั่นคือโจทย์ หลังจากนั้นจึงนำมาซึ่งการคิดว่าเอาอะไรมาตกแต่ง คือ เรามีอะไร ไม่ใช่ไปซื้อมา แต่เราเป็นคนเก็บของไปที่ไหนก็จะซื้อมา อันไหนเหมาะกับตรงไหนความเหมาะสม ทุกครั้งที่เดินทางจะซื้อที่ชอบเก็บสะสม เมื่อผมมีโอกาสเปิดเปิดสปาจึงมีโอกาสนำของที่ซื้อมานำมาตกแต่ง แต่มี บางชิ้นที่สั่งมาใหม่เช่นกัน ไม่ใช่เฉพาะของเก่าอย่างเดียว โดยผมจะเลือกมีธีมส์หรือโทนสีการตกแต่งคล้ายกัน แต่ไม่มีคอนเซ็ปต์อะไรมากเลยนะ การเอาของเก่ามาผสมผสานกับของใหม่มีความสะดวกสบายมีความคอมฟอสเทเบิ้ล ไม่ใช่มีแนวอะไร เรคเทค เราถามเพื่อนที่เป็นอินทีเรีย มาเขาพูดมา เราบอกว่า อืมใช่ เป็นคำที่อินทีเรียเขาใช้กัน หากนำโต๊ะใหญ่มาวาง ก็โอเค เดินเข้ามาบางครั้งก็ไม่ใช่ครั้งเดียวจบ ต้องมีการปรับเปลี่ยนไป เช่น วัสดุไม้ ผนังก็จิ้มเลย รูปภาพพต้องลงเอง โทนสีโต๊ะ โทนสีที่มาเลือกใช้ก็ต้องเลือกเอง เรื่องของแสงมีผล แสงหากทำให้ไม่ได้สบาย ร้านจะก็จะหลบหลอดไฟประเภทที่แสงแยงตา โดยปรับไม่ให้แสงมาแยงตาทำให้รู้สึกสบายและผ่อนคลาย

ซึ่งภาพรวมของการออกแบบ เป็นเรื่องของเซนส์ที่มนุษย์คนหนึ่งจะรู้สึกได้มากกว่า เช่น การมีสเปซเยอะ นั่งตรงไหนก็มีความเป็นไพรเวซี่ ย้อนกลับมาว่า เลือกสีที่ใช้จะสะท้อนความรู้สึกของคนที่มานั่ง แสง สี เสียง เสียงหากดังไปก็รำคาญ ร้อนไปก็ไม่ได้ หนาวไปก็ไม่ได้ ไม่ได้รู้เรื่องฮวงจุ้ย เราบอกได้ว่า เป็นเซนส์ที่มีเทสด้วย

สถานการณ์โอเอซิสสปา
ส่งผลให้ต้องปรับตัวไม่เพียงเฉพาะพฤติกรรมการใช้ชีวิต แต่ต้องเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่ต้องไปต่อให้รอดจากวิกฤตการระบาดของโรคอุบัติใหม่นี้ มันเปลี่ยนไปเร็วมากจนสิ่งที่ทำตอนนี้ต้องดูโอกาสก่อนทำต้องดูกับสถานการณ์แบบนี้ว่าจะดูแลคน และ facility ของเราอย่างไร ดูแลเรื่องระบบการเงิน ไฟแนนซ์อย่างไร สามอย่างนี้สำคัญมาก หนึ่งพนักงานเราเองไม่สามารถที่จะ lay off พนักงานได้เลย สอง facility ไม่ดูแลก็จะเสื่อมสภาพลง ซึ่งตรงนี้ก็ต้อง
มีต้นทุนในการดูแล ขณะเดียวกันเรื่องของการเจรจาไฟแนนซ์ ทั้งลูกหนี้และการจ่ายหนี้

คุณภาคิน เล่าว่า … เจรจาหาแนวทางที่ลดข้อขัดแย้งระหว่างทุกฝ่าย เราต่อรอง ไม่ว่าลูกหนี้ต่างๆ ก็เจรจากับแบงค์เพื่อให้อยูได้ สิ่งที่เราทำตอนนี้ ทุกครั้งที่มีโอกาส เช่น ถ้าธุรกิจสปาไม่ถูกสั่งปิดนั่นคือโอกาสที่เราจะสร้างรายได้ อย่างวันที่ถูกสั่งปิดโอกาสก็ไม่มีแล้ว เพราะฉะนั้นช่วงที่เปิดนั่นคือช่วงที่จะมีรายได้เข้ามาแต่เพราะเรามีทีม back of house ที่ดีทีม Marketing ซึ่งตรงนี้ค่อนข้างแข็งแรง ก็มีการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายใหม่คนที่อยู่ในประเทศไทยเป็นใครก็ได้ที่อยู่ในนี้ และมีโอกาสที่สุดที่จะมาใช้บริการ เพราะฉะนั้นก็ต้องมาดูเรื่องราคาสำหรับขายในประเทศไทย การเลือกเอเย่นต์จากหลายกลุ่มที่เหมาะสม เรื่องของความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการจัดโปรราคาถูกที่ผ่านมาคือ จ่าย 500 บาท
สามารถทำสปาได้ในราคาเท่ากับ 2,000 บาท ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการทรีทเม้นท์ได้ตามต้องการ โปรที่ดีที่สุดคือ voucher เมื่อออกมาค่อนข้างตอบโจทย์ มีกระแสตอบรับที่ดีมากในสาขาที่กรุงเทพฯ เมื่อสาขาที่กรุงเทพฯ มีปัญหา คือปัญหาเปลี่ยนไปทุกเดือน เราไม่สามารถที่จะนำโปรโมชั่นนี้มาใช้กับทุกช่วงเวลา ต้องปรับตัวเอง กลยุทธที่ใช้ทั้งด้านราคา และอีกหลายราคามากขณะเดียวกัน พอมีการสั่งปิด ไม่สามารถเซอรไวฟ์ได้สามสาขาถูกสั่งให้ปิดหมดทั้งกรุงเทพฯ เพราะเขามองว่าเป็นธุรกิจที่มีการสัมผัสมากพัทยาปิด เชียงใหม่ก็เดี๋ยวเปิดเดี๋ยวปิด ก่อนหน้านี้ที่สาขาภูเก็ตเช่นเดียวกัน ตอนนี้กรุงเทพฯ มีปัญหา เขาตัดสินใจและคิดเยอะขึ้นในการจับจ่ายใช้สอย

วิกฤตธุรกิจ ….
ผมเปิดโตมาในสายธุรกิจสปามา 19 ปี คิดเรียนรู้ริเริ่มหาการต่อยอด เราเก่งเรื่อง
สปาเพื่อสุขภาพ ก็ขยายเป็นโรงเรียนสอนสปา ขยายใน skin product ซึ่งอยู่ในกลุ่มสุขภาพเป็นก้อนเดียวกัน ไม่ได้หลุดออกไป มีเพียง Cafe de Oasis ร้านคาเฟ่ที่หลุดจากที่เราเป็น ซึ่งคาเฟ่ได้รับผลกระทบน้อยสุด ลูกค้ายังคงเดินทางเข้ามาใช้บริการไม่ขาดสาย ซึ่งถือว่าดีมากกับสถานการณ์ในปัจจุบัน แต่ลูกค้าก็ลดลงไปประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ ในการขยาย แต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่จังหวะที่จะทำอะไรในสถานการณ์แบบนี้ เพราะคอนเซ็ปต์ของคาเฟ่แบบนี้ เรามี knowledge Knowhow ส่วนเรื่องการตกแต่งร้านก็ไม่ยากสถานที่มีพร้อมทั้งเชียงใหม่และภูเก็ต หากจะขยายสาขา แต่ในขณะนี้ไม่อยากลงทุนอะไร ปัจจุบัน ถือว่าลำบากมากในการประคับประคองธุรกิจ ถือว่าเป็นหนึ่งในธุรกิจที่รอดปลอดภัยมาจนถึงปัจจุบัน ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ จะเห็นว่าสปาในธุรกิจเดียวกัน ล้มหายตายจากไปค่อนข้างเยอะมาก ดูจากสมาชิกที่อยู่ในสมาคมล้านนาสปา สมาคมสปาไทย สมาคมภูเก็ต คนที่ทำธุรกิจแนวนี้ไปไม่รอดจริงๆ และส่วนใหญ่ก็พึ่งพานักท่องเที่ยวร้อยเปอร์เซ็นต์ และไม่มีสายป่านที่ยาวพอตลอด 15 เดือน ถือว่ายาวนานมาก ตัวผมเองหวุดหวิดมาก แต่ถามว่าวันนี้ถ้ายังเป็นสถานการณ์แบบนี้ อีกสักสองถึงสามเดือนค่อนข้างลำบาก ถ้ากรุงเทพฯ ยังไม่เปิดตามปกติ

เพราะอะไร โอเอซิสสปาจึงยังยืนหยัดอยู่ได้ท่ามกลางวิกฤติ
ในโลกที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงและมีความไม่แน่นอนสูง ทางรอดคือ ต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ วิเคราะห์ตัวเองเหมือนกัน เพราะผมเองมี relationship ที่ดีกับหลายๆ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ อย่างเจ้าหนี้ ซึ่งสำคัญมาก หากเขาไม่ดีนี่จบเร็วมาก ทั้งแบงค์เอย เรามีประวัติที่ดีในอดีต ค่อนข้างโปร่งใส สิ่งเหล่านี้ช่วยในยามวิกฤต ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เขาเชื่อมั่น ดูประวัติการทำงานร่วมกันในอดีต เทคนิคการเจรจาต่อรอง และ relationship โดยการจัดการที่เข้าใจปัญหา อาจจะต้องยาวแน่ๆ ทำให้เรารู้ว่าต้องเจออะไรนาน จึงตัดสินใจทำอะไรต้องเผื่อเอาไว้ว่า เริ่มตั้งหลัก ลดค่าใช้จ่ายตั้งแต่แรก พยายามประคับประคองรายได้ที่จำกัด ต้องให้อยู่ในสัดส่วนที่พอดี ผมใช้สิทธิที่เกือบทั้งหมดมีไปหมดแล้ว เพราะนั้นสามเดือนสุดท้ายน่าจะวิกฤติหนัก ภูเก็ตแซนบ็อกช่วยได้แต่อย่างที่บอกจากเคยมีรายได้จาก16 สาขา ลดลงมาเหลือรายได้เพียง 2 สาขา ไม่สามารถช่วยอะไรได้มาก แต่ทำให้เก็บพนักงานไว้ได้นานที่สุด เท่าที่จะทำได้ แต่ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไม่ครอบคลุมใดๆ ทั้งสิ้น บางสาขาต้องปิดดำเนินการไป โดยต้องลดต้นทุนและหารายได้จากช่องทางอื่นเพื่อประคับประคองธุรกิจต่อไป

วัย 49 ของ”ภาคิน” กับการก้าวต่อไป เพื่อผ่านช่วงเวลาแห่งความลำบากนี้ไปด้วยกันสิ่งที่มีตอนนี้คือต้องมีสติ ในฐานะที่เป็นผู้นำขององค์กร ไม่สามารถที่จะไปแสดงอารมณ์อะไรได้ ไปตีโพยตีพายไม่ได้ มันเลยจุดนั้นไปแล้ว ต้องเป็นผู้นำ คนที่อยู่ข้างหลังเขาต้องมั่นใจว่าเราจะสามารถนำพาองค์กรผ่านวิกฤตินี้ไปได้
จะเห็นได้ว่า จากที่มีพนักงาน 600 กว่าคน ตอนนี้เหลือ 250 คน ไม่ได้หมายความว่าไล่ออก แต่เขาเลือกที่จะไปในทิศทางที่เขาได้เลือก โดยไม่สามารถที่จะอยู่ด้วยกันได้นาน เขากลับไปอยู่บ้านนอก เขาก็มีทางในการที่จะ survive ได้ เลือกที่จะลาออกเพื่อกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านนอกช่วงนี้ คือเราไม่ได้ไปหลอกเขาว่าเราจะรอดในสภาวะผู้นำนี้ แต่เราสร้างความมั่นใจว่า เราจะเป็นที่พึ่งให้กับเขา ไม่ว่าจะไปถึงจุดไหน ณ ปัจจุบันนี้ แม้เรื่องของโลกโซเชี่ยลอะไรต่างๆ เราก็ไม่เชื่อเรื่องของ Negative Energy หลายคนลงไปแล้ว ไม่มีทางขึ้นมาได้ แต่ผมยังเชื่อว่า หากเรายังเชื่อเรื่อง Positive จะขับเคลื่อนให้สำเร็จ ถึงแม้ว่าจะเจออะไรมาเยอะก็แล้วแต่ อย่าบอกว่าเจออะไรมาเยอะมาก สองปีนี้ผมไม่จำเป็นต้องไปแสดงอะไรให้ใครรู้ว่าเจอมาเยอะ สติเท่านั้นสำคัญที่สุด บางครั้งอาจรู้สึกว่าสติจะแตกเพราะรับมือกับปัญหาเยอะมาก จนปัญหานั้นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เราก็ต้องยอมรับถ้าไม่ยอมรับต้องพ่ายแพ้ ถ้ายอมรับสู้เดินหน้าต่อไป โดยการเร่งยกระดับตัวเองให้สามารถแข่งขันในระดับโลกได้ตลอดเวลา

…..ถ้าเราพ่ายแพ้ ไม่ใช่แค่เราคนเดียวแต่หมายถึงทั้งองค์กร ตอนนี้เลยตั้งสติ เข้มแข็ง มองอนาคต บางครั้งเดินเข้าออฟฟิศก็มีหดหู่ แต่เราไปแสดงอาการแบบนั้นไม่ได้ ตอนนี้เราเข้าใจเลยว่า การที่เป็นหัวหน้า เป็นผู้นำมีอะไรมากกว่าการเป็นหัวหน้างาน ไม่ใช่ทำงานให้จบ ผู้นำคือเป็นเรื่องของจิตวิญญาณ ความมั่นใจ ความมั่นคง ความเชื่อมั่น เรื่องของอนาคตอะไรหลายอย่าง สร้างความเข้าใจในความคาดหวังของลูกค้าและพนักงาน

จากปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสในการขยายอีกหนึ่ง Business Line การเปิดตัว แอพพลิเคชั่น RLAX.ME massage delivery เป็นอีกหนึ่งบิสสิเนสไลน์ เมื่อสักครู่ผม เล่าถึงธุรกิจที่เราพยายามแตกไลน์ คิดที่จะทำระหว่างที่เกิดโควิด ผมคิดจะทำแต่ยังไม่ได้ทำ แต่พอมากลางโควิดคิดว่าไม่ได้แล้ว จึงเริ่มทำแอพพลิเคชั่นนี้ เมื่อปลายปีที่แล้ว ผมปรึกษาและหาพาร์ทเนอร์ เพราะคิดว่าคนเดียวทำไม่ได้แน่นอน คือ RLAX.ME massage delivery ใช้แอพพลิเคชั่นที่เป็นแพลตฟอร์มที่เราเป็นคนกลาง ที่ทำให้ลูกค้ากับผู้ให้บริการคือ therapist ได้มาเจอกัน เป็น market place คอนเซ็ปต์ เหมือน Grab ผมจัดเตรียมเรื่องแอพพลิเคชั่น แต่คนนวดกับลูกค้าตกลงยินยอมกันเอง เป็นmassage delivery เปิดให้บริการเมื่อปลายปีที่แล้ว จดเป็น BOI Company เพิ่งได้เมื่อต้นเดือนนี้เอง

