ส่องความอลังการ NOX BEACH CLUB บีชคลับใหญ่ที่สุดของเวียดนาม!

ที่เมืองฮอยอัน ประเทศเวียดนาม ได้มีการเปิดตัว NOX Beach Club (น็อกซ์ บีช คลับ) ซึ่งเคลมว่าเป็นบีชคลับที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม และรวมเอาความบันเทิง ประสบการณ์ด้านอาหาร และกิจกรรมสำหรับอันน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เอาไว้ในที่เดียวกัน!

ตั้งอยู่ริมชายหาด ภายใน้โรงแรม Hoiana Resort & Golf โดยบีชคลับสุดอลังแห่งนี้ได้ถูกเนรมิตขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากฮอยอัน เมืองมรดกโลกอันงดงามขององค์การยูเนสโก ประกอบด้วยสระว่ายน้ำรูปทรงอิสระขนาดใหญ่ ร้านอาหารใหม่ 6 แห่ง คาบาน่าแสนสบาย เก้าอี้อาบแดด ร้านค้าบูติค และอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อเป็นโอเอซิสสุดหรูที่รวมตัวของคนรักการสังสรรค์และบีชเลิฟเวอร์ รวมถึงนักชิมที่อยากลิ้มรสความอร่อยใหม่ พร้อม ๆ กับการผ่อนคลายอย่างลงตัว

ไอคอนใหม่ถือกำเนิด: เหล่าคนดังมารวมตัวกันเพื่องานปาร์ตี้เปิดตัวในงานเปิดตัวสุดปังที่ผ่านมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีเซเลบคนดังของเวียดนามมารวมตัวกันมากกว่า 500 คน รวมถึงแร็ปเปอร์ Suboi ราชินีแห่งฮิปฮอปของเวียดนาม ก็ได้มาปรากฎตัวโชว์เพลงฮิตใหม่ของเธอ “Dau Thien Ha” ด้วยเช่นกัน สร้างความฮือฮาให้บีชคลับแห่งนี้โด่งดังระดับประเทศในข้ามคืน ด้วยทัศนียภาพที่งดงาม รายล้อมไปด้วยสนามหญ้าอันเขียวชอุ่ม ต้นปาล์ม และหาดทรายสีทอง รวมถึงบาร์ ร้านอาหารที่น่าหลงใหล ไปจนถึงอาหารและเครื่องดื่มอันเป็นเอกลักษณ์

แหล่งรวมร้านอาหารและบาร์มากถึง 6 แห่ง

ร้านอาหารและบาร์ 6 แห่งที่ NOX Beach Club คัดสรรมาเป็นอย่างดีและรองรับทุกโอกาส ได้แก่ Seafood Shack นำเสนอรสชาติของอเมริกาใต้และเอเชียกับวัตถุดิบพรีเมี่ยมสไตล์ “catch of the day” Osteria เสิร์ฟอาหารอิตาลีด้วยอาหารต้นตำรับ Banh Mi & Noodles นำเสนอรสชาติสตรีทฟู้ดท้องถิ่นของฮอยอัน เช่น บันหมี่ และ เฝอ Grill ร้านสเต็กระดับพรีเมียม อาหารทะเลสด ที่ปรุงอย่างเชี่ยวชาญ และจับคู่กับไวน์ชั้นดี Courtyard Bar ลิ้มรสค็อกเทลคลาสสิกและซิกเนเจอร์ได้ที่นี่ และ Beach Club Bar บาร์สุดเก๋เติมริมสระลากูน

ปาร์ตี้ให้สุดเหวี่ยงกับกิจกรรมพิเศษและดีลเด็ดในทุกค่ำคืน ปักหลักปาร์ตี้กันให้ฉ่ำได้ตลอดทั้งวันที่ NOX Beach Club เริ่มตั้งแต่เติมเต็มความสุขริมสระน้ำและริมชายหาดในช่วงกลางวัน พอพระอาทิตย์ตกดินก็สนุกกับยามค่ำคืนทุกวันในธีมต่าง ๆ อาทิ Saturday Pool Parties, Ladies’ Nights และ Daily Happy Hours, Girls’ Night Out, White Pool Party, Latino Vibes แดนซ์ให้ไฟลุกกับดีเจ
หรือชิลกับวงดนตรีอะคูสติก และยังสามารถจัดงานสังสรรค์ส่วนตัวสุดพิเศษได้อีกด้วย

ใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวเวียดนาม ลองหาโอกาสไปเยือน NOX Beach Club
สักที รับรองว่าฟินลืม พิเศษสุด จองล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ – 15 เมษายน พ.ศ. 2567 รับส่วนลด 30%

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ NOX Beach Club ได้ที่ noxhoian.com

ฤทธิชัย รุจรดาวรรณ Executive Chef รอยัล เมืองสมุย วิลล่า

ฤทธิชัย รุจรดาวรรณ (เชฟบ่าว)  Executive Chef รอยัล เมืองสมุย วิลล่า นำเสนออาหารไทยพื้นบ้านภาคใต้ อาหารปักษ์ใต้แม้จะเป็นอาหารที่อร่อย น่าลิ้มลอง แต่สิ่งหนึ่งที่ประทับใจผู้คนคือความเผ็ดร้อนของรสชาติอาหารผู้คนในภาคใต้นิยมรสอาหารที่เผ็ดจัด เค็ม เปรี้ยว แต่ไม่นิยมรสหวาน รูปแบบของอาหารใต้ที่ใหม่และอาจจะหาที่ไหนไม่ได้ในเกาะสมุย และตอนนี้ได้รับความนิยมมาก

เชฟบ่าว คนใต้ที่ดูเรื่องอาหารโรงแรม Royal Muang Samui Villas ทำให้เชฟเห็นความหลากหลายของอาหารใต้ที่เชฟบ่าวรับหน้าที่ออกแบบเซตเมนู เชฟยังยืนหนึ่งในการ ปรับเปลี่ยนเมนู ทุกเดือน  อาหารประจำถิ่นภาคใต้สูตรพื้นบ้านขนานแท้ของจังหวัดจังหวัดสุราษฎร์ธานี รสเข้มข้นจัดจ้านถึงเครื่อง การทำอาหารและเมนูพื้นถิ่น เหมือนการทดลอง เหมือนแม่ไปเจอสูตรอาหารมาก็อยากลอง อาหารเป็นการบอกกล่าวเล่าต่อเทสต์ ชิม การปรุง แต่รสชาติสอนกันไม่ได้เพราะต่างคนต่างชอบอาหารคนละรสและมีความแตกต่าว โดยใช้วิธีการทำอาหารแบบดั้งเดิมการทำอาหารแบบใหม่ๆ ถ้ามันทำให้ควบคุมรสชาติแบบที่ต้องการได้ดีกว่า

“เวลาเราไปหาวัตถุดิบ ชาวบ้านเขาก็จะสอนวิธีกินด้วย เราก็คิดเมนูจากที่ชาวบ้านเขาสอนเขาทำให้กิน อาหารบางอย่างก็เป็นอาหารเฉพาะที่ที่นั้นจริงๆ”

Spice Zone Beach Restaurant 
ความเป็นเลิศด้านการทําอาหารพร้อมกับการรับประทานอาหารริมชายหาด แนวคิดของของเชฟ ผสมผสานรสชาติที่อุดมสมบูรณ์นำอาหารไทยเข้ากับความสดใหม่ของอาหารทะเลที่มาจากท้องถิ่น อาหารอิตาเลียนที่แสนอร่อย และสัมผัสของรสชาตินานาชาติ ฝีมือเชฟฝีมือ อร่อยไทยที่ใช้สูตรแท้และวัตถุดิบ
เกรดพรีเมี่ยม ขึ้นชื่อของท้องถิ่น ตั้งแต่แกงที่มีกลิ่นหอมไปจนถึงเมนูผัดต่างๆ  แต่ละจานเป็นผลงานชิ้นเอกด้านการทําอาหารที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมอาหารที่มีชีวิตชีวาของ ประเทศไทย

สําหรับการจองที่ https://www.muangsamui.com/royalmuangsamuivillas/

Step into a world of nocturnal splendor at Royal Muang Samui Villas,
where the night air is filled with luxury 

Spice Zone Beach Restaurant
Spice Zone Beach Restaurant at Royal Muang Samui Villas, where culinary excellence meets stunning beachside dining. Our concept blends the rich flavors of Royal Thai cuisine with the freshness of locally sourced seafood, tantalizing Italian dishes, and a touch of international flair.
Indulge your senses as our skilled chefs craft Royal Thai delicacies using authentic recipes and premium ingredients. From aromatic curries to savory stir-fries, each dish is a culinary masterpiece that reflects Thailand’s vibrant food culture.

#RoyalMuangSamuiVillas #KohSamui #ChoengMonBeach
#RediscoverSamui #SeeYouSoonSamui #Resort #BeachfrontResort
#Thailand #amazingthaialnd #toptotravel

Austrian Lifestyle Week 2024

Austrian Lifestyle Week 2024 สัปดาห์แห่งการเฉลิมฉลองทางวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และความยั่งยืนของออสเตรีย กิจกรรมตลอดทั้งสัปดาห์ที่จะชูความโดดเด่นทางด้านอาหาร ไวน์ และแฟชั่นของออสเตรีย พร้อมฉลองครบรอบความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ออสเตรีย

กรุงเทพฯ 21 มีนาคม 2567 – สถานเอกอัครราชทูตออสเตรีย กรุงเทพฯ ร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติออสเตรีย (Austrian National Tourist Office) และสถานเอกอัครราชทูตออสเตรียแผนกพาณิชย์ (Advantage Austria) จัดงาน ‘Austrian Lifestyle Week 2024’ โดยมี 3 ธีมที่เป็นไฮไลท์สำคัญ (ศาสตร์การทำอาหาร ไวน์ แฟชั่น) เพื่อเน้นย้ำถึงความมีชีวิตชีวาของออสเตรีย และวัฒนธรรมอันอุดมสมบูรณ์ ตั้งแต่วันที่ 18-24 มีนาคม 2567 มีการจัดงานต่าง ๆ มากมาย เพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบความสัมพันธ์ของประเทศไทยและออสเตรีย รวมถึงความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ 155 ปีระหว่างทั้งสองประเทศ และ 70 ปีของภารกิจประจำถิ่นในกรุงเทพฯ และเวียนนา ตามลำดับ

ไฮไลท์ของงาน Austrian Lifestyle Week 2024 ได้แก่ การแข่งขันทำอาหารกระชับมิตร (20 มีนาคม) ระหว่างเชฟชาวออสเตรีย Max Stiegl และเชฟชาวไทย มาโนช พึ่งพร้อม กิจกรรมชิมไวน์สุดพิเศษ (21 มีนาคม) เฉพาะผู้ที่ได้รับเชิญเท่านั้น) และแฟชั่นโชว์ที่นำสมัย (22 มีนาคม)

เชฟมาโนชเชื่อว่าหัวใจของอาหารไทยคือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างรสชาติดั้งเดิม วัตถุดิบคุณภาพ และเทคนิคการทำอาหารขั้นสูง ความหลงใหลของเขาคือการค้นหาการผสมผสานที่ลงตัวและความสมดุลของรสชาติไทยที่มีทั้งรสหวาน เผ็ด เปรี้ยว และเครื่องเทศต่าง ๆ โดยการใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่น

ในขณะที่เชฟ Max สร้างสรรค์อาหารออสเตรียแบบดั้งเดิมโดยการผสมผสานประเพณีการทำอาหารฝรั่งเศสควบคู่ไปกับอาหารสไตล์บูร์เกนลันด์ (Burgenland) ที่ยั่งยืน ทำให้เกิดความสร้างสรรค์ในอาหารออสเตรียแบบดั้งเดิม เทศกาล Sautanz (หรือ ‘Sow Dance’) ประจำปีของเขาถือเป็นเรื่องในตำนาน นั่นคือการนำหมูมาประกอบอาหารในทุกส่วนเพื่อเป็นการแสดงถึงการรู้คุณของวัตถุดิบ

ชาว Epicureans รวมถึงแอนโทนี บูร์เดน (Anthony Bourdain) ผู้ล่วงลับไปแล้ว ได้เดินทางจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อลิ้มลองอาหารจานพิเศษที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของเชฟ Max เขาให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับวัตถุดิบตามฤดูกาลของภูมิภาคในการรังสรรค์เมนูของเขา ร้านอาหารของเชฟ Max เสิร์ฟเมนูปลาสดจากทะเลสาบ Neusiedl ที่อยู่ใกล้เคียง เนื้อสัตว์ป่าจากเทือกเขา Leitha เนื้อแกะจากฟาร์มของเขา สัตว์ปีกจากเพื่อนบ้านใกล้เคียง และสมุนไพรจากสวนส่วนตัวของเขาเอง

เอ็มมานูเอล เลห์เนอร์-เทลิค (Emanuel Lehner-Telic) ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติออสเตรีย กล่าวว่า “การแข่งขันทำอาหารไทย-ออสเตรียจะเปิดโอกาสให้คนไทยได้ค้นพบประเพณีการทำอาหารอันยอดเยี่ยมของออสเตรีย การจัดงานครั้งนี้เป็นการเชิญชวนให้ทุกคนได้เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมหลากหลายภายในงานและสัมผัสถึงเสน่ห์ของประเทศออสเตรีย ไม่ว่าจะเป็นอาหารเลิศรส ภูมิประเทศที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตลอดจนศิลปะและวัฒนธรรมที่มีอยู่มากมาย การท่องเที่ยวด้านอาหารของออสเตรียกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากความขึ้นชื่อเรื่องอาหารที่มีคุณภาพสูงและความใส่ใจด้านความยั่งยืน ซึ่งได้รับอิทธิพลจากประเทศในแถบยุโรปหลายแห่ง”

นอกจากนี้ มิชลิน ไกด์ยังได้ประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าจะกลับมาเยือนออสเตรียอีกครั้ง พร้อมกับการคัดเลือกระดับชาติที่จะเกิดขึ้นในปี 2568 รางวัลนี้ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เชฟ Max รับตำแหน่งเชฟที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก ที่ได้รับดาวมิชลิน ด้วยวัยเพียง 20 ปี และน่าจะโดนใจนักชิมชาวไทยที่ติดตามมิชลิน ไกด์ เห็นได้จากร้านอาหารหลากหลายแห่งในกรุงเทพฯ และภาคใต้ของประเทศไทยที่อยู่ในระดับดาวมิชลิน

จากอาหารไปสู่วงการแฟชั่น งานแสดงแฟชั่นโชว์ออสเตรียที่จะจัดขึ้น (Austrian Fashion Show) จะเน้นเทรนด์สไตล์ล่าสุดในโอต์กูตูร์ (Haute couture) โดยมีคอลเลกชันพิเศษจาก Conches, Plural และ Thang de Hoo จากออสเตรีย และคุณเอก ทองประเสริฐ (Ek Thongprasert), Wonder Anatomie และ Sirintra จากประเทศไทย การแสดงนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ค้นพบการออกแบบและเนื้อผ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและก่อให้เกิดความยั่งยืนจากทั้งสองประเทศ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์แฟชั่นระดับพรีเมียมอื่น ๆ อีกมากมาย

Austrian Lifestyle Week 2024 ยังตรงกับวันครบรอบ 155 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับออสเตรีย และครบรอบ 70 ปีของภารกิจประจำกรุงเทพฯ และเวียนนา ไทยและออสเตรียเปิดความสัมพันธ์ทางการทูตครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2412 (ค.ศ. 1869) ด้วยการลงนามในสนธิสัญญามิตรภาพ การค้า และการเดินเรือ งานนี้ยังเป็นเครื่องเตือนใจว่าการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมสามารถกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีและปูทางไปสู่ความร่วมมือที่มากขึ้นในด้านต่าง ๆ ระหว่างสองประเทศอีกด้วย

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.advantageaustria.org/th/events/next/en

แบรนด์แฟชั่นจิวเวลรี่ฝีมือคนไทย โดย หัสยา ปรีชารัตน์

HATSAYA แบรนด์แฟชั่นจิวเวลรี่ฝีมือคนไทย โดย คุณหัสยา ปรีชารัตน์ สืบทอดศิลปหัตถกรรมทายาทรุ่นที่ 2 ของไทยเบญจรงค์ สร้างเอกลักษณ์ที่ยากจะหาใครเหมือน ทั้งแบบโมเดิร์นและแบบไม่ทิ้งอัตลักษณ์ไทย

การทำเครื่องเบญจรงค์ถือได้ว่า เป็นงานด้านศิลปหัตถกรรมของไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เครื่องถ้วยเบญจรงค์ของไทยในอดีต ใช้การสั่งทำที่ประเทศจีนตามความคิดและลวดลายของไท งานเบญจรงค์เป็นศิลปหัตถกรรมแขนงหนึ่งที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน ทั้งทางด้านรูปทรงและลวดลายต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ ปัจจุบันได้พัฒนาปรับเปลี่ยนรูปทรง และลวดลายให้เข้ากับยุคสมัย สามารถเข้าถึงผู้คนได้เป็นอย่างดี ยังคงเอกลักษณ์ของงานเครื่องเบญจรงค์ให้ยังคงอยู่ แต่ด้วยความต้องการของผู้คน โดยมีการปรับเปลี่ยน ส่งผลให้การสร้างสรรค์งานเบญจรงค์ต้องมีการปรับตัวอยู่สม่ำเสมอ เติมเต็มความสวยงามอย่างมีระดับให้
กับคุณหรือคนที่คุณรัก

เปิดประสบการณ์ความสวยงามอย่างมีระดับ HATSAYA
HATSAYA เครื่องประดับที่ออกแบบมาเพื่อคนที่รักในความสวยงามอย่างมีระดับ มิติใหม่ของเครื่องประดับ ที่จะกลายเป็นที่รักของคุณและผู้ที่พบเห็น  คุณหัสยา ปรีชารัตน์ ทายาทรุ่นที่ 2 ของไทยเบญจรงค์  ผู้ได้รับการยกย่องเชิดชูเป็นครูช่างศิลปหัตถกรรม ประจำปี 2566 ด้านงานเครื่องเบญจรงค์ จาก sacit หรือสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) 

HATSAYA สร้างสรรค์งานเบญจรงค์ ถอดรูปแบบกรรมวิธีการผลิตที่เป็นรูปแบบเฉพาะของเบญจรงค์ทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นการปั้น เคลือบ เผา แบบฉบับของเบญจรงค์ ตลอดจนการเขียนลายน้ำทอง ซึ่งเป็นลายเฉพาะของ HATSAYA 

ปัจจุบัน HATSAYA  พัฒนาปรับเปลี่ยนรูปทรงและลวดลายให้เข้ากับยุคและสมัย เพื่อที่จะสามารถเข้าถึงผู้คนได้เป็นอย่างดี แต่ยังคงเอกลักษณ์ของงานเครื่องเบญจรงค์ให้ยังคงอยู่ แต่ด้วยความต้องการของผู้คนมีการปรับเปลี่ยนตลอด
ส่งผลให้การสร้างสรรค์งานเบญจรงค์ มีการปรับตัวอย่างสม่ำเสมอสร้างสรรค์เครื่องประดับที่เน้นลวดลายเครื่องเบญจรงค์ นับเป็นหนึ่งความสำเร็จของการถ่ายทอดผ่านเทคนิค ลวดลายของเครื่องเบญจรงค์ ที่สืบทอดฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์และทรงคุณค่า ต่อยอดจากรุ่นสู่รุ่น  จากงานเครื่องเบญจรงค์ดั้งเดิมของครอบครัว พร้อมประยุกต์เป็นแฟชั่นจิวเวลรี่ร่วมสมัย ผลงานโดดเด่นของ HATSAYA คือ เม็ดชาร์ม (Charm) ที่นำมาร้อยเรียงบนเครื่องเงินแท้โดยทำเป็น
จี้สร้อยคอ ต่างหู และสร้อยข้อมือ มีเฉดสีพรีเมียมให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ สีทอง
สีแพลทินัมและสีโรสโกลด์ ที่สามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน ทำให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้รับการตอบรับดีมีโอกาสได้ลูกค้าใหม่ๆ เมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนไทยผู้ชื่นชอบเครื่องประดับ และต่างชาติแถบเอเชีย ดูไบ และอาหรับ นิยมซื้อสินค้าเพื่อเป็นของฝากของขวัญ

จากความมุ่งมั่นในการเรียนรู้ปรับตัวต่อสถานการณ์  ทำให้คุณหัสยา ทำให้วเป็นหนึ่งในผู้ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นครูช่างศิลปหัตถกรรมไทย ประจำปี 2566  ต่อยอดงานเครื่องเบญจรงค์ที่ไม่ซ้ำใคร สร้างจุดขายใหม่อยู่เสมอ โดยล่าสุดยังได้พัฒนา “เครื่องเบญจรงค์ตกไม่แตก” ใช้ดินผสมมวลสารต่างๆ เข้าไป เพิ่มความหนาแน่นของดิน สร้างความยืดหยุ่น แข็งแรง และไม่ลืมที่จะใส่รายละเอียดต่างๆ ของลวดลายที่ร่วมสมัย ซึ่งในตลาดยังไม่มีสินค้าประเภทเบญจรงค์ตกไม่แตกแบบนี้สิ่งเหล่านี้คือจุดแข็งของแบรนด์ HATSAYA การนำเอาองค์ความรู้มาพัฒนาแบรนด์อย่างแท้จริง

คุณหัสยา กล่าวถึง HATSAYA ความสวยงามอย่างมีระดับ ด้วยการนำคุณค่าของเบญจรงค์ไทยที่เติบโตอย่างยั่งยืน ผสมผสานระหว่างงานเบญจรงค์ไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ต้องอาศัยความประณีต เพื่อให้ทุกชิ้นงานสามารถบอกเล่าเรื่องราวของงานเบญจรงค์ได้อย่างอย่างมีคุณค่า ปัจจุบันได้นำไปทดสอบตลาดในต่างประเทศฝีมือและการเลือกสรรค์วัตถุดิบพัฒนาต่อยอดสู่เครื่องประดับที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันแล้ว ยังมีการเรียนรู้ช่องทางการขายให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดที่ทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้

เครื่องเบญจรงค์เป็นศิลปหัตถกรรมที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งทางด้านรูปทรงและลวดลายต่างๆ จึงมองว่างานหัตถศิลป์ไทยเหล่านี้จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากความนิยมซื้อเป็นของที่ระลึก มอบของขวัญให้แขกผู้ใหญ่ หรือของขวัญคู่ค้าต่างชาติ เพราะชิ้นงานที่บ่งบอกชัดเจนถึงความเป็นไทย

โดยระยะเวลาที่ผ่านมา HATSAYA เดินสายออก Pop-Up Store ทุกเดือน เพื่อให้คนรู้จักมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังไม่หยุดพัฒนาเปิดตัว Collection ผลงานทุกชิ้นงานคงเน้นอัตลักษณ์ความเป็นไทย ด้วยลวดลายเครื่องเบญจรงค์ที่มีเอกลักษณ์  อนุรักษ์ เผยแพร่เอกลักษณ์ความเป็นไทยให้คงอยู่ตลอดไป

แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป แต่ความเป็นไทยยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
ไทยเบญจรงค์โทรติดต่อ 038-398-022

Contact HATSAYA :  081-383-3343

Line official : @hatsaya  or click https://lin.ee/hdBQE2R 
inbox : http://m.me/hatsayaofficial 

line พิมพ์ @thai_benjarong หรือกดที่ลิ้งค์ https://line.me/R/ti/p/%40thai_benjarong

เว็บไซต์  www.ibenjarong.com หรือที่ www.thaibenjarongofficial.com
สอบถามผ่านทาง inbox http://m.me/thaibenjarongofficial

#เครื่องประดับเบญจรงค์ #jewelry #jewellery #classy #beauty #Highclassjewelry#ไทยเบญจรงค์ #เบญจรงค์ #เบญจรงค์ไทย #เครื่องเบญจรงค์ #เครื่องเบญจรงค์ไทย #ศิลปะไทย #เอกลักษณ์ไทย #อัตลักษณ์ไทย

Urban Oasis Spa สปาที่หรูย่านทองหล่อ

Oasis Spa สาขาทองหล่อ หรือ เรียกว่า Urban Oasis Spa
วันนี้ Tototravel อยู่ที่ Urban Oasis Spa ซอยทองหล่อ 20 ที่นี้เดินทางง่าย สามารถเดินทางได้ทั้งซอยทองหล่อ และเอกมัย หลีกหนีความวุ่นวายแล้วมาพักผ่อนเอนกาย เลือกแพ็กเกจผ่อนคลายไปกับบรรยากาศที่ทั้งหรูหราและหลากหลาย สถานที่ตกแต่งได้หรูหราทันสมัย บริการนวดแผนไทยด้วยการกดจุด การใช้ศอก การดัดยืด ที่สามารถลดอาการปวดตึงของกล้ามเนื้อ และเน้นหนักเฉพาะจุดได้ โดยเฉพาะบริเวณ ส่วนหลัง บั้นเอว ไหล่ที่สาเหตุหลักของอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือต้องการบำรุงหน้ากับบำรุงผมและผิวพรรณให้นุ่มนวล

“เออเบิ้ล โอเอซิส สปา” ตั้งอยู่ย่านทองหล่อ ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ให้บริการด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ มอบความเป็นส่วนตัวภายในห้องสปาทรีทเมนต์ขนาดใหญ่ ตกแต่งสไตล์ โอเรียนทอล โดดเด่นด้วยโทนสีแดงดำ ที่ได้แรงบันดาลใจจากการเดินทางเพื่อค้นหานิยามแห่งความผ่อนคลาย และเติมพลังให้กับชีวิต เชิญคุณมาสัมผัสการพักผ่อนที่สมบรูณ์แบบด้วยบริการจากเทอราปิสมืออาชีพ และสปาทรีทเมนต์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของโอเอซิส

สปาทรีทเมนต์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของโอเอซิส สปา ที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจสปา เลือกที่จะใช้บริการคอร์ส สครับเกลือหิมาลายัน มีประโยชน์ต่อผิวพรรณช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ช่วยลดปัญหาสิว ผดผื่น ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นผิวสะอาดดูมีออร่า พร้อมนวดสปา บ่า หลัง ไหล่ ให้คลายเมื่อย นวดกดจุดกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบนผิวหน้าและผิวกาย ส่งผลให้ผิวสะอาด เปล่งปลั่ง และ ดูสุขภาพดีขึ้นทันทีหลังจบทรีตเมนต์กลิ่นที่ได้รับการรังสรรค์มาเป็นอย่างดีใช้เวลาทั้งหมด 2 ชม. เป็น 1 ใน Oasis Signature Massage เลือกกลิ่นตามสภาะผิว
กลิ่นน้ำมันหอมระเหยสมุนไพรจากการ นวดอโรมาเทอราพี คลายเครียดด้วยสครับขัดผิว เป็นการนวดแบบสวีดิชที่จะใช้ฝ่ามือลูบไล้ เคล้นคลึง การบิดสับผิวกาย ผสมผสานกับอโรมาเทอราปีทำให้ผ่อนคลาย หยุดพักร่างกายและจิตใจเพื่อเติมพลัง

KIN ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่คัดสรรมาเพื่อให้คุณผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า
KIN ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่คัดสรรมาเพื่อให้คุณผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า
KIN ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่คัดสรรมาเพื่อให้คุณผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า

ภายหลังจากนวดเสร็จ สปา เทอราปิสแนะนำให้แต่งตัวตามสบาย ก่อนจะเชิญเรากลับมาที่ Lobby เพื่อทำแบบประเมินความพึงพอใจหลังการนวด​ พร้อมทั้งเสริฟชาสมุนไพร เพื่อปรับสมดุลย์ ปรนิบัติผิวอย่างอ่อนโยน ด้วยสปาแพคเกจสุดหรูจากโอเอซิสสปา ที่ช่วยผ่อนคลายและสลัดความเหนื่อยล้าออกจากร่างได้อย่างปลิดทิ้ง

ไม่ใช่แค่เพียงประสบการณ์สปา แต่เหนือกว่าด้วยบริการ มีบริการรับส่งฟรีระหว่างสปาและสถานีรถไฟฟ้า โอเอซิสสปา เปิดให้บริการทั้งหมด 6 สาขา อยู่ใกล้สาขาไหนแวะไปใช้บริการได้เลย

เออเบิ้ล โอเอซิส สปา
59 ซอยทองหล่อ 20 (เอกมัย 21), คลองตันเหนือ, วัฒนา, กรุงเทพฯ 10110
บริการรถรับส่งฟรีจาก BTS พร้อมพงษ์*
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โทร 02-262 2122
เวปไซต์ www.oasisspa.net
การเดินทาง : https://goo.gl/maps/ipyAKVVT4oc2BgnL8

ThaiMassageBliss #HerbalHealing #RelaxationJourney #OasisSpa #HolisticWellness #ThaiSpaMagic #Relaxation #Thailand
#ThaiSpa #GroupPromotion

Tinidee Hotel Bangkok Golf Club ที่พักสำหรับคนชอบออกกำลังกาย นวดสปา และสนามกอล์ฟ

โรงแรมทินิดี โฮเต็ล บางกอก กอล์ฟ คลับ สร้างอย่างเคารพธรรมชาติ เป็นมิตรกับท้องถิ่น และสนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชนน่ารัก โรงแรมทินี่ดี บางกอก กอล์ฟ คลับ 

ครั้งนี้ Toptotravel ได้รับโอกาสพิเศษ มานอนพักกายและใจ Tinidee Hotel Bangkok Golf Club ตั้งอยู่ในบริเวณท่าเรือ “Riverdale Marina”  ท่าเรือระดับ A-class แห่งแรกในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา  และ โครงการ Riverdale District บนเนื้อที่ 1,500 ไร่ ติดถนนเส้น 345 จังหวัดปทุมธานี  มีการต้อนรับและดูแลแบบที่คนไทยคุ้นเคย และคนต่างชาติล้วนประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นการ์ดต้อนรับที่มาพร้อม Welcome Drink พักแล้วรู้สึกผ่อนคลายและได้ชาร์จพลังกาย-ใจ ชมแสงแรกของตะวัน และผ่อนคลายความเหนื่อยล้าไปกับแสงสุดท้ายของวัน และที่นี่ ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน จนเกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในจังหวัดปทุมธานี สิ่งเหล่านี้คือความพิเศษสุด ที่โรงแรมในเมืองรองแห่งนี้ทำได้

คุณอิสรีย์ อภิสรากุลโรจน์ Hotel Manager Tinidee Hotel Bangkok Golf Club ต้อนรับด้วยรอยยิ้ม และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า ด้วยความผูกพันกับสถานที่ซึ่งร่มรื่น สัมผัสได้ถึงสวนท่ามกลางธรรมชาติ และความสนใจในโจทย์ใหม่ โรงแรมเดินทางมาถึงจังหวะที่ต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ทันยุคสมัยขึ้น ตั้งใจทำให้โรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมแห่งความสุขอย่างสมดุล โรงแรมที่ดีต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง คำตอบของคนส่วนใหญ่อาจอยู่ที่ความหรูหรา ความสะดวกสบาย  บริการที่ดีเลิศ การรู้ว่าโรงแรมเป็นสถานที่ที่นอกจากคนมานอนแล้ว คนมักมาเพื่อกิน ผู้เข้าพักมักใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องอาหาร และท่องเที่ยวเยี่ยมชมวิถีชีวิตและตัวตนของชุมชนต่างหาก คือสิ่งที่ทำให้โรงแรมมีความแตกต่างจากที่อื่น

อิสรีย์ อภิสรากุลโรจน์ Hotel Manager Tinidee Hotel Bangkok Golf Club

สำหรับกลุ่มเป้าหมายของโรงแรม คุณอิสรีย์ อธิบายว่า มีทั้งแขกที่มาพักเพราะเดินทางมาทำธุรกิจ (Business) ขณะที่บางคนตั้งใจมาพักผ่อน (Leisure) แต่หากพูดถึงปัจจุบัน “ไม่ว่าใครจะมาพัก มีหลายอย่างมากที่เราอยากให้แขกนำกลับไป วัฒนธรรมไทยที่เขาจะประทับใจ รวมถึงความทรงจำที่เราตั้งใจสร้างให้ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามาในโรงแรม” บริการแรกที่เราได้รับคือ Welcome Drink แสนสดชื่น มาในรูปลักษณ์แก้วกลมกลม จิบแบบเย็นๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่น นั่นทำให้โรงแรมแห่งนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศไทย แต่ยังคงความร่วมสมัยไว้ได้อย่างลงตัว  คือการที่แขกกลับมาพักซ้ำสถานที่ของเราสร้างความประทับใจให้เขาได้  

นอกจากนั้น คุณอิสรีย์ อภิสรากุลโรจน์  บริหารทุกอย่างบนพื้นฐานของการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ทำโรงเรือนเมล่อน นิดีของโรงแรม  โรงเรือนเมล่อน นิดี ตั้งอยู่ในพื้นที่ของโรงแรมทินิดี โฮเต็ล บางกอก กอล์ฟ คลับ  เกิดขึ้นจากการที่บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) มีความประสงค์ที่จะนำเสนอรูปแบบการให้บริการใหม่ๆ รู้สึกถึงความเจริญในแง่ของธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม พื้นที่สีเขียว ที่สร้างสรรค์และน่าสนใจแก่ผู้ใช้บริการ จึงได้ดำเนินการปลูกเมล่อนสายพันธุ์ญี่ปุ่นและสายพันธุ์เนเธอร์แลนด์

โดยร่วมมือกับ “เนรมิตเกษตร” ต้นแบบโมเดลเกษตรแม่นยำในเมือง นำนวัตกรรมการดำเนินการปลูกและดูแลเมล่อนโดยใช้เทคโนโลยีและระบบ Know How ที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพสูง เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ทำให้นักท่องเที่ยว ผู้มาพักได้สนุก พนักงานมีความสุข และสร้างคุณค่าให้โลก จึงกลายเป็นธุรกิจที่มีคุณค่าซึ่งวัดไม่ได้ด้วยเม็ดเงิน นี่คือสาเหตุที่ทำไมธุรกิจใหญ่ขนาดนี้แล้วยังต้องหาความพอเพียง แต่คุณอิสรีย์อยากให้ ทินิดี โฮเต็ล บางกอก กอล์ฟ คลับ  ไปไกลกว่านั้น การสร้างความเปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบจริงเป็นรูปธรรม และเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความใส่ใจสิ่งแวดล้อมลงในจิตใจของทุกคนในโรงแรมด้วย

อีกเรื่องสนุกและน่ารักของโรงแรม เราสัมผัสได้ว่าหากมาพักที่ ทินี่ดี บางกอก กอล์ฟ คลับ โรงแรมเป็นสไตล์รีสอร์ท ห้องพักทุกห้องสามารถมองเป็นสนามกอล์ฟ เหมาะสำหรับการพักผ่อน นักกอล์ฟที่มาออกรอบ ทางโรงแรมมีห้องพักหลากหลายแบบให้เลือกสรรทั้งเตียงเดี่ยว เตียงคู่ เหมาะสำหรับนักเดินทางตัวคนเดียว คู่รัก กลุ่มเพื่อน จนถึงครอบครัว บรรจุภัณฑ์ภายในห้องน้ำเป็นแบบรีฟิลล์เพื่อลดขยะ 

นอกจากนี้ยังมีบริการห้องอาหาร คาเฟ่นี่ดี มีบริการอาหารเช้า อาหารกลางวัน และมื้อเย็น เปิดให้บริการตั้งแต่หกโมงเช้า เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาพักหรือมาเล่นกอล์ฟดึกๆ หรือมาลงเครื่องยามค่ำคืน มาทานอาหารได้เลย เปิดให้บริการถึงห้าทุ่ม นั่นเป็นเพียงบางส่วนของรายการอาหาร ยังมีอาหาร วีแกน อาหารยุโรป อาหารไทย ให้คุณลองลิ้มอีกเพียบ แนะนำให้สั่งแต่พอทาน เพราะปริมาณอาหารจัดเต็ม ให้เยอะชนิดว่าอิ่มท้อง ด้านบนของห้องอาหารมีคาเฟ่ด้วย เและอยากพักผ่อนในมุมต่างๆ ของโรงแรม กระซิบว่าถ้าเดินขึ้นบันไดจากห้องอาหารขึ้นไปจะเรียกเหงื่อหน่อยทางชันนิดหน่อย ถ้ามีผู้สูงอายุไปด้วยหรืออยากออมแรงขาไว้ เรียกพี่คนรับรถจะดีกว่า รับ-ส่งปลอดภัย ถึงจุดหมายปลอดภัย

นอกจากนี้ยังมีห้องประชุม สัมมนารองรับได้ 100-200 ท่าน ด้านนอกสามารถทำทีมบิวดิ้ง จุได้ทั้งหมดราวสองร้อยท่าน ถึงสี่ร้อยท่าน อำนวยความสะดวก สำหรับผู้ที่ไม่ได้มาออกรอบตีกอล์ฟ ไปต่อกันที่ชั้น 2  มีฟิตเนส ที่ออกกำลังกายทั้งในร่มและเอาท์ดอร์ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดปทุมธานี มีสนามแบดมินตันห้องฟิตเนสมีอุปกรณ์ครบครันทั้งยังมีขนาดห้องกว้างรองรับคนได้นับ 10 คนในคราวเดียว ติดกันเพียงกระจกกั้นคือสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในการอาบแดด ว่ายน้ำ และชมวิวทิวทัศน์ของโรงแรม โรงยิมที่มีสี่คอร์ทและสนามเทนนิสคอร์ทหญ้า สระว่ายน้ำกว้างถึงยี่สิบห้าเมตรระดับโอลิมปิก 

ทุกท่านที่มาสามารถเข้าพักผ่อนในศูนย์บริการบำบัดนวดเพื่อสุขภาพ และมีนวดไทยให้บริการยามอ่อนล้า ใครที่เป็นออฟฟิศซินโดรมสามารถจองเข้ารับบริการได้ เรามีเทอราปิสมืออาชีพผู้เชี่ยวชาญให้การบริการคอร์ทสำหรับออฟฟิศซินโดรมเป็นคอร์สที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง 

ก่อนกลับก็อย่าลืมไปใช้บริการชาร์ทแบตที่ บริการเติม พลังให้คุณทั้งอิ่มใจและอิ่มท้อง รร.ช่วงกลางวัน บ่าย มีมุมอ่านหนังสือ มุมดื่มกาแฟ ที่มองเห็นบรรยากาศของสนามกอล์ฟที่สวยงาม เรื่องรสชาติของอาหารและเครื่องดื่มสุดพิเศษจากบาร์คงไม่ต้องพูดถึงแล้ว เพราะหากไม่ลอง คุณต้องเสียใจแน่ๆ แต่นอกเหนือจากรสชาติยังมีเรื่องราวที่เชฟใส่เข้ามาในแต่ละจาน รวมถึงกระบวนการคัดสรรวัตถุดิบอันพิถีพิถัน เชฟคัดเลือกเองทั้งหมดและลงไปถึงผู้ผลิตที่มีคุณภาพที่สุดโดยตรงนอกจากนี้ยังมีสนามกอล์ฟที่เป็นไนท์กอล์ฟ บรรยากาศตอนเย็นค่อนข้างสวยมาก และเรามีบริการอาฟเตอร์นูนที สำหรับผู้เข้าพักราคา 480 บาท เท่านั้นสำหรับชุดนี้ นอกจากนี้ยังมีหมูกระทะชาบูบริการริมสนามกอล์ฟด้วย 

ทินี่ดี เป็นโรงแรมกรีนเฮลท์ โฮเทล โรงแรมเป็นเพียงจุดเริ่มต้นหรือแรงบันดาลใจ ของคนรักสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ห้องพักที่นี่ก็ทั้งกว้างใหญ่และสวยงาม ที่นี่ดี อยู่ภายใต้ริเวอร์เดลดิสทริค เชื่อมไปยังบางกอกกอล์ฟคลับโดยตรง พักผ่อนที่นี่ยังมีรถกอล์ฟบริการไปยัง ห้างเดอะไนน์ ที่ใกล้ ถัดออกไปประมาณหนึ่งกิโลเมตร ยังมีริเวอร์เดล มารีน่า ซึ่งเป็นท่าเรือยอร์ชที่ใหญ่ที่สุดในแม่น้ำเจ้าพระยา ให้บริการล่องเรือชมบรรยากาศริมน้ำและชมพระอาทิตย์ตก ที่สวยงามโครงการของเอ็มบีเค บริหารงานภายใต้โครงการลดโลกร้อน

โครงการปลูกฟาร์มเมเลอน ท่านใดที่มาช่วงเวลาที่เมลอนออกผลผลิต ซื้อเป็นของฝากหรือรับประทานเอง ก็สดชื่น อร่อยถูกใจทุกคน เมล่อนพันธุ์เอ็มเมอรัลด์โกลด์และพันธุ์เทนชิ เมล่อนพันธุ์นิวออเรนท์ พร้อมสายพันธุ์พิเศษอีก 4 สายพันธุ์

สามารถซื้อไปเป็นของฝากได้ เพราะนอกจากจะได้ผลผลิตที่รสชาติดีแล้ว แพคเกจจิ้งสำหรับเป็นของฝากก็มีเอาไว้รองรับ เมลอนจะมีสมูทตี้เมลอนไว้บริการด้วย เท่าที่ถามจากพนักงาน ทุกคนดูสนุกกับกิจกรรมนี้มาก

ในช่วงท้ายของการพูดคุย  อย่างที่เกริ่นไปว่าทุกอย่างต้องมีความหมาย โรงแรมทินี่ดี บางกอก กอล์ฟ คลับ ภายใต้การบริหารของเอ็มบีเคแอนด์ทัวริสซึ่ม รร.ตั้งอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่มีสนามกอล์ฟสองสนาม ได้แก่ สนามกอล์ฟบางกอกกอล์ฟคลับและสนามริเวอร์เดลกอล์ฟคลับ สัมผัสได้ถึงความปลอดโปร่งภายในห้อง มีระเบียงสามารถชมวิวสนามกอล์ฟ และสวนท่ามกลางธรรมชาติ การเดินทางค่อนข้างสะดวกสบาย เมื่อลงเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองใช้เวลาการเดินทางประมาณสิบห้านาทีหรือ ท่านใดที่ลงเครื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิเดินทางไม่ไกล

อิสรีย์ อภิสรากุลโรจน์ Hotel Manager Tinidee Hotel Bangkok Golf Club

การเดินทางครั้งนี้เราจึงไม่ได้รู้จักแค่โรงแรม แต่ยังได้เห็นความสุขจากทุกองค์ประกอบ และนี่คือเหตุผลดีๆ ที่จะทำให้ทุกคน Have a Nice Stay ที่ www.tinidee.com กิจกรรมแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจวิถีชุมชน เรามีชุมชนที่ปทุมธานีค่อนข้างเยอะ มีวิถีชุมชนชาวมอญ และที่โด่งดังในโลกโซเชียลนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศเข้ามาเยือนคือ วิถีชุมชนของวัดมะขาม จะเข้ามากราบเซียนแปะที่วัดมะขาม มีอาหารแนะนำอร่อยๆ มากมาย 

สามารถติดตามจาก www.tinidee.com 
หรือจาก Facebook : tinideehotelbangkokgolfclub

ทินิดี โฮเต็ล บางกอก กอล์ฟ คลับ ตั้งอยู่ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวของสนามกอล์ฟชื่อดังถึงสองสนาม ล้อมรอบไปด้วยทิวทัศน์ที่สวยงาม สบายตา พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทินิดี โฮเต็ล บางกอก กอล์ฟ คลับ
สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02 147 5858
ฝากติดตาม Facebook : Toptotravel.com ด้วยน้า

Pornphinyo marine Phuket ภรภิญโญ มารีน บริการเรือส่วนตัว Private speed boat

ภรภิญโญ มารีน บริการเรือส่วนตัว Private speed boat ท่องเที่ยวในทะเลอันดามัน แบบครบวงจร การให้บริการด้านการท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่เดินทางไปเที่ยวยังเกาะต่างๆ เป็นบริษัทฯ ดำเนินการให้เช่าเรือแบบเหมาลำ ให้บริการเช่าเหมา เรือสปีดโบ๊ท 1-3 เครื่องยนต์ ภายในสะอาด ทุกลำผ่านการตรวจสอบ เสื้อชูชีพ มีประกันภัยและประกันภัยอุบัติเหตุมาเป็นทีม มาเป็นแก็งค์ สนุกทั้งวัน และมีทัวร์เต็มวันและแพ็คเกจทัวร์ที่มีให้คุณได้เลือกสรรค์ เพื่อมาสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำกับชายหาด ท้องทะเลที่สวยงามและหมู่เกาะรอบ ๆ ภูเก็ต ตลอดเส้นทางท่องเที่ยวมีบริการ หน้ากากดำน้ำ (Snorkel Set) เสื้อชูชีพ (Life jacket) น้ำดื่ม (Drinking water) ผลไม้

ถึงเวลาเที่ยวทะเลฝั่งอันดามัน เกาะภูเก็ต ได้รับการกล่าวข่านว่าเป็นขุมทรัพย์ความงามแห่งทะเลอันดามัน วันนี้ทีมงาน toptotravel และ Btripnews อยู่ที่จังหวัดภูเก็ต สัมผัสประสบการณ์การเช่าเหมาเรือสปีดโบ๊ทและบริการเช่าเรือเหมาลำ แบบส่วนตัว บนเรือมีห้องน้ำ เที่ยวภูเก็ตแบบชิลล์ๆ ดูวิวทะเล นั่งเล่นริมหาด อยากใกล้ชิดธรรมชาติ ขอแนะนำเรือสปีดโบ๊ทส่วนตัวสุดหรูดูแลดีโดยทีมงานคุณภาพ

ทริปนี้ Toptotravel ร่วมเดินทางไปกับ ภรภิญโญ มารีน Pornphinyo marine เป็นการท่องเที่ยวทะเลภูเก็ต แบบส่วนตัว บริการเช่าเรือเร็วสปีดโบ๊ทแบบเหมาลำ ราคาถูก เที่ยวทะเลภูเก็ตแบบส่วนตัวหรือคนรู้ใจ ต้องใช้ความเร็วในการเดินทาง ทำให้เหมาะกับสายกิจกรรม ท่องเที่ยวธรรมชาติ โปรแกรมท่องเที่ยว เอาเป็นว่าการท่องเที่ยวเกาะต่างๆ ต้องมาลองด้วยตัวเองสักครั้ง แล้วจะรู้ว่าทำไมต้องใช้บริการกับ ภรภิญโญ มารีน Pornphinyo marine

บังชุก-จิระเดช ภิญโญ และ คุณรุจิรา ทักษิณ เจ้าของเรือ”ภรภิญโญ มารีน”
ท่าเรือโบ๊ทลากูน

ภรภิญโญ เปิดบริการกว่า 16 ปี เป็นตัวแทนการท่องเที่ยวโดยการบริหารงาน
ของ บังชุก-จิระเดช ภิญโญ และ คุณรุจิรา ทักษิณ เจ้าของเรือ “ภรภิญโญ มารีน” บริการ ท่องเที่ยวแบบส่วนตัว รวมไปถึงที่นี่ยนังให้บริการแพ็คเกจทัวร์ที่น่าสนใจ บริการเรือส่วนตัว Private speed boat ท่องเที่ยวในทะเลอันดามัน จองเรือข้ามฟาก เกาะยาว, จองแพ็คเกจทัวร์ ให้การการเดินทางท่องเที่ยวบนทะเลอันดามันของคุณเป็นเรื่องง่าย สนุก เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ เที่ยวภูเก็ตแบบชิลล์ๆ ดูวิวทะเล นั่งเล่นริมหาด อยากใกล้ชิดธรรมชาติที่เกาะภูเก็ต เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว โดยให้บริการเรือเร็วผู้ให้บริการเรือสปีดโบ้ท ตั้งแต่เครื่องยนต์เดียวไปจนขนาดหลายเครื่องยนต์ ให้เช่าแบบเหมาลำ Private Speedboat ร้นระยะเวลาในการเดินทาง เรือเร็วอย่างสปีดโบ้ทน่าจะตอบโจทย์คุณแน่นอน

และที่นี่มีโปรแกรมมีให้เลือกหลากหลาย สปีดโบ๊ท สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นกรุ๊ปหลายท่านมีบริการเหมาทั้งรถและเรือ ทำให้ผู้โดยสารอุ่นใจในการเดินทาง บริการขับโดยมืออาชีพ รับรองได้ว่าหมดกังวลกับปัญหาเมาเรืออย่างแน่นอน รับรองว่าคุณจะยิ่งตกหลุมรักการบริการที่สุดยอดของที่นี่อย่าง
แน่นอน ใหม่สะอาดทั้งลำ ตกแต่งแบบ vip มีหลายโปรแกรมให้เลือก
1 เครื่องยนต์ บรรจุผู้โดยสาร10 ท่าน
2 เครื่องยนต์ บรรจุผู้โดยสาร 20 ท่าน
3 เครื่องยนต์ บรรจุผู้โดยสาร 40 ท่าน
จองเรือสปีดโบ๊ท เที่ยวภูเก็ตกับ www.ma-phuket.com
🌴Phiphi island
🌴Hong island
🌴Krabi 4 koh
🌴Phangnga
🌴Racha island

คุณรุจิรา ทักษิณ “ภรภิญโญ มารีน”

Toptoเริ่มต้นการเดินทางกับ ภรภิญโญ ที่ท่าเรือท่าเทียบเรือโบ๊ทลากูน สัมผัสประสบการณ์การเช่าเหมาเรือสปีดโบ๊ทและบริการเช่าเรือเหมาลำ แบบส่วนตัว บนเรือมีห้องน้ำ เที่ยวภูเก็ตแบบชิลล์ๆ ดูวิวทะเล นั่งเล่นริมหาด อยากใกล้ชิดธรรมชาติ ขอแนะนำเรือสปีดโบ๊ทส่วนตัวสุดหรูดูแลดีโดยทีมงานคุณภาพมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอด เรียกว่าเป็นผู้ช่วยส่วนตัวเลยก็ว่าได้ คอยอำนวยความสะดวกให้อยากได้อะไรน้องเค้าจัดให้ ประทับใจมากๆ ส่วนคนขับเรือทริปนี้สุดประทับใจ ที่คอยหมุนเรือซ้ายขวาให้ตลอดเพื่อให้ได้รูปทะเลมุมที่สวยที่สุด อยากถ่ายมุมไหนบอกบังได้เลย

Private speed boat
ไกด์มากความสามารถของเรา

ทริปล่องเรือภูเก็ตตามโปรแกรม Private speed boat ไปทั้งหมด 3 เกาะด้วยกัน
เกาะแรกที่เราไป คือ ‘เกาะไข่นอก’ และ‘เกาะไข่ใน’ ‘เกาะรังใหญ่’ เป็นเกาะที่มีชายหาดขาว ทรายละเอียด น้ำทะเลใสเป็นสีฟ้าสีเขียวเลย บนเกาะมีมุมโขดหินให้ถ่ายรูป มีร้านอาหาร มีเจ็ตสกีให้เช่า เรานั่งชิลล์ อยู่บนเกาะนี้อย่างเพลิดเพลิน

เกาะที่สอง คือ ‘เกาะไข่นุ้ย’ เกาะนี้เป็นจุดดำน้ำของทริปนี้นะคะ สามารถดำน้ำรอบๆโขดหินที่โผล่ขึ้นมาจากกลางทะเลได้ แต่เราไม่ได้ดำน้า มัวแต่โพสต์ท่าถ่ายรูป on board picnic ที่น้องไกด์จัดไว้ให้บริเวณหัวเรือ สวยปังมาก แดดร้อนแค่ไหนก็ทนไหว สวยและประทับใจมาก

เกาะสุดท้าย คือ ‘เกาะรังใหญ่’ เป็นเกาะที่มีชายหาดขาว ทรายนุ่มๆ ทอดยาว

ทริปล่องเรือเที่ยวแบบส่วนตัวประสบการณ์ใหม่ที่ว่านี้ เริ่มด้วย ผู้โดยสารสามารถเดินทางท่องเที่ยวไปถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัยในเรือบริการมากมาย เช่นอาหาร เครื่องดื่ม เดทคู่รัก หรือเพื่อน มาร่วมเฮฮา บนเรือสปีดโบ้ท ส่วนตัวชั้นนำที่มีเหล่าดารา เซเลป และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังนิยมใช้บริการกัน เป็นการท่องเที่ยวเป็นกลุ่ม หรือส่วนตัว มีทั้งแบบครึ่งวันและเต็มวัน ให้วันหยุดพักผ่อนของคุณ มีความสุขและสมบูรณ์ มาดูความมหัศจรรย์ของธรรมชาติภูเก็ต เรือเร็ว (Speedboat) ไป-กลับ แบบส่วนตัว กัปตันเรือ สตาฟบนเรือคอยบริการ และอุปกรณ์ดำน้ำ หน้ากากดำน้ำ ท่อหายใจ เสื้อชูชีพผลไม้ตามฤดูกาล น้ำเปล่า ซ้อฟดริ้ง และน้ำแข็ง รวมไปถึงประกันอุบัติเหตุนักท่องเที่ยว

ใครกำลังจะออกทริปมองหาการพักผ่อนการการล่องเรือกับคนที่คุณรักมาเที่ยว เติมความสุขของการเดินทางเที่ยวทะเลเช่า speed boat เหมาลำราคาดี เป็นบริการที่คุ้มค่ากับราคาเมื่อเทียบกับบริการ แนะนำให้เลือกใช้บริการกับ ภรภิญโญ ได้รับบริการที่คุ้มค่า คุ้มราคา เดินทางท่องเที่ยวอย่างรวดเร็วด้วยเรือสปีดโบ๊ทด้วยการบริการที่มีคุณภาดื่มด่ำกับความงามของท้องทะเลสีคราม ดำน้ำชมปะการังและปลาหลากหลายชนิด รับรองว่าผู้โดยสารจะได้รับความสะดวกสบาย ปลอดภัยตลอดการเดินทางอย่างแน่นอน

ไม่ต้องรอรอบเวลาเหมาไปส่วนตัวเลย มาเที่ยวทะเลกับคนที่รัก แสนโรแมนติก ราคาพิเศษไปเที่ยวทะเลอันดามันกับภรภิญโญ ไม่ต้องรอรอบเวลาเหมาไปส่วนตัวเลย มาเที่ยวทะเลกับคนที่รัก แสนโรแมนติก ราคาพิเศษ
สอบถามกันได้ที่ 081 537 9797 หรือ id line: 0815379797
เพจ: http://www.facebook.com/phuketchaterspeedboat

ภรภิญโญ มารีน : Pornphinyo marine Phuket
Address: 20/65 หมู่ที่ 2 ถนนเทพกระษัตรี ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต 83000
0815379797 , 0815379797 , 0874734664
Email: info@phuketcharterspeedboat.com

#pornphinyomarine #เกาะพีพี #เกาะห้อง #ทะเลแหวก #เที่ยวกระบี่ #เที่ยวทะเล #PhiPhi #Islands #HongIslands #pilehlagoon #เช่าเหมาลำ #เรือ #อ่าวพังงา #ราชาไม้ท่อน #เกาะไข่ #ดูลิง #เกาะยาวน้อย
#เกาะยาวใหญ่ #ภูเก็ต #ท่าเรือโบ๊ทลากูนภูเก็ต
#toptotravel #ชัญญ่าว่าดี

Amazing Chiang Rai Lifestyle ชวนมาปักหมุดจุดท่องเที่ยวเชียงราย ปี2567

ทริปเชียงรายเริ่มต้นขึ้นเมื่อต้นเดือน ธันวาคม 2566 ทีมงานTOPTOTRAVEL
ได้รับเกียรติเข้าร่วมชื่นชมความร่วมแรง ร่วมใจ ของชาวจังหวัดเชียงรายจาก โรงแรมเฮอริเทจ คอนเวนชั่นแอนด์สปา และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย (พื้นที่รับผิดชอบ :เชียงราย ,พะเยา)
ไม่เพียงแต่ได้สัมผัสกับการเตรียมงานศิลปะต่างๆ ของขาวเมือง ยังได้ชื่นชมกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ นำเสนอขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว กิจกรรมท่องเที่ยวชุมชน ศิลปะ และสินค้าด้านสุขภาพ การสาธิตต่างๆ เช่น การสาธิตและการเสวนาให้ความรู้ด้านชา-กาแฟและศิลปะ รวมถึง Workshop งานคราฟต์ งานศิลปะ และการแสดงบนเวที และศิลปินนักดนตรีที่มีชื่อเสียงทุกวันตลอดการจัดงาน และสุดพิเศษภายในงาน พบกับแพ็คเกจท่องเที่ยวเส้นทางชา-กาแฟบนเส้นทาง Thailand Biennale Chiang Rai และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

เริ่มต้นงานยิ่งใหญ่ระดับประเทศอย่าง Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 การแสดงผลงานศิลปะจากศิลปินทั่วโลก ที่นำเข้ามาเผยแพร่ในจังหวัดเชียงราย กระจายตามจุดต่างๆ โดยจัดสองปีต่อครั้ง ครั้งนี้กลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิมเมื่อมีการระดมทุนจากทุกภาคส่วนโดยมีหัวเรือใหญ่ โดยความตั้งใจของ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินล้านนานามกระฉ่อนที่บ้านเรารู้จักกันดีร่วมกับนักธุรกิจ ผู้ประกอบการและศิลปินในจังหวัดเชียงราย

นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย

นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย โดย ททท.ชวนนักท่องเที่ยวมาเชียงราย เที่ยวสบายๆ สไตล์เชียงราย Amazing Chiang Rai Lifestyle เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงรายได้กำหนดจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวที่สำคัญหลายงาน เริ่มจากงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาสัมผัสประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวหลากหลายกิจกรรม อาทิ เส้นทางชา-กาแฟ เส้นทางศิลปะ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 เส้นทาง Health & Wellness กิจกรรมท่องเที่ยวโดยชุมชน โดย ททท. สำนักงานเชียงราย ได้ยกสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว

งานมหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย ระหว่างวันที่ 17 ธันวาคม 2566 – 2 มกราคม 2567 ณ สวนไม้งามริมน้ำกก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย และอีก 4 อำเภอได้แก่ อ.ป่าแดด อ.พญาเม็งราย อ.ดอยหลวง และ อ.แม่จัน งานเทศกาลเชียงรายดอกไม้งาม ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 15 มกราคม 2567 ณ สวนตุงและโคมนครเชียงราย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย งานสีสันดอยตุง ครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2566 – 28 มกราคม 2567 (เฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขตฤกษ์) ณ โครงการพัฒนาดอยตุงฯ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย งานเทศกาลบอลลูนนานาชาติ International Balloon Fiesta 2024 ระหว่างวันที่ 14 – 19 กุมภาพันธ์ 2567 ณ สิงห์ปาร์คเชียงราย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย งานประเพณีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ระหว่างวันที่ 23 – 24 มีนาคม 2567 ณ วัดพระธาตุดอยตุง อ.แม่สาย จ.เชียงราย

ชวนทุกคนมาปักหมุด สถานที่ท่องเที่ยวและเป็นที่จัดแสดงงานศิลปะส่วนหนึ่งของงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ที่เตรียมพร้อมสำหรับการรอรับผู้มาเยือน เริ่มกันที่แรก

พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ถวัลย์ ดัชนี
ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีเอกลักษณ์และศิลปะแบบล้านนาที่ทรงคุณค่า เกิดขึ้นจากอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติชาวล้านนา บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่
ภายในสถาปัตยกรรมแบบกาแลทั้งหมด 36 หลัง ที่นี่เป็นสถานที่รังสรรค์ผลงานของอาจารย์และเป็นที่เก็บผลงานศิลปะในรูปแบบที่แปลกตา โดยเฉพาะการบรรดาหนังสัตว์ เขาควาย เขากวาง แซมแทรกในงานศิลปะเกือบทุกอณู ใครอยากมาเที่ยวที่นี่ เดินทางมาได้ทุกวัน รวมทั้งวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00- 17.00 น. ค่าเข้าชม 80 บาท

พิกัด https://goo.gl/maps/VjMP278x7S31FcKQ6
ตั้งอยู่เลขที่ 414 ตำบลนางแล อำเภอเมือง เชียงราย โทร 053 776333

ร้าน SOMETHING JOURNEY
หลังจากเดินเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บ้านดำของอาจารย์ถวัลย์ กันเสร็จเรียบร้อย แวะทานอาหารกลางยังร้าน SOMETHING JOURNEY เป็นร้านที่บริหารงานโดยคนหนุ่มรุ่นใหม่ านอยู่ห่างจากตัวเมืองพอประมาณ ใกล้ๆ วัดห้วยปลากั้ง จ.เชียงรายมีขายทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ร้านสวย บรรยากาศดี ถ่านรูปได้ทุกมุม รสชาติคุ้มราคา ร้านแห่งนี้เพิ่งเปิดมาได้ไม่นาน เรียกว่ายังใหม่สดๆ เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการมาจิบกาแฟชิมอาหารนั่งพักผ่อนก่อนจะเดินทางกันต่อด้วยตัวอาคารสีขาว การตกแต่งด้วยโทนอบอุ่นปูทางเดินเข้าร้านด้วยต้นไม้ทรงเตี้ย เผยให้เห็นอาคารชัดเจน และเมื่อเข้าสู่ด้านใน จะแบ่งโซนเป็นอินดอร์และเอาท์ดอร์Home12 พิกัดเที่ยวในเชียงรายบรรยากาศปิกนิคในสวนขนาดใหญ่ มีมุมสงบ มุมพักผ่อน มุมถ่ายรูปอยู่ 3 โซนในเนื้อที่กว่า 9 ไร่ มีพื้นที่หลายโซนเหมือนมาพักผ่อนอารมน์แนวประมาณมาสวนส่วนตัวเลย

เมนู Something Drip Set กาแฟคั่วอ่อน จากดอยปางขอน ที่สายกาแฟไม่ควรพลาด พร้อมสูตรและอุปกรณ์การดริปกาแฟให้มาลอองดริปกันชิลล์ๆ หรือถ้าแนวสุขภาพก็ เมนู Signature ของร้านก็ต้องเป็น “ก่ำเกิร์ต” โยเกิร์ตปั่นข้าวเหนียวดำออร์แกนิคที่สุดของความสดชื่น อร่อยลงตัวแถมได้สุขภาพดี และเมนูยอดฮิทอย่าง เห็ดเทมปุระ เห็ดออร์แกนิค จากไร่ ที่มีบริการเฉพาะวันเสาร์และวันจันทร์

ร้าน SOMETHING JOURNEY
ตำบลห้วยสัก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
TEL : 061 936 6415 EMAIL : something.journey@gmail.com
FACEBOOK : SOMETHINGJOURNEY
เวลาเปิด-ปิด 09.00 – 21.00 น., ทุกศุกร์-อาทิตย์เปิดถึง 22.00 น.โทร. 0994655362
GPS: https://maps.app.goo.gl/ABQapEBw7LXT7Xm49?g_st=il

ศูนย์วิปัสสนาไร่เชิญตะวัน
ไร่เชิญตะวัน อันหมายถึง สถานแห่งการเชิญธรรมะ ซึ่งเป็นดั่งดวงตะวัน เข้ามาสู่ชีวิตจิตใจ สถานที่ที่เรารู้จักกันดี เพราะที่นี่นอกจากจะเป็นศูนย์กลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานมูลนิธิวิมุตตายาลัย สถาบันวิมุตตยาลัย มหาวิชชาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์ (สถาบันกรศึกษาทางเลือกเพื่อการพัฒนาตามปรัชญาพุทธเศรษฐศาสตร์) เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้สนใจพระพุทธศาสนา ศิลปะ และการพัฒนาสังคม เป็นแหล่งเรียนรู้และปฏิบัติธรรมที่เปิดกว้างแก่ผู้แสวงหาความสันติและความเจริญงอกงาม

ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีมากๆ ที่พระอาจารย์ ว. วชิรเมธี กรุณาพาเยี่ยมชมสถานที่จัดแสดงงานนิทรรศการศิลปะ ซึ่งก็มีหลายจุดที่ผู้มาเยี่ยมชม เดินชื่นชมกัน เรียกว่าได้ทั้งหลักธรรมที่แทรมแซกในชิ้นงานศิลปะ และงานดีไซน์ของเหล่าศิลปินที่น่าสนใจมากๆ และเป็นที่น่ายินดีว่า งานบางชิ้นจะยังคงอยู่ถาวรในสถานที่แห่งนี้ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ เรียนธรรมผ่านศิลปะที่ทรงคุณค่า เรียกว่าต้องใช้เวลาในการเดินเยี่ยมชมกันได้ตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ซุ้มประตูไร่กันเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นการแสดงงานศิลปะจากศิลปินไทยแล้ว ยังมีผลงานของศิลปินต่างชาติชาวเกาหลีใต้ที่เข้ามาร่วมแสดงงานด้วย เปิดโลก เปิดสุนทรียะในพุทธศิลป์ อิ่มเอมทั้งกายและใจกลับไปอย่างแน่นอน

ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน
(Cherntawan International Meditation Center)
เปิด 8.00-17.00 น.
http://www.facebook.com/raicherntawan.cr
ศูนย์วิปัสสนาไร่เชิญตะวัน (ว.วชิรเมธี) โทร 087 080 7779
พิกัด https://maps.app.goo.gl/fZqmqsuSsbxppmss6

หอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย
ด้วยความตั้งใจจริงของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ที่สนับสนุนงบกว่าหกสิบล้านบาทเป็นจุดเริ่มต้นและด้วยศักยภาพของอาจารย์ที่ทำให้เหล่านักธุรกิจ ผู้ประกอบการ เจ้าของที่ดินนายทวี อร่ามรัศมี ที่บริจาคที่ดินถึง 17 ไร่ ภายในจังหวัดและศิลปินล้านนาที่ร่วมแรงร่วมใจกันทำให้เกิดหอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย Chiang Rai International Art Museum ( CIAM) แห่งนี้ขึ้น โดยเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่แสดงงานที่ยิ่งใหญ่อย่าง Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 การสร้างหอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงรายจะเป็นจุดหมายใหม่สำหรับศิลปินเชียงรายและศิลปินทั่วไทยที่จะได้เห็นถึงความเคลื่อนไหวของศิลปะสมัยใหม่ที่น่าสนใจ

หอศิลป์แห่งนี้เป็นหอศิลป์ขนาดสี่ชั้นครึ่ง ประกอบไปด้วยห้องนิทรรศการ มิวเซียมช็อป คาเฟ่และสำนักงาน และยังเตรียมสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ โรงละคร หอประชุม หมู่บ้านศิลปินที่ตั้งใจจะเป็นสตูดิโอสำหรับสร้างสรรค์ผลงานของศิลปินอีกด้วย

จัดแสดงผลงานของศิลปิน: ออล(โซน), อัลมากุล เมนลิบาเยวา, แฮกู ยาง, มาเรีย ฮาซซาบิ, โมวานา เฉิน, ปิแอร์ ฮุยจ์, พรีเชียส โอโคโยมอน, ซาราห์ ซี, สมลักษณ์ ปันติบุญ, โทเบียส เรห์แบร์เกอร์, โทกูดูร์ ยอนดอนแจมตส์, หวัง เหวิน จื้อ และซิน หลิว

Pavilion “The Canopy Walks” โดย เดอะ คาโนปี้ โปรเจกต์ และจัดกิจกรรม เทศกาลศิลปะการแสดงสด โดย Bangkok International Performing Arts Meeting (BIPAM)

หอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย Chiang Rai International Art Museum (CIAM)ตั้งอยู่ระหว่างถนนพหลโยธินกับถนนเวียงบูรพา ใกล้สนามบินแม่ฟ้าหลวง ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย https://maps.app.goo.gl/6LkhFzeFzHVwGCLc9
เปิดทุกวัน 9.00 – 17.00 น. | ปิดวันหยุดนักขัตฤกษ์

ร้านชาสวรรค์บนดิน : SAWANBONDIN TEA HOUSE
เที่ยวเชียงราย ตามไปอีกหนึ่งจุดเช็คอิน เป็นอีกหนึ่งร้านที่การันตีความพิเศษจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย “ชา” เป็นหนึ่งในศาสตร์และศิลปะแสนทรงเสน่ห์ เริ่มต้นจากฟาร์มเล็ก ๆ เสิร์ฟชากันภายในบ้านดินหลังย่อม มาวันนี้ Sawanbondin Farm & Tea House (สวรรค์บนดิน) กลายเป็นร้านน้ำชาที่มีชื่อเสียง เมื่อแรกเข้าสู่ร้านก็เห็นถึงความเรียบง่ายของพื้นที่ ภายในอาคารชั้นเดียวทรงสูงเพื่อรองรับที่นั่งชั้นลอยให้กับลูกค้า มีที่นั่งทั้งในแบบอินดอร์และเอาท์ดอร์ ที่นี่เป็นแหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชาชั้นดีฝีมือสามีภรรยาคนรุ่นใหม่ที่ใช้เวลาในการศึกษาชาจนได้รับรางวัลการันตีรสชาติมามากมายทั้งในและต่างประเทศ ด้านนอกส่วนหนึ่งแบ่งพื้นที่ปลูกต้นชาให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้และประสบการณ์เรื่องชาด้วยนอกจากนี้ยังรวมถึงขนมที่เสริฟมาคู่กับชาชั้นเลิศ ที่เจ้าของร้านบอกว่า เป็นขนมที่คนรุ่นปู่รุ่นยายทำทานกันที่บ้าน ก่อนจะปรับปรุงพัฒนาให้เข้ากับการทานกับชา

ที่นี่เหมาะสำหรับคนรักชาอย่างแท้จริง หากมีเวลา ลองค่อยๆ นั่งละเลียดหอมกรุ่นกลิ่นชากันทีละนิด ทีละน้อย ปล่อยใจให้ผ่อนคลายไปกับชาหลากรส หรือจะเลือกสรรผลิตภัณฑ์ชาที่ดื่มเพื่อสุขภาพร้านชาที่นี่นอกจากจะให้ดื่มชิมกับชาพิเศษแล้ว ยังให้ความรู้ในเรื่องชาท้องถิ่น ชาเมี่ยง(ชาป่า)ที่เมื่อดื่มชงแล้วจะได้กลิ่นหอมด้วย ดึงดูดผู้มาเยือนด้วยกลิ่นหอมของชาออร์แกนิกมีเมนูเครื่องดื่มมากมาย ทางร้านเลือกใช้สมุนไพรในท้องถิ่นเพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกร ด้วยเหตุผลหลักที่ว่า เพื่ออุดหนุนเกษตรกรและทำให้ผู้คนรับรู้ถึงสินค้าดีดีในพื้นถิ่นว่าสามารถนำมาต่อยอดได้

คุณชูเกียรติ เวสารัชชพงศ์ เจ้าของร้านชาสวรรค์บนดิน

คุณชูเกียรติ เวสารัชชพงศ์ เจ้าของร้านชาสวรรค์บนดิน บอกถึงความพิเศษของการทำร้านชาพิเศษแห่งนี้ว่า การทำร้านชาพิเศษแบบนี้ มีโอกาสเติบโตแน่นอน โดยเฉพาะชาที่ทำออกมาเป็นชาพิเศษ หมายถึงเราดูแลต้นชา ส่งเสริมให้คนและสิ่งแวดล้อมมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เมื่อชีวิตและความเป็นอยู่ดีขึ้นความพิเศษเหล่านั้นก็จะส่งผลให้ชาที่อยู่ตรงนั้นมีรสชาติมีกลิ่นหลากหลายซับซ้อนยิ่งขึ้น

Facebook : Sawanbondin Tea House& Experience โทร 0812053554
171/12 หมู่ 1 อำเภอเมืองเชียงราย จ.เชียงราย
โทร 081 205 3554 ·เวลา เปิด – ปิด 9.00-17.00 น.

ไฮเดรนเยีย ซัง
ทุ่งไฮเดรนเยียบนยอดดอย วิวหลักล้านอีกแห่งที่ไม่ควรพลาดการเช็คอิน สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสีสันและความสวยงามของดอกไฮเดรนเยีย ที่นี่ดอกไม้บานสะพรั่งอวดสีสันเต็มลานเนินภู จะเลือกมุมไหนก็ไม่ผิดหวัง เริ่มกันตั้งแต่ทางเข้าก็จัดสรรซุ้มสีขาวรอต้อนรับนักท่องเที่ยว มีมุมชิงช้า มุมตู้โทรศัพท์ ซุ้มดอกไม้ ซึ่งการสร้างหอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงรายจะเป็นจุดหมายใหม่สำหรับศิลปินเชียงรายและศิลปินทั่วไทยที่จะได้เห็นถึงความเคลื่อนไหวของศิลปะสมัยใหม่ที่น่าสนใจ

แนะนำมาถึงช่วงเช้าก่อนเก้าโมงเช้า ถ่ายรูปสวย อากาศดีมากไม่ร้อนแสบตาบรรยากาศโดยรอบ เห็นขุนเขาไกลสุดตา พื้นที่เปิดกว้างแบบวิวพานอราม่าให้เลือกถ่ายภาพแบบสวยไม่ซ้ำกัน เรียกว่าใครมาเชียงรายช่วงนี้ไม่ผิดหวัง เวลาเปิด-ปิด : 07.30-17.30 น. + ค่าเข้าชม : 80 บ./คน (มีน้ำเปล่าให้ 1 ขวด)
ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 40 บาท ด้านหน้ามีดอกไฮเดรนเยียให้เช่า บริการนำไปถือถ่ายรูปเล่นกันด้วย

Hydrangea san
โทร 093 275 3708 บ้านแม่มอญ ตำบล ห้วยชมภู อำเภอเมืองเชียงรายไฮเดรนเยียซัง #ดอยแม่มอญ #เที่ยวเชียงราย #รีวิวเชียงราย

ร้านกาแฟ YAYO FARM :หญ่าโย ฟาร์ม คาเฟ่ดอยช้าง
เดินทางกันต่อยังอีกหนึ่งจุดเช็คอิน เมื่อเดินทางมาถึงเจ้าหน้าที่พาเราไปแวะเก็บบรรยากาศบนดอยช้างกันก่อนที่จะลัดเลาะตามเนินเพื่อไปนั่งจิบกาแฟกัน นอกจากจะไปร่วมเก็บประสบการณ์กันที่ร้านชาที่มีความพิเศษของร้านสวรรค์บนดินทีเฮาส์กันแล้ว ก็ต้องเป็นเรื่องของกาแฟบ้างร้านกาแฟ YAYO Farm เป็นร้านแบบโอเพนแอร์เปิดโล่งหลังคาสูงใช้วัสดุตกแต่งจากธรรมชาติ ออกแบบให้เปิดโล่งเห็นวิวแบบสุดลูกหูลูกตา เรียกว่าทำลานกว้างเพื่อให้ผู้มาเยือนได้เลือกเก็บเกี่ยวความงามกันอย่างเต็มที่ ใครใคร่ถ่ายภาพมุมไหนก็มีให้เลือก ไม่ต้องแย่งกัน เพราะลูกค้าที่นี่เยอะมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ดูเหมือนจะอดไม่ได้ที่จะหยิบมือถือกันขึ้นมาเก็บภาพ

กาแฟที่แฟร์กับทุกคน
เราอยู่กันที่ YAYO FARM ที่นี่มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มสำหรับคอกาแฟและคนที่ไม่ใช่คอกาแฟก็สามารถเอ็นจอยได้อย่างไม่ยากเย็น หญ่าโย ฟาร์ม คาเฟ่ดอยช้างที่เป็นมากกว่าคาเฟ่ธรรมดาๆ เพราะเป็นทั้งศูนย์การเรียนรู้ โรงแปรรูปกาแฟอาราบิก้าแท้ และร้านกาแฟ ในคอนเซ็ปต์ที่เปรียบตัวเองเป็นเหมือนสุภาพบุรษ เพราะที่นี่แฟร์กับทุกคน ตั้งแต่เกษตรกร ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม จุดเริ่มต้นการเพาะปลูกจนถึงปลายทางรสละมุนหอมกรุ่นในแก้วกาแฟที่อยู่วางตรงหน้า

ถ้าพูดถึงเชียงรายจะไม่พูดถึงกาแฟก็ไม่ได้ เพราะได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้ามากที่สุดในประเทศไทย ในพื้นที่กว่า 4 หมื่นไร่ นับเป็นแหล่งกาแฟพันธุ์ดีที่มีชื่อเสียงระดับโลก ทั้งยังสามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาล เพราะเป็นจังหวัดที่อากาศเย็นสบายเหมาะสำหรับการพักผ่อน คุณสุกัญญา บีซีทู เจ้าของร้าน บอกถึงความรู้สึกถึงการปลูกกาแฟว่า กาแฟโคตรแฟร์กับคนปลูก กาแฟทำให้ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น คนดื่ม ๆ แล้วมีเอนเนอจี้ เทียบกับพืชอื่นๆ แล้วกาแฟโคตรแฟร์ ซึ่งเป็นลูกหลานของคนบนดอยช้าง หลังจากเรียนจบได้นำความรู้มาต่อยอด นอกจากกาแฟที่ขายอยู่หน้าร้านที่ปลูกเอง ยังรับซื้อกาแฟเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร การทำร้านกาแฟจึงทำให้รู้สึกดีอธิบายให้เราเห็นภาพตามว่า ทุกๆ พื้นที่ที่ปลูกกาแฟ เท่ากับเรากำลังเพิ่มพื้นที่ป่าให้กับโลกใบนี้ ตามสโลแกน ‘YAYO COFFEE WE GROW GREEN’ ของทางร้าน

ที่ตั้งร้านแห่งนี้แม้จะอยู่ลึกแต่ดีต่อใจ ด้วยเพราะเป็นร้านกาแฟที่ให้มากกว่าร้านกาแฟก็ตรงวิวที่สวยงาม ที่นี่ปลูกกาแฟเอง มีโรงคั่วที่ผลิตเองนอกจากเพื่อใช้ในร้านเองแล้วยังเพื่อจำหน่ายสู่ท้องตลาด

หญ่าโย ฟาร์ม
ที่อยู่: 1001 ม.3 ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย
เปิด-ปิด: ทุกวัน 8.30 – 17.30 น.
เบอร์ติดต่อ: 096 060 1314
Facebook: YAYO FARM
เวลาเปิดทุกวัน 08.30-17.00 น. โทร 090 0601314
#yayofarm #เที่ยวเชียงราย #รีวิวเชียงราย #ร้านกาแฟวิวหลักล้าน #cafe

อาข่า ฟาร์มวิลล์ Akha Farmville
เรายังคงอยู่กันที่ดอยช้าง คราวนี้ไปหาประสบการณ์กับแกะกัน อาข่า ฟาร์มวิว ตั้งอยู่ดอยติดกับจุดชมวิวของหมู่บ้านแสนเจริญ ทางขึ้นบ้านดอยช้าง ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย ริมทางหลวงชนบท กิโลเมตรที่ 5+475 (ถนนสายหลักบนดอยช้าง) ที่นี่มีการจัดการที่ดูเป็นระเบียบเป็นมืออาชีพมากๆ ตั้งแต่ลานจอดรถ ด้านนอกมีร้านรวงขายของที่ระลึก ผลไม้เมืองหนาวของชาวเขา ให้ได้จับจ่ายกัน ราคาก็ต้องต่อรองกันนิดหน่อย เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยว

อาข่า ฟาร์มวิลล์ เป็นฟาร์มแกะบนดอยช้าง บนเนื้อที่ 30 ไร่ ที่มีแกะสายพันธุ์ คอร์ริเดลล์ ที่สามารถให้อาหารได้ สามารถเล่นด้วยได้ นอกจากนี้ยังได้ชมความแสนรู้ของสุนัขต้อนแกะพี่วาวา พี่โอโน่ สายพันธุ์สตรองอาย ที่นี่วิวแบบพาโนราม่าแบบทิวสวยกว้างใหญ่อีกแห่งหนึ่ง เลือกมุมถ่ายภาพกันได้สบายๆ และที่เราชอบคือ เมื่อซื้อตั๋วค่าเข้าคนละ 100 บาท จะสามารถนำมาสั่งเครื่องดื่มได้หนึ่งอย่างตามที่เขากำหนดฟรี เสร็จแล้วไปเลือกหามุมนั่งชื่นชมทิวภูและเจ้าก้อนกลมสีขาวน้อยใหญ่ ชมความทะเล้น ความขี้เล่นของแกะกัน “อาหารน้องแกะ มีทั้งแครอทและอาหารเม็ดคะ ถาดละ 30 บาท”

“วิธีการให้อาหาร ให้ชูถาดขึ้นข้างตัวนะคะ ไม่งั้นบางตัวที่ซนจะกระโดดโถมเข้าใส่หาอาหารคะ” และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ได้ฟังจากเจ้าหน้าที่มาตั้งแต่ต้น แต่พอถึงเวลาจริงๆ เราได้ยินเสียงกรี๊ดพร้อมเสียงหัวเราะดังลั่นฟาร์ม
เพราะมัวแต่สาละวนกับการให้อาหารแกะจากตัวหนึ่ง และอีกตัว … อีกตัว เพลินใจดีแท้ เรียกว่า มาแล้วไม่ผิดหวังจริงๆ
ฟาร์มเปิดให้บริการทุกวัน วันจันทร์ – วันพฤหัสบดี เปิด- ปิด 7.30 – 17.30 โทร 095 665 2339

วันศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์ 7.30 -18.00 น.
สามารถวอล์คอินเข้าไปได้เลยไม่ต้องจอง
#AkhaFarmVille #อาข่าฟาร์มวิลล์เชียงราย
#อาข่าฟาร์มวิลล์ฟาร์มแกะบนดอย #ที่เที่ยวเชียงราย

SKY WALK ดอยวาว
สำหรับหมู่มวลคนไทยแล้ว สิ่งสำคัญของการเดินทางน่าจะเป็นการช้อปปิ้งนี่แหล่ะ และที่แม่สายก็เป็นหนึ่งหมุดหมายของคนมาช้อปปิ้ง ตอนนี้ร้านเปิดให้บริการเต็มพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยวหลังโควิดทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิมและดูจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ทุกตรอกซอกซอยต่างขนสินค้าออกมาโชว์กันอย่างสนุกสนาน แม้สินค้าที่จำหน่ายคล้ายกัน แต่ก็ลองเดินดูกัน ส่วนที่สร้างใหม่และกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากก็คือการ ขึ้นไปเหยียบ SKY WALK ดอยวาว

ตั้งอยู่บนพระธาตุดอยวาว สกาย วอล์ค ของดอยวาว ดูราวกับจะรับรู้ถึงความกังวลใจของคนมาเที่ยว ด้านล่างจากทางขึ้นจึงมีการเขียนและโชว์ประสิทธิภาพของกระจกที่นำมาทำทางเดินบนสกาย วอล์ค เพื่อสร้างความมั่นใจ มีถุงสำหรับสวมทับรองเท้าเอาไว้บริการ บนสกายวอล์คแห่งนี้ทางเดินกว้างขวางกว่าที่อื่นๆ ที่เราไปมาหลายแห่ง นอกจากนี้ลักษณะการก่อสร้าง โครงเหล็ก ความยาว และมุมมองเมื่อขึ้นไปเดินยังสวยงามและน่ามองกว่าที่อื่นๆ ลองมาเยี่ยมชม

วัดที่เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุดอยเวา เชื่อกันว่ามีความเก่าแก่เป็นรองพระธาตุดอยตุง ผู้ที่จะขึ้นไปนมัสการต้องเดินขึ้นบันไดไป ซึ่งข้างบนเป็นจุดชมทัศนียภาพสองฝั่ง

เวลาเปิด-ปิด 09.00 – 21.00 น., ทุกศุกร์-อาทิตย์เปิดถึง 22.00 น.
โทร. 0994655362
GPS: https://maps.app.goo.gl/ABQapEBw7LXT7Xm49?g_st=il

ร้านกาแฟดอยผาหมี
จิบกาแฟที่ไหนก็ไม่ฟินเท่าการได้อยู่ท่ามกลางทิวเขา บางครั้งการออกเดินทางก็ไม่ต้องการอะไรมากมายไปกว่า การได้นั่งจิบเครื่องดื่มชิมกาแฟเคล้าบรรยากาศสบายๆ ของขุนเขาและวิวสวยร้านวิวสวยชิลล์และเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่มาแล้ว ไม่ควรพลาด ร้านกาแฟดอยผาหมี ตั้งอยู่ที่บ้านผาหมี ตำบลเวียงพางคำ อ.แม่สาย ที่นี่ถือว่าเป็นจุดเช็คอินที่ยังคงรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนแบบไม่ขาดสาย ด้วยสถานที่ตั้ง การตกแต่ง ทิวทัศน์ และวิถีชนเผ่าที่น่าสนใจ

คุณผกากานต์ รุ่งประชารัตน์ เจ้าของร้านกาแฟและอาหาร ดอยผาหมี ประธานวิสาหกิจชุมชนกาแฟดอยผาหมี ลูกหลานชนเผ่าที่รวบรวมวิถี ศิลปะวัฒนธรรมอาหารการกิน และนำมาต่อยอดเป็นร้านกาแฟและอาหาร ดอยผาหมี ที่เลื่องชื่อ นอกจากจะมาแนะนำอาหารชนเผ่าอาข่าพื้นเมืองขนานแท้ใส่ในภาชนะกระบอกไม้ไผ่ ไม่ว่าจะเป็นรากชูหมู น้ำพริกหมูรากชู ผัดไข่รากชู ลาบหมูรากชู อาหารรสมือแม่ที่ทำให้เจ้าของร้านทานมาตั้งแต่จำความได้ สามารถจำหน่ายเป็นเซ็ตไว้ให้บริการสำหรับใครต้องการ

ร้านเปิดตั้งแต่ 8.00- 21.00 น.
#ร้านกาแฟดอยผาหมี #ดอยผาหมี

เฮอริเทจ เชียงราย โฮเท็ล แอนด์ คอนเวนชั่น
สำหรับที่โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเท็ลแอนด์คอนเวนชั่นแห่งนี้ ตั้งอยู่กลางเมืองเชียงราย ออกแบบหรูหราผสมผสานศิลปะร่วมสมัยสะท้อนให้เห็นถึงความสง่างามของมรดกทางวัฒนธรรมอาณาจักรล้านนาที่มีมาอยางยาวนานจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นโรงแรมที่ขานรับกิจกรรมของชุมชนเมืองเชียงรายมาโดยตลอด ครั้งนี้ คุณบัณฑิต มาลัยลักษณ์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเฮอริเทจ เชียงรายฯ จัดสรรพื้นที่หลายจุดสำหรับการจัดแสดงงานศิลปะของศิลปินล้านนาหลายคน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของงาน มหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale , Chiang Rai 2023

คุณบัณฑิต มาลัยลักษณ์ กล่าวว่า โรงแรมพร้อมสนับสนุนในทุกๆ เรื่องกิจกรรมของจังหวัดเชียงราย โดยหัวใจหลักเรื่องของส่วนร่วมเราเปิดพื้นที่ให้ศิลปิน เป็นห้องแกลลอรี่ ปัจจุบันเป็นรูปภาพ ในอนาคตจะเป็นรูปปั้นและการเพ้นท์กำแพงและเปิดพื้นที่หกคูหาตลอดห้าเดือนสามารถใช้ชั้นสองและชั้นสามได้ ใช้ชื่อเป็นอาคารแสดงศิลปะร่วมสมัย เพื่อให้สอดคล้องกับกิจกรรม

จุดที่ 1 เป็นการแสดงผลงานของกลุ่มศิลปินกลุ่มสตูแดง ที่นำเสนอผลงานศิลปะที่มีความหลากหลายสไตล์ มีทั้งเทคนิคการนำเสนอผลศิลปะ มีทั้งสีน้ำมัน สีอะคริลิค สีฝุ่น สีน้ำ และเทคนิคชาโคล โดยได้รวบรวมเพื่อนศิลปินนักศึกษาจากหลักสูตรพุทธศิลปกรรม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กลุ่มศิลปินจากมหาวิทยาลัยศิลปากร กลุ่ม Illus Illy CEI กลุ่ม พุทธศิลป์ มจร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย เชียงราย กลุ่มศิลปินสีน้ำ กลุ่มศิลปินอิสระ เชียงราย

จุดที่ 2 – Solo Exhibition Art Flame of Mind by ภัทรเศวต ภัทรจุมพตนำเสนอผลงานศิลปะสื่อมารในจิตใจ ซึ่งจะแสดงออกมาเมื่อมีกิเลสครอบงำ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ถ้าไม่กำจัดมารเหล่านี้ จะหวังเข้าสู่กระแสธรรมเพื่อนิพพานคงยาก

จุดที่ 3 Graffiti Art By MIC & MART หรือคุณลิขสิทธิ์ กันตะบุตร และคุณมาตร จงสมสกุลเดิม สื่อการปลดปล่อยพลังที่โดนกักขังไว้เนินนาน ความสุขของผู้โดนปลดปล่อย ดวงตาของการปลดปล่อยอนิทรรศการ สมดุลย์แห่งโลกิยะวิสัย นำเสนอในเรื่องจิตใจในด้านดี และด้านร้ายของมนุษย์ผ่านภาพวาดบนเฟรมที่ใช้เลือดของศิลปินมาเป็นส่วนผสม ที่มีสิ่งเร้าเป็นภาพวาดบนผนังของห้อง

โรงแรมเฮอริเทจ โฮเท็ลแอนด์คอนเวนชั่น
โทร 052 055 888 Line ID :335tkcsv
#โรงแรมเฮอริเทจโฮเท็ลแอนด์คอนเวนชั่นเชียงราย

ขอบคุณทุกคน ทั้งผู้อ่าน และผู้สนับสนุน มิตรสหาย
สำหรับทริปจังหวัดเชียงราย ที่ผ่านมา

ขอขอบคุณ:
โรงแรมเฮอริเทจ โฮเท็ลแอนด์คอนเวนชั่น

ขอขอบคุณ:
ททท.สำนักงานเชียงราย โทร. 0 5371 7433, 0 5374 4674-5 หรือ TAT Call Center โทร. 1672
เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย ค้นหาแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดเขียงรายได้
ที่เว็บไซต์ www.tourismchiangrai-phayao.com
เพจ Facebook : ททท.สำนักงนานเชียงราย

“เกทเวย์ แอท บางซื่อ” ร่วมกับ โรส ศรินทิพย์ ฉลองเทศกาลคริสต์มาสมอบความสุขส่งท้ายปี

“เกทเวย์ แอท บางซื่อ” ฉลองเทศกาลคริสต์มาส มอบความสุขส่งท้ายปี
ด้วยต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่เพื่อชาวบางซื่อ พร้อมกระจายความสุขไปกับ โรส ศิรินทิพย์

ศูนย์การค้าเกทเวย์ แอท บางซื่อ ภายใต้ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) ในเครือ AWC จัดงาน The Season of Happiness 2024 ส่งมอบความสุขส่งท้ายปี เริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 7 มกราคม 2567 พร้อมเปิด Lifestyle โซนใหม่ “เพลิน พาร์ค” เพื่อเป็นจุดเช็คอินย่านบางซื่อเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ที่ผ่านมา
และเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม วันคริสต์มาสที่ผ่านมา กับกิจกรรมที่อบอวนไปด้วยบรรยากาศของงาน ” The Season of Happiness 2024″ จัดขึ้นบริเวณลานอีเวนท์ฮอลล์ ชั้น M ที่เต็มไปด้วยความสุข จากการเปิดเวทีเรียกรอยยิ้ม ของเหล่าแฟนคลับตัวน้อย ด้วยโชว์ของเหล่าซานตาคลอส แซนตี้ และกวางเรนเดียร์ ก่อนที่ โรส ศิรินทิพย์ จะขึ้นเวทีมาพร้อมเพลงเพราะๆ ที่ขนมาครบทั้งเพลงดัง เพลงฮิต สมกับเป็นเทศกาลแห่งความสุขแบบจัดเต็มในครั้งนี้ รวมถึงเพลงตามคำขอจากแฟนคลับ ที่มานั่งรอชม กันแบบเต็มพื้นที่ และพิเศษสุด กับเพลงเมดเลย์ ฉลองเทศกาลคริสต์มาส ที่โรส เตรียมมาร้องกับแฟนเพลง กันอย่างสนุกสนาน ซึ่งถือว่าเป็นมินิคอนเสิร์ต สุดชิลในบรรยากาศสุดอบอุ่น ส่งท้ายปลายปีถือเป็นโมเมนต์แห่งความสุขของการเฉลิมฉลองแบบใกล้ชิด รวมถึงความสุขที่กระจายไปพร้อมกับขบวน Happiness Troop ที่มาส่งมอบความสนุกและภายนอกศูนย์การค้าฯ ได้เนรมิตต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ เพื่อให้ลูกค้าได้มาร่วมถ่ายรูปเช็คอิน และฟินไปกับบรรยากาศการเฉลิมฉลองส่งท้ายปี บริเวณ “เพลิน พาร์ค” พื้นที่โซนใหม่ที่ทางศูนย์การค้าฯ ได้เปิดขึ้น เพื่อเติมเต็มความหลากหลายให้แก่ทุกไลฟ์สไตล์ของชาวบางซื่อ ภายใต้คอนเซ็ปต์ The Best ALL Day Lifestyle Market and The Best Night-time Lifestyle Hangout เหมาะกับบรรยากาศการ การปาร์ตี้เฉลิมฉลอง พร้อมมุมถ่ายรูปสวยๆ กับต้นคริสต์มาสสุดอลังการ ที่รายล้อมไปด้วยไฟประดับ ที่ทางศูนย์การค้าฯ ตั้งใจอยากให้เป็นจุดเช็คอินอัพโซเซียลให้แก่ชาวบางซื่อและใกล้เคียง

โค้งสุดท้ายกับเทศกาลเฉลิมฉลอง ความสุขจากโปรโมชั่นสุดคุ้ม ตลอดทั้งวัน เพื่อแทนคำขอบคุณจากทางศูนย์การค้าฯ กับแคมเปญโปรโมชั่นลดสูงสุดถึง 50% จากพันธมิตรร้านค้าชั้นนำ พร้อมร่วมรับสิทธิ์แลกรับของรางวัลพิเศษอีกมากมาย
กินหรือช้อป ภายในศูนย์การค้าฯ กระหน่ำแจกความสุข กับโปรโมชั่นส่งท้ายปี*

  • ครบ 1,500 บาท เลือกรับ Gift Voucher หรือของสมนาคุณ จากร้านค้าชั้นนำภายในศูนย์การค้าฯ ที่ร่วม รายการ หรือ
  • ครบ 3,500 บาท รับกระเป๋า Limited Edition (มูลค่า 599 บาท) ฟรี!
    พิเศษ!! ช้อปครบทุก 500 บาท ขึ้นไป(ต่อใบเสร็จ) รับสิทธิ์ Lucky Draw (E-Coupon) พร้อมของรางวัลจากกลุ่มโรงแรมในเครือ AWC ประกอบไปด้วย
  • รางวัลที่ 1 ห้องพักสุดหรู Deluxe Pool Villa จากโรงแรมบันยันทรี สมุย พร้อมอาหารเช้า 3 วัน 2 คืนสำหรับ 2 ท่าน มูลค่า 65,000 บาท จำนวน 1 รางวัล
  • รางวัลที่ 2 ห้องพักสุดหรู Deluxe Garden Pool Suite จากโรงแรมบันยันทรี กระบี่ พร้อมอาหารเช้า 3 วัน 2 คืนสำหรับ 2 ท่าน มูลค่า 60,000 บาท จำนวน 1 รางวัล
  • รางวัลที่ 3 บัตรกำนัลรับประทานอาหาร 2 ที่นั่งจากห้องอาหาร Goji Kitchen+Bar จากโรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค มูลค่า 5,412 บาท จำนวน 1 รางวัล

เต็มอิ่มไปกับเทศกาลของขวัญส่งท้ายปีใหม่ ต้อนรับปีใหม่ ที่ทางศูนย์การค้าเกทเวย์ แอท บางซื่อ จัดให้พร้อมพุ่งตัวไปช้อปปิ้งได้ในงาน “The Season of Happiness 2024” ช้อปสนุกส่งท้ายปลายปีกับสินค้าสุดพิเศษลดถึง 50% ตั้งแต่วันนี้ถึง 7 มกราคม 2567 นี้ กับศูนย์การค้าเกทเวย์ แอท บางซื่อ ความสุขที่พร้อมสรรพสำหรับทุกครอบครัว

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

#ฉลอง5ปีที่เกทเวย์แอทบางซื่อ #5thAnniversaryGatewayatBangsue #GatewayatBangsue5th #GatewayatBangsue5 #Ajourneyoflove5

โรงแรมอมารี วังเวียง (Amari Vang Vieng Hotel)

ขอบคุณทุกเรื่องราวราวดี ๆ มาเติมพลังบวกให้กับตัวเอง โรงแรมอมารี วังเวียง  

Amari VangVieng  อีกหนึ่งโรงแรมในหลายตัวเลือก สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในประเทศลาว “วังเวียง” (Vang Vieng) เป็นเมืองเล็กๆ ที่หลายคนมักเลือกที่จะไปเช็กอิน และท่องเที่ยวจุดหมายแรกๆ เพราะต้องเสน่ห์ด้วยแม่น้ำซองคั่นกลาง ตัดกับทิวเขาสูงชันอันน่าค้นหา โรงแรมอมารี ที่พักใจกลางวังเวียง  โรงแรมเชนขนาดใหญ่  เป็นที่พักที่ตั้งอยู่กลางเมือง โรงแรมระดับ 4 ดาว เดินทางสะดวกสบายด้วยที่ตั้งและวิวสุดปัง!!  รร.ในตัวเมืองวังเวียง ติดกับแม่น้ำซอง วิวจากระเบียงห้องจะเห็นแม่น้ำทอดสายยาวอยู่หน้าภูเขาสูง ถ้าตื่นเช้าได้เห็นหมอกย่อมๆ และเห็นบอลลูน ลอยเต็มหน้าห้อง ถือเป็นย่านคึกคักใกล้เคียงยังมีทั้งร้านอาหาร ร้านค้า ผับ และคาเฟ่มากมาย 

โรงแรมอมารี วังเวียง (Amari Vang Vieng Hotel) เป็นตัวเลือกแรกๆ อย่างแน่นอน เพราะอยู่ใจกลางเมืองวังเวียง ติดกับแม่น้ำซอง สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำที่ทอดตัวยาวตั้งแต่ต้นสายไปยังปลายสาย  เราเลือกพักที่นี่ประทับใจมาก เลยอยากเก็บบรรยากาศมาเล่าให้ทุกคนได้ฟัง  เมื่อเราก้าวเข้าไปในโรงแรมกลับสงบ เงียบ และร่มรื่นมาก การตกแต่งและโทนสีที่เลือกใช้  โดดเด่นด้วยการตกแต่งแบบร่วมสมัย ผสมสานกับกลิ่นอายวัฒนธรรมลาวได้เป็นอย่างดี บอกได้เลยว่าเป็นโรงแรมที่รู้สึกสะดวก สบาย เป็นทางเลือกที่ดีสุดๆ สำหรับคนที่มองหาที่ในเมือง วังเวียง สะอาด สะดวก สบาย และถ่ายรูปสวยและวิวสวยๆ ริมแม่น้ำซอง ถ้าหากจะไปตลาดเช้าก็เดินไม่ไกล ถ้าชอบเดินเที่ยวกลางคืนก็ก้าวเท้าไปไม่นานก็ถึงตลาดเช้าสบายๆ

โรงแรมเชนหนึ่งเดียวในวังเวียง จากเครือ ONYX พักสบาย มั่นใจในบริการ รับรองว่าได้ชมวิวแบบเต็มอิ่มเลย แถมยังมีมุมถ่ายรูปชิคๆ ด้วย นอกจากนี้ยังมีบริการในด้านอื่นๆ อีกมากมาย และขุนเขา พร้อมรับประทานอาหารอร่อยๆ ที่ร้านอาหารริมน้ำ

สำหรับห้องพักมีหลายแบบให้เลือก เริ่มตั้งแต่ห้อง Superior ขนาด 30 ตารางเมตร แบบเตียงเดี่ยว สามารถมองเห็นวิวเมือง, ห้องแบบ Superior City View ขนาด 32 ตารางเมตร แบบเตียงคู่ สามารถมองเห็นวิวเมือง, ห้องแบบ Superior City View with Balcony ขนาด 32 ตารางเมตร แบบเตียงเดี่ยว มีระเบียง สามารถมองเห็นวิวเมือง, ห้องแบบ Superior River View ขนาด 32 ตารางเมตร แบบเตียงเดี่ยว หรือเตียงคู่  เป็นแบบเตียงเดี่ยว มีระเบียง สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำได้อย่างงดงาม

สำหรับใครที่ชอบห้องใหญ่ สามารถเลือกห้องพักแบบ Delux City View ได้ ขนาด 40 ตารางเมตร เป็นแบบเตียงเดี่ยว สามารถมองเห็นวิวเมือง, ห้องพักแบบ Delux City View with Balcony ขนาด 40 ตารางเมตร เป็นแบบเตียงเดี่ยว มีระเบียง สามารถมองเห็นวิวเมือง, ห้องพักแบบ Delux River View ขนาด 48 ตารางเมตร เป็นแบบเตียงเดี่ยว สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำ และห้องพักแบบ Delux River View with Balcony ขนาด 48 ตารางเมตร เป็นแบบเตียงเดี่ยว มีระเบียง สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำและทิวเขาอันงดงามของวังเวียง และถ้าห้องยังมีใหญ่ไม่พอ แนะนำให้เลือกห้องพักแบบ Grand Delux River View เพราะขนาดห้อง 50 ตารางเมตร พร้อมด้วยเตียงเสริม 2 ชั้นอีกด้วย สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำ พร้อมอ่างแช่น้ำอุ่น

ภายในโรงแรม Amari VangVieng  มีสระว่ายน้ำ พร้อมวิวที่สวยที่สุด ห้องประชุม ฟิตเนส ห้องอาหาร ทั้งอาหารเช้า มือเที่ยง มื้อเย็นวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวกับบรรยากาศสุดฟิน ทะเลหมอกสวยๆ กับข้อเสนอพิเศษจาก อมารี วังเวียง ลาว ไม่ว่าจะเดินทางด้วยเครื่องบิน รถตู้ หรือ รถไฟ ก็สะดวกสบายมากๆ 

อาหารเช้า จัดเต็มละลานตา ทั้งอาหารตะวันตก ตะวันออก อาหารไทย รวมไปถึงอาหารพื้นถิ่นของลาว ผ่อนคลายริมสระว่ายน้ำก็อยู่ไม่ไกล ที่สระว่ายน้ำสามารถมองเห็นทิวเขาอันงดงามของวังเวียงได้อย่างเต็มตา 

4 กิจกรรมปักหมุดที่พลาดไม่ได้ เมื่อมาพักผ่อนที่โรงแรม อมารี วังเวียง
1.ขึ้นบอลลูน สุดฟินไปกับธรรมชาติและบรรยากาศรอบเมืองวังเวียง

2.พายคายัค เย็นชุ่มฉ่ำกับสายน้ำ ดูบรรยากาศสองข้างทาง แวะหาของอร่อยทานริมน้ำซอง

3. สนุกสนานกับการกระโดดน้ำที่ บลูลากูน สระน้ำสีฟ้า ที่ได้รับความนิยม เมื่อมาถึงวังเวียงก็ไม่ควรพลาดที่จะไปแวะเที่ยวชม

4. เพลิดเพลินกับการว่ายน้ำ ที่สระว่ายน้ำที่อมารีวังเวียง ไปพร้อมกับชมบรรยากาศภูเขา ที่มองเห็นในระยะไกล

จองตอนนี้ คลิกเลย  https://bit.ly/43bj5TY
ถ้ายังไม่ได้เป็นสมาชิก? สมัครตอนนี้ รับทันทีส่วนลดเพิ่ม พร้อมสิทธิพิเศษมากมาย https://bit.ly/467f1X3

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: โรงแรม Amari VangVieng 
ที่ตั้ง : Song River Road, Sawang Village, Vang Vieng, Vientiane 1003 Lao PDR ติดต่อ : โทรศัพท์ +856 0235 11800-9
เว็บไซต์ : https://www.amari.com/vang-vieng

โทร: +856 023 511800
WhatsApp +856 20 54 222367
 อีเมล: reservations.vangvieng@amari.com

#AmariHotels #AmariVangVieng #Laos #วังเวียง #โรงแรมอมารีวังเวียง #เที่ยววังเวียง #toptotravel

พะงัน เดินหน้าเตรียมจัดเทศกาล Awakenest Festival ดึงนักท่องเที่ยวทั่วโลก หลอมรวมพลังจันทราสร้างแรงบันดาลใจ

ทริปเพิ่มพลังให้ชีวิต เพื่อไไปยัง เกาะแห่งพลังจันทรา เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา Toptotravel มีโอกาสเดินทาง ท่องเที่ยว พบปะชาวเกาะพะงัน ที่กำลังร่วมแรงร่วมใจกันจัดการแถลงข่าว ชื่องานภายใต้ชื่องาน Happy – Healthy Phangan “เกาะแห่งพลังจันทรา”

โดยมีหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่อย่าง สมาคมโรงเเรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงัน สเตย์ฟลายสตูดิโอ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุย บริเวณลานตัวหนอน ท้องศาลา อำเภอเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายคน บางครั้งอาจใช้เวลานานกว่าจะได้ชื่อ งานที่มีความหมายที่ดี หรือโดนใจสมาชิกท่ามกลางพลังแห่งจันทรา ที่หลอมรวมผู้คนเข้าด้วยกันตอกย้ำ
อัตลักษณ์ของเกาะพะงันไปพร้อมกับ การเปิดมุมมองใหม่เพื่อประสบการณ์ใหม่ของการท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นเพื่อสุขภาวะองค์รวมและความยั่งยืน กับธรรมชาติ ชีวิตและวิถีชีวิตและชุมชน

… โดยเช้าตรู่ของวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา คณะสื่อมวลชนรวมตัวกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เดินทางโดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ลงตรงยังเกาะสมุย สุราษฎร์ธานี ก่อนจะลงเรือต่อไปยังเกาะพะงัน โดยเรือขนาดใหญ่ ทันสมัยและปลอดภัยของ Lomprayah High Speed Ferries Co, Ltd. ภายใต้การบริหารงานของคุณวนิชชา สุขเชตุ Secretary to the President Marketing Manager ภายในเรือมีโซนหลายโซนให้นักท่องเที่ยวได้เลือกนั่งพักผ่อน ทั้งดาดฟ้ารับแดดรับลมกันเต็มๆ หรือจะอยู่ในห้องแอร์ หรือจะเป็นโซนวีไอพีที่มีเอาไว้สำหรับไพรเวทแอร์เรีย ก็มีให้เลือกและแล้วก็มาถึงเกาะพะงัน

กินห่อก่อกำเนิดฟูลมูน วัฒนธรรมการกินห่อ กินอาหารร่วมกันหลังจากทำงานท่ามกลางแสงจันทร์
วัฒนธรรมการกินห่อ กินอาหารร่วมกันหลังจากทำงานท่ามกลางแสงจันทร์ (ในสมัยก่อน)

การเดินทางอย่างมีจุดเริ่มต้น สถานที่แรกของวันคือ ร้าน NIRA’S HOME BAKERY มีโอกาสได้ชิม ข้าวผัดปลาทู นอกจากจะนำปลาทูมาผลัดคลุกเค้าเข้ากันกับข้าวนุ่มๆแล้ว นำปลาทูฉีกเนื้อครึ่งซีกวางบนข้าวสวย ยังมีเครื่องเคียงเอาไว้ให้ปรุงรสด้วย หอมกรุ่นชวนทาน เสริฟพร้อมกับเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่บอกว่า ให้ความสดชื่นเป็นอย่างมากที่นี่เราได้พบ กับ คุณฉันทนา ลิ้มสุวรรณ นายกสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยว เกาะพะงัน และ คุณกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร
ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุย

คุณกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุย และ
คุณฉันทนา ลิ้มสุวรรณ นายกสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยว เกาะพะงัน
ร้าน NIRA’S HOME BAKERY มีโอกาสได้ชิม ข้าวผัดปลาทู
คุณศิราณี อนันตเมฆ ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงัน

โดยคุณศิราณี อนันตเมฆ ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงันหนึ่งในคณะจัดงาน บอกว่า “การที่เราอยู่ในโลกใบนี้กับทุกสิ่งที่มีความจำเป็นในชีวิต ที่เราคิดว่ามีความจำเป็น เราลืมบางอย่างในชีวิตไป วันนี้เป็น Journey ที่ให้คุณเดินทางเข้ามาค้นพบในตัวตนของเอง แล้วเริ่มต้นชีวิตที่สมบูรณ์กับความสุขข้างใน จะก่อให้เกิดความสุขข้างนอก และก่อให้เกิดการดำเนินชีวิตที่มีความสุขและประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน

สิ่งหนึ่งที่จะเห็นในค่ำคืนนี้ คือ เป็นการผสมผสานระหว่างอาร์ตติสจากทั่วโลกที่อยู่บนเกาะพะงันมาร่วมคอมบายด์ กินห่อก่อกำเนิดฟูลมูน ซึ่งวัฒนธรรมการกินห่อ เป็นการกินอาหารร่วมกันหลังจากทำงานท่ามกลางแสงจันทร์ ซึ่งมีนานหลายสิบปีของชุมชนที่นี่”

… “เดี๋ยวเราไปเช็คอินเข้าโรงแรมกันก่อนนะคะ” เจ้าหน้าที่ททท.บอกกับเรา วันนี้เราได้รับโอกาสเข้าพักที่โรงแรม จันทรมาส โรงแรมที่สวยงามทั้งบรรยากาศและชายหาด ตั้งอยู่บนทำเลที่สวยงามของเกาะพงัน  เพียบพร้อมด้วยการบริการเหนือระดับพิถีพิถัน อบอุ่นและมีเอกลักษณ์ความเป็นไทยในทุกมิติ ประกอบด้วยห้องพักทั้งสิ้น 48 ห้อง แบ่งเป็นห้องพักประเภทดีลักซ์ พูลวิลล่า และพูลวิลล่าสวีท ภายในรีสอร์ทครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก  ไฮไลท์ก็คือสระว่ายน้ำวิวทะเล ผู้เข้าพักจะได้ดื่มด่ำการพักผ่อนภายในรีสอร์ตอย่างไม่รู้เบื่อ กับอาหารอร่อยล้ำที่ร้านอาหารและบาร์ของรีสอร์ตที่มีให้เลือกหลากหลาย

จันทรมาส รีสอร์ท แอนด์ สปา หรูหรา มีหลากหลาย Type ภายในห้องพัก มีอ่างอาบน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกครบ กว้างขวาง สะอาด มีความส่วนตัว และเหมาะแก่การพักผ่อนที่แท้จริง กิจกรรม โรงแรมจะมีพื้นที่สำหรับ Co – Working Space” ติดทะเล ผู้พักสามารถเข้าไปใช้ทำกิจกรรมในการทำงาน อ่านหนังสือ ประชุมได้อย่างเต็มที่ และมีอาหารและเครื่องดื่มพร้อมบริการในระหว่างทำงานอีกด้วย ภายในรีสอร์ทมี สระว่ายน้ำ สปา ห้องอาหารติดทะเล มี อาหารไทย ฝรั่ง และ ค็อกเทลพร้อมให้บริการ สำหรับผู้พักทุกท่าน
จันทรมาส รีสอร์ท แอนด์ สปา หรูหรา มีหลากหลาย Type ภายในห้องพัก มีอ่างอาบน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกครบ กว้างขวาง สะอาด มีความส่วนตัว และเหมาะแก่การพักผ่อนที่แท้จริง กิจกรรม โรงแรมจะมีพื้นที่สำหรับ Co – Working Space” ติดทะเล ผู้พักสามารถเข้าไปใช้ทำกิจกรรมในการทำงาน อ่านหนังสือ ประชุมได้อย่างเต็มที่ และมีอาหารและเครื่องดื่มพร้อมบริการในระหว่างทำงานอีกด้วย ภายในรีสอร์ทมี สระว่ายน้ำ สปา ห้องอาหารติดทะเล มี อาหารไทย ฝรั่ง และ ค็อกเทลพร้อมให้บริการ สำหรับผู้พักทุกท่าน

Private Pool Villa Sea View

  • Supreme Deluxe with Jacuzzi
  • Supreme Deluxe
  • Deluxe Room with Bathtub

บริหารงานโดยคุณฉันทนา ลิ้มสุวรรณ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นช็อปที่นำสินค้าน่ารักๆ มาไว้บริการ มีมุมสปา มุมฟิตเนส สระว่ายน้ำ มุมสันทนาการของห้องอาหารริมหาดขาวนวล บอกเลยว่า มันว้าว! มากจริงๆ

คุณฉันทนา ลิ้มสุวรรณ

Happy – Healthy Phangan เกาะแห่งพลังจันทรา
บริเวณถนนเลียบชายหาด ท้องศาลา วันนี้มีการจัดตลาดนัดด้วยจึงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนชาวพะงัน ร้านรวงส่วนใหญ่เป็นอาหารพื้นถิ่น ผลไม้หลากชนิดและเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ ของที่ระลึกใกล้กัน บริเวณ ลานตัวหนอน ถูกเนรมิตให้ เป็นลานจัดการแถลงข่าว Happy Healthy Phangan เกาะแห่งพลังจันทรา พื้นที่แบ่งเป็นโซน มีการออกบูธจัดแสดงงานวิถีพื้นถิ่น มีการแสดงดนตรีโดยศาสตร์ ปรับสมดุลด้วยความถี่เสียงและแสง (Sound Healing Journey) การฝึกลมหายใจ (Breathwork) รวมทั้งการเเสดงศิลปะ วัฒนธรรมไทย อาทิ รำโนราห์ รำตาลีกีปัด หนังตะลุง ด้านวัฒนธรรมอาหารพื้นถิ่นเพื่อสุขภาพ และการสาธิตการสร้างสรรค์ ผลิตภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติและงานแสดงผลงานศิลปะแขนงต่างๆ
การตระเตรียมลานสำหรับรับพลังแห่งจันทรา เป็น Circle และก่อนจะเริ่มงาน ได้มีการจัดกินห่อ ซึ่งเป็นวิถีวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวเกาะพะงัน อาหารที่เราล้อมวงนั่งกินห่อ เป็นอาหารพื้นถิ่น ซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดฟูลมูนปาร์ตี้

