ม.ราชภัฏเพชรบุรีร่วมกับ บพข. จัดกิจกรรมทดสอบเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

เมื่อวันที่ 25-26 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี โดยอาจารย์ ดร.มธุรส ปราบไพรี อาจารย์ ดร.มลทิชาโอซาวะ และ อาจารย์ ดร.อัจฉราวรรณ เพ็ญวันศุกร์ จัดกิจกรรมทดสอบเส้นทางและกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดเพชรบุรี “วัฒนธรรมละมุน ธรรมชาติละไม เที่ยวสุขใจที่พริบพรี” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยเรื่อง การพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อยกระดับเมืองสร้างสรรค์ของจังหวัดเพชรบุรี ภายใต้แผนงานวิจัยการพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อยกระดับเมืองสร้างสรรค์ของจังหวัดเพชรบุรี ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) โดยครั้งนี้ได้นำภาคีที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเพชรบุรีทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และคณะนักท่องเที่ยว เยือนชุมชนบางตะบูน ชุมชนย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำเพชรบุรี ชุมชนบ้านถ้ำเสือ จำนวนกว่า 50 ราย โดยมี ผอ. ดวงใจ คุ้มสอาด ผอ.ททท.สำนักงานเพชรบุรี ร่วมเดินทาง

อาจารย์ ดร.มธุรส ปราบไพรี มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ผู้รับผิดชอบกิจกรรมในครั้งนี้ กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการทดสอบกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อประเมินเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ได้ออกแบบขึ้นมา ศึกษาความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวและภาคีที่เกี่ยวข้อง อันจะนำไปสู่การพัฒนาและส่งเสริมเส้นทางและกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่เหมาะสมของจังหวัดเพชรบุรี

หลักการของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ มีทั้งหมด 7 อ. ได้แก่ อ.1 คือ อาหาร รับประทานอาหารของท้องถิ่นที่ผ่านการปรุงและใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น มีคุณค่าทางโภชนาการ ปลอดสารและปลอดภัย เช่น อาหารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเค็ม ความหวาน เป็นต้น

อ.2 อากาศ อยู่ในพื้นที่และสภาพแวดล้อมที่อากาศที่สะอาด บริสุทธิ์ มีความเป็นธรรมชาติ สร้างความสดชื่นเพื่อช่วยให้ปอดได้พักและรับออกซิเจน พื้นที่แหล่งท่องเที่ยวไม่แออัดและไม่มีมลพิษสูง เช่น ฝุ่น PM 2.5, ควัน, และสารเคมีโลหะหนัก เป็นต้น

อ.3 ออกกำลังกาย การออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมเพื่อบริหารร่างกายให้เกิดการเคลื่อนไหว ช่วยให้หัวใจทำงานได้ดี เพิ่มการกระตุ้นให้โลหิตไหลเวียนดี เสริมสร้างกล้ามเนื้อ บำบัดความเครียด ลดอาการเจ็บปวดบางอย่าง และช่วยให้ระบบประสาททำงานดีขึ้น

อ.4 อารมณ์ มีอารมณ์รื่นเริง ยินดี มีความสุข ผ่อนคลาย สนุกสนาน มีจิตแจ่มใส และเพลิดเพลิน จากการทำกิจกรรมหรือการได้รับประสบการณ์ในการเรียนรู้ร่วมกับชุมชน

อ.5 อดิเรก ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ เพิ่มพูนคุณค่า มีคุณค่าทั้งร่างกายและจิตใจ สร้างความสุข และสนุกสนาน

อ.6 อนามัย แหล่งท่องเที่ยว สินค้า และบริการที่มีความสะอาดและมีมาตรฐานด้านความปลอดภัย

อ.7 อนุรักษ์ ใส่ใจและตระหนักการสร้างพฤติกรรมที่ยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม เช่น การลดการใช้พลาสติก การจัดการขยะ การรักษาธรรมชาติ การสนับสนุนวัฒนธรรมพื้นบ้าน และการกระตุ้นจิตสำนึกในการดูแลโลกและตัวเอง”

อาจารย์ ดร.มธุรส ปราบไพรี กล่าวต่อว่า ทางคณะผู้จัดการทดสอบได้กำหนดลงพื้นที่ชุมชนเพื่อทำกิจกรรมไว้ 3 ชุมชน คือบางตะบูน อำเภอบางตะบูน จังหวัดเพชรบุรี ชุมชนย่านเมืองเก่าริมน้ำเพชรบุรี อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี ชุมชนบ้านถ้ำเสือ อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี โดยถือเป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็งด้านศักยภาพในการจัดการท่องเที่ยวและมีวัฒนธรรมที่โดดเด่น ในทั้ง 7 อ. ดังที่กล่าวมาแล้ว

อย่างชุมชนบางตะบูน จัดให้มีการล่องเรือเพื่อชื่นชมและเพลิดเพลินไปกับวิถีชุมชนชาวประมง นอกจากทางนักท่องเที่ยวจะได้ล่องเรือสัมผัสกับบรรยากาศของผืนน้ำและชุมชนสองฝั่งแม่น้ำ ยังมีการจัดให้ชมการเลี้ยง หอยนางรม หอยแครง หอยแมลงภู่ บริเวณปากอ่าวบางตะบูน ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งเลี้ยงหอยอันดับต้นๆของประเทศ ซึ่งบริเวณท่าน้ำวัดปากอ่าวบางตะบูนมีเรือสำหรับนำนักท่องเที่ยวโดยไต๋เรือชาวชุมชนคอยให้การต้อนรับ

ผู้จัดกิจกรรมกล่าวต่อว่า “นอกจากนี้ก่อนที่จะล่องเรือ ทางคณะผู้จัดฯ ได้นำสู่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เทศบาลตำบลบางตะบูน เพื่อทำเวิร์คช็อป การทำผ้ามัดย้อม การนำวัสดุเหลือใช้เช่นแห อวนมาถักทอเป็นกระเป๋าใส่ของใช้ การทำขนมโบราณ การใช้ปลิงบำบัดนำเสนอการรักษาสุขภาพโดยปลิง

ร้านยุ้งเกลือ ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ที่บ้านแหลม ที่ที่ไม่ใช่เพียงแค่ร้านอาหารที่มีวิวสวยแต่อาหารอร่อย แต่ถือเป็นร้านที่มีตำนานของชุมชนนาเกลือที่ทำนาเกลือมากว่าแปดสิบปี และบอกเล่าเรื่องราวผ่านพิพิธภัณฑ์ของทางร้านโดยคนรุ่นที่สี่