ธุรกิจนี้ได้พันธมิตรที่เป็น software house เป็นของบริษัทเยอรมัน เป็นบีโอไอ เหมือนกันแต่อยู่ในประเทศไทย และศักยภาพเขา เขียนโปรแกรมให้กับเยอรมันเหมือนกัน เพราะช่วงโควิดกระทบปัญหาเช่นเดียวกัน เขาเก่งเรื่อง software เราเก่งเรื่องคน people management มี Knowledgeมี knowhow เรื่องของโรงเรียน เรื่องของ massage ซอฟแวร์เฮ้าส์เขาจะมาเขียนแบบนี้ เขานึกไม่ออก เขาต้องอาศัยคนมีประสบการณ์ ซอฟแวร์เฮ้าส์มีดีบนโลกใบนี้แต่ไม่สามารถเขียนโปรแกรมที่มีความเข้าใจ ซึ่งตรงนี้เรากับเขาคลิกกันได้ทันที จึงกลายเป็นเรื่องที่สามารถนำมาต่อยอดการทำธุรกิจหลังโควิด 19

เราเป็นหุ้นส่วนกันในเรื่องของตัวแอพพลิเคชั่นนี้ ซึ่งเราเปิดเมื่อปลายปีที่แล้ว และค่อยๆพัฒนามาเรื่อย ๆ ตอนนี้เปิดให้บริการเชียงใหม่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยาและหัวหิน แต่พอเราเปิดก็เจอโควิด เราก็รู้ว่ามันคืออะไร เลยทำให้ช่วงนี้เราโฟกัสเรื่องแอพนี้ค่อนข้างเยอะและคิดว่า ตัวนี้จะเป็นอนาคตของบริษัท
ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ ตัวแอพพลิเคชั่นนี้จะเป็นตัวที่มีความต้องการสูง ถ้าโควิดเริ่มซาไป ข้อดีของแอพพลิเคชั่นนี้คือ เราจดเป็น BOI การที่เราจะไปขยาย
ในอนาคตอาจจะมีโตในต่างประเทศเพราะเป็นการจัดการที่ง่ายมาก แต่ขั้นตอนยากที่สุดคือขั้นตอนการพัฒนาซอฟแวร์ แต่เมื่อเริ่มมีการใช้ มีการแก้ไข การเอาไปใช้ก็ใช้ได้บนโลกใบนี้ได้หมด สิ่งที่เราทำมาจากอดีต จนปัจจุบัน เพื่อวางแผนในอนาคตก็ยังหนีไม่พ้นเรื่องของ wellness เพราะยังเชื่ออยู่ว่า เป็นเรื่องที่ขาดกันไม่ได้ในการใช้ชีวิตของคนเรา

cr. ภาพ RLAX.ME

ในแอพพลิเคชั่น RLAX มีระบบการจัดเตรียมพนักงานนวด ลูกค้าไม่ต้องเตรียมอะไร มีที่นอน มีน้ำมันหอม มีทุกอย่างเหมือนยกสปาไปไว้ที่บ้านของคุณเอง เพราะฉะนั้นความปลอดภัยแน่นอน เพราะเรามีโรงเรียนสำหรับผู้ให้บริการ therapist ต้องผ่านการเรียนจากโรงเรียนไทยโอเอซิสสปาพนักงานต้องได้รับใบรับรองการตรวจสอบอาชญากรรม ความปลอดภัยด้านโควิด เรื่องของสุขอนามัย การตรวจสอบเรื่องคุณภาพการบริการ ทุก feedback ของลูกค้าก็จะกลับมาที่เรา เกิดเหตุการณ์อะไรจะรู้ทันทีเพราะการใช้ไอที จะรู้ว่าพนักงานเทอราปิสท่านนี้ไปถึงเวลากี่โมง ใช้ massage กี่โมง monitor เพราะฉะนั้นจะ related กับ consumer review ระบบจะสามารถ monitor ได้ โดยไม่มีอะไรปิดบัง

RLAX.ME massage delivery https://rlax.me/th

ข้อดีคือ พนักงาน เทอราปิส รับงานแบบนี้ เป็นการรับงานนอกบ้านที่ไม่ผิดกฎหมาย พนักงานนวดไม่ใช่แค่พนักงานนวดของโอเอซิสสปาเท่านั้น แต่พนักงานนวดทั่วไป เพือเพิ่มรายได้ สร้างงาน ซึ่งวิธีคัดเลือก เทอราปิส คือดูทักษะ ประสบการณ์ โดยต้องมีใบรับรองจากสาธารณสุข รับรองผ่านการเรียนได้รับใบประกาศ เป็นพื้นฐาน ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม หลังจากนั้น ต้องได้รับการฝึกอบรมเพื่อให้พนักงานอยู่บนมาตรฐานของโอเอซิสสปา ปัจจุบันหลายร้อยคนที่มาลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ ส่วนเรื่องผลตอบรับเป็นอย่างไร ช่วงนี้อยู่ในช่วงไม่ปกติ จึงยังไม่สามารถวิเคราะห์ได้ แต่คิดว่าเป็นอนาคตที่ดี ทุกคนที่เข้ามาในส่วนหนึ่งของแอพฯ จะได้ค่าตอบแทนเป็นชั่วโมง มีรายได้ที่แน่นอนเลย ซึ่งมองว่าคนที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือพนักงาน เทอราปิส เหตุผลที่เขาจะมาจอยแอพพลิเคชั่นเพราะมีความเชื่อมั่นว่าปลอดภัยอย่างแน่นอน และตรวจสอบขั้นตอนได้ ในขณะเดียวกัน อดีตที่ผ่านมาอาจจะเรียกจากศูนย์นวด แต่ไม่มีประวัติการตรวจสอบ แอพพลิเคชั่นที่เกิดขึ้นนี้เป็นแอพฯ ที่ทำให้เทอราปิส มีความปลอดภัยและลูกค้าปลอดภัยสูงสุด ตรวจสอบได้ทั้งสองฝั่ง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการรับบริการ โดยมี GPS ในการตรวจสอบตำแหน่งการเข้าทำงาน ระบุตำแหน่งได้อย่างชัดเจน ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งของแอพฯ ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบการใช้บริการ
นวดที่บ้านหันมาสนใจเป็นสมาชิกของ RLAX มากขึ้น

cr. ภาพ RLAX.ME

RLAX.ME เป็นแบรนด์ใหม่ของโอเอซิสสปา ทีมทำงานคนละทีม เพราะเรามีจอยเวนเจอร์โดยไม่อยากให้เด็กต้องไปทำงานสองงาน ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการวางแผนไว้แต่ช่วงสถานการณ์แบบนี้ ทำให้เดินหน้าไปก่อนเพื่อรองรับสถานการณ์โควิด-19 ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนาให้ธุรกิจสามารถตอบความคาดหวังของลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น
เหตุผลที่ทำแอพพลิเคชั่นนี้ คือ ต้องการขยายธุรกิจใหม่การขยายธุรกิจนำไปสู่การ support พนักงานเทอราปิสที่ไม่มีงานทำพนักงาน เทอราปิส ซึ่งโอเอซีสมีมาตรฐานที่ดีอยู่แล้ว โดยเข้าสู่ระบบ RLAX.ME มีโอกาสเข้าร่วมงานเป็น freelance รับผิดชอบตัวเอง เรื่องมาตรฐานของการให้บริการเป็นมาตรฐานเดียวกันกับโอเอซิส แต่ผมไม่ได้นำตรงนี้มาเป็นจุดขาย เพราะว่า พนักงานโอเอซิสไม่ได้มีทั่วโลก แต่เป้าหมาย คือ การจายการให้บริการไปทั่วโลก สิ่งที่เราจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าตอนนี้คือ โอเอซีส มีโรงเรียนไทยโอเอซิส
สปา ถือเป็นจุดที่สามารถนำมาโปรโมท โนว์เลท โนว์ฮาว จากรร.นี้โดยตรง
ที่สามารถพัฒนามาตรฐานให้กับพนักงานของ RLAX.ME มาจากโอเอซิสหรือพพนักงานทั่วไปที่ต้องการหารายได้พิเศษ ทำงานเป็นนายของตัวเอง สามารถเข้าร่วมกับแอพพลิเคชั่น RLAX.ME โดยการผ่านการตรวจสอบการคัดกรองตามมาตรฐาน ผมเปิดแอพพลิเคชั่นนี้ ในต่างประเทศ สมมติว่า ไปเปิดที่ประเทศเยอรมัน เปิดโซนตรงไหน วันที่เราพร้อมเราเปิดให้บริการที่เยอรมัน เปิดรับพนักงาน เทอราปิสที่เยอรมัน เพราะรีไวเม้นท์ค่อนข้างต่างกัน โดยต้องให้เข้ากับกฎหมายของประเทศนั้นๆ ยกตัวอย่างเหมือน Grab แอพฯ เดียวสามารใช้ได้ทั่วโลก เช่น ใช้บริการ ที่ลาว เยอรมัน ใครก็แล้วแต่ที่ประเทศนั้นๆ สนใจร่วมงานกับ RLAX.ME ก็เข้ามาสมัคร เป็นเรื่องของการจัดการที่เราต้องทำ โดยหา local partner โดยไม่ต้องลงทุนสิบหรือยี่สิบล้าน อย่างที่ผ่านมาผม เปิดโอเอซิสที่ทองหล่อ ลงทุนสามสิบล้าน เปิดได้เดือนดียวเจอโควิดต้องปิดลง เรามองว่าคนไทยในเยอรมัน มีจำนวนมหาศาลมาก ยิ่งเป็นแอพพลิเคชั่นของคนไทยเขายิ่งมั่นใจ

cr. ภาพ RLAX.ME

ผมแยกโอเอซิสสปา กับ RLAX.ME เป็นธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยผ่าน BOI ซึ่ง defend ให้เข้าใจ เพราะ BOI ไม่ใจว่า ทำไมต้องนวดที่บ้าน แล้วจะสร้างงานสร้างเงินให้กับคนไทยได้อย่างไร ถ้าเรามีพนักงานสามพันคน นั่นคือการจ้างงาน รายได้จากการจ้างงานของ เทอราปิสส่วนหนึ่งจึงมองเห็นภาพด้วยศักยภาพความเข้มแข็งของทีมงานทำให้ ผมสามารถเปิด RLAX.ME ในจังหวัดที่ต้องการได้ในหนึ่งสัปดาห์ ตอนนี้ที่หัวหินกับกรุงเทพฯ เป็นตลาดใหญ่ที่สุดมีลูกค้าประจำเร็วมาก สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นผู้นำ อันดับแรก คืออยากให้ดูตัวเองก่อนว่าตัวเองจะอยู่รอด ณ จุดไหน ถ้าเราอยู่แล้วรอดให้ไปอยู่ที่นั่น ที่พูดแบบนี้คือบางครั้งคนที่ทำงานในองค์กรแล้วองค์กรรู้สึกว่าไม่ได้ส่งเสริมให้ทั้งสองฝ่ายอยู่รอด ในฐานะผู้นำ ต้องดูว่าอยู่ตรงไหนถึงจะพาทีมงานให้อยู่รอด พนักงานบางคนเลือกกลับไปอยู่บ้านนอก เพื่อความอยู่รอด ย้อนกลับมาว่า ในฐานะที่เป็นคนที่ต้องเอาชีวิตให้รอดในสถานการณ์แบบนี้ เขาน่าจะรู้ตัวเองที่สุดว่า เขาอยู่ตรงไหนแล้วจะรอด มันบอกไม่ได้ว่าจะต้องใช้อะไร แต่ละคนปัญหาไม่เหมือนกัน แม้กระทั่งตัวผมเอง ชีวิตในวันนี้เปลี่ยนไปมาก ไม่ได้รู้สึกว่ารันทด เพราะรันทดจะทำให้ถดถอย แต่เรารู้สึกว่าต้องมี positive energy มาส่งเสริมให้เรามีพลังในการใช้ชีวิตต่อไป

-ภาคิน พลอยภิชา กรรมการผู้จัดการ โอเอซิสสป

สรุปบทสัมภาษณ์ของ ทวีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร TK Palace

วันนี้….หากใครก้าวเข้าไปยังโรงแรม ทีเค พาเลซ จะสัมผัสได้ถึงโฉมใหม่ของสถานที่แห่งนี้ แต่รู้หรือไม่ว่า เรื่องราวของผู้ชายชื่อทวีศักดิ์ พันธุ์เสงี่ยม ประธานกรรมการบริหาร ทีเค. จุดเริ่มต้นจาก ความตั้งใจที่ต้องการพัฒนาโรงแรม ที.เคใหญ่ขึ้น และเป็นหนึ่งในกิจการโรงแรมที่ยิ่งใหญ่และดีที่สุดใน ย่านแจ้งวัฒนะ พร้อมให้บริการอย่างดีที่สุด

คุณทวีศักดิ์ พันธุ์เสงี่ยม เริ่มเล่าให้ฟังว่า … ย้อนหลังไป 3 ปีที่แล้ว จนถึงในปัจจุบัน จะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของ ทีเค. โดยมองเรื่องของวิสัยทัศน์ก่อนว่า วันนี้ การทำธุรกิจอะไรก็ตาม ต้องไม่มีอะไรเหมือนกัน ต้องสร้างความแตกต่างเพื่อสร้างจุดขาย

ผู้ชายคนนี้มีเบื้องหลังแนวคิดการทำธุรกิจอย่างไร?
จุดเริ่มต้นในธุรกิจนี้ วิสัยทัศน์ของผม มีเพียงแค่การอยู่รอด และช่วงสามปีต่อจากนี้ไป เราคิดกันว่า น่าจะมีโรงแรมที่ไม่เหมือนคนอื่น เน้นเรื่องของ Green hotel เราลงทุน กับการปลูกต้นไม้ทั้งหมด 10 กว่าล้านบาท และนำสถาปนิก ปรับเปลี่ยนดีไซน์ทุกส่วนในพื้นที่ของโรงแรม ไม่ว่าจะเป็น ล็อบบี้ ห้องพัก ห้องประชุมสัมมนา ต้นไม้ พรม วัสดุอุปกรณ์ภายในห้องพัก ปรับเปลี่ยนใหม่ให้มีความทันสมัย

ผมคาดหวังว่า โรงแรมเราจะกลายเป็นหนึ่งในกิจการ โรงแรมที่ดีแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ขณะเดียวกัน มีเพื่อนที่คอยสนับสนุนและพร้อมจะลงทุนไปด้วยกัน โดยการร่วมทุน 1,500 ล้านบาท เพื่อนที่พูดถึงคือ นิ่มซี่เส็ง ซึ่งประกอบธุรกิจมาสามสิบกว่าปี ผมโชคดีที่มีนายทุนเป็นเพื่อนสนิท ให้แบบไม่มีข้อแม้ เหมือนเป็นเพื่อนและเป็นผู้ที่มีพระคุณกับโรงแรมของเรา”

การทำธุรกิจโรงแรมในวันนี้ ต้องมีวิสัยทัศน์ มองหลายมิติ โรงแรมมีลักษณะผสมผสาน เพื่อให้มาตรฐานสากล โรงแรมส่วนมากคนมีทุนสูง มีเงินเยอะเป็นเจ้าของ โดยจ้าง GM เข้ามาบริหาร เขาก็จะบอกกับ GM ว่า จะต้องทำยอดให้ได้สมมติเดือนละ 30 ล้าน ทีนี้ GM กับลูกน้อง Relation ไม่ค่อยมี GM ต้องปั้นเงินให้ได้ เพื่อนำพาตัวเองให้รอด การทำงานไปกดดันกับลูกน้อง ลูกน้องก็อยู่ยาก และลาออกในที่สุด สำหรับที่ ทีเค เจ้าของจะยืนอยู่เคียงข้างคู่กับลูกน้องเสมอ เพราะผมเชื่อว่าในอนาคตเราจะเติบใหญ่ขึ้น และโตกว่านี้ไปด้วยกันอย่างแน่นอน

แนวคิดการบริหารโรงแรมหลังผุดอาคารหรู
คุณทวีศักดิ์ เล่าว่า …เราสร้างอาคารใหม่โดยกลุ่มเป้าหมาย ผมมองว่าถนนแจ้งวัฒนะเป็นย่านคนรวย แต่จะพบว่าที่ถนนแห่งนี้ ไม่มีโรงแรมระดับที่ว่าเข้ามาแล้วประทับใจ สำหรับเรา ผลตอบรับคือลูกค้าค่อนข้างพอใจพร้อมสัมผัสลุคใหม่กับทีเค บนถนนแจ้งวัฒนะ ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ได้พักผ่อนควบคู่ไปกับการทำงาน ในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็น การประชุมหรือสัมมนา สามารถดำเนินธุรกิจ จนประสบความสำเร็จภายใต้สภาพแวดล้อมของสังคมไทย

ด้วยพื้นที่ใช้สอย และในอนาคต จะใช้นโยบายการสร้างความแตกต่างเรื่อยๆ …คัดเกรดลูกค้า และสร้างแรงจูงใจ รวมถึงงานดีไซน์ที่ถูกออกแบบตกแต่งมาอย่างดี อย่างล็อบบี้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจุดแข็งของโรงแรมทีเค ถามว่าเหนื่อยมั๊ย? กับการลงทุน ต้องยอมรับว่าเหนื่อย แต่ทุกวันนี้พอใจกับกระแสตอบรับของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อถึงจุดหนึ่งจะเลือกได้ว่า…จะรับลูกค้ากลุ่มไหน?

ปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายเป็นคนไทย 60% ที่เหลือ คือต่างชาติและแขกที่เป็นเอเย่นต์ คอร์เปอร์เรท ณ วันนี้ ธุรกิจโรงแรม สร้างรายได้ไม่ cover เงินกู้ มองแบบนักเศรษฐศาสตร์ที่มองสองทาง ทั้ง direct และ indirect ไดเรคคือ ทางตรง และอินไดเรค ที่จะมาจากรถไฟฟ้า ซึ่งจะเปิดทางให้ลูกค้าเข้ามา ….นี่คือเป้าหมาย”

คุณทวีศักดิ์ พันธุ์เสงี่ยม

ภายใน 3 ปี โรงแรมต้องขายตัวเอง 50% ขึ้นไป รายได้เดือนหนึ่งสุมมติ 30 ล้าน โรงแรมต้องขายตัวเองได้ 20 ล้าน นอกนั้นเซลล์ขาย ถ้าทำได้จะสบายในระยะยาว การที่เราจะบริหารจัดการไปได้ ต้องอยู่ที่สินค้าอย่างเดียวเท่านั้น เมื่อลูกค้าเข้ามาแล้วบอกต่อ วันนี้มีการพัฒนาเรื่องของอาหาร มี F&B ช่วย จะบริการเพียงห้องพักอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีประชุมสัมมนา จึงจะถึงเป้า 30 ล้านใน 3 ปีข้างหน้า

อย่าไรก็ดี ด้วยพื้นที่ใช้สอย ตระหง่านบนพื้นที่ 30ไร่ ริมถนนแจ้งวัฒนะ โรงแรมใช้พื้นที่เต็มจำนวนทั้งหมด โดยในปัจจุบัน ราคาซื้อขายกัน 500,000 บาท 10 ไร่ 2,000 ล้าน เลยหนี้ ในแต่ละวันแอคทีฟเก็บเงินได้
ทุกวัน ถือเป็นทรัพย์แอคทีฟ ทำให้มีมูลค่าทางธุรกิจสูงและทรัพย์สิน ซึ่งผมเป็นหนี้ 1,500 ล้านบาท จะผ่อนไป 3-40 ปีมั๊ย? สมกับความตั้งใจและโดยฝีมือของสถาปนิก ภายใต้แนวคิดที่ผสมผสานธรรมชาติ มนุษย์ ด้วยเหตุผลโรงแรมของเรามีพื้นที่จำนวนมาก ทำให้เรามีจุดแข็งที่จะแข่งขันกับโรงแรมในเมืองที่มีพื้นที่น้อย

ดังนั้น ในยุคนี้ งานบริการ มีความเปลี่ยนแปลงไปมาก ผมจะเน้นเรื่องเพื้นที่
สีเขียว สวนสวยเป็นเรื่องสำคัญ ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเริ่มเห็นภาพลักษณ์ใหม่ เริ่มตั้งแต่บริเวณทางเข้าด้านหน้าโรงแรม สีเขียวโดดเด่น ส่วนด้านใน Lobby โดยเฉพาะส่วนของคอฟฟี่ช็อปในปัจจุบัน ถูกปรับให้เป็นห้องอาหารหลักของโรงแรม ตกแต่งสไตล์รีสอร์ท พร้อมประดับตกแต่งสวนสวยสีเขียว มีระเบียงไม้สุดชิค และที่สำคัญ มีการผสมผสานกันระหว่างอาคารสมัยใหม่อย่างลงตัว

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญของธุรกิจโรงแรม ส่วนสำคัญที่สุด คือ งานบริการ ซึ่งนั่นหมายถึง บุคลากรของโรงแรม ซึ่งผู้บริหารโรงแรมทีเคฯ กล่าวถึงปัญหาและแนวทางการบริหารทรัพยากรบุคคลเช่นกัน คุณทวีศักดิ์ กล่าวว่า “วันนี้เหมือนกับการก้าวกระโดด โรงแรมเราไปถึง 5 ดาว แต่บุคลากรยังตามไม่ทัน ซึ่งในเวลานี้่ แม้กระทั่งเจ้าของยังตามไม่ทัน บางครั้งนอนตื่นมายังคิดว่าฝันไปรึเปล่า!

สิ่งที่ดีที่สุด คือเราสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับบุคคลาการ ทุกสิ่งทุกอย่างเติบโตไปถึงจุดหนึ่ง แต่ถ้าบุคลากรของเรายังช้า ต้องมีการอบรมและพัฒนาการทำงาน การปรับตัวให้ทันยุคสมัย เพราะวัฒนธรรมของโรงแรมเราคือต้องการให้พนักงาน win win กับเราด้วย ทุกคนไม่ได้ทำงานเพราะเงินเดือนเพียงอย่างเดียว แต่พนักงานทุกท่านทำด้วยสปิริต ซึ่งโรงแรมมีการดูแลด้านสวัสดิการอย่างเต็มที่ มีงบห้าล้านเป็นสวัสดิการของพนักงาน อีกทั้งเงินเดือนจะพิจารณาปรับขึ้นตลอด เพราะเจ้าของไม่ได้หวังวันนี้ เจ้าของหวังอีกสามปี เพราะการไม่ได้หวัง พนักงานช่วยเต็มร้อย การทำงานในปัจจุบันมีไลน์กลุ่มกับลูกน้องทั้งหมด จะดูเสมอว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ผมได้ประสบการณ์มากมายจากการทำงานร่วมกับพนักงานตรงนี้ ได้มีโอกาสร่วมงานกับผู้ร่วมงานที่มีความหลากหลาย ได้ศึกษาคนและอารมณ์ของคน รวมไปถึงการฝึกคนหรือพนักงานบริการให้มีความอดทน รักในงานบริการ ยิ้มให้เพื่อนร่วมงาน และสนับสนุนให้พนักงานมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมให้น่าอยู่

ผู้บริหาร ทีเค พาเลซ กล่าวถึง แนวนโยบายด้านการตลาดว่า แนวทางการทำตลาดในลักษณะของไลฟ์สไตล์ที่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง การใช้ช่องทางการขายผ่านออนไลน์ ที่ผ่านมา ในเดือนมีนาคม เป็นช่วงที่พีคที่สุดถึง1,200 ห้อง/ไนท์ ซึ่งมาจากการปรับเรื่องข้อมูลออนไลน์และช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยตั้งเป้าไว้ที่ 1,500 รูมไนท์ ข้อดีของการขายออนไลน์คือขายห้องอย่างเดียวไม่ต้องกังวลถึงเรื่อง เบรกฟาสต์

โรงแรมตั้งมา 25 ปีแล้ว ผมทำงานตั้งแต่ปี 2 สมัยเรียน ม.เกษตร จนจบเศรษฐศาสตร์และจบ MBA ม.เกษตร เช่นกัน วัคซีนค่อนข้างแข็งแรง มีปัญหาเข้ามาก็พร้อมที่รับมือ

การทำงานทุกอย่าง หากเราทำด้วยใจก็จะทำให้การทำงานนั้นมีประสิทธิ์ภาพสูงสุด โดยเฉพาะงานด้านบริการจะต้องคำนึงถึงการเอาใจเขามาใส่ใจเรา เราจะต้องบริการลูกค้าอย่างที่เราคาดหวังว่าเราจะได้รับการบริการเช่นเดียวกัน….ทำธุรกิจอะไรก็ตามต้องต่อยอดไปได้หรือไม่ อยู่ที่การคิด การใช้สมอง และอย่าคิดระยะสั้น ต้องมองระยะยาวไม่ใช่การขายไปวันๆ ธุรกิจโรงแรมต้องเข้ามาคลุกคลีจึงจะเห็นปัญหา แต่เรากลับสนุกกับปัญหาได้อยู่กับลูกค้า ชินกันคุ้นเคยกันไปหมด อยู่กันแบบสบายๆ แต่ละเดือนวันนี้ลูกค้าอยู่ที่ 80 % ถือว่าถึงจุดที่โอเคแล้ว

“อยากบอกว่า ทั้งหมดนี้คือการเปลี่ยนแปลงที่ธุรกิจโรงแรมต้องปรับตัวอย่างมหาศาล เพื่อรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป”

ทุกวันนี้ เงินหายากไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อน พฤติกรรมต้องเปลี่ยนให้ทัน ต้องคิดว่าเทคโนโลยีเข้ามาแล้วจะแก้กับมันอย่างไร ไม่ใช่พอเทคโนโลยีเข้ามาแล้วบอกว่าตัวเองไม่เอาแล้วไม่ได้” คุณทวีศักดิ์ กล่าวท้ายสุด

สถานที่ : โรงแรม TK.Palace Hotel & Convention
ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพ
ที่อยู่: 54/7 ถนน แจ้งวัฒนะ แขวง ทุ่งสองห้อง เขต หลักสี่
กรุงเทพมหานคร 10210 โทรศัพท์: 02 574 1588

แผนที่คลิ๊ก
https://goo.gl/maps/8mCDCoZ7GZQgPzP5A


เปิดตัวโรงพยาบาลพานาซี พระราม2

มิติใหม่ของโรงพยาบาลเฉพาะทางมาตรฐานระดับสากลจากประเทศเยอรมนี

มิติใหม่ของโรงพยาบาลเฉพาะทางที่ให้บริการทางการแพทย์แผนปัจจุบันและการแพทย์ทางเลือกแบบองค์รวม เน้นการรักษาจากต้นเหตุของการเกิดโรครวมไปถึงการป้องกันการเกิดโรค ที่มีความปลอดภัย  การชะลอวัยและการส่งเสริมสุขภาพ โดยทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ได้รับมาตรฐานสากล  จากประเทศเยอรมนีเพื่อผลลัพธ์ที่ประสิทธิภาพในการรักษา ด้วยการบริการอย่างเหนือระดับในบรรยากาศที่อบอุ่นเสมือนบ้าน

รอ.นพ. สุรชา ลีลายุทธการ ผู้อำนวยการรพ.พานาซี พระรามสอง (มหาชน) ยุรนันท์ ภมรมนตรี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พานาซีเมดิคอลเซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) และ ศิริญา เทพเจริญ รองประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด

ใครๆ ก็อยากมีสุขภาพดี เพราะการไม่มีโรคถือเป็นลาภอันประเสริฐประโยคคุ้นเคยที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเรื่องจริงไม่ว่าจะอดีตหรือปัจจุบันไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันและการดูแลตนเองของแต่ละคนล้วนมีความแตกต่างกัน โดยคนส่วนใหญ่มักเจ็บป่วยแล้วจึงหาหนทางรักษาโรคมากกว่าการป้องกันตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดโรคเอกลักษณ์ในด้านการบริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลพานาซี พระราม 2 การป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้เจ็บป่วยก่อนถึงจะเข้ารับการรักษาเน้นดูแลรักษาการเจ็บป่วยที่ต้นเหตุ ทั้งกายและใจ

วิษณุ  เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) ศิริญา เทพเจริญ รองประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด

วิษณุ  เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) ศิริญา เทพเจริญ รองประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน)และยุรนันท์ ภมรมนตรี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พานาซีเมดิคอลเซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานเปิดตัวโรงพยาบาลพานาซี พระราม2

รอ.นพ. สุรชา ลีลายุทธการ ผู้อำนวยการรพ.พานาซี พระรามสอง

โรงพยาบาลพานาซี พระราม2 นำนวัตกรรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์จาก  ประเทศเยอรมนีมาประยุกต์ใช้ให้ ผู้รับบริการมีสุขภาพที่ดี และชีวิตที่ยืนยาว ด้วยการรักษา แบบองค์รวมจากแพทย์เฉพาะทางซึ่งออกแบบการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ดูแลรักษาโรคจากสาเหตุได้อย่างตรงจุด โดยไม่ใช้ยา สารเคมี หรือการผ่าตัด การบริการของโรงพยาบาลพานาซี พระราม 2 ประกอบไปด้วย ศูนย์ตรวจสุขภาครอบคลุมทุกระบบของร่างกายและทราบผลอย่างรวดเร็ว,  ศูนย์วัคซีนเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายในการต้านทานโรค ด้วยวัคซีนที่มีคุณภาพ  ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล  ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก,วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบและวัคซีน อื่นๆ  ที่จำเป็นต่อร่างกายอีกมากมาย

เพื่อตอบสนองการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ของทุกเพศทุกวัย   ศูนย์ข้อและกระดูกโดยไม่ต้องผ่าตัดใช้เทคโนโลยีระดับเซลล์ ผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่และศาสตร์การชะลอวัยลดการเสื่อมสภาพของกระดูกและข้อ ที่มีผลมาจากวัย  และการใช้งานรวมถึงอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา,  ศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัยเสริมสร้างสารต้านอนุมูลอิสระและภาวสุขภาพที่สมบูรณ์ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค รวมถึงยืดระยะเวลาเริ่มต้นการเกิดความเสี่ยงของอวัยวะที่สำคัญภายในร่างกายโดยให้การดูแลสุขภาพแบบเฉพาะบุคคลภายใต้สภาวะแวดล้อมที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว

รอ.นพ. สุรชา ลีลายุทธการ ผู้อำนวยการรพ.พานาซี พระรามสอง เภสัชกร ภัทรพงศ์ กาฬภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พานาซี เมดิคอล กรุ๊ป และศิริญา เทพเจริญ รองประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน)

เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับประโยชน์และความพึงพอใจสูงสุด  ศูนย์พัฒนาศักยภาพสมอง ปลุกศักยภาพสมองโดยการตรวจประเมินและปรับคลื่นสมอง ด้วยโปรแกรม Mind Detoxพร้อมทั้งโปรแกรมฝึกฝนและพัฒนาสมองโดยไม่ใช้ยาใช้เทคโนโลยีใหม่คลื่นเสียง  Emo wave & Emo Pill
ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในหลายประเทศทั่วโลกให้สมองมีการปรับตัวและเกิดความสมดุลเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง  ศูนย์ผิวพรรณ และความงาม ด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางกับเครื่องมือที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยพร้อมดูแลผิวให้สวยสุขภาพดีจากภายในสู่ภาย นอก, ศูนย์สุขภาพชายและหญิง คืนความสุขให้ชีวิตคู่ด้วยการวิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริงของภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ พร้อมการเสริมสร้างฮอร์โมน  ที่มีโครงสร้างทางโมเลกุลแบบเดียวกับฮอร์โมนธรรมชาติ  ที่ร่างกายผลิตได้เองกับการรักษาที่คลอบคลุมโดยใช้นวัตกรรมที่ทันสมัย

นอกจากนี้โรงพยาบาลพานาซีพระราม 2 ยังรับผู้ป่วยโรคทั่วไป  อาทิ เบาหวาน,ความดัน อีกด้วย ในอนาคตโรงพยาบาล พานาซี พระราม 2 วางแผนไว้ว่าในปลายปี 2561 จะเปิดศูนย์การแพทย์ที่คลอบคลุมมากยิ่งขึ้น อาทิ ศูนย์ผู้มีบุตรยาก ทางเลือกใหม่ในการแก้ปัญหาภาวะมีบุตรยากสามารถช่วยเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์ และคัดเลือกยีนเด่นได้อีกด้วย,ศูนย์ศัลยกรรมความงามด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ใส่ใจในเรื่องการดูแลความงามอย่างแท้จริงกับนวัตกรรมและ เทคโลยีที่ทันสมัยเพื่อความงามที่ผู้ใช้บริการสามารถออกแบบได้,ศูนย์ทันตกรรม สร้างสรรค์รอยยิ้มของคุณโดยทีมทันตแพทย์เฉพาะทางชั้นนำ

ศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน)

รอ.นพ. สุรชา ลีลายุทธการ/เภสัชกร ภัทรพงศ์ กาฬภักดี /ศิริญา เทพเจริญ

ศิริญา  เทพเจริญ  รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท ณุศาศิริ  จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การเปิดโรงพยาบาล พานาซีพระราม 2 เป็นความตั้งใจตั้งแต่เมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว เป็นช่วงที่คุณปู่เสีย  เลยคิดว่าถ้าพ่อแม่เราไม่สบาย จะมีโรงพยาบาลที่ไหนที่ช่วยดูแลฟื้นฟูรักษาและใช้ยาเคมีที่น้อยที่สุด ก็เลยเกิดแนวความคิดอย่างเดียวเลยว่า…เราต้องสร้างโรงพยาบาล

นโยบายของพานาซีพระราม 2 คือ เพราะความเจ็บป่วยป้องกันได้ จึงเน้นในเรื่องของการดูแลรักษาจากต้นเหตุการเกิดโรค แนวทางการป้องกัน ตรวจลึกไปถึงดีเอ็นเอ เพื่อทำการรักษาให้ถูกเฉพาะบุคคล เพราะคนแต่ละคนการให้วิตามินหรือการรักษาย่อมแตกต่างกัน  ยีนส์ของแต่ละคนจะสามารถบอกได้ว่าในอนาคตคุณมีความเสี่ยงจะเป็น โรคต่างๆ  เป็นเปอร์เซ็นต์เท่าไหร่
จึงจ่ายการรักษาให้ตรงจุดและเสริมสร้างการป้องกันโรคให้ถูกต้อง

เภสัชกร ภัทรพงศ์ กาฬภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พานาซี เมดิคอล กรุ๊ป

ด้านนักร้องสาวมั่นในวัยเลขสามต้นๆ อย่าง ดิษยา กรกชมาศ  ให้ความคิดเห็นว่า “ส่วนตัวไลฟ์สไตล์ติวเต็มที่กับ ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องกิน ทำงานเที่ยว สุขภาพทั้งตัวติวเองและคนในวัยเดียวกับติวจะเริ่มตระหนัก และเข้าใจคำพูดที่ว่าให้ดูแลสุขภาพของตัวเองก่อนที่จะสายเกินไป ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังสุขภาพดี ก็ไม่ควรชะล่าใจ ถ้าเรารู้ถึงความเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายก็มีโอกาส
ที่จะป้องกันได้ค่ะ”

อภินรา ศรีกาญจนา สาวเก่งความสามารถรอบด้าน กล่าวว่า   เป็นคนกิจวัตรแน่นมากในแต่ละวัน พยายามบาลานซ์ชีวิตการทำงานและแบ่งเวลาไปพักผ่อนบ้าง คนเราต้องคอยตรวจเช็คร่างกายอย่างสม่ำเสมอ บางทีภายนอกดูสดใสแต่ภายในอาจจะไม่เวิร์คก็เป็นได้ปรางค์คิดว่าถ้าเรามีการรักษาแพทย์ทางเลือกที่ช่วยป้องกันสุขภาพเราให้ดีขึ้นได้เราก็ควรจะทำ อย่างโรคมะเร็งก็สำคัญค่ะ เป็นโรคที่รักษาไม่ได้ แคมเปญของรพ.พานาซี พระราม 2ที่เชิญชวนให้มาตรวจหาความเสี่ยงมะเร็งน่าสนใจมากค่ะ การทำบุญกับคนทำบุญกับเรื่องสุขภาพเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วค่ะ

เนื่องในโอกาสเปิดโรงพยาบาลพานาซี พระราม 2  จัดแคมเปญพิเศษเปิดบ้านชวนคุณร่วมทำบุญ 9,999 บาท  ต่อชีวิตผู้ป่วยโรคมะเร็งกับโปรแกรม “อย่ารอให้ถึงวันที่สายมะเร็งรู้ก่อนป้องกันได้” (Before It’s Too Late) ตรวจหาความเสี่ยงโรคเรื้อรังและโรคมะเร็ง, สารบ่งชี้มะเร็งในร่างกาย สารพิษโลหะหนัก , การตรวจ Apo-E คัดกรองความเสี่ยงโรคหัวใจและอัลไซเมอร์

รวมถึงการตรวจวัดความแข็งแรงของหลอดเลือด และความสมดุลของระบบต่างๆภายในร่างกาย  ในราคาพิเศษที่สุด 9,999 บาท

พิเศษยิ่งไปกว่านั้น รับฟรีอีก 1 โปรแกรม Detoxification Treatment
ที่คุณเลือกได้ (Ozone Therapy, Colon Detox , Facial Detox ,Chelation จำนวน 1 ครั้ง) รวมมูลค่ากว่า 32,900 บาท
เปิดรับตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม 2561จำนวน 1,000 คนเท่านั้น

โดยนำรายได้ทั้งหมด  ไม่หักค่าใช้จ่ายมอบให้โรงพยาบาสมุทรสาครเพื่อดูแลผู้ป่วยมะเร็งยากไร้ มีเหล่าเซเลบริตี้และคนดังมากมายเข้าร่วมแคมเปญ อาทิ ม.ล.อรรถดิศ ดิศกุล, อภินรา ศรีกาญจนา, ขนิษฐา ดรุณเนตร, จุฬาลักษณ์ ปิยะสมบัติกุล, ดิษยา กรกชมาศ, ปรัชญมน บุรณศิริ,  แพรวปรียา ชุมสาย ณ อยุธยา, หฤทัย ไชยันต์ ณ อยุธยาและ จรสพรรณ สวัสดิวัฒน์
ณ อยุธยา พานาซีขอเรียนเชิญให้คนไทยมาร่วมทำบุญ พร้อมป้องกันความเสี่ยงโรคมะเร็ง

“Before It’s Too Late…อย่ารอให้ถึงวันที่สาย ….โรคร้ายรู้ก่อนป้องกันได้ ” PANACEE HOSPITAL RAMAII มิติใหม่ของโรงพยาบาลเฉพาะทาง เน้นการป้องกันโรคอย่ารอให้ถึงวันที่สายมะเร็งรู้ก่อนป้องกันได้ไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่าการที่เราหันมาดูแลตัวเองก่อนถึงวันที่สายไปปัจจุบันวิวัฒนาการทางการแพทย์ในทุกวันนี้ก้าวไปไกลกว่าที่คิด

ร่วมสัมผัสกับโรงพยาบาลแนวใหม่พร้อมเหล่าเซเลบริตี้และคนดังอีกมากมายที่มาร่วมงาน

ในวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน  2561 ที่โรงพยาบาลพานาซี พระราม 2
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : PANACEE HOSPITAL RAMAII
โทร. 02-452-2999
@panacee_hospital

Tommy Tang สุดยอดเชฟเซเลบฯ ระดับตำนานของดาราฮอลลีวู้ด

เจ้าของตำราการทำอาหารชื่อว่า
“อาหารไทยยุคใหม่”

สัปดาห์นี้ ขอชวนแฟนๆ รายการ  เชฟทัวร์ ครัวติดดิน Street  Chefs  มารู้จักและ พูดคุยกับเชฟอาหารไทย ขวัญใจฮอลลีวูด Tommy Tang (ทอมมี่ แทง) รายการน้องใหม่ “เชฟทัวร์ ครัวติดดิน Street Chefs”  เป็นรายการที่จะพาไปเฟ้นหาร้านอร่อยสุดๆ  ค้นหาวัตถุดิบสุดเด็ดประจำท้องถิ่นนั้นๆ แล้วนำมารังสรรค์เป็นเมนูใหม่จานพิเศษ  ด้วยฝีมือของเชฟทอมมี่ Tommy Tang หนึ่งในผู้บุกเบิกที่ทำให้อาหารไทยเป็นที่รู้จัก นิยมในอเมริกา และทั่วโลก  ตั้งแต่เด็กจนโต จากการเดินทางไปเสี่ยงโชคที่ประเทศอเมริกา

Tommy Tang เริ่มด้วยการเป็นผู้จัดการวงดนตรีร็อก และ  Music Producer และมาเริ่มชอบทำอาหารมาตั้งแต่เริ่มงานในตำแหน่ง  ผู้จัดการร้านและเป็นเชฟร้านอาหารไทย ความสนใจในอาหารรสเลิศที่เพิ่มมากขึ้น กำลังช่วยยกระดับอุตสาหกรรมนี้ ทำให้บรรดาเชฟท้องถิ่นก็เรียนรู้เพิ่มขึ้นจากร้านอาหารในต่างประเทศ โดยใช้เวลาแค่เพียง 1 ปี แต่ในที่สุด Tommy Tang ได้ค้นพบว่าคำตอบสำหรับชีวิตที่แท้ของเขานั่นคืออาหาร ด้วยความสามารถและเป็นเอกลักษณ์ของ Chef Tommy Tang   อาหารไทยก็เป็นที่รู้จัก และนิยม โดยมีเหล่า Celebrities คนดัง ระดับฮอลลีวูด ติดใจกับอาหารไทยที่ Chef Tommy Tang ปรุง เช่น Jackson Browne, Earth Wind and Fire, Queen, Orson Wells, Cher, Tom Cruise, Robin Williams, Billy Crystal

Tommy Tang ทำงานและเรียนในประเทศสหรัฐอเมริกา  โดยในราวปี
คริสศตวรรษที่ 70  จบการศึกษาที่วิทยาลัยพาลอสเวอดี้ในรัฐแคลิอร์เนียภาคใต้ ประสบการณ์จากการได้รางวัลไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ในอเมริกา

-ผู้จัดการวงดนตรีร็อคและผู้อำนวยการผลิตงานเพลง

-ผู้บุกเบิกร้านอาหารและชอปปิ้งบนถนนเมลโรส ปี1986

-เจ้าของและเป็นเชฟทำอาหารที่ร้านอาหารไทย ชื่อร้านTommy Tang
ในเมืองเวสท์ฮอลลีวูด และ ที่นิวยอร์ค ดาราและผู้มีชื่อเสียง เช่น  แจ็กสันบราวน์วงดนตรีเอิร์ธวินด์แอนด์ไฟร์  วงดนตรีควีนวงดนตรีโรลลิ่งสโตนนักแสดงออร์สันเวลส์นักแสดงอย่างแฮริสันฟอร์ดโรเบิร์ทเดอนิโรทอมครูซโรบินวิลเลี่ยมส์บิลลี่คริสตัลเดวิดเลตเตอร์แมนมาเป็นลูกค้าขาประจำ และชื่นชอบอาหารไทยที่ร้านมาก

-เขียนตำราการทำอาหารชื่อว่า “อาหารไทยยุคใหม่” ได้พิมพ์ออกจำหน่ายในปี1991หนังสือเล่มนี้  ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนังสือที่ให้ความกระจ่างของศิลปะในการเตรียมอาหารไทยยุคใหม่

Tommy Tang (ทอมมี่ แทง) รายการน้องใหม่ เชฟทัวร์ ครัวติดดิน Street Chefs

ในที่สุดได้มีการพิมพ์จำหน่ายซ้ำ รวมทั้งหมดแปดครั้งด้วยกัน ใน ปี 1995  สถานีโทรทัศน์ของ PBS USA ได้เชิญ คุณทอมมี่ ทำรายการการทำอาหาร การท่องเที่ยวรายการ TOMMY TANG’S   EASY THAI COOKING  จนกระทั่งรายการฮิตติดอันดับหนึ่งหลายปีติดกัน

Tommy Tang เชฟไทยที่โด่งดัง ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจากการทำรายการทีวีผ่าน PBS อเมริกาประเภทรายการการทำอาหารและการท่องเที่ยวที่ชื่อ  Tommy Tang – Easy Thai Cooking และTommy Tang- Let’s Get Cooking ทางสถานีโทรทัศน์ PBS อเมริกาแคนาดา  ด้วยเรตติ้งสูงสุดหลายปีติดต่อกัน

Tommy Tang (ทอมมี่ แทง) เชฟอาหารไทย ขวัญใจฮอลลีวูด

การเดินทางมาครั้งนี้  เพื่อถ่ายทำรายการ เชฟทัวร์ครัวติดดิน Street Chefs  ทีวีในประเทศไทยเป็นครั้งแรกของ รายการ เชฟทัวร์ ครัวติดดิน Street Chefs ทางช่อง 7 สี  รายการที่เฟ้นหา สุดยอดร้านอร่อย และค้นหาสุดวัตถุดิบคุณภาพดีจากทั่วประเทศ แต่ละชนิดเป็นวัตถุดิบเด็ดประจำท้องถิ่นนั้นๆ  โดย เชฟอาหารไทย ขวัญใจฮอลลีวูด นำมารังสรรค์เป็นเมนูใหม่จานพิเศษ  ทั้งขั้นตอนการปรุงที่มีเทคนิคการจัดเตรียม ตั้งมีด เขียงแต่ละชนิดที่ใช้เตรียมอาหารก่อนปรุง จนจบขั้นตอนเป็นเมนูสุดยอดของแต่ละร้าน

เชฟทัวร์ครัวติดดิน Street Chefs   โดยมี  หนุ่มอนุวัต  และ ปุ้ม  เปรมสุดา
ทำหน้าที่พิธีกร  ทุกวันจันทร์ และ อังคารออกอากาศ เวลา 13.00 น.
ทางช่อง 7 สี

วัตถุดิบทดแทน ที่มาจากการรีไซเคิลขยะ แปรรูปเป็นพลังงานทดแทน

กระบวนการผลิตแล้วนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ เพื่อเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน!