Happy Healthy Phangan เกาะแห่งพลังจันทรา

กิจกรรมฟูลมูนปาร์ตี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2531 ปาร์ตี้ที่เริ่มขึ้นจากมิตรภาพ ความรัก ความผูกพันของชาวบ้านกับนักท่องเที่ยวที่มาพักอาศัยเลี้ยงส่งเพื่อนต่างชาติที่มาท่องเที่ยวในเกาะพะงัน โดยพาราไดซ์ บังกะโล หาดริ้น เป็นสถานที่แรกที่ฟูลมูนปาร์ตี้จัดขึ้น โดยคุณสุทธิ เกื้อสกุล ครั้งนั้นจัดงานเลี้ยงส่งแฟนสาวและเพื่อนที่มาพักที่บังกะโล มีการทำอาหาร ปิ้งปลา ก่อกองไฟเล็กๆ หน้าชายาด เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ชาวบ้านทำกันเป็นประจำหรือที่เรียกกันว่า กิจกรรมกินห่อ ประกอบกับคืนนั้นเป็นคืนขึ้น 15 ค่ำ พระจันทร์เต็มดวง ทุกคนต่างดื่มด่ำกับบรรยากาศและเต็มไปด้วยความสนุกสนา ร้องเพลง เล่นดนตรี หลังกจากนั้นก็มีการจัดขึ้นอีกในวันขึ้น 15 ค่ำของเดือนถัดมา เพื่อรำลึกถึงเพื่อนๆ บรรยากาศ เดิมและต่อมาก็ขยายพื้นที่สร้างความสนุกสนานกันตลอดมา และวันนี้เราก็มีโอกาสนั่งร่วมวง ชิมอาหารแบบกินห่อของชาวเกาะพะงัน ซึ่งประกอบด้วย หมูโค ซึ่งสมัยก่อนไม่มีตู้เย็นการถนอมอาหารที่ทำได้และเก็บไว้ได้นาน คือ หมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ใส่เกลือแล้วใส่น้ำตั้งไฟ เคี่ยวจนกระทั่งแห้ง น้ำในหมูกับน้ำมันหมูก็จะอกมา น้ำมันติดกระทะเอาข้าวลงไปคลุกก็ได้ข้าวผัดมันหมูอีกถัดมาเป็นยำสาหร่ายข้อกับหอยกลม การหาหอยกลมเป็นกิจกรรมที่ชาวบ้านแถบตะวันตกของเกาะนิยมยามน้ำทะเลหน้าบ้านลดลง ส่วนสาหร่ายข้อมีค่อนข้างจำกัด ถ้าน้ำสูงหน้าลมว่าช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคมจะหายาก สาหร่ายข้อเป็นอาหารปลาบางประเภทด้วย มีรสชาติอร่อย นำมายำกับมะพร้าวทึนทึก มะพร้าวคั่ว ใส่มะขามเปียก

นอกจากนี้ยังมี วายต้มยอดมะขาม โวยวายหรือปลาหมึกสายประจำถิ่นที่พะงัน พันธุ์ที่นำมาต้มนี้ใช้วายทรายหรือวายแดง พบในรูปโขดหินน้ำตื้น ปลาคั่ว เป็นเอกลักษณ์หนึ่งของคนพะงัน นอกจากนี้ยังมีชะลอมนำใส่ขนมรวมกันมาให้ได้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็นขนมขี้หมาต้วง ขนมโบราณของชาวเกาะ ขนมไข่ปลา ขนมเทศกาลทำบุญเดือนสิบหรือวันตายาย ขนมเหนียวกวน ขนมถั่วแปบไส้มะพร้าวทึนทึก“เชิญนั่งล้อมวงเลยคะ กินห่อกัน” พี่โป่ง เรียกให้เราจับจองที่นั่งล้อมวงเติมข้าวกันอย่างสนุกสนานหลังจากนั้นพิธีการต่างๆ จึงเริ่มขึ้น ณ บริเวณ ลานตัวหนอน สถานที่ถูกจัดเป็นวงกลม การแสดงดนตรีแผ่วเบาจากชาวต่างชาติ ผสมผสานกับดนตรีที่แสดงออกถึงวัฒนธรรมแดนใต้ ไม่ว่าจะเป็นการโชว์รำมโนราห์ รำตาลีกีปัด หนังตะลุง การเล่นดนตรีไทย ร้องดนตรีไทยผสานดนตรีสากล การร่ายรำเพื่อรับพลังจากแสงจันทรา

คุณกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุย

คุณกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุย เล่าถึงที่มาของงานว่า การจัดงานครั้งนี้ เป็นการเปิดมุมมองใหม่ของเกาะพะงันที่ไม่ได้มีแค่ฟูลมูนปาร์ตี้ แต่พะงันยังมีวิถีชุมชน วิถีชาวเล วิถีมะพร้าวที่นี่ได้รับจีไอของประเทศไทยมีประเพณีกินห่อ หลังจากทำงานเสร็จก็จะมานั่งทานอาหารร่วมกัน และในวันนี้เรามาเที่ยวเกาะ จะมีหาดทรายที่สวยงาม ช่วงที่ไม่มีปาร์ตี้ ทรายขาวละเอียดอย่างไร? และยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง อย่างเช่น น้ำตกธารเสด็จ ที่รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสต้นถึงสิบครั้ง
วิถีชุมชนในส่วนของการนำทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติให้สวยงาม ยั่งยืนเพื่อลูกหลานต่อไปในอนาคต

นอกจากนั้นแล้วที่นี่เป็นเหมือนชุมชนที่รวมพลังจากคนทั่วโลกที่เข้ามาหลอมรวมอยู่ร่วมกัน เราเคยเป็น workation เป็น work peace นอกเหนือจากที่ทำงานปกติ ติดอันดับหนึ่งของโลกมาแล้ว ว่าทำไมคนจากทั่วโลกจึงเลือกที่จะเข้ามาทำงานที่นี่ มารวมกลุ่ม มาเป็นชุมชน มาเป็นครอบครัวเดียวกันที่นี่ จากต่างชาติต่างภาษา อีกทั้งเรื่องของอาหารการกิน ด้วยวัตถุดิบคุณภาพของพื้นถิ่น อาหารทะเลสดๆ ผักผลไม้สดๆ เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ทำให้สุขภาพของเราดีทั้งกายและใจ ที่นี่ถือว่าเป็นเกาะแห่งแรงบันดาลใจ ซึ่งนอกเหนือจากจุดหลัก ของจุดขายเรื่องฟูลมูน พลังแห่งจันทรา มารับพลังเพื่อไปทำงานต่อ พลังต่อไปในการต่อสู้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในชีวิต มาพะงันแล้วจะรู้สึกถึงวิถีที่เรียบง่าย มาแล้วทุกคนจะหลงรัก …พะงัน”

…. เมื่อแสงแห่งจันทราเจิดจรัส พลังแห่งแรงศรัทธาถาโถมกลางใจ นานนับชั่วโมง จากเสียงดนตรีกระแทกกระทั้น สลับแผ่วเบา หลายคนเริ่มปลดปล่อย จิตวิญญาณ ผ่านจังหวะของดนตรี ผู้คนจากทั่วสารทิศ ทั่วทุกมุมโลกที่อาศัยอยู่บนเกาะพะงัน ต่างเดินทางมาร่วมงาน ดื่มด่ำหลอมรวมหัวใจไว้ด้วยกัน
นับเป็นครั้งแรกของการได้เห็นถึงพลังศรัทธาที่หลอมรวมจิตวิญญาณของผู้คนที่มารวมกันที่นี่ บอกเลยว่า พลังแห่งจันทรา แรงกล้าจริงๆ

ด้าน คุณ สาว – ฉันทนา ลิ้มสุวรรณ นายกสมาคมโรงเเรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงัน กล่าวว่าเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก กิจกรรมฟูลมูนปาร์ตี้ สามารถดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกมาเยือนเกาะพะงันเป็นเวลากว่า 35 ปี มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของเกาะพะงัน สถานที่น่าสนใจ และบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์
ทั้งนี้ เกาะพะงันยังมีธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ของป่า ภูเขา ทะเล หาดทรายและน้ำตกที่มหัศจรรย์ ชุมชนชาวพะงันยังมีวิถีชาวเกาะที่เป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม อาหารพื้นถิ่น ความเชี่ยวชาญ ที่หลากหลาย รวมถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชุมชน เหล่านี้ที่ทำให้เกาะพะงันคงมนต์เสน่ห์ให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือน มากขึ้นทุกปี

เกาะพะงันยังเป็นศูนย์กลางของชุมชนในมิติจิตวิญญาณและสุขภาวะองค์รวม (Spiritual, Wellness and Well-being) ยังจะเห็นได้จากการที่ผู้คนจากทั่วโลกเดินทางเข้ามาค้นหาตัวตน และจิตวิญญาณอันล้ำลึก มาเรียนรู้ผ่านศาสตร์ และศิลป์ เยียวยาบำบัด รวมถึงเชื่อมโยงกับตัวเองผ่านเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ
และธรรมชาติเพื่อสมดุลแห่งสุขภาวะองค์รวม “หลังวิกฤติโควิด-19 การดูแลสุขภาวะองค์รวม กายและใจเป็นทางเลือกที่สังคมโลกหันกลับมาใส่ใจมากขึ้น กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในเกาะพะงันจึงต้องการที่จะสร้างภาพความทรงจำและประชาสัมพันธ์เกาะพะงันในอีกมิติหนึ่ง นอกเหนือจากภาพเทศกาลฟูลมูนปาร์ตี้ เพื่อการท่องเที่ยวเกาะพะงันที่ยั่งยืน โดยมีสุขภาวะทางใจและกายที่สมดุล

นอกจากนี้ เกาะพะงันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ผสมผสานความเป็นอันหนึ่ง อันเดียวกันของชุมชนสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปและการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ชาวพะงันให้มีส่วนร่วมในการแบ่งปันวิถีชาวเกาะ เช่น วัฒนธรรม อาหาร ศิลปะการเเสดง ดนตรี ความรู้ ความเชี่ยวชาญที่หลากหลาย มีความเป็นเอกลักษณ์ ให้ประโยชน์ต่อส่วนรวม รวมทั้งกระจายรายได้ให้ชุมชนเกาะพะงัน”

… ค่ำคืนนี้ จึงเป็นค่ำคืนที่บอกเลยว่า อะเมซิ่งคะ สุดอะเมซิ่งจริงๆ เป็นประสบการณ์ครั้งแรกกับการร่วมงาน นี่ขนาดแค่งานแถลงข่าวยังจัดเต็มและยิ่งใหญ่ขนาดนี้ แล้วเมื่อถึงวันเทศกาลในต้นปีหน้าจะยิ่งใหญ่ขนาดไหนหนอ ( เราแอบคิดในใจ)

… เช้าวันใหม่ การตระเวนรอบเกาะพะงันเพื่อสัมผัสวิถีของชุมชน เริ่มขึ้นที่แรกคือไปยังท่าเรือ โฉลกหลำ บริเวณใกล้เคียงมีร้านรวงจำหน่ายอาหารทะเลแห้ง หมึกกะตอยแห้ง ปลาอินทรีย์ ร้านให้เช่าอุปกรณ์ดำน้ำ แต่ด้วยเพราะหมึกกะตอยแห้งที่นี่ขึ้นชื่อเป็นอย่างมาก ทำให้มีการจับจองกันจน …
“เหลืออยู่ถุงเดียวคะ” นั่นทำให้เจ้าหน้าที่ต้องพาไปหาแหล่งจำหน่ายใหม่ ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง ไม่ไกลกันนัก รถตู้ก็พาเรามาหยุดณ บ้านหลังหนึ่ง เรียกว่าเข้าหลังบ้านกันเลยทีเดียว เพราะที่นี่มีสินค้าที่หลายคนอยากได้ เสียงต่อรองราคากันโขมงโฉงเฉง
“หนูเอาโลนึง”
“ซื้อโลแล้วมาแบ่งกันมั๊ย”
“ปลากุเลา และปลาอินทรีย์ แบบตากแห้ง น่าทานมาก”

สมาชิกคณะเดินทางส่งเสียงกันฟังไม่ได้ศัพท์ แต่ก็พอจับใจความได้บ้าง สถานนีต่อไปไร่ เตียวิเศษหลังจากอุดหนุนชุมชนกันคนละถุงสองถุง เราก็เดินทางกันต่อไปยัง ไร่เตียวิเศษ RAITIAVISET ORGANIC FARM ที่นี่ คุณดวงเด่น เตียวิเศษ พาคณะเดินชมพลางเล่าให้ฟังถึงที่มาของ ไร่เตียวิเศษว่า “เมื่อ 14 ปีก่อน เริ่มจากการทำเพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน มองว่า เรามีพื้นที่ว่าง 3 ไร่ ทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์และลดค่าใช้จ่ายได้ ก็เริ่มปลูกผักแล้วหลังจากนั้นก็ไปอบรมเรื่องการปลูกผัก โชคดีได้เจออาจารย์จากจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ปี 2560 ก็รับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ จีพีเอสเกาะพะงัน และอบรมให้กลุ่มสมาชิกของเรา ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกสิบราย มีการรวบรวมผลผลิตมาวางขายที่ไร่เตียวิเศษ

ไร่เตียวิเศษ RAITIAVISET ORGANIC FARM

ภายในไร่แบ่งโซนเป็นฐานเรียนรู้ทั้งหมด 11 ฐาน มีบ้านที่อยู่อาศัยและบ้านเช่าห้าหลัง ในพื้นที่ที่เราทำเกษตรอินทรีย์แนวคิดเกษตรพอเพียง มีเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ไข่โดยผักตบชวา มีการทำน้ำมันมะพร้าว ทำผลิตภัณฑ์ มีช็อปสำหรับจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอท็อป ผลิตภัณฑ์น้ำมันตะไคร้ไล่ยุง ฐานทำน้ำหมักชีวภาพ ซึ่งทางไร่เน้นการหมุนเวียนทรัพยากรที่เหลือใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด คือไม่ให้เหลือทิ้ง”หลังจากคณะเยี่ยมชมและอุดหนุนผลิตภัณฑ์เรียบร้อย เราก็เดินทางกันต่อไปยัง Longtail Beach Resort ที่นี่ห้องหับส่วนใหญ่จะถูกตกแต่งด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหลือใช้ ทั้งโคมไฟ ที่แขวนเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ มาจากงานแฮนด์เมดแทบทั้งสิ้น ที่นี่เปิดบริการมานานและเป็นหนึ่งในสถานที่พักที่รองรับนักท่องเที่ยวที่มาอยู่เกาะพะงันและติดเกาะอยู่ในช่วงโควิด รวมถึง “จันทรมาส” รีสอร์ทแอนด์สปา ของคุณฉันทนา นายกสมาคมฯ และ โรงแรมอื่นๆ ภายในเกาะพะงัน ด้วย
ช่วงเดินเลาะเลียบริมหาดของ Longtail Beach Resort บริหารงานโดย พี่โอ๋

Longtail Beach Resort บริหารงานโดย พี่โอ๋

คุณนฤมล ใหม่โสภา ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมเพื่อการท่องเที่ยวเกาะพะงัน อดีตนายกสมาคมโรงแรมฯ เล่าให้ฟังถึงการจัดการในช่วงโควิด ปี 2562 ว่า “ในช่วงโควิด มีนักท่องเที่ยวที่ติดอยู่บนเกาะพะงันราวสองพันกว่าคน เขากลับประเทศไม่ได้ ทางสมาคมฯ จึงร่วมกับทางหน่วยงานของรัฐ ดูแลเรื่องที่พักโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ดูแลเหมือนเขาเป็นคนในครอบครัว ปลูกผักก็ปลูกด้วยกัน เก็บผักไปทำอาหารด้วยกัน เกาะพะงันไม่เคยปิด ยังเปิดรับตลอดเพียงแต่มีเครื่องสแกนการเข้าออกเพื่อป้องกัน

โดยเป็นงบของทางภาคเอกชนลงเงินช่วยกันซื้อเครื่อง สแกนตั้งแต่ทางเข้าหน้าบ้านคือที่ท่าเรือ ทำเหมือนสนามบิน มีรายงานทุกวัน โดยแยกว่า คนไทยจำนวนเท่าไหร่ จึงมีการสำรวจเพิ่มเติมว่า มีฝรั่งตกค้างอยู่ที่เกาะพะงันจำนวนเท่าไหร่ พอทราบจำนวนจึงมีการหาอาหาร และหาอะไรให้เขาทำระหว่างนั้นเพื่อไม่ให้เครียด เราทำสองจุดคือ เรื่องดูแลที่อยู่ อีกจุดหนึ่ง คือ เพ้นท์สีบนลูกมะพร้าว เป็นที่มาของ “อาร์ตติดเกาะ” ตลาดชื่ออาร์ตติดเกาะ

”อาร์ตติดเกาะ” นำเอาทางมะพร้าวที่มีหัวช่วงบนไปเพนท์เป็นหน้ากากหรือรูปคนเพื่อตกแต่งและนำฝรั่งไปเพ้นท์ ตอนนั้นฝรั่งไม่รู้จะทำอะไรก็นำไปเพ้นท์เพื่อผ่อนคลายและแลกกับการเลี้ยงชีพ มีการเลี้ยงอาหาร เป็นการช่วยเหลือกันและกัน อีกกลุ่มหนึ่ง คือฝรั่งที่อยู่ในเกาะเราพาไปปลูกผักก็เกิด “ไร่วิถีพะงัน”
หลังจากนั้นพี่ก็ประสานไปทาง ททท. ซึ่งเราต้องดูแลคนกลุ่มนี้ จริงๆ เราจะมีการรวมกลุ่มตั้งวอร์รูมที่ท่าเรือ มีจุดที่จะแจกอาหารใกล้ท่าเรือหนึ่งจุด และทางสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงันจะสำรวจหมดเลย เราไม่เคยปิดเกาะ ใครเข้าก็ได้ แต่เรามีเครื่องมือในการสแกนคนเข้าเกาะ มีกลุ่มอสม. ภาครัฐเอกชนประชุมด้วยกัน และมีติดตามสำหรับประเทศกลุ่มสีแดง เหลืองเขียว มีระบบติดตาม ต้องทำรายงานให้อสม ทุกวันสิ่งที่เกิดขึ้น 3 สิ่งในช่วงโควิด และมาจนถึงปัจจุบัน คือ ไร่วิถีพะงัน อาร์ตติดเกาะ และ Community ของ workation รวมถึง
มีการตั้งทีม Trash Hero คือกลุ่มคนไทยและต่างชาติที่รวมตัวกันช่วยกันเก็บขยะ จะมีกิจกรรมทุกๆ 15 วัน”

โรงแรมปานวิมาน โรงแรมระดับสี่ดาวแห่งแรกในเกาะพะงัน

เสร็จสรรพก็เดินทางกันต่อ โรงแรมปานวิมาน โรงแรมระดับสี่ดาวแห่งแรกในเกาะพะงัน โดยมีจีเอ็มให้การต้อนรับ พร้อมดูแลสนับสนุนอาหารมื้อกลางวันหน้าตาสวยงามแบบ warmly welcome โดยเสริฟเป็น เมนู เมี่ยงคำ เสต็กปลากะพงซอสพริกแกง แกงเลียง ไข่ตุ๋นผักรวม ข้าวไรส์เบอร์รี่ ตามด้วยของหวาน กล้วยต้ม มะพร้าวขูด น้ำตาลทราย งาดำและงาขาว

หลังจากนั้นไปเยี่ยมชมหาดทรายขาวชื่อดัง หาดริ้น เป็นชายหาดที่สวยและมีชื่อเสียงของเกาะพะงัน ความยาวของหาดประมาณ 2 กิโลเมตร บริเวณหาดมีร้านอาหาร ร้านสปา บาร์ต่างๆ มากมาย สถานที่จัดงานฟูลมูนปาร์ตี้ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งมีการบริหารจัดการทำความสะอาดหาดทรายหลังจากการจัดงานฟูลมูนปาร์ตี้ เป็นไปอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมาก โดยมีเครื่องมือการทำความสะอาดพื้นทรายนำเข้ามาประเทศเยอรมันในการทำความสะอาดพื้นผิวทราย เรียกว่า เข้ามาจะมองแทบไม่ออกเลยว่า เมื่อค่ำวานนี้ มีงานปาร์ตี้ที่มีคนจำนวนมากมายมากระโดดกันแทบเกาะถล่ม แต่เช้ามา กลับมองไม่เห็นสิ่งสกปรกใดๆ บนหาดทรายขาว อะเมซิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวกับการได้พบเจอ

ก่อนขึ้นเรือ Lomprayah High Speed Ferries กลับยังสนามบินเกาะสมุย ทีมงานได้มีโอกาสเยี่ยมชมและกินไอติมมะพร้าว ที่ร้าน ซาติมิ บริหารงานโดย คุณสารภี ธิติภาทร เป็นไอศกรีมทำเองสัญชาติไทย ไอศกรีมมะพร้าวเกาะงัน ตั้งอยู่ที่เกาะพงัน เนื้อสัมผัสไม่เหนียวและไม่เบาจนเกินไป ไอศกรีมไม่ใส่สีแต่งกลิ่น และเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุด ด้วยราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้

… ต้องบอกตรงนี้เลยว่า การเปิดประสบการณ์หลังผลกระทบจากโควิด19 มาสัมผัสบรรยากาศริมทะเล งาน Happy – Healthy Phangan “เกาะแห่งพลังจันทรา” ในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดมุมมองใหม่ในการเที่ยวเกาะพะงันของเราไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเรื่องของการเที่ยวในแบบธรรมชาติ แบบสุขภาพเพื่อสุขภาวะแบบองค์รวมและจิตวิญญาณ หรือจะเป็นการเที่ยวในแบบชุมชนวิถี หลายสิ่งที่เกิดขึ้น…หลายสิ่งที่ได้สัมผัส เผยให้เห็นถึงศาสตร์และศิลป์ของพะงันที่งดงามไม่ใช่เพียงแค่หาดทรายขาว …ท้องทะเลแสนสวย รวมไปถึงความน่ารักของชุมชนคนบนเกาะพะงัน ที่หลอมรวมความรักความหวงแหนแผ่นดินแห่งนี้เอาไว้ด้วยกัน …และที่สำคัญ ในปลายเดือนมกราคม 2567 เกาะพะงัน เตรียมเปิดเกาะรับเทศกาล Awakenest Festival ยิ่งใหญ่ระดับโลกครั้งแรกของไทย ถือเป็นงานที่รวบรวมกิจกรรมแห่งศาสตร์และศิลป์ เพื่อบำรุงกาย ใจ และจิตวิญญาณ เพื่อการสร้างสมดุลอย่างยั่งยืน ให้ตัวเอง ชุมชน และธรรมชาติ

…. และความงดงามจะยิ่งใหญ่ อลังการขนาดไหน เมื่อผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกจะมารวมตัวกันที่นี่ เพื่อรับพลังแห่งแรงบันดาลใจ พลังแห่งแสงจันทร์ดังที่เราได้เห็นสัมผัสกับบรรยากาศเมื่อค่ำวาน … ความอัศจรรย์ใจเกิดขึ้นทุกขณะของการได้ชม … เอาเป็นว่า ลง book เอาไว้เรียบร้อย… จะพลาดได้ไง งานระดับโลกครั้งแรกของประเทศแบบนี้ มาแล้วบอกเลยว่า …คุณจะหลงรัก …พะงัน

คุยกับ คุณพธู ณ สงขลา เปิดความสำเร็จผู้นำด้านการท่องเที่ยวเกาหลีใต้

Toptotravel ได้มีโอกาสพิเศษที่ได้พูดคุยกับ คุณพธู ณ สงขลา ผู้บริหาร True world Travel ผู้นำด้านการท่องเที่ยวเกาหลีใต้ เบื้องหลังความสำเร็จเกี่ยวกับความสำเร็จที่เกิดขึ้นช่วงเวลาต่อไปนี้เป็นช่วงเวลาแห่งการท่องเที่ยว หลายคนบอกว่าอยากไปท่องเที่ยวต่างประเทศ แน่นอน…

เกาหลีใต้เป็นจุดมุ่งหมายที่หลายคนใฝ่ฝันและวางแผนการท่องเที่ยวหรือหลายคนก็ไปมาแล้ว และหากต้องการเที่ยวที่ไม่ต้องวางแผนการเดินทางเอง ไม่ต้องหาที่พักเอง ไม่ต้องหาแหล่งเที่ยวเอง ไม่ต้องหาร้านอาหารเอง มีที่หนึ่งที่อยากแนะนำ และสิ่งที่ทำให้
สามารถจัดการทุกอย่างให้ได้ทั้งหมดคือ True World Travel บริษัททัวร์ที่เปิดมายาวนานมากกว่าสิบปี โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีใต้ ล่าสุดเตือนภัยจากกรณีแก๊งค์คอลเซนเตอร์ระบาดหนัก ทำอย่างไรให้ป้องกันโดนมิจฉาชีพหลอกลวง และในอนาคตจะมีปัจจัยความเสี่ยงอะไรเข้ามากระทบบ้างหรือไม่ ทำให้เราต้องบริหารจัดการความเสี่ยงต่างๆ ไปพร้อมกับการพัฒนา แก้ไขปัญหา ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว

สิบกว่าปีแห่งการก่อตั้ง ทิศทางรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นอย่างไร
คุณพธู ณ สงขลา ผู้บริหาร True World Travel ผู้นำด้านการท่องเที่ยวเกาหลีใต้ เล่าให้ฟังว่า …เริ่มเดิมทีเป็นไกด์พาคนไทยเที่ยวเกาหลีใต้มาก่อน ในช่วงนั้นเราก็ได้เห็นวัฒนธรรมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ได้เห็นมุมมองแปลกๆ ได้เห็นเสน่ห์ของประเทศเกาหลีใต้ ทำให้หลงเสน่ห์เกาหลีใต้ อีกทั้งเรารู้ว่าลูกทัวร์ต้องการอะไร เรามีพาร์ทเนอร์เป็นชาวเกาหลีใต้ที่เชี่ยวชาญในประเทศเกาหลีใต้ จึงจับมือกันกับแลนด์ โอปะเรชั่น ตั้งบริษัท ทรู เวิลด์ ทราเวล ขึ้นมา ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2555
โดยเราจัดให้คนไทยไปเมืองที่นิยมไปเที่ยว กรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ มหานครปูซาน เมืองท่าอันดับหนึ่งของเกาหลี รวมถึงเกาะมรดกโลกอย่างเกาะเจจู ดินแดนที่ใครไปก็หลงเสน่ห์ เพราะคือธรรมชาติที่แท้จริง หาได้ยากมาก

แหล่งเที่ยวในกรุงโซล สามารถรักษาอันดับการเติบโตในเชิงรายได้มากน้อยเพียงใดกรุงโซล ส่วนใหญ่เน้นช้อปปิ้ง แฟชั่น ความงาม แต่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่น ๆ อยู่ และตอนนี้เราจัดแพคเกจที่ไม่เหมือนใคร และทำขึ้นครั้งแรกกระแสตอบรับดีมาก โดยการเที่ยวกับทัวร์กึ่งเที่ยวด้วยตัวเอง โดยวันแรกมีไกด์ให้บริการและพาเที่ยว โดยที่เที่ยวที่พาไปก็เป็นแหล่งเที่ยวที่คนนิยมไปเช็คอินกันเช่น ห้องสมุด Starfield Library สายมูต้องไป พาไปไหว้พระที่ วัดพงอึนซา วัดเก่าแก่เป็นพันปี พาไปถ่ายรูปที่คลองชองกเยซอน หนึ่งในสัญญลักษณ์ของเกาหลีใต้และโรงแรมที่พักแน่นอนเราอยากให้คนไปเที่ยวเกาหลีในแบบที่ท่องเที่ยวเองสะดวก จึงเลือกโรงแรมที่คนไทยรู้จักกันดี นั่นคือย่านเมียงดง ทงแดมุน
เมื่อลงจากโรงแรมเดินไปช้อปปิ้งได้เลย และวันสุดท้ายก็ไม่ต้องกังวล ไกด์จะมารับที่โรงแรมสัมภาระเยอะขนาดไหนก็สามารถนำขึ้นรถบัสเพื่อเดินทางไปยังสนามบินได้อย่างสะดวกสบาย เราให้คนไทยได้ไปเที่ยวกันจ่ายไม่ถึง 10,000 บาท 4 วัน 2 คืน รวมที่พัก 2 คืน ตั๋วเครื่องบิน พาเดินทางท่องเที่ยว
หรือจะท่องเที่ยวในแพคเกจแบบเดินทางกับไกด์และเที่ยวด้วยตัวเอง ก็ได้ทั้งสองแบบ เราพยายามตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคสมัยนี้ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้”

ปูซาน – โพฮัง
สำหรับเมืองที่กระแสเริ่มมาแรง อีกเมืองหนึ่งของประเทศเกาหลีใต้ คือ “มหานครปูซาน” ผู้บริหาร ทรู เวิลด์ ทราเวล เผยว่า “….เพราะเป็นเมืองทะเล เมืองของกินอร่อย ถ่ายรูปสวย และแพคเกจเมืองปูซาน นอกจากปูซานแล้วยังพาไปเที่ยวเมืองโพฮัง เมืองที่ไปถ่ายทำซีรีส์ เรื่อง Hometown Cha Cha ซึ่งดังมากๆ หลายคนอยากตามรอยหัวหน้าฮง ได้ถ่ายรูป ได้ไปคาเฟ่พร้อมกับไปเช็คอินที่เที่ยวที่ใหม่ล่าสุด สะพาน Space walk เราให้ลูกค้าได้นอนที่โรงแรมติดชายหาดแฮอุนแด สองคืน นอกจากเห็นวิวทะเลแล้ว ยังเดินไป walking street , food street แหล่งแฮงค์เอาท์ที่ขึ้นชื่อ และไม่พลาดพาไปยังย่านช้อปปิ้ง ย่านนัมโพดง ที่เขาเรียกว่า เมียงดงแห่งปูซาน และตรงข้ามยังมีตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ รถไฟปุ๊กปิ๊ก ซึ่งตอนนี้เขาบอกว่าถ้าไปจองเองค่อนข้างยากมากๆ ส่วนใหญ่คนที่ไปเที่ยวเองไม่ได้ขึ้น แต่ ทรู เวิลด์ สามารถทำได้
ล่าสุด ทางทรู เวิลด์ ทราเวล จัดแพคเกจท่องเที่ยว นอกจากกรุงเทพฯไปปูซานแล้ว ยังมีบินจากเชียงใหม่ไปปูซานด้วย 4 วัน 2 คืน สามารถเช็คได้ทางช่องทางการติดต่อของบริษัทฯ

เกาะเจจู
และถ้าจะไม่พูดถึงผลงานชิ้นโบว์แดงของ ทรู เวิลด์ ทราเวล คงจะไม่ได้ นั่นคือการพานักท่องเที่ยวชาวไทยบินตรงสู่เมืองมรดกโลก เกาะเจจู
ผู้บริหาร ทรู เวิลด์ ทราเวล ได้เล่าต่อว่า “….เกาะเจจู นอกจากได้เป็นเมืองมรดกโลกแล้ว ยังติด 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เราก็รู้สึกว่าเกาะเจจูน่าเที่ยวมาก อยากให้คนไทยได้ไปสัมผัส เหมือนกับที่เราได้ไปแล้วเราตกหลุมรักที่นี่ จึงเริ่มตัดสินใจเช่าเหมาลำเครื่องบิน บินตรงจากกรุงเทพฯ สู่เกาะเจจูเลย โดยสายการบินเจจูแอร์ โดยไม่ต้องไปรวมกับสายการบินอื่นหรือลงที่กรุงโซลก่อน เพราะไฟล์ทปกติไม่มีบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่เจจู ถ้าเราไม่ทำทุกท่านก็ไม่สามารถไปลงเกาะเจจูได้ เพราะไม่มีไฟล์ทบิน เกาะเจจูมีเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งคือ ถ้าเราไปสถานที่หนึ่งในช่วงเวลาหนึ่งและกลับไปยังสถานที่เดิมในอีกเวลาหนึ่งบรรยากาศจะแตกต่างกันมาก จะไม่เหมือนกันเลย เช่นการขึ้นภูเขาฮัลลาซาน ซึ่งเป็นภูเขาที่เป็นต้นกำเนิดของเกาะเจจู สูงที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ ไปฤดู Autumm ต้นไม้เปลี่ยนสี ใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งภูเขา เมื่อไปช่วง Winter จะเปลี่ยนเป็นสีขาวเพราะหิมะปกคลุมทั้งภูเขา สวยงามมาก กลายเป็นว่าลูกค้าสามารถเที่ยวเกาะเจจูได้ทุกฤดูไม่เบื่อเลย”

สุด “ว้าว…เที่ยวทีเดียวสามเมือง”
และสำหรับคนที่ต้องการเดินทางแบบสองเมือง ทางบริษัท ฯ ก็ตอบโจทย์เช่นกัน “… แพคเกจใหม่ที่เราเพิ่งออกมาใหม่ คนไทยชอบเที่ยวกรุงโซลและปูซานด้วย จึงคิดว่าทำอย่างไรให้เชื่อมต่อกันถึงกันได้ เรามองถึงรถไฟความเร็วสูง KTX เราอยากให้คนไทยได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ จึงออกแบบการท่องเที่ยวออกมาให้พักโซลสองคืนและปูซาลสองคืน และถ้าไปเจจู ปูซาน เราก็มี บินตรงไปเกาะเจจู ลูกค้าได้ไปเที่ยวธรรมชาติ ได้ทานหมูดำ อยากไปปูซานต่อเราก็จัดให้รวมตั๋วเครื่องบินภายในประเทศและพาไปเที่ยวโพฮังด้วย เราเรียกโปรแกรมนี้ว่า” ว้าว เที่ยวทีเดียวสามเมือง” คือ เจจู ปูซาน โพฮัง พร้อมเผยแผนและมอบโปรแกรมทัวร์สุดพิเศษส่งมอบให้คนไทย ส่วนโปรเด็ดๆ ของเดือนสิงหาคม ตอนนี้คือ 1 แถม 1 จ่ายคนเดียวเที่ยวได้สองคน เที่ยวแบบประทับใจ ไม่จกตา ตรงปกแน่นอน สามารถสอบถามได้ทุกช่องทางของการติดต่อของบริษัท”

ล่าสุดอยากเตือนภัยจากแก๊งคอลเซนเตอร์
ปัญหา-อุปสรรคทางด้านการจองทัวร์ท่องเที่ยวและที่สำคัญ ที่ผ่านมามีแก๊งค์คอลเซนเตอร์ได้เข้ามาหลอกล่อนักท่องเที่ยวในการจองห้องพัก และอื่นๆ ทำให้นอกจากจะไม่ได้เดินทางแล้ว ยังต้องสูญเสียเงินอีกเป็นจำนวนหลายราย ทางผู้บริหาร ทรู เวิลด์ ทราเวล ได้กล่าวถึงกรณีนี้ว่า “ระวังเรื่องแก๊งค์คอลเซนเตอร์ อย่าหลงเชื่อ หรือรีบตัดสินใจคล้อยตาม หากมีการขายทัวร์ในราคาที่ต่ำกว่าโปรโมชั่นของบริษัท และยิ่งถ้ารบเร้าให้รีบโอนเงินไปบัญชีบุคคลธรรมดายิ่งอันตราย ควรระวังหากมีคนที่โทรหรือทักหาเรา จากเบอร์ส่วนตัวหรือไลน์ส่วนตัว ปกติทางทรู เวิลด์ ให้แอดมินและเซลล์ทุกคนติดต่อกับลูกค้าผ่านช่องทางของบริษัท ไลน์แอดบริษัท รวมถึงเบอร์ออฟฟิศ และเบอร์มือถือของออฟฟิศเท่านั้น ซึ่งตรวจสอบเบอร์และช่องทางการติดต่อได้ที่หน้าเพจ และการจองทัวร์ทุกครั้ง เราจะมีการออกอินวอยเรียกเก็บ ซึ่งจะมีเลข booking มีรายละเอียดชื่อโปรแกรม วันเดินทาง ยอดเงินที่ต้องชำระ และเลขบัญชีอบริษัท “ทรู เวิลด์ ทราเวล” เท่านั้น ระวังอย่าโอนเงินเข้าบัญชีบุคคลเพราะนั่นคือมิจฉาชีพแน่นอน”

มุมมองความร่วมมือกับพันธมิตรอย่างไร
และแน่นอนว่าจากกระแสความนิยม….การท่องเที่ยวถือเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มพลังบวกที่ให้ความสุขกับผู้ที่เดินทาง ไม่ว่าจะเดินทางที่ใด และสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปกับทัวร์แบบคุณไม่ต้องกังวล เรื่องของการหาที่พัก หาตั๋วเครื่องบิน การที่ต้องจ่ายเพิ่มกับกิจกรรมประจำวันต่าง ๆ หากเดินทางด้วยตัวเองหรือหากต้องการเที่ยวด้วยตัวเองบ้างในบางวัน เขาก็มีแพคเกจให้เลือก แบบเที่ยวกับทัวร์ผสมผสานกับเที่ยวด้วยตัวเอง เรียกว่าตอบโจทย์ในความต้องการของผู้เดินทางอย่างแท้จริง เพราะการดูแลลูกค้า เราเน้นเรื่องของบริการหลังการขาย และความสะดวกรวดเร็วในการรับจองผ่านช่องทางออนไลน์ ส่งผลให้เราได้รับการตอบรับที่ดีขึ้น ด้วยปัจจัยบวกเหล่านี้ เราเชื่อว่าตลาดจะเติบโต โดยในมุมของ True World Travel

อีกมุมหนึ่งนั่นคือเรื่องของความรู้ความเข้าใจ การเลือกสรรบริษัททัวร์ ที่จะเดินทางก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่เราต้องพิจารณา ซึ่งทรู เวิลด์ ทราเวล ถือเป็นหนึ่งในบริษัททัวร์ชั้นนำที่มีผู้เชี่ยวชาญในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งการันตีได้ถึงความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ ที่มีมากกว่าสิบปี ดังสโลแกนของบริษัทที่ว่า 3 ดี นั่นคือ “เที่ยวดี พักดี และราคาถูกดี” คุณพธู ณ สงขลา ผู้บริหาร True world
Travel ให้สัมภาษณ์ทิ้งท้าย

สามารถสอบถามข้อมูลต่างๆ ได้ที่ ทรู เวิลด์ ทราเวล
Line : @gotrueworld , Facebook : True World Travel
Website : gotrueworld.com โทร 02-2121-037, 02-115-0037 กด2 (จ-ศ)
098-827-7522, 062-308-7522, (ทุกวัน)
061-273-7522, 065-502-7522 (ทุกวัน)

Gaaya by Oasis Spa สปาเปิดใหม่ใจกลางย่านสุขุมวิท

GAAYA เป็นสปาพิกัดใหม่ที่ตั้งอยู่ใจกลางสุขุมวิท 39 เมื่อเดินเข้าไปในสปาตั้งแต่ก้าวแรกสัมผัสได้ถึงแก่นแท้ของศิลปะแห่งความสุข ที่ให้ประโยชน์ในด้านการพัฒนาอารมณ์ สมาธิ ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงการช่วยพัฒนากล้ามเนื้อ และการเคลื่อนไหวของร่างกาย

กับความเป็นการเข้ามาใช้บริการในสถานที่แห่งนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวัง หนึ่งความรื่นรมย์และความสุขใกล้ตัว เติมเต็มวันที่แสนสุขสบายด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญจากการนวดของเทอราปิส ผสมผสานกับน้ำมันอาโรม่าที่มีให้เลือกหลายแบบ ถืออีกหนึ่งสถานที่นักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยต้องหลงรัก ในราคารสบายๆ การออกแบบตกแต่งภายในเลือกใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติในท้องถิ่น สัมผัสถึงบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกถึงความสงบ ผ่านการออกแบบตกแต่งภายในด้วยสไตล์ Thai Contemporary & Modern จนถึงการเลือกใช้เสียงภายในร้านเพื่อสร้างความผ่อนคลายจากตัวเมืองที่วุ่นวายสปาจะตั้งอยู่ภายในอาคาร คอนเซ็ปของทางร้านตกแต่ง interior และ exterior design
ไปทาง Thai Contemporary & Modern เพื่อให้ลูกค้าที่มาใช้บริการให้รู้สึกสบายตาและผ่อนคลาย

GAAYA by Oasis Spa ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 สปาแบบพรีเมียมที่ไม่ได้ให้แค่ความผ่อนคลายสบายตัว แต่มาพร้อมบรรยากาศสวยงามตามแบบไทย อบอวลไปด้วยกลิ่นน้ำมันนวดหอมระเหย บรรยากาศอบอุ่นแต่หรูหรา และหนักแน่น พนักงานก็น่ารักทุกคนเปิดรับกลิ่นหอมๆ จากนํ้ามันอาโรม่าและรับความรู้สึกผ่อนคลายไปทั้งร่างกาย ที่นี่เลยในใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร การเดินทางสะดวกมากๆ จากสถานีพร้อมพงษ์ หรือถ้าใครเดินทางด้วยรถส่วนตัวทางร้านนี้มีที่จอดรถบริการให้ถึง 8 คัน เปิดบริการตั้งแต่ 10:00 – 22:00 น.

สนใจจองมาก่อนบอกเลยว่าไม่ต้องกลัวเต็ม GAAYA by Oasis Spa สุขุมวิท 39 มีห้องบริการถึง 11 ห้อง และรับลูกค้าได้ถึง 18 ท่าน ส่วนมากผู้ที่มาใช้บริการเป็นคนไทยและต่างชาติ ในส่วนของน้ำมันนวดได้ถูกคัดสรรมาอย่างมากคุณภาพ เพราะที่ GAAYA ใช้ของมีคุณภาพ ตั้งแต่นํ้ามันนวด Gaaya by Oasis Spa ที่มีส่วนผสมหลัก Base oil คือ Jojoba oil, Sweet almond, Safflower oil เพื่อบำรุงผิวทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น บรรเทาอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อและอาการบวมช้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นและคืนความสดชื่นให้ผิวทั่วร่างกาย

การนวดน้ำมันอุ่นๆ ที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ช่วยคลายความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อและช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี เทคนิคการนวดของเทอราปิสต์ที่ฝึกมาอย่างดี เป็นการปรนนิบัติผิวอีกแบบที่ช่วยให้ผิวเนียนชุ่มชื้นขึ้น ไม่แห้งกร้าน ต่อต้านอนุมูลอิสระ ขจัดพิษออกจากร่างกายและรักษาสมดุล มีกลิ่นให้เลือกอย่าง และกลิ่นของน้ำมันนวดนี้ยังมีให้เลือกถึง 5 กลิ่น

  1. Oriental Beauty
  2. Uniquely Thai
  3. Lanna Exotic
  4. Full Bloom
  5. Be Organic Coconut

คอร์สการนวดมีให้เลือกมากมายอาทิเช่น Thai Gaaya Massage ที่นำการนวดแผนไทยเดิมเข้ามาพัฒนาให้มีความผ่อนคลายซึ่งเจ้าหน้าที่จะให้คำอธิบายแก่ลูกค้าอย่างละเอียด ด้วยการนวดที่กระฉับกระเฉงเพื่อเน้นการไหลเวียนของเลือดและความผ่อนคลายที่แท้จริงเพื่อให้สะดวกแก่การตัดสินใจเลือกใช้บริการ

คอร์สการนวดมีให้เลือกมากมาย ได้แก่ คอร์ส Relax Gaaya ใช้เวลา 2 hrs. คอร์สสองชั่วโมงเป็นการผสมผสานการนวดด้วยนํ้ามันหอมระเหย ที่ใบหน้าและตบท้ายด้วยการกดจุดที่ช่วยให้ผ่อนคลายและหลับลึกมากขึ้น หรือหากต้องการนวดหน้า นวดเท้า บอดี้สครับ สปาแห่งนี้ก็แบ่งห้องแบ่งโซนห้องเป็นสัดเป็นส่วนมาผ่อนคลายใช้บริการระดับพรีเมียม

คอร์สที่สอง Release Gaaya ใช้เวลา 2.5 hrs และเหมาะกับพนักงานออฟฟิศอีกด้วย เพราะจุดประสงค์ของคอร์สนี้ ก็คือการคลายกล้ามเนื้อที่หดเกร็งและสะสมมานาน เหมาะกับคนที่เป็นออฟฟิศซินโดรมมากๆ เพราะจะมีการนวดไปตามส่วนต่างๆและนอกจากนั้นยังมีประคบช่วยลดบวมอีกด้วย

ส่วนคอร์สที่สาม Stress away Gaaya ใช้เวลา 3 hrs มุ่งไปทางการสลายความเครียด โดยจะผสมผสานการนวดเท้าและการยืดเส้นโดยผสมผสานการนวดโยคะและการนวดออฟฟิศซินโดรม สำหรับคนที่อยากผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกาย และมาถึงคอร์สสุดท้าย Sabai Sabai Gaaya ใช้เวลา 3 hrs เช่นกัน ปรณิบัติกายาโดยการนวดไทยเพื่อสุขภาพ เน้นไปที่การกด คลึง บีบ กดจุด ประคบด้วยสมุนไพร และการนวดน้ำมัน รวมถึงปิดท้ายด้วยการนวดนํ้ามันมะพร้าว 100% ที่จะช่วยลดความเครียด ต้านริ้วรอย และเพิ่มออกซิเจนให้แก่ผิว ใครที่สนใจจองมาก่อน

GAAYA by Oasis Spa
สามารถติดต่อ โทร 02-262-2133
Location: ซอยสุขุมวิท 39
เวลาเปิด-ปิด: 10.00-22.00 น.
https://oasisspa.net/destination/bangkok/gaaya39/

สยามยอชท์คลับ จุดนัดพบสุดชิคแห่งใหม่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

สยามยอชท์คลับ คือ มิติใหม่ของร้านอาหารและบาร์ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ผู้
มาเยือน เปิดประสบการณ์ใหม่ของการรับประทานอาหารและการสังสรรค์ พร้อมสัมผัสกับสุนทรียรสของอาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลายที่สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์และเรื่องราววัฒนธรรมการกินของกรุงเทพฯ เมืองหลวงแห่งวิถีทางวัฒนธรรมแห่งอาหารระดับโลกได้ที่ สยามยอชท์คลับ รับประทานอาหารและพบปะสังสรรค์ที่แตกแต่งไม่เหมือนใครอย่างแท้จริง สยามยอชท์คลับ จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของไทยที่ผู้มาเยือนจะได้รับประสบการณ์ครบสัมผัสทั้ง 5 ทั้ง รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส เพื่อเติมเต็มความสุขของการรับประทานอาหารและการสังสรรค์ได้อย่างแท้จริง

ณัฐฑินี วิเศษชัยศิลป์
Assistant Director of Marketing Communication
Royal Orchid Sheraton Hotel& Towers

วันนี้ทีมงาน Toptotravel ได้รับเกียรติจาก คุณณัฐฑินี วิเศษชัยศิลป์ Assistant Director of Marketing Communication Royal Orchid Sheraton Hotel& Towers ด้พูดคุยกันเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจในบรรยากาศสบายๆเป็นกันเอง
ได้เห็นถึงแนวคิดการออกแบบอันชาญฉลาด ของ สยามยอชท์คลับ เปิดมุมมองมิติใหม่ของร้านอาหารและบาร์ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา อันกว้างไกลและทัศนคติที่ดี หลายหลากหลายเรื่องราวสำหรับในการสัมภาษณ์ในครั้งนี้

สยามยอชท์คลับ ตั้งอยู่บนโค้งน้ำที่สวยที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มองเห็นบรรยากาศที่สวยงามของทั้งฝั่งเมืองเก่าและฝั่งเมืองใหม่ได้อย่างชัดเจนแล้ว
ยังอยู่ใกล้กับถนนเยาวราชและเจริญกรุง แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ที่ผสมผสานวัฒนธรรมรวมถึงสถาปัตยกรรมดั้งเดิมและสมัยได้อย่างลงตัว เช่นอาคารที่ ความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่าง ไปรษณีย์กลาง

สยามยอชท์คลับ ไม่ใช่เป็นเพียงร้านอาหารและบาร์ แต่เป็น ‘จุดนัดพบสุดชิคแห่งใหม่’ ของคนกรุงเทพฯ เป็นสถานที่นัดรวมตัวกันสำหรับทุกเพศทุกวัย ทั้งกลุ่มเพื่อนฝูง ครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงาน ไม่ว่าจะมารับประทานอาหาร พบปะสังสรรค์ ประชุมหารืออย่างไม่เป็นทางการ ปาร์ตี้ส่วนตัวหรือกิจกรรมอื่นสามารถนั่งดื่มนั่งชิลและเพลิดเพลินกับการฟังดนตรีสด หรือฟังเพลงจากดีเจชั้นนำได้ตามชอบ รวมไปถึงทำเลและบรรยากาศที่ดีเหมาะสมและให้บริการที่ดีที่สุด

เริ่มต้นสัมผัสแรกจากความสวยงามโดดเด่นของการตกแต่งภายใน และความสะดวกสบายรวมถึงอุปกรณ์และเครื่องใช้บนโต๊ะ ตามด้วยการสัมผัสได้ถึงกลิ่นเครื่องเทศของไทยและลิ้มรสชาติอาหารที่หลากหลายไปพร้อมกับจิบไวน์ชั้นเลิศระดับโลก เติมเต็มความสุขให้ครบทุกสัมผัสกับการแสดงดนตรีสดที่คอยบรรเลงขับกล่อมที่ช่วยเพิ่มสุนทรียรสของการรับประทานอาหารให้มีอรรถรสยิ่งขึ้นดำเนินไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร

โซนการทำอาหาร ที่นี่ถูกออกแบบเป็นครัวเปิด (open-kitchen) เพื่อให้มองเห็นการทำงานของเหล่าเชฟที่ประสานสัมพันธ์กันในทุกขั้นตอนของปรุงอาหารแบบยุโรปสมัยใหม่ที่ผสมผสานวิธีการปรุงแบบชาวตะวันตกให้เข้ากับวัฒนธรรมการปรุงอาหารแบบเอเชียดั้งเดิม รวมถึงกระบวนการเตรียมวัตถุดิบและส่วนผสมที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมอาหารที่หลากหลายของไทยซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

Crab Paccheri

ส่วนพื้นที่สำหรับรับรอง มีโซนที่นั่งให้เลือกทั้งแบบ indoor (ห้องแอร์) และนั่ง
ชิลล์ริมแม่น้ำแบบ outdoor เพื่อให้ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศและสัมผัสประสบการณ์ในการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มได้ในแบบที่เป็นคุณตามใจปรารถนา นอกจากนี้ยังมีห้องวีไอพีสำหรับแขกที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ขณะเดียวกัน สยามยอชท์คลับ ยังสามารถปรับเปลี่ยนเป็นสถานที่จัดได้ได้หลากหลายรูปแบบ

อาหารที่สยามยอชท์คลับ มีคอนเซปต์และรูปแบบโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ จากการรังสรรค์ โดยฝีมือเชฟนุ ณัฐชยพงษ์ หอมสมบัติโชติ หัวหน้าพ่อครัว สยามยอชท์คลับ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน แอนด์ ทาวเวอร์ ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านอาหารในสไตล์มิกซ์แอนด์แมทช์ ที่ผสมผสานวิธีการปรุงอาหารระหว่างอาหารแบบยุโรปสมัยใหม่กับอาหารแบบเอเชียต้นตำรับ

เชฟนุ-ณัฐชยพงษ์ หอมสมบัติโชติ
Cod Fish Miso Glazed
Chili Garlic White Sea Prawns

เชฟนุ-ณัฐชยพงษ์ หอมสมบัติโชติ
หัวหน้าพ่อครัว สยามยอชท์คลับ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน แอนด์ ทาวเวอร์
ความหลงใหลในการทำอาหารของเชฟนุ เริ่มต้นตั้งแต่วัยเด็ก เนื่องจากได้รับการเลี้ยงดูจากคุณย่า ผู้ซึ่งมักจะเรียกใช้ให้เขาช่วยงานในครัวอยู่เสมอ เชฟนุในวัยนั้นแม้จะไม่ชอบ เพราะกลัวการสัมผัสเลือดหรือเห็นเนื้อเปื้อนเลือด แต่ด้วยความรักในการทำอาหาร และได้เรียนรู้มากขึ้นจากการไปจับจ่ายซื้อของในตลาดสด จนทำให้มีความเข้าใจและกลายมาเป็นผู้ที่ความเชี่ยวชาญในการสรรหาวัตถุดิบในทุกวันนี้

Broccolini Salad
Octopus
Black onyx Black Angus, Rangers Valley farms – Rib-eye marble
Cod Fish Miso Glazed
Boston Lobster Capellini
Banana Caramel Chocolate

เส้นทางสู่อาชีพเชฟของเชฟนุ เริ่มต้นขึ้นในช่วงที่เดินทางไปศึกษาด้านไอทีที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เชฟนุมีความจำเป็นต้องทำงานหาเลี้ยงชีพควบคู่ไปกับเรียนหนังสือ เริ่มด้วยการทำงานเป็นผู้ช่วยในครัวที่ร้านอาหารไทยซึ่งเป็นของพี่สาว มีโอกาสได้เรียนรู้ทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ ส่วนผสม ขั้นตอนและวิธีการทำอาหารไทยจากพี่สาว จนเกิดแรงบันดาลใจและมีใจรักในการทำอาหาร ดังนั้น เมื่อจบการศึกษาด้านไอทีแล้ว เชฟนุจึงเดินหน้าตามความหลงใหลของตนเอง คิดสร้างสรรค์เมนูต่าง ๆ ขึ้นโดยการใช้กลิ่นและรสชาติที่คล้ายคลึงกันของส่วนผสมที่หาได้แล้วนำมาดัดแปลงให้เข้ากับวัตถุดิบท้องถิ่น

Ahi Tuna
Black onyx Black Angus, Rangers Valley farms – Rib-eye marble

นอกจากนี้ เชฟนุยังเคยเป็นหัวหน้าพ่อครัวที่โรงแรมอาหารเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว กรุงเทพฯ ความสำเร็จของเชฟนุ นั้นมาจากการที่เชฟได้สั่งสมประสบการณ์จากการทำงานในหน้าที่ต่าง ๆ ของคนทำครัว ตั้งแต่เป็นผู้ช่วยเชฟ (Commis 1) ผู้ช่วยรองหัวหน้าเชฟ (Demi Chef) เชฟประจำห้องอาหาร (Chef de Partie) รองหัวหน้าเชฟ (Sous Chef) ในโรงแรมชั้นนำระดับห้าดาวหลายแห่งทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เชฟนุมี เชฟกอร์ดอน แรมซีย์ เป็นไอดอลและเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจทั้งในด้านความคิดสร้างสรรค์และบุคลิกที่โดดเด่น โดยคติประจำใจในการทำงานของเชฟนุคือ “เมื่อสนุกกับทุกสิ่งที่ทำและทำอย่างความสุข สิ่งนั้นก็จะนำพาความสุขและความสำเร็จมาให้เรา”

นอกจากนี้ยังมีเครื่องที่เป็นซิกเนเจอร์ของสยามยอชท์คลับ อาทิ ‘Pier No.3’
(นำวิสกี้ญี่ปุ่น คาคูบิน และเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ไซรับ มาผสมผสานกันและเสิร์ฟในผลสับปะรดสดทั้งลูก) ‘Fireboat’ (เป็นการนำเหล้าวอดก้า มาลิบู คาราเมลไซรับ ขิงสด พริกและหอมแดงมาผสมผสานกัน จนได้ค็อกเทลที่รสชาติเผ็ดร้อนจากเครื่องเทศและสมุนไพรไทย) ‘Maritime’ (เป็นการผสมผสานเหล้าโซจูของเกาหลี กับอเปโรล เบียงโค่ เวอร์มุต สปาร์คกลิ้งไวน์ และเสิร์ฟพร้อมกับไอศกรีมแท่งรสผลไม้ ที่มีให้เลือก 3 รส ได้แก่เสาวรส ลิ้นจี่ สับปะรด) ‘Catamaran’ (เป็นการนำเหล้ารัมชั้นเลิศของไทย “พระยารัม” มาผสมผสานกับบลูคูราเซา น้ำเชื่อมมะม่วง น้ำเกรปฟรุต ใบสะระแหน่และเสิร์ฟพร้อมกับส้มโอชิ้นใหญ่) รวมทั้งเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์เช่น น้ำพันช์ผลไม้ สมูทตี้ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ หรือจะเป็นสูตรเฉพาะในแบบที่คุณโปรดปราน

สยามยอชท์คลับ สถานที่แฮงค์เอาท์สุดชิลแห่งใหม่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เปิดรับประสบการณ์ใหม่ของการรับประทานอาหารและการสังสรรค์ที่แตกต่างของการรับประทานอาหารและการสังสรรค์สำหรับทุกคนและตอบสนองครบทุกการสัมผัสอย่างแท้จริง