การเยือนชุมชนย่านเมืองเก่าริมน้ำเพชรบุรี อำเภอเมือง เริ่มต้นกิจกรรมจากที่พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดพลับพลาชัย ด้วยการเวิร์คช็อปเรียนรู้การตอกกระดาษ ก่อนจะพาคณะเดินชมชุมชนเก่าริมน้ำ เดินชมสตรีทอาร์ทและวิถีชุมชน นมัสการหลวงพ่อวัดมหาธาตุ ก่อนจะกลับมาทานอาหารในแบบขันโตกโดยนำเสนออาหารเชิงสุขภาพ พร้อมกับรับชมหนังใหญ่และการฝึกเชิดหนังใหญ่ การแสดงละครชาตรีละครพื้นบ้านที่ส่งต่อทางวัฒนธรรมจากเด็กๆ และชาวชุมชน โดยพี่น้อย – คุณรมยกรณ์ เอราวัณ

ในวันถัดมา เป็นการทำกิจกรรมที่ชุมชนถ้ำเสือที่ขึ้นชื่อด้านชุมชนท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ จัดให้ร่วมกิจกรรมสาธิตทำทองม้วนเงินล้าน ทองม้วนน้ำตาลโตนด โดย คุณยายวรรณา อินมี ผู้คิดสูตร เรียนรู้กิจกรรมเสือปั้นไข่ สอนการทำไข่เค็มหมักดอกอัญชัญ การร่วมอนุรักษ์ป่าด้วยการนำเมล็ดพันธ์พืชไม้ยืนต้นไปปั้นดินยิงหนังสติ๊กเพื่อปลูกป่าโดย พี่น้อย – คุณสุเทพ พิมพ์ศิริ เป็นกิจกรรมสุดท้าย”

ทั้งนี้ หลังจากการทดสอบเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ทางคณะผู้จัดกิจกรรมในครั้งนี้จะนำข้อเสนอแนะ ความคิดเห็นต่างๆ จากผู้ร่วมกิจกรรมเพื่อนำไปปรับปรุงและนำเสนอแก่หน่วยงานที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่อไป

JEJU Comeback นักท่องเที่ยวไทยบินตรงแบบเช่าเหมาลำสู่เกาะเชจู

ประสบความสำเร็จล้นหลาม ! JEJU Comeback นักท่องเที่ยวไทยบินตรงแบบเช่าเหมาลำสู่เกาะเชจู คึกคัก “ทรู เวิลด์ ทราเวล” เผยเตรียมเปิดบริการอีกครั้งวันฉัตรมงคลนี้

สายการบินโลว์คอสอันดับ 1 ของเกาหลีใต้ Jeju Air บริษัท เจจูแอร์ จำกัดสายการบินราคาประหยัดแห่งแรกและที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ ที่มีฐานการบินหลักที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชจู และมีสำนักงานใหญ่ในนครเชจูประกาศความร่วมมือกับบริษัททัวร์อันดับต้นๆ ของไทย ทรู เวิลด์ ทราเวล ทำสัญญาเช่าเหมาลำนำคนไทยเที่ยวเกาะเจจูแบบบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่เกาะเจจู กลับมาอีกครั้งรอบสองปี เมื่อวันสงกรานต์ที่ผ่านมา

นาย ยุนโฮ ชอย ผู้จัดการประจำภูมิภาคเชจูแอร์ สำนักงานในประเทศไทย (Mr. Yoonho Choi Regional Manager Jeju Air) เผยว่า “สายการบิน เชจูแอร์ สายการบินโลวคอสอันดับ 1 ของเกาหลีใต้ มีความยินดีที่จะประกาศการกลับมาให้บริการเส้นทาง กรุงเทพ–เชจู อีกครั้งในรอบ 2 ปี ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป สามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่เกาะเชจู ซึ่งเป็นเกาะที่สวยที่สุดของเกาหลีใต้ได้โดยไม่ต้องแวะพักหรือเปลี่ยนเครื่องให้ยุ่งยากอีกต่อไป

เส้นทางสู่เกาะเชจูได้เปิดให้บริการขึ้นอีกครั้ง ภายใต้สัญญาเช่าเหมาลำร่วมกับบริษัททัวร์ทรูเวิลด์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์เกาหลียอดนิยมของ Netflix เรื่อง “ยิ้มไว้ในวันที่ส้มไม่หวาน ” ขอเชิญชวนทุกท่านมาเยี่ยมชมความงดงามของเชจูด้วยกันนะครับ

นางสาวพธู ณ สงขลา ผู้บริหาร True World Travel กล่าวว่า “เกาะเชจูมีจุดเด่นตรงที่เป็นเกาะมรดกโลก ที่ใครหลายๆ คนอยากไปเที่ยว นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่เป็นเมืองธรรมชาติ มีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ทุ่งดอกไม้สวยงาม เช่นทุ่งโบกอม โดยเฉพาะเป็นเมืองที่อากาศดี อากาศที่บริสุทธิ์ สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี รวมถึงการที่มี ซีรี่ส์เกาหลีหลายๆ เรื่องไปถ่ายทำกันที่นั่น เราก็ไม่หลุดเทรนด์ ก็จัดให้คนไทยได้ไปเที่ยวเกาะเชจูด้วยกัน

เกาะนี้ไม่ใช่เส้นทางใหม่ของบริษัทฯ สายการบินไม่ได้เปิดบินตรงมาสองปี รอบนี้กลับมา เรียกว่า Come back ให้กลับไปเที่ยวเกาะเชจูกันได้ง่าย ๆ แบบไม่ต้องแวะเมืองอื่น ทำให้คนไทยที่คิดถึงเกาะเชจูอยู่ได้ไปเที่ยวเกาะนี้ได้สมใจแบบสะดวกสบายเกาะเชจูรอบนี้ เปิดไฟล์ทนี้เป็นไฟล์ทแรก คือช่วงสงกรานต์ และไฟล์ทที่สองเป็นวันฉัตรมงคล ในวันที่ 2-5 พฤษภาคม 2568

ส่วนนักท่องเที่ยวต้องการท่องเที่ยว สามารถเที่ยวจองตรงกันได้บินตรงเหมือนกันและ หลังจากนั้นเดือนมิถุนายน สายการบินเปิดกันแบบระยะยาวไปจนถึงเดือนมีนาคมปีหน้า บินทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 ไฟล์ท ให้คนไทยได้ไปเที่ยวกันอย่างเต็มที่

นอกจากเกาะเจจูแล้ว ทางทรู เวิลด์ ทราเวล ยังมีบริการเส้นทางหลักๆ ไม่ว่าจะเป็นปูซาน กรุงโซล และเส้นทางใหม่ที่หลายคนบอกว่า ปังมากคือการไปเที่ยวเกาหลีคู่กับญี่ปุ่น ตอนนี้เปิดสองเส้นทาง เกาหลีใต้คู่กับเมืองมัตสึยามะและเกาหลีใต้คู่ฮอกไกโด