กพร. ตั้งเป้าส่งเสริมและพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย 4.0

กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ตั้งเป้าส่งเสริมและพัฒนาของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทนด้านแร่ โลหะ และสารประกอบโลหะ เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย 4.0 เน้นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วยนวัตกรรมสร้างการมีส่วนร่วมและการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นายวิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่

ตัวอย่างเศษวัสดุต่างๆ ที่สามารถนำมาใช้รีไซเคิล

นายวิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กล่าวว่า… ตามนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมสู่อุตสาหกรรมไทย 4.0 กระทรวงอุตสาหกรรมได้มีการปรับโครงสร้างกระทรวงอุตสาหกรรมที่เน้นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วยนวัตกรรม การสร้างการมีส่วนร่วม และการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่ง กพร. เป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีการปรับบทบาทภารกิจและโครงสร้างให้เป็นเชิงรุกมากขึ้น

โดยมุ่งเน้นการดำเนินงานในฐานะที่เป็นหน่วยงานจัดหาและบริหารจัดการวัตถุดิบ เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านวัตถุดิบให้แก่ภาคอุตสาหกรรม ทั้งวัตถุดิบจากแหล่งแร่ธรรมชาติ (Natural Mineral Resources หรือ Primary Raw Materials) วัตถุดิบทดแทน ที่ได้จากการรีไซเคิลขยะหรือของเสีย (Secondary Raw Materials) และวัตถุดิบขั้นสูง (Advanced Raw Materials) ที่เป็นแร่ โลหะ สารประกอบโลหะชั้นคุณภาพสูง เพื่อรองรับ
การพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายในอนาคตของประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพ (First S-curve) ซึ่งได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อุตสาหกรรมเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ และอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร และกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคต (New S-curve) ซึ่งได้แก่ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมเชื้อเพลิง ชีวภาพ และ  เคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมดิจิตอล และอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร รวมทั้งรองรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ หรือ Mega Projects ของรัฐบาล ซึ่งในการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย (ยกเว้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว) และโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ดังกล่าว จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบตั้งต้นที่เป็นแร่ โลหะ สารประกอบจากแร่และโลหะ ที่มีความหลากหลาย มีคุณภาพสูง
มีปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ และสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก

อพร.เดินชมผลงานจากการใช้เทคโนโลยีรีไซเคิล

นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ในเรื่องของวัตถุดิบทดแทนที่มาจากการรีไซเคิลขยะหรือของเสีย กพร. ได้ให้ความสำคัญกับการรีไซเคิลขยะหรือของเสีย เพื่อแยกสกัดแร่และโลหะกลับมาใช้ประโยชน์ รวมถึงแปรรูปเป็นพลังงานทดแทน หรือที่เรียกกันในหลายประเทศว่า   “การทำเหมืองแร่ในเมือง”
หรือ “Urban mining” โดยที่ผ่านมาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ได้ดำเนินโครงการต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมการนำขยะ วัสดุเหลือใช้ รวมถึงผลพลอยได้ (By-products) จากกระบวนการผลิต กลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ เพื่อเป็นแหล่งทรัพยากร ทดแทนให้แก่ภาคอุตสาหกรรม ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติใหม่ ลดการเกิดขยะและปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการขับเคลื่อนสู่  Zero Waste Society
โดยอาศัยจุดแข็งของกรมฯ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีแต่งแร่ และด้านเทคโนโลยีโลหการ ซึ่งเป็นรากฐานของเทคโนโลยีรีไซเคิล ร่วมดำเนินงานกับที่ปรึกษาที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งนี้ เพื่อให้วัสดุเหลือใช้และกากของเสียที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเฉลี่ย 50 ล้านตันต่อปี กลายเป็นแหล่งวัตถุดิบด้านแร่ โลหะ และพลังงานทดแทนที่สำคัญของประเทศ ซึ่งจากการติดตามประเมินผลการดำเนินงานที่ผ่านมาจากผู้ประกอบการที่ได้รับการฝึกอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีรีไซเคิลจาก กพร. พบว่า ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มในประเทศจากการลงทุนและ/หรือการรีไซเคิลของเสียเป้าหมาย 100–130 ล้านบาทต่อปี ซึ่งปัจจุบัน กพร. มีเทคโนโลยีรีไซเคิลขยะหรือของเสีย รวม 69 ชนิด โดย 39 ชนิด ได้พัฒนาเป็นเทคโนโลยีรีไซเคิลต้นแบบของ กพร. ซึ่งมีศักยภาพในการถ่ายทอดเทคโนโลยีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ

และภายใน  เดือนสิงหาคม 2561 นี้  กพร. จะเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาเทค
โนโลยีรีไซเคิลของรัฐแห่งแรกของประเทศ ซึ่งมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลทั้งในระดับห้องปฏิบัติการ (Lab scale) และขยายผล
ไปสู่โรงงานต้นแบบ (Pilot scale) เพื่อผลักดันนวัตกรรมและเทคโนโลยีรีไซเคิลสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ รวมทั้งเป็นต้นแบบให้ผู้ประกอบการได้ศึกษาเรียนรู้กระบวนการรีไซเคิล และการจัดการมลพิษที่เกิดขึ้นตามหลักวิชาการ โดยจะสามารถรองรับการฝึกอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีรีไซเคิล
ให้แก่ผู้ประกอบการ  ทั้งใน Lab scale และ  Pilot scale ได้ไม่น้อยกว่า
200 รายต่อปี

ประเทศไทยมีขยะหรือของเสียเกิดขึ้นเฉลี่ย 50 ล้านตันต่อปี เป็นของเสียครัวเรือน 25-26 ล้านตันต่อปี   โดยมีสัดส่วนการใช้ประโยชน์ในประเทศเฉลี่ยเพียง 18-20% และของเสียอุตสาหกรรม 25-30 ล้านตันต่อปี โดยมีสัดส่วนการใช้ประโยชน์ในประเทศเฉลี่ย 70-75% ซึ่งหากสามารถเพิ่มอัตราการใช้ประโยชน์ของเสียครัวเรือนและอุตสาหกรรมได้อีก 10% มีการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขยะ หรือของเสียที่มีประสิทธิภาพ  และครบวงจรตั้งแต่กิจกรรม/กระบวนการที่ก่อให้เกิดของเสีย กระบวนการคัดแยก การจัดเก็บรวบรวม การขนส่ง การรีไซเคิล การบำบัด และการกำจัด รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีการรีไซเคิลในประเทศ คาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มในประเทศจากการลงทุน/การนำของเสียเป้าหมายกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่เพิ่มขึ้น ไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี โดยกุญแจสำคัญ คือ การสร้างความร่วมมือแบบ 3 ฝ่าย ระหว่างรัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา ผมมองว่า ด้วยนวัตกรรมและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ เราสามารถเปลี่ยนขยะหรือของเสียให้กลายเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทนที่สำคัญ เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายในอนาคตของประเทศได้ ดังเช่นในประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งหลายประเทศไม่มีแหล่งแร่ธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังเป็นการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติใหม่ ลดการเกิดขยะและปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ตามแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการขับเคลื่อนสู่  Zero Waste Society
-นายวิษณุ กล่าวทิ้งท้าย

พร้อมกันนี้ กพร. เตรียมจัดสัมมนาหัวข้อ “Innovation for materials value-added” มีวัตถุประสงค์เพื่ออภิปรายทิศทางความต้องการใช้วัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรม  สร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน  ในวันพฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561
เวลา 08.30 – 15.45 น. ณ ห้องวาสนา 6 – 8 ชั้น 3
โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน กรุงเทพมหานคร

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม
ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2202 3555
www.dpim.go.th

อร่อยเด็ดถึงเจ็ดโลก! ลองยังอาหารไร้เนื้อสัตว์อาหารเพื่อสุภาพ

Ben Flavour Restaurant อาหารสุขภาพ

การดูแลเอาใจใส่สุขภาพ อย่ารอจนกว่า คุณจะป่วยแล้วค่อยหามาทาน
ต่อไปนี้  หันมาเลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพอาทิตย์ละครั้ง เราไม่สามารถลดละเลยได้ก็จริง แต่เราสามารถเลือกบริโภคได้ เริ่มต้นง่ายๆ จากการกินอาหารเมนูอาหารมังสวิรัติที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หันมาดูแลเอาใจใส่สุขภาพโดยเริ่มต้นจากการกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อาหารสุขภาพสไตร์คนรักสุขภาพ แบบคนรุ่นใหม่เราใส่ความคิดสร้างสันลงไปรสนิยมรสชาติ “อย่างจุดเด่นของอาหารจีน ต้องไม่มันรสชาติกลมกล่อม วัตถุดิบเครื่องปรุงจะต้องดี ใส่ใจพิถีพิถันเป็นเรื่องสำคัญ

วันนี้แนะนำร้านอร่อย ย่านพระราม 9  สำหรับคนรักการกินผัก หลากหลายเมนูที่นี่เลือกสรรคสูดรเด็ดสุดเด็ดโดยเฉพาะ  เมนูที่ช่วยล้างพิษ พิชิตโรค Benflavour (เบน เฟลเวอร์) ร้านอาหารมังสวิรัติ อาหารหน้าตา รสชาติอร่อย และหากินไม่ได้ที่ไหน เพราะ ที่นี่อาหารเจ และมังสวิรัติ 100 เมนู

สูตรอาหารมังสวิรัติไม่ได้มีแค่เมนูผักเพื่อสุขภาพเท่านั้น ตอนนี้กลับเป็นตัวเลือกและหลักปฏิบัติต้นๆ สำหรับคนที่อยากดูแลรูปร่าง การที่เราอยากจะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง

นอกเหนือจากการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอแล้ว การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เลือกอาหารที่สะอาด มีประโยช์ต่อร่างกาย ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ ร้านอาหาร เบนเฟลเวอร์  ร้านเดียวในกรุงเทพ ที่มีอาหารให้เลือกหลายรสชาติการตกแต่ง รวมไปถึงการบริการทุกอย่าง เป็นเทสของ Ben FLavour

วรัญญู ชัยเฉลิมมงคล (เบน) ฟู้ด เจ้าของร้าน Ben FLavour

วรัญญู ชัยเฉลิมมงคล (เบน) ฟู้ด เจ้าของร้าน Ben FLavour เชฟหนุ่มที่ไม่ได้เรียนการทำอาหาร  แต่มีความสามารถสร้างสรรค์เมนู อาหารเจ และ มังสวิรัติ ได้อย่างลงตัว ตอนเด็กรักการทำอาหาร  เป็นลูกมือแม่ในครัวเสมอ   (แม่เป็นคนเวียดนาม พ่อเป็นคนจีน) ประสบการณ์ดีดีเหล่านี้เกิดจาก ครอบครัวเปิดร้านอาหาร ได้ช่วยเป็นลูกมือพ่อ-แม่ ช่วยให้ชิม ช่วนเตรียมวัตถุดิบ ช่วยปรุงซึมซับเทคนิคมาเป็นสุดยอดเชฟชื่อดังจนถึงทุกวันนี้

จาก “Veggie Fusion” และต่อยอดมาเป็นร้านอาหาร Ben Flavour Restarant

อาหารเจ และ มังสวิรัติ  อร่อยและสวยงามอย่างเหลือเชื่อ คุณเบน บอกว่าเริ่มต้นตัดสินใจเปิดร้าน เพราะเป็นคนชอบทำอาหารมาก และอาหารประเภทที่ทานแล้วได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ และการชอบเสิร์ฟอะไรแปลกๆ  ได้ลองลงมือด้วยตัวเอง   หลายเป็นจุดเริ่มต้นของร้าน Ben FLavour

สายเฮลธ์ตี้ผู้รักสุขภาพโดยเฉพาะ มาดูกันว่า อาหารสุขภาพ อาหารมังสวิรัติกินอะไรได้บ้าง?  เมนูอาหารเจ และอาหารมังสวิรัติที่ห้ามพลาด วันนี้มาดูเมนูอร่อยๆ ทานกันค่ะ

ขนมปังตับบด Ben FLavour

หมี่อายุยืน Ben FLavour

ข้าวหม้อแม่นาก Ben FLavour

ยำมะเฟือง Ben FLavour

จานนี้ของแนะนำ ปลาม้วนผักสด Ben FLavour

เบน ‘เฟลเวอร์’ มีความตั้งใจอยากให้ลูกค้าได้ทานอาหาร มังสวิรัติ เพื่อสุขภาพที่ดี ทุกเมนูสร้างความแตกต่าง และ สร้างแรงบันดาลใจให้สังคมตื่นตัว บรรจงสร้างเมนูพิเศษขึ้นด้วยมากกว่า 100 เมนู ทุกเมนูถูกคัดสรรวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน การเลือกอาหารที่สดใหม่ สะอาด มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ไม่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบ

จุดเด่นของ เบน เฟลเวอร์ รสชาติของอาหารทุกจาน ต้องไม่มัน กินแล้วไม่เลี่ยน รสชาติกลม อาหารหน้าตาออกมาน่าทาน

บรรยากาศและการตกแต่งร้าน สไตล์อาเซียน  Mix & Matched Traditional  มีกลิ่นอายสไตล์จีน ผสมเวียดนาม ด้วยการเอาของสะสมมาตกแต่งร้าน จึงออกมาดูเก๋ๆ กลิ่นอายจีนๆ  โดยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์คลาสสิกแอนทีค สไตล์การตกแต่งที่โดดเด่นและเมนูอาหารที่อร่อยและได้สุขภาพ แต่ในบรรยากาศแบบนี้สามารถเสิร์ฟอาหารได้ทุกประเภท

ร้านอาหาร เบนเฟลเวอร์ (Ben Flavour Restaurant) ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ เมนูของร้านไม่เหมือนใครในโลก มีหลายอย่างที่คุณจะไม่สามารถหากินได้ที่ไหนในโลกนี้ทุกเมนูเป็นอาหารมังสวิรัติ ปราศจากเนื้อสัตว์เพื่อสุขภาพที่ดี อิ่มท้องและอิ่มบุญไปพร้อมกัน

เพื่อนๆ  มีเวลาลองแวะไปชิมกันนะคะคนรุ่นใหม่ใส่ใจรักสุขภาพ อิ่ม อร่อย และได้บุญด้วย มาทานที่ ร้านเบน เฟลเวอร์ ได้ทานอาหารเจ และ มังสวิรัติสัตว์สไตล์ฟิวชั่น อาหารสุขภาพสไตล์คนรุ่นใหม่ เลือกออกร้าน จัดงานเลี้ยง ด้วยอาหารสุขภาพสไตล์คนรุ่นใหม่  Toptotravel แนะนำร้านนี้ค่ะ

เบนเฟลเวอร์ Ben Flavour Restaurant
ที่อยู่ : 589-589/1 ซ.พระรามเก้า ซอย 51 ถ.พระราม 9 สวนหลวง
กรุงเทพฯ 10250
โทรศัพท์ : 096 191 9159
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Benflavour

คิดแต่ไม่เคยพูด อารัช วิทยากรณ์ มิสเตอร์ซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์

อารัช  วิทยากรณ์
กับช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่

สืบเนื่องจากภาพ profile ในชุดกีฬา Fitsuits  แห่งหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Tototravel ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับหนุ่มหล่อที่ร้อนแรงที่สุด  วันนี้มีโอกาสมาพร้อมกับบทสัมภาษณ์ของหนุ่มหล่อกระชากใจสาวหลายคน

อารัช  วิทยากรณ์ หนุ่มเข้มลูกครึ่ง ไทย-ปากีสถาน อายุ 24 ปี  ปัจจุบันเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอล ฝ่าฟันภารกิจสุดหิน ที่เป็นบททดสอบทั้งความฟิตและสติปัญญา จนในที่สุด อารัช วิทยากรณ์ สอบผ่านแบบไม่ธรรมดาจริงๆ พิสูจน์แล้วว่ามีความคูลที่สุด จนคว้าตำแหน่ง…ชนะเลิศอันดับ1
Mister supranational thailand 2017