สยามยอชท์คลับ ตั้งอยู่ที่โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน
เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 17.00 น. ถึง 01.00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ https://www.sycbangkok.com
โทร. 02 266 0123 หรืออีเมล: siamyachtclub@sheraton.com

“AKA” อากะ สาขา ฟิวเจอร์ พาร์ค ร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นสุดพรีเมียม

“AKA” บุฟเฟต์ ยอดนิยมที่ ยากินิกุ บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง อิ่มจุกแบบไม่อั้น
ครั้งแรกกับประสบการณ์ใหม่ที่ “AKA” อากะ สาขา ฟิวเจอร์ พาร์ ร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นสุดพรีเมียมที่เราเลือกมาลิ้มรสความอร่อยกับกลุ่มแก๊งค์เพื่อนครั้งนี้ อากะ เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ในเครือ เซ็น กรุ๊ป ที่ยังคงครองใจเหล่าสาวกคนรักปิ้งย่าง เลือกที่ ฟิวเจอร์ พาร์ค หนึ่งใน 7 สาขา ที่มีการครีเอทเมนูใหม่ ปรับราคาใหม่ มีการปรับเปลี่ยนบรรยากาศร้านใหม่ ซึ่งเริ่มทั้งหมด 7 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลเวสท์เกต, เซ็นทรัลอีสต์วิลล์, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต, เซ็นทรัลพระราม, เซ็นทรัลพัทยาบีช, เดอะมอลล์บางกะปิ และภายในสิ้นปีจะทยอยปรับเปลี่ยนให้ครบทุกสาขาทั่วประเทศ เรียกว่าเลือกอิ่มกันจุกๆ กับการคัดสรรวัตถุดิบ ทั้งสายหมู สายเนื้อ และสายซีฟู้ด รวมเมนูยอดฮิตตลอดกาลมาในรูปแบบถาดทองสุดพรีเมียม มีให้เลือก 2 แบบ คือ AKA Signature Meat Set มีพอร์คชอปซอสอากะ, หมูสันคอซอสอากะ, หมูติดมันซอสอากะ, เนื้อติดมัน และ AKA Signature Mix Set มีเนื้อสันคอ AUS, เนื้อฮิระนิกุ, พอร์คชอปซอสอากะ, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ และกุ้งแม่น้ำ ความลงตัวที่ครีเอทออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

AKA ยากินิกุบุฟเฟ่ต์ ที่ ฟิวเจอร์พาร์ค ตั้งอยู่ชั้น B เดินหาไม่ยาก ถามกับเจ้าหน้าที่อิมฟอเมชั่นได้เลย ที่นี่มีที่นั่งเป็นสัดส่วน นั่งสบายๆ พนักงานต้อนรับแนะนำเมนูต่าง บรรยากาศร้านตกแต่งร้านดูทันสมัยและสะท้อนตัวตน ไม่ว่าจะเป็นภาพบรรยากาศการทานที่สนุกสนานเฮฮา ภาพเมนูที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน เช่น พอร์คชอปซอสอากะ, อากะมะนาวชอต และ Signature Menu อร่อยตั้งแต่ทำยันคำแรก อิ่มจุกได้แบบไม่อั้น กับ 19 เมนูใหม่ ครบรสยิ่งขึ้น มีทั้งซอสยูสุ และซอสเนยกระเทียม, เสี่ยวหลงเปาซุปต้มยำสุดพรีเมียม เมนูซีฟู้ดซอสมะนาวเสิร์ฟแบบไม่อั้น พร้อมของหวานแบบใหม่ S’mores (สมอร์ส) ปิดท้ายมื้อแบบจุกๆ

AKA Signature Mix Set’ Premium Buffet
เสี่ยวหลงเปาซุปต้มยำ

AKA Signature Mix Set’ Premium Buffet : เนื้อสันคอ AUS, เนื้อฮิระนิกุ, พอร์คชอปซอสอากะ, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ และกุ้งแม่น้ำ platter นี้ ครบทุกองค์ประกอบ ทั้งเนื้อ หมู และซีฟู้ด รสชาติถึงความเป็นปิ้งย่างด้วยซอสเฉพาะตัวของอากะ จัดหนักเมนูใหม่ มีทั้งแบบราดซอสยูสุ ได้รับหอมสดชื่นอย่างจัง เมนูย่างเนยกระเทียม กลุ่มนี้จะหอมลั่นมากกก กลิ่นและรสของเนยกระเทียมถือว่ากินกับอะไรก็เข้ากันมาก (เมนูทั้งหมด: หมูสันคอซอสยูสุ, เนื้อแกะซอสยูสุ, เบคอนเนื้อ AUS ซอสยูสุ, เนื้อฮิระนิกุซอสยูสุ, เนื้อย่างเนยกระเทียม, หมูย่างเนยกระเทียม, เห็ดเข็มทองย่างเนยกระเทียม, เสี่ยวหลงเปาซุปต้มยำ,ไข่ปลาหมึกซอสอากะ, ไข่ปลาหมึกซอสมะนาว, ปลากะพงซอสมะนาว, ปลากะพงซอสพริกไทยดำ,ไชเท้าดอง, กิมจิมะละกอ, ไก่ทอด และขนมสมอร์ส)

เนื้อแกะซอสยูสุ
อากะมะนาวชอต
อากะมะนาวชอต

โปรโมชั่นสุดคุ้มไฮไลท์มาเต็ม!
โหมดไหนก็ได้หมด ราคาเริ่มต้น 359++ จ่ายเท่านี้ จะโหมดใหม่ เลือกโหมดไหนก็คุ้มค่ามาก รวมเมนูดั้งเดิมนับเป็น 100 เมนู

แวะที่ AKA Japanese Restaurant
Facebook : https://www.facebook.com/akarestaurant

AKASIGNATUREPLATTER

#อากะได้ทุกโหมด #ชัญญ่าว่าดี #toptotravel
AKAYakiniku #AKAPassionForGrill #Buffet

หนีร้อน มานอนชิล ชมวิวแมน้ำโขง

โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว เชียงของ จ.เชียงราย

………และนี่คือหนึ่งในที่พักสุดชิลริมแม่น้ำโขงที่เราไปพักมาแล้วประทับใจในความงดงามของสายน้ำทิวเขา และธรรมชาติที่งดงามภายในบริเวณ โรงแรม ใครไปเที่ยวเชียงราย ต้องขอแนะนำให้ไปเยือน เชียงของสักครั้ง เมืองเล็กริมฝั่งโขง แนะนำที่พักสุดชิล มองวิวว เกาะกลางน้ำ ริมแม่น้ำโขง Fortune River View Hotel Chiang Khong 

โรงแรมวิวสวย บรรยากาศดี ห้องพักได้มาตรฐาน สระว่ายน้ำ ปั่นจักรยานให้ยืม ตื่นเช้าสามารถตักบาตร เข้าวันเสาร์และวันอาทิตย์ เดินเที่ยวตลาดกองเก่า (คล้ายถนนคนเดิน) ถนนคนเดิน ณ ถนนเรืองราษฎร์  มาแล้วรับรองว่าทำให้คุณ
เทใจให้เมืองน่ารักแห่งนี้คูณสอง

คุณภูปนาท ยอดทอง ผู้จัดการทั่วไป  พร้อมคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ และชวนเที่ยว เชียงของ ชวนพักที่ ร.ร ฟอร์จูน ริเวอร์วิว เชียงของ ทีมงาน รร. ให้เกียรติพูดคุยเคล็ดลับการสร้างความสุขในเมืองท่องเที่ยวอย่าง อ.เชียงของ นักท่องเที่ยวที่มาเยื่อนเชียงของ ปรารถนาความสุขที่ได้เจอ สุขที่ได้กิน สุขที่ได้เดินทาง และสุขที่ได้พักผ่อน นักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว เชียงของ จ.เชียงราย ที่นี่ยังคัดสรรที่กิน ที่เที่ยวบริเวณโดยรอบเมือง เชียงของ

ผมอยากให้แขกของโรงแรมที่มาพักที่นี่ออกไปใช้ชีวิต ไปสำรวจ ไปซื้อหาของชาวบ้าน ไปเยี่ยมเยือนร้านต่างๆ ในชุมชน อยากไปไหนมาถามเราได้เลย โรงแรมมีความสุขที่ได้แนะนำ ความตั้งใจของ คุณภูปนาท ยอดทอง ส่งผ่านน้ำเสียงที่จริงใจ ชนิดว่าใครอยากกินอาหารแบบไหน ท่องเที่ยวสไตล์ใด ขอแค่เดินมาถามไถ่ พนักงานทุกคนจะเลือกร้านมาตอบโจทย์ทุกคนได้ทั้งหมด รับรองว่าครบครัน เพราะนอกจากเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ยังมีทริปท่องเที่ยวมากมาย พร้อมชวนทุกคนรับบทนักเดินทาง ออกสำรวจสิ่งเล็ก ๆ รอบเมืองเชียงของ   “ขอจบทุกวัน แค่ได้มองพระอาทิตย์ตกจนท้องฟ้าเปลี่ยนสี “

จาการพูดคุยดังกล่าว ทำให้ Toptotravel สัมผัสสิ่งที่ คุณภูปนาท ยอดทอง บอกได้จริง 

https://www.youtube.com/channel/UCuwO4fNwYZADNcAmWIydPWA

โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว เชียงของ ตั้งใจนำเสนอความเป็นท้องถิ่นของเมือง  นักท่องเที่ยวที่มาพักที่นี่ ชมบรรยากาศริมน้ำโขงอันเก่าแก่ เชียงของ ชมวิถีชีวิตชาวเชียงของ อันผสมผสานผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งไทย ลาว พม่า ไปเที่ยว ได้ใช้เวลาเข้าไปอยู่กับชาวบ้าน แต่ละชุมชนมีเสน่ห์ไม่เหมือนกัน   จังหวัดที่พร้อมรับเพื่อนๆมาเยือนและอบอุ่นเสมอที่ได้มา เงียบสงบ บ้านเมืองเรียบง่าย สวยงามที่สำคัญเดินทางไม่ได้ยาก อย่างที่คิด พิเศษกว่านั้น ความเป็นกันเอง สะดวกสบาย บิน เที่ยว พัก ครบวงจรจริง ของกินเพียบ สายมูห้ามพลาดนอนพักผ่อน นั่งชิลริมโขง อิ่มอร่อยกับอาหารอร่อยๆ ของเชียงของเที่ยวเชียงของ จ.เชียงรายต้องนอน โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว เชียงของ จ.เชียงราย

ความดีงามอีกอย่าง ที่มีมุมชมวิวแม่น้ำ  เมื่อพักกายพักใจ ขอพาทุกคมาชมในส่วนของห้องพักมี 4 แบบ คือ Superior, Deluxe, Executive และ Panorama Suite ทุกห้องมุมแดดจึงอบอุ่น วิวเม่น้ำ เหมาะกับการพักกายเพื่อพักใจอย่างแท้จริง เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ  ฟรี WiFi อินเทอร์เน็ต, โทรทัศน์, ตู้เย็น, ไดร์เป่าผม, เครื่องทำน้ำอุ่น  เป็นต้น  มีระเบียงส่วนตัวที่สามารถชมวิวแม่น้ำโขงได้อย่างใกล้ชิดชานระเบียงส่วนตัวพร้อมโต๊ะ เก้าอี้ ให้เราได้มานั่งชิลริมแม่น้ำโขง 

และวิวของประเทศเพื่อนบ้าน เรียกว่าที่นี่… รองรับทุกไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง เพราะนอกจากดีไซน์ที่พักจะเน้นความสุขสงบ รวมทั้งมีสระว่ายน้ำสำหรับผู้คนที่อยากทำกิจกรรมแล้ว ยังเมีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับการนั่งทำงานรับลมอ่อนๆ พื้นที่ส่วนนี้เหมาะสำหรับนั่งชมไอแดดกระทบผิวน้ำ ระยิบระยับบางเบาในตอนเย็นเป็นที่สุดใครที่กำลังแพลนจะมาเที่ยวเชียงของ เชียงราย แล้วมองหาที่พักดีๆ มาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอน โดยเฉพาะมุมถ่ายภาพ สวยมากๆ นะคะ

อาหารเช้า และอาหารค่ำฝากท้องที่ร้าน The river terrace ภายในบริเวณ โรงแรม ที่วิวสวยที่สุดในเชียงราย ใครไปเที่ยวเชียงของ toptotravel ขอแนะนำให้ไปเยือนที่นี่สักครั้งนึง คิดว่าท่านไม่น่าจะผิดหวังนะ และรสชาติอาหารของที่นี่ …. อร่อยมากๆ รสชาติดดีเยี่ยม ในละแวกโรงแรมเป็นพื้นที่ใจกลางเมือง  ที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย

อาหารเช้าของ โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว เชียงของ บรรยากาศดี วิวดีริมน้ำโขง ชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า บุฟเฟต์ ขึ้นอยู่กับจำนวนแขกที่มาพักในแต่ละซีซั่น เพื่อลดปริมาณอาหารเหลือทิ้งโดยไม่จำเป็น ตบท้ายด้วยสลัดบาร์หรือชากาแฟ

อิ่มอร่อย อาหารเย็น พร้อมวิวริมโขงห้องอาหาร The River Terrace ภายในโรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว เชียงของ ติดริมแม่น้ำโขง บรรยากาศดี มีเมนูอาหารหลากหลายพร้อมเสิร์ฟ ทั้งอาหารเหนือ อาหารพื้นถิ่น

 และอาหารไทยกลาง ที่คัดสรรวัตถุดิบพิถีพิถันการปรุงรสอย่างตั้งใจจากเชฟระดับโรงแรม ที่รับประกันความอร่อย ฟินทั้งรสชาติอาหารและวิวแม่น้ำโขงอันสวยงาม ที่จะสร้างประสบการณ์รับประทานอาหารอันน่าประทับใจให้กับคุณ

Chef Recommended อย่ารอช้า! ขอให้ตามมาดูต่อ 

🔹 แกงฮังเล   (ปรุงตามตำราสูตรเก่าแก่ ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น )

🔹 ปลาคังลวกจิ้ม   (สายสุขภาพ พลาดไม่ได้)

🔹 กุ้งผัดพริกดอยเชียงของ   

🔹 ออเดริฟน้ำพริกหนุ่ม  (ประหนึ่งว่าถ้าไม่กินคือมาไม่ถึง เสิร์ฟเป็นจานหลัก)

แกงฮังเล
กุ้งผัดพริกดอยเชียงของ
ปลาคังลวกจิ้ม
ออเดริฟน้ำพริกหนุ่ม

The River Terrace โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว เชียงของ 

ห้องอาหาร The River Terrace มีบริการทั้งแบบเมนูอะลาคาร์ท และแบบบุฟเฟต์สำหรับการจัดเลี้ยง เปิดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 06:00-22:00 น.
รับจองล่วงหน้า , จัดเลี้ยง และบริการสั่งกลับบ้าน
สำรองห้องพักโทร 052 050 089

Line OA : @fortunehotelgroup https://lin.ee/Bj1vy7p
Fortune River View Hotel Chiang Khong (โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว เชียงของ)
ที่อยู่ : 55-58 หมู่ 12 ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย 57140
โทร : 0 5205 0089

Location https://bit.ly/3wPTiSH

Facebook : Fortune River View Hotel Chiang Khong
โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว เชียงของ / https://www.facebook.com/FortuneChiangKhong 

Website : https://www.fortunehotelgroup.com/ 

#fortuneriverviewhotelchiangkhong #เที่ยวเชียงของ #ที่พักเชียงของ#เที่ยวเชียงราย #แม่น้ำโขง #toptotravel

โรงแรม สยาม เบย์ชอร์ รีสอร์ท พัทยา Siam Bayshore Resort Pattaya

ปล่อยใจไปทะเล | ที่พักสุดชิลใกล้ชายหาด | สระว่ายน้ำสุดปัง | อาหารทะเลเย็นสุดอลังการ |บรรยากาศดีเกินต้าน

ร้อนๆ แบบนี้ ช่วงเวลาแห่งการเที่ยวทะเลใกล้มาถึงแล้วหนึ่งพิกัดที่หลายคนคิดถึงเมื่ออยากพักผ่อนหย่อนใจ ชวนไปปักหมุดไปเที่ยวพัทยาใกล้ๆ กรุงเทพฯ เดินทางง่ายและยังมีความสะดวกสบายให้ใช้บริการ ทะเลสวย แหล่งช้อปปิ้งให้เดินกันแบบแน่นๆ  งบน้อยงบมากมาเที่ยวพัทยา ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน 

ทริปนี้เราพักกันที่โรงแรม Siam Bayshore Resort, Pattaya ติดทะเล โลเคชั่นดีมาก ห่างเพียงถนนกั้น ห้องพักริมชายหาดสุดหรูมองเห็นวิวอ่าวไทยอย่างงดงาม โรงแรมในเครือ Sukosol Hotel ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี รีโนเวทมาหลายครั้ง บนเนื้อที่กว่า 44 ไร่ เป็นอีกหนึ่งในโรงแรมพัทยาที่มีสวนและต้นไม้ภายในบริเวณโรงแรม ไฮไลท์ที่เราเลิฟมาก คือวิวริมทะเลบริเวณห้องอาหาร Bali-Hai by The Sea บรรยากาศคือดีสุด

ในโอกาสนี้ ได้รับเกียรติจาก Mr. Bennet Chang – General Manager คุณเบนเน็ต ชาง – ผู้จัดการทั่วไป และ Mr. Varut Thanvarachorn- Director of Operations คุณวารุตม์ ธันวารชร – ผู้อำนวยการฝ่ายปฎิบัติการ ให้ข้อมูลกับ ทีมงาน Toptotravel ปัจจุบัน ธุรกิจโรงแรมดีขึ้นเยอะ หลังจากที่โควิดเริ่มหายไป นักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็น ชาวยุโรป อินเดีย หรือชาวไทย ได้เข้ามาใช้บริการ พัทยาเป็นเมืองที่เดินทางมาง่ายสะดวก และเป็นหนึ่งในห้า Destination ที่ทุกคนอยากมา ตอนนี้โรงแรม running 80 % ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจห้องพัก อาหาร เอาท์เลทต่างๆ ของโรงแรมดีขึ้น นักท่องเที่ยวมาใช้บริการมากขึ้น และทีม Toptotravel นั่งอยู่ที่ คือ Bali-Hai by Tha Sea จำหน่ายแบบ a la carte สามารถสั่งได้ตามใจชอบ เปิดทุกวันได้เป็นวิวบาลีฮายเบย์ และสำหรับวันศุกร์- เสาร์ มีบุฟเฟต์ซีฟู้ดและมีดนตรีสดด้วย”

Mr. Bennet Chang – General Manage
Mr. Bennet Chang – General Manager คุณเบนเน็ต ชาง – ผู้จัดการทั่วไป และ Mr. Varut Thanvarachorn- Director of Operations คุณวารุตม์ ธันวารชร – ผู้อำนวยการฝ่ายปฎิบัติการ

ในส่วนของห้องพักมี 2 ส่วน คือ ตึดหน้าหาด (Sew View) และอาคารห้องด้านหลัง (Garden View) ครั้งนี้เราพัก  “Tropical Deluxe Pool View” อยู่ชั้น1 ติดสระว่ายน้ำ มีขนาดห้องที่กว้างถึง 38 ตร.ม. และภายในห้องน้ำแบ่งโซนห้องอาบน้ำ ห้องสุขา และมีอ่างอาบน้ำให้แช่ตัว แบ่งเสัดส่วนได้อย่างลงตัวด้วยนะ
พักกาย พักใจ ในห้องทรอปิคอล ดีลักซ์ พูล วิว

ห้องทรอปิคอล พูล วิว ห้องเลขที่ 125 เป็นห้องพักแบบห้องทรอปิคอล ดีลักซ์ พูลวิว :Tropical Deluxe Pool view ราคา เริ่มต้น วันธรรมดา 3,500 บาท / ศุกร์ เสาร์ 4,000 บาท กรณีจองผ่านเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 ลดเหลือ เพียง 2,100 วันธรรมดา และ 2,400 สำหรับ ศุกร์ เสาร์ ขนาดห้องกว้างถึง 38 ตร.ม. รวมทั้งเตียงคิงไซส์ หรือเตียงคู่ เฟอร์นิเจอร์ไม้ต่างๆ มองเห็นวิวสระว่าน้ำท่ามกลางสวนสีเขียวขจี ทำให้ได้บรรยากาศการพักผ่อนสบายๆ รวมทั้งเตียงคิงไซส์ หรือเตียงคู่ เฟอร์นิเจอร์ไม้ต่างๆ มองเห็นวิวสระว่าน้ำท่ามกลางสวนสีเขียวขจี ทำให้ได้บรรยากาศการพักผ่อนสบายๆ เพิ่มพื้นที่ให้กับห้องพักได้ ด้วยหน้าต่างบานเลื่อนซึ่งกั้นระหว่างห้องน้ำ และห้องนอน ในส่วนของระเบียงส่วนตัวนั้นจะมีเก้าอี้ และโต๊ะให้ได้นั่งรับบรรยากาศสดชื่น นอกจากนี้ยังที่นั่ง/เตียงนอนเล่นริมหน้าต่างสำหรับคู่รักและโต๊ะรับแขกเล็กๆ สำหรับรับประทานอาหารภายในห้อง รวมไปถึงการพักผ่อนและผ่อนคลายในวันหยุดสุดแสนสบาย

นอกจากนี้ ภายในโรงแรมเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็น ห้องอาหาร, สปา, สนามเทนนิส และที่ขาดไม่ได้มีสระว่ายน้ำ 2 สระ คือ สระว่ายน้ำด้านหน้าหาด และสระว่ายน้ำที่อยู่ตึกด้านหลัง สระนี้เหมาะสำหรับเด็กเพราะมีสไลเดอร์ด้วยและมุมให้นั่งพักผ่อนชิลล์ ๆ หลายมุมที่สุดของการพักผ่อนที่อบอุ่น บรรยากาศดี เงียบสงบ พนักงานน่ารักทุกคนยิ้มแย้มบริการดี พูดคุยทักทายมาชมแสงพระอาทิตย์ยามเย็น กับอาหาารมื้อเย็น ชิมอาหารทะเลสดใหม่กันที่ ห้องอาหาร Bali-Hai by The Sea ให้บริการบุฟเฟต์ ซีฟู้ด บาร์บีคิว อาหารไทย อาหารอินเตอร์ ไอศกรีม ของหวาน ผลไม้ อร่อยจริง ราคาไม่แรง

มื้อเย็นแนะนำเมนูอาหารทะเลใหม่ล่าสุด (Menu Chef recommend )

-Mix Seafood Platter (โปรโมชั่น 999 Nett )

อาหารแนะนำ :

-Spicy green papaya salt egg salad with grilled prawns

-Deep-fry white snapper fillet with lemon glass sauce

-Bayshore mixes seafood in yellow curry sauce

-Pizza top with crispy tuna and green mango salad

Pizza top with crispy tuna and green mango salad
Deep-fry white snapper fillet with lemon glass sauc
Bayshore mixes seafood in yellow curry sauce
Mix Seafood Platter (โปรโมชั่น 999 Nett )

Bali-Hai by The Sea บรรยากาศริมชายหาดและทะเล สามารถเพลิดเพลินกับอาหารทะเลย่าง BBQ และไลน์อาหารนานาชาติ พร้อมของหวานและครื่องดื่มต่าง ๆ มากมายพร้อมไปกับการฟังเพลงดนตรีสด เปิดให้บริการตั้งแต่ เวลา 18.00 – 22.00 น.

และในช่วงเวลา 18.00 – 23.00 น. สามารถมานั่งสบายๆ ด้วยกันที่  “Explorer Bar” ผ่อนคลายไปกับเครื่องดื่มเย็น ๆ เล่นบิลเลียดที่โต๊ะพูล ดูกีฬาถ่ายทอดสดผ่านทีวี เล่นเกมกระดาน หรืออ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการหาอะไรดื่ม หรือหาขนมทานเล่นเพลินๆ  สำรองที่นั่งล่วงหน้า กรุณาโทร. 038 428 678

อาหารเช้าแบบบุฟเฟต์แสนอร่อย ที่ห้อง SunRise SunSet Restaurant อาหารเช้า  อิ่มอร่อยหลากหลายเมนู จัดเต็มมาก รสชาติดีเลย  อยู่บริเวณล็อบบี้ของทางโรงแรม มองออกไปเห็นวิวทิวทัศน์ทะเล และถนนคนเดิน พร้อมอิ่มอร่อยไปกับอาหารรสเลิศหลากหลายเมนูจากทั่วทุกมุมโลก พร้อมให้บริการทุกวันตั้งแต่
เวลา 6.00-10.30 น. เริ่มไลน์ตั้งแต่ 06.00-10.30 น.ห้องอาหารสไตล์ all day dining เปิดบริการทั้งวัน

โรงแรมติดหาด สระว่ายน้ำสวย วิวสวย อาหารอร่อย ถือว่าเป็นโรงแรมที่ครบเครื่อง แนะนำที่นี่อาจจะเหมาะกับสายชอบถ่ายรูป ชอบสงบๆ อารมณ์คู่รัก แต่สำหรับครอบครัวที่มีผู้ใหญ่เวลาเดินขึ้นลงห้องไปยัง Facilities ต่างๆ ค่อนข้างสะดวก  โดยรวมถ้าถามความเห็นส่วนตัวว่าชอบมั้ย คงบอกว่าชอบมาก รร. วิวสวย เงียบสงบ ร่มรื่น  หายากนะคะโรงแรมที่มีอะไรครบๆ ในราคาแบบนี้ ถือว่าฟินสุดๆไปเลย

จองตอนนี้บอกเลยว่าคุ้มจริง
สำรองห้องพัก / สอบถามข้อมูล :

โรงแรม สยาม เบย์ชอร์ รีสอร์ท พัทยา (โรงแรมระดับ 4 ดาว)
559 หมู่ 10 ถนนพระตำหนัก พัทยาใต้ บางละมุง จังหวัดชลบุรี
โทร. 038 428 768

Facebook: https://www.facebook.com/SiamBayshorePattaya
Website: http://www.siambayshorepattaya.com/

Great Harbour ท่าเรือแห่งความอร่อย

บุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติสุดอลังการที่ ไอคอนสยาม
กลับมาอีกครั้งกับบุฟเฟ่ต์นานาชาติสุดอลังการที่ไอคอนสยาม กับร้าน Great Harbour บุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยด้วยจุได้ถึง 400 ที่นั่ง! และมีรายการอาหารกว่า 80 เมนู!

เริ่มต้นขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการในการเฉลิมฉลองที่ดีที่สุดแห่งปี เฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุข ในหลากมื้ออาหารพิเศษ ที่ร้าน Great Harbour พบกับตัวเลือกอาหารมื้อพิเศษ กับมื้อบุฟเฟต์อาหารนานาชาติเคล้ากลิ่นอายการเฉลิมฉลองตลอดเดือนธันวาคมนี้สร้างสรรค์เป็นพิเศษเพื่อนำเสิร์ฟรายการอาหารที่ดีที่สุดตลอดเทศกาล

ร้าน Great Harbour รวบรวมทีมงานและเชฟฝีมือดีที่คร่ำหวอดในวงการอาหารมามากกว่า 30 ปี มาสร้างสรรค์เมนูต่างๆ ให้สายบุฟเฟ่ต์ได้เต็มอิ่มกับ 6
สเตชั่น 4 สัญชาติ โดยคัดสรรเมนูไฮไลท์อันเป็นซิกเนอเจอร์ของประเทศต่างๆ มานำเสนอตามคอนเซปต์ Great Harbour ท่าเรือแห่งความอร่อย 

มีท่านใดยังนึกเมนูไม่ออกมั้ยว่าหยุดยาวนี้ทานอะไร เผื่อท่านใดยังนึกเมนูไม่ออก ให้มาที่บุฟเฟ่ต์นานาชาติสุดอลังการที่ไอคอนสยาม กับร้าน Great Harbour

Toptotravel เริ่มต้นกันที่สเตชั่น Western Food ที่ขอบอกเลยว่าคนชอบเนื้อไม่ว่าจะเนื้อวัว เนื้อแกะ หรือเนื้อหมู ควรพุ่งมาตรงนี้ เพราะมีเมนูน่าสนใจมากมาย เช่นเปปเปอโรนี ซาลามี่ วางคู่กับชีสหลายแบบ พร้อมด้วยเมนูค็อกเทลอย่างไข่ออนเซ็นน้ำมันทรัฟเฟิล สลัดไก่คีนัว สลัดมันหวาน สลัดไส้กรอกเยอรมัน มินิครัวซองค์ และค็อกเทลกุ้ง ซึ่งเชฟคัดสรรมาว่ากินคู่กับแฮมแล้วเข้ากันสุดๆ

นอกจากนี้ยังมีสลัดผักสดๆ กับน้ำสลัด 6 แบบ, พร้อมทั้งท็อปปิ้งอย่างเบคอนกรอบ, ลูกเกด, วอลนัทและอีกหลายอย่างให้ได้เลือกเพิ่มความอร่อยกับสลัดจานโปรด ส่วนโซนของอบและย่างมี แฮมอบน้ำผึ้ง ขาแกะอบสมุนไพร พร้อมซอสหลายชนิด อาทิ ซอสสับปะรด ซอสเห็ด และซอสเรดไวน์ พร้อมไซด์ดิชอย่างเฟรนช์ฟราย เห็ดย่าง กระเทียมย่าง มันฝรั่งบด ฯลฯ ซึ่งต้องบอกว่าทั้งแฮม และขาแกะอบสมุนไพร อร่อยสุดๆ แอบกระซิบว่า แฮมควรทานกับซอสสับปะรด และขาแกะควรทานกับซอสเรดไวน์ค่ะ

นอกจากนี้ยังมีซี่โครงหมูซอสบาร์บีคิว คนไทยนิยมมาก รวมถึงสตูว์เนื้อ ที่เนื้อนุ่มละลายในปาก ปิดท้ายสเตด้วยซุปเห็ดทรัฟเฟิลหอมๆ ที่ตักกี่ครั้งก็ไม่เคยพอข้ามโลกมายังอีกทวีปกันบ้าง 

สเตชั่นต่อมาที่จะแนะนำคืออาหารญี่ปุ่น อาทิ ซูชิหลากหลายเมนู เช่น หอยปีกนก ปลาซาบะ แซลมอน ปลาไหล และที่พิเศษสุดๆก็คือซูชิเนื้อวากิว ที่บอกเลยว่าเนื้อนุ่ม อร่อย มาพร้อมซอสเทริยากิสูตรเฉพาะของร้าน ฟินสุดๆ ไม่มีเบื่อกันเลยทีเดียว เดินเขยิบมาไม่ไกลก็จะเจอซูชิและปลาดิบวางเรียงรายให้เลือกเต็มไปหมด โดยมีเชฟยืนแล่ปลาและปั้นซูชิสดๆ ให้ดูกันตรงนั้น มีซาชิมิตัวท็อปของโปรดใครหลายๆคน อย่างแซลมอนนำเข้าจากนอร์เวย์ ทูน่า ปลาซาบะ ปลาช่อนทะเล และที่เป็นอีกไฮไลท์ของสเตชั่นนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นซีฟู้ดขวัญใจลูกค้า Great Harbour อย่าง หอยนางรมสดสุราษฎร์ กุ้งออนไอซ์ หอยแมลงภู่ และ กุ้งแม่น้ำเผา ที่เชฟย่างให้แบบไม่อั้น         

และเมื่อพูดถึงอาหารญี่ปุ่น ต้องพูดถึงเทมปุระ ซึ่ง Great Harbour เชฟยืนทอดโชว์กันสดๆ และเติมอาหารตลอดเวลา ทำให้เราได้กินเทมปุระร้อนๆ สมใจ
ที่สำคัญคือไม่อมน้ำมันสักนิด!  มีทั้งเทมปุระกุ้ง เทมปุระผัก และ ไก่คาราเกะ 

…..มาต่อกันที่ สเตชั่นอาหารจีน เมนูยอดนิยมหนีไม่พ้นเครปเป็ดย่าง ซึ่งต้องยอมรับว่าอร่อยจริงจัง หนังข้างนอกกรอบ เนื้อก็นุ่ม เชฟเล่าให้ฟังว่า กว่าจะเสิร์ฟเป็ดย่างแต่ละตัวได้ ต้องใช้เวลาทำทั้งหมดเกือบ 3 วันเต็ม! ซึ่งเชฟจะคอยดูอยู่ตลอด จึงมั่นใจได้ว่าเป็ดย่างที่นี่อร่อยจริง ได้รสต้นตำรับแท้ๆ แน่นอน นอกจากนี้ยังมีหมูแดง กุนเชียง ติ่มซำ และซาลาเปาร้อนๆ ผัดหมี่ซัวฮ่องกง ขาหมูตุ๋น ปลากระพงซอสเต้าซี่ ตบท้ายความอร่อยด้วยซุปหมาล่าที่เชฟทำกันแบบถ้วยต่อถ้วยเลยทีเดียว  ฯลฯ 

ต่อมาคือสเตชั่น Pizza & Teppanyaki ได้รับความนิยมมากอีกสเตชั่น โดยมีเมนูพาสต้า อย่างคาโบนาร่าที่เราคุ้นเคย และที่แซ่บสุดๆ ต้องยกให้กับสปาเก็ตตี้เส้นดำสไปซี่ซีฟู้ด พร้อมทั้งสเต็กต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสเต็กหมู สเต็กแซลมอน และสเต็กเนื้อทรัฟเฟิล และยังมีเมนูพิเศษคือ ทาโก้ เมนูยอดนิยมจากเม็กซิโกอีก 

ส่วนสเตชั่นที่คุ้นปากคนไทยที่สุด คือ Asian Food ที่ เชฟเน้นเสิร์ฟอาหารไทย เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสลิ้มลองอาหารไทยยอดนิยมอย่าง  ต้มยำกุ้ง ส้มตำ ไก่ทอด ไส้กรอกอีสาน เปาะเปี๊ยะทอด มัสมั่น ยำเนื้อ และปิดท้ายด้วยเมนูพิเศษที่ต้องมาลองให้ได้สักครั้ง คือ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวากิว แผ่นใหญ่ ให้ได้เต็มอิ่มกับความอร่อย ซึ่งหากใครไม่ทานเนื้อ ทางร้านก็มีเมนูก๋วยเตี๋ยวหมูสไลด์ให้เลือกอีกด้วย ใครพาเพื่อนชาวต่างชาติมา อย่าลืมนำทางมาสเตชั่นนี้ รวมถึงอีกหลายรายการอาหารนานาชาติพร้อมความอร่อยจากทั่วทุกมุมโลก

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวากิว

 
ปิดท้ายกันที่ สเตชั่นน้ำดื่ม ผลไม้ และของหวาน ที่เชฟบอกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของร้านต้นตำรับที่ไต้หวัน โดยน้ำดื่มมีให้เลือกทั้ง น้ำผลไม้รวม ชาเขียวมะลิ และชานมไข่มุก ซอฟดริ้งค์ต่างๆ อีกทั้งยังมีเครื่องทำกาแฟที่เลือกได้เลยว่าอยากได้เมนูไหน ทั้งคาปูชิโน เอสเปรสโซ่ หรือแม้แต่ชาร้อน ส่วนของหวานก็มีทั้งขนมไทยและเบเกอร์รี่ต่างๆ และน้ำแข็งไส ซึ่งไฮไลต์ที่ทุกคนไม่ควรพลาดคือครอฟเฟิล ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้ โดยเชฟจะทำให้ร้อนๆ แล้วเราสามารถตักท็อปปิ้งได้เองตามชอบ ไม่ว่าจะเป็นแยมสตรอเบอร์รี่ น้ำผึ้ง ครีมสด หรือฟรุตสลัด ส่วนสาวๆ ที่ชอบเค้กก็มีให้เลือกเต็มตู้ โดยจะเน้นเป็นเมนูเค้กสไตล์ฝรั่งเศส ฯลฯ 

ของหวานอีกอย่างที่ไม่ควรพลาดคือไฮศกรีม โดย Great Harbour ยกตู้ไอศกรีมของ Haagen dazs  มาให้เลือกรสและตักท็อปปิ้งต่างๆได้ตามใจชอบ

เมนูเยอะมากจนไม่สามารถสั่งมากินได้ทั้งหมดจริงๆ รูปเลยน้อยกว่าในเมนูเยอะมากทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากกว่า 100 เมนูเท่า Great Harbour ยังมีอีกหลายเมนูให้ทุกคนมาพิสูจน์ด้วยตัวเอง ที่ชั้น 6 ไอคอนสยาม ซึ่งนอกจากอาหารจะอร่อยแล้ว พนักงานทุกคนและเชฟในทุกสเตชั่นยังบริการดีเยี่ยม พร้อมตอบทุกคำถาม รวมถึงแนะนำเมนูต่างๆ  ที่รับประกันว่าจะต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน

Great Harbour มีโปรโมชั่นสุดคุ้ม 941 net เมื่อมา 4 ท่านขึ้นไป ในวันจันทร์ – ศุกร์ (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์และวันหยุดชดเชย) หรือสามารถใช้ส่วนลด 15% ในวันเสาร์ – อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์และวันชดเชย มา 1 -3 ท่าน ลด 10% ในวันจันทร์ – อาทิตย์ วันนี้ – 31 ธันวาคม 2565 (วันที่ 5, 30, 31 ธันวาคม 2565 ไม่สามารถใช้โปรโมชั่นใดๆได้)

โดยเปิดให้บริการในวันจันทร์ – ศุกร์ 2 รอบ
คือ 12.00 – 14.30 น. และ 17.30 – 21.00 น.
และช่วงเทศกาลสำคัญที่จะเปิดให้บริการตลอดทั้งวัน 12.00 – 21.00 น. 
 
ราคาบุฟเฟต์ต่อหัวมีดังนี้
วันจันทร์ – ศุกร์ (ผู้ใหญ่) 999++  (1,176 net)
วันจันทร์ – ศุกร์  (เด็ก) 499 ++ (587 net)
โดยโปรโมชั่นจะปรับเปลี่ยนไปแต่ละเดือน

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ทันทีที่
Facebook : Great Harbour
Line : @harbour

ทัวร์เกาหลี Jeju Gold Package สีสันสดใส ใบไม้เปลี่ยนสี

เรื่องเล่าเมื่อวานนี้ …ทัวร์ของที่ไหนคะ? รบกวนหลังไมล์ด้วยค่ะ
อย่าหยุดความฝันออกล่าขอบฟ้า “ฮาวายแห่งเกาหลี” ด้วยกัน ม
เที่ยวเกาหลี เกาะเชจู ทริปนี้ Toptotravel มีโอกาสมาเที่ยวครั้งนี้ คือฤดูใบไม้ร่วง (Autumn) เริ่มประมาณปลายเดือนกันยายน – พฤศจิกายน ดูนี้ถือเป็นฤดูที่สวยงามที่สุดสำหรับเกาหลีเลยก็ว่าได้ และยังเป็นช่วงที่คนนิยมไปท่องเที่ยวมากที่สุด เพราะนอกจากอากาศจะสดชื่น เย็นสบาย อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 10 – 20 องศาเซลเซียส ยังมีโอกาสได้ชมใบไม้เปลี่ยนสี เพื่อช่วงเวลาที่ดีและคุ้มค่าที่สุดในวันพักผ่อน มรดกแห่งความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ความที่เชจูเป็นเกาะซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ทำให้ใต้ผืนพิภพเต็มไปด้วยแร่ธาตุอย่างดี

รีวิวเที่ยวทัวร์เกาหลี 4 วัน 2 คืน Jeju Gold Package เที่ยวเชจู สีสันสดใส ใบไม้เปลี่ยนสีนั่งรถไฟ ECOLAND เที่ยวชมธรรมชาติ, ไร่ชาเขียวโอซุลล็อค, สวนส้มไร้เมล็ด, คามิลเลีย ฮิลล์ สวนดอกไม้, วัดซันบังโพมุนซา, ภูเขาไฟซองซาน อิลจลุ บง

เมื่อรู้ข่าวว่า เกาหลีใต้เปิดให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้าไปเที่ยวเกาหลีได้แล้ว จัดการจองทัวร์เที่ยวทัวร์เกาหลี เลือกโปรแกรมตามความพอใจ Jeju Gold Package ตั๋วไป-กลับ สายการบิน Jeju Air และ วมอาหารที่ระบุในโปรแกรม
เที่ยวเชจูแบบพิเศษ พรีเมี่ยม ไม่มีอิสระ เที่ยวเชจู สีสันสดใส ใบไม้เปลี่ยนสี การเตรียมตัวก่อนเดินทางไปเที่ยวเกาหลีใต้ เนื่องจากการเดินทางทริปนี้ เดินทางกับทัวร์ จึงมีเอกสารบางส่วนที่ทางทัวร์เป็นคนจัดการให้เมื่อรับเอกสารพร้อมแล้วก็ถึงขั้นตอนการเช็คอิน ซึ่งเคาน์เตอร์สารการบิน ตรวจสอบเอกสาร ค่อนข้างนานกว่าปกติ หลังจากรับตั๋วเรียบร้อยแล้วก็เตรียมเข้าเกตเพื่อเดินทางไป ทัวร์เกาหลี ได้เลย บนเครื่องมีบริการจำหน่ายบะหมี่สำเร็จรูปและเครื่องดื่ม ต่างๆ

ข้อมูลก่อนก่อนการเดินทาง
-ลูกค้าที่มี K-ETA แล้ว สามารถเลือกวันเดินทางได้ตามปกติ /จองทัวร์และลง K-ETA ล่วงหน้าก่อนเดินทาง 15 วันหากต่ำกว่า 15 วัน จะไม่สามารถยกเลิกหรือเลื่อนวันได้ทุกกรณี

-K-ETA รอผลอนุมัตินานสุด 14 วัน

-ยกเว้นกรณี สว. อายุ 55++ ต่ำกว่า 15 วันได้

Toptotravel ชอบทั้ง 4 ฤดู แต่ที่มีโอกาสมาเที่ยวครั้งนี้คือฤดูใบไม้ร่วง (Autumn) เริ่มประมาณปลายเดือนกันยายน – พฤศจิกายน ดูนี้ถือเป็นฤดูที่สวยงามที่สุดสำหรับเกาหลีเลยก็ว่าได้ และยังเป็นช่วงที่คนนิยมไปท่องเที่ยวมากที่สุดเพราะนอกจากอากาศจะสดชื่น เย็นสบาย อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 10 – 20 องศาเซลเซียส ยังมีโอกาสได้ชมใบไม้เปลี่ยนสี ทริปนี้เดินทางโดยสายการบินเชจูแอร์ เป็นสายการบินราคาประหยัด มีฐานบินอยู่ที่เชจู จังหวัดเชจู ประเทศเกาหลีใต้ให้บริการเที่ยวบินประจำในเส้นทางระหว่างแผ่นดินใหญ่กับเกาะเชจู อีกทั้งยังมีเที่ยวบินเช่าเหมาลำ เมื่อถึงที่นัดหมายทางทัวร์จะแจกแฟ้มที่ใส่เอกสารสำคัญ การเดินทางโดยสายการบินเชจูแอร์ เที่ยวบิน : 7C2244 เที่ยวบินออกเดินทางจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เวลา : 02.25-09.55 เที่ยวบิน : 7C2244 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง เมื่อถึงที่นัดหมายทางทัวร์จะแจกแฟ้มที่ใส่เอกสารสำคัญ เที่ยวเกาหลีเลือกใช้ใช้บริการ trueworld travel

จุดนัดพบแรกสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นสนามบินนานาชาติประจ าประเทศไทย เวลานัดหมาย : 23:30 เที่ยวบิน : 7C2244 เที่ยวบินออกเดินทางจาก สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิเวลา : 02.25-09.55 เที่ยวบิน : 7C2244 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง

เดินทางถึงสนามบินเชจูอินเตอร์เนชั่นแนลแอร์พอร์ต ผ่านด่านตรวจคน เข้าเมือง รับกระเป๋าที่สายพาน ออกมาพบกับผู้นำทัวร์น้องสตางค์เพื่อยืนยันตัวตนการเข้า
ร่วมทัวร์ และเตรียมตัวบริเวณจุดนัดพบเพื่อออกเดินทางท่องเที่ยว พร้อมแล้วไปด้วยกันเลย ทริปเชจู บัสไกด์สตาง

จุดหมายแรกของทริปนี้คือ. อาหารมื้อแรกเมื่อมาถึงเกาะ เชจู กองทัพต้องเดินด้วยท้อง บริการดีจริง อาหารอร่อย เริ่มที่ เมนูขึ้นชื่อประจำเกาะเชจู Jeon Bok Juk หรือ โจ๊กหอยเป๋าฮื้อ เมนูขึ้นชื่อประจำเกาะเชจู Jeon Bok Juk
โจ๊กหอยเป๋าฮื้อ แอบงงทำไมต้องเป็นสีเขียว? ก็คือ ไส้หอยเป๋าฮื้อหรือเครื่องในของหอย นำมาผสมกับโจ๊กที่โด่งดัง แบบใครที่มาเที่ยวเชจูต้องลองมาลิ้มรสอร่อย และที่สำคัญ นอกจากความอร่อยของตัว ข้าวโจ๊กที่ถูกปรุงเป็นพิเศษแล้ว ยังมีหอยเป๋าฮื้อสด จากท้องทะเลเกาะเชจู มาเป็นชิ้นพอดีคำ แบบน่ารับประทานเมนูนี้บอกเลยว่านอกจากอร่อยแล้วยังได้ประโยชน์ เพิ่มกำลังวังชาอีกด้วย

จุดหมายต่อไป ไร่ชาเขียวโอซุลล็อค ของขวัญจากธรรมชาติ ส่งออกทั่วโลก
ที่นี่ปลูกชาเขียวได้คุณภาพสูง ขึ้นชื่อที่สุดแห่งเกาะเชจู O’Sulloc แบ่งเป็นโซนไร่ชากลางแจ้ง และโซนพิพิธภัณฑ์ที่มีการจัดแสดงเรื่องราวของชา ร้านคาเฟ่และร้านขายของฝาก สามารถเยี่ยมชมได้ทุกโซน

เกาะเชจูเป็นดินแดนที่ได้รับ ของขวัญจากธรรมชาติ ผสมผสานกับนวัตกรรมสมัยใหม่ จนทำให้ชาที่นี่ส่งออกไปขายทั่วโลก นักท่องเที่ยวทั้งเกาหลีและต่างชาติมักมีจุดมุ่งหมายที่จะมาลิ้มรสความอร่อยของชาที่มีรสชาติ
เป็นเอกลักษณ์ถึงแหล่งผลิต โดยเฉพาะไอศรีมชาเขียว เค้กโรล เครื่องดื่มชาเขียวทั้งร้อนและเย็น รับประกันความฟิ นไปตามๆกัน ส่วนใครที่เน้นการชมวิวถ่ายรูป สวยทุกมุมจนกดชัตเตอร์รัวๆ แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นโซนไร่ชา
หรือขึ้นไปจุดชมวิวด้านบนสุดของพิพิธภัณฑ์ ก็จะเห็นความยิ่งใหญ่อลังการของไร่ชาที่นี่

สวนส้มไร้เมล็ด (Jeju Orange Farm)
อีกหนึ่งสิ่งโด่งดัง และมีชื่อเสียงไปทั่วโลกคือ ส้ม ที่ปลูกบนเกาะเชจู ด้วยความพิเศษ รสชาติที่อร่อยเป็นเอกลักษณ์ ปลอดสารเคมี และดกมาก ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมา ต้องมองเหลียวหลังกันเลยทีเดียว ชาวบ้านบนเกาะเชจูได้ปลูกกันเยอะมากขึ้นหลังจากเป็นที่ต้องการมากขึ้น ทำให้สร้างรายได้ เลี้ยงครอบครัว และเศรษฐกิจบนเกาะที่ดีขึ้น เอกลักษณ์ของส้มบนเกาะเชจูคือไร้เมล็ด รสชาติกลมกล่อม วิตามินซีสูง ปัจจุบันหลายๆสวนส้ม ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายรูป และได้ลองชิมส้มสดๆ จากต้น จากสวน ถือเป็นอีกกิจกรรมยอดฮิต เมื่อมาเยือนเกาะเชจู ช่วงฤดูกาลส้มเลยทีเดียว 1ปี มี1ครั้ง คือช่วงหน้าหนาวเท่านั้น

วัดซันบังโพมุนซา
ฮวงจุ้ยที่ดีที่สุด ด้านหลังเป็นภูเขาด้านหน้าเป็นทะเล หลวงพ่อโอสถไพรี (ถือถ้วยโอสถ)เยี่ยมชม และนมัสการพระใหญ่ ณ วัดซันบังโพมุนซา วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ บนเขาซันบังหันหน้าออกสู่ทะเล ภายในวัดประดิษฐานเที่ยวเกาหลี เกาะเชจูฤดูไหนดี? พระองค์ใหญ่สีทองถือถ้วยโอสถ ผู้คนนิยมมาขอพรเรื่องของสุขภาพ
และความร่ำรวยเงินทอง โดยนิยมทำบุญด้วยการถวายข้าวสาร เทียน พร้อมทั้งการหมุนระฆังทองคำรอบฐานองค์พระ เพื่อความเป็นศิริมงคลมีความศกัดิ์สิทธิ์และเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้าน บนเกาะเชจู มาอย่างยาวนาน

นอกจากนั้นรูปปั้นพระแม่กวนอิมซึ่งหันหน้าออกสู่ทะเล ยังเป็นอีกหนึ่งศรัทธาของผู้ที่นับถือ เพื่อความอุดมสมบูรณ์ของชีวิต ไม่ใช่แค่ชาวพุทธเท่านั้นที่ นิยมมาเยี่ยมชมที่วัดแห่งนี้ เพราะความสงบ และวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
มองเห็นท้องทะเลแบบพาโนราม่า จึงกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องมาเยือนสักครั้งเมื่อมาเที่ยวเกาะเชจู

คามิลเลีย ฮิลล์ (Camellia Hill The Forest of love and healing)

คามิลเลีย ฮิลล์ (Camellia Hill The Forest of love and healing)
คามิลเลีย ฮิลล์ สวนดอกไม้แห่งความรักและการพักผ่อน เริ่มจากการปลูกต้นคามิลเลียที่ออกดอกในช่วงฤดู หนาว ด้วยความรักในดอกไม้จึงปรับเปลี่ยนที่นี่เป็นสวนดอกไม้ที่สามารถท่องเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดูกาล ทำให้นักท่องเที่ยวมีความรู้สึกว่าสถานที่เดียวกันแต่ได้ความแตกต่าง มาเที่ยวกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อเลยทีเดียว ด้านในมีการแบ่งโซน จัดสรรคพื้นที่ได้ดี มากๆสามารถเดินเที่ยว ถ่ายรูป สดูอากาศบริสุทธิ์ ได้อย่างสบาย และเมื่อถึงฤดูหนาว (WinterSeason) ดอกไม้ของที่นี่จะเบ่นบานเต็มไปด้วยดอกคามิลเลีย หลากหลายสายพันธ์ สีสันสวยๆ สลับเรียงรายกัน พร้อมมุมที่ถ่ายรูป มากมาย ฤดูใบไม้ผลิ (Spring Season)

แน่นอนว่าช่วงที่ทุกคนรอคอย Cherry Blossom หรือ ซากรุกะนั่นเอง ที่นี่ก็มีให้ได้มาชมเช่นกัน ฤดูร้อน (Summer Season) ช่วงนี้สวยไฮไลท์เช่นกัน เป็นช่วงที่ดอกไฮเดรนเยีย เบ่งบาน เป็นพุ่มใหญ่ หลากสี เยอะมากๆ จนใครๆ ต้องมาให้ได้เชียว ฤดูใบไม้ร่วง(Autumn Season) ไฮไลท์ของฤดูกาลนี้คือ ทุ่งหญ้าสีชมพูพิงค์มูลี่ Pink Muhly เป็นอะไรที่ทุกคนรอคอย 1ปี 1ครั้ง กับ ต้นหญ้าที่เป็นสีชมพูโดยธรรมชาติ สวย หวาน น่ารักมากๆ

เทจี ยังนยอม คัลบี้
เทจี ยังนยอม คัลบี้ (สันในของหมู

เมนู เทจี ยังนยอม คัลบี้ (สันในของหมู)
อาหารเกาหลีแบบปิ้งย่าง ย่างเป็นชิ้นใหญ่ๆ โดยย่างแบบใช้เตาถ่านที่มีชื่อเสียงมากๆ ของเกาหลี เป็นการนำเนื้อหมูส่วนสันในมาหมักกับเครื่องปรุงจนเนื้อนุ่ม เสิร์ฟย่างสดๆ ร้อนๆ ร่วมรับประทานด้วยกัน วิธีการทานให้ได้อรรสรส ต้องตัดหมูเป็นชิ้นๆ นำผักสด กระเทียม กิมจิ และ เครื่องเคียงต่างๆ มาห่อรวมกัน รับประทานคำโตๆ แบบสไตล์คนเกาหลี หรือทานกับข้าวสวยร้อนๆ ที่มีเสิรฟให้ไม่อั้นเช่นกัน

อาหารเช้าที่โรงแรมที่พัก Jeju In Hotel
Jeju Gold Package เที่ยวเชจู สีสันสดใส ใบไม้เปลี่ยนสี เข้าพักที่ Jeju in Hotel

Jeju In Hotel ตั้งอยู่ในเมืองเชจู ห่างจาก Aljakji Beach ไม่ถึง 1 กม. ให้บริการที่พักพร้อมห้องอาหาร พื้นที่จอดรถส่วนตัวฟรี บาร์ และสวน โรงแรมระดับ 3 ดาวแห่งนี้มีบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย ฟรี แผนกต้อนรับตลอด 24 ชั่วโมง และรูมเซอร์วิส โรงแรมมีห้องสำหรับครอบครัว ผู้เข้าพักที่โรงแรมสามารถเพลิดเพลินกับบุฟเฟ่ต์อาหารเช้า Jeju In Hotel มีระเบียง เดินไปหาด Iho Tewoo ประมาณ 10 นาที โรงแรมมี 7-11 ภายในโรงแรม

รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมที่พัก Jeju In Hotel
มื้อเช้า เป็นอาหารเช้าแบบง่ายๆ และเสริฟเป็นสไตล์บุฟเฟ่ต์แบบฉบับเกาหลี ให้เลือกรับประทานในห้องอาหารที่ สะอาด บรรยากาศดี พร้อมออกเดินทางท่องเที่ยวต่อ จากนั้นพาท่านไปรู้จักกับ

ศูนย์น้ำมันสนเข็มแดง (น้ำมันสนเข็มแดง)
สมุนไพรที่มีชื่อเสียง ต้นไม้ชนิดเดียวที่กินได้ (ดินแดนมรดกโลก) ของประเทศเกาหลีใต้ Red Pine Oil หรือ น้ำมันสนเข็มแดง ตามตำหรับยาโบราณสมัยราชวงศ์โชซอน ที่ถูกบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร
ปัจจุบันได้นำมาสกัดด้วยวิธีที่ทันสมัยดึงสรรพคุณที่ดีที่สุดออกมาในรูปแบบที่ทานได้ง่าย และบำรุงสุขภาพได้ดีที่สุด น้ำมันสนเข็มแดง ที่มีสรรพคุณช่วยในการทำความสะอาดระบบหลอดเลือด เคลียร์หลอดเลือด
ที่อุดตัน ลดคลอเลสเตอรอล ความดัน เบาหวาน ป้องกันเส้นเลือด ตีบ แตก ตัน อีกทั้งยังช่วยให้การผ่อนคลาย หลับสนิทมากขึ้น ผิวพรรณดูมีสุขภาพดี รับประทานเป็นประจำร่างกายแข็งแรงขึ้นตามลำดับ

นั่งรถไฟเที่ยว ECOLAND
รถไฟ ECOLAND เที่ยวชมธรรมชาติ เที่ยวชมธรรมชาติสดูอากาศบรสิทุธิ์และร่วมกิจกรรมตามสถานีต่างๆ ด้านในถูกสร้างอยู่ท่ามกลางผืนป่ าขนาดใหญ่ แบ่งออกเป็นหลายหลากโซน ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาป ที่สามารถเดินชมวิวบน สะพานไม้ แต่ละฤดูจะมีดอกไม้ และพันธุ์ไม้ต่างๆ ออกสลับกันได้มาเชคอินกันได้ตลอดทั้งปีในช่วง เดือน ธ.ค. – ม.ค. ฤดูหนาว หิมะตก และดอกคามิลเลียบาน เดือน ก.พ.-เม.ย ทุ่งดอกยูแชกต และมีซากุระบานตอนปลาย เดือน มีนา เดือน พ.ค-ก.ค. ชมทิวลิป ดอกไฮเดรนเยีย และลาเวนเดอร์ช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. ดอก Sunpatein บาน ทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม เดือน ต.ค.-พ.ย. ทุ่งหญ้าสีชมพูพิงค์มูลลี่ และดอกหญ้าออกแซ

รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมที่พัก เป็นสไตล์บุฟเฟ่ ต์แบบฉบับเกาหลี ให้ท่านเลือกรับประทานในห้องอาหารที่สะอาด บรรยากาศดี พร้อมออกเดินทางท่องเที่ยวต่อ