ผู้บริหาร ทรู เวิลด์ ทราเวล กล่าวทิ้งท้ายว่า “สำหรับผู้ที่สนใจ อยากไปท่องเที่ยวเกาหลีใต้กับทรู เวิลด์ ทราเวล ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมอะไร สามารถเดินทางได้ในแบบสบายกระเป๋า ได้เที่ยวจริง ไม่มีจกตา True World Travel รับจัดทัวร์ที่ประเทศเกาหลี ทัวร์ที่แรกที่ไปเกาะเซจูแบบบินตรงไปลงที่เซจู โปรแกรมท่องเที่ยวเมืองต่างๆ ของประเทศเกาหลี

สามารถจองผ่าน Facebook Fanpage : trueworldtravel และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศได้ในราคาเท่ากับที่ทรู เวิลด์ ทราเวล

โสฬสคลินิก ศูนย์การค้าพาราไดร์พาร์ค

Toptotravel อยู่ที่ สถานีสุขภาพดีที่พาราไดซ์ พาร์ค จุดหมายของคนรักสุขภาพ ศูนย์การค้าที่รวบรวมไลฟ์สไตล์การดูแลตัวเองทั้งกายและใจ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ การออกกำลังกาย คลินิกเสริมความงาม ร้านนวด คลินิกกายภาพบำบัด และคลินิกแพทย์ทางเลือกอย่าง โสฬสคลินิก (SOROT CLINIC) ศูนย์การค้าพาราไดร์พาร์ครักษาไมเกรนและโรคปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง

วันนี้ ทีมงาน Toptotravel อยู่สถานีสุขภาพที่พาราไดซ์ พาร์ค โสฬสคลินิก (SOROT CLINIC) คลินิกรักษาไมเกรนและโรคกล้ามเนื้อเรื้อรังมีโอกาสใช้บริการและคุณหมอโสฬส (กวินทัศน์ รัฐรวีธนาฤทธิ์ ) ผู้ก่อตั้งโสฬสคลินิก
ให้เกียรติต้อนรับและ กล่าวถึง คลินิกรักษาโรคไมเกรนและอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง หมอโสฬส จบการศึกษาโรงเรียนแพทย์อายุรเวทศิริราช รุ่น 19 (แพทย์อายุรเวท รุ่น 21 เริ่มก่อตั้ง หลักสูตรปริญญาตรี สาขาแพทย์แผนไทยประยุกต์ จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล) นำองค์ความรู้การแพทย์แผนไทย ซึ่งถือว่าเป็นองค์ความรู้ของชาติ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมา

วิธีการรักษา ทีมแพทย์โสฬสคลินิก จะใช้เพียงแค่นิ้วมือในการรักษาด้วยวิธี
“กดจุดลีกปรับโครงสร้างกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น (Deep Acupressure and Muscle Restructuring)” ผสมผลานกับ “การบำบัด

Trigger Points คืออะไร ทำไม? จึงสำคัญต่อการรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง”พร้อมสาธิตวิธีทดสอบความผิดปกติของกล้ามเนื้อและกระดูกข้อต่อเบื้องต้น

จุดกดเจ็บ (Trigger Points Therapy) เป็นเทคนิคเฉพาะที่ได้ประยุกต์และพัฒนาจากประสบการณ์การรักษา ซึ่งเป็นอีกทางเลือกในการรักษาที่มีประสิทธิภาพ โดย ไม่มีการบิด ดัด กระดูก ไม่มีการใช้ยา ไม่มีการใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ใดๆซึ่งการรักษาส่วนใหญ่มักจะเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก แต่อาจจะไม่หายปวด 100% เนื่องจากผู้ป่วยมักมี

อาการปวดมาระยะเวลานาน จนมีการสะสมความตึงตัว แข็งเกร็ง ของปม Tigger Points ดังนั้น ในช่วงแรกของการรักษาแพทย์จึงแนะนำให้ผู้ป่วยมารักษาต่อเนื่องสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อกลับไปตึงตัว ในระดับเดิมอีกสำหรับระยะเวลาในการรักษาของแพทย์ จะไม่มีการจำกัดเวลา แต่โดยส่วนใหญ่จะใช้ระยะเวลาการรักษาครั้งละประมาณ 30-50 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดของปม Trigger Points ระยะเวลาของตัวโรค และสภาพร่างกายของผู้ป่วย

โดย “หมอแต๊ก” สุธีรา ภูมิภักดี  การศึกษาปริญญาโท สาขาเภสัชวิทยา คณะบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาตรี สาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  ปัจจุบัน –  แพทย์แผนไทยประยุกต์ โสฬสคลินิก (SOROT CLINIC) คลินิกรักษาโรคไมเกรนและอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง

การรักษาไมเกรนและโรคปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง รักษาอาการปวดศีรษะไมเกรน กล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง ออฟฟิสซินโดรม โดยไม่ใช้ยา คลินิกการแพทย์ทางเลือก ที่มีประสบการณ์ในการรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังและไมเกรนโดยไม่ใช้ยา ด้วยวิธีการรักษาแบบการกดจุดและการปรับโครงสร้างกล้ามเนื้อ (Deep Acupressure and Muscle Restructuring) ผสมผสานกับทฤษฎี การบำบัดจุดกดเจ็บ (Trigger Point Therapy) และการบำบัดปมกล้ามเนื้อ (Muscle Knot Therapy)

สุธีรา ภูมิภักดี ( หมอแต๊ก ) จบการศึกษาปริญญาโท สาขาเภสัชวิทยา คณะบัณฑิกล่าวถึงแนวทางการรักษา ไม่เกรนโดยไม่ใช้ยาการรักษาแบบแพทย์แผนไทยจะอยู่ใกล้ตัวเรามาก ๆ  แต่ควรดำเนินการรักษากับแพทย์แผนไทยที่มีใบประกอบโรคศิลปะที่ถูกต้องตามกฎหมาย และหากกำลังดำเนินการรักษาอยู่กับแพทย์แผนปัจจุบัน  ไม่ว่าจะเป็นโรคเดียวกันกับที่ต้องการรักษาด้วยวิธีแพทย์แผนไทย หรือโรคอื่น ๆ จำเป็นต้องแจ้งแพทย์ทั้ง 2 ฝั่งให้ครบถ้วน

และนี่คือ โสฬสคลินิก บริการตรวจ วินิจฉัย รักษา โรคไมเกรนและกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง เช่น ปวดต้นคอ บ่า สะบัก ปวดหลัง ปวดสะโพก ปวดเข่า โดยทีมแพทย์อายุรเวทศิริราช ซึ่งมีประสบการณ์รักษามามามากกว่า 20 ปี

สามารถเข้ามาพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ประเมินอาการและวางแผนการรักษา ได้ฟรี ทุกวัน
เวลา 11.00 -20.00 น. โสฬสคลินิก (SOROT CLINIC)

ชั้น 3 ศูนย์การค้าพาราไดร์พาร์ค

สนใจปรึกษาแพทย์หรือนัดทำการรักษาได้ทุกวัน
0841546253 , 0612629725
ชั้น 3 ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค
เปิดบริการทุกวัน 10.30 – 20.00 น.
รถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง ลงสถานี สวนหลวง ร.9 ทางออก 2