Aratch Wittayagone

Cr: ภาพ FB: Aratch Wittayagone

การประกวด Mister Supranational 2017 เวทีเฟ้นหาสุดยอดนายแบบระดับโลก ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 โดยในปีนี้ทางกองประกวด ทำการเก็บตัวทำกิจกรรมต่างๆ ถึง 2 ประเทศยุโรป ได้แก่ ประเทศโปแลนด์ และ ประเทศ
สาธารณรัฐเช็ก เก็บตัวและร่วมทำกิจกรรมกับกองประกวด ระหว่างวันที่
20 พย. 60 – 2 ธค. 60  รอบตัดสินวันที่ 2 ธค. 60 ที่ประเทศโปแลนด์  ร่วม
กับสุดยอดนายแบบระดับโลก จากประเทศต่างๆ 60 กว่าประเทศ โดยผู้ชนะจะได้เงินรางวัลกว่า 10,000 USD และลงนามทำสัญญาเป็นนายแบบกับกองประกวดอีก 1 ปี

Mister Supranational Thailand 2017 เริ่มเป็นที่รู้จักจากการประกวดเวทีประกวดหนุ่มหล่อที่ร้อนแรงที่สุดและเป็นเวทีค้นหาหนุ่มหล่อทั่วไทยซึ่งเป็นความลับของมนต์เสน่ห์  ที่น่าค้นหา ล่าสุด อารัช  วิทยากรณ์ เตรียมพร้อมสำหรับการ ประกวดที่จะเดินทางไปประกวด Mister Supranational 2017 ที่ประเทศโปแลนด์  ในเดือน พฤศจิกายน 2560

Aratch Wittayagone
Bright Yonng Thing

วันนี้เราจะมาดูกันว่า อารัช  วิทยากรณ์การเตรียมตัว ฟิตร่างกาย และเตรียมอะไรไปโชว์เพื่อเผยแพร่ชื่อเสียงประเทศไทยสู่เวทีนานาชาติ มีแนวคิดและคำแนะนำดีๆ อะไรบ้างที่จะมาฝากแฟนเพจ toptotravel ให้ได้ติดตามกัน และการเดินทางก้าวต่อไปของ อารัช กำลังจะเริ่มขึ้น  ไม่มีใครน่าจับตามองไปกว่า มิสเตอร์ซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์  คนนี้อีกแล้ว

หนุ่มหล่อเข้มลูกครึ่งไทย- ปากีสถาน มีภูมิลำเนา จากจังหวัดเชียงใหม่ อายุ 24 ปี เจ้าของความสูง 190 ซม. สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาธุรกิจ
การบินมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต วิทยาเขตหัวหิน เป็นบุตรชายคนโต ของนายเพิ่มศักดิ์ วิทยากรณ์ ปศุสัตว์จังหวัดลำปาง อารัช จะต้องบินไปร่วมประกวดสุดยอดนายแบบโลก Mister Supranational 2017 กลางเดือนนี้

คุณอารัช วิทยากรณ์  ตัวแทนประเทศไทย ไปประกวด Mister Supranational 2017

การประกวดครั้งแรก เวที 2015  เมื่อก่อนไม่เคยรู้ตัวเลยว่า  ประสบการณ์จากกองประกวดทำให้เราสนุกมากกับการประกวด เอาจริงเพราะผมขี้อายมาก เคยเป็นแต่นักกีฬา  สำหรับเวที เมนส์เฮลธ์ กายส์ ชาลเลนจ์ 2015 ทำให้ได้มีโอกาสเรียนรู้การทำงาน และเพราะเป็นงานที่ไม่น่าเบื่อ ทำให้
รู้สึกตื่นเต้น ท้าทายในการทำงานต่างๆ  ซึ่งจากประสบการณ์ หลายครั้งผมโชคดีมากที่ได้รับโอกาสดีดีเข้ามาจากผู้ใหญ่ และผู้สนับสนุนหลักต่างที่
กรุณาให้ความเมตตา  ดีใจที่สุดกับโอกาสที่ได้รับ  การที่ผมติด 1 ใน 10
เวที Men’s Health Guys’ Challenge 2015  ซึ่งการเฟ้นหาที่สุดแห่งสุภาพบุรุษสุขภาพดีล้วนๆ  ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของงานที่ผมรัก    -อารัช กล่าว

วันนี้สำหรับใครที่อยากรู้จักตัวตนหนุ่หล่อวัย 24 ปีคนนี้ มาติดตามคำถามแบบ เปิดใจ  อารัช  วิทยากรณ์ มิสเตอร์ซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ โดยเขาเล่าว่า ตัวเองชอบเล่นกีฬาตั้งแต่อายุ  10 ขวบ เติบโตและเรียนหนังสือจบพอจบมัธยมต้น เขาย้ายไปเรียนโรงเรียนใหม่  ตอนนั้นตั้งใจเรียนมากขึ้น พร้อมกับหารายได้พิเศษไปด้วย โดยเริ่มต้นจากการถ่ายโมษณา จนปัจจุบันเรียนจบปริญาตรี

ด้วยความที่ อารัช วิทยากรณ์ เป็นคนชอบที่ชอบการออกกำลังกาย และเป็นนักกีฬาของมหาวิทยาลัย คุณสมบัติที่สำคัญและความฝันอยากเป็นนักกีฬาชอบเล่นกีฬา เล่นกีฬาได้เกือบทุกชนิด

สนุกกีฬาที่ชอบได้ทำงานและการรับหน้าที่ในวันนี้  เป็นสิ่งที่ผมทำจะไปได้ไกลที่สุด นับเป็นครั้งแรก  ที่ผมจะเป็นตัวแทนของประเทศไทย เดินทางไปประกวด Mister Supranational 2017 ที่ประเทศโปแลนด์

ถ้าถามว่าแนวทางการทำงานที่สำคัญคือเป็นอีกครั้งที่ได้เปลี่ยนคาแรกเตอร์ ขยันให้มาก อดทนให้เยอะ และทำให้เราหลุดจากกรอบที่เคยทำ  ถ้าอยากเติบโตต้องลงแข่ง ต้องพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง   และสิ่งที่มีค่ายิ่งกว่ารางวัล คือประสบการณ์ เพราะในทุกการแข่งขันจะได้รับโจทย์ที่ท้าทาย
สิ่งนี้เองที่จะบังคับให้เราลองของใหม่และกล้าหยิบมาใช้ในการทำงาน คิดบวก การคิดลบกับสิ่งใดๆ ตามมันไม่ได้ทำให้สุขภาพจิตเราดีขึ้นเลย แต่หากเจอปัญหาให้เราคิดว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป และอย่าไปใส่ใจ หลายๆครั้งเรื่องที่ดูซีเรียส
อารัช วิทยากรณ์ มักมองกลับกันเป็นเรื่องตลก

หากเรามองมันเป็นเรื่องปรกติ มันก็จะเป็นเรื่องปรกติ คือ  ดูแล้วผู้ชายคนนี้พูด ชีวิตคิดบวก ตั้งเป้าหมาย ตั้งใจทำไม่ต้องรีบร้อน สักวันผลลัพท์อาจจะมาเกินความคาดหมาย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ต้องยิ้มสู้ และอดทนให้เยอะและทำงานตรงหน้าให้ดีที่สุด  –อารัช  วิทยากรณ์

นอกจากจะเป็น มิสเตอร์ซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ ยังขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายที่รักสุขภาพ ออกกำลังกายฟิตหุ่นอยู่เสมอ มีวิธีการดูแลตัวเองอย่างไรหลายคนเวลาที่ต้องควบคุมน้ำหนัก บางคนเลือกอดอาหาร คุณอารัช มีความเห็นในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง?

การอดอาหารทำให้น้ำหนักลดลงในช่วงแรก ระบบเผาผลาญพัง ลดก็จริงนะแต่พอกลับไปกินเหมือนก็ยิ่งอ้วน นน. หนักกว่าเดิม เราไม่ควรที่จะอดอาหารแต่ เราสามารถกำหนดได้เลยว่ามื้อนี่จะทานอาหารชนิดไหน ปริมาณเท่าไหร่ น้ำหนักกี่กรัม เพราะเราสามารถชั่งวัตถุดิบได้ตามความต้องการทั้ง แป้ง เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ ผักและอาหารชนิดอื่นๆเพื่อที่เราจะได้รู้ปริมาณที่เราทานในแต่ละมื้ออย่างแม่นยำแค่เลือกทานแล้วหันมาออกกำลังกายหุ่นดีขึ้น แถมสุขภาพดีครับ

เชื่อได้ว่าหลายคนคงมองภาพผู้ชายคนนี้มุมมองในการการทำงาน และการบริหารจัดการชีวิต และแง่คิดที่สะท้อนถึงสังคมไทยในปัจจุบัน สามารถเป็นแรงบันดาลและกำลังใจให้กับหลายๆคน สู่การเปลี่ยนแปลงได้ ด้วยการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้เป็น Version ที่ดีที่สุด
ติดตามและให้กำลังใจ อารัช วิทยากรณ์  ตัวแทนประเทศไทย ไปประกวด Mister Supranational 2017 Toptotravel ต้องขอขอบคุณ เทคนิคและแชร์ข้อคิดดีๆ จาก น้องอารัช วิทยากรณ์ ตำแหน่ง ชนะเลิศอันดับ1  Mister Supranational Thailand2017 ให้เราได้รู้จักและยังเป็นตัวแทนนายแบบไทยไปประกวดยังต่างประเทศ

ติดตามข่าวสารข้อมูลการประกวดได้ที่
http://www.mistersupranational.com/
https://www.facebook.com/MisterSupranationalThailand/
https://www.facebook.com/MisterSupranational/

ถูกใจฝากแฟนคลับแชร์วนไปได้เลยนะค่ะ
#MisterSupranationalThailand2017

5 เหตุผล คุณค่าของความแตกต่าง

ทำไมคุณควรใช้สบู่อะมิโนคริสตัลทองคำ EMILY Crystal Amino Soapสูตรดังจากเกาหลี

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เราเคยใช้สบู่ล้างหน้า หน้าพัง หน้าแห้งกร้าน  หน้าตึง เพราะสบู่เป็นเพียง 1 ตัวช่วยเริ่มต้นที่สาวๆ หลายคนวางใจ ในการบำรุงและซ่อมแซมผิว และใช้ระยะเวลา การดูแลและการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ เกิดสิวต้องไม่แกะ เกา บริเวณผิวหน้า การทาครีมตามสภาพผิวประจำ หลีกเลี่ยงแสงไฟจัด และทาครีมกันแดดเสมอ ถ้าทำเป็นประจำอยู่แล้ว รับรองว่าได้ผลอย่างดีเยี่ยม

ภคมน จันทร์ศิริ (อาย) และ ชนากานต์ จันทร์ศิริ (เอิร์ท) เจ้าของธุรกิจสบู่ Amino Crystal Soap

มาถึงเรื่องที่ต้องทำกัจวัตรประจำวัน คือ การล้างหน้า ทำความสะอาดเครื่องสำอาง  หนูจะใช้อะไรล้างหน้าดีคะ หรือใช้น้ำเปล่าล้างหน้าจะดีที่สุด?   รู้จักผลิตภัณฑ์ของ Emily ครั้งแรกจาก

Facebook Fanpage : Aminocrystalsoap เห็นสบู่แบบ Crystal Amino มีขายเต็มเฟสบุคเยอะไปหมด เลือกไม่ถูกแต่อยากลอง เพราะเห็นเพื่อนใช้แล้วผิวมันดีขึ้น สิวยุบเร็ว ช่วยลดการเกิดการอุดตันของ รูขุมขนซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว แต่ถ้าเพื่อนๆ ใช้สบู่แบบนี้แล้วรู้สึกว่าผิวฝืดหรือตึงเกินไป ก็ลองเปลี่ยนมาใช้ Crystal Soap Base ความรู้สึกตอนใช้บอบบางสำหรับผิวหน้า มีคุณสมบัติต้านการอักเสบมีความอ่อนโยนสูงช่วยได้ดีจริงๆ ค่ะ

Emily Amino crystal เนื้อสบู่มีความใส ประดุจคริสตัล ใช้แล้วต้องเก็บในที่แห้ง เป็นสินค้า และวัตถุดิบ พรีเมี่ยม สวยใสแบบนี้ ข้อดีของ EMILY เป็นสิวไม่ใช่ปัญหา จะหน้าใสหรือหน้าสด ได้หมดถ้าสั่ง EMILY สบู่อะมิโนคริสตัลทองคำ สบู่จากเบสอะมิโนสูตรดังจากเกาหลี คุณภาพดี สารสกัดพรีเมี่ยมทำให้รู้สึกได้ในคร้ังแรกที่ใช้

สบู่อมิโนคริสตัลช่วยลดรอยดำจางลง The best ของสบู่ทั้งหลาย มีค่า HP5.5-6 อ่อนโยนต่อผิวมีประสิทธิภาพในการดูแลผิวดีเยี่ยม เหมาะกันคนหน้ามัน มีสิวผด สิวผื่น สิวแพ้ทั้งหลาย ใช้แล้วหน้าไม่มันเยิ้มทั้งวัน สิวแห้งหลุดออกง่ายดาย ช่วยฟื้นฟูผิวเสียขาดการดูแล้วจะรู้สึกถึงความแตกต่างจากสบู่ทั่วไปอย่างไร?

เลือก Amino crystal soap EMILY สบู่อมิโนคริสตัสทองคำ สบู่ที่ใสที่สุดในโลก ตอนนี้มาแรงมากเพราะมีคุณบัติที่ไม่เหมือนใคร เนื้อเบสสบู่ นำเข้าด้วยสูตรที่โด่งดังจากเกาหลี ซึ่งมีสารสกัดคุณภาพสูง ใช้แล้ว ผิวหน้าใสเนียน และทีี่สำคัญช่วยยับยั้งสิว ฟองอมิโน ยังช่วยปกป้อผิวใช้เหมือนล้างด้วยครีม
มาร์คหน้าบางๆ  สบู่ก้อนหรู คุณภาพดี ราคาแค่หลักร้อย ใครไม่อยากตกเทรน อยากหน้าใสต้องจัดประทับใจเวลาใช้เพราะฟองเป็นเหมือนครีมมาร์คหน้าเข้มข้น

DSC06172
คุณภคมน จันทร์ศิริ (อาย)

มาถึงตอนนี้สาวๆ  เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า จึงมีหลายประเภท  มาดูเหตุผลว่าทำไมคุณควรใช้วันนี้เรามีวิธีเลือกสบู่ให้เหมาะกับสภาพผิวของใบหน้ามาฝากกัน มาดูเหตุผล
ง่ายๆ กันเลยค่ะ

5 เหตุผล ทำไมคุณควรใช้ Crystal Amino Soap

1. แก้ปัญหาผิวหน้ามันมีสิวผด สิวผื่น สิวแพ้ทั้งหลาย ใช้แล้วหน้าไม่มันเยิ้มทั้งวัน สิวแห้งหลุดออกง่าย ช่วยฟื้นฟูผิวเสียขาดการดูแล ฝ้ากระค่อยๆ จาง

2. ผิวแพ้ง่ายใช้ได้ดี มี อย. และยังช่วยป้องกันการเกิดสิว ลดและป้องกันการเกิดสิว จึงทำให้ผิวเรียบเนียนแต่งหน้าง่าย

3. สารสกัดที่ให้กลิ่นธรรมชาติ Essential oil  ลดการระคายเคือง
สารสกัดจาก SILK AMINO ACID ต้านอนุมูลอิสระ  ผิวฟูไม่เหี่ยวย่น
JOJOBA OIL ช่วยถนอมผิวไม่ลอกไม่แห้งตึง หลังล้างหน้าช่วยปรับสภาพผิวให้พร้อมสำหรับการแต่งหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ

4. ลดริ้วรอยบนใบหน้า ส่วนผสมของทองคำแท้  มีสรรพคุณช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบของผิวหนังที่เกิดจากการโดนแสงแดดเผาได้และยังสามารถลดริ้วรอยบนใบหน้า

5. ช่วยให้เนื้อครีมทองคำซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวหนังโดยการปรับสีผิวให้สว่างขึ้น  ลดอนุมูลอิสระที่เป็นมลภาวะต่อผิวได้เป็นอย่างดี

จากเหตุผลทั้ง 5 ข้อ คงจะรู้แล้วว่าทำไม Crystal Amino Soap สบู่ที่ใสที่สุดในโลก ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา จึงมีความมหัศจรรย์หลังการใช้งาน ก้อนสบู่มีลักษณะใส แตกต่างจากสบู่ทั่วไป ความรู้สึกตอนใช้บอบบางสำหรับผิวหน้าเป็นสารประกอบที่มีอยู่ในสิ่งมีชีวิตทุกชนิด การันตีคุณภาพ ด้วยสูตรลับเฉพาะที่พัฒนามากว่า 2 ปี  ต่อไปก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว แล้วสาวๆ อย่าลืมเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวเราด้วยนะคะ

น้องเอิร์ท ชนากานต์ จันทร์ศิริ  เสริมว่า นวัตกรรมเป็นเครื่องสำคัญในการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ และช่วยติดอาวุธสินค้าให้แข่งขันได้ การนำส่วนผสมจากเกาหลี มาประยุกต์ใช้กับการสร้าง Emily Crystal Amino Soap  จึงเป็นอีกวิธีที่ช่วยสร้างความแตกต่างระหว่างแบรนด์ไทย กับอินเทอร์แบรนด์อื่นๆ

น้องเอิร์ท ชนากานต์ จันทร์ศิริ  นวัตกรรมเป็นเครื่องสำคัญในการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ และช่วยติดอาวุธสินค้าให้แข่งขัน

มาฟังความตั้งใจของเจ้าของธุรกิจ และครอบครัว “จันทร์ศิริ”  โดยมีคุณพ่อ คุณแม่และลูกสาว 3 ใบเถาแสนสวย ได้แแก่ น้องเอิร์ท น้องน้องอาย และน้องแอ๊น   เล่าความตั้งใจ ต้นกำเนิดของสบู่ก้อนนี้ EMILY Crystal Amino Soap …ทำสิ่งนี้ขึ้นมาจากความรัก ความชอบ จริงๆ ไม่ได้มุ่งหวังจะให้เป็นธุรกิจยอดซื้อทะลุทะลวงอะไร เพราะส่วนตัวมีธุรกิจที่ทำอยู่แล้วหลายอย่าง. แต่เป็นความชอบส่วนตัวนานมาแล้ว อยากหาตัวช่วยที่ดีให้ตัวเองและคนที่ผิวมีปัญหา ผิวไม่สวย ผิวไม่ค่อยได้รับการดูแล

จุดเริ่มต้นจากสิ่งที่ดีที่สุด ติดต่อเรียนรู้ขั้นตอนการผลิตด้วยตนเองตั้งแต่ต้นจนสุดท้าย สินค้าทุกอย่าง โดยศึกษาและเลือกจากแลปที่ดีและได้รับมาตรฐานสารสกัดคุณภาพดีทีสุด ที่สำคัญ น้องเอิร์ทไม่เคยขอให้แลปเสนอของที่ราคาถูกๆ  เพื่อหวังกำไรสูงๆ ราคาที่ขายอาจไม่ได้ถูกกว่าสบู่ทั่วไปในท้องตลาด แต่ในราคาเดียวกัน EMILY Crystal Amino Soap  เลือกสรรสารสกัดอัดแน่นเกรดเอ คุณภาพไม่แพ้สบู่  Crystal Amino Soap  ชนิดอื่นๆ อย่างแน่นอน

จากความตั้งใจของนักธุรกิจ สาวสวยสามพี่น้อง ที่มีความตั้งใจพัฒนาสินค้า สบู่สูตรดังจากเกาหลี Emily Amino crystal  และด้วยความรักการดูแลตัวเอง รักสวยรักงาม จึงอยากผลิตสินค้าคุณภาพดี ราคาคุณภาพโดยไม่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ   ด้วยความมุ่งมันลงทุนไปเรียนด้วยตัวเอง 2-3 ครั้ง เพื่อเรียนรู้ ขั้นตอนและรู้จักสารสกัดทั้งหลายมากขึ้น

อย่าบอกนะว่าเกิดมาไม่เคยใช้สบู่ล้างหน้า น้องเอิร์ท เล่าต่อว่า การต่อยอดแบรนด์นี้จึงไม่ใช่เรื่องยาก สินค้าแบรนด์ไทยยังโตได้ แต่ถ้าจะยั่งยืนต้องมีคุณภาพ เห็นผลจริง ทำไปด้วยใจรัก จริงใจต่อผู้บริโภคและพยายามรักษาธุรกิจ

นักธุรกิจ 3 สาว เจ้าของสบู่สูตรดังจากเกาหลี Emily Amino crystal สามพี่น้อง แอ๊น,อาย,เอิร์ทในวันนี้สินค้าเสร็จพร้อมขายหลายตัวแล้ว ภาพนี้ทำให้เราดีใจตื่นเต้นสุดๆกับสิ่งที่เราตั้งใจทั้งหมดออกมาแล้ว ไม่เชื่อถือ ไม่สนใจ ไม่สนับสนุนไม่อุดหนุน ไม่เป็นไร อยากให้เพื่อนๆ ช่วยแชร์ออกไป ด้วยความตั้งใจจริงของเราอยากฟื้นฟูอยากปรับสภาพผิวที่มีปัญหากลับมาดูดี สวยใส ดูสดชื้น อีกครั้ง เราไม่ได้หวังยอดขายปังๆ

ในวันนี้ เพราะเราน้องใหม่ แต่เราหวังให้สินค้าของเราเข้าไปอยู่ในมือคนที่เลือกใช้ของที่ดีมีคุณภาพ และให้คุณภาพสินค้าของเราเข้าไปสร้างความประทับใจให้ผู้ใช้รู้สึกนุ่มลึกจนต้องหลงรัก

จริงเหรอ เอาจริงนะไม่ต้องพูดมากมาย ดูคุณภาพ ภายนอก ยังรู้สึกว่า น่าใช้
ดูแพง งานดีสบู่ที่ใสที่สุดในโลก ความรู้สึกตอนใช้  บอบบางต่อผิวหน้า ลดความมัน กระชับรูขุมขนให้เรียบเนียน และผิวหน้านุ่ม ชุ่มชื้น หลังจากล้างเสร็จ  รู้สึกได้ว่า ขาวกระจ่างใส ริ้วรอยจางลง  ตอบโจทย์ครบทุกปัญหาผิว จุดด่างดำ รอยสิว รูขุมขนกว้าง  ขาดความชุ่มชื้น

– ช่วยบำรุงผิว เนื่องจากมี Glutamic acid เป็นส่วนประกอบกว่า 60%

– pH 5.5-6 อยู่ในช่วงค่าที่ดีของ pH ผิวแลดูกระจ่างใสขึ้น เปล่งปลั่ง เต่งตึง

– ลดและป้องกันการเกิดสิว ผิวเรียบเนียนขึ้น

– รูขุมขนกระชับขึ้น ผิวแลดูอ่อนวัยหน้าใสดูเป็นธรรมชาติ

– ลดริ้วรอย ผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำแลดูจางลง แต่งหน้าง่าย

– ดีท็อกซ์ผิว ล้างสารพิษ ปรับสมดุลให้ผิวสุขภาพดีขึ้น

– ฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลายจากแสงแดดและมลภาวะต่างๆ

– ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียต้นเหตุของการเกิดสิว

Amino Cystral Soap มีน้ำมันที่เลียนแบบบนผิวหน้าของมนุษย์ทำให้ผิวอ่อนนุ่ม สารสกัดจากอัลฟ่าอาร์บูตินทำให้ผิวสว่างใส คุณภาพคับแก้วขนาดนี้ งานดีบอกเลย สั่งมาเลย ท้าให้ลอง  EMILY สบู่ อะมิโนคริสตัลทองคำเท่านั้นซื้อซะเดี๋ยวใสไม่ทันเวลา

เทียบกับสบู่ปรกติ การล้างมือด้วยสบู่ปรกติ 10 ครั้ง (เว้นทุก 20 นาที) จะทำให้มือแห้งและหยาบกระด้าง แต่ในขณะเดียวกัน สบู่อมิโนทองคำ จะไม่ทำให้มือแห้ง (สบู่ปรกติจะมีความเป็นด่างสูง พอล้างบ่อย ๆ จะทำให้ผิวมีความเป็นด่างสูงและทำให้ผิวหนังหยาบกระด้าง) สบู่อมิโนทองคำ จะมี pH 5.5-6  มีความใกล้เคียงกับค่า pH ของผิวที่สุด

 

สบู่อะมิโนคริสตัสทองคำ สบู่ที่ใสที่สุดบวกอนุภาคทองคำแท้ ของดีมีคุณภาพ เบสนำเข้าสูตรดังจากเกาหลี สารสกัดพรีเมี่ยมหน้าใสมากลดสิว และช่วยเรื่องฟื้นฟูผิว ตลอดจนช่วยยกกระชับผิว หลังทำความสะอาดหน้าแล้วรู้สึกผิวกระจ่างใส หรือเรียกว่า Detox หน้าใส

-สบายใจเพราะ EMILYสบู่อะมิโนคริสตัลทองคำ มีเลขจดแจ้ง อย.
-EMILYสบู่อะมิโนคริสตัลทองคำ มีบัตรตัวแทนอย่างถูกต้อง
-EMILYสบู่อะมิโนคริสตัลทองคำ มีกลุ่มโยนออเดอร์ มีรูปมีมีริวส่งให้ตลอด
ราคาถูกประสิทธิภาพเกินราคา อยากให้ลอง ราคาก้อนละ 360 บาทเท่านั้น
สั่งเลยค่ะ รวมค่าจัดส่งทั่วประเทศ

Emily Soap  ลงสนามแล้ว คุณภาพเจ๋ง!   ราคาถูกมาก
เปิดรับตัวแทนจำหน่าย รับแบบสต๊อกและไม่สต๊อก สนใจปรึกษาได้ค่ะคุณภาพดีจนกระทั้งตอนนี้ส่งผลดี ขยายตามหาตัวแทน VIP และ
ตัวแทนรายย่อย

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
www.facebook.com/Aminocrystalsoap
หรือถ้าใช้ดี เชิญมาสมัครตัวแทน
คลิ๊กด่วน   line: @emilysoap
โทร. 089-4889548

#สบู่ที่ใสที่สุดในโลก #emily #สินค้าดีราคาหลักร้อย
#อมิโนคริสตัลทองคำ #emilyเลอค่า

EEC แนวโน้มการลงทุนของบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย

สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น)
จัดปาฐกถาพิเศษ EEC ในแนวโน้มการลงทุนของบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทยและแนวทางการปรับตัวภาคอุตสาหกรรมในยุค 4.0

สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) หรือ ส.ส.ท. ถือกำเนิดขึ้นจากความตั้งใจมุ่งมั่น ความร่วมมือร่วมใจ และความเสียสละ ทุ่มเทกำลังกายและกำลังใจ ของกลุ่มผู้ที่เคยไปศึกษาและดูงานโดยทุน ABK & AOTS ณ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมี ฯพณฯ สมหมาย ฮุนตระกูล เป็นประธานคณะกรรมการก่อตั้ง และสำเร็จด้วยความช่วยเหลืออย่างดี จาก อาจารย์ โงอิจิ โฮซูมิ อดีตประธานกรรมการ สมาคมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ญี่ปุ่น-ไทย (JTECS) โดยได้
รับความช่วยเหลือทางด้านเงินทุนจาก กระทรวงการค้าระหว่างประเทศ
และอุตสาหกรรม (METI) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งไม่มีพันธะผูกพันใด ๆ ก่อตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 มกราคม 2516

มีวัตถุประสงค์เพื่อ นำความรู้และเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเผยแพร่และถ่ายทอดให้แก่บุคลากรไทย เพื่อสร้างความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย มากว่า 40 ปี ผ่านกิจกรรมและบริการอันหลากหลายสู่สังคม ไม่ว่าจะเป็นการจัดหลักสูตรฝึกอบรม-สัมมนา,การเทียบโอนการศึกษาระดับปริญญา, การศึกษาทางไกล, การสอนภาษาต่างประเทศ โดยโรงเรียนภาษาและวัฒนธรรม ส.ส.ท. การ
จัดประกวดให้รางวัลคุณภาพ บริการวินิจฉัยและให้คำปรึกษาสถานประกอบการ บริการสอบเทียบและวิเคราะห์สิ่งแวดล้อม ศูนย์ทดสอบทางวิชาการและวิชาชีพอุตสาหกรรม ตลอดจนการผลิตตำราสนับสนุนวิชาการต่างๆ มากมายภายใต้สำนักพิมพ์ ส.ส.ท. อีกทั้งได้จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาขึ้น
ในนาม สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า
Thai-Nichi Institute of Technology ที่รู้จักโดยย่อว่า TNI  มุ่งสร้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีเฉพาะทางขึ้น  เพื่อป้อน
บุคลากรให้แก่สถานประกอบการภาคอุตสาหกรรมของไทย

สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) หรือ ส.ส.ท. จัดปาฐกถาให้ความรู้แก่เหล่าสมาชิกและบุคคลทั่วไป

โดยคุณเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
และ Mr.HIROKI MITSUMATAประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น ( JETRO ) ว่าด้วยเรื่องแนวทางการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมไทย และแนวโน้มการลงทุนของบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย ที่มีต่อศักยภาพของระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก
( EEC )  ภายใต้งานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2560

 

การปาฐกถาพิเศษในครั้งนี้ สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) หรือ ส.ส.ท.ได้รับความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ที่มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อโครงสร้างในการพัฒนาและขับเคลื่อนความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทยและเศรษฐกิจไทยโดยผู้ร่วมงานจะได้พบกับเหล่าขุนพลระดับประเทศบนเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในขณะนี้ เริ่มต้นด้วยร่วมเปิดมุมมองการค้า การลงทุนของญี่ปุ่นสู่ไทย โอกาส และศักยภาพของไทยในการขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC)  เพื่อให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจชั้นนำของเอเชีย ที่จะสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งการยกระดับคุณภาพชีวิตและรายได้ของประชาชน กับบรรยายพิเศษในหัวข้อ  Eastern Economic Corridor : EEC – Investment trends of Japanese companies
ให้เกียรติโดย  Mr.HIROKI MITSUMATA President of JETROJapan External TradeOrganization (JETRO), ต่อเนื่องด้วยการบรรยายพิเศษโดยผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรม คุณเจน  นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในหัวข้อ   Eastern Economic Corridor : EEC และแนวทางการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมไทยในยุค 4.0”

สิ่งที่น่าสนใจของเสวนาในครั้งนี้คือ นอกจากผู้ที่ได้ร่วมรับฟังจะได้ทราบถึงทิศทางของอนาคตอุตสาหกรรมไทยว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดและ ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC)  จะสามารถขับเคลื่อนการเติบโตของระบบเศรษฐกิจประเทศไทยสู่สากลได้อย่างไรแล้วงานนี้ยังเป็นการรวมตัวของเหล่าบุคคลสำคัญในแวดวงธุรกิจและนักวิชาการจำนวนมากที่มาร่วมงาน