หมู่บ้านวัฒนธรรม “ซองอึบ” (SONGEUB FOLK VILLAGE)
“ซองอึบ” เป็นหมู่บ้านโบราณอายุมากกว่า 300 ปี ที่ยังมีผู้คนอาศัยอยู่จริง เมื่อไปถึงจะมีชาวบ้านมาต้อนรับ และพาเราเดินชมวิถีชีวิตต่างๆ ในหมู่บ้าน พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวของคนที่นี่ให้ฟังแบบสนุกสนาน มาที่นี่
จะได้รู้จักรูปปั้นเทพ พระเจ้า ทอลฮารุบัง ที่มีอยู่ทั่วเกาะ บ้านที่สร้างจากก้อนหินทั้งหลัง แหล่งน้ำจืดที่หายากมากอาชีพหลักของชาวเกาะ ความไม่เท่าเทียมของหญิงชายในอดีต สัตว์เลี้ยงประจ าเกาะ ไหหรือโอ่งโบราณ
ที่ได้มีไว้หมักกิมจิ เหมือนที่อื่นๆ และที่พลาดไม่ได้สินค้า Otop ของหมู่บ้านที่มีมาช้านาน เป็นที่เลื่องชื่อว่ามาเกาะเชจูต้องมาชิม และช้อปสักครั้ง นั่นก็คือผลิตภัณฑ์แคลเซียมธรรมชาติจากกระดูกม้า และนำน้ำหมักเบอร์รี่ป่า
แบล็คราสเบอรี่ หรือที่เรียกันว่า Omija (โอมิจา) ถ้าได้ทดลองดื่มสดชื่นมากๆ

ภูเขาไฟซองซาน อิลจลุ บง
ภูเขาไฟซองซาน อิลจลุ บง (SEONGSAN ILCHULBONG ) หรือที่ถูกขนานนามว่า “Sunrise Peak” มี อายุกว่า 5000 ปี ที่นี่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุด จึงเป็นสถานที่โด่งดังที่ผู้คนมาขอพรและชมพระอาทิตย์ขึ้น
เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกอยากมาสัมผัส จึงถูกยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่ทางธรรมชาติ ภูเขาไฟลูกนี้สงบลงเป็นที่เรียบร้อย แต่ทิ้งความสมบูรณ์และสวยงามเอาไว้ โดยรูปทรงที่กลมขนาดใหญ่เส้นผ่าน
ศูนย์กลางประมาณ 600 เมตร มีรอยหยักมองแล้วลักษณะเหมือนทรงมงกุฏเลย และเป็นการเชื่อมโยงกับเกาะเชจูแบบธรรมชาติ ด้วยธารลาวา ปัจจุบันจึงสามารถไปเที่ยวจุดนี้ ด้วยรถยนต์ และใครที่อยากได้ บรรยากาศปากปล่องภูเขาไฟ
พร้อมชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ต้องเอาชนะใจตัวเองด้วยการเดินขึ้นไปพิชิตถึงยอดปากปล่อง ความสูงจากระดับน้ำทะเล 182 เมตร

แหลมซอฟจีโกจี กินหอย ปลาหมึก ที่นี่อร่อยมากๆ
จุดที่ซีรีย์เกาหลี นิยมมาถ่ายทำมากที่สุด แหลมซอฟจีโกจี หนึ่งสถานที่เที่ยวยอดฮิตบนเกาะเชจู ที่มีความสวยงามจนเป็นจุดที่ซีรีย์เกาหลี นิยมมาถ่ายทำมากที่สุด กิจกรรมน่าสนใจของจุดนี้มีเยอะสวยงามจนเป็นจุดที่ซีรีย์เกาหลีนิยมมาถ่ายทำมากที่สุดกิจกรรมน่าสนใจบริเวณแห่งนี้มากมาย

จุดนี้มีเยอะมาก เช่นการเดินไปเยี่ยมชมปลายสุดของแหลมที่จะมีประภาคารสีขาว ตั้งเด่นสวยงาม มีโขดหินคู่ที่เรียกกันว่า หินตาหินยาย ระว่างทางก็จะมีบ้านหลังนึงที่สมัยอดีตเคยเป็ยโบสถ์เก่า ปัจจุบันถูกปรับเปลี่ยนเป็นความน่ารักให้ผู้คนมาถ่ายรูปกันเส้นทางเดินโค้งซ้ายโค้งขวาสวยงามมาก และอีกกิจกรรมเด็ดคือต้องมาชิมปลาหมึกสดที่ชาวบ้านเอาไปตากลมจนแห้ง และนำมาย่างบนหินภูเขาไฟนั่นเอง กลิ่นจะหอม และรสชาติหวาน อร่อยสดมากๆ ถือเป็นของกินที่มาแล้วไม่กินถือว่าไม่ถึงเลยทีเดียว

ซุปไก่ทะเลสวรรค์
เมนูสุดพิเศษ ซุปไก่ทะเลสวรรค์ที่ผสมผสานความเป็นท้องทะเลของเกาะเชจู เข้ากับ ของเรื่องสุขภาพที่แข็งแรงนั่นก็คือซุปไก่นั่นเอง เมนูนี้จึงเปรียบดังเมนูจากสวรรค์เลยทีเดียว ส่วนประกอบ หลักๆ จะเป็นไก่ที่ต้มด้วยสมุนไพรจนเปื่อย
และเพิ่มซีฟู้ดตามฤดูกาลเข้าไป ทำให้นำน้ำซุปอร่อย หวาน กลมกล่อมไม่เหมือนใคร เสิรฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ และเครื่องเคียงต่างๆ เช่นกิมจิ สาหร่าย หัวไชเท้า

วัดป่า “ชอนวังซา” (Sangbang Bomunsa Temple) วัดแรกของเกาะเชจู
เป็นวัดที่สวยงามที่อยู่กลางหุบเขา 99 ยอด ชม วัดป่าชอนวังซา อยู่บนเทือกเขาฮัลลาซาน สูงที่สุดครั้งแรกเป็นสถานวิปัสนา ซึ่งสายมูต้องห้าม พลาดเพราะวัดแห่งนี้ต้องมาขอพรเรื่องเงินทองและความก้าวหน้าในเรื่องหน้าที่การงาน
วัดนี้ถูกขึ้นทะเบียนเเป็นวัดเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์มากแห่งหนึ่งในเกาหลีอีกทั้งยังมีต้นกำเนิดจากน้ำแร่ศักดิ์สิทธิ์ที่

ศูนย์แสดงชุดเครื่องนอน SESA LIVING
เลือกซื้อชุดเครื่องนอนเพื่อสุขภาพอันดับหนึ่งของ ประเทศเกาหลีใต้ Sesa Livingที่ใช้เส้นใยในการถักทอถึง 15400 เส้น กัน
ไรฝุ่นได้100% มีการใช้หยกในการทำเส้นใย จึงมีคุณสมบัติในเรื่องของการ บำบัดขณะนอนหลับ ซึ่งเนื้อผ้าจะมีสัมผัสที่นุ่ม ลื่น ไม่มีเสียงดังเมื่อขยับตัว และยังปรับอุณหภูมิที่คงที่ให้ ร่างกายขณะนอนหลับพักผ่อนอีกด้วย และโชว์รูมแห่งนี้สามารถคืนภาษีให้กับนักท่องเที่ยว

ช้อป-จัก-ปยอ-กุก ต้มซุปซี่โครงหมู
อากาศเย็น ซดน้ำชื่นใจ เมนูท้องถิ่นประจำเกาะเชจู ช้อป-จัก-ปยอ-กุก ต้มซุปซี่โครงหมู สมัยก่อนเกาะเชจู เลี้ยงหมูแทบจะทุกครัวเรือน ซี่โครงของหมูจะถูกนำมาทำซุป ด้วยนำน้ำซุปที่ไม่เหมือนใคร เพราะเป็นซุปข้นเหนียวเล็กน้อย เพราะสูตรเฉพาะที่จะใส่ข้าวเมมิลลงไปด้วย จึงมีรสชาติที่เข้มข้น เนื้อหมูจะนุ่ม ร่อนจากกระดูก ละมุนมากๆ เสริฟท่านพร้อมข้าวสวย และเครื่องเคียงตามฤดูกาล

ซุปเปอร์มาร์เก็ต ละลายเงินวอน
ที่นี่มีขนม ของฝาก ของพื้นเมืองเกาหลีที่ขึ้นชื่อ ใครๆ มาต้องมีติดไม้ติดมือกลับไป อาทิเช่น ขนมชื่อดังต่างๆ ช้อคโกแลตหลาย หลายรสชาติ สาหร่ายนานาชนิด รามยอน กิมจิ รวมไปถึงของใช้ใน ครัวเรือน เช่น กระทะ ตะเกียบ ถ้วยข้าว ซอสปรุงรส วุ้นเส้น รวมถึงของฝากของที่ระลึกมีให้ท่านได้เลือกซื้อมากมาย เหมือนเอาเงินวอนมากละลายกันอย่างเพลิดเพลินและไม่ต้องกลัวว่าจะใส่กระเป๋าไม่พอ เพราะที่นี่พร้อมบริการบรรจุกล่องตามเงื่อนไขของร้าน

ชายหาดอีโฮเทอู (Iho Tewoo Beach)
วชายหาดขึ้นชื่อบนเกาะเชจู “อีโฮเทอู” นอกจากความสวยงามของท้องทะเล คาเฟ่น่ารักๆต่างๆแล้ว ยังมีสัญลักษณ์ที่มองลงมา จากเครื่องบินจะเห็นทันทีที่ถึงเกาะเชจู นั่นก็คือประภาคารรูปม้าสีขาว และสี แดง ม้าถือว่าเป็นสัตว์ประจำเกาะ
เชจู และใครๆที่มาเที่ยวก็นิยมมาถ่ายรูป

LOTTE DUTY FREE
ร้านค้าปลอดภาษี LOTTE DUTY FREE
ช้อปปี้งสินค้าปลอดภาษี LOTTE DUTY FREE เครื่องสำอางค์เกาหลีและต่างประเทศ สินค้าแบรนด์เนม ราคาถูก จากนั้น ช้อปปิ้งในดาวน์ทาวน์ (Down Town Shopping Center) เดินทางสู่แหล่งช้อปปิ้งในตัวเมืองแห่งเกาะเชจูมีโซนใต้ดิน และโซนวอคกิ้งสตรีท เป็นแหล่งรวมสินค้ายอดฮิต ติดเทรนด์ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ท้องถิ่นเกาหลี แบรนด์สปอร์ตกีฬาดังๆ ทั้ง แฟชั่นเสื้อผ้า หมวก กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอางค์ และยังมีสตรีทฟู้ด ขนม คาเฟ่ต่างๆ

ปิดทริป 4 วัน 2 คืน ถูกใจ ไปได้จริง ไม่ทิ้งไม่เท ต้นตำรับ เที่ยวร์เกาหลี เที่ยวเชจู สีสันสดใส ใบไม้เปลี่ยนสี กับการเปิดประเทศครั้งแรกและเป็นทริปแรกที่มากับทัวร์ค่ะ ทริปนี้ประทับใจมากๆ สนใจทริป ถูกใจ ไปได้จริง ไม่ทิ้งไม่เท ต้นตำรับ เที่ยวร์เกาหลี

รวมโปรแกรมเที่ยวเกาหลีราคาสุดปัง ไว้ให้คุณที่นี่ที่เดียว (ตัดบัตรไม่ชาร์จ)
ไม่สะดวกจองเอง ทักแชทให้เราจองให้
https://lin.ee/5fR25rL

สนใจสอบถามเพิ่มเติมทาง
Line : @gotrueworld
Hotline : 02-115-0037, 098-827-7522
Facebook : True World Travel m.me/346807932059210
Website : www.gotrueworld.com

สองพี่น้องตระกูล “อนุวัตเมธี” ปั้นอาณาจักร “Scene” สยายปีกเบเกอรี่พรีเมียมแบรนด์ไทย

สองพี่น้องตระกูล “อนุวัตเมธี” ปั้นอาณาจักร “Scene” สยายปีกเบเกอรี่พรีเมียมแบรนด์ไทย สองพี่น้องตระกูล “อนุวัตเมธี” ทุ่ม 80 ล้าน เปิดอาณาจักร Scene Bangkok คาเฟ่หรูสไตล์ฝรั่งเศส พร้อมครัวกลางขนาดใหญ่ เผยแผนบุกตลาดเบเกอรี่ระดับพรีเมียม ปักธง 4 สาขาในกรุงเทพฯ ภายใน 3 ปี ขยายร้านขนมอีก 50-70 แห่ง แตกแบรนด์ย่อยลุยเทศกาล-งานอีเว้นต์ ชูวัตถุดิบคุณภาพสูง การผลิตทันสมัย สร้างชื่อเบเกอรี่แบรนด์ไทยเจาะกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์
ตอบโจทย์ความต้องการของคุณลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ
▪︎ All Day Brunch
▪︎ Bakery & Dessert
▪︎ Coffee Bar
▪︎ Dinner & Cocktail
เชิญมาสัมผัสประสบการณ์ความสุขแห่งใหม่ที่ Scenebangkok

ลูกไม้ อนุวัตเมธี กรรมการผู้จัดการ ร้าน Scene Bangkok ผู้เป็นพี่สาว เล่าให้ฟังว่า มีความหลงใหลในเบเกอรี่มาตั้งแต่ และมีโอกาสเรียนการทำอาหารและขนมในสถาบันต่าง ๆ ได้เรียนรู้วิชาและฝึกประสบการณ์จากเชฟที่มีชื่อเสียง จนได้เปิดร้าน “Tokyo Dessert” ย่านพุทธมณฑลสาย 2 ซึ่งได้การตอบรับที่ดีมาก จนกลายมาเป็น OEM รับออกแบบและทำขนมให้กับหลาย ๆ ร้าน อาทิ ทรูคอฟฟี่ คอฟฟี่บีน อเมซอน และร้านในเครือเซ็นทรัล เป็นเวลาประมาณ 6 ปี จนช่วงหลังเริ่มทำไม่ไหว จึงต้องปิดตัว ร้าน Tokyo Dessert ลงไป

ด้าน ซีน – ดุสิตา อนุวัติเมธี ผู้น้องที่ผันตัวเองจากทันตแพทย์ เพื่อมาช่วยพี่สาวบริหารงานเต็มตัว กล่าวเสริมว่า หลังจากอยู่ในเส้นทางการผลิตเบเกอรี่ระดับพรีเมียมมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทำให้มองเห็นโอกาสทางการตลาด และมีเป้าหมายในการสร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง จึงได้ลงทุนประมาณ 80 ล้านบาท สร้างอาณาจักร Scene Bangkok บนถนนพรานนก-พุทธมณฑล สาย 4
Scene Bangkok ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 5 ไร่ โซนด้านหน้าเป็นร้านเบเกอรี่ขนาดใหญ่ โทนสีขาวสะอาดตา ออกแบบสไตล์โมเดิร์นผสานกลิ่นอายฝรั่งเศส ภายในโทนสีฟ้าขาว ประกอบด้วยชั้นล่างและชั้นลอย โถงตรงกลางร้านเป็นบาร์เปิดแบบ 360 องศา รายล้อมด้วยขนมนานาชนิด ๆ ออกแบบมาอย่างมีเอกลักษณ์ เป็นที่ยอมรับเรื่องรสชาติและความพิถิพิถัน บริการอาหาร ขนม และเครื่องดื่มนานาชนิด โซนนอกอาคารเป็นพื้นที่สวน ด้านหลังร้าน เป็นส่วนของครัวกลางขนาดใหญ่ ที่ออกแบบไว้เพื่อรองรับการขยายสาขาในอนาคต นอกจากนั้นยังมีส่วนของร้าน Zachi Omakase ต้อนรับลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่น โดยเชฟฝีมือระดับประเทศ ประสบการณ์การปั้นซูชิกว่าหมื่นคำต่อวัน การันตีด้วยความ Premium ที่จัดว่าดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปีข้างหน้า คือ การขยายสาขา Scene Bangkok อีก 4 สาขาในกรุงเทพฯ เป็นสาขาที่มีขนาดใหญ่เช่นเดียวกับสาขาแรก โดยจะลงทุนเองทั้งหมด รวมทั้งการปั้นโมเดลร้านขนมขนาดเล็ก ที่สามารถขยายธุรกิจได้ 50-70 สาขา ทั้งการลงทุนเองและรูปแบบแฟรนไชส์ โดยจะใช้ศักยภาพของครัวกลางที่เตรียมไว้เพื่อรองรับการผลิตทั้งหมด

ลูกไม้ อธิบายเสริมว่า Scene จะเป็นแบรนด์หลักในการขยายธุรกิจ ซึ่งจะเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ ที่มีดีไซน์และบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ และมีซับแบรนด์ อาทิ X-CUZINE บริการแคทเทอริ่ง สำหรับการจัดเลี้ยงและงานอีเว้นต์ต่าง ๆ แบรนด์ Scene Celebration สำหรับเทศกาลและโอกาสพิเศษ รวมทั้งแบรนด์ Scene Secret House ธุรกิจธีมเทพนิยาย อันเป็นที่ชื่อชอบของสองพี่น้อง โดยปัจจุบันได้นำเสนอบ้านฮอบบิทในพื้นที่ของ Scene Bankok และจะสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องอื่น ๆ เช่น น้ำหอม ภายใต้คอนเซ็ปต์เครื่องหอมและเวทมนต์ เป็นต้น ส่วนความเป้าหมายในอนาคต คือการเข้าตลาดหลักทรัพย์

“ความฝันของไม้คือ อยากเข้าตลาดหลักทรัพย์ เราเป็นคนคิดใหญ่และมีเป้าหมายสูง ส่วนน้องสาวเป็นหมอฟัน ทำอาหารไม่เป็นเลย แต่มีส่วนช่วยเรื่องงานออกแบบ เพราะน้องซีนชอบศิลปะเมื่อเราบอกกับน้องว่าอยากทำเบเกอรี่แบบนี้ๆ ตกแต่งแบบนี้ น้องจะสเก็ตช์ภาพออกมาเพื่อส่งให้กับเชฟได้ทำตามที่เราคิด” ลูกไม้ กล่าว

Amazing ยิ่งกว่าที่เคยรู้จัก รักกว่าที่เคยรู้สึก

สักครั้งหนึ่ง การพาตัวเองออกไปในที่ใหม่ ๆ ก้าวออกจาก comfort zone ลงมือทำอะไรที่ไม่เคยทำ ออกไปพบเจอผู้คนที่ห่างไกลออกไป อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เรามองโลกใบนี้เปลี่ยนไป การเที่ยวตากครั้งใหม่ อาจจะทำให้คุณเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปทำให้นักท่องเที่ยวและประชาชนรู้จักแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดตากเป็นอย่างมากและลึกซึ้ง ส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวและการกระจายรายได้ ในพื้นที่จังหวัดตากอย่างต่อเนื่อง ททท.ตากชู”ตากเที่ยวได้ไม่ธรรมดา”

ผอ.หน่อง ผอ.ททท. สำนักงานตาก ชวนเที่ยวชมชวนสัมผัสประสบการณ์กลางแจ้ง เสริมคุณค่าทางใจ และเที่ยวเพื่อให้คืน การเดินทางมาท่องเที่ยวเพื่อนมัสการพระบรมธาตุ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง และการมาสัมผัสชีวิตวิถีชีวิต ชนเผ่า ชุมชนชาวเผ่าต่าง ๆ ของจังหวัดตาก โดย ททท.ตาก ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อมวลชน และสื่อรูปแบบต่างๆ
เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่

นางสาวธมลวรรณ เจริญวงศ์พิสิฐ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตาก เล่าถึง ศักยภาพของจังหวัดตากที่ดีอยู่แล้ว ด้านความพร้อมในการรองรับ เที่ยวได้ไม่ธรรมดา ชวนสัมผัสธรรมชาติชีวิตกลางแจ้ง ในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝนกรีนซีซั่น จังหวัดตากมีเรื่องท่องเที่ยวที่หลากหลาย โดยเฉพาะช่วงเดือนตุลาคม เราเปิดฤดูท่องเที่ยวทีลอซูวันที่ 1 ตุลาคม เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในประเทศไทย ติดอันดับของโลก เรียกว่านักท่องเที่ยวเริ่มมาท่องเที่ยวในช่วงนั้น

เส้นทางท่องเที่ยวของจังหวัดตากในช่วงปลายฝนต้นหนาวต้อนรับทะเลหมอก ช่วงหลังฝนใหม่ๆ มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยมหลายพื้นที่ ส่วนใหญ่เดินทางมาแบบครอบครัว กลุ่มเพื่อน ๆ โดยมาจากเพจรีวิวต่างๆ และมาแบบหมู่คณะ มาเที่ยวชมในพื้นที่ อ.เมืองตาก – อ.แม่สอดตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ
เหมือนกับอยู่ในอ้อมกอดของขุนเขา สัมผัสทะเลหมอก เรายังมีเส้นทางท่องเที่ยว สวนดอกไม้ ไร่อุ่นไอรัก ไร่พบรักแดนสวรรค์และมาชิมกาแฟที่ไร่เตตราวรรณ ชมพิพิธภัณฑ์ที่นี่ น่าสนใจอีกที่หนึ่ง

อีกจุดหนึ่งคือเส้นทางของม่อนหมอกตะวัน นักท่องเที่ยวจะได้พบกับเส้นทางของทุ่งดอกไม้และทะเลหมอกที่งดงาม หากต้องการสัมผัสวิถีชุมชน มีที่พักที่หลากหลายและมีน้ำตกป่าหวาย เป็นไฮไลท์ อยู่ไม่ไกลจากม่อนหมอกตะวัน เที่ยวได้ทั้งปี เรามีอโวคาโด้เป็นผลไม้ประจำจังหวัดตาก เพราะเราปลูกบนพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ตั้งแต่ 600-800 เมตร ทำให้รสชาติค่อนข้างดี มีทุเรียนน้ำแร่ แมคคาเดเมีย ส้มสายน้ำผึ้ง ส้มสายน้ำแร่ที่อยากให้นักท่องเที่ยวที่มาจังหวัดตากได้ลองชิม วันที่ 5-8 พย.นี้ มีงานอีเวนท์ยิ่งใหญ่ประจำปี เป็นงานลอยกระทงสาย ไหลประทีปพันดวง เรามีภูมิทัศน์แม่น้ำปิงที่สวยที่สุดอยู่ในจังหวัดตาก และล่องแม่น้ำปิงทำให้กระทงสายเป็นสายสวยงาม กระทงต้องลอยตั้งแต่หนึ่งพันไมล์กะลา เป็นรูปตัวเอสกลางแม่น้ำปิง อลังการและอเมซิ่งมาก เป็นสิ่งอันซีนที่ต้องมาเที่ยว

น้ำตกป่าหวาย

เส้นทางอีกเส้นหนึ่งคือ เขื่อนภูมิพลเป็นเขื่อนโค้งเรียกว่าเขื่อนพ่อ ชมชุมชนทำปลาแห้งที่บ้านสันป่าป๋วย หมู่บ้านอยู่ ใต้แม่น้ำปิงแต่ไม่มีไฟฟ้าใช้ เขาทำปลาอบแห้งที่อร่อยและ ถัดลงมาไปกราบขอพรหลวงพ่อทันใจ ที่วัดพระบรมธาตุบ้านตาก สำหรับท่านที่เกิดปีมะเมีย ลงมามีชุมชนกาดป้าตง ปิดมาสองปี ก็เตรียมเปิดรับนักทองเที่ยวในปลายปีนี้ เป็นชุมชนริมแม่น้ำปิงที่มีอัตลักษณ์เป็นบ้านไม้เก่า มีวิถีชุมชนที่น่ารัก และถัดลงมาเรามีไม้กลายเป็นหินที่ยาวที่สุดในโลกเพิ่งได้รับการบันทึกกินเนสเวิล์ดเรคคอร์ดอยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยสอยมาลัย
เรายังมีแหล่งท่องเที่ยวในตัวเมืองตาก เรามีกาดนั่งยอง-คล้องย่าม 16.00-21.00 น. ทุก ส.อ. ยำข้าวเกรียบก็ไปหาททานได

ย้อนขึ้นมาทางแม่สอด เราจะเห็นดอยมูเซอ เป็นตลาดวิถีชุมชนชาวมูเซอ ผลไม้ท้องถิ่น สัมผัสวิถีชุมชนได้ที่เป็นโฮมสเตย์ที่บ้านห้วยปลาหลด มีต้นกาแฟที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานให้ชาวมูเซอปลูกขึ้นมาอีกนิด จะมีอุทยานแห่งชาติลานสาง สัมผัสทุ่งดอกไม้ ได้เห็นความงดงามของอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช จะเห็นต้นกะบากยักษ์ ยี่สิบคนโอบขึ้นมาทางอ.แม่สอด วัดไทยสไตล์พม่า ที่วัดไทยสามัคคี จะมีพระนอนตาหวานองค์ใหญ่รอรับนักท่องเที่ยว ไหว้เจดีย์ชเวดากองที่วัดนี้ได้ ทางด้านบ้านแม่กะสา เส้นทางนั้นจะมีหลวงพ่อทันใจเช่นเดียวกันอยู่วัดไทยสามัคคี ตับไตไส้พุงเป็นเงินเหมือนมนุษย์ สร้างในหนึ่งวันเสร็จ มีพุทธคยาจำลองด้านหลังวัดสำหรับท่านที่เกิดปีมะเส็ง ท่านไหนอยากไปขอพรอีกเส้นทางหนึ่งคือ ท้าวเวสสุวรรณโณองค์ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือที่วัดศรีพรเพ็ญมาตรยาราม เส้นทางสายมู ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ หากเมื่อยแล้วไปอโยคยาสารโป่งคำราม เป็นออนเซ็นน้ำแร่ในสไตล์ญี่ปุ่นเป็นถังไม้โอ๊กและไปขอพรพระพิฆเนศ

เส้นทางท่องเที่ยวจังหวัดตาก ค่อนข้างหลากหลาย มีวิสดอมฟิลเป็นกาแฟแล้ว
มีภาพกราฟฟิตี้ที่มีความสวยงามสำหรับกลุ่มเจนวาย ไปเซลฟี่ได้ เราเที่ยวได้ทุกวัย มัลติเจนเนอเรชั่น เรามีที่พักที่หลากหลายที่จะให้นักท่องเที่ยวได้เลือกได้สัมผัสที่หลากหลาย ตั้งแต่ห้าดาวลงมา ด้านอาหารการกิน ถ้าไปเดินตลาดในเมืองตลาดพาเจริญ เป็นไฮไลท์จะได้เห็นวิถีชุมชนหลายชาติพันธ์ ชาวจีน เมียนม่า มุสลิมไทย อินเดีย ไปตลาดนี้ได้ครบ ไปชิมเส่งเผฮาลาหว่า ขนมของชาวไทยใหญ่ของฝาก ก็มีหลากหลายได้เลือก ชิมอาหารทะเลบนดอยที่แม่สอด เรามีทะเลติดกับเมียนม่า เรามีอาหารทะเลสดๆไม่ว่าจะเป็นปลากะพง กุ้งแม่น้ำเผา อาหารจีนก็มีให้เลือกหลายสไตล์ มีมนต์เสน่ห์ มีแหล่งท่องเที่ยวที่ สำคัญๆ และ ท่องเที่ยวที่ สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศอีกมากมาย

ผอ.หน่อง ผอ.ททท. สำนักงานตาก ชวนเที่ยวชม ม่อนหมอกตะวัน จังหวัดตาก แนวคิด สุขง่ายจากการให้ ที่มุ่งนำเสนอการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ร่วมกับกิจกรรม csr ไปยังนักท่องเที่ยว ให้ได้ร่วมส่งมอบคุณค่าจากการท่องเที่ยวคืนสู่ท้องถิ่น
มีแหล่งท่องเที่ยวอันซีนในอำเภอพบพระ เป็นหนึ่งใน 25 แห่ง ของประเทศ มาสัมผัสช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเห็นทุ่งดอกเสี้ยน ดอกคอสมอส เดินทางไม่ไกล ไปทางอำเภอแม่สอดไปที่อำเภอพบพระกม.ที่ 49 เข้าไปประมาณ 12 กิโลจะได้สัมผัสขุนเขา นักท่องเที่ยวสามารถนำรถโฟร์วิวหรือรถเก๋งก็ได้ขึ้นไป ท่านใดที่ต้องการหาที่พักก็เลือกจองได้ในเพจของทางสำนักงานททท. สำนักงานตาก
ม่อนหมอกตะวัน มาแล้วจะหลงรัก อำเภอพบพระจังหวัดตาก น้ำตกพาเจริญ
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยม อ.พบพระ น้ำตกหินปูนที่มีน้ำไหลตามชั้นหินเป็นลำดับชั้นลดหลั่นกันมา จำนวน 79 ชั้น มีต้นกำเนิดจากแหล่งซับน้ำและห้วยในป่าบริเวณหมู่บ้านชิบาโบ

เนื่องจากความหลากหลาย ปลายเดือนตุลาก็จะได้ชิมส้มสายน้ำผึ้งและแมคคาเดเมีย และจะได้สัมผัสวิถีชุมชนชาวม้ง จะแต่งชุดชาวม้งก็ได้ประสานกับทางผู้ใหญ่บ้าน สัมผัสความงดงามและสัมผัสชุมชนวิถีจริงๆ
หรือทานอาหารพื้นถิ่นอย่างไก่บ้านต้ม หรือไก่ผีปู่ย่าเป็นอาหารท้องถิ่น ในช่วงปลายฝนต้นหนาวนี้ก็จะมีข้าวใหม่ม้ง รสชาติอร่อยมาก

ในปลายเดือนธันวาคมหรือต้นมกราคม จะมีปีใหม่ม้ง จะเห็นชาวบ้านแต่งกายด้วยชุดประจำเป่า น่ารักๆ เป็นงานประจำปีของชาวม้ง ติดตามในเพจททท.สำนักงานตาก ว่าจะจัดขึ้นในวันไหน แต่อย่าลืมอย่าพลาดมาสัมผัสกับม่อนหมอกตะวัน เชื่อมไปทางอุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญและไปน้ำตกทีลอซู ที่อุ้มผางได้

นส.ธมลวรรณ เจริญวงศ์พิสิฐ
ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)สำนักงานตาก

ททท. สำนักงานตาก
193 ถ.ตากสิน ต.หนองหลวง, Muang Tak, Tak, Thailand 63000.
https://www.google.com/maps/dir//16.886281,99.122922/@16.8862482,99.0528605,12z

#amazingTHAILAND #เที่ยวตากAmazingยิ่งกว่าเดิมเที่ยวตาก #Gud2Go2TAK #TAKtheNewChapter #toptotravel

14 จุดเช็คอิน ฟินทั้งกายและใจ เส้นทาง “อยู่ดี Green ดี เที่ยวอุทัยธานี”


อุทัยธานีอุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติที่เขียวขจี ภายใต้วิถีอันเรียบง่าย พร้อมความหลากหลายทางวัฒนธรรมอันงดงาม ชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ ต่างอาศัยพื้นที่ทางการเกษตรในการหล่อเลี้ยงชีวิต ชาวอุทัยธานีจึงมีใจ “รักษ์” ในทรัพยากรในถิ่นอาศัย กิน ใช้ ในวิถีปลอดภัย ทั้งต่อตัวเองและสิ่งแวดล้อม พร้อมให้ทุกคนไปสัมผัส กับเส้นทาง “อยู่ดี Green ดี เที่ยวอุทัยธานี” นำเสนอแหล่งท่องเที่ยว ทั้งจุดเช็คอิน ที่กิน ที่พัก ที่ผ่อนคลายทั้งกายใจ เปิดมุมมองกว้างใหญ่ในอ้อมกอดของธรรมชาติ ท่ามกลางวิถีชุมชนอันน่าชื่นชม

เส้นทาง “อยู่ดี Green ดี เที่ยวอุทัยธานี” ได้คัดสรร14 จุดเช็คอินฟินทั้งกายและใจ ในอำเภอเมืองอุทัยธานี อำเภอทับทัน อำเภอลานสัก และอำเภอบ้านไร่ มาให้ทุกคนได้ชื่นใจ ก่อนจะไปสัมผัสบรรยากาศเหล่านั้นด้วยกัน

1.ล่องวิถีสะแกกรัง ฟังเรื่องราววิถีชาวแพ
เริ่มต้นจาก แม่น้ำสะแกกรัง อ.เมืองอุทัยธานี เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของแม่น้ำสะแกกรัง คือ วิถีชีวิตชุมชนชาวแพสะแกกรังใน อ.เมืองอุทัยธานี ที่อยู่มานานกว่า 100 ปี ส่งต่อภูมิปัญญาวิถีชาวเรือนแพจากรุ่นสู่รุ่น ชาวแพในปัจจุบันมีอาชีพที่หลากหลายทั้งงานรับจ้าง เลี้ยงปลา หาปลา ค้าขาย รวมทั้งภูมิปัญญาการทำเกษตรลอยน้ำ ทั้งการปลูกผักบุ้ง ผักกระเฉด และเตยหอม โดยเฉพาะการเลี้ยงปลาประชังน้ำจืด ซึ่งมีจุดกำเนิดที่แม่น้ำสะแกกรังแห่งนี้

แน่นอนว่าเมื่อมาเยือนสะแกกรังแล้ว จะต้องได้ชม ชิม ช้อป ผลิตภัณฑ์จากสายน้ำ อาทิ ปลาย่าง ปลาจ่อม และน้ำพริกปลาย่าง ที่ “แพป้าแต๋ว”จากนั้นเมื่อขึ้นฝั่งแล้วยังมีเวลา สามารถแวะชมความงดงามของ “วัดโบสถ์”ริมฝั่งแม่น้ำสะแกกรัง เป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองอุทัยธานีมาอย่างยาวนาน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จประพาสเมืองอุทัยธานี ชาวบ้านจึงได้ทำแพรับเสด็จที่วัดแห่งนี้ ปัจจุบันยังมีสิ่งของพระราชทานจัดแสดงอยู่ภายในวัดอีกด้วย

2.แรดได้ใจ ต้อง ปลาแรด GI อุทัยธานี
ชุมชนริมแม่น้ำสะแกกรัง บนเกาะเทโพ มีการรวมตัวของ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงปลาแรดสะแกกรังตำบลท่าซุงซึ่งได้การรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา จึงเป็น “ปลาแรด GI” หนึ่งเดียวในเมืองไทยจุดเด่น คือ “เกล็ดหนา หน้างุ้ม เนื้อนุ่ม แน่นหวาน”ด้วยการเลี้ยงแบบผสมผสานกับพืชผัก ผลไม้นอกจากนั้นยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปลาแรดให้เลือกซื้ออีกมากมาย
หากอยากชิมเมนูปลาแรด ของดีจังหวัดอุทัยธานี ที่การันตีได้ว่าไม่มีกลิ่นสาบโคลนแน่ ๆ เพราะเลี้ยงในกระชังที่มีน้ำไหลเวียนตลอดเวลา บนเกาะเทโพยังมีร้านอาหารให้เลือกชิมหลายร้าน อาทิ ร้านป้าสำราญ ที่มีสารพัดเมนูปลาแรด ปลาในท้องถิ่น รวมทั้งเมนูพื้นบ้านต่าง ๆ ให้เลือกชิม ในบรรยากาศริมน้ำอันแสนสดชื่น

Facebook/กลุ่มแปรรูปปลาตำบลท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี

3.วันวานยังชื่นใจ “อุไทย เฮอริเทจ”

ในตัวเมืองอุทัยธานี ยังเต็มไปด้วยวิถีชีวิตเรียบง่าย มีวิถีสโลว์ไลฟ์แบบที่หลายคนชื่นชอบ ท่ามกลางกลิ่นอายของวันวานจากตึกรามและสถาปัตยกรรมดั้งเดิมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ เช่นที่“อุไทย เฮอริเทจ” โรงแรมที่ได้รับการออกแบบปรับโฉมจากอาคารโรงเรียนเก่าที่มีอายุราว 80 ปี จึงคงกลิ่นอายแบบวินเทจให้ผู้ที่คิดถึงวัยเด็กเข้ามาชื่นชม

ปัจจุบัน “อุไทย เฮอริเทจ” เปิดให้บริการห้องพักหลายรูปแบบ ภายใต้บรรยากาศอันอบอุ่น สะท้อนคุณค่าของเมืองอุทัยธานีผ่านเรื่องราวของโรงเรียน ข้าว และงานไม้ ทุกเช้าและเย็น ยังมีกิจกรรมเคารพธงชาติในทุกวัน นอกจากการเข้าพักแล้ว สามารถแวะมาจิบกาแฟและเครื่องดื่มในคาเฟ่ของโรงแรมได้
Facebook/uthaiheritage

4.ส่งต่อสิ่งดี ๆ สวนเกษตรอินทรีย์ รีสอร์ท มาถึง อ.ทัพทัน
นักท่องเที่ยวจะเห็นภาพของพื้นที่ทางการเกษตรอันอุดมสมบูรณ์ ที่นี่มีการทำนาทำไร่กันมาอย่างยาวนาน และมีการพัฒนาผสมผสานเป็นการเกษตรยุคใหม่ที่น่าสนใจ เปิดให้ทุกคนเข้าชม ในบรรยากาศที่เหมาะกับการพักผ่อนสไตล์บ้านไร่บ้านสวนอย่างแท้จริง

ทริปนี้ขอแนะนำ “สวนเกษตรอินทรีย์ รีสอร์ท” พื้นที่เกษตรแบบผสมผสาน ด้วยการน้อมนำศาสตร์พระราชาที่ว่าด้วยเศรษฐกิจพอเพียงปลูกผัก ทำสวน เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ ขุดบ่อเลี้ยงปลา ในพื้นที่กว่า 26 ไร่ มีที่พักสไตล์ลอฟท์พร้อมสระว่ายน้ำเพื่อต้อนรับผู้ที่ต้องการเข้ามาชื่นชมธรรมชาติ ตื่นมาพร้อมบรรยากาศอันแสนสดชื่น และการรับประทานอาหารอร่อย ๆ จากวัตถุดิบปลอดภัยภายในสวน
Facebook/สวนเกษตรอินทรีย์ รีสอร์ทอ.ทัพทัน อุทัยธานี

5.บ้านไร่วรัญญ์รัช มุมของคนรักแคคตัส

หรือจะแวะไปที่ “บ้านไร่วรัญญ์รัช” ที่พัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ฟาร์มแคคตัสและบอนสี ตั้งอยู่กลางทุ่งนากว้างใหญ่ นักท่องเที่ยวที่เข้ามาจะได้เรียนรู้การเลี้ยงแคคตัสและบอนสี ภายในไร่ยังปลูกผักปลอดสารพิษ และการเลี้ยงปลา ส่วนของคาเฟ่มีวิวชมนาข้าวที่จะเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล แวะมาจิบกาแฟ หรือกินก๋วยเตี๋ยวอร่อย ๆ สูตรของทางร้าน ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ยังมีแพทย์แผนจีนมาเปิดให้บริการตรวจรักษาในราคาย่อมเยาอีกด้วย

Facebook/banraiwaranrach


6.หุบป่าตาด ดินแดนแห่งความเร้นลับ

จาก อ.ทับทัน เข้าสู่ อ.ลานสัก กับบรรยากาศแห่งขุนเขาและทุ่งกว้าง หันไปทางไหนก็เต็มไปด้วยความชื่นใจจากบรรยากาศที่เขียวชอุ่มใน อ.ลานสัก มีผืนป่าโบราณ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “อันซีนไทยแลนด์” นั่นคือ “หุบป่าตาด” ดินแดนอันเร้นลับที่ถูกค้นพบเมื่อ พ.ศ.2522 โดย พระครูสันติธรรมโกศล (หลวงพ่อทองหยด) เจ้าอาวาสวัดถ้ำทอง จากสภาพป่าที่เต็มไปด้วยต้นตาด ไม้ดึกดำบรรพ์ตระกูลเดียวกับปาล์ม ด้วยลักษณะของป่าที่ซ่อนอยู่ในหุบเขาอันลึกลับ จึงเรียกที่นี่ว่า “หุบป่าตาด” 

หุบป่าตาด อยู่ในความดูแลของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน ไดรับการประกาศจากกรมอุทยานแห่งชาติ ให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ เนื่องจากมีสภาพทางภูมิศาสตร์ที่แปลกตาด้วยพันธุ์ไม้หายากหลากชนิด  รวมทั้ง “กิ้งกือมังกรสีชมพู” ที่จะพบได้ในช่วงฤดูฝนนับเป็นสัตว์หายากพบได้ที่หุบป่าตาดเท่านั้น

7.เช็คอินสุดว้าว ที่จุดชมวิวบ้านชายเขา

ห่างจากหุบป่าตาดเพียง 2 กิโลเมตร บรรยากาศแห่งขุนเขาที่โอบล้อม ท่ามกลางแปลงเกษตรผืนใหญ่ที่เรียงรายอยู่สองข้างทาง เป็นที่ตั้งของจุดชมวิวบ้านชายเขา มีลานกางเต้นท์และร้านอาหารเล็ก ๆ ให้บริการ ด้วยความสดชื่นในมุมมองอลังการ จึงถูกเปรียบเทียบว่า “สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย” 
DCIM\100MEDIA\DJI_0108.JPG

8.ต้นไม้ยักษ์ คุณทวดแห่งป่า อ.บ้านไร่

มาถึง อ.บ้านไร่ เป็นอีกดินแดนของความ “อยู่ดี Green ดี” ท่ามกลางวิถีทางวัฒนธรรมอันงดงาม เมื่อมาถึงแล้ว ต้องไปรายงานตัวกับคุณทวดแห่งผืนป่า “ต้นไม้ยักษ์” ขนาด 40 คนโอบ อายุราว 300-400 ปี ยืนต้นตระหง่านท่ามกลางป่าหมากและป่าสมุนไพร มาแล้วยังแวะอุดหนุนผลผลิตจากชาวสวนชาวไร่และของดีจากชุมชนในตลาดต้นไม้ยักษ์ได้อีกด้วย

9.แจ่ว 100 สำรับ ชุมชนลาวครั่ง

ชาวบ้านลาวครั่งอาศัยอยู่ในบ้านสะนำ อ.บ้านไร่ มาอย่างยาวนาน และมีภูมิปัญญาการกินอยู่ที่เรียบง่าย แต่ก็มีสไตล์ ตั้งแต่การกินน้ำพริก หรือ แจ่ว ซึ่งดัดแปลงสูตรเป็น “แจ่ว 100 สำรับ” นั่นมาจากการผสมผสานวัตถุดิบต่าง ๆ ในหมู่บ้าน รวมทั้งวัตถุดิบตามฤดูกาล อาทิ “แจ่วมะเขือด้าน” ที่จะใช้มะเขือเจ้าพระยาลูกใหญ่“แจ่วบักเขียเคีย” ทำจากมะเขือส้ม หรือมะเขือเครือ“แจ่วน้ำข้าวใส่หมู”ที่มีส่วนผสมของน้ำซาวข้าว ฯลฯ

10.จานใบไม้ รวมใจรักษ์บ้านสะนำ
ในละแวกบ้านสะนำ มีป่าหมากรายล้อมอยู่เป็นจำนวนมาก จนได้ชื่อว่า “ป่าหมากล้านต้น”ชาวบ้านยังเห็นว่ากาบหมากที่ร่วงหล่นลงมาเป็นขยะ น่าจะนำมาปรับโฉมเป็นของใช้ได้ จึงรวมตัวกันตั้งกลุ่มผลิตจานจากใบไม้ นอกจากกาบหมากยังใช้ใบไม้ขนาดใหญ่นำมาแปลงเป็นภาชนะ เช่น ใบไม้สัก ใบตองตึง ใบมะเดื่อกวาง ที่อยู่ในละแวกหมู่บ้าน นอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกแล้ว ชาวบ้านก็กลับมาปลูกต้นหมากกันมากขึ้น ส่งผลต่อระบบนิเวศที่ดีสร้างบรรยากาศที่ร่มรื่นให้กับหมู่บ้าน

(ติดต่อวิถีลาวครั่งบ้านสะนำ โทร. 06 2259 1285)

11.บ้านไร่สไตล์อินเตอร์ พิซซ่าหน้าผักกูด

เดิมทีผักกูดเป็นผักที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ หาเก็บได้จากป่า แต่ปัจจุบันชาวบ้านใน อ.บ้านไร่ ได้หันมาปลูกผักกูด เพื่อป้อนให้กับร้านอาหาร ปรุงเป็นเมนูโปรดของนักท่องเที่ยว  เพราะเป็นผักที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งสารเคมีในการปลูก จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัย แถมรสชาติยังกรอบอร่อย ปัจจุบันร้านพิซซ่าห้วยป่าปก อ.บ้านไร่ ได้นำมาต่อยอดเป็น “พิซซ่าหน้าผักกูด”และ “ผักกูดอบชีส” ใช้เป็นส่วนผสมหนึ่งของหน้าพิซซ่า กลายเป็นซิกเนเจอร์ที่ขายดิบขายดี เพราะอร่อยและเข้ากันได้ดี แถมยังใช้เตาฟืนในการอบพิซซ่าจึงหอมเป็นพิเศษใครอยากมาชิม ต้องมาวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น 
และทางร้านใช้แป้งสดแบบวันต่อวัน จำกัดเพียงวันละ 50 ถาดเท่านั้น
Facebook/พิซซ่าห้วยป่าปก

12.ฝายกั้นน้ำปางสวรรค์ มุมเช็คอินสุดสร้างสรรค์
เดิมทีฝายปูนกั้นน้ำแห่งนี้ ก่อสร้างขึ้นเพื่อชะลอการไหลของน้ำ เพื่อให้ชาวบ้านมีน้ำใช้ในการเกษตร แต่ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งอันเขียวขจี มีฉากหลังเป็นภูเขาอยู่ไกล ๆ ในช่วงหน้าฝนที่มีปริมาณน้ำมากจนเอ่อล้น เกิดเป็นม่านน้ำตกเล็ก ๆ ไหลลงมาจากทั้งสองฝั่งของฝายกั้นน้ำ สามารถลงไปเพื่อเล่นน้ำหรือถ่ายรูปได้ บริเวณฝายมีตลาดนัดชุมชนเล็ก ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้อุดหนุนสินค้าจากชาวบ้าน

13.ไร่ลูกรักของพ่อ ในอ้อมกอดของขุนเขา

(Facebook/ railookrakkongpor)

14.ตลาดซาวไฮ่ บ้านไฮ่ บ้านเฮา
“ตลาดซาวไฮ่” แหล่งรวมคนมีใจแบบฉบับบ้านไร่ เป็นตลาดที่ชาวบ้านทุกคนมีส่วนร่วม ตั้งใจนำเสนอวิถีชีวิตแบบเกษตรพื้นบ้าน อาหารท้องถิ่น พืชผักปลอดสารพิษ แหล่งรวมของกินของใช้ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ชาวบ้านจะนำสินค้าทางการเกษตร ทั้งของกิน ของใช้ รวมทั้งไอเดียหลากสไตล์ของผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ และผ้าทอบ้านไร่ วางจำหน่ายกันทุกวันเสาร์และอาทิตย์ พร้อมกิจกรรมน่ารัก ๆ ที่ทางชุมชนเตรียมให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม

Facebook/sawhai2018

อุทัยธานี เป็นดินแดนแห่งความสุขใจ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ความเขียวขจี ผู้คนอยู่อย่างเรียบง่ายแต่มีสไตล์ แต่ละจุดหมายเต็มไปด้วยความ “อยู่ดี Green ดี” ที่อยากให้ทุกคนได้ร่วมสัมผัสความรู้สีกดี ๆ นี้ไปด้วยกัน

เส้นทางท่องเที่ยว “อยู่ดี Green ดี เที่ยวอุทัยธานี”สร้างสรรค์
โดย MEETTHINKS (www.meetthinks.com) ติดตามภาพแห่งความสุข

รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
• e-book “อยู่ดี Green ดี เที่ยวอุทัยธานี” ได้ที่ https://online.anyflip.com/maibb/zrfn/mobile/ หรือQRCode ด้านล่างนี้(สำหรับการเปิดด้วยโทรศัพท์มือถือ สามารถรับชมได้ทั้งแบบหน้าเดี่ยวในแนวตั้ง และการแสดงผลแบบหน้าคู่ในแนวนอน)

• คลิปวิดีโอเส้นทางอยู่ดี Green ดี เที่ยวอุทัยธานี ตามลิงค์ด้านล่างนี้ https://www.youtube.com/watch?v=oz3p4FCJzbQ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุทัยธานี โทร. 056514651
Facebook/TAT.Uthai

ชิลล์ริมโขงที่ โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว นครพนม Fortune River View Hotel Nakhonpanom

จังหวัด นครพนม สถานที่ที่เชื่อว่าหลายคน ได้ไปสัมผัสแล้วจะหลงรัก เสน่ห์ความเป็นเมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำโขง ยังอบอุ่นเช่นเดิม ด้วยวิถีชีวิตแบบดั่งเดิม ลองจินตนาการถึงจังหวัดที่เราสามารถตื่นเช้ายามเช้ามาชมอากาศที่บริสุทธิ์เย็นสบายผู้คนที่อัธยาศัยดี มีน้ำใจ หากใครได้มาเยือนจังหวัดนครพนม หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตวิถีชีวิต มาลั๊นลาเดินชมวิวทิวทัศน์อันสวยสดใสของวิวริมแม่น้ำโขง ที่ธรรมชาติได้สรรค์สร้างไว้อย่างงดงามเว่อร์วัง
อลังการทิวเขาสีเขียวชะอุ่มชุ่มชื่น ไม่แพ้ที่ใดในเมืองไทย “นครพนม พระธาตุพนมค่าล้ำ วัฒนธรรมหลากหลาย เรณูผู้ไท เรือไฟโสภา งามตามฝั่งโขง”

DCIM\100GOPRO\GOPR6082.JPG

ในช่วงปลายวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันลาพักร้อน วันพักผ่อนหย่อนใจ ใครที่กำ
ลังวางแผนมาเที่ยวในจังหวัดนึรพนม และอยากมาพักค้างคืนสักคืนสองคืน แต่ยังไม่รู้จะไปเลือกพักโรงแรมใหนดี วันนี้ โวยวาย ขอมาแนะนำ โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว นครพนม ตั้งอยู่บนถนนเส้นวัฒนธรรม ติดกับแม่น้ำโขงในระยะที่เดินไปเพียงไม่กี่ก้าว ช่วยสร้างบรรยากาศการพักผ่อนที่ดีงามให้นักท่องเที่ยวมาเยือน

ลานพญาศรีสัตตนาคราช ในยามเย็น

มาถึงนครพนมก็ต้องกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันก่อน ที่ พญาศรีสัตตนาคราช เป็นแลนด์มาร์คศักดิ์สิทธิ์สองฝั่งแม่น้ำโขง โบราณสถาน โบราณวัตถุ ที่สำคัญแหล่งหนึ่งของชาวนครพนม ซึ่ง พญานาค ด้วยความเชื่อและความศรัทธาของพี่น้องชาวไทยและชาวลาวเกี่ยวกับองค์พญานาคที่คอยดูแลปกปักษ์รักษาผู้คนในแถบลุ่มน้ำโขงและองค์พระธาตุพนม การท่องเที่ยวมาชมวิถีชีวิตของพี่น้องริมฝั่งโขง ด้วยทำเลที่บรรยากาศดี ก็มีที่พักมากมาย ควรค่าแก่การมาพักผ่อน บรรยากาศริมแม่น้ำโขงที่สงบและค่อนข้างเป็นส่วนตัว มีสนามหญ้าริมน้ำเหมาะกับคนที่อยากเดินเล่นรับลมเย็นและอากาศดีๆ ห้องพักกว้างขวางตกแต่งอย่างเรียบง่ายพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายที่ค่อนข้างครบครัน มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ร้านอาหาร และบาร์ เอาไว้คอยให้บริการด้วยห้องพักที่มีให้เลือก เช่น ห้องพักแบบซูพีเรียร์ เตียงแฝดวิวแม่น้ำ ห้องแบบดีลักซ์ วิวแม่น้ำ ห้องพักแบบพาโนรามา วิวแม่น้ำ ห้องพักแบบจูเนียร์ สวีท วิวแม่น้ำและห้องพักแบบเพรสซิเดนท์ สวีท แค่วิวแม่น้ำสุดจะคุ้มค่าแล้ว อีกทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพัก ที่จัดวางอย่างสวยงาม ที่มีบริการอาหารบุฟเฟ่ต์ในช่วงเช้าและที่น่าประทับใจ มีสระว่ายน้ำ ให้เพลิดเพลินกับวิวแม่น้ำโขง และรับประทานอาหารเช้าไปพร้อมทั้งชมวิวแม่น้ำโขงอย่างมีความสุข

วิวริมโขง

โดยรอบของโรงแรมติดริมแม่น้ำโขง และทางโรงแรมก็ได้อำนวยความสะดวก จัดโซนจุดให้นั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกดินยามเย็น และมีเส้นทางเชื่อมโยงมแหล่งท่องเที่ยวติดกับโรงแรมถือเป็นจุดแลนด์มาร์คบ้านวัฒนธรรมโบราณ ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและสินค้าพื้นเมือง ตั้งอยู่บริเวณ ถนนสวรรค์ชายโขง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม โดยที่นี่รวมเอาเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของคน 8 ชนเผ่า 2 เชื้อชาติที่อาศัยอยู่ในนครพนม ในรูปแบบบ้านวัฒนธรรมโบราณของแต่ละชนเผ่าที่อาศัยอยู่ใน อำเภอของตนเองขึ้นมา จำนวน 12 หลัง ใช้พื้นที่สาธารณประโยชน์ที่อยู่ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ห่างจากองค์พญาศรีสัตตนาคราชไปทางทิศใต้ประมาณ 2 กิโลเมตรบ้านแต่ละหลังจะสร้างจากไม้เก่าทั้งหมด ลักษณะตัวบ้านเป็นแบบบ้านยกสูงมีชานยื่นออกมาโดยทุกหลังจะมีลักษณะแข็งแรงถาวร

โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว นครพนม เป็นที่พักซึ่งอยู่ในเขตชุมชน สะดวกสบายในการมองหาร้านอาหารและร้านค้า เป็นที่พักโขงเจียมราคาดีและค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว บรรยากาศในที่พักตกแต่งอย่างเรียบง่าย ห้องพักกว้างและมีรูปแบบให้เลือกพักได้ตามความต้องการ ตกแต่งอย่างเรียบง่าย การตกแต่งเน้นความจำเป็นในชีวิตประจำวันที่ครบครัน และแบ่งพื้นที่สัดส่วนการใช้งานในห้องพักได้อย่างสะดวกและลงตัว ทำเลโรงแรมติดริมแม่น้ำโขง วิวสวยบรรยากาศดีเป็นแหล่งท่องเที่ยวซึ่งมีความงดงามทางธรรมชาติ

ประเภทห้องพักโรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว นครพนม มีห้องหลายฟังก์ชั่นให้เลือกใช้บริการ

Superior River View King Bed

Superior River View Twins Bed

Deluxe River View King Bed

Deluxe River View Twin Beds

Deluxe Pool Side

Panorama River View King Bed

Panorama River View Twin Beds

Junior Suites Room

President Suites

โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว นครพนม มีห้องพักให้บริการ 122 ห้อง ห้องพักปรับปรุงใหม่ทั้งหมด และสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของแม่น้ำโขงจากห้องพักทุกประเภทได้อย่างชัดเจน มีบริการครบวงจร ห้องพัก​กว้างขวาง​สะอาดจัดได้ลงตัว และทันสมัย มองเห็นวิวแม่น้ำโขง มีอาหารเช้าฟรี Wi-Fi ฟรี ที่จอดรถสะดวกสบาย มาเที่ยวนครพนมต้องห้ามพลาด

โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว นครพนม
Fortune River View Hotel Nakhon Phanom
Tel. 042 522 334
Line OA : @fortunehotelgroup https://lin.ee/Bj1vy7p
9 ถนนนครพนม-ธาตุพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม 48000

FB : Fortune River View Hotel Nakhon Phanom
LINE : @FortuneHotelGroup (มี @ ทุกครั้ง)

เส้นทาง :
www.google.com/travel/hotels/s/cvErUNSae7SfCuSU9

ยุ้งข้าวหอม เปิดตัว “เชฟอ้อม” เสิร์ฟเมนูอาหารใต้สุดยอดจานเด็ดเซ็ตใหม่


“ยุ้งข้าวหอม” ร้านอาหารใต้รสดั้งเดิม ที่ผสานอาหาร 3 วัฒนธรรมถิ่นใต้เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว และมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ได้ฤกษ์เปิดตัว เชฟอ้อม-สุจิรา พงษ์มอญ เจ้าของรางวัล Michelin Guide Young Chef Award คนแรกของประเทศไทย ที่จะมารังสรรค์เมนูอาหารใต้เมนูใหม่ของร้าน “ยุ้งข้าวหอม” ที่เชื่อว่า ทุกคนจะหลงรักอาหารไทยถิ่นใต้ของร้านยุ้งข้าวหอมมากขึ้น เพราะแต่ละเมนไม่เพียงจะยังคงรสชาติ และรสสัมผัสของความเป็นอาหารถิ่นใต้โดยแท้จริงเท่านั้น แต่ยังทำให้ทุกคนซึมซับกับบรรยากาศของความเป็นถิ่นใต้ไปพร้อมกันด้วย เพื่อต้อนรับการกลับมาใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติอีกครั้ง