Mr.Nandor von der Luehe เจ้าของและผู้บริหาร The Barrel House

นันดอร์ ฟอน เดอร์ ลือเหอ เจ้าของและผู้บริหาร The Barrel House พัทยาให้เกียรติต้อนรับ Toptotravel สู่บ้านพันส่วนตัวโครงการบ้านหรู 100 ล้านบาท ย่านพัทยา บนทำเลทองของเขาพระตำหนัก ใกล้ชายหาด และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ บ้านพักเห็นวิวทะเล วิวเมือง และวิวภูเขาแบบพาโนรามา เป็นบ้านพักที่ได้สัมผัสความเป็นส่วนตัว และคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด

วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักเส้นทางอาชีพของ Mr.Ferdinand (Nandor) von der Luehe  ตั้งแต่จุดเริ่มที่มีโอกาสทำงานในเมืองไทย จนประสบความสำเร็จในเมืองไทย Mr.Ferdinand (Nandor) von der Luehe ทำธุรกิจเมืองไทยมา 30 กว่าปี อดีต รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและประธานคณะทำงานป้องกันและปราบปรามคอร์รัปชั่น หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ปัจจุบัน ผู้บริหารของ The Barrel House พัทยา

เดอะบาเรลเฮ้าส์ พัทยา เฟอร์ดินานด์ (นันดอร์) ฟอน เดอร์ ลือเหอ  ประธานบริหารThe Barrel House พัทยา เปิดเผยว่า ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่สำคัญและเป็นตลาดยุทธศาสตร์ในเอเซียอย่างมาก การทำร้านอาหารเหมือนการเล่าเรื่อง เรื่องเล่าของร้าน เดอะบาเรลเฮ้าส์ พัทยา ที่เต็มไปด้วยความสุข และยังเป็นสถานที่คนทั่วโลกนิยมมาท่องเที่ยว เพราะประเทศไทยเป็นทำเลหรือประตูสู่เอเซียทั้งหมด และที่พัทยาเป็นหนึ่งในตลาดการท่องเที่ยวและการบริการที่เฟื่องฟูที่สุดแห่งหนึ่ง รวมทั้งยังมีศักยภาพในการพัฒนาที่แข็งแกร่งสำหรับการทำธุรกิจอีกด้วย

“นันดอร์ ฟอน เดอร์ ลือเหอ เล่าต่อว่า การบริหารงานโดยวางตำแหน่งของพัทยาเป็นธุรกิจในการรุกตลาดลูกค้าไทย และลูกค้านักท่องเที่ยวต่างประเทศ การขยายตัวจากนี้ไปของ เดอะบาเรลเฮ้าส์ พัทยา ตามแผนการลงทุนในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจของตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย

 ปัจจุบันเดอะบาเรลเฮ้าส์ พัทยา เสริฟเครื่องดื่มเยอรมันรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านเพลิดเพลินและผ่อนคลายท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ เต็มอิ่มไปกับความสนุกสนานที่ร้านแฮงเอาต์ดี ๆ พร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนูเครื่องดื่มและเบียร์สูตรพิเศษ รวมถึงอาหารสไตล์ European & Thai


การออกแบบร้าน ถูกตกแต่งโดดเด่นสะดุดตาด้วยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์อทำให้มีกลิ่นอาย แฝงบรรยากาศสบาย ๆ โดยมีโซนที่นั่งหลากหลายให้สามารถเลือกแฮงเอาต์โซนด้านหน้ากึ่ง Outdoor  รับลมชมวิวอันแสนสบาย หรือโซนด้านในที่พร้อมให้มาดื่มด่ำกับเสียงดนตรีสดจาก Live Music  เติมเต็มโมเมนต์แห่งการแฮงเอาต์สำหรับเมนูอาหารของทางร้านการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดีทั้งแบบ Local และนำเข้ามาในไทย สู่การรังสรรค์อย่างพิถีพิถันและใส่ใจโดยเชฟมากประสบการณ์ https://thebarrelhouse.co.th/menu-images/

การทำธุรกิจร้านอาหาร ส่งผลดีต่อการใช้ชีวิตอธิบายถึงแนวคิดการลงทุน จากประสบการณ์ทำงานร่วมกับหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ปรับปรับวิธีการพัฒนาตนเอง ซึ่ง สิ่งที่เราต้องเปลี่ยนแปลง เพื่อที่เราจะได้ก้าวเดินไปสู่ความสำเร็จและเป็นผู้เชี่ยวชาญ 

The Barrel House Pattaya
333/38-40 Nong Prue Bang Lamung – Pattaya Cityinfo@thebarrelhouse.co.th097 932 9659

The Barrel House Pattaya

ร้านลับใหม่ล่าสุด ในพัทยา ที่นี่เราได้พบกัยเครื่องดื่มที่ปรุงแบบเยอรมันต้นตำรับ วันนี้จะพามารู้จักกับร้านลับใหม่ล่าสุดที่พัทยา เป็นร้านอาหารสเปน ในบรรยากาศค่ำคืนที่เอาตัวเองไปอยู่ในต่างประเทศ ชื่อร้าน The Barrel House นำเสนอการผสมผสานที่ไม่เหมือนใครของอาหารเลิศรส ไวน์ชั้นดี และเบียร์ฝีมือดี ซึ่งคัดสรรโดยเชฟจอร์ดี ฟรานเกส กีเตราส เชฟใช้วัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศ  เดอะบาเรลเฮ้าส์ บรรยากาศเหมือนหลุดไป Night Club สไตล์ต่างประเทศ เต็มอิ่มไปกับความสนุกสนานที่ร้านแฮงเอาต์ดี ๆ พร้อมเสิร์ฟหลากหลายเมนูเครื่องดื่มและเบียร์สูตรพิเศษ รวมถึงอาหารสไตล์ European & Thai แสนอร่อยให้เอ็นจอยในทุก ๆ ค่ำคืน

ร้าน The Barrel House อันเป็นที่มาของชื่อร้านแห่งนี้ ซึ่งสะท้อนถึงความประณีต พิถีพิถัน และรายละเอียดอันงดงามที่ถูกถ่ายทอดผ่านทุกองค์ประกอบของร้าน ซึ่งสะท้อนถึงความประณีต พิถีพิถัน และรายละเอียดอันงดงามที่ถูกถ่ายทอดผ่านทุกองค์ประกอบของร้าน การออกแบบร้าน ถูกตกแต่งโดดเด่นสะดุดตาด้วยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์อทำให้มีกลิ่นอาย แฝงบรรยากาศนั่งแบบสบายๆ โดยมีโซนที่นั่งหลากหลายให้สามารถเลือกแฮงเอาต์กันได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็น โซนด้านหน้า Outdoor ที่พร้อมให้นั่งชิลล์ ๆ รับลมชมวิวอันแสนสบาย หรือโซนด้านในที่พร้อมให้มาดื่มด่ำกับเสียงดนตรีสดจาก Live Music
ได้แบบเพลิน ๆ เติมเต็มโมเมนต์แห่งการแฮงเอาต์ให้ลงท้ายด้วยความประทับใจ