รศ.ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ นายกสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) กล่าวว่า “จากนโยบาย

ของภาครัฐว่าด้วยเรื่องการผลักดันภาคตะวันออกของประเทศไทย เพื่อให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจชั้นนำของเอเชีย ที่จะสนับสนุนการเพิ่ม ขีดความสามารถในการแข่งขัน การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งการยกระดับ คุณภาพชีวิตและรายได้ของประชาชน ภายใต้บทบาทและพันธกิจของ ส.ส.ท.ที่มุ่งส่งเสริมและมุ่งพัฒนาบุคลากรด้านอุตสาหกรรม พร้อมทั้งให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจและผู้ประกอบการ รวมถึงการเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนจากญี่ปุ่นด้วย ซึ่งเรามั่นใจว่าการเชื่อมโยงและผลักดันศักยภาพของภาคอุตสาหกรรมไทยนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน”

นายฮิโรกิ  มิทสึมะตะ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) ผู้บรรยายในหัวข้อ แนวโน้มและยุทธศาสตร์การลงทุนของบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย กล่าวว่า “ไทยและญี่ปุ่น มีความใกล้ชิดกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะใน ด้านการลงทุน ซึ่งผู้ประกอบการจากญี่ปุ่นเป็นกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ที่สุด ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ จากญี่ปุ่น ได้เข้ามาลงทุนครบทุกรายแล้ว และได้ช่วยดึงให้ผู้ผลิตชิ้นส่วน รายสำคัญ และอุตสาหกรรมสนับสนุนอื่นๆ ตามเข้ามาลงทุนเพื่อป้อนให้ ผู้ผลิตรายใหญ่จำนวนมาก ดังนั้น หากเราสามารถดึงดูดให้บริษัทญี่ปุ่นใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย และเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ในระดับต้นๆ ของโลก เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น บริษัทเหล่านี้จะเป็น แม่เหล็กช่วยดึงโครงการลงทุนอื่นๆ ตามเข้ามาในอนาคต ซึ่งอุตสาหกรรม เป้าหมายเหล่านี้จะเป็นปัจจัยสำคัญของประเทศไปสู่ประเทศไทย 4.0”

 คุณเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ผู้บรรยาย ในหัวข้อ แนวทางการปรับตัวภาคอุตสาหกรรมในยุค 4.0
กล่าวถึงจุดเด่นของ  อุตสาหกรรม 4.0  ว่าการผลิตที่เปลี่ยนจาก
Mass Production เป็น Mass Customization นั่นก็คือ โรงงานในยุค 4.0 หรือ Smart Factory จะมีกระบวนการผลิตที่ประหยัดและมีประสิทธิภาพด้วยการใช้ระบบไซเบอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ครบวงจร ควบคุมการสื่อสาร ทำให้เกิดการผลิตสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีความแตกต่างกันในแต่ละราย ในระยะเวลาอันสั้น เมื่อเทียบกับการผลิตในอุตสาหกรรม 3.0 ที่ผลิตสินค้าได้จำนวนมาก แต่สินค้าจะเป็นรูปแบบเดียวกัน ซึ่งกระบวนการผลิตของยุค 4.0 จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มผลิตภาพของภาคอุตสาหกรรมไทย เพราะเป็นระบบการผลิตที่ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า คือ ประหยัดเวลา ใช้แรงงานน้อยลง และกระบวนการผลิตมีความแม่นยำน่าเชื่อถือ

สำหรับปาถกฐาพิเศษในครั้งนี้ จะเป็นการนำเสนอข้อมูลและสาระสำคัญอันเป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อการปรับตัวของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทยสู่ความเจริญก้าวหน้าของประเทศในเรื่องใดนั้นยังคงเป็นหน้าที่สำคัญ
ที่สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) มีความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่ผลักดันและส่งเสริมความรู้ควบคู่การพัฒนาบุคลากรอันเป็นเจตนารมณ์สำคัญ มาตลอดระยะเวลา 45 ปี ต่อไปด้วยความภาคภูมิใจที่ได้อยู่เคียงคู่อุตสาหกรรม  และสังคมไทยตลอดมา

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม:
ส่วนงานประชาสัมพันธ์ | สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย–ญี่ปุ่น) www.tpa.or.th
โทร. 0-2258-0320 ต่อ 1111/ 1113

ติดต่อ : คุณพีระพันธุ์   คนคง (ก๊อต)
โทร. 080 072 9477
E-mail.  peerapan@tpa.or.th

คุณศันสนีย์ กันอ่วม  (แอน)
โทร. 081 308 0474
E-mail: sansanee@tpa.or.th

คุณอริศรา คำพยา  (โบว์)
โทร. 089 992 2633
E-mail : arissara@tpa.or.th

TAXI ไทยปัญหาระดับชาติ

โครงการ Taxi V.I.P
ปฏิวัติวงการรถแท็กซี่ไทยสู่มาตรฐานสากล

ปัญหาหลักของวงการรถแท็กซี่ไทย มีอยู่ 2 เรื่องคือ ผู้ขับขี่และตัวรถแท็กซี่ สำหรับปัญหาเรื่องผู้ขับขี่ คือ  การขาดวินัยและจรรยาบรรณในการให้บริการ ซึ่งปัจจุบันมีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ  และเอกชนได้เข้าแก้ไข โดยได้จัดอบรมผู้ขับขี่รถแท็กซี่ ให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ภาษา  และกฎระเบียบต่างๆ รวมถึงสร้างจิตสำนึกที่ดีในการให้บริการ  อีกปัญหาหนึ่งของแท็กซี่ คือเรื่องรถ

TAXI VIP  เป็นการเพิ่มทางเลือกในการให้บริการของประชาชน โดยใช้รถ
ที่มีมาตรฐานขนาดตัวรถ สมรรถนะรถที่สูงกว่ารถแท็กซี่ทั่วไป เพิ่มอุปกรณ์ส่วนควบสำหรับให้บริการที่มีความสะดวกสบาย  เพิ่มเติมจากข้อกำหนด
การติดตั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ส่วนควบตามโครงการ ทำให้ระบบการบริหารจัดการด้วย ฐานข้อมูลที่เป็นระบบ สามารถพัฒนาศูนย์ประวัติ  รถแท็กซี่ที่จดทะเบียนในระบบทุกคัน และประวัติผู้ขับรถทุกคน ตลอดจน การบันทึก ติดตามการกระทำผิดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากมาตรการกำกับ ควบคุมและบังคับใช้กฎหมายกับรถแท็กซี่ กรมการขนส่งทางบกมีมาตรการเชิงบวก หรือยกย่องคนขับรถแท็กซี่ที่กระทำดีหรือสร้างประโยชน์ให้สังคม

วันนี้ Toptotravel  มีโอกาสเข้าสัมภาษณ์ โครงการ Taxi V.I.P ตอบสนองนโยบายของภาครัฐ  ด้วยการเปิดช่องทาง การสร้างงานสร้างอาชีพ  และ
รายได้เสริมให้แก่ผู้ที่สนใจ  ราคาที่ดาวน์ต่ำ ดอกเบี้ยถูก หรือจะเลือกผ่อนดาวน์  0% นาน 10 เดือน เเละผ่อนค่างวดเฉลี่ย  เพียงวันละ 500 กว่าบาท พร้อม พ.ร.บ และประกันภัย ชั้น 1 รวมถึง  ยังเปิดช่องให้กลุ่มผู้ลงทุนที่ต้องการเปิดกิจการรถเเท็กซี่ให้เช่าเป็นของตนเอง ได้เข้ามาปรึกษาเพื่อขยายธุรกิจเกี่ยวกับกลุ่มรถเช่าในระยะยาว 

คุณเกียรติศักดิ์ กีรติยากรสกุล (เรย์) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เค.พี.เอ็น. มอเตอร์คาร์ จำกัด เจ้าของและผู้ริเริ่มก่อตั้งโครงการ Taxi V.I.P ปรับลุคใหม่
ให้กับวงการแท็กซี่ไทย ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก และ ภายใน ที่แตกต่างจากแท็กซี่ทั่วไป

กล่าวต่อว่า ปัญหารถแท็กซี่ไทยในปัจจุบัน ถือเป็นปัญหาระดับชาติที่ส่ง
ผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ  อาทิ ปัญหาอาชญากรรม การให้บริการ สุขอนามัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารบริษัทฯได้เล็งเห็นปัญหาดังกล่าวจึงเกิดโครงการ Taxi V.I.P  เพื่อมาช่วยปรับภาพลักษณ์ใหม่ให้กับแท็กซี่ไทย

คุณเกียรติศักดิ์ กีรติยากรสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เค.พี.เอ็น. มอเตอร์คาร์ จำกัด

ทุกวันนี้ ธุรกิจยานยนต์ของบริษัท KPN มีครบวงจร ทั้งจำหน่ายยางรถยนต์ผลิตและจำหน่ายแท็กซี่ รับจัดไฟแนนซ์รถยนต์สินเชื่อแท็กซี่ ตัวแทนขายประกันภัย พ.ร.บ. รถยนต์ทุกชนิด ติดตั้งระบบก๊าซรถยนต์ให้กับ  ดีลเลอร์รถยนต์โตโยต้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ควบคุมน้ำมัน KPN E85 ขยายธุรกิจจำหน่ายรถแท็กซี่  ร่วมกับ  บริษัท
โตโยต้า 15 สาขา ส่วนสาขาของ KPN MORTOR อีก 3 สาขา รวมทั้งสร้างศูนย์บริการยางรถยนต์มาตรฐาน KPN AUTO TYRES 2 สาขา รวมทั้งได้รับสิทธิเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์มือสองทุกชนิด จากจากการแต่งตั้งโตโยต้าชัวร์  3 สาขา  พร้อมเป็นผู้จำหน่ายยางรถยนต์ให้  กับบริษัท โตโยต้า 30 สาขา 5 จังหวัด นอกจากนี้ยังทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร

คุณเรย์ เล่าให้ฟังว่า การทำแท็กซี่วีไอพี บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและยกระดับวงการอาชีพรถแท็กซี่ของเมืองไทยให้ได้มาตรฐาน โดยเราทำตรงนี้  เพื่อเป็นการตอบแทนสังคมเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แท็กซี่ไทยที่มักมีปัญหาภาพลักษณ์ไม่ดีอยู่เป็นระยะเกี่ยวกับคนขับแท็กซี่   นอกจากนั้น  ยังเน้นย้ำด้านบริการด้วยมิตรภาพและจรรยาบรรณที่ดีและเรายังทำข้อตกลงว่าคุณจะต้องไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร พร้อมกันนี้เรายังเปิดอบรม ฝึกมารยาท ภาษา และ  หลักในการบริการลูกค้าแบบมาตรฐานสากล  ให้กับคนขับในโครงการแท็กซี่วีไอพีด้วย จึงนับว่าเป็นการเปลี่ยนทัศนคติใหม่ของวงการแท็กซี่ไทยที่ใครเห็นก็อยากนั่ง ดังนั้น รถแท็กซี่ที่ให้บริการดีสะดวกสบายและปลอดภัย ถือเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศและความประทับของผู้โดยสาร

บริษัท เค.พี.เอ็น. มอเตอร์คาร์ จำกัด ผู้ริเริ่มก่อตั้งโครงการ Taxi V.I.P

อีกทั้งยังเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพที่น่าภาคภูมิใจอย่างถูกกฏหมาย พร้อมกับรักษาอาชีพของคนไทยทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้ขับแท็กซี่หน้าใหม่เข้าสู่ระบบผ่านการอบรม  และพัฒนาสร้างจิตสำนึกการให้บริการที่ดี
มีคุณธรรม เพื่อปรับยุคสมัยสู่ไทยแลนด์ 4.0 ต่อไป

ทีมงานพนักงานขับ TAXI VIP

โดยทาง บริษัทฯ  ได้จัดให้มีการอบรมสำหรับผู้ขับขี่รถแท็กซี่ขึ้น โดยให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษ  และกฎระเบียบต่างๆของทางราชการ รวมถึงสร้างจิตสำนึกที่ดีในการให้บริการกับผู้โดยสารและอีกปัญหาหนึ่งของแท็กซี่ คือเรื่องรถโดยประเทศไทยถูกจัดอันดับเป็นลำดับต้นๆ เฉพาะด้านความคุ้มค่าในเรื่องของราคาค่าโดยสารเท่านั้น

เราจึงต้องการแก้ปัญหานี้ผ่านโครงการ Taxi V.I.P ด้วยการนำรถหรูป้ายแดง  อาทิ   Toyota Camry ,Toyota Fortuner ,Toyota Altis ฯลฯ

เข้าสู่โครงการโดยให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพรถยนต์ ตั้งแต่กระบวนการ
พ่นสีตัวรถที่เลือกใช้สีแบบแห้งช้า เกรดเดียวกับที่พ่นรถยุโรป   ระบบก๊าซ NGV / LPG ด้วยอุปกรณ์จากประเทศอิตาลีทั้งหมด โดยใช้ศูนย์ติดตั้งก๊าซ  ที่ได้มาตรฐานจากหน่วยงานภาครัฐ ทั้ง  ปตท. กรมธุรกิจพลังงาน และกรมการขนส่งทางบก รวมถึงปรับโฉมภายในด้วยการหุ้มเบาะหนังแท้พร้อมทั้งการกรุพื้นปกป้องฝุ่นภายในรถ มีระบบมิเตอร์ดิจิตอล  แบบสัมผัสพร้อมใบเสร็จรับเงินภายในตัว และระบบชำระค่าแท็กซี่ผ่าน บัตรเครดิตทุกธนาคาร รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ  การมีสายต่อเชื่อม USB  เพื่อชาร์ตเบตเตอร์รี่โทรศัพท์มือถือ บริการฟรี Wifi  และน้ำดื่ม

ทั้งนี้เพื่อเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้านความปลอดภัย  และความสะดวกสบายให้กับรถแท็กซี่ไทยและโครงการนี้ยังรองรับรถแท็กซี่เก่าที่กำลังจะหมดอายุในปีนี้กว่า 20,000 คัน


สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ Taxi V.I.P นำรถหรูป้ายแดงมาทำแท็กซี่ เพื่อสร้างอาชีพและรายได้เสริม ต้องการเป็นเจ้าของรถแท็กซี่ส่วนบุคคล  โดยทำรถแท็กซี่ให้เป็นรถอเนกประสงค์  ขับไปทำงาน หรือรับส่งคนในครอบครัวก็ยังสามารถรับส่งผู้โดยสารหลังเลิกงานประจำได้ ราคาที่ดาวน์ต่ำ  ดอกเบี้ยถูก หรือเลือกโปรเเกรมผ่อนโดยฟรีดอกเบี้ย0% นาน 6 เดือน ผ่อนค่างวดเฉลี่ยเพียงวันละ 500 กว่าบาท พร้อม ประกันภัย ชั้น 1 ประกันอุบัติเหตุให้ผู้ขับขี่ฟรี วงเงินคุ้มครองสูงถึง 1.2 ล้านบาท

รวมถึงยังเปิดช่องให้กลุ่มผู้ลงทุน ที่ต้องการเปิดกิจการรถเเท็กซี่ให้เช่าเป็นของตนเองได้เข้ามาปรึกษาเพื่อขยายธุรกิจเกี่ยวกับกลุ่มรถเช่าในระยะยาว
ติดต่อ โครงการ Taxi V.I.P ด้วยการนำรถหรูป้ายแดงโทร. 086 794 9999

WWW.KPNMOTORCAR.COM
Lind Id: @KPNMOTORCAR
Facebook: KPN MOTORCAR