ข้าวยำ
แกงปูใบชะพลู
ปลาหมึกน้ำดำ
สามชั้นหน่อเหรียง
เชฟอ้อม-สุจิรา พงษ์มอญ เจ้าของรางวัล Michelin Guide Young Chef Award
คนแรกของประเทศไทย
โอวต้าว


เชฟอ้อม-สุจิรา พงษ์มอญ เปิดเผยว่า ทุกเมนูใหม่นี้ มาจากแนวคิดเรื่องของการผสานวัฒนธรรมทั้ง 3 วัฒนธรรม ได้แก่ ไทย-พุทธ, ไทย-มุสลิม และไทย-จีน ที่อยู่ในภาคใต้ของประเทศไทย “รสชาติของอาหารแต่ละท้องถิ่นจะไม่เหมือนกัน อันเป็นลักษณะเด่นของถิ่น ที่เกิดการแลกเปลี่ยนประเพณีและวัฒนธรรมถ่ายทอดผ่านอาหารทุกจานอย่างลงตัว โดยความพิเศษของทุกเมนูในร้านอยู่ที่การปรุงอาหารอย่างกลมกล่อมโดยปราศจากผงชูรสและยังเน้นใช้เครื่องแกงทั้งหมดที่เป็นวัตถุดิบและเป็นสูตรของทางร้านเอง เราตำพริกแกงเอง ทำให้เมนูทุกเมนูมีอัตลักษณ์เฉพาะตัวตามแบบฉบับ ‘ยุ้งข้าวหอม’ อาทิเช่น แกงปูใบชะพลู, ผัดเผ็ดหมูสามชั้นหน่อเหรียง, ซี่โครงหมูกอและ, โอวต้าว, และปลาหมึกผัดน้ำดำ
ยิ่งไปกว่านั้น เชฟออมยังบอกด้วยว่า การมารับประทานอาหารที่ร้านยุ้งข้าวหอม ยังทำให้ทุกคนได้สัมผัสถึงวัฒนธรรมการรับประทานอาหารแบบไล่ลำดับ ตามแบบฉบับถิ่นใต้ เพราะทุกเมนู มีรสชาติที่โดดเด่น และเพื่อให้เกิดการผสมผสานทุกรสชาติอย่างลงตัว นอกจากนี้ เรายังมีการนำขนมหวานท้องถิ่นใต้มาปรุงอย่างพิถีพิถัน เพื่อลดความเผ็ดร้อนหลังจากรับประทานอาหารที่มีรสจัดจ้าน ซึ่งขนมหวาน้ดังกล่าว ประกอบด้วย ขนมโคน้ำกะทิ, ขนมตาหยาบ, โรตีกล้วยเสิร์ฟกับไอศกรีม และโอ้เอ๋ว เป็นต้น”

ว เชฟออม-สุจิรา พงษ์มอญ เจ้าของรางวัล Michelin Guide Young Chef Award
คนแรกของประเทศไทย


สำหรับเมนูอาหารที่เชฟออม รังสรรค์ขึ้นมาเฉพาะ ที่ร้านยุ้งข้าวหอม ในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย ยำยุ้งข้าวหอม แกงปู ใบชะพลู แกงคั่วกระดูกหมูใบยี่หร่า ยำปูนิ่มมะม่วง ซุปจาระเม็ดต้มเต้าเจี้ยว ผัดหมี่ฮกเกี้ยน ข้าวยำ ปลาหมึกน้ำดำ สามชั้นหน่อเหรียง โอวต้าว รวมถึงยังมี คั่วกลื้งเนื้อ แกงส้มปลาใบกะเพรา ชะอมไข่เค็ม และคากิฮ้อง เป็นต้น ในส่วนของขนมหวาน ประกอบด้วย ขนมโค และ ขนมตาหยาบ

ขนมตาหยาบ
ขนมโค

อย่างไรก็ดีเพื่อเป็นการตอบรับต่อกระแสเรียกร้องของผู้ที่ชื่นชอบอาหารใต้ ในเร็วๆ นี้ ทางร้านยุ้งข้าวหอม ยังได้เตรียมพร้อมเปิดสาขาใหม่ล่าสุด เพิ่มขึ้นอีก 2 แห่งคือ ร้านยุ้งข้าวหอมสาขา CDC และ ร้านยุ้งข้าวหอม สาขาแอทธินี ทาวเวอร์ ซึ่งทั้งสองสาขานี้ จะทำให้ลูกค้า และนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบในความจัดจ้านของรสชาติความเป็นอาหารใต้ เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าในการเดินทางไปสัมผัสกับรสชาติของอาหารใต้ และสามารถอิ่มอร่อยกับอาหารใต้อย่างเต็มที่มากขึ้น และเชื่อว่าหลังจากที่ทุกคนได้ลิ้มลองอาหารใต้เมนูใหม่ทั้งหมดนี้แล้ว ทุกคนก็จะหลงรัก ร้านยุ้งข้าวหอม มากขึ้นแน่นอน

หมอแยม พญ.รุ่งไพลิน รัตนชีวร แนวคิดชีวิตคิดบวก บนพื้นฐานความจริง เวิร์คไลฟ์บาลานซ์

Toptotravel มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษมาพบปะพูดคุยกับพบกับ หมอความงาม หมอแยม พญ.รุ่งไพลิน รัตนชีวร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและศาสตร์ชะลอวัย รวมไปถึงการดูแลปัญหาต่างๆ ของร่างกาย และการรักษาสุขภาพแบบองค์รวม ฝีมือและประสบการณ์ของคุณหมอที่ฉีดถือเป็นข้อสำคัญมาก หากคุณหมอไม่เชี่ยวชาญากไม่รู้จักทุกจุด ทุกมุมบนใบหน้าคนไข้แต่ละคน ยากมากที่จะออกมาตามแบบที่ต้องการ

เพื่อเข้ามาช่วยดูแลปัญหาเกี่ยวกับหน้าตา ผิวพรรณและบุคลิกภาพ การเสริมความงามก็เป็นศาสตร์ในแขนงหนึ่งทางการแพทย์ หมอจะเป็นด่านแรกในการปรึกษา เพื่อการรักษาที่ตรงจุด ไม่มีพนักงานขายของ เพื่อประโยชน์ของคนไข้มากที่สุด ทั้งเรื่องของการได้รับผลลัพธ์ทันที และไม่สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ” เรียกว่าเป็นนิยามของ หมอแยม หรือ พญ.รุ่งไพลิน รัตนชีวร แพทย์ผู้มีประสบการณ์เชี่ยวชาญด้านความงาม กับการทุ่มเทการรักษาดูแลคนไข้ หรือแม้แต่ผู้ที่เข้ามาปรึกษาด้านความงามไม่ใช่การมุ่งเน้นทำธุรกิจ เป็นบริการครบวงจรตั้งแต่เรื่องผิวหน้า รักษาสิว ฝ้า กระ ปรับรูปหน้า ยกกระชับใบหน้า รวมถึงร้อยไหม ฉีดฟิลเลอร์ และบริการอื่นๆ

THOMAS CLINIC (โทมัส คลินิก) สถานที่ทำงานของคุณหมอแยม

คุณหมอที่เชี่ยวชาญด้านความงาม คลินิกที่กำลังพูดถึงมีชื่อว่า โทมัสคลินิก ทองหล่อ กรุงเทพ บนชั้น 2 อาคารฟิฟตี้ฟิฟทองหล่อ ติดหน้าถนนทองหล่อ ซอย2 THOMAS CLINIC สถานที่ทำงานของคุณหมอแยม ซึ่งแค่เห็นชื่อคลินิก รู้สึกเห็นถึงความแตกต่างแบบไม่ซ้ำใครแล้ว ยิ่งเดินเข้ามาในคลินิก สัมผัสได้ถึงความเป็นส่วนตัวอย่างชัดเจน หมอแยม เล่าให้ฟังว่า เหตุผลที่ตั้งชื่อคลินิกแบบนี้ เพราะลูกค้าส่วนหนึ่งที่เข้ามาใช้บริการนั้น เป็นผู้ชาย “ลูกค้าเกือบครึ่งหนึ่งของคลินิก เป็นผู้ชายแท้ๆ ซึ่งตอนที่คิดเปิดคลินิก อยากได้ชื่อที่ทำให้ผู้ชายรู้สึกอยากเข้ามาใช้บริการ อันจะนำมาซึ่งความมั่นใจของลูกค้าในเรื่องหน้าตาและบุคลิกภาพของตนเอง”


แพทย์ผู้มีประสบการณ์เชี่ยวชาญด้านความงาม การทำงานของ หมอแยม ความเชี่ยวชาญที่จริงใจและใส่ใจ ในทุกรายละเอียดของความงามพร้อมมาตรฐานการทำงานที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เพื่อความพึงพอใจและปลอดภัยอย่างสูงสุดของลูกค้า “ขณะเดียวกัน คลินิกเสริมความงาม ไม่ใช่เพียงคลินิกที่มีคอร์สทรีทเม้นท์มากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นการรักษาและบำรุงจากภายใน เช่นบางรายมีปัญหาเรื่องเส้นผม หรือ ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย มีปัญหาข้อเข่า มีบริการดูแล และหาสาเหตุอาการแต่ละจุดตามที่ลูกค้าต้องการเป็นรายบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลจริง นี่อาจเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใดก็ตาม เรามักจะได้ยินได้ฟังกันเสมอว่าทำในสิ่งที่เรารักเราชอบ แล้วเราจะทำมันอย่างมีความสุข”

หลังจากอยู่ในวงการความงามได้ประมาณ 10 กว่าปี จะว่าไปแล้ว วันนี้ผู้ชายจำนวนไม่น้อยหันมาให้ความสนใจเรื่องของความงามไม่ต่างจากผู้หญิง ยิ่งเป็นผู้ชายในแวดวงธุรกิจ แล้ว ทำให้เขาเห็นความสำคัญในเรื่องภาพลักษณ์บริษัท หรือ ธุรกิจที่ทำอยู่หรือ บางราย ผู้หญิงสวยๆ ก็มักจะพาแฟน หรือ สามี มารับบริการ เพื่อให้ดูดีเหมือนกัน” ส่วนวิธีการดูแลด้านความงามของผู้ชาย คุณหมอแยม เล่าว่า แตกต่างไปจากผู้หญิง ผู้ชายบางคน มีริ้วรอยแห่งวัย ก็อยากจะให้เราช่วยรักษาให้ริ้วรอยลดลง อาจไม่ต้องให้ถึงกับหายไปเลย แต่ให้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องทำเยอะเหมือนผู้หญิง บางคนมาด้วยปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย เราก็จะช่วยยกกระชับใบหน้าให้ ทำให้ไม่เพียงลูกค้าจะรู้สึกใบหน้ากระชับเท่านั้น แต่ยังได้ความอ่อนวัยกลับไปด้วย

“วันนี้จำนวนลูกค้าที่เป็นผู้ชายที่เข้ารับบริการกับทางคลินิกของเรามีถึง 40% ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะชื่อของคลินิก การตกแต่ง รวมไปถึงการดูแลรักษาของเรา ที่มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างมาก และจุดเด่นอีกอย่างของคลินิกเรา ไม่ต้องมานั่งรอคิวเยอะๆ และไม่มีเซลล์มารบกวนลูกค้าเลย เราจะทำนัดลูกค้าทุกคน พอมาถึงคลินิก ก็เข้าห้องรักษาเลย เสร็จแล้วก็กลับบ้านค่ะ” เรียกว่าตอกย้ำถึงความเป็นส่วนตัวอย่างเห็นได้ชัดประเด็นความยากง่ายการรักษา คุณหมอแยมเล่าว่า การดูแลรักษาผู้ชายก็ยากเหมือนกัน “ช่วงแรก ๆ ยากมากค่ะ ยิ่งผู้ชายที่ไม่เคยเข้ารับบริการด้านความงามมาก่อน ก็ยากมาก เพราะเขาจะรู้สึกว่า ทำไปทำไม ทำแล้วได้อะไร และยิ่งกว่านั้น ผู้ชายเป็นคนกลัวเจ็บ กลัวเข็ม ต่างจากผู้หญิงที่มีความอดทน โดยเฉพาะการอดทนเพื่อความสวย แต่พอผู้ชายได้ทำไปแล้ว เขาก็จะรู้สึกดี และไม่ทำให้เขาดูเปลี่ยนแปลงเยอะ มีความเป็นธรรมชาติ ทำให้รู้สึกมั่นใจ” คุณหมอแยม บอกด้วยว่า หลังจากที่ผู้ชายเปิดใจกับสิ่งใหม่แล้ว ความใส่ใจ ความจริงใจ ขอ คำนึงถึงผลประโยชน์ที่ลูกค้าควรจะได้รับอย่างแท้จริง เขาก็จะเป็นคนตัดสินใจเองว่า ทำโปรแกรมอะไรต่อไป

โดยที่ทางคลินิกไม่ต้องนำเสนอโปรแกรมอะไรเลยไม่ว่าจะเป็น เซเลบริตี้ หรือ ดารานักแสดง รวมถึงคนดังในแวดวงต่างๆ หากเข้ามารับบริการในคลินิก สิ่งหนึ่งที่จะไม่เจอเลยคือ การถ่ายภาพ เพื่อไปทำโฆษณา หรือแม้แต่การขายคอร์ส ขายโปรแกรม “เพราะเราไม่ทำการตลาดแบบนั้นอยู่แล้ว ยิ่งการถ่ายภาพ Before & After เรารู้สึกว่าเหมือนเป็นการทำภาพให้ดูเกินจริง ทางคลินิกของเราจึงเน้นทำให้ลูกค้าเห็นผลกันจริงๆ เลยดีกว่า แล้วแนะนำเป็นคอนเนคชั่นแบบบอกต่อกันไป”

อีกสิ่งหนึ่งที่คุณหมอแยม ทำมาตลอดคือ การให้คำปรึกษากับลูกค้าโดยตรง “หมอจะเป็นคนบอกลูกค้าเองว่า เขาควรทำอะไร และดูแลจุดใดเป็นพิเศษ ขณะที่เทียบกับคลินิกอื่น ก็จะเป็นการปรึกษากับเซลล์ที่ไม่ได้จบแพทย์ หรือ พยาบาล บางทีมีการบอกคอร์สผิด ก็มาขายคอร์สเพิ่มให้ลูกค้า ทำให้สิ้นเปลือง และสร้างความสับสนให้กับลูกค้า เราเลยเน้นไปที่ การให้คำปรึกษากับลูกค้าโดยตรง เพราะเราเองก็เป็นแพทย์อยู่แล้ว จะตอบคำถามลูกค้าเองหมด แม้แต่ในไลน์ หมอก็จะเป็นแอดมิน คุยกับลูกค้าโดยตรง”


เชื่อหรือไม่ โทมัส คลินิก ไม่เคยลงโฆษณาในสื่อเลย นอกเสียจากมีสื่อเข้ามาสัมภาษณ์เอง “เนื่องจากเรามีฐานลูกค้าเป็นแบบไพรเวท วีไอพี หากเราไปลงโฆษณา ลูกค้าก็จะไปดูที่ราคาเป็นหลัก และเขาก็จะไม่ได้รู้จักเราจริงๆ ส่งผลให้เกิดความยากในการทำงาน ไปจนถึงต้นทุนค่าใช้จ่าย” ในช่วงวิกฤตโควิดที่ผ่านมา คุณหมอแยม เล่าว่า ทางคลินิกแทบไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลยจากวิกฤต ขณะที่บางคลินิก มุ่งแต่จะลงโฆษณา แล้วสู้กันที่ราคาว่า ใครถูกกว่ากัน “ยิ่งเราไม่มีเซลล์ ก็ไม่ต้องแบ่งรายได้ 20-30% ให้เซลล์ และเราก็สามารถลดราคาให้กับลูกค้าได้เอง ที่สำคัญเราไม่ได้ตั้งราคาสูงเกินไป ทำให้ลูกค้ามักกลับมารักษากับเราอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจของลูกค้าที่ให้กับเราค่ะ”

“ด้วยความรู้สึกที่ว่า… ถ้าเราอยากเป็นนักธุรกิจ ควรไปประกอบอาชีพอื่นดีกว่า แต่เรามองว่าเราเกิดมาเป็นแพทย์อยากทำหน้าที่แพทย์ให้ดีที่สุด จนถึงวันสุดท้ายของชีวิต ซึ่งทำให้เรารู้สึกดี และภูมิใจในตัวเองมากที่สุด”

คุณหมอแยม เล่าต่อถึง แนวคิดชีวิตคิดบวก บนพื้นฐานความจริง แนวคิดที่เธอวางไว้เหล่านี้ทำให้เธอ รู้สึกถึงความสมดุลในชีวิต “เรียกว่า เวิร์คไลฟ์บาลานซ์ ของเราในวันนี้ดีทุกอย่าง มีเวลาส่วนตัวมากพอ ที่จะได้ทำในสิ่งที่อยากทำ เช่นการทำบุญ หรือออกงานสังคม พบเพื่อนฝูง ขณะเดียวกันเรายังมีเวลาที่จะได้ดูแลลูกค้าด้วย เพราะวันนี้ การทำงาน ถือเป็นความสุขของเราจริงๆ” ด้วยการได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง

ปรึกษา คุณหมอแยม-พญ.รุ่งไพลิน รัตนชีวร ได้ที่ THOMAS CLINIC
(ชั้น 2) อาคารฟิฟตี้ฟิฟ ทองหล่อ (ปากซอยทองหล่อซอย 2)
สุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110

โทรศัพท์ 063-5569-669 หรือ ที่ IG :@ThomasClinic
Facebook: Thomas Clinic (@thomasclinic.thonglor)

ร้านอาหารอิตาเลียน บูโอนิชชิโม Buonissimo โดยเชฟอดอล์โฟ ฟาซิน อดีตวิศวกร

Toptotravel อยู่ที่ร้านอาหาร Buonissimo Italian Restaurant & Pizzeria บรรยากาศเหมือนไปเที่ยวบ้านเพื่อน เพื่อนชาวอิตาลีคนนี้มีอัธยาศัยที่ดี เช่นเดียวกับชาวอิตาลีคนอื่นๆ เมื่อมาถึงด้านในร้าน สัมผัสได้ถึงบรรยากาศร้านเหมือนบ้านน่ารักดูอบอุ่น ชวนให้มานั่งกินอาหาร ส่วนด้านในร้านเป็นห้องแอร์
ถูกตกแต่งอย่างเก๋ไก๋มีสไตล์ มีโต๊ะเก้าอี้นั่งหลายรูปแบบ หลากหลายมุมให้
เลือกนั่งตามชอบใจ ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ แบบเป็นกันเอง

“Mattia” ผู้จัดการร้าน
“Carlo” นักดนตรีชาวอิตาลี
“Mattia” ผู้จัดการร้าน และเจ้าของร้าน “อดอล์โฟ”

“Mattia” ผู้จัดการร้าน คนเวนิสบ้านเดียวกับเจ้าของร้าน “อดอล์โฟ” เวนิสเมืองสุดคลาสสิคแห่งนี้ยังมีวัฒนธรรมการรับประทานอาหารที่โดดเด่นเป็นของตัวเอง รวมทั้ง “Carlo” นักดนตรีชาวอิตาลี ที่มาอยู่ในเมืองไทย เกือบสิบปี ซึ่งมาโชว์ลีลาแมนโดลินทั้งเพลงไทยและสากล เป็นการเพิ่มเติมบรรยากาศอันอบอุ่นและไม่ว่าจะเป็นอาหารจากชนชาติใด ต้นทางของวัตถุดิบมีความสำคัญเสมอ อาหารของแต่ละประเทศใช้การผสมผสานศิลปะและภูมิปัญญาของแต่ละท้องถิ่นเข้าไป  เมื่อทุกอย่างรวมตัวกันภายใต้คำว่า “ความตั้งใจ” กลายเป็นอาหารจานพิเศษ

การทำอาหาร และนำเสนออาหารเมนูพิเศษต้นตำรับเวนิส จึงกลายเป็นการแสดงออกถึงความรักความห่วงใย ปรุงเมนูอิตาเลียนแบบที่ทั้งต้นตำรับและโฮมเมดได้อย่างน่าสนใจ อีกทั้งยังไม่หนักท้องจนเกินไป เชฟหลายคนมีเมนูในความทรงจำท่ามกลางบรรยากาศในวัยเยาว์ที่ยังอบอุ่นเสมอ เช่นเดียวกับเขา
อดอล์โฟฟาซิน (Adolfo Faccin) ชาวอิตาลีรูปหล่อและอารมณ์ดี เจ้าของร้านอาหารอิตาเลียน Buonissimo (บูโอนิชชิโม)

อดอล์โฟ ฟาซิน อดีตวิศวกร เขาเป็นนักชิมตัวยง การทำอาหารเป็นงานอดิเรกของเขา เขาอยู่ในเมืองไทยมาประมาณ 30 ปี และมีประสบการณ์ในการเปิดร้านอาหารอิตาเลียนในกรุงเทพมาก่อน จนในช่วงโควิด-19 เขาได้มาพบพื้นที่เปิดร้านแห่งใหม่ ในซอยศรีด่าน 6 ถ.ศรีนครินทร์ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยพบว่า มีตึกที่สามารถเปิดร้านขนาดใหญ่กำลังดี เข้าซอยเพียง 100 เมตร เป็นทำเลที่กำลังได้รับการพัฒนาจากโครงการรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างในปัจจุบัน 2565

ปลายปี 2020 Buonissimo ถือกำเนิดขึ้นในย่านแห่งนี้ ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นตัวของตัวเองชัดเจน แม้จะห่างไกลใจกลางกรุง ไม่ใช่แหล่งที่มีชาวต่างชาติที่คึกคักมากนัก เริ่มต้นสี่เดือนแรกหลังจากทดลองตลาดเดลิเวอรี่ เขาพบว่าคนไทย กับ พิซซ่า ไม่ใช่เรื่องที่ห่างไกลกันเลย โดยเฉพาะพิซซ่าสไตล์อิตาเลียนแท้ๆ แป้งบางกรอบนอกนุ่มใน ใช้วัตถุดิบอย่างดี นำเสนอในราคาที่จับต้องได้ เทียบแล้วถูกกว่าแบรนด์ใหญ่ในตลาดเสียด้วยซ้ำ ทำให้การเปิดตัวในตอนนั้นมีผลตอบรับที่ดีมาก ปัจจุบันทางร้านขายพิซซ่าชนิดต่างๆ ผ่านทางออนไลน์ได้กว่า 600 ถาดต่อเดือน

อดอล์โฟ ฟาซิน เล่าว่า วัตถุดิบมีส่วนสำคัญมากสำหรับอาหารอิตาเลียนสร้างสรรค์อาหารจานพิเศษ หลายอย่างจึงต้องอาศัยการนำเข้าจาก อิตาลี ไม่ว่าจะเป็นชีส ไส้กรอก พริก แองโชวี่ ฯลฯ รู้สึกเหมือนได้มากินอาหารบ้านเพื่อน ขณะที่หัวใจรักในการทำอาหาร เป็นสิ่งที่อยู่ติดตัวเขาตลอดเวลา 30 ปีที่อยู่ในเมืองไทย อดอล์โฟ มีภรรยาชาวไทย เขาเองชอบกินอาหารไทย และอยากให้คนไทยได้ลิ้มรสอาหารอิตาเลียนจากความตั้งใจของ อดอล์โฟ เช่นกัน สำหรับอาหารของที่นี่อย่างที่บอกว่าโดดเด่นด้วยพิซซ่าโฮมเมดแบบเตาฟืน โดยมี อดอล์ฟ ฟาซิน (Adolfo Faccin) ผู้ซึ่งเป็นทั้งเชฟมากฝีมือและเป็นเจ้าของร้าน ซึ่งในวันนี้ อดอล์ฟ ฟาซิน ภูมิใจนำเสนอเมนูจานเด่นที่อยากแนะนำเริ่มต้นที่

สลัดบูราต้าชีส พาร์มาแฮม (BURRATA E PROSCIUTTO DI PARMA) เมนูแรกที่แอบซ่อนความลับแสนอร่อยไว้ภายใน เป็นบูราต้าชีสถุงกลมเนื้อเนียน ด้านในซ่อนชีสครีมนุ่มละมุน  ด้านบนเป็นพาร์มาแฮมเกรดดี ร็อกเก็ตสลัดและมะเขือเทศเชอรี่ เหยาะ บัลซามิก กลิ่นหอม รสอมเปรี้ยวกำลังดี

มิกซ์ บรูสเก็ตต้า (MIXED BRUSCHETTA) ขนมปังโฮมเมด ทำจากแป้งสาลีคาร์โบไฮเดรตต่ำ สดใหม่ทุกวัน  นำมาปิ้งและท้อปปิ้งสไตล์อิตาเลียนที่สามารถเลือกหน้าได้ถึง 5 ชิ้น 5 แบบ จากสิบกว่ารายการ

SAUTE AI FRUTTI DI MARE

ซีฟู้ดซุปไวท์ไวน์ซอส (SAUTE AI FRUTTI DI MARE ) ซุปรสชาติหอมละมุน ด้วยความสดจากอาหารทะเล ทั้งกุ้ง หอย และปลาหมึก หอมกลิ่นกระเทียมและพาร์สลีย์รสชาติเข้มข้น อร่อยมาก

พาสต้าโฮมเมด ทางร้านมีพาสต้าหลายแบบให้เลือก ปรุงได้หลากหลายเมนู
ในวันนี้มี 3 เมนูมาแนะนำ

พาสต้ากุ้งและซูกินี่ (GAMBERI E ZUCCHINE) ใช้เส้นพาสต้าทาญเลียเตลเล่ (TAGLIATELLE) ผัดกับมะเขือเทศเชอรี่และซูกินี่ แต่ความกรุบกรอบต่างกัน เส้นเหนียวนุ่มกำลังดี

(PUTTANESCA PICCANTE

ราวิโอนี่ครีมซอสเห็ดไส้กรอกอิตาเลียน (BOSCAIOLA) พาสต้าราวิโอลี่ (RAVIOLI) ลักษณะคล้ายเกี๊ยวรูปสี่เหลี่ยม ตัวราวิโอลี่นุ่มหนึบกำลังดี ไม่นิ่มหรือแข็งจนเกินไป ซอสครีมหอมละมุน เมื่อกัดเข้าไปในไส้ชีสด้านในแป้งยิ่งทำให้ได้สัมผัสรสที่เต็มไปด้วยชั้นเชิง

พาสต้าไส้ผักโขมและแองโชวี่ (PUTTANESCA PICCANTE ) จานนี้จะมีรสเข้มข้น จากส่วนผสมของซอสมะเขือเทศ แองโชวี่ และมะกอกดำ แสดงถึงความพิถีพิถันในการรังสรรค์อาหารสไตล์อิตาลี ในรสชาติที่นักชิมเข้าถึงได้

FILETTO DI BRANZINO SERVITO CON SALSA AL LIMONE

เสต็กเนื้อปลากะพง เลม่อนซอส” (FILETTO DI BRANZINO SERVITO CON SALSA AL LIMONE) เมนูที่คุ้นลิ้นของคนไทย  ด้วยกรรมวิธีที่ไม่ทำให้เสียรสชาติปลามากเกินไป ดูภายนอกเนื้อปลาจึงดูเสมือนไร้การปรุงแต่ง แต่ลองได้ชิมแล้ว จะมีรสเค็มมาเสริมแต่งความสดของเนื้อปลาที่มีความหวานในตัว เมื่อราดเลม่อนซอสสัมผัสที่แตกต่าง

มาถึงเมนูเด็ดที่คนไทยคุ้นเคยอย่างพิซซ่า วัตถุดิบสูตรพิเศษ แป้งเกรดดี บางเหนียว-นุ่มตัวขอบโป่งฟู อบด้วยเตาฟืน วันนี้เชฟนำเสนอพิซซ่าแบบ 2 หน้า เพื่อจะได้ชิมกันทั้งสองแบบ โดยพิซซ่าสองหน้าจะคิดราคาตามหน้าที่แพงกว่าพิซซ่าเตาถ่านสไตล์อิตาลี ใช้เวลาเพียงไม่ 1-2นาที หอมกรุ่นออกจากเตา วางลงเพื่อเติมรสชาติบางอย่าง วันนี้ครึ่งหนึ่งเป็น พิซซ่า “ดิอาโวล่า” (DIAVOLA) ชื่อ DIAVOLA ภาษาอิตาลีมาจาก “Devil” หมายถึงปีศาจ เป็นที่มาของพิซซ่าปีศาจ ที่มีรสร้อนแรงจากซาลามี่รสเผ็ด เมื่ออบเสร็จแล้วเหยาะด้วยน้ำมันพริก ให้ความเผ็ดร้อนกำลังดี เป็นอีกเมนูที่คนไทยชอบมากๆ มาเจอพิซซ่าร้านนี้เพราะเพื่อนแนะนำ ร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์โฮมมี่ที่เสิร์ฟเมนูแป้งพิซซ่า เหนียวนุ่ม ขึ้นรูปกันสดๆ พิซซ่าโฮมเมดรสดี ที่นี่นวดแป้งแบบสดใหม่ ทำพิซซ่าแบบถาดต่อถาดเสิร์ฟมาแบบร้อนๆ หอมกรุ่นจากเตา นำเข้าเตาอบที่ส่งตรงมาจากอิตาลีโดยตรง และที่สำคัญพิซซาแป้งบาง ต้องทานตอนอบเสร็จ ออกจากเตาแล้วทันทีอร่อยมากๆ

บูโอนิชชิโม (BUONISSIMO) ซิกเนเจอร์ของทางร้าน พิซซ่าโฮมเมดรสดีหน้าชีส แฮมเห็ด ซาลามี พริกหวาน และมะกอกดำ ถาดใหญ่จัดเต็ม  แป้งเนื้อนุ่มหนึบได้ที่ กรอบนอกนุ่มใน ทั้งยังได้กลิ่นหอมกลิ่นเตาถ่าน ผสานกับรสชาติของวัตถุดิบที่อร่อยลงตัว

SEMIFREDDO

ปิดท้ายที่ของหวานด้วยเมนูของหวานสไตล์อิตาลีที่ทางร้านตั้งใจนำเสนอ เซมิเฟรโด (SEMIFREDDO) เป็นของหวานสไตล์อิตาเลียนที่มีความเป็นเอกลักษณ์แบบ Half Cold หรือเย็นครึ่ง ๆ ตัวขนมเหมือนมูสแช่แข็ง แต่มีความฉ่ำนุ่มละมุนคล้ายไอศกรีม นำเสนอมาในรสกาแฟอ่อน ๆ ตัดกับความกรอบของเนื้อคุ้กกี้เล็ก ๆ หวานเย็นชื่นใจ

CANOLI WITH ICE CREAM TOPPING

อีกเมนูชื่อว่า CANNOLI (CANOLI WITH ICE CREAM TOPPING) คาโนลี เป็นขนมแป้งทอดสไตล์อิตาเลียน ตัวแป้งจะกรอบมากภายในอัดแน่นไปด้วยครีมชีสรีคอตต้ารสหวาน เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศกรีม โรยช็อกโกแลต เป็นของหวานที่ชวนฝัน เชฟบอกว่าไม่นิยมตัดด้วยช้อน ให้ใช้มือยกขึ้นมาเข้าปากได้เลยจะได้รสชาติเต็ม ๆ

Homemade Orange Balsamic Reduction

ทางร้านยังมีสินค้าจากภูมิปัญญาของชาวอิตาลี Homemade Orange Balsamic Reduction ความหลงใหลในวัตถุดิบจากอิตาลี บัลซามิกที่ผ่านการหมักอย่างดี เปรี้ยวกลมกล่อม ใครได้ชิมแล้วก็อยากจะซื้อกลับไปเหยาะสลัดหรือปรุงอาหารที่บ้าน

ใครที่เป็นแฟนอาหารอิตาเลี่ยน คงพอจะคุ้นเคยกับ Pizza เราเคยคิดว่าถ้ากินพิซซ่าแป้งหนาๆ เดี๋ยวกินไม่หมดถาด โดยเฉพาะ ถ้าได้ลอง พิซซ่ากินแบบบางอร่อยกว่าแบบหนา พิซซ่าและหลายๆ อย่างในบ้านเรา พิซซ่าที่นี่ความอร่อยที่แตกต่าง ทำให้รสชาติของพิซซ่าอร่อยแบบสูตรดั้งเดิม ได้เนื้อสัมผัสและรสชาติที่แตกต่าง แวะมาเปลี่ยนบรรยากาศพาคนสนิทหรือครอบครัวไปกินข้าวในคืนวันพิเศษ แนะนำให้ไปลองชิมกันได้

ร้านอาหารอิตาเลียน บูโอนิชชิโม
Buonissimo Italian Restaurant & Pizzeria
เลขที่ 29/8 ซอยศรีด่าน 6 (เข้าซอยเพียง 100 เมตร)
ถนนศรีนครินทร์ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
เปิดให้บริการ 11.00-22.00 น.
(มีดนตรีสดทุกคืนวันศุกร์และโอกาสพิเศษ)
บริการเดลิเวอรี่ ROBINHOOD, GRAB และ LINEMAN

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และสำรองที่นั่งที่
Facebook/ Buonissimo Italian Restaurant & Pizzeria
LINE/IG @buonissimo.bkk
โทร.096 370 0749 หรือ 02 0044741

#ร้านอาหารอาหารอิตาเลียน #บูโอนิชชิโม #Buonissimo

รฟฟท.สวัสดีปีใหม่ไทยผู้โดยสารเนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์

บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง สวัสดีปีใหม่ไทยผู้โดยสารเนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ จัดกิจกรรมการตลาดสุดพิเศษ เพื่อส่งมอบความสุข และความห่วงใยให้แก่ผู้โดยสาร ทั้งรูปแบบออฟไลน์ และออนไลน์ โดยส่งมาสคอต “MR.RED Line” ออกแจกหน้ากากอนามัย KF94 (Korea Design) จำนวน 100,000 ชิ้น (10,000 ชุด) ภายในระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงทุกสถานี และแจกบัตรของขวัญมูลค่า 200 บาท 50 รางวัล ให้แก่ผู้โดยสารที่ร่วมสนุกโพสต์ภาพการใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงลงใน Instagram ส่วนตัว และติดแฮชแท็ก #สวัสดีปีใหม่ไทยรถไฟฟ้าสายสีแดง และแท็กมาที่ Instagram red_line_srtet  

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่าเนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2565 บริษัทฯถือโอกาสสวัสดีปีใหม่ไทยผู้โดยสาร พร้อมส่งมอบความสุข และความห่วงใยให้แก่ผู้โดยสารด้วยกิจกรรมการตลาดทั้งรูปแบบออฟไลน์ และออนไลน์

โดยกิจกรรมการตลาดออฟไลน์ บริษัทฯส่งมาสคอต “MR.RED Line” เป็นตัวแทนอวยพรปีใหม่ไทยและแจกหน้ากากอนามัย KF94 (Korea Design) จำนวน 100,000 ชิ้น (10,000 ชุด) ภายในระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงทุกสถานี ในวันที่ 11 – 12 เมษายน 2565 ระหว่างเวลา 06.00 – 18.00 น.

สำหรับกิจกรรมการตลาดออนไลน์ เปิดโอกาสให้ผู้โดยสารร่วมสนุกโพสต์ภาพการใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงลงใน Instagram ส่วนตัว และติดแฮชแท็ก #สวัสดีปีใหม่ไทยรถไฟฟ้าสายสีแดง และแท็กมาที่ Instagram red_line_srtet ตั้งแต่วันที่ 13 – 15 เมษายน 2565 โดยผู้ร่วมสนุกกิจกรรมต้องตั้งค่า Instagram ส่วนตัวเป็นสาธารณะ ภาพที่ถูกใจคณะกรรมการรับบัตรของขวัญมูลค่า 200 บาท จำนวน 50 รางวัล ส่งตรงถึงบ้านฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ประกาศผลการร่วมสนุกวันที่ 25 เมษายน 2565 ทั้งนี้การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด  บริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้โดยสารจะได้รับความสุข และรู้สึกถึงความปลอดภัยทุกครั้งจากการใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง

หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ส่วนบริการลูกค้า 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง รถไฟฟ้าสายสีแดง ยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมือง https://www.srtet.co.th/th

ปรากฎโฉม อ่าวมาหยา ครั้งใหม่ที่น่าอัศจรรย์ใจ ทริปเดียวเที่ยวครบ

ทริปนี้..เปิดประเดิม ‘อ่าวมาหยา’เมื่อ มกราคม 2565 เป็นความลับที่ซ่อนอยู่ ตั้งอยู่ท่ามกลางทำเลที่เงียบสงบ และนับเป็นการปรากฎโฉมครั้งใหม่ที่น่าอัศจรรย์ใจ เที่ยวได้ไม่เกินคนละชั่วโมง และห้ามเรือจอดในอ่าว 3 ปีเศษ ที่กรมอุทยานฯ ประกาศปิดอ่าวมาหยา โดย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอ่าวมาหยาการท่องเที่ยวกระบี่หมู่เกาะพีพี เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรและระบบนิเวศทางทะเล ในที่สุดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก็กำหนดวันเปิดอ่าวมาหยา จ.กระบี่ ซึ่งมองเห็นทิวทัศน์กลายเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวและจุดเช็คอินอีกครั้วอีกครั้ง พร้อมเงื่อนไขใหม่ เปิดให้ท่องเที่ยวตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. รอบละ 300 คน เที่ยวได้ไม่เกินคนละชั่วโมง และห้ามเรือจอดในอ่าว เที่ยวได้คนละ 1 ชั่วโมง และห้ามเล่นน้ำ และคงไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่าการถ่ายรูป เพราะเดินลงชายหาดได้ไม่เกิน 20 เมตร จากชายฝั่ง

โดยเรือทุกลำที่มาส่งนักท่องเที่ยวไม่ได้รับอนุญาตให้จอดบริเวณอ่าว ให้เรือเทียบท่าเข้าจอดยังบริเวณ อ่าวโล๊ะซามะ ซึ่งอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จัดเตรียมพื้นที่ไว้แล้ว โดยจอดได้ประมาณ 10-15 ลำ เพื่อจัดระเบียบเรือทัวร์ ให้ทยอยเข้ามาส่งนักท่องเที่ยวแล้ววนออกไปจอดยังจุดที่กำหนดกับการกลับมาเปิดให้เที่ยวชมได้อีกครั้งเมื่อต้นปี 2565 นับเป็นการปรากฎโฉมครั้งใหม่ที่น่าอัศจรรย์ใจ ด้วยการฟื้นตัวของทรัพยากรธรรมชาติส่งผลให้ปัจจุบันบริเวณอ่าวมาหยา มีฝูงฉลามครีบดำ ว่ายวนไปมายังชายหาด มาหยา นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ได้ปฏิบัติตามระเบียบใหม่ ใช้วิธีการถ่ายภาพเซลฟี่เป็นที่ระลึกใครที่มีวางแผนไปเยือน อย่าลืมประพฤติตนเป็นนักท่องเที่ยวที่ดี งดทิ้งขยะแบบใช้แล้วทิ้งบนเกาะ เรียกได้ว่าเป็นนักท่องเทียวที่ จัดเต็มจุใจกันไปเล้ย

ในครั้งนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ของ Toptotravel พาคุณขึ้นเรือลงเรือสปีดโบ๊ทสุดคูล (เรือใหม่) สายลมฤดูร้อนที่อ่อนนุ่มและเสียงคลื่นที่อยู่เบื้องหน้า รู้สึกตื่นเต้นและว้าวมาก นับเป็นการปรากฎโฉม อ่าวมาหยา ครั้งใหม่ ที่น่าอัศจรรย์ใจที่สุด สู่ช่วงที่เราเดินทางไปน้ำทะเลใสมาก “มาหยา” เรียกว่าที่แห่งนี่คือที่ดีที่สุดและงดงามของโลก ถ้าไม่เชื่อเลื่อนไปดูภาพกันเลยสิคะ มาเที่ยวกับ อันดา กระบี่ ซีทัวร์ เป็นทริปหนึ่งวัน 09:00-16:00 ราคาที่จองรวม ทริปดำน้ำเกาะพีพี อุปกรณ์ดำน้ำ พร้อมมื้ออาหารง่ายๆ อย่างข้าวเหนียวไก่ทอด น้ำผลไม้ ผลไม้ฟรียามเช้า อาหารกลางวัน เครื่องดื่มบริการตลอดทั้งวัน ประกันอุบัติเหตุ รับรองว่าจุใจแน่นอน

อากาศเดือนกุมภาพันธ์ เหมาะกับการออกเรือไปชมความงามของท้องทะเล เมื่อลงเรือสปีดโบ๊ท ทุกคนสวมเสื้อชูชีพ พร้อมออกเดินทางใช้เวลาประมาณ 45 นาที มุ่งหน้าสู่ท้องทะเลกว้างอ่าวมาหยา ด้วยความสวยงามระดับโลกอยากบอกเล่าความประทับใจกับเหล่าอเวนเจอร์ทีมไกด์ที่น่ารักทุกคน เที่ยวครั้งนี้ได้ภาพสวยๆ กลับมาเยอะเลยไปสัมผัสมากมายจนไม่รู้ว่าจะเริ่มเล่าจากที่ไหนดีเลยพร้อมแล้ว ทีมของอันดา กระบี่ ซีทัวร์ มารับเราถึงที่พัก ก่อนจะพาไปลงเรือสปีดโบ๊ทที่เทียบท่าคอย การเตรียมตัวเตรียมของที่จะไปเที่ยวอ่าวมาหยา ดังนี้
-ครีมกันแดด แว่นกันแดด
-ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่
-เสื้อผ้าบางๆ เพื่อเปลี่ยนหลังเล่นน้ำ /ถุงกันน้ำ – ถุงใส่ผ้าเปียก

คำว่า “มาหยา” เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกหนึ่งแห่ง “เจ้าหญิงแห่งท้องทะเล”หรือ“เจ้าหญิงแห่งอันดามัน”ใครได้มาเยือนรับรองว่าต้องหลงรัก และไม่มีทางที่จะเดินจากไปง่ายๆ แต่หากว่ามาแล้วอยากกลับอีกกลับไปแล้วยังคิดถึง ด้วยสีน้ำทะเลที่มีสีสันสดใส หาดทรายขาวละเอียดขาวเนียนนุ่ม ดุจดั่งเหยีบอยู่บนผงแป้ง และ มาหยาถูกโอบล้อมด้วยพลังแห่งขุนเขา เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ไม่เคยเสื่อมคลายจากนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก หมู่เกาะพีพีเป็นหมู่เกาะทางทะเลที่สวยงาม เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ชาวเลสมัยก่อนเรียกกลุ่มเกาะแถบนี้ว่า “ปูเลาปิอาปิ” คำว่า “ปูเลา” แปลว่าเกาะ ส่วน “ปิอาปิ”แปลว่าต้นไม้ทะเล จำพวกแสมและโกงกาง เรียกไปเรียกมาก็เพี้ยนเป็น “ต้นปีปี” และเป็น “เกาะพีพี” ความงดงามทางท้องทะเล ทั้งบนบก ผืนน้ำและโลกใต้ทะเล จึงเป็นแหล่งที่หมู่นักดำน้ำนิยมมาดำผุดดำว่ายกันอย่างไม่ขาดสาย หมู่เกาะพีพี ประกอบด้วย 2 เกาะใหญ่ คือ พีพีเล และ พีพีดอน ส่วนของพีพีดอนจะเป็นชายหาด ร้านอาหาร และที่พัก ส่วนพีพีเล ครอบคลุมเวิ้งอ่าวใหญ่น้อยกระจายตัวกันไป โดยมีเกาะข้างเคียงเล็ก ๆ อย่างเกาะไม้ไผ่ และเกาะยูง

อ่าวมาหยา หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ณ.จุดที่เวลาค่อนข้างจำกัด
มุ่งหน้าจากชายฝั่งประมาณ 1 ชั่วโมง ในยามสายที่ใกล้เที่ยงแล้ว เราก็มาถึงดินแดนของเจ้าหญิงแห่งท้องทะเล ตั้งแต่ลำเรือเลี้ยวเข้าไปในอ่าว ม่านผาก็เปิดฉากการแสดงได้อย่างน่าประทับใจ แต่ด้วยกฎระเบียบที่วางไว้ เราสามารถล่องเข้าไปชมชายหาดได้ในระยะไกล ๆ เท่านั้น โดยทางอุทยานฯ ได้ทำจัดทำทุ่นสัญลักษณ์แบ่งอาณาเขตเอาไว้อย่างชัดเจนว่า “ห้ามเข้า” ซึ่งหมายถึงการห้ามเรือเข้าใกล้ชายหาด ที่ช่วงนี้มีฝูงฉลามอาศัยอยู่ เสียงปรี๊ด ๆ ยังคงดังเป็นระยะ เพราะใคร ๆ ต่างอดใจลำบาก อยากจะแตะผืนน้ำสีมรกตนี้สักครั้ง กลุ่มเขาหินปูนที่ล้อมรอบ ยิ่งทำให้อาณาจักรของเจ้าหญิงทรงพลัง เวิ้งอ่าวตรงชายหาด ยังมีผาหินที่ยื่นออกมาให้คนได้ลอดผ่าน ไกด์หนุ่มทั้งสองที่ร่วมทริปดูแลพวกเราอย่างใกฃ้ชิดยังอดใจไม่ได้เลย ต้องแชะภาพไว้เป็นที่ระลึก เพราะการกลับมาเปิดให้เข้าชมรอบนี้ มาหยา…..ไม่เห็นด้วยตาไม่ได้แล้ว เดินเลียบชายหาด บริเวณสุดโค้งชายหาดด้านขวา เห็นกลุ่มนักท่องเที่ยวเฝ้ามองบรรดาฉลามครีบดำ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสุดตื่นเต้น ฉลามครีบดำที่มักจะว่ายวนเข้ามา เรียกว่าทักทายได้หรือไม่ เพราะคงไม่มีใครอยากสัมผัสครีบหรือโอบกอดมันหรอกนะ เมื่อเดินไปถึงก็ทราบว่า เป็นเบบี้ชาร์คตัวไม่น้อยที่ลอยตัวไปมาในระยะที่ไม่ใกล้มากนัก นักท่องเที่ยวที่ให้ความสนใจกันมากพอสมควร อาจจะทำให้พวกมันไม่กล้าออกมาเผยตัวกันเป็นกลุ่ม ที่เห็นแวบไปแวบมาไม่รู้ว่ามีกันกี่ตัว กับความจริงที่ว่า ท่องเที่ยวอย่างรู้คุณค่า เพื่อมาหยางดงามอย่างยั่งยืนเป็นธรรมชาติตลอดไป

เรือสปีทโบ๊ตค่อยๆ ขยับออกจากอ่าวมาหยา สถานที่ต่อไปคือ อ่าวปิเละ ตั้งอยู่พีพีเล เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี เป็นอ่าวที่มีทางเข้าแคบประมาณ 50 เมตร เมื่อเข้าไปแล้วจะถูกล้อมรอบด้วยภูเขาหินปูนสูงรอบด้าน เป็นอ่าวที่ซ่อนตัวจากภายนอก น้ำทะเลนิ่ง และใสมาก เมื่อก่อนมีปะการังอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันลดลง เป็นบริเวณที่ลำเรือจะมาจอดให้ทุกคนได้พักผ่อนหย่อนใจได้ชื่นชมความสวยงามทางธรรมชาติ ล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีเขียวดั่งมรกต เราแวะเล่น/ดำน้ำ และที่สุดว้าว ก็คือไกด์คนเก่งและกัปตันเรือ ช่วยกันเนรมิตกลางเรือ ตรงกลางเรือเดิมเป็นที่วางถังน้ำแข็ง เครื่องดื่ม กลายเป็นโต๊ะอาหารกลางวันสุดชิคบนเรือ มื้อนี้พิเศษจังได้สัมผัสกับอาหารรสเด็ดในแบบที่เราไม่คาดคิด ปิ่นโตที่ทางอันดา กระบี่ ซีทัวร์ จัดมาสุดว้าว สุดคุ้ม และสุดอร่อย แกงส้มกุ้งผักรวม ผัดวุ้นเส้น น้ำพริกกะปิด **เด็ดมาก ไก่ทอด และผักสด อาหารมื้อนี้รสชาติดีในแบบอาหารใต้แท้ๆ ระหว่างทานอยากบอกอีกเรื่องว่าอิ่มอร่อยจนไม่รู้สึกเลยว่า กำลังนั่งทานอาหารกลางวันลอยอยู่บนผืนน้ำ อ่าวปิเละ คลื่นสงบนิ่งมาก

การล่องเรือ สปีดโบ๊ทของ อันดา กระบี่ ซีทัวร์ ในพีพีเล มีข้อดีหลายประการ ด้วยความสวยงาม มาตรฐานของหมู่เกาะต่าง ในการนั่งเรื่อโดยไม่ต้องกังวลกับความปลอดภัย และในวันหยุดการนั่งเรื่อสปีดโบ๊ทท่องเที่ยวจะพบว่าราคาจะไม่แพงมาก และก็สุดคุ้มถ้ามาเป็นหมู่คณะ สะดวกจริงๆ ตอนนี่อิ่มแล้วช่วงบ่ายแก่ๆ ออกจากอ่าวปิเละ มายังถ้ำไวกิ้ง ทั้งสองที่นี้อยู่บนเกาะพีพีเล ถ้ำไวกิ้งเป็นถ้ำที่อยู่ทางทิศเหนือของเกาะถ้ำไวกิ้ง ซึ่งเป็นสัมปทานรังนก ปัจจุบันไม่สามารถเข้าไปเที่ยวชมได้ ถัดจากถ้ำไวกิ้ง เรือพาเราเข้ามายังอ่าวเล็กๆ ที่มีชายหาดระยะสั้นๆ อ่าววังหลง เป็นอ่าวที่เล็กที่สุดบนเกาะพีพี มีป้ายของสัมปทานรังนกเจ้าเดิมอยู่บนชายหาด ที่อยู่ใกล้กับอ่าวนุ้ย ถึงแม้อ่าววังหลงจะเป็นอ่าวที่เล็กที่สุดก็ตามก็ถ้าเรื่องของความสวยงามแล้วติดอันดับสวยที่สุดเลยก็ว่าได้ เนื่องจากอ่าวนี้มีความโดนเด่นเรื่องทางเข้าที่เล็กถ้าได้เข้าไปแล้วเหมือนหลงไปอยู่ในถ้ำนำทะเลสีเขียวสดราวกับว่าไม่ใช่น้ำทะเล

“อ่าวนุ้ย”ท่ามกลางน้ำทะเลใสที่ “อ่าวนุ้ย” อ่าวเล็ก ๆ ที่มีชายหาดสีขาวแสนสงบ ขาวสะอาด น่าเล่นน้ำ เหมาะกับการมาดำน้ำดูปะการัง แต่จะไล่เรียงกันจริง ๆ ทุกหาด ทุกอ่าว ก็เหมาะกับการดำน้ำแทบทั้งสิ้นถ่ายรูปมุมไหนก็สวยไปหมด

เกาะไม้ไผ่-ทะเลแหวก ตามแผนที่จะทราบว่า เรามุ่งหน้าไปเที่ยวหมู่เกาะพีพีในระยะไกลก่อนที่จะย้อนแวะเที่ยวก่อนเข้าสู่ฝั่ง จากอ่าวนุ้ยสปีดโบ๊ทของ อันดา กระบี่ ซีทัวร์ แวะชม “เกาะไม่ไผ่” เกาะที่ได้ชื่อว่า “ดงปะการังแสนไร่” นักท่องเที่ยวส่วนมากใช้เวลาไปกับการเล่นน้ำ รูปร่างของเกาะไม้ไผ่เป็นทรงสามเหลี่ยมหัวมน มีหาดทรายรอบเกาะ สลับกับโขดหินเล็กๆ สามารถเดินได้รอบเกาะระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เกาะไม้ไผ่เป็นเกาะเล็ก ๆ กลางทะเลอันดามันมีชายหาดตั้งแต่ฝั่งทิศเหนือยาวมาถึงฝั่งทิศตะวันออก เราจึงสามารถเดินวนได้รอบเกาะมีน้ำใสชายหาดขาวทอดยาว มองไปทางไหนก็สัมผัสได้ถึงช่วงเวลาอันแสนสุข

ก่อนจะกลับเข้าฝั่ง สปีดโบ๊ทและไกด์ยังพาเราไปแวะ ทะเลแหวก เราเลยถามว่า ทะเลจะแหวกตอนไหน? แนวสันทรายค่อยๆ จมหายไปใต้ผืนน้ำเมื่อเข้าสู่ช่วงเวลาน้ำขึ้นของแต่ละวัน ช่วงเวลาบ่ายของวันนั้น น้ำทะเลยังลดไม่มากนัก เราได้แต่นั่งมองสักพัก และเดินทางกลับ เรียกว่าเป็นโปรแกรมทัวร์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่

วันแห่งความสุขมักจะผ่านไปได้อย่างเร็ว เส้นทางนี้ได้รับการจารึกไว้อย่างวิจิตรบรรจงและสวยงดงามตามธรมมชาติ จัดว่าเป็นทริปเที่ยวสบายๆ อยากบอกว่า ที่เที่ยวกระบี่ยังมีอะไรรออยู่อีกมากมายนัก ทั้งทางบกทางทะเล มาแล้วต้องให้เวลากันมาก ๆ ได้มาเมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารักทั้งที อยากให้ทุกคนได้เติมความฟินให้จุใจ

สำหรับเราเลือกมาเที่ยวกับ Anda Krabi Seatour
โปรแกรมเที่ยว ANDA KRABI SEATOUR อันดา กระบี่ ซีทัวร์ เข้าไปดูกันได้เลย
https://www.facebook.com/krabiseatour
หรือคลิ๊กไปที่ลิ้งค์ / Click on the link.
https://line.me/R/ti/p/%40andakrabiseatour
โทร. 081-7195944 คุณปิงปอง
Email : info@andakrabiseatour.com

อ่าวมาหยา #การท่องเที่ยวกระบี่ #หมู่เกาะพีพี
#อันดากระบี่ซีทัวร์ #ทะเลแหวก #toptptravel

เริ่มแล้ว! กาดดอยตุงปี5 พาม่วนใจ๋ เนรมิต 4 โซนชอปปิ้งสุดคูลสไตล์คนดอย สร้างสุขให้ใจกลางกรุง

ยกความสุขสไตล์ดอยตุงกลับมาให้นักชอปคนเมืองได้เช็กอิน ชิม ชิล แชร์ กันอีกครั้งในงาน “กาดดอยตุง”ที่ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล 

จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 เพื่อให้คนเมืองได้ใกล้ชิดวิถีชีวิตชาวดอยตุงมากขึ้น จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 6 มีนาคม 2565 เวลา 10.00 – 22.00 น. ณ ดิ อีเวนต์ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัลชิดลม รายได้จากการขายสินค้าและงานในครั้งนี้จะช่วยต่อยอดการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงราย

งานกาดดอยตุงในปีนี้มาในธีม Urban Park นำบรรยากาศชวนพักผ่อนหย่อนใจบนดอยสูงมาไว้กลางเมือง จัดเต็ม 4 โซนชอปปิ้งสุดปังครบทุกมิติแห่งความสุข  เริ่มด้วย “โซนบาริสโต” คาเฟ่ ดอยตุง ต้อนรับนักชอปด้วยเครื่องดื่มสูตรพิเศษ อาทิ กาแฟเอสเปรสโซหมักกับน้ำผึ้งผสมโซดา ต่อด้วยน้องใหม่อย่าง น้ำผึ้งหมักสุดเข้มข้นและหอมหวาน 4 รส 4 สไตล์ ทั้งเลมอนและกลีบกุหลาบ ผลไม้รวมตระกูลเบอร์รีและเปปเปอร์มินต์ ช็อตกาแฟเอสเปรสโซ และกาแฟสกัดเย็นเข้มข้น น้ำเชื่อมวานิลลา โฮมเมดที่ผลิตจากวานิลลาคุณภาพพันธุ์ Planifolia ปลูกในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ เพิ่มรสชาติให้เมนูเครื่องดื่มและขนมที่ชื่นชอบ แถมด้วยเวิร์กชอปที่หลายคนรอคอย สร้างสรรค์เครื่องดื่มเมนูพิเศษด้วยตัวเองพร้อมกับบาริสต้ามืออาชีพจากดอยตุง    

จากนั้นไปต่อกันที่ “โซนโตโกกรีน” เอาใจคนรักต้นไม้ที่ต้องการเติมโอโซนและพื้นที่สีเขียวรอบตัวด้วยกล้วยไม้รองเท้านารี เอกลักษณ์ของดอยตุง นอกจากนี้ยังมีไม้มงคลไม้แฟชั่นยอดฮิตอย่างต้นคล้า ไม้ใบลวดลายสวย อีกทั้งยังมีประโยชน์ช่วยฟอกอากาศ ต้นยางอินเดีย ไม้หัวเลี้ยงง่าย แคคตัสและไม้อวบน้ำต้นจิ๋ว ฯลฯ และผักผลไม้สด ราคาน่ารักที่คนรักสุขภาพต้องปลื้มมาให้เลือกชอปทุกวัน  

สำหรับคนรักการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและวัฒนธรรมต้องไม่พลาดโปรโมชันสุดเย้ายวนชวนให้เดินทางขึ้นเหนือไปสัมผัสธรรมชาติบนดอยตุง อาทิ ชวนเปลี่ยนบรรยากาศ work from home มาทำงานชิวๆ บนดอย 5 วัน หรือท่องเที่ยวสั้นๆ แบบ 2 วัน 1 คืน หรือ ครึ่งวันสุดคุ้ม ชวนจิบน้ำชา ฟังเสียงนกร้อง ท่ามกลางดอกไม้ในสวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง รายล้อมด้วยวิวสูงสุดบนเทือกเขานางนอน หรือจะเลือกไปเที่ยวชมหอฝิ่น อุทยานสามเหลี่ยมทองคำ หรือจุดชมวิวแม่น้ำโขงบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ พร้อมไหว้พระขอพรที่วัดพระธาตุเจดีย์หลวงแฟชั่นนิสต้าและคนรักงานศิลปะห้ามพลาดสินค้าหัตถกรรมดอยตุงที่ออกแบบตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนการผลิตใน “โซนโตคราฟต์” นำงานคราฟต์มาให้เลือกมากมาย

อาทิ สินค้าไอเท็มพิเศษมีเพียงชิ้นเดียวในโลก เสื้อผ้าคอลเล็กชั่น Pha Khao Ma แรงบันดาลใจจากผ้าขาวม้าที่เป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่นไทยแต่โบราณ รังสรรค์มาเป็นเสื้อผ้าสไตล์เวิร์กเเวร์ (Workwear) จากเส้นใยพลาสติกรีไซเคิล และครั้งแรกกับการใช้เทคนิคอัดจีบด้วยความร้อน! การันตีด้วย 3 รางวัลงานดีไซน์ระดับประเทศ Demark 2021, Gmark 2021, PM Award 2021 และยังได้ไปเผยโฉมในเวทีระดับโลกอย่างงาน MQ Vienna Fashion Week 2021

ภายในงานยังมีเซรามิกชิ้นพิเศษจากงาน Bangkok Design Week 2022 Agritecture DoiTung
“คิดสร้างดิน” จาก 13 ศิลปินและสตูดิโอเซรามิกชื่อดังของเมืองไทย อาทิ ชุดจานเซรามิกคอลเล็กชั่น Zhangri-La ผลงานสร้างสรรค์จำนวนจำกัดระหว่าง DoiTung x Whattadish by Dinfi & Q บรรจุในกล่องกระดาษสาจากดอยตุง สื่อถึงดินแดนอันสงบสุขและอุดมสมบูรณ์ในแบบศิลปะพื้นบ้าน (Folk Art) โดดเด่นด้วยสีน้ำเงินขาวของเครื่องลายครามผสานทองคำแท้ มาพร้อมนวัตกรรมใหนำเข้าไมโครเวฟได้ สั่งจองได้ในราคาชุดละ 2,990 บาท

​หลังจากชอปปิ้งกันจนเหนื่อย เชิญแวะ “โซนเชฟโต” ชิมอาหารเหนือทั้งเมนูฟิวชั่นและชนเผ่าดั้งเดิมเมนูเด็ดจากครัวตำหนัก อาทิ ข้าวอบซุปไก่ดำตุ๋นยาจีน เฟตตูชินีแกงฮังเลหมู ยำบะหมี่เหลืองน้ำพริกกากหมู ส่วนใครที่ชอบไส้กรอกและแฮมรสชาติพรีเมียมแนะนำ Sloane’s X DoiTung เมนูพิเศษจาก ‘หมูดำดอยตุง’ ที่มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ส่งเสริมให้ชุมชนดอยตุงเลี้ยงเพื่อเพิ่มรายได้ในครัวเรือน ปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง ข้าวปุ๊กน้ำตาลอ้อย ของหวานชนเผ่าเสิร์ฟพร้อมชาอู่หลงยอดน้ำค้าง ครัมเบิ้ลสับปะรดภูแล เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวานิลลาดอยตุง

​พบความสุขในงาน “กาดดอยตุง” ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุข

ระหว่าง 24 กุมภาพันธ์ – 6 มีนาคม 2565 เวลา 10.00 – 22.00 น.
ณ อีเวนต์ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัลชิดลม และติดตามข่าวสารงาน “กาดดอยตุง”
ได้ที่ www.facebook.com/DoiTungClub และ www.facebook.com/CentralDepartmentStore

#กาดดอยตุง2022#DoiTungMarket2022

มูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดภารกิจ 3 ด้านสืบสานพระราชกระแสในหลวงรัชกาลที่ 9

มูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดภารกิจ 3 ด้านสืบสานพระราชกระแสในหลวงรัชกาลที่ 9 ดำเนินงานด้านทันตนวัตกรรมเน้นหลักการ ค้นคว้า ปฏิบัติ และพัฒนา 10กว่าปีที่ผ่านมาสามารถช่วยเหลือประชาชนผ่านหน่วยทันตกรรมพระราชทานฯ ทั้ง 8 หน่วยได้มากกว่า 5 แสนคน คิดค้นนวัตกรรมด้านทันตกรรมผลิตใช้ได้เองภายในประเทศทดแทนการนำเข้า ช่วยภาครัฐประหยัดเงินได้มหาศาล ล่าสุด ร่วมกับภาคีเครือข่าย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พัฒนาบริการนวัตกรรมทางด้านทันตกรรม (Digital Dentistry) ตั้งเป้าดูแลผู้สูงอายุ ให้มีสภาวะสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้นต่อไป

นายวรวุฒิ กุลแก้ว เลขาธิการมูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์

นายวรวุฒิ กุลแก้ว เลขาธิการมูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยในโอกาสจัดกิจกรรม “มูลนิธิทันตนวัตกรรมฯ พบสื่อมวลชน” ว่าในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมานับตั้งแต่มีการจัดตั้งมูลนิธิฯ ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2552 มูลนิธิฯ ได้สนับสนุนการให้บริการด้านทันตกรรมแก่ประชาชนผ่านหน่วยทันตกรรมพระราชทาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ไปแล้วประมาณ 500,000 คนรวมทั้งมีโครงการที่ทำให้ประชาชนเข้าถึงนวัตกรรมที่ผลิตได้ภายในประเทศ โดยให้เครือข่ายนำไปใช้ช่วยเหลือประชาชน อย่างเช่น โครงการรากฟันเทียเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9
ได้มากกว่า30,000 คน

ทพญ.สุปราณี ดาโลดม ผอ.ศูนย์พัฒนาระบบบริการและคลินิกทันตกรรม และ นายวรวุฒิ กุลแก้ว เลขาธิการมูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์

มูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ เดิมเป็นหน่วยงานหนึ่งในหน่วยทันตกรรมพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ต่อมามีการจัดตั้งเป็นมูลนิธิฯ เมื่อปี พ.ศ. 2552 ตามพระราชกระแส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ว่าทันตแพทย์ไม่ควรจะทำการรักษาอย่างเดียว ควรจะได้มีการคิดค้น พัฒนาวิจัย และพัฒนา เพื่อที่จะผลิต วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ขึ้นมาใช้เองในประเทศด้วย

ศาสตราจารย์พิเศษ ทันตแพทย์หญิง ท่านผู้หญิงเพ็ชรา เตชะกัมพุช ผู้อำนวยการหน่วยทันตกรรมพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9

โดยมีศาสตราจารย์พิเศษ ทันตแพทย์หญิง ท่านผู้หญิงเพ็ชรา เตชะกัมพุช ผู้อำนวยการหน่วยทันตกรรมพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เป็นผู้ดำเนินการเลขาธิการมูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวต่อว่า สำหรับภารกิจของมูลนิธิฯ มีหน้าที่หลักอยู่ 3 ประการ คือ
ภารกิจส่วนแรก เป็นฝ่ายเลขานุการของหน่วยทันตกรรมพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9 ซึ่งมีหน่วยบริการอยู่ทั้งหมด 8 แห่ง คือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยมูลนิธิฯ สนับสนุนเรื่องวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือในการออกให้บริการประชาชน ซึ่งแต่ละปีสามารถให้บริการประชาชนได้ประมาณ 50,000 คน ภายใน 10 ปี มียอดรวมประมาณ 500,000 กว่าคน

ภารกิจส่วนที่ 2 คือทำการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้เกิดนวัตกรรมสำหรับนำไปรักษา แก้ไข ฟื้นฟู ป้องกัน ทางทันตกรรมให้กับประชาชน ปัจจุบันนี้มีผลิตผลซึ่งเกิดจากการวิจัยและพัฒนาของมูลนิธิฯ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มอาหารทางการแพทย์ เช่น เจลลี่โภชนา อาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก วุ้นชุ่มปาก หรือนวัตกรรมน้ำลายเทียมชนิดเจลสำหรับผู้ที่มีภาวะปากแห้ง น้ำลายน้อย หรือ ผู้สูงอายุ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เข้าถึงประชาชนผู้ใช้ได้ประมาณ240,000 คน ในช่วงเวลา 10 กว่าปี ที่ผ่านมา กลุ่มเครื่องมือแพทย์มี รากฟันเทียมสำหรับผู้สูญเสียฟัน ฟันเทียมทั้งปาก ซึ่งฟันเทียมประเภทนี้จำเป็นมากสำหรับผู้สูงอายุซึ่งจะต้องได้ใส่ฟันเทียมเพื่อที่จะได้มีฟันเทียมเคี้ยวอาหาร

นอกจากนี้ยังมีสารผนึกหลุมร่องฟันเรซิน เอาไว้สำหรับป้องกันฟันผุ กรณีผู้ที่ที่มีปัญหาหลุมร่องฟันซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาฟันผุ ล่าสุดผลงานที่สำคัญคือ งานวิจัยและพัฒนาผลิตน้ำยาบ้วนปากฆ่าเชื้อในช่องปากจากหญ้าแฝกตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งที่ผ่านมาใช้ประโยชน์จากหญ้าแฝกในการอนุรักษ์ดินและน้ำเป็นหลัก

ภารกิจส่วนที่ 3 คือร่วมกับภาคีเครือข่ายในการให้บริการกับประชาชน เกิดโครงการต่างๆ ที่ทำให้ประชาชนเข้าถึงนวัตกรรม และเทคโนโลยีขั้นสูง เช่นโครงการรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งปกติแล้วรากฟันเทียมหนึ่งซี่ราคาแพงแต่ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมาประชาชนได้รับบริการฟรีไปแล้วประมาณ 30,000 กว่าคนคิดเป็นมูลค่าในการประหยัดเงินได้มหาศาล

เลขาธิการมูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า มูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พระราชทานสิ่งสำคัญไว้หลายประการ แต่สิ่งสำคัญประการหนึ่งก็คือเรื่องที่มีแนวพระราชกระแสเกี่ยวกับการค้นคว้า ปฏิบัติ พัฒนา ซึ่งทำให้การดำเนินงานของมูลนิธิฯมีทิศทางที่ชัดเจน และเนื่องจากในเวลานี้เป็นยุคดิจิทัล เป็นกระแสของโลก ในปี 2565 ถึงปี 2570 มูลนิธิฯ จึงได้ร่วมมือกับกรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข ในการดำเนินการวิจัยและพัฒนาเพื่อเปลี่ยนระบบการให้บริการทันตกรรมเดิมที่เรียกว่า Analog ไปสู่ Digital Systemเพื่อทำให้ประชาชนนับสิบล้านคนเข้าถึงการให้บริการรวมทั้งเข้าถึงนวัตกรรม และเทคโนโลยีขั้นสูงที่เกิดจากการวิจัย พัฒนาของมูลนิธิฯ

“เราให้ความสำคัญกับวิจัยและพัฒนา ซึ่งยังมีหลายเรื่องที่อยู่ระหว่างดำเนินการให้แล้วเสร็จ รวมทั้งเรื่องที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 รับสั่งไว้เป็นพระราชกระแส เป็นรับสั่งสุดท้ายก่อนสวรรคตว่า ผู้สูงอายุอย่างเรามีจำนวนมาก ทันตแพทย์ต้องช่วยดูแล ซึ่งผู้สูงอายุปัจจุบันมีเพิ่มขึ้นถึง 14 ล้านคน อันนี้ก็เป็นโจทย์สำคัญที่มูลนิธิฯและภาคีเครือข่ายจะต้องหากรรมวิธีที่จะดำเนินการที่จะทำให้ผู้สูงอายุเหล่านั้นได้รับการดูแลรักษาทางด้านทันตกรรมให้เหมาะสมและมีสภาวะสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้นต่อไป”เลขาธิการมูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าว

เดอะ ลูนา ป่าตอง : The Lunar Patong

ใครที่วางแผนมาเที่ยวภูเก็ตในช่วงนี้ หน้าร้อนมาแล้ว อยากชวนมาหนีความวุ่นวายในเมือง ไปรับวิตามินดีแบบเต็มๆ กับริมชายหาดในภูเก็ตกันดีกว่า กับที่พักราคาถูกและดี ใกล้ทะเล ใกล้ชายหาด ใกล้ร้านอาหาร ศูนย์การค้า ร้านสะดวกซื้อ โรงแรมเดอะ ลูนา หาดป่าตอง เป็นที่พักที่มีชื่อเสียงและได้รับมาตรฐานใน ภูเก็ต ตั้งอยู่ใกล้หาดป่าตอง อีกทั้งยังใกล้กับห้างสรรพสินค้าและถนนบางลาซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนชื่อดังของเมืองภูเก็ต ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมยังมีสวนส่วนตัวที่ช่วยให้บรรยากาศร่มรื่นอีกด้วย

ตั้งแต่เดินก้าวลงจากรถ เข้าสู่บริเวณโรงแรมเดอะ ลูนา โรงแรมออกแบบสไตล์โมเดิร์น โรงแรมยังให้ความสำคัญในเรื่องฟังก์ชันการใช้งานที่ดีมาก การต้อนรับอย่างอบอุ่นจากพนักงานทุกคนในโรงแรม การบริการดีเยี่ยม ที่พักกว้างขวางสวยงามอลังการ ดูไม่วุ่นวายด้วย ที่จอดรถสะดวกสบาย ที่พักพร้อมวิวภูเขา สระว่ายน้ำ บรรยากาศดี สะดวกสบาย ใกล้ทะเล ใกล้ชายหาด มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ จัดว่าเป็นที่พักราคาหลักร้อยสุดคุ้มในช่วงเวลานี้ เหมาะสำหรับครอบครัว เพื่อนฝูงหรือมาพักกันเป็นหมู่คณะ เพราะที่นี่มีห้องรองรับหลากหลายรูปแบบ ห้องสวยมาก เลือกที่พักเรียบหรูและราคาแสนจะประหยัด

ชื่อที่พักเขียนว่า เดอะ ลูนา ป่าตอง : The Lunar Patong
เป็นอีกหนึ่งโรงแรม ที่มีทำเลอยู่ใจกลางป่าตอง สำหรับห้องพัก ดีลักซ์/เตียงคู่ หรือเตียงเดี่ยวพร้อมระเบียง วิวสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ช่วงที่ไปราคาโปรหลักร้อย ช่วงนี้ยังไม่มีอาหารเช้า ห้องพักตกแต่งสวยงาม สะดวกสบาย น่าพัก หากอยากได้ความเป็นส่วนตัวที่นี่มีห้อง ห้องสวีทแบบหนึ่งห้องนอน ห้องพักมีขนาดกว้างขวาง มีระเบียงมองเห็นวิวสระว่ายน้ำ และวิวภูเขา สระว่ายน้ำเป็นสระที่มีขนาดยาว กว้างตามตัวโรงแรม ว่ายไปมาได้จริงๆ บริเวณสระว่ายน้ำมีมุมถ่ายรูปเยอะมาก ห้องพักปรับอากาศทุกห้องมีทีวีจอแบนและห้องน้ำส่วนตัวพร้อมฝักบัว มีพื้นที่นั่งเล่นเพื่อผ่อนคลาย รวมทั้งยังมีเสื้อคลุมอาบน้ำ รองเท้าแตะ และเครื่องใช้ในห้องน้ำฟรี มีบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย (WiFi) สะดวกสบายมาก ในส่วนของห้องพักมีขนาดกว้างมาก ห้องพักตกแต่งเรียบๆ สวยงาม สะดวกสบาย เตียงใหญ่นอนสบาย หมอนนุ่ม มีโชฟาใหญ่ ห้องน้ำ ห้องแต่งตัว แต่งทันสมัย และมีอ่างอาบน้ำสุดฟิน เหมาะสำหรับการมาฮันนีมูนสุดๆ ดีงามไปหมด หากใครกำลังมองหาที่พักใกล้แหล่งท่องเที่ยวแต่บรรยากาศเงียบสงบ เราขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ

อ้อ! ช่วงนี้โรงแรมยังไม่ได้เปิดบริการอย่างเต็มๆ พนักงานบางส่วนจะไม่ได้อยู่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง แต่ก็มีเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถโทรฉุกเฉินได้ตลอดเช่นกัน

โรงแรมเดอะ ลูนา ป่าตอง
31/1 Rat-Uthit 200 Pee Road Patong Beach, Katu, Phuket 83150

Inbox : Face book : The Lunar Patong
โทรมาก็ได้ที่ 076 380500 หรือ 088 7915284
https://thelunar.com-patong.com/th/

#TheLunarPatong #ที่พัก #โรงแรมสวย #ท่องเที่ยว #เที่ยวภูเก็ต
#โรงแรมเดอะลูนาป่าตอง #toptotravel

เสน่ห์แห่งบ้านเก่า Narisa Cafe & Creative Space

วันนี้เราจะชวนทุกคนไปลิ้มรสกาแฟ Narisa Cafe ร้านกาแฟแสนอบอุ่นชวนผ่อนคลายบนพื้นที่ใจกลางเมือง กลายเป็นคาเฟ่บรรยากาศส่วนตัวที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน ท่ามกลางการตกแต่งภายใน ร้านที่รื่นรมย์ไปด้วยธรรมชาติและงานศิลปะที่บอกเลยว่า แค่เข้าไปก็เหมือนหลุดเข้าไปในอีกยุคนึงเลย เรียกว่าเป็นคาเฟ่หลงยุคใจกลางกรุงเทพ มาพร้อมบรรยากาศสำหรับการหลีกหนีความวุ่นวายจากพื้นที่ในเมืองมีความวินเทจแต่ยังคงความคลาสสิก มีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย

NARISA CAFE & CREATIVE SPACE
coworking space

คาเฟ่แห่งนี้ บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน ภายในโล่ง โปร่งสบาย อาคารเรือนครึ่งไม้ครึ่งตึก ทำด้วยไม้สัก บรรยากาศอบอุ่นจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแสง ต้นไม้ เฟอร์นิเจอร์ที่ถูกคัดสรรมาอย่างเฉพาะ และลงตัวมากๆ ทำให้คาเฟ่แห่งนี้อบอวลไปด้วยความรู้สึกสบายๆ ผ่อนคลายอยพร้อมเปลี่ยนทุกช่วงเวลาให้น่าจดจำ ที่ร้านมีเครื่องดื่มและกาแฟดีๆ นอกจากตัวร้านจะตกแต่งได้คลาสสิกแล้ว ภายนอกและภายในร้าน ยังมีโซน coworking space ที่สามารถแชร์พื้นที่ทำงานร่วมกันพร้อมบรรยากาศร่มรื่น ภายในออกแบบโดยการเก็บของเก่าในบ้านมาดีไซน์ใหม่ จึงทำให้ของทุกชิ้นไม่เหมือนใครมีความหมายและสื่อถึงความทรงจำอันงดงาม การผสมผสานงานศิลปะ ความชอบส่วนตัวและยังใส่ใจในการจัดวางของตกแต่งให้ดูเข้ากันในสไตล์ Narisa Cafe

อีกหนึ่งคาเฟ่ที่โดดเด่นด้วยบรรยากาศอบอุ่น ซึ่งเกิดขึ้นจากการปรับปรุงบ้านหลังเก่าให้กลายเป็นคาเฟ่ ที่มาพร้อมบรรยากาศชวนนั่งเล่น Narisa Cafe & Creative Space สร้างขึ้นจากการปรับปรุงบ้านเก่า คงร่องรอยดั้งเดิมของตัววัสดุที่เก่าแก่ไปตามกาลเวลา กลมกลืนกับวัสดุไม้และปูนของตัวบ้านอย่างลงตัว Narisa Cafe & Creative Space สร้างขึ้นจากการปรับปรุงบ้านเก่าของคุณพ่อคุณแม่ของ ดร.นริศ ชัยสูตร อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอธิบดีกรมธนารักษ์ ซึ่งรวบรวมเรื่องราวความทรงจำที่มีค่าไว้มากมายสำหรับบ้านหลังนี้สร้างขึ้นในปี 2501 เป็นอาคารเรือนครึ่งไม้ครึ่งตึก ทำด้วยไม้สัก ออกแบบโดย อาจารย์ประดิษฐ์ ยุวะพุกกะ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะสถาปัตยกรรม (แบบประเพณี) ท่านเป็นศิลปินแห่งชาติที่มีอายุยืนยาวมากถึง 96 ปี ผลงานสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมจึงมีอยู่ทุกหนแห่ง ครอบครัวของท่านเป็นช่างสมัยรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 จึงได้รับอิทธิพลและได้รับการสืบทอด ตลอดจากครูบาอาจารย์อีกหลายท่านประสิทธิประสาทวิชการให้ เมื่อครั้งมีชีวิตอยู่ท่านยังได้ร่วมงานกับอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ในช่วงที่ท่านรับราชการ อยู่ที่กรมศิลปากร

Narisa Cafe & Creative Space สร้างขึ้นจากการปรับปรุงบ้านเก่าของคุณพ่อคุณแม่ของ ดร.นริศ ชัยสูตร อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ณนริศา ชัยสูตร ( น้องฟ้า )

กลับมาปรับปรุงบ้านไม้เก่า อายุกว่า 60 ปี ปรับปรุงบ้านหลังนี้ให้เป็นร้านกาแฟ Narisa Cafe & Creative Space ที่ออกแบบเอง เพิ่มมิติให้สเปซใช้สอยภายในและภายนอกร้านดูโดดเด่นและเป็นสัดส่วนด้วยการปรับปรุงบรรยากาศบ้านไม้เก่าแก่ 2 ชั้น กลายเป็นคาเฟ่สุดคลาสสิก ไอเดียของเจ้าของร้านคือ คุณนริศา ชัยสูตร หรือ น้องฟ้า ผู้เป็นหลานสาวที่ใกล้ชิดกับคุณย่าสมจิตร ชัยสูตร คุณแม่ของ ดร.นริศ ชัยสูตร โดยคุณย่าสมจิตร เมื่อคร้ังมีชีวิตอยู่รับราชการอยู่ที่กรมศิลปากร ได้รู้จักใกล้ชิดกับศิลปินในด้านต่างๆมากมายและคุณย่าสมจิตร เป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้น้องฟ้า สอบเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยศิลปากร และจบการศึกษาได้ปริญญาตรีเกียรตินิยม จากคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ จากนั้น
ได้จบปริญญาโทด้าน Marketing จาก Lancaster University ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านการตลาดของประเทศอังกฤษ จึงไม่แปลกใจเลย่ว่า Narisa Cafe & Creative Space จึงเป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะและการตลาด ผ่านการตกแต่งที่ผสมผสานไปด้วยความชื่นชอบ เน้นความเรียบง่าย และงานดีไซน์วินเทจ สะท้อนความรู้สึกสนุกสนานกับไลฟ์สไตล์สุดชิคที่ดูอบอุ่น บรรยากาศผ่อนคลายอย่างเป็นธรรมชาติ ยิ่งไปกว่านั้น น้องฟ้ายังเป็น blogger
ที่มีประสบการณ์ด้านอาหารและท่องเที่ยว เคยเดินทางไปประเทศต่างๆ มากกว่า 40 ประเทศ จึงมีผู้ติดตามข้อเขียนของน้องฟ้าเป็นจำนวนมาก

บรรยากาศด้านหน้าร้าน บ้านไม้เก่า อายุกว่า 60 ปี

ในส่วนของเครื่องดื่ม ร้านมีทั้งเมนูชา กาแฟ และเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ให้เลือกมากมาย แต่จะเน้นไปที่ชาร้อน เสิร์ฟมาในภาชนะทรงวินเทจอีกแล้ว ร้านนี้
เขาไม่หลุดธีมจริงๆ หยิบจับอะไรมาถ่ายก็สวยเข้ากันไปหมดและสำหรับเครื่อง
ดื่มสุดคลาสสิคของร้าน

Narisa latte (Singature)
Blueberry apple soda
Cotton candy sky (Singature)

Espresso con panna (Singature)
Espresso
Espresso macchiato
Americano
Cloudy (Singature)
Cappucino
Caramel Macchiato
Orange espresso soda (Singature)
Es’ Yen (Thai style)
Affogato
*Extra shot +20

non-coffee
Narisa latte (Singature)
Black cocoa
Brown cocoa
Matcha latte
Cotton candy sky (Singature)

ufushing
Lemon tea
Strawberry lemom soda
Blueberry apple soda

สำหรับสายวินเทจ สายถ่ายรูปทั้งหลาย บอกเลยว่าไม่ควรพลาด มีมุมดีๆ มุมสวยๆ จิบกาแฟรสเข้มข้น ให้เลือกนั่งชิลได้ทั้งวัน สามารถสัมผัสบรรยากาศแห่งวันวาน Narisa Cafe & Creative Space

บ้านเลขที่ 5 ซอยพหลโยธิน 17 กรุงเทพฯ
Facebook/ Narisa Cafe & Creative Space
เวลาเปิดให้บริการช่วง Soft Opening
เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 9.00- 17.00 น.
จันทร์ และ ศุกร์ ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 น.
(ปิดวันอังคาร-พฤหัส)

การเดินทางมีที่จอดรถหน้าร้านประมาณ (8-10 คัน)หรือสามารถจอดรถที่เซนทรัลลาดพร้าว/ โลตัสลาดพร้าว เดินเข้าซ.พหลโยธิน 17
รถสาธารณะ ลง BTS ห้าแยกลาดพร้าว ทางออก 3

Facebook
https://www.facebook.com/Narisa-Cafe-Creative-Space-107459265037666/

ข้อมูลร้าน : NARISA CAFE & CREATIVE SPACE
แผนที่: https://goo.gl/maps/qKEXauCMqqQodMB67

อำแดงไต้ฝุ่น บายเดอะริเวอร์ สาขาใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

คุณใหญ่- ปุญชรัศมิ์ แก้ววัฒนะบรวงศ์ เจ้าของ และ Chef Director ร้านอำแดงไต้ฝุ่น บายเดอะริเวอร์

วันนี้ Toptotravel พาไปรู้จักร้านอาหารไทยพื้นบ้าน ที่อยากพาทุกคนไปเสพราชาติของอาหารที่ผสมผสานเมนูจีนฮ่องกง สูตรต้นฉบับชื่อดัง ที่ไม่ได้มีดีแค่รสชาติ แต่มีเรื่องราวดีดีมากมาย เดิมร้านนี้ตั้งอยู่ในย่านสุขุมวิท นักชิมรู้จักกัน ร้านอำแดงไต้ฝุ่น คือ ร้านอาหารไทยชื่อดัง ที่เคยตั้งอยู่ในย่านสุขุมวิท เชื่อว่านักชิมหลายท่านรู้จักเป็นอย่างดี ถึงความเชี่ยวชาญเรื่องอาหารไทย/จีน ที่โด่ดเด่น และเปิดให้บริการมามากว่า 4 ปี ที่นี่พรั่งพร้อมไปด้วย อาหารต้นตำรับไทย/จีน รสชาติที่หลายคนโหยหาอาหารแบบดั้งเดิม จนเป็นเอกลักษณ์ที่นักชิมจดจำได้เป็นอย่างดี ปัจจุบัน านอำแดงไต้ฝุ่น ย้ายร้าน ใหม่ ใหญ่กว่าเดิม บนถนนพระราม 3 ชื่อร้าน อำแดงไต้ฝุ่น บายเดอะริเวอร์

อำแดงไต้ฝุ่น บายเดอะริเวอร์ ร้านใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ใกล้ออกปากอ่าวไทย ที่นี่นอกจากจะมีอาหารไทยต้นตำรับ รสมือดั้งเดิมแบบอำแดงไต้ฝุ่นแล้ว
ยังได้เพิ่มเติม เมนูอาหารทะเล ซีฟู้ด ผัดสไตล์เตาจีน เข้ามาเพิ่มขึ้น รับรองว่าถึงเครื่องถึงรสหอมกลิ่นกระทะสไตล์จีนๆ อย่างแน่นอน บริหารงานโดย คุณใหญ่- ปุญชรัศมิ์ แก้ววัฒนะบรวงศ์

คุณใหญ่- ปุญชรัศมิ์ แก้ววัฒนะบรวงศ์ เจ้าของ และ Chef Director ร้านอำแดงไต้ฝุ่น บายเดอะริเวอร์ ให้เกียรติมาแนะนำร้านและเมนูอาหารด้วยตนเอง จุดเริ่มต้นของอำแดง บายเดอะริเวอร์ พระราม 3 เป็นสถานที่ต้องตา ตรงใจกับคุณใหญ่มากๆ ตอบโจทย์คอนเซปต์ของ ร้านอำแดงไต้ฝุ่น ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากคุณใหญ่ ทำธุรกิจร้านอาหารริมแม่น้ำมาตลอด จนเรียกว่า อาหารจากสายน้ำ ประกอบไปด้วยร้าน จางวางอิ่ม ที่ตรงข้ามเกาะเกร็ด, บ้านชิดกรุง, ท่าน้ำขวัญ จังหวัดนนทบุรี หรือครัวบุษบัน จังหวัดปทุมธานี ล้วนแล้วอยู่ริมน้ำทั้งหมด

อำแดงไต้ฝุ่น

อำแดงไต้ฝุ่น บายเดอะริเวอร์ ร้านใหม่บนถนนพระราม 3 ตั้งอยู่ในโครงการ
บางกอกสแควร์ ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นอาคารบ้านไม้ 2 ชั้น หลังใหญ่ ปูด้วยพื้นไม้สร้างแบบไทยร่วมสมัย ที่ผสมผสานกลมกลืนในความเป็นไทย
จีน และดูอบอุ่น โปร่งสบาย พร้อมมีมุมนั่งพักรอที่มีกลิ่นอายตะวันตก เพิ่มเคาน์เตอร์บาร์ ให้ดูเฮฮา สำหรับการพบปะสังสรรค์เพิ่มความสุขให้ลูกค้าได้มากขึ้น ด้วยสถานที่กว้างขวาง โอ่โถงมากกว่าเดิมแถมยัง โล่ง โปร่งสบาย ในสไตล์เท่ๆเหมาะกับยุคสมัยนี้ ที่ต้องนั่งเว้นระยะห่าง และมีมาตรการสุขอนามัยของกระทรวงสาธารณสุข พร้อมให้บริการ ส่วนอินดอร์ เอาต์ดอร์ ทั้งหมดกว่า 160
บริเวณโซนที่นั่ง มีทั้งห้องแอร์ และด้านนอกที่แดดร่มลมตกมีระเบียงด้านข้างหรือระเบียงริมแม่น้ำ นั้งสบายๆ ชมวิวทิวทัศน์ได้มุมกว้างมากขึ้น สวยงามตระการตาในยามค่ำคืน

อำแดงไต้ฝุ่น บายเดอะริเวอร์ ร้านวิวริมแม่น้ำ ช่วงแดดร่มยามเย็น นั่งชิลล์ตอนใกล้ค่ำ ชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยา อีกด้านหนึ่งก็สามารถชมสะพานภูมิพลที่ตั้งโดดเด่นสง่างามใกล้ตา รวมถึงไปถึงการได้ชมเรือเดินสมุทรที่แล่นผ่านด้านหน้าร้านอย่างตื่นตาตื่นใจ เรียกได้ว่า เพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหารมากยิ่งขึ้นนอกจากเมนูอร่อยแบบไทยๆ ที่เรียกว่าเป็นเมนูอำแดงคลาสสิกต้นฉบับอำแดงไต้ฝุ่นตั้งใจรังสรรค์ และอีกหลายเมนู
ที่น่าสนใจ ปลอดโปร่งโล่งสบาย ถือเป็นอีกร้านที่ควรไปนั่งทานอาหารพร้อมจิบค็อกเทล ดูพระอาทิตย์ตก ชมวิวสะพานภูมิพล


สำหรับ Toptotravel ไม่ได้สันทัดอาหารจีนมากนัก แต่พอได้ฟังเรื่องราวต่างๆและรายละเอียดที่มีความพิถีพิถัน ทำให้รู้สึกอยากรู้อะไรมากขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็นโอกาสดีที่พิเศษสุดสำหรับอาหารในมื้อนี้ อาหารมื้อนี้จะพิเศษขนาดไหนตามมาชมด้วยกัน

ส่วนเมนูไฮไลต์แนะนำห้ามพลาด เช่น ปูผัดสไปซี่ เป็นเมนูเด็ดที่ได้รางวัลการันตีจากมิชลินไกด์ 2 ปีซ้อน 2022-2021 เพราะทางร้านฟ้านเนื้อปูก้อนใหญ่สดๆ ผัดกับกระเทียม พริก เต้าซี่ และเครื่องปรุงสูตรพิเศษสไตล์จีนฮ่องกง ผัดคั่วแบบแห้งหรือเมนูไฮไลท์ กุ้งแม่น้ำเผาเตาถ่าน จัดมาเอาใจคนชอบกินกุ้งโดยเฉพาะ โดยคัดสรรกุ้งแม่น้ำสดๆตัวโตๆเผาเตาถ่านจนได้กลิ่นหอมๆสีสันสวยงาม เสิร์ฟมาร้อนๆพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรพิเศษ สัมผัสได้ถึงความสดจริงๆ เนื้อกุ้งเด้งแน่นสดหวานมันกุ้งเยิ้มๆขณะที่ เมนูทานเล่นเรียกน้ำย่อยก่อนอาหารแนะนำ รากบัวทอด เหนียวหนึบหอมกลิ่นซอส รับรองว่ากินเล่นเคี้ยวเพลินเกินห้ามใจ นอกจากนี้เมนูใหม่คอนเซ็ปต์ และเสริมเพิ่มทัพด้วยเมนูอาหารทะเลหลากหลาย หอยลาย หอยแมลงภู่ ปลาเก๋า ปลาอินทรี ให้ลูกค้าได้เลือกมากขึ้น

กุ้งแม่น้ำเผา 3 ตัวโล

กุ้งแม่น้ำเผา 3 ตัวโล
ปูก้อนสไปซี่
ปูดอง 2 แซ่ป
ไข่ปลาริวกิว ผัดฉ่าพริกสด
ปลาตาเดียวทอด
ต้มยำปลาเก๋าน้ำข้น
ผัดสามหอมกุ้งสด
ข้าวผัดกากหมู
หอยลายผัดพริกขี้หนู
เมี่ยงปลากะพง
แกงเหลืองไข่ปลาริวกิว
ผัดฉ่าปลาอินทรี
แกงจืดบ๊วยหมูสับโหระพา
ขนมอำแดงไต้ฝุ่น

จัดหนักทั้งอาหารและบรรยากาศ ทุกเมนูอัดแน่นด้วยสมุนไพรเพื่อสุขภาพดีต่อใจและไม่ลืมปิดท้ายความอร่อยด้วยของหวานซิกเนเจอร์ที่มีชื่อเดียวกับร้านคือ อำแดงไต้ฝุ่น ขนมที่มีรูปเป็นแท่งสีเหลี่ยมสีขาวนวลแปลกตาและรสชาติที่ไม่เหมือนใคร หาได้เฉพาะที่ร้านนี้ เพราะทำจากเต้าหูโฮมเมดนำไปทอดมีความนุ่มความหนึบ คลุกเคล้าด้วยถั่วลิสง งา และเม็ดมะม่วงหอมพานต์ บดจนละเอียด หอมหวานมันอย่าบอกใคร

ใครอยากทานอาหารพร้อมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศดีต่อใจ ไปกับใครก็ฟิน
ในส่วนของภายในร้านด้านโซนบาร์ ที่สามารถสังสรรค์สร้างความสนุกสนานครื้นเครงไปกับการให้บริการเครื่องดื่ม โดยออกแบบตกแต่งได้อย่างสวยงาม ด้วยโทนสีเขียวเทอร์คอยซ์ผสมผสานสีน้ำทะเลยามต้องแสงไฟจะยิ่งสวยงามชวนให้รื่นรมย์ขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม โดยรวมเป็นร้าน อาหารที่มีการออกแบบตกแต่งที่ผสมผสานไทยจีนอย่างสุดคลาสสิก และยังมีกลิ่นอายตะวันตก รวมถึงก็ไม่ทิ้งความเป็นอำแดงไต้ฝุ่น ที่ใช้สีแดง ซึ่งเป็นสีเอกลักษณ์ประจำร้าน ใส่กิมมิคที่ดูหรูหรา โดยเฉพาะผ้าม่านที่แขวนตรงหน้าต่าง เป็นผ้าม่านสีแดงก่ำตัดกับสีเขียวเทอร์คอยซ์บริเวณบาร์ ได้เป็นอย่างดี ส่วนโซนที่นั่ง ที่มักถูกนักชิมจับจองเป็นอันดับแรกๆก็คือ โซนที่มีภาพวาดสาวจีนสมัยใหม่ สวมแว่นตาทรงกลมสุดเท่ มือถือปูยักษ์ขนาดใหญ่ สื่อให้เห็นว่า ถ้ามาร้านนี้แล้ว ไม่รับประทานปู ก็เหมือนมาไม่ถึง ที่นี่ไม่ใชขายแค่รสชาติ แต่บรรยากาศในร้านยังเหมาะกับการเป็นจุดเช็คอินคูลๆ กลายเป็น Fine Dining ที่ดูทันสมัยมาก

ขนมอำแดงไต้ฝุ่น

โปรโมชันพิเศษช่วงเปิดร้านใหม่ เพียงลูกค้าแชร์ภาพไม่ว่าจะเป็นภาพอาหาร หรือบรรยากาศภายในร้านสามารถรับส่วนลดค่าอาหารทันที 10% (ไม่รวมกุ้งแม่น้ำเผาและเครื่องดื่ม)

อำแดงไต้ฝุ่น บายเดอะริเวอร์ : Am-Dang-Typhoon by The River
ที่อยู่ อาคาร G โครงการบางกอกสแควร์ เลขที่ 762/7 ถนนพระราม 3
แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร 10125
โทร. 0957164712
www.amdangtyphoon.net
Id line: @amdangtyphoon
หรือเพิ่มเติมข้อมูลโปรโมชันที่ FB. amdangtyphoon

แผนที่เดินทาง อำแดงไต้ฝุ่น บายเดอะริเวอร์ คลิ๊ก
https://maps.app.goo.gl/6jB2PWh8SCfgze1c8

ตามรอยพ่อฯ ปี 9 คืนสู่ลุ่มน้ำป่าสัก จัดกิจกรรมเอามื้อที่ จ.นครราชสีมา

โครงการ “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน” (ตามรอยพ่อฯ) จัดกิจกรรมเอามื้อ ณ จังหวัดนครราชสีมา ลุ่มน้ำป่าสัก เดินหน้าภารกิจถ่ายทอดองค์ความรู้ศาสตร์พระราชาสู่ปีที่ 9 เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยลงมือทำเกษตรแบบโคก หนอง นา ตามศาสตร์พระราชาและภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่ไม่เพียงช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม คืนสมดุลให้กับระบบนิเวศ แต่ยังช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร อันเป็นหนึ่งในปัจจัยพื้นฐานสำหรับการรับมือกับวิกฤตต่างๆ ของมนุษย์ได้อีกด้วย โดยวางมาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของผู้ร่วมกิจกรรมอย่างเข้มข้น

“โคก หนอง นา” ฝ่าวิกฤตสิ่งแวดล้อม
ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร นายกสมาคมดินโลก และผู้ก่อตั้งมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ กล่าวว่า “ในปัจจุบัน ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมกันรับมือกับภาวะการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ให้โลกพัฒนาต่อไปได้อย่างยั่งยืน ซึ่งการทำเกษตรแบบโคก หนอง นา ตามศาสตร์พระราชาและภูมิปัญญาท้องถิ่น นับเป็นเครื่องมือที่จะช่วยในการบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ได้ เพราะในโคก หนอง นา จะมีป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ซึ่งจะเป็น ตัวสร้างสมดุลของระบบนิเวศในพื้นที่ นำมาสู่ความหลากหลายทางชีวภาพหรือ biodiversity จากสิ่งมีชีวิตที่อยู่ทั้งในน้ำ ใต้ดิน บนดิน หรือในป่า อันไม่เพียงช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและแก้ปัญหาภัยพิบัติได้อย่างยั่งยืน แต่ยังช่วยให้มีอาหาร การกินสมบูรณ์ เกิดความมั่นคงทางอาหาร เพื่อสนับสนุนเป้าหมายของสหประชาชาติในการขจัดความอดอยาก (zero hunger) อีกด้วย การทำเกษตรแบบโคก หนอง นา จึงเกิดประโยชน์ทั้งต่อตนเอง ครอบครัว สังคม ประเทศชาติ และ ช่วยโลกไปพร้อมๆ กัน”

นอกจากนั้น การทำเกษตรตามแนวทางศาสตร์พระราชาและภูมิปัญญาท้องถิ่นยังช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนของภาคการเกษตร ซึ่งมีผลกระทบต่อภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดย ดร.วิวัฒน์ กล่าวว่า “จากข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมที่ระบุว่าภาคการเกษตรมีการปลดปล่อยก๊าซมีเทนสูง ส่งผลต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมนั้น ก๊าซมีเทนเกิดมากใน การทำเกษตรเชิงเดี่ยว หรือเลี้ยงสัตว์ประเภทเดียวที่เป็นฟาร์มปศุสัตว์ขนาดใหญ่และใช้ยาปฏิชีวนะ ก็จะทำให้กระบวนการย่อยสลายเกิดก๊าซมีเทนขึ้น ไม่ว่าจะในลำไส้ของสัตว์หรือมูลสัตว์ที่ถ่ายทิ้งออกมา แม้แต่กระบวนการหมักของฟางกิ่งไม้ใบไม้ที่มีสารเคมีอยู่ด้วย ซึ่งสามารถแก้ได้ด้วยการใช้น้ำสมุนไพรรสจืดเพื่อกระตุ้นกลไกการทำงานของจุลินทรีย์ให้สามารถย่อยสลายได้อย่างรวดเร็วโดยไม่เกิดก๊าซมีเทน ในทางตรงกันข้ามกลับกระตุ้นให้เกิดออกซิเจนขึ้นมาด้วยซ้ำ”

ตามรอยพ่อฯ ปี 9 คืนสู่ลุ่มน้ำป่าสัก
ด้าน นายอาทิตย์ กริชพิพรรธ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิตจำกัด กล่าวถึงแนวคิดหลักและรายละเอียดกิจกรรมว่า “ครั้งนี้นับเป็นกิจกรรมเอามื้อครั้งแรกของโครงการ ‘ตามรอยพ่อฯ’ ปี 9 หลังจากที่ได้ชะลอการจัดกิจกรรมออนกราวด์ถึงกว่า 1 ปีเต็ม ซึ่งเป็นผลจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ดีในช่วงที่ผ่านมา โครงการ ‘ตามรอยพ่อ’ ได้เดินหน้าเผยแพร่องค์ความรู้ศาสตร์พระราชาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด ‘9 ปี แห่งพลังสามัคคี ฟันฝ่าทุกวิกฤต สู่ทางรอดที่ยั่งยืน’ ผ่านกิจกรรมบนแพลตฟอร์มออนไลน์ของโครงการทั้งเว็บไซต์และ เฟซ บุ๊ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคลิปวิดีโอ ‘คู่มือสู่วิถีกสิกรรมธรรมชาติ’ ที่ให้ความรู้พื้นฐานแก่ผู้สนใจลงมือทำการเกษตรตามแนวทางศาสตร์พระราชาและภูมิปัญญาท้องถิ่น นอกจากนั้นเรายังช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในแคมเปญ ‘รวมพลังสู้โควิด-19’ โดยทำงานร่วมกับศูนย์ช่วยโควิด-19 ของเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติรวม 19 แห่งทั่วประเทศ จัดคาราวานแจกตะกร้าปันสุข ชุดต้มและน้ำสมุนไพร 7 นางฟ้า และกล่องกรีนบ็อกซ์ (Home Isolation Green Box) ชุดดูแลตัวเองสำหรับผู้ป่วยที่พักรักษาตัวที่บ้านไปเป็นจำนวนมาก ไปยัง 252 พื้นที่ทั่วประเทศ”

นายอาทิตย์ กล่าวถึงกิจกรรมเอามื้อ ณ จังหวัดนครราชสีมา ในครั้งนี้ว่า “โครงการตามรอยพ่อฯ ดำเนินการเข้าสู่ปีที่ 9 ซึ่งเป็นปีสรุปผลความสำเร็จของโครงการ เราจึงกลับมาจัดกิจกรรมในพื้นที่บริเวณลุ่มน้ำป่าสัก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการตามรอยพ่อฯ เมื่อ 9 ปีที่แล้วอีกครั้ง โดยเลือกพื้นที่เสงี่ยมคำกสิกรรมวิถีของคุณสุณิตา เหวนอก ซึ่งเป็นหนึ่งใน คนต้นแบบ ‘คนหัวไวใจสู้’ ของเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ ผู้มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาพื้นที่ของตนเองตามแนวทางศาสตร์พระราชาเพื่อเป็นต้นแบบให้เกษตรกรในพื้นที่และคนรุ่นลูกหลาน รวมถึงแปลงพื้นที่ของตนเองเป็น 1 ใน 19 ศูนย์ช่วยโควิด-19 ในแคมเปญรวมพลังสู้โควิด-19 เราจึงมาจัดกิจกรรมเอามื้อในพื้นที่ของคุณสุณิตา เพื่อแสดงความขอบคุณในความมุ่งมั่นและความเสียสละ”

นายบุญล้อม เต้าแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงสวนล้อมศรีรินทร์ กล่าวเสริมข้อมูลพื้นที่ว่า “นครราชสีมาหรือโคราชเป็นจังหวัดใหญ่ในภาคอีสาน มีพื้นที่ป่าเขาและพื้นที่เกษตรจำนวนมาก ทางทิศตะวันตกเชื่อมกับจังหวัดชัยภูมิ เป็นแหล่งรวมลุ่มน้ำสำคัญ 3 ลุ่ม คือ ลุ่มน้ำมูล ลุ่มน้ำชี และทางทิศตะวันตกมีพื้นที่บางส่วนที่ไหลไปลงใน ลุ่มน้ำป่าสัก เนื่องจากเป็นจังหวัดใหญ่มีประชากรมากมีความต้องการน้ำสูง ประกอบกับมีภัยแล้งบ่อยครั้ง โครงการจึงนำเสนอพื้นที่ของคุณสุณิตา เหวนอก เป็นพื้นที่ตัวอย่างความสำเร็จในโคราช เพราะได้พิสูจน์ให้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า การนำศาสตร์พระราชาและภูมิปัญญาท้องถิ่นไปลงมือปฏิบัตินั้น สามารถแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตใด ทั้งภัยแล้ง อุทกภัย หรือภัยจากโรคระบาด เสงี่ยมคำกสิกรรมวิถีของคุณสุณิตาก็ผ่านพ้นวิกฤตได้อย่างดี นอกจากจะสามารถพึ่งตนเองได้แล้ว ยังส่งต่อความช่วยเหลือไปยังเพื่อนมนุษย์ในสังคมในชุมชนอื่น ๆ ได้อีกด้วย

ตามรอยพ่อฯ ด้วยหัวใจ
ด้าน นางสาวสุณิตา เหวนอก (นวล) เจ้าของพื้นที่ เสงี่ยมคำกสิกรรมวิถี ขนาด 6 ไร่ ตั้งอยู่ที่บ้านหนองบัวกลาง ต.จักราช อ.จักราช จ.นครราชสีมา กล่าวว่า “นวลเป็นคนโคราชโดยกำเนิด พี่น้อง 4 คนเป็นลูกคนที่ 2 ครอบครัวเป็นเกษตรกรที่ทำงานหนัก มีแต่หนี้สิน เมื่อจบ ป.6 ก็ทำสวนทำนากับที่บ้าน พออายุ 16-17 ปี พ่อแม่ให้ไปทำงานโรงงานจึงแอบเรียน กศน. โดยทำงานส่งตัวเองเรียนและส่งเงินให้ที่บ้านด้วย จึงต้องทำงานหนักมากทำทั้งโรงงานเย็บผ้า โรงงานของเล่น ฯลฯ ในที่สุดก็เรียนจนจบปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏโคราช พออายุ 29 ปี สอบติดราชการและเรียนต่อจนจบนิติศาสตร์ มหาวิธรรมศาสตร์ หลักสูตรประกาศนียบัตรกฎหมายมหาชน อายุ 30 กว่าทำงานเป็นนิติกรที่รังสิตปัจจุบันย้ายมาที่ อ.จักราช จุดเปลี่ยนคือหลังจากในหลวงรัชกาลที่ 9 สวรรคตเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ได้ดูรายการสารคดีโทรทัศน์ ‘แสงจากพ่อสู่ความยั่งยืน’ ทุกคืน ทำให้เกิดคำถามกับตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ จนมีโอกาสพบ อ.เข้ม (ไตรภพ โคตรวงษา ประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ) ซึ่งได้ชวนให้มาเป็นจิตอาสาช่วยโครงการท่องเที่ยวตามศาสตร์พระราชาของมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ แล้วจึงไปอบรมการทำเกษตรตามแนวทางศาสตร์พระราชาทั้งที่ศูนย์ภูมิรักษ์ฯ อบรมออกแบบโคก หนอง นา โมเดลที่วัดหนองสองห้อง อบรมที่ศูนย์คืนป่าสัก แล้วตัดสินใจลงมือทำบนที่ดินแปลงนี้ เพื่อให้เป็นแหล่งอาหารปลอดภัยของครอบครัว เพราะทำเองรู้ว่าเราใส่อะไรลงไป โดยปลูกพืชต่างๆ เช่น กล้วย ละมุด อ้อยพันธุ์สุพรรณ 50 ถั่วลิสง เป็นต้น”

นางสาวสุณิตา กล่าวถึงความสุขที่ได้จากการตามรอยศาสตร์พระราชาว่า “มีความสุขมาก ช่วงแรกที่ลงมือทำแม่ไม่เห็นด้วย ไม่ยอมมาดู เพราะเสียดายที่ดิน แต่พอปีนี้ สิ่งที่เราทำเริ่มผลิดอกออกผล แม่ก็เข้ามาดูเกือบทุกวันรู้สึกว่าตัวเองคิดถูกแล้วที่เดินตามรอยพ่อ แม้จะต้องใช้เวลาและความอดทนอย่างมาก แต่ก็คุ้มค่าที่ทำให้ครอบครัวยอมรับได้ และยังสร้างความรัก ความเข้าใจ ความอบอุ่น สร้างความมั่นคงปลอดภัยทางอาหารให้ครอบครัว อีกทั้งยังภูมิใจที่เป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนทำตามด้วย โดยหลังจากนี้อยากทำสวนสมุนไพรเพิ่มในพื้นที่เพื่อดูแลสุขภาพของคนในครอบครัว”

กิจกรรมเอามื้อในครั้งนี้ประกอบด้วยการทำแปลงปลูกผักอินทรีย์ ขุดปรับคลองไส้ไก่รอบแปลงนาและหนองน้ำ ปลูกพืชผักสวนครัวรั้วกินได้ ห่มฟาง ใส่ปุ๋ยแห้งปุ๋ยน้ำ ทำเครื่องกรองน้ำถัง 200 ลิตร ทำเครื่องสูบน้ำพลังงานโซล่าเซล แปรรูปผลผลิต อาทิ สบู่ฟักข้าว แชมพูดอกอัญชัน กล้วยหมัก ชาตะไคร้ ไข่เค็ม โดยดำเนินมาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของผู้ร่วมกิจกรรมอย่างเข้มข้น อาทิ การควบคุมจำนวนผู้ร่วมกิจกรรม ผู้ร่วมกิจกรรมทุกคนต้องแสดงผลยืนยันการตรวจ ATK (Antigen Test Kit) ก่อนร่วมงานไม่เกิน 72 ชั่วโมง รวมถึงเอกสารยืนยันการได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม การสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ร่วมกิจกรรม เป็นต้น

ผู้ที่สนใจติดตามกิจกรรมในโครงการ “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน” ได้ทาง www.facebook.com/ajourneyinspiredbytheking หรือดูรายละเอียดที่ https://ajourneyinspiredbytheking.org

รฟฟท. เตรียมเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง

บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เตรียมเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2564

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเปิดเผยว่า หลังจากบริษัทได้เปิดทดลองให้ประชาชนได้ใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายเป็นระยะเวลากว่า 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2564 เป็นต้นมา ล่าสุดตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย บริษัทเตรียมเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ทั้ง 2 เส้นทาง คือ สายบางซื่อ – รังสิต และ สายบางซื่อ – ตลิ่งชัน ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป

เมื่อเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเชิงพาณิชย์ บริษัทจะปรับเวลาให้บริการจากเดิม 05.30 – 22.00 น. เป็น 05.30 – 24.00 น. ทุกวัน ทั้งวันธรรมดาจันทร์ – ศุกร์ และวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ รวมทั้งวันหยุดนักขัตฤกษ์ ส่วนความถี่ในการเดินรถสายบางซื่อ – รังสิต จะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า – เย็น ( 07.00 – 09.30 น. และ 17.00 – 19.30 น. ) จะใช้ความถี่ 12 นาที นอกช่วงเวลาเร่งด่วนจะใช้ความถี่ 20 นาที ส่วนสายบางซื่อ – ตลิ่งชัน จะใช้ความถี่ 20 นาทีตลอดระยะเวลาการให้บริการ

ซึ่งเมื่อปรับความถี่ในการเดินรถจะสามารถเพิ่มจำนวนเที่ยวในการรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มมากขึ้น โดยจากเดิมที่สายบางซื่อ – รังสิต ใช้ความถี่ 15 นาทีในช่วงเวลาเร่งด่วน เช้า-เย็น และ 30 นาที นอกช่วงเวลาเร่งด่วน สามารถเดินรถได้ 88 เที่ยว/วัน เมื่อปรับความถี่จะเพิ่มเป็น 138 เที่ยว/วัน ส่วนสายบางซื่อ – ตลิ่งชัน ใช้ความถี่ 30 นาที ตลอดระยะเวลาให้บริการสามารถเดินรถได้ 64 เที่ยว/วัน เมื่อปรับความถี่จะเพิ่มเป็น 112 เที่ยว/วัน

สำหรับอัตราค่าโดยสารของรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงการรถไฟแห่งประเทศไทย กำหนดราคาเริ่มต้นที่ 12 บาท และสูงสุดไม่เกิน 42 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับค่าครองชีพของประชาชนจากสถานการณ์ในปัจุบันตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และบริษัทยังคงให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยในการใช้บริการของผู้โดยสาร โดยมีการส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ดูแล และซ่อมบำรุงเส้นทางเดินรถให้มีความปลอดภัย รวมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจลาดตระเวนเส้นทางเดินรถอย่างต่อเนื่อง และดำเนินการมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในระบบรถไฟฟ้าอย่างเคร่งครัด

นอกจากนั้นบริษัทยังได้จัดกิจกรรมพิเศษต้อนรับการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์รถไฟฟ้าสายสีแดง โดยมอบของขวัญสุดพิเศษ เป็นซองใส่บัตรหนัง พร้อมสายคล้องคอสุดพรีเมี่ยมให้แก่ผู้โดยสาร 1,000 ท่านแรก ที่ซื้อบัตรโดยสารเติมเงินทุกประเภท ( Stored Value Card ) ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ทุกสถานี
( ผู้โดยสารสามารถขอรับได้ที่ห้องจำหน่ายบัตรโดยสาร ซึ่งผู้โดยสาร 1 ท่านสามารถขอรับซองใส่บัตรได้ 1 ชิ้นเท่านั้น )

หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://www.srtet.co.th/index.php/th/

บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด
หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่
https://www.srtet.co.th/index.php/th/
หมายเลข Call Center 1690 หรือ www.srtet.co.th ,
www.facebook.com/AirportRailLink และ Twitter : Airport Rail Link

เปิดแนวคิด Mr. Denis Richter เรเนซองส์ พัทยา รีสอร์ท แอนด์ สปา

เว็ปไซต์ Toptotravel มีโอกาสได้เข้าพูดคุยกับ มร. เดนิส ริชเตอร์ ผู้จัดการทั่วไป เรเนซองส์ พัทยา รีสอร์ท แอนด์ สปา แน่นอนไม่มีใครไม่รู้จัก โรงแรมตั้งอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และความเงียบสงบของตำบลนาจอมเทียน รีสอร์ทออกแบบมาเป็นอาคารที่ทำให้แขกผู้มาเยือนได้สัมผัสกับการผสมผสานความ ทันสมัยและธรรมชาติของชายทะเลไว้อย่างลงตัว

“มร. เดนิส ริชเตอร์ กล่าวถึง จุดเด่นของการบริหารจัดการธุรกิจโรงแรม 5 ดาวในช่วงโควิด-19 และสถานการณ์การปรับตัวในช่วงปีที่ผ่านมา รวมไปถึงสัดส่วนของนักท่องเที่ยวในประเทศไทยและนักท่องเทียวชาวต่างชาติ โดยโรงแรมการจัดโปรโมชั่น การวางแผนทางด้านการตลาด เพื่อกระตุ้นการเข้าพักของลูกค้า และสิ่งที่สำคัญที่สุดของการบริหารโรงแรมสำหรับการเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศ เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง รวมไปการจัดแคมเปญของทางโรงแรม เรามีการออกข้อเสนอพิเศษต่างๆ เพื่อกระตุ้นการเข้าพักอยู่อย่างต่อเนื่อง”

Questions Answered by MR. DENIS RICHTER
General Manager
Renaissance Pattaya Resort & Spa

การบริหารจัดการธุรกิจโรงแรม 5 ดาวในช่วงโควิด-19และสถานการณ์การปรับตัวในช่วงปีที่ผ่านมา (2563-2564)
(How’re you manage the 5 stars hotel business during the Covid-19, and how’re you adapt to the situation over the past years (2020-2021)
• We ensure the Safety and Health measures to be always enforced in
all areas.
• เรามีการเน้นย้ำมาตรการด้านสุขอนามัยและความปลอดภัย ในทุกพื้นที่ของรีสอร์ทและทุกจุดสัมผัสอยู่อย่างต่อเนื่อง
• Implementing social distancing set-up and contactless service to adapt to the situation
• เรายังมีการเพิ่มมาตรการการเว้นระยะห่าง และ การบริการแบบไร้การสัมผัส เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน

-สัดส่วนนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติในปัจจุบัน
(Portion of Thais and Foreigner tourist.)
• During COVID-19 pandemic, majority of market is Domestic & Expats
• ในช่วงสถานาร์โควิด-19 ส่งผลให้สัดส่วนของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ๋เป็นตลาดภายในประเทศและชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศ
• In normal situation, before COVID-19, Thais 35%, Foreigner 65%
• อย่างไรในช่วงสถานการณ์ปกติ ก่อนเหตุโควิด-19 เรามีสัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยอยู่ที่ประมาณ 35% และต่างชาติ 65%

-กลุ่มชาวต่างชาติที่นิยมเข้าพักในโรงแรม?
(The foreign nationality that always come to stay.)
• Before COVID-19, we have the mix of
• ช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 เรามีสัดส่วนของกลุ่มผู้เข้าพักโดยประมาณการณ์ เช่น
• 1. ชาวไทย TH 35%
• 2. ชาวจีน CN 20%
• 3. ชาวอเมริกัน US 15%
• 4. ชาวเกาหลี KR 4%
• 5. ชาวฮ่องกง HK 3%
กลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวชาวไทยมีอัตราการเติบโตมากน้อยแค่ไหนอย่างไร ( How much growth on Domestic market? ) How?
• During COVID-19 pandemic, majority of market is Domestic & Expats
• ในช่วงสถาการณ์โควิด-19 ส่งผลให้สัดส่วนของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นตลาดภายในประเทศและชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศ

ความพร้อมในการเปิดประเทศเพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง?
(Readiness to welcome foreign tourists again?)