โดยเชฟจอร์ดี ฟรานเกส กีเตราส พร้อมรังสรรค์เมนูพิเศษความอร่อยสไตล์สเปนมีประสบการณ์มากมายจากร้านอาหารมิชลินสตาร์ รังสรรค์หลากหลายเมน มีสไตล์การปรุงอาหารที่โดดเด่น และเน้นความสดใหม่ของวัตถุดิบตามฤดูกาล ที่นำเมนูขึ้นชื่อของสเปน มาเสนอหรืออาหารเรียกน้ำย่อย สูตรเฉพาะของทางร้าน แต่ขอบอกว่าอิ่มอร่อยด้วยรสชาติถึงรสแน่นอน นอกจากนี้ทางร้านยังคงให้ความสำคัญกับคุณภาพของวัตถุดิบ นำข้าจากต่างประเทศ ผสมผสานไปกับวัตถุดิบท้องถิ่นของประเทศไทย ดื่มด่ำเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มเยอรมันไปกับเบียร์สูตรพิเศษ และเมนูไวน์หลากหลาย รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน เครื่องดื่มที่ปรุงแบบเยอรมันต้นตำรับ จับคู่กับอาหารรสเลิศ

สำหรับเมนูอาหารของทางร้านโดดเด่นด้วยการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดี ทั้งแบบ Local และนำเข้ามาในไทย สู่การรังสรรค์อย่างพิถีพิถันและใส่ใจ โดยเชฟมากประสบการณ์ นำเสนอเมนูอาหารสไตล์ European & Thai ตอบโจทย์ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เหมาะแก่การนำมา Pairing คู่กับเครื่องดื่มแก้วโปรดที่ช่วยชูรสชาติให้อร่อยมากยิ่งขึ้น The Barrel House

The Barrel House เป็นร้านแฮงค์เอาท์ที่เสมือนนั่งอยู่ต่างประเทศที่เปิดทุกวันพิกัด ย่านนาจอมเทียน ถนนทัพพระยา ก่อนถึงทางขึ้นเขาพระตำหนัก
เปิดทุกวัน 15.00 – 00.00 น.

Location: The Barrel House Pattaya, Thappraya Rd. https://maps.app.goo.gl/qM5ZyJpyds58RRJ79

To make a reservation: m.me/TheBarrelHousePattaya

โทร. 083 948 4737 และ 097 932 9659
www.thebarrelhouse.co.th????

Menu: https://thebarrelhouse.co.th/menu-images/#TheBarrelHouse#TheBarrelHousePattaya#Pattaya#PattayaRestaurant#PattayaTravel#BeerLovers#CraftBeer#barrelhouse#toptotravel

เปลี่ยนทุกวันให้แสนพิเศษที่ Café de Oasis & Toby’s Pizza

CAFE DE OASIS & TOBY’S PIZZA เสิร์ฟกาแฟ เบเกอรี่ เน้นอาหารจานเดียวที่เป็นเมนูเด่นของทางร้าน โดยเสิร์ฟตั้งแต่เมนูอาหารเช้าแบบฝรั่ง ข้าวต้ม ไข่กระทะ และอาหารจานเดียว อย่างเช่น ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ผัดกะเพราเนื้อ ข้าวผัดกากหมู พิซซ่าอบจากเตาร้อนๆ เมนูยอดนิยมของลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทุกจานมีคุณภาพและรสชาติอร่อย

ภาคิน พลอยภิชา ประธานกรรมการ บริษัท เดสทินี่เอ็นเตอร์ไพร์ซ จำกัด ผู้บริหารและผู้ก่อตั้งโอเอซิส สปา (Oasis Spa) จังหวัดเชียงใหม่ ให้เกียรติทีมงาน กล่าวถึง โอเอซิส สปา สปาแถวหน้าเบอร์หนึ่งของเมืองไทยและเอเชีย รวมไปถึง Cafe de Oasis & Toby’s Pizza ธุรกิจในเครือ ที่ทำรายได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยทำเลอยู่ใกล้ศูนย์ประชุมฯ ใกล้ศูนย์ราชการ และการเดินทางสะดวก ประกอบกับเน้นบริการเป็นสิ่งสำคัญ โดยนอกจากเมนูที่คัดสรรมากกว่า 100 เมนูแล้ว ยังได้ขยายเวลาเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น

ด้วยศักยภาพของ Cafe de Oasis & Toby’s Pizza มีความผสมผสานระหว่างความเป็น Oasis กับความทันสมัย คงคอนเซปต์ของความร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่และสวนสวย มีที่นั่งสบายๆ หลายโซน ทั้งห้องส่วนตัวเล็กๆ ท่ามกลางธรรมชาติ
สีเขียวที่มีต้นไม้ล้อมรอบ มีพื้นที่การจัดวางโต๊ะอาหารที่มีระยะห่างที่มีความเป็นส่วนตัว

สำหรับลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ที่นั่งด้านนอกใต้ร่มไม้ ที่นั่งในห้องแอร์เย็นสบาย และยังมีสวนด้านหลัง ที่สามารถจัดอีเวนต์เล็กๆ ขยายพื้นที่ให้บริการจำนวนที่นั่ง และพื้นที่การจัดประชุม เพิ่มจำนวนโต๊ะรองรับลูกค้าสังสรรค์ มาเป็นกลุ่ม โดยที่นั่งเน้นความเป็นส่วนตัว

Sourdough Bread ของ Cafe de Oasis & Toby’s Pizza

คาเฟ่ เดอ โอเอซิส ขอแนะนำ เมนูอาหารและเครื่องดื่ม รวมไปถึง เมนูพิซซ่า (อิตาเลียนสไตล์) เบเกอรี่ ไอศกรีม และเมนูอาหารมากกว่า 100 เมนู ส่วนเมนูเครื่องดื่ม ชากาแฟ มีทั้งอาหารไทย และพิซซ่าโฮมเมด และกาแฟสูตรเฉพาะเมนูทั้งหมดใช้วัตถุดิบพืชผักปลอดภัยที่ผ่านกระบวนการล้างอย่างดี เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าอาหารทุกจานนอกจากรสชาติอร่อยแล้วยังปลอดภัยต่อสุขภาพ
หลังมื้ออาหารแสนอร่อย

Reserve your spot now!
!Cafe de Oasis & Toby’s Pizza
Line: @cafedeoasis
Call: 053-920-191

Rooftop วิวดี The Press Sky Bar

ร้านดาดฟ้าน่านั่ง The Printing House Poshtel  Luxury Hostel ถนนดินสอ เยื้องศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร อันเป็นที่ตั้งของ The Printing House Poshtel – Luxury Hostel สไตล์ Industrial Loft  มีมุเดาดฟ้าน่านั่ง บรรยากาศรับลมเย็นๆ วิวสวยยามพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า กับวิวธรรมชาติ 360 องศา ทอดยาวสุดสายตา ช่วงพระอาทิตย์ใกล้ลับเหลี่ยมฟ้า เราเดินขึ้นบันไดวนเล็กๆ ชั้น 6 เพื่อชื่นชมบรรยากาศรอบๆ เกาะรัตนโกสินทร์  อีกด้านเป็นสะพานพระราม 8 มองไปอีกฝั่งเป็นภูเขาทอง วัดราชนัดดาวรวิหาร หันด้านขวาเห็นศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ถัดไปเป็น เสาชิงช้า วัดสุทัศน์ฯ ฉากหลังที่สวยงามเหมาะสำหรับการพบปะสังสรรค์  ท่ามกลางบรรยากาศที่ผ่อนคลายท่ามกลางทิวทัศน์กรุงเทพยามค่ำคืน จิบค็อกเทลสุดสร้างสรรค์ที่นึ่กลายเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับทุกคนเพลิดเพลินไปกับวิวกลางแจ้งและเส้นขอบฟ้า ในช่วงเย็นขณะชมพระอาทิตย์ตกดิน หรือช่วงที่มีวงดนตรี ดนตรีไพเราะ บรรยากาศที่มีชีวิตชีวาทำให้หลายท่านที่มาที่นี่ชื่นชอบ

The Letter Press Café & Restaurant ให้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเน้นสีสันสดใสในสไตล์โมเดิร์น เน้นแสงสีคอนทราส ให้ความรู้สึกอบอุ่น รองรับลูกค้าได้ประมาณ 45 คน เรียบง่ายแฝงความหรูหรา ทันสมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน จุดเด่นของที่นี่อยู่ที่แต่ละล็อคจะมีทีวีส่วนตัว พร้อมอุปกรณ์การฟังเส่วนตัวห้องพักมีทั้งหมด 15 ห้อง 6 แบบ โดยแบ่งออกเป็น  Family Suiteจำนวน 1 ห้อง, Private room จำนวน 3 ห้อง, Six Bunk Beds Ladies, Four Bunk Beds share Bathroom, Six Bunk Beds share bathroom, Eight Bunk Beds

เมนูอาหารหลากหลายพร้อม  ดื่มด่ำบรรยากาศแบบสบายๆ และมีบาร์เสริฟเครื่องดื่มตลอด ส่วนชั้น 6 เป็น rooftopเห็นวิวรอบๆเกาะรัตนโกสินทร์ทิวทัศน์ 360 องศา สามารถนำเครื่องดื่ม ไปจิบเบาๆเคล้าบรรยากาศได้อีกด้วย ศุกร์-เสาร์ พบกันวงดูโอที่จะมาให้ความเพลิดเพลินอย่างจุใจ และในค่ำคืนนี้เป็นการแนะนำเมนูใหม่ที่จะให้ลูกค้าได้เลือกสรรแบบไม่ซ้ำ

เมนูใหม่ที่ The Press Sky  Bar  อยู่บริเวณชั้น 5 และชั้น 6ของ The Printing House Poshtel เป็น open bar ท่ามกลางบรรยากาศกรุงเทพ  เหมาะมากกับการนัดปาร์ตี้เบาๆ ชมชิลวิวภูเขาทอง หรือทานข้าวมื้อเย็นเป็นหมู่คณะหรือมาแบบส่วนตัว เครื่องดื่ม หลากหลาย   ทั้งไม่มีแอลกฮอล์และมีแอลกฮอล์ สามารถนำเครื่องดื่มขึ้นมาจิบเบา ๆ เคล้าบรรยากาศได้อีกด้วย และช่วงวันศุกร์ วันเสาร์ พบกับวงดูโอที่มาให้ความเพลิดเพลินอย่างจุใจ และในค่ำคืนนี้เป็นการแนะนำเมนูใหม่ที่จะให้ลูกค้าได้เลือกสรรแบบไม่ซ้ำ เครื่องดื่ม Cocktail และ Moctail ที่เป็น Singnature ล้วนแล้วแต่คิดค้นขึ้นมาเองจึงหาดื่มเฉพาะที่นี่เท่านั้น และ Press Twilight ม๊อคเทลสูตรพิเศษ ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาสำหรับที่นี่

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ 099-439-1331
หรือ 094-934-4848​
The Press Sky Bar เปิดทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์
ตั้งแต่เวลา 18.00 – 23.00 น.

???????????? ???????????????????? ???????????? ???????????? ????????????
https://goo.gl/maps/o197w8jyNtP3nsxo7 

???????????????????????????????? . ???????????????? ????????????: https://wongn.ai/21ZX49

???????????????? ????????????????: https://grab.onelink.me/2695613898?pid=inappsharing 

ทำความรู้จักไวน์ Buck Koei Red

มาทำความรู้จักกับ ไวน์ที่จัดทำขึ้นอย่างพิถีพิถัน ผลิตจากผลองุ่นป่า Vitis Vinifera ที่หายากและเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ในบางช่วงฤดูของปี รู้จักกันในชื่อท้องถิ่น Buck Koei เจริญเติบโตเป็นเถาไม้เลื้อยตามป่าเชิงเขาหินซ้อน ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ไวน์นี้ได้รับการเก็บเกี่ยวด้วยมือโดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฮักป่าสัก Hug-Pasak โดยองุ่นแต่ละลูกจะมีความสมบูรณ์ สะท้อนถึงแก่นแท้ของแหล่งกำเนิดที่อุดมสมบูรณ์ได้อย่างดี องุ่นหายากเหล่านี้ให้ผลเพียงปีละ 1 ครั้ง จึงทำให้สามารถผลิตเป็นไวน์ได้เพียงประมาณ 300 ขวด/ปี ซึ่งจัดว่าน้อยมาก

ดังนั้นการดื่มแต่ละครั้งจึงถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่พิเศษสุด สภาพพื้นที่ทางภูมิศาสตร์และภูมิอากาศที่ไม่เหมือนใครของ ต.หินซ้อน อำเภอแก่งคอยทำให้ไวน์นี้มีเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ อันเกิดจากการประสานกันอย่างลงตัวของหมอกในยามเช้ากระทบกับแสงแดดอ่อนๆสอดประสานกัน จนเกิดเป็นวงดนตรีซิมโฟนีคลาสสิคแห่งรสชาติ ที่เลอเลิศลงตัว

ไวน์นี้เกิดจากความรักและความเอาใจใส่ของชุมชน ต.หินซ้อน ซึ่งถือเป็นว่าเป็นมากกว่าเครื่องดื่ม แต่จะเป็นมรดกทางใจ ของพวกเรา ขอเชิญคุณมาสัมผัสกับความงามอันเป็นเอกลักษณ์และศิลปะของไวน์ Buck Koei Red จากวิสาหกิจชุมชนฮัก-ป่าสัก ที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนา ตั้งใจจะรักษาไว้ให้เป็นมรดกอันล้ำค่าของตำบล โดยผ่านความพยายามในการทำงานเพื่อเชื่อมโยงชุมชนท้องถิ่นไปสู่ตลาดสากล

ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมความเจริญ สร้างชื่อเสียง และสร้างการยอมรับในด้านอื่นๆให้กับชุมชนหินซ้อน อ.แก่งคอยและจังหวัดสระบุรีของเราควบคู่กันไป

DRY SWEET 750ml. | 12% Alc/vol Product of Thailand

An exquisite testament to nature’s rarity, Buck Koei Red is crafted from wild Vitis vinifera known as Buck Koei, naturally flourishing in the untouched Hin Son Valley forest. Hand-picked with devotion by the Hug-Pasak community enterprise, each grape reflects the pure essence of its origin.

Fructifying but once a year, these elusive vines yield just enough for
300 bottles, making each sip a privileged encounter. The unique geography and climate of Kaeng Khoi District infuse the wine with unparalleled character—where mist-kissed mornings and sun-drenched days harmonize to create a symphony of flavors.

Born from the love and care of the Kaeng Khoi district community, thiswine is more than a beverage; it’s a heartfelt legacy. We invite you
to experience the singular beauty that is Buck Koei Red. Hug-Pasak Community Enterprise isdedicated to preserving Kaeng Khoi

District’s rich heritage. Through their philanthropic efforts, they connect the local community to the global market, while fostering local prosperity and recognition.

DRY SWEET 750ml. | 12% Alc/vol Product of Thailand
Produced and bottled by Hug-pasak co

#toptotravel #BuckKoeiRed

 Marcus Bar

Marcus Bar บาร์เปิดใหม่ใจกลางสีลมซอย 1บาร์แห่งนี้ ตัวร้านเป็นอาคารขนาดกะทัดรัดทำให้คุณได้พบกับความอบอุ่นที่อบอวลไปด้วยมิตรภาพ Marcus Bar การออกแบบที่โดดเด่น ทั้งความมีสีสันและกลิ่นอายความสนุกที่เป็นซิกเนเจอร์ ยังให้ความพิถีพิถันใส่ใจในทุกการบริการตั้งอยู่ที่ ถนน สีลม ซอย 1 บรรยากาศเรียบหรู สบายๆ เหมาะกับการแฮงก์เอาต์กันแบบสนุก ๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเมื่อเข้ามาเยือน สำหรับเมนูต่าง ๆ ของทางร้าน ที่นี่เน้นเสิร์ฟหลากหลายเมนูค็อกเทลที่นำไป Infused กับผลไม้ ดื่มง่าย ได้กลิ่นหอมหวลชวนให้ลิ้มลอง เอ็นจอยไปด้วยกันกับเครื่องดื่มแก้วพิเศษและเสียงดนตรีสนุก ๆ เชื้อเชิญให้คุณแวะเวียนเข้ามาดื่มด่ำกับรสชาติของค็อกเทลแก้วพิเศษ

ด้วยขนาดพื้นที่ที่จำกัดบวกกับความชื่นชอบส่วนตัว ทำให้ที่นี่ออกมาเป็นบาร์ค็อกเทลสุดเก๋ ด้านการตกแต่งดีไซน์ออกแนววินเทจ มีมุมโซฟาและเคาน์เตอร์บาร์ให้คุณได้เลือกนังกันแบบชิลล์ สัมผัสกับเสียงเพลง Live Band คุณภาพเยี่ยม แนว Jazz , Soul และ R&B ตั้งแต่เวลา 20.30 น. ทุกวันอังคารถึงวันเสาร์ นอกจากนี้ยังเปิดแผ่นมิกซ์เพลงแนวสนุกสนาน เหมาะกับสายปาร์ตี้ที่ชอบความเป็นกันเอง นั่งเล่นสบาย ๆ ค่ำคืนนี้เราจึงเห็นนักท่องเที่ยวที่เข้ามาดื่มร่วมแจมเสียงเพลงกับนักร้องอย่างสนุกสนาน ใครที่เลิกงานแล้วอยากแวะมาฝากท้อง หรือดินเนอร์สุดพิเศษ ที่นี่ก็เหน้นเสิร์ฟอาหารฟิวชั่นทานง่าย รสชาติอร่อยถูกปากคนไทย

Crispy bacon salad ผักคอส เบค่อน

สำหรับเมนูอาหารของที่นี่ แนะนำหลากหลายเมนูซิกเนเจอร์ เริ่มจากเมนู Paprika-charred Corn ข้าวโพดหมักกับโอลีฟออยส์ ปาปริก้า ผงกระเทียม น้ำผึ้งอบสไตล์อเมริกัน ทานคู่กับซอสซาวน์ครีม เป็นเมนูโปรดที่ทานง่ายๆ สำหรับนักดื่ม ต่อมาเป็น Escargots Elegance หอยทากฝรั่งเศส อบเนยกับสมุนไพร + ขนมปังฝรั่งเศสแผ่นบาง ส่วนถัดมาเป็นเมนูที่ผู้ชื่นชอบทานปลา Sunset citrus salmon ปลาแซลม่อน ผักโขมอบชีส ซอสเลม่อนครีม และสำหรับผู้ที่หลงใหลการทานไส้กรอก ที่มีเสริฟไส้กรอกหลายแบบในเมนูเดียวกัน Bangers & mash ไส้กรอก พริกสด พริกไทย ชีส เป็นไส้กรอกออร์แกนิค เสริ์ฟกับมันบด ทานกับซอสมะเขือเทศ และศรีราชามายองเนส ผสมเข้ากับเทคนิคการทำอาหารสมัยใหม่ที่ช่วยยกระดับอาหาร ตามมาด้วย สปาเก็ตตี้ Spaghetti AOP ใส่กุ้งแชบ๊วย เบค่อนกรอบ พริกแห้ง กระเทียม เบซิล ส่วนที่ออกแนว เฮลตี้เลือกทานสลัด Crispy bacon salad ผักคอส เบค่อน ชีสพาเมซาน พารม่าแฮม น้ำสลัดซีซ่าร์ พริกไทยเน้นอาหารที่ปรับให้ทันสมัยและกินได้ทุกคน ไปจนถึงอาหารนานาชาติที่ทุกคนนึกถึง โดยเสิร์ฟให้นั่งกินในบรรยากาศสบายๆ หลากหลายเมนูครบรส ชวนให้เข้ามาลิ้มลอง

Bangers & mash ไส้กรอก พริกสด พริกไทย ชีส
ไส้กรอกหลายแบบ
สปาเก็ตตี้ Spaghetti AOP
Paprika-charred Corn

อีกหนึ่งความตั้งใจของ Marcus Bar แต่ละโซนออกแบบมาให้เป็นพื้นที่สำหรับแฮงเอาต์กับแก๊งเพื่อนและคนพิเศษ ด้วยการออกแบบหน้าบาร์สุดหรู เครื่องดื่มถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของร้านเสิร์ฟทั้งค็อกเทลและม็อกเทล ไม่ว่าจะเป็นค้อกเทลที่หลากหลาย ค็อกเทลที่ดื่มง่ายและเข้ากันได้ดีกับเมนูอาหารในร้าน ไม่ว่าจะเป็น ค็อกเทลAnniversary หรือจะเป็นค็อกเทล Jasmin moon หรือชื่นชอบการจิบไว น์ที่มีให้เลือกหลายระดับจากหลายประเทศ คัดสรรมาเป็นอย่างดีจากคอไวน์ขนานแท้ของเจ้าของร้าน มาสนุกและจอยตอบโจทย์สายแฮงต์เอาต์ตลอดทั้งคืน

การเดินทางจากรถไฟฟ้า MRT ลงที่สถานีสีลม เดินเข้าซอยสีลม ซอย 1 ประมาณสองร้อยเมตร ร้านตั้งอยู่ขวามือ

Marcus Bar บาร์กลางสีลมซอย 1
281/16 สีลม ซอย 1 บางรัก กทม.
เปิด จ- ส. เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป
โทร 09 5561 9478

พิกัดร้านMarcus Bar : https://maps.app.goo.gl/b23sDZwXnwPb3NDS8
Booking via Line ID : @Marcusbar | 095-561-9478

#Marcusbkk #Marcusbar #Marcusbarbkk #nightlife #bkknightlife #jazzbar #jazzbarbkk #Barsilom #Dinner #BarandRestaurant

JAO Khao Soi Kitchen:จ้าว ข้าวซอย คิทเช่น

JAO Khao Soi Kitchen (จ้าว ข้าวซอย คิทเช่น) เปิดตำรับอาหารเหนือฟิวชั่นร่วมสมัยในคอนเซ็ปต์ Modern Northern Flavors – Fulfilling Your Happiness ปักหมุดสาขาแรก “Public Market ชั้น 2 ห้างเซ็นทรัลชิดลม”

เรียกว่าเชื่อรสมือได้เลยสำหรับ JAO Khao Soi Kitchen (จ้าว ข้าวซอย คิทเช่น) เปิดตำรับอาหารเหนือฟิวชั่นร่วมสมัย รังสรรค์โดย คุณชินนานันท์ เสฏฐชานันท์ หรือ คุณมิ้นท์ เจ้าของแบรนด์ร้านอาหารเหนือสุดฮอต “ครัวเจียงใหม่” ชื่อดังแห่งย่านทองหล่อ โดยที่ตั้งใจสร้างแบรนด์ใหม่ จ้าว ข้าวซอย  คิทเช่น เพิ่มเติมขึ้นจากความหลงใหล ปักหลักทำเลศูนย์การค้าใจกลางเมือง ณ พับลิค มาร์เก็ต ชั้น 2 ห้างเซ็นทรัลชิดลม เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น พร้อมนำเสนออาหารเหนือให้เป็นที่นิยม ใส่ความครีเอทีฟ ไอเดียแปลกใหม่ พร้อมด้วยวัตถุดิบพรีเมียม พร้อมด้วยเมนูสุดพิเศษ เพื่อฉลองการเปิดสาขาแรก เซ็นทรัลชิดลม แห่งนี้!

ชินนานันท์ เสฏฐชานันท์ (มิ้นท์)
JAO Khao Soi Kitchen

สำหรับเมนูของ “JAO Khao Soi Kitchen” จะเน้นเมนูที่ทานง่าย แต่มีความพิเศษ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร อีกครั้งยังครีเอตรสชาติออกมาให้ถูกปากคนรักอาหารเหนือแท้ๆ แต่ใส่ความฟิวชั่นเข้าไปในบางเมนูด้วยเช่นกัน โดยเมนูที่แนะนำเริ่มต้นด้วย ปูอ่องโซเมนเย็น ล็อบสเตอร์ออย์ จานนี้ที่เน้นวัตถุดิบสุดพรีเมียม นำความโลคัลอย่างปูอ่อง มาแมทช์กับความพิถีพิถันช่างเลือกกับเส้นโซเมนเย็น เสริมทัพยั่วน้ำลายด้วยลอบสเตอร์ออย ที่จะทำให้จานนี้พิเศษ เรียกว่าเป็นการฉลองเปิดสาขาแรกของ จ้าวฯ และเซ็นทรัลชิดลมไว้ด้วยกัน

ตามมาด้วย ข้าวซอยไก่ และ ข้าวซอยเนื้อวากิว เมนูเลื่องชื่อของอาหารเหนือที่ใครทาน เป็นต้องติดใจ มีให้เลือกทั้งไก่ และเนื้อวากิว สำหรับผู้ที่รักการทานเนื้อ เรียกได้ว่าเมื่อน้ำแกงนัวๆ ไปรวมกับเนื้อชั้นดี อย่างวากิว ก็ทำให้เมนูนี้ ต้องไม่พลาดด้วยประการทั้งปวง อยากรู้ว่าจะเข้ากันขนาดไหนและรสชาติจะเป็นอย่างไรต้องห้ามพลาด

ไส้อั่ว- น้ำพริกหนุ่ม- แคบหมู

อีกหนึ่งเมนู ไส้อั่ว, น้ำพริกหนุ่ม, แคบหมู ที่เป็นออเดิร์ฟจัดเต็มให้สมการรอคอย ใครไม่สั่งเมนูนี้เรียกว่ามาไม่ถึง จ้าว ข้าวซอย คิทเช่น เป็นการเลือกใช้วัตถุดิบพรีเมียมต้นตำรับจากเมืองเหนือเลยทีเดียว และหากใครยังไม่อิ่มสามารถสั่ง ขนมจีนน้ำเงี้ยว สูตรดั้งเดิม แต่เพิ่มเติมความฟิวชั่นไว้แบบเล็กๆ แบบเป็นกิมมิค

นอกเหนือจากเมนูอาหาร ที่นี่ยังมีการดีไซน์หน้าร้านให้มีความโมเดิร์น พรีเมียม เลือกไว้โทนสีแบบอบอุ่นอย่าง คราม ขาว และวัสดุที่สื่อถึงความโลคัลไว้ด้วยกัน ใครอยากมาลิ้มลองรสชาติความอร่อยแบบ Modern Northern Flavors – Fulfilling Your Happiness มาได้ที่ “จ้าว ข้าวซอย คิทเช่น” ชั้น 2 ห้างเซ็นทรัลชิดลม โซน Public Market

รายละเอียดเพิ่มเติมทาง Line Official Account: https://lin.ee/VxlAJOD
หรือทางเฟซบุ๊ค Jao khaosoi Kitchen

เที่ยวทั่วไทย อร่อยไปทั่วโลก Lifestyle