• Renaissance Pattaya Resort & Spa is always open its door to guest and never close the resort. Hence we are more than ready to welcome all tourists again and deliver our premium service and comfortable accommodation options.
• เรเนซองส์ พัทยา รีสอร์ท แอนด์ สปา ยืนหยัดในการเปิดให้บริการมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมเสริมมาตรการต่างๆ โดยไม่เคยประกาศการปิดให้บริการ ดังนั้น เรามีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ให้ความสนใจมาเข้าพัก อีกทั้งส่งมอบประสบการณ์การเข้าพักและการบริการระดับพรีเมี่ยม รวมไปถึงตัวเลือกห้องพักมีหลากหลายรูปแบบที่สะดวกสบายครบครัน

-เกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านสาธารณสุข
SHA+(Safety and Health Management?)
• We are operated under Commitment to Clean program of Marriott International and being a certified SHA with compliance to safety and health regulation under Ministry of Health

• เรามีการดำเนินงานภายใต้กรอบของโปรแกรม Commitment to Clean ของเครือ Marriott และ ผ่านการรับรองด้านสุขอนามัยและความปลอดภัย หรือ SHA โดยเน้นย้ำมาตรการให้สอดคล้องกับแนวทางของสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง

-ด้านการทำตลาดต้องปรับเปลี่ยนมากน้อยแค่ไหนอย่างไร
(Marketing, any adaptive or change? More or Less and How?)
• With changes towards digital world; hence, we have utilized more social media and digital channels to communicate to our guests.
• ด้วยสถาการณ์และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าในปัจจุบัน เราได้มีการปรับกลยุทธ์ด้านการตลาด โดยเน้นไปยังสื่อโซเชียลมีเดีย และ สื่ออนไลน์ต่างๆ มากขึ้น เพื่อสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าของเรา

ท่านมีความความมั่นใจเกี่ยวกับนโยบายการเปิดประเทศเพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวมากน้อยแค่ไหนและอะไรที่เป็นสิ่งที่ต้องกังวลบ้างหรือไม่อย่างไร?
(How much confidence would you rate on the Thailand Reopening policies to except foreign tourists? And what’re the concerns you may have?)
• We are confidence on our safety and hygiene standards and look forward to welcoming oversea visitors again.

• เรามีความเชื่อมั่นในมาตรฐานด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย และ พร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่านอีกครั้ง

• COVID-19 may not disappear; however, we should adapt our lifestyle align with the situation such as always protecting ourselves with DMHTT (Distancing, Mask Wearing, Hand Washing, Testing and Thai Chana scanning)

• โควิด-19 อาจไม่หายไป อย่างไรก็ดี เราควรที่จะปรับไลฟ์สไตล์ของเราให้เข้ากับสถานการณ์อยู่เสมอ ด้วยการไม่ประมาท การ์ดอย่าตก พร้อมนำแนวทาง DMHTT มาใช้ในชีวิตประจำวันของเรา ให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย

สิ่งที่เป็นจุดเด่นจุดขายและความเชี่ยวชาญของเครือโรงแรมเชนใหญ่ (Strength?, USP? and Expertise? of Big Hotel Chain)
• Being part with International Hotel Chain, guest can rest assure with the international standards of service, cleanliness, hygiene, premium product as well as the safety and wellbeing during your stay.

• ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งในแบรนด์โรงแรมระดับนานาชาติ แขกผู้เข้าพักทุกคนสามารถวางใจได้กับมาตรการระดับสากลในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ด้านการบริการ ด้านความสะอาด ผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยม รวมไปถึงด้านความปลอดภัยและความเป็นอยู่ต่างๆระดับสากลตลอดการเข้าพัก

แผนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองพัทยาในช่วงปลายปี
จะช่วยกระตุ้นการเข้าพักมากน้อยแค่ไหน?
(Do you think the events organized by Pattaya City to drive more tourism business will help increase hotel occupancy? How?
(from the news that Pattaya City is organized several events throughout November and December such as Pattaya Music Festival, Loy Krathong, International Fireworks, NaKlua Walk & Eat, and Pattaya Countdown)

• We do expect the Pattaya City campaign will drive more visitors to the area with help to increase the hotel occupancy and bringing life back to all local businesses in the community.

• เราคาดหวังว่า แคมเปญต่างๆของเมืองพัทยา จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาใช้บริการในพื้นที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเข้าพัก และ นำชีวิตชีวา กลับมาหล่อเลี้ยงธุรกิจในพื้นที่รวมไปถึงชุมชน อย่างยั่งยืน

tps://www.youtube.com/watch?v=-4dLDgIfVAM

(จากข่าว: เมืองพัทยาได้มีการวางแผนจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนพ.ย. ยาวตลอดจนถึงวันส่งท้ายปีทั้งหมด 5 งานหลัก ได้แก่
งานเทศกาลดนตรี (PATTAYA Music Festival)
จัดในวันศุกร์และเสาร์ติดต่อกัน 4 สัปดาห์ ส่วนวันที่ 19 พ.ย. 64 มีการจัดงานเทศกาลลอยกระทง / วันที่ 26-27 พ.ย. จัดงานจุดพลุนานาชาติบริเวณริมชายหาด ส่วนในเดือนธ.ค. มีการจัดงานเทศกาลอาหารเรียกว่า “งานเดินกินถิ่นนาเกลือ” และมีกิจกรรมทุกสัปดาห์
งานเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คือ งานพัทยาเคาท์ดาวน์ (PATTAYA Countdown 2021)

Book your next beach holiday today!
www.marriott.com
/pyxbr

ร้านพิซซ่าของลุงทอม มุมไม่ลับ แต่อยากให้ไปลอง

Uncle Tom’s Pizzeria สวรรค์ของคนรัก พิซซ่าต้องไม่พลาด ความอร่อยเอาใจสายพิซซ่าเลิฟเว่อร์ ชวนมาฟินกับทุกเมนูพิซซ่าชื่อดัง ปักหมุดร้าน อยู่บริเวณ
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว

เที่ยวเขาค้อ ทั้งทีอยากหาร้านอาหารเขาค้อบรรยากาศสวยๆ เห็นวิวทะเลหมอก รับลมจะไปที่ไหนดี ? วันนี้มีโอกาสแวะมาร้านนี้ คือตั้งใจมาชมวิวโดยเฉพาะ ที่ Uncle Tom’s Pizzeria ร้านพิซซ่าของลุงทอม พิซซ่าเตาถ่าน อารมณ์ของร้านโอบล้อมไปด้วยภูเขาเรียงรายสูงต่ำหลดหลั่นเต็มไปด้วยความอบอุ่น ตกแต่งสบายๆ มีสไตล์ของตัวเอง นั่งที่ร้านมองเห็นทิวเขาได่ชัดเจน บางจังหวะมีหมอกลอยต่ำๆ มาให้ชมด้วย และที่สำคัญคนไม่พลุกพล่าน มองเห็นวิวภูเขาและท้องฟ้าที่สวยงามแบบสุดๆ ได้ทุกมุม ส่วนที่นั่งมีทั้งด้านนอก และภานใน เคาน์เตอร์บาร์ด้านนอกเป็นที่นิยมมากเพราะได้นั่งแบบ แนบชิดติดวิวภูเขา

“เสาวรสโซดา” เปรี้ยว ซ่า เพิ่มความสดชื่นแบบเต็มๆ
Uncle Tom’s Pizzeria
ร้านพิซซ่าของลุงทอม มุมไม่ลับ แต่อยากให้ไปลอง
คุณกาญจนาวดี สิริอินทร์ (มาดามถิง) ผู้บริหารร้าน Uncle Tom’s Pizzeria

นอกจากร้านที่ได้บรรยากาศน่ารักอบอุ่นแล้ว เมนูของทางร้านเป็น พิซซ่าของลุงทอมเป็นพิซซ่าโฮมเมด สูตรต้นตำหรับบางกรอบจากอิตาลีโดยเฉพาะอบร้อนๆ ขนาดใหญ่ที่ผ่านการสูตรต้นตำรับใส่ใจทุกขั้นตอน ทานแล้วเป็นที่ติดอกติดใจของหลายคน จุดเด่นของพิซซ่าที่ร้านคือ เป็นอิตาเลี่ยนโฮมเมดพิซซ่า ที่ทำเองตั้งแต่แป้งยันซอส ในทุกถาดใส่เครื่องและชีสแบบจัดเต็ม ก่อนที่จะนำเข้าไปอบในเตาถ่านหลังร้านเพื่อให้ออกมาเป็นพิซซ่าที่มีความหอมของถ่านไม้ อยู่บนแป้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นกว่าจะได้มาซึ่งพิซซ่าถาดเด็ดอย่างในปัจจุบันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเจ้าของ คุณกาญจนาวดี สิริอินทร์ (มาดามถิง) โดยมาดามต้องไปเรียนการทำพิซซ่าสูตรต่างๆ มาจากเพื่อนสนิทของลุงทอม จุดเริ่มต้นของการเป็นคนที่รักและชื่นชอบในงานบริการ จึงตัดสินใจเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องพิซซ่าจนสามารถเปิดเป็นร้านของตัวเองกลับมาสร้างธุรกิจอาหารในฐานะผู้ผลิต ครีเอทเมนูอาหารให้กับแบรนด์ชื่อดังมากมาย จนกระทั่งมาเปิดเป็นแบรนด์ของตัวเอง โดยใช้ทักษะและประสบการณ์ที่เคยทำงานร่วมกับแบรนด์ต่างๆ สร้างสรรค์แบรนด์ ในแบบที่เป็นตัวของตัวเอง ทุกเมนูล้วนเกิดจากความตั้งใจจริงและความรักในงานที่เกิดขึ้นและทำเพราะะชื่นชอบในงานบริการ

วันนี้ เราอยู่ที่เขาค้อ เป็นหนึ่งในตัวเลือกของเพื่อนๆ ในช่วงอากาศเริ่มเย็นอย่างแน่นอน และหากไปถึงเขาค้อทั้งที ฟินให้ครบไม่ใช่แค่แวะไปเที่ยวที่ต่างๆ ตามกลิ่นพิซซ่าเตาถ่าน พิซซ่าแฮนด์เมด เตาถ่านสูตรต้นตำหรับบางกรอบจากอิตาลี สูตรลุงทอม แค่ชื่อร้านก็พอจะรู้แล้วว่าคือ พิซซ่า ซิกเนอเจอร์ และเป็นพิซซ่าเตาถ่าน มีชื่อเสียงสมคำร่ำลือ นอกจากในเรื่องของแป้งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะแล้วก็ยังมีในเรื่องของความสดใหม่ของวัตถุดิบที่จะต้องเตรียมกันใหม่ในทุกเช้าอย่างแป้งพิซซ่าแบบฉบับของลุงทอม

คุณกาญจนาวดี สิริอินทร์ (มาดามถิง)

ความอร่อยยอดนิยมที่มียอดสั่งสูงสุด อย่าง พิซซ่าฮาวายเอี้ยน (Pizza Hawaiian) ราคา 380 บาท ซอสสไตล์โฮมเมดเข้มข้น หอมกลิ่นชีส แป้งนุ่มบางกรอบ หอมกรุ่นอร่อย ทานแบบร้อนชีสจะละลายเยิ้มยื้อ โดดเด่นด้านการคัดสรรคุณภาพของวัตถุดิบที่ใส่ไปในทุกจาน รับรองว่าใครที่ชื่นชอบพิซซ่าต้องบอกว่า..อร่อยอย่างแน่นอน หอมกรุ่น ชีสเต็มคำ ส่วนเมนูอื่นยอดนิยมของที่นี่ผัดไทยโบราณเมืองเพชร,หมี่กรอบโบราณกุ้ง ,สปาเก็ตตี้หอยลาย,ผัดไทยกุ้งสด

การทำพิซซ่า ในร้าน Uncle Tom’s Pizzeria
การทำพิซซ่า ในร้าน Uncle Tom’s Pizzeria
บรรยากาศในร้าน Uncle Tom’s Pizzeria
เมนูพิซซ่าของลุงทอม
อัญชัญมะนาวสด
น้ำผึ้งมะนาวแท้

Uncle Tom’s Pizzeria
แน่นอนนอกจากมีพิซซ่าเตาถ่านแบบจัดเต็ม เมนูเครื่องดื่มที่แนะนำอยากให้ลอง “เสาวรสโซดา” เปรี้ยว ซ่า เพิ่มความสดชื่นแบบเต็มๆ เมนูน้ำสมุนไพร “อัญชัญมะนาวสด” และ “น้ำผึ้งมะนาวแท้” ทานไปแล้วไม่เพียงแค่รสชาติอร่อยลงตัว
แต่เหมือนเพิ่มสนุกและความมีมิติในการทานยิ่งขึ้น ลองแล้วคุณจะติดใจ! พร้อมเสิร์ฟเอาใจสาวกพิซซ่าโดยเฉพาะ แถมมีบริการเดลิเวอรี่ ส่งตรงถึงหน้าบ้านด้วยนะ ใครที่มาเที่ยวเพชรบูรณ์แนะนำร้านนี้

Uncle Tom’s Pizzeria เขาค้อ
พิซซ่าฟรุตตี้ ดิ มาเร่ (พิซซ่า ซีฟู้ด)
ผัดไทยโบราณเมืองเพชร

พร้อมแล้วมาเริ่มทานอาหารจานแรกกันเลย
พิซซ่าฟรุตตี้ ดิ มาเร่ (พิซซ่า ซีฟู้ด)
หมี่กรอบโบราณกุ้ง
ผัดไทยกุ้งสด
ปลาดอลลี่ทาท่าซอส
ปีกไก่ซอสเกาหลี
สปาเก็ตตี้หอยลาย

ผัดไทยโบราณเมืองเพชร
ปีกไก่ซอสเกาหลี
หมี่กรอบโบราณกุ้ง

ถ้าได้มาลิ้มลองอาหารร้านนี้นอกจากรสชาติความอร่อยอย่างลงตัวแล้ว ถ้าเรามาในช่วงที่มีอากาศหนาว บรรยากาศของร้านนี้จะฟินแบบสุดๆ ไปเลย
นี่คือทั้งหมดของมื้อนี้ที่ร้านอาหาร พิซซ่าของลุงทอม

ชวนมาเติมความสุขกับชีวิต ด้วยการทานของอร่อยแวะมา
ร้านพิซซ่าของลุงทอม (หลังองค์พระใหญ่)
วัดผาซ่อนแก้ว เขาค้อเปิดบริการ จันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น.
248 ม.7 ตำบล แคมป์สน อำเภอเขาค้อ เพชรบูรณ์ 67280
เสาร์-อาทิตย์ 08.00-20.00 น. โทร. 099 335 5565

ใครที่ไม่สะดวกเดินทาง สามารถสั่งทุกเมนูจากทางร้านได้เช่นกัน
Uncle Tom’s Pizzeria
โทรศัพท์: 086 992 3999

เปิดประสบการณ์ความอร่อย ภายใต้แคมเปญ Thai Dishcovery : New Thai Dish for New Gen

แค่ได้ยินคำว่า โครงการไทยดิชคัฟเวอรี่ (Thai Dishcovery) อาหารไทยที่ออกแบบมาเพื่อคนรุ่นใหม่ ก็การันตีได้ถึงความอร่อย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จับมือเชฟจากร้านอาหารชื่อดัง ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคน
รุ่นใหม่ ร่วมสร้างสรรค์เมนู 20 อาหารไทยโบราณ เพื่อฟู๊ดดี้นักกินรุ่นใหม่ ภายใต้แคมเปญ Thai Dishcovery : New Thai Dish for New Gen

วันนี้ Toptotravel ร่วมงาน โครงการ Thai Dishcovery (ไทยดิชคัฟเวอรี่)
จัดกิจกรรมเปิดตัวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 18 ต.ค.2564 ณ ร้าน Whispering Café จ.นครปฐม คาเฟ่ออร์แกนิก จัดโดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม
มีความตั้งใจที่จะนําเมนูอาหารไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ และเมนูไทยดั้งเดิมที่หารับประทานได้ยากใน ปัจจุบัน ทั้งสิ้น 20 รายการ อาทิ ข้าวยํา ข้าวหลาม เมี่ยงคํา กระยาสารท มังคุดคัด สร้างสรรค์เป็นเมนูใหม่ เพื่อให้เข้ากับกลุ่ม คนรุ่นใหม่ สืบเนื่องจากทางกรมฯ
ได้เล็งเห็นถึงกระแสวัฒนธรรมการบริโภคน้ันได้เปลี่ยนแปลงไป การสืบสานวัฒนธรรมดั้งเดิมให้ คงอยู่อย่างยั่งยืนน้ัน จําเป็นต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย พร้อมทั้งสร้างการรับรู้ให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ผู้เป็นส่วนหนึ่งในการเป็นเจ้าของมรดก ได้เห็นคุณค่า มีความรู้สึกหวงแหน อยากที่จะอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่คู่กับประเทศไทยสืบไปจับมือร้านอาหารชื่อดังของคนรุ่นใหม่ ร่วมกับเชฟจากร้านอาหารชื่อดังกว่า 28 ร้าน ร่วมถ่ายทอดเมนูอาหาร

นางสาวอัจฉราพร พงษ์ฉวี อดีตรองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม และ ที่ปรึกษากรมส่งเสริมวัฒนธรรม

นางสาวอัจฉราพร พงษ์ฉวี อดีตรองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม และ ที่ปรึกษากรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า การสืบสานวัฒนธรรมดั้งเดิมให้คงอยู่อย่างยั่งยืนนั้น จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย พร้อมทั้งสร้างการรับรู้ให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ผู้เป็นหน่วนหนึ่งในการเป็นเจ้าของมรดก ได้เห็นคุณค่า มีความรู้สึกหวงแหน อยากที่จะอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ให้คงอยู่กับประเทศไทยสืบไป

อาหารไทยเป็น “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” หนึ่งในความภาคภูมิใจของคนไทย อาหารไทยที่ออกแบบมาเพื่อคนรุ่นใหม่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อและแทรนด์อาหารไทยอย่างยั่งยืน โดยมีร้านร่วมโครงการ ได้แก่ ร้าน Greyhound cafe ร้าน Audrey ร้าน On the Table , Tokyo Cafe ร้านแหลมเจริญ ซีฟู้ด ร้าน Sood Kua by Supanniga / สุดคั่ว by สุพรรณิการ์ ร้านบ้านหญิง ร้านแก้วแกงใต้ KAEW KANG TAI ร้านไทยนิยม ร้านหลงโถวคาเฟ่ ร้านแสนสําราญที่แสนแสบ ร้าน Ari Café & Bistro ร้าน Club Anda ร้าน My dining chef ร้าน Whispering Cafe ร้าน Lamour cafe ร้าน Wild Coffee & Bistro ร้านทองหยิบทองหยอด ร้านน้องโจ๊ก ร้านคาราเมล ร้านเขาทองเทอเรสต์ ร้านแลเลกริล ร้านเสน่ห์ย่า ร้านอาหารญี่ปุ่นโทบิโกะ ร้านอาหารอัญชลี ร้านหนํา ร้านอาหารชายทะเล ร้านตะโกลา ร้านอรุณดิน่า และ เว็บไซต์ไทยดิชคัฟเวอรี่ด็อทคอม
เปิดตัวโครงการ Thai Dishcovery : New Thai Dish for New Gen” นําเสนอ
20 เมนูอาหารไทยตํารับโบราณได้รับการสร้างสรรค์ใหม่ โดยเชฟคนรุ่นใหม่
เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักอาหารไทยโบราณ โดยมี Robinhood foodpanda ร่วมส่งต่อความอร่อยของเมนูอาหารไทย Thai Dishcovery ให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ลิ้มลอง

ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง : ร้าน Whispering Cafe
เชฟปริ๊นซ์-เสาวรส ศรีสุริยาพัฒน์กุล, เชฟติ๊ก-สุทธิพันธ์ บุษปนิกรกุล และ เชฟแป๊ะ-จาตุรงค์ ขุนทอง
เชฟติ๊ก-สุทธิพันธ์ บุษปนิกรกุล

อาหารไทย หนึ่งในความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ แขกใครมาเยือนติดในในรสชาติ จนได้รับการจัดอันดับว่า เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมอร่อยติดอันดับโลก
มีเรื่องเล่า ตํารับสํารับอาหารมากมาย แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ซึ่งล้วนแล้วแต่สั่งสมประสบการณ์ถ่ายทอดรสมือ และสูตรเด็ดเคล็ดลับ จากรุ่นสู่รุ่น บ้างก็เป็นเป็นอาหารที่แสดงถึงภูมิปัญญาวัฒนธรรมท้องถิ่น ท้ังการเลือกใช้วัตถุดิบ ขั้นตอนการปรุงอาหารที่พิถีพิถัน บ้างก็นําวัฒนธรรมจากต่างชาติเข้ามาผสมผสาน ออกมาเป็นเมนูใหม่ที่มี รสอร่อยเป็นเอกลักษณ์ และในปี 2564 นี้ ทางกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม มีความประสงค์ที่จะยกระดับอาหาร ไทย ให้
มีความทันสมัย เหมาะแก่คนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น ภายใต้โครงการ Thai Dishcovery : New Dish for New Gen ที่ได้รับ ความร่วมมือกับเชฟจากร้านอาหารชื่อดัง ที่กําลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ นํา 20 เมนูอาหารไทย ด้ังเดิม คือ เถ้าคั่วสงขลา จอแหร้ง หมูย่างเมืองตรัง น้ำพริกกากหมูหมูฮ้อง ไก่กอและ ช่อม่วง หมูโสร่ง ม้าฮ่อ แสร้งว่า แกงเผ็ด(ฉู่ฉี่) ข้าวยํา เมี่ยงคํา หมี่ฮกเกี้ยน โอวต้าว ข้าวหลาม ข้าวต้มมัด ขนมฝรั่งกุฎีจีน (ขนมไข่) ขนมหม้อแกง กาละแม กระยาสารท และมังคุดคัด มาสร้างสรรค์เป็นเมนูใหม่ พัฒนารูปลักษณ์ รูปแบบการนําเสนอ และรสชาติให้ตอบโจทย์ของกระแสทางวัฒนธรรม ที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ยังคงไว้ซึ่งความอร่อยแบบไทยดั้งเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เพื่อตอบเป้าหมาย แคมเปญ Thai Dishcovery : New Thai Dish for New Gen

โครงการ Thai Dishcovery : New Thai Dish for New Gen เมนูอาหารไทยตํารับโบราณได้รับการสร้างสรรค์ใหม่ โดยเชฟคนรุ่นใหม่ และถ้าพูดถึงร้านอาหารไทยรสชาติดีในฉบับแบบต้นตำหรับ ร้านอาหารในโครงการเป็นอีกหนึ่งร้านที่หลายๆ คนรู้จักและใความคุ้นเคยอย่างแน่นอน ไม่ใช่แค่รสชาติที่ดีเยี่ยม แต่ต้องเปี่ยมด้วยคุณภาพ ความคิดสร้างสรรค์และความพิถีพิถันในการปรุง

Thai Dishcovery แสดงให้เห็นถึงความจริงจังในการพัฒนาความอร่อยแบบต้นตำหรับร้านอาหารสู่เป้าหมายชีวิตที่สมดุล หลังจากแนะนำโครงการเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงเวลาที่ผู้เข้าร่วมงานได้มีโอกาสลิ้มลองสุดยอดเมนูในวันนี้ ….

-น้ำมะปี๊ดโซดา
(เชฟ แป๊ะ ร้าน Whispering Cafe)

-ข้าวยำดอกไม้ใบไม้ในสวน
(Whispering cafe)

-ข้าวยำทอด
(แก้วแกงใต้)

-แสร้งว่ายำไข่เต่ามังคุด และ
น้ำพริกกากหมูพริกไทยอ่อน
(แสนสำราญที่แสนแสบ)

-หมูทอดสุดคั่วราดซอสฉู่ฉี่ไข่เค้มแดง
(soodkua by supanniga)

-ข้าวผัดหมูฮ้องซอสคาราเมล
(ari cafe& bistro)

-ชากุหลาบ

-ข้าวหลามสามหน้า
(whispering cafe)

-ยูกิกาละแม
(Club Anda)

น้ำมะปี๊ดโซดา
ข้าวยำดอกไม้ใบไม้ในสวน
ข้าวยำทอด
แสร้งว่ายำไข่เต่ามังคุด และ น้ำพริกกากหมูพริกไทยอ่อน
หมูทอดสุดคั่วราดซอสฉู่ฉี่ไข่เค้มแดง
ข้าวผัดหมูฮ้องซอสคาราเมล
ข้าวหลามสามหน้า และชากุหลาบ
ข้าวหลามสามหน้า
ยูกิกาละแม
 “ยูกิ อิจิโกะ” ขนมโมจิญี่ปุ่นที่จะทำขายเฉพาะฤดูหนาว

โครงการ Thai Dishcovery : New Dish for New Gen ยังคงเดินหน้ารังสรรค์อาหารไทยจานใหม่ร่วมกับเชฟอีกหลายท่าน ในหลายร้าน ไปจนถึงสิ้นปี
ใครที่สนใจก็แวะไปชมไปชิมกันได้ทั้งที่ร้านและบริการเดลิเวอรี่ ถือเป็นอีกไอเดียที่ร้านอาหารเด็ด ที่สามารถนำไปครีเอทเป็นจานใหม่กันได้

สามารถติดตามตัวอย่างการปรุงอาหารไทยรูปแบบใหม่
ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ www.Thaidishcovery.com

#ThaiDishcovery
#NewThaiDishForNewGen
#กระทรวงวัฒนธรรม
#กรมส่งเสริมวัฒนธรรม

วศิน วรรณพฤกษ์ กับรางวัล คนต้นแบบคมนาคมประจำปี 2564

กระทรวงคมนาคม ถือเป็นหน่วยงานของภาครัฐที่ให้ความสำคัญกับหลักการธรรมาภิบาล การป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบ และมุ่งเน้นปลูกฝังค่านิยม คุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์ให้แก่บุคลากรในสังกัดมาโดยตลอด

ในแต่ละปีกระทรวงคมนาคมจะดำเนินการพิจารณาค้นหาบุคลากรจากหน่วยงานต่างๆในสังกัดที่ประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี มีความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส และมีคุณธรรมเป็น “คนต้นแบบคมนาคม” เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้บุคลากรที่ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริตยืนหยัดบนความถูกต้อง รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจให้แก่บุคลากรในสังกัดกระทรงคมนาคมได้ยึดเป็นแบบอย่าง ปลุกจิตสำนึกให้ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต

โดยในปี 2564 ผลการพิจารณาจากคณะกรรมการปรากฏว่าคุณวศิน วรรณพฤกษ์ รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจองค์กร บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกพิจารณาคัดเลือกให้รับรางวัล “คนต้นแบบคมนาคม” ประจำปี 2564

คุณวศิน เปิดเผยว่าตนเองรู้สึกยินดี และภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งกับรางวัลในครั้งนี้ และขอขอบคุณกระทรวงคมนาคม หน่วยงานต้นสังกัด และคุณแม่ ที่มีส่วนสำคัญให้ตนเองดำเนินชีวิต ที่ยืนหยัดกับคำว่า ซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใสและปฏิบัติหน้าที่ต่างๆด้วยความซื่อสัตย์สุจริตมาตลอด “ผมต้องขอบคุณ กระทรวงคมนาคม , บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด และ ผศ.เสริมสุข วรรณพฤกษ์ มารดา ซึ่งเป็นต้นแบบของการดำเนินชีวิต มองโลกในแง่ดีประพฤติตนเป็นคนดีของ ไม่สร้างปัญหาให้สังคม ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต มีคุณธรรม มีระเบียบวินัย ขยัน สุภาพ และ อดทน”

“นอกจากนี้ คุณแม่ยังสอนให้รู้จักเสียสละ มีใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ถ้ามีเหลือแบ่งให้คนรอบข้าง”สิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนในการใช้ชีวิตและปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตไม่เพียงแค่รางวัล“คนต้นแบบคมนาคม” เท่านั้น เพราะตลอดปี 2564 ที่ผ่านมาคุณวศินยังได้รับรางวัลต่างๆมากมายจากหลายหน่วยงานด้วยกัน

“ตลอดปี 2564 ที่ผ่านมานี้ได้รับเกียรติรับรางวัลเกียรติยศ เกียรติบัตร และเข็มเขิดชูเกียรติหลากหลายสาขา อย่างเช่น

-รางวัลธรรมาภิบาลสิงห์ทอง สาขาผู้บริหารและพัฒนาองค์กรดีเด่น จาก ฯพณฯ นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรีในรัชกาลที่ 9 และ ฯพณฯ พลเอก พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรีในรัชกาลที่ 9 จัดโดยสมัชชานักจัดรายการข่าววิทยุโทรทัศน์หนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และ มูลนิธิสร้างสรรค์สังคมไทย

-เกียรติบัตรและเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ “ปราบไพรีอริยศัตรูพ่ายกิตติมศักดิ์” โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 

-เกียรติบัตรและเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ “นักเหินเวหากิตติมศักดิ์” ของกองทัพอากาศ

-เกียรติบัตรยกย่องเชิดชูเกียรติในฐานะที่อุทิศตนทำคุณประโยช์ต่อสังคม จาก สหพันธ์ รักสันติภาพ สหประชาชาติ (UNPKFC) United Nations Peace Keepers Federal Council.

-เข็มวิทยฐานะ และ ประกาศนียบัตรหลักสูตร“นักบริหารงานประชาสัมพันธ์ระดับสูง”รุ่นที่ 61 : การบริหารงานประชาสัมพันธ์ยุค New Normal จากสถาบันการประชาสัมพันธ์ กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี

“คนต้นแบบคมนาคม” ประจำปี 2564 ทิ้งท้ายว่า คงยืนหยัดกับคำว่า ซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส ในการใช้ชีวิตและปฏิบัติหน้าที่ต่อไป เพื่อให้สมกับรางวัลที่ได้รับ และจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยส่งเสริมการสร้างคุณธรรม จริยธรมเป็นให้แก่บุคลากรข้าราชการและพนักงานของรัฐต่อไป

โลกธุรกิจหลังโควิด 19 ในมุมมองของ ภาคิน พลอยภิชา

Toptotravel ได้รับเกียรติจาก คุณภาคิน พลอยภิชา กรรมการผู้จัดการ โอเอซิส
สปา สปาเพื่อสุขภาพระดับพรีเมี่ยม มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองถึงโลกหลังโควิด19 วิธีปรับตัวของธุรกิจ การเปลี่ยน mindset และ ทักษะสำคัญของการบริหารพนักงาน เพื่อปรับตัวให้รอดในโลกแห่งการเปลี่ยนแปลง สปาเป็นอีกธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโควิด19 ซึ่งวิกฤตครั้งนี้รุนแรงที่สุด เป็นวิกฤตที่ไม่เคยเจอ และในช่วงโควิด19 พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนแปลง ถึงขั้นต้องปิดกิจการทุกสาขาชั่วคราว และสูญเสียรายได้ ตั้งแต่ เดือน มกราคม จนถึง ปัจจุบันและไม่สามารถคาดเดาได้ว่าวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด19 จะสิ้นสุดเมื่อใด

โอเอซิส สปา สู้โควิดสู่มาตรฐาน Hygiene สปาในรูปแบบที่มุ่งเน้นคุณภาพการให้บริการ ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน และให้ความสำคัญกับสุขภาพที่ดีของลูกค้าเป็นสำคัญ ทำให้โอเอซิสสปาได้รับการขนานนามว่า สปาอัตลักษณ์ไทย ที่สร้างประสบการณ์สปาที่น่าจดจำ เป็นที่รู้จักเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และชาวไทย ด้วยการบริการที่ “เหนือกว่า” ผสมผสานการนวดแบบแผนไทยโบราณเข้ากับการนวดสมัยใหม่ประยุกต์ ร่วมกับน้ำมันหอมระเหยสมุนไพรไทย ที่ช่วยให้ผ่อนคลายอย่างแท้จริง โดยพนักงานนวดสปามืออาชีพ

ภาคิน พลอยภิชา กรรมการผู้จัดการ โอเอซิสสปา

ภาคิน ในวันนี้ปรับตัวด้วยปัญญาผ่าวิกฤต
เพราะชีวิตต้องไปต่อ….จะเป็นภาคินในเวอร์ชั่นที่ทนที่สุด (หัวเราะ) มีสติและเป็นภาคินที่อดทนกับทุกสถานการณ์ในทุกวันได้ดี ภาคินจะเป็นภาคินที่มองอะไรน่าจะหนักแน่นมากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าเรามองคนในแง่ร้าย ความที่ โอเอซีส เป็นองค์กรและวัฒนธรรมองค์กรแบบนี้ทำให้อยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วมันอธิบายออกมาไม่ได้ เพราะเรื่องนี้มีหลายท่านที่ให้การสนับสนุนในสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ผมเชื่อสิ่งที่ ผมทำในอดีตส่งผลให้กับเราในปัจจุบันและอนาคต ไม่ว่าจะเส้นทางใด แต่ภาคินในเวอร์ชั่นปัจจุบันกับองค์กร คือ สิ่งที่น่าจะมีและแข็งแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือเรื่องของ culture ของวัฒนธรรมที่จะเข้มข้นมากยิ่งขึ้นและมีความผูกพันและสามัคคีกันในองค์กร ซึ่งสิ่งเหล่านี้เอง ทำให้โอเอซิสสปา เดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ส่วนจะไปในทิศทางใด หรือช่องทางไหน ยังไม่มีความชัดเจน เพราะความชัดเจนคือความไม่ชัดเจน แต่สิ่งที่เรามีคือความพร้อมที่จะเดินและเป็นธุรกิจที่ world wide มากขึ้น

การมีสติ ทำให้พบทางออกของการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด
สิ่งที่มนุษย์ให้ความสำคัญเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย การปรับตัวจึงเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการทำธุรกิจในยุคหลังโควิด ขอนำประสบการณ์มาเล่าให้ฟัง หลังจากที่เกิดโควิด มีปัญหาหลากหลายที่เข้ามา มันจะไม่ถูกแก้เลยหากเรารู้สึกว่าเยอะและหนักเกินไป และไม่ไหวแล้วก็จะพ่ายแพ้ไป วิธีเดียวที่จะแก้ไขปัญหาต้องนิ่งก่อน ทำอย่างไรองค์กรจึงจะอยู่รอด แล้วดูว่าปัญหาที่เกิดคือมีทางออกอะไรบ้าง เราเองก็เคยเป็น จิตแตก โวยวาย สภาพจิตใจไม่นิ่งจะหาทางออกไม่ได้ สิ่งที่เป็นทุกวันนี้ เราอยากแชร์ประสบการณ์ที่เราเป็น ในฐานะที่เป็นผู้นำคนหนึ่ง ควรต้องเป็นผู้นำที่สร้างความมั่นใจให้คนในองค์กร การฟันฝ่าอุปสรรคไปได้ ผู้นำถือเป็น หัวใจสำคัญ หากผู้นำอ่อนแอ ล้มเลยแน่นอน บางครั้งการตัดสินใจทำอะไรลงไป อาจต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคต ต้องเตรียมใจไว้ระดับหนึ่ง การแก้ไขปัญหาในตอนนี้เพื่อให้องค์กรอยู่ได้ ไม่ใช่ทุกการแก้ปัญหาจะเป็นการแก้ปัญหาแบบถาวร จริงๆ แล้วเป็นความรู้สึกที่เจ็บปวดเหมือนกัน เพื่อให้เราอยู่รอดสามเดือน การตัดสินใจหลังจากสามเดือนนี้ต่อไป

คุณภาคิน อธิบายเพิ่มเติมว่า.. เมื่อโลกเปลี่ยนแปลงไป ธุรกิจจะอยู่รอดได้ถ้าคิดใหม่และปรับตัว การตัดสินใจในครั้งนี้อาจจะไม่ใช่การตัดสินใจที่ดีในอีกสามเดือนต่อไป หรือหกเดือน ต้องหนักแน่นและยอมรับสิ่งที่ผมตัดสินใจ และก็เชื่อเสมอว่าต้องมีทางออก ตัวอย่างที่แชร์คือทุกครั้งที่เกิดปัญหา คืนนั้นจะเป็นคืนที่คิดไปต่างๆ นานามากมายจนทำให้คิดไปเยอะ คิดไปหลากหลาย เมื่อถึงเวลาจริงๆ ในวันรุ่งขึ้นตัวผมต้องแก้ปัญหา บางปัญหาก็ไม่ใช่ยิ่งใหญ่มหาศาลเหมือนในคืนนั้นที่ผมคิดไว้ วันรุ่งขึ้นจะพิสูจน์ให้เห็นว่าเรื่องต่างๆ ไม่ได้เลวร้าย ผมก็จะรู้สึกว่าเดี๋ยวก็จะผ่านพ้นไปได้

… เมื่อก่อน ผมเป็นเซลขายยาอยู่ตามโรงพยาบาล ทำให้มีโอกาสเข้าไปที่ รพ.ตลอดเวลา ขายยาหลายชนิด จนสุดท้ายยาส่วนที่รับผิดชอบจะเป็นยาต้านเชื้อไวรัสเอชไอวี การเดินทางเข้าออกโรงพยาบาล ทำให้เห็นสภาพของผู้ป่วยป่วย และคนเสียชีวิตมาโดยตลอด จึงมีโอกาสได้คุยกับเพื่อนในวงการว่ามันเศร้า คนเราน่าจะมีทางเลือกในทางที่ดูแลตัวเอง ดูแลสุขภาพให้มากกว่านี้ ผมคุยกันกับเพื่อนว่า ถ้าเป็นแกจะทำอะไร? คนหนึ่งจบเทคนิคการแพทย์ จบเภสัชมา อีกคนจบพยาบาล บอกว่า การที่จะมีชีวิตเป็นผู้แทนขายยาในโรงพยาบาลจนตาย มันหดหู่ไปทุกวัน หันมาทำงานที่เพิ่มความสุข ดูแลสุขภาพ นั่นคือยี่สิบปีที่ผ่านมาจนกระทั่งปี 2002 ภาคิน ลาออกจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายยา และมาเปิด
สปาในปี 2003 ซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญมาก การประจวบเหมาะที่ทำให้ผมกลายมาเป็นผู้บริหารขององค์กรใหญ่ระดับประเทศ

“ผมมีความคิดว่า….การทำธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ ไม่ได้ดูเทรนด์หรืออะไรทั้งสิ้น (ความคิดในเวลานั้น) ไม่ได้มองเทรนด์ในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร ไม่ได้คิด เพียงแต่รู้สึกว่าเบื่อและเหนื่อยที่ต้องเห็นแต่คนเสียชีวิตจากโรงพยาบาล จึงจบลงด้วยการดูเรื่องสุขภาพ” ทีนี้ก็มาคิดว่า แล้วสุขภาพจะทำอะไร เพื่อนแนะนำบอกขายอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งผมคิดว่าไม่ใช่แนวเรา เพราะต้องไปหาอะไรมาขาย แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว เบื่อการขายคิดว่าเปิดร้านนวดดีกว่า ไม่ต้องเหนื่อยมาก
หลังจากนั้นค่อยเสริมอย่างอื่นร่วมด้วย ระหว่างนั้นเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ มีโอกาสลองใช้บริการสปาในต่างประเทศ ซึ่งรู้สึกว่าแพงและคุณภาพการนวดไม่ดีมากมายไปกว่าบ้านเรา ในเมืองไทยตอนนั้น ค่านวดครั้งละ 150 บาทเท่านั้น แต่นวดต่างประเทศเริ่มต้นประมาณ 3,000 บาท ผมจึงมามองบ้านเรา ซึ่งการนวดดีมาก ผมจึงคิดว่า น่าจะทำสถานที่นวดแบบมีมาตรฐานขึ้นมา แต่ผมจะไม่ทำนวดราคา 150 บาท คิดว่าให้ดูดี บริการดี สถานที่สวยงาม ระหว่างความคิดตรงนั้นคิดไปเรื่อยๆ สวยไปเรื่อย ไม่ได้จดทะเบียนอะไร ยอดขายได้วันละ 8,000 บาท ถือโอเคแล้วณ.ตอนนั้น ง่ายๆ เลยขายได้วันละ 8000 บาทค่าพนักงาน ค่าเช่า รายได้ถือว่าโอเคแล้ว ชีวิตผมง่ายๆเลย นั่นคือที่มาของ โอเอซีสแห่งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ สร้างขึ้นบนพื้นที่สองร้อยตารางวา คอนเซ็ปต์เป็นบ้านหลังเล็กๆ หรือวิลล่ากลางเมือง มีสวนสวย มีshower ทำในแบบของเรา ภายหลังเปลี่ยนเป็นใช้คำว่า สปา ส่วนชื่อ โอเอซิส สปา ก็ได้มาจากความบังเอิญ แต่ที่ที่เราอยู่มีแหล่งน้ำ เข้าไปเหมือนหลุดอีกโลกหนึ่ง เพื่อนคุณโทบี้เข้ามาเขาบอกว่าเหมือน OASIS ก็เลยได้ที่มาของคำว่า โอเอซิส สปา ไม่ต้องคิดเยอะ ไม่ทำอะไรเป็นBusiness plan เป็นแบรนด์หรืออะไรเลย พอเปิดปุ๊บ ติดตลาดในเวลาหนึ่งเดือน ตอนนั้น ราคานวด 1,200 บาท นวดไทย 750 บาท

ตอนนั้น ผมรู้ว่าคนไทยไม่มาแน่นอน ไม่ได้ตั้งเป้าต้องเป็นลูกค้าต่างประเทศ
แต่แนวทางเป็นที่ที่เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้บริการ ที่ยินดีที่จะจ่ายกับมาตรฐานที่มีให้ แต่ปรากฏว่า….ไปตอบโจทย์นักท่องเที่ยว กลายเป็นว่านักท่องเที่ยวบอกว่าราคาไม่แพง และดูดี มาตรฐานการนวดถูกใจ จึงกลายเป็น talk of the town ภายในช่วงไม่ถึงเดือน ตัวผมเอง เข้าใจเรื่อง trainer ,marketing ,service mild เนื่องจาก ผมเคยอยู่บริษัทยามาก่อน ทุกอย่างไม่ง่าย แต่เหมือนทุกอย่างเรามี connection ที่ดีก็หยิบมาใช้ พอดี trainer เคยทำงานที่โรงแรมfour season แล้วลาออกมาทำงานสปา ก่อนที่จะทำสปา คิน มีร้านคาเฟ่อยู่ในริมปิงซุปเปอร์มาร์เก็ต ตอนนั้นทำงาน part time บริษัท ยาและมีร้านกาแฟอยู่ด้วย

ร้านกาแฟเก๋ๆ ในสมัยนั้นยังมีไม่มากปรากฏว่ามีหมอ ผู้บริหาร มีใครต่อใครเข้าไปกินในนั้น มีคนทำงานสปาใกล้ๆ เป็นพยาบาล ก็จะมาบ่น ว่าเหนื่อยมาก คนไม่เข้าใจสปา ฉันไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว ต้องให้ Knowledge อย่างไร โดยฟังๆ ไปไม่ได้สนใจอะไรมาก ปรากฏว่า วันหนึ่งเขาก็ท้อใจ ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดเรื่องที่เคยคุยกันไว้ จนวันหนึ่งคิดขึ้นมา อ้าวเขาจะไม่ทำแล้วนี่นา เราก็จะทำร้านนวด ก็เลยคลิคขึ้นมาว่าเราก็เปลี่ยนมาเป็นสปา โดยเอาเขามาทำงานด้วย มาเป็น trainer ทำให้ได้คนที่เป็น trainer ที่ดีมากมาจาก four season จึงเก็บมาเป็นระบบเทรนนิ่ง โดยเซ็นต์สัญญาร่วมกัน ตั้งแต่ช่วงแรกเริ่มต้นที่หกคน ปัจจุบันสามคนยังอยู่ด้วยกันตลอดตั้งแต่แรก โอเอซิสเกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ Location ได้ด้วยความบังเอิญ trainer ก็ได้ด้วยความที่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว จึงกลายมาเป็นโอเอซิสในปัจจุบันนี้

การออกแบบ รวมไปถึง เรื่องงานตกแต่ง คอนเซ็ปต์ที่คิดเสมอ คือ ความรู้สึกผ่อนคลาย สบาย 1. คือ ต้องเข้ากับโสตประสาททั้งห้า คือ สบายตา สบายตาไม่ได้ก็ต้องสบายใจ เข้าไปแล้ว สะดวกสบายไม่อึดอัด โล่งโปร่งสบาย นั่นคือโจทย์ หลังจากนั้นจึงนำมาซึ่งการคิดว่าเอาอะไรมาตกแต่ง คือ เรามีอะไร ไม่ใช่ไปซื้อมา แต่เราเป็นคนเก็บของไปที่ไหนก็จะซื้อมา อันไหนเหมาะกับตรงไหนความเหมาะสม ทุกครั้งที่เดินทางจะซื้อที่ชอบเก็บสะสม เมื่อผมมีโอกาสเปิดเปิดสปาจึงมีโอกาสนำของที่ซื้อมานำมาตกแต่ง แต่มี บางชิ้นที่สั่งมาใหม่เช่นกัน ไม่ใช่เฉพาะของเก่าอย่างเดียว โดยผมจะเลือกมีธีมส์หรือโทนสีการตกแต่งคล้ายกัน แต่ไม่มีคอนเซ็ปต์อะไรมากเลยนะ การเอาของเก่ามาผสมผสานกับของใหม่มีความสะดวกสบายมีความคอมฟอสเทเบิ้ล ไม่ใช่มีแนวอะไร เรคเทค เราถามเพื่อนที่เป็นอินทีเรีย มาเขาพูดมา เราบอกว่า อืมใช่ เป็นคำที่อินทีเรียเขาใช้กัน หากนำโต๊ะใหญ่มาวาง ก็โอเค เดินเข้ามาบางครั้งก็ไม่ใช่ครั้งเดียวจบ ต้องมีการปรับเปลี่ยนไป เช่น วัสดุไม้ ผนังก็จิ้มเลย รูปภาพพต้องลงเอง โทนสีโต๊ะ โทนสีที่มาเลือกใช้ก็ต้องเลือกเอง เรื่องของแสงมีผล แสงหากทำให้ไม่ได้สบาย ร้านจะก็จะหลบหลอดไฟประเภทที่แสงแยงตา โดยปรับไม่ให้แสงมาแยงตาทำให้รู้สึกสบายและผ่อนคลาย

ซึ่งภาพรวมของการออกแบบ เป็นเรื่องของเซนส์ที่มนุษย์คนหนึ่งจะรู้สึกได้มากกว่า เช่น การมีสเปซเยอะ นั่งตรงไหนก็มีความเป็นไพรเวซี่ ย้อนกลับมาว่า เลือกสีที่ใช้จะสะท้อนความรู้สึกของคนที่มานั่ง แสง สี เสียง เสียงหากดังไปก็รำคาญ ร้อนไปก็ไม่ได้ หนาวไปก็ไม่ได้ ไม่ได้รู้เรื่องฮวงจุ้ย เราบอกได้ว่า เป็นเซนส์ที่มีเทสด้วย

สถานการณ์โอเอซิสสปา
ส่งผลให้ต้องปรับตัวไม่เพียงเฉพาะพฤติกรรมการใช้ชีวิต แต่ต้องเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่ต้องไปต่อให้รอดจากวิกฤตการระบาดของโรคอุบัติใหม่นี้ มันเปลี่ยนไปเร็วมากจนสิ่งที่ทำตอนนี้ต้องดูโอกาสก่อนทำต้องดูกับสถานการณ์แบบนี้ว่าจะดูแลคน และ facility ของเราอย่างไร ดูแลเรื่องระบบการเงิน ไฟแนนซ์อย่างไร สามอย่างนี้สำคัญมาก หนึ่งพนักงานเราเองไม่สามารถที่จะ lay off พนักงานได้เลย สอง facility ไม่ดูแลก็จะเสื่อมสภาพลง ซึ่งตรงนี้ก็ต้อง
มีต้นทุนในการดูแล ขณะเดียวกันเรื่องของการเจรจาไฟแนนซ์ ทั้งลูกหนี้และการจ่ายหนี้

คุณภาคิน เล่าว่า … เจรจาหาแนวทางที่ลดข้อขัดแย้งระหว่างทุกฝ่าย เราต่อรอง ไม่ว่าลูกหนี้ต่างๆ ก็เจรจากับแบงค์เพื่อให้อยูได้ สิ่งที่เราทำตอนนี้ ทุกครั้งที่มีโอกาส เช่น ถ้าธุรกิจสปาไม่ถูกสั่งปิดนั่นคือโอกาสที่เราจะสร้างรายได้ อย่างวันที่ถูกสั่งปิดโอกาสก็ไม่มีแล้ว เพราะฉะนั้นช่วงที่เปิดนั่นคือช่วงที่จะมีรายได้เข้ามาแต่เพราะเรามีทีม back of house ที่ดีทีม Marketing ซึ่งตรงนี้ค่อนข้างแข็งแรง ก็มีการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายใหม่คนที่อยู่ในประเทศไทยเป็นใครก็ได้ที่อยู่ในนี้ และมีโอกาสที่สุดที่จะมาใช้บริการ เพราะฉะนั้นก็ต้องมาดูเรื่องราคาสำหรับขายในประเทศไทย การเลือกเอเย่นต์จากหลายกลุ่มที่เหมาะสม เรื่องของความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการจัดโปรราคาถูกที่ผ่านมาคือ จ่าย 500 บาท
สามารถทำสปาได้ในราคาเท่ากับ 2,000 บาท ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการทรีทเม้นท์ได้ตามต้องการ โปรที่ดีที่สุดคือ voucher เมื่อออกมาค่อนข้างตอบโจทย์ มีกระแสตอบรับที่ดีมากในสาขาที่กรุงเทพฯ เมื่อสาขาที่กรุงเทพฯ มีปัญหา คือปัญหาเปลี่ยนไปทุกเดือน เราไม่สามารถที่จะนำโปรโมชั่นนี้มาใช้กับทุกช่วงเวลา ต้องปรับตัวเอง กลยุทธที่ใช้ทั้งด้านราคา และอีกหลายราคามากขณะเดียวกัน พอมีการสั่งปิด ไม่สามารถเซอรไวฟ์ได้สามสาขาถูกสั่งให้ปิดหมดทั้งกรุงเทพฯ เพราะเขามองว่าเป็นธุรกิจที่มีการสัมผัสมากพัทยาปิด เชียงใหม่ก็เดี๋ยวเปิดเดี๋ยวปิด ก่อนหน้านี้ที่สาขาภูเก็ตเช่นเดียวกัน ตอนนี้กรุงเทพฯ มีปัญหา เขาตัดสินใจและคิดเยอะขึ้นในการจับจ่ายใช้สอย

วิกฤตธุรกิจ ….
ผมเปิดโตมาในสายธุรกิจสปามา 19 ปี คิดเรียนรู้ริเริ่มหาการต่อยอด เราเก่งเรื่อง
สปาเพื่อสุขภาพ ก็ขยายเป็นโรงเรียนสอนสปา ขยายใน skin product ซึ่งอยู่ในกลุ่มสุขภาพเป็นก้อนเดียวกัน ไม่ได้หลุดออกไป มีเพียง Cafe de Oasis ร้านคาเฟ่ที่หลุดจากที่เราเป็น ซึ่งคาเฟ่ได้รับผลกระทบน้อยสุด ลูกค้ายังคงเดินทางเข้ามาใช้บริการไม่ขาดสาย ซึ่งถือว่าดีมากกับสถานการณ์ในปัจจุบัน แต่ลูกค้าก็ลดลงไปประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ ในการขยาย แต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่จังหวะที่จะทำอะไรในสถานการณ์แบบนี้ เพราะคอนเซ็ปต์ของคาเฟ่แบบนี้ เรามี knowledge Knowhow ส่วนเรื่องการตกแต่งร้านก็ไม่ยากสถานที่มีพร้อมทั้งเชียงใหม่และภูเก็ต หากจะขยายสาขา แต่ในขณะนี้ไม่อยากลงทุนอะไร ปัจจุบัน ถือว่าลำบากมากในการประคับประคองธุรกิจ ถือว่าเป็นหนึ่งในธุรกิจที่รอดปลอดภัยมาจนถึงปัจจุบัน ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ จะเห็นว่าสปาในธุรกิจเดียวกัน ล้มหายตายจากไปค่อนข้างเยอะมาก ดูจากสมาชิกที่อยู่ในสมาคมล้านนาสปา สมาคมสปาไทย สมาคมภูเก็ต คนที่ทำธุรกิจแนวนี้ไปไม่รอดจริงๆ และส่วนใหญ่ก็พึ่งพานักท่องเที่ยวร้อยเปอร์เซ็นต์ และไม่มีสายป่านที่ยาวพอตลอด 15 เดือน ถือว่ายาวนานมาก ตัวผมเองหวุดหวิดมาก แต่ถามว่าวันนี้ถ้ายังเป็นสถานการณ์แบบนี้ อีกสักสองถึงสามเดือนค่อนข้างลำบาก ถ้ากรุงเทพฯ ยังไม่เปิดตามปกติ

เพราะอะไร โอเอซิสสปาจึงยังยืนหยัดอยู่ได้ท่ามกลางวิกฤติ
ในโลกที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงและมีความไม่แน่นอนสูง ทางรอดคือ ต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ วิเคราะห์ตัวเองเหมือนกัน เพราะผมเองมี relationship ที่ดีกับหลายๆ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ อย่างเจ้าหนี้ ซึ่งสำคัญมาก หากเขาไม่ดีนี่จบเร็วมาก ทั้งแบงค์เอย เรามีประวัติที่ดีในอดีต ค่อนข้างโปร่งใส สิ่งเหล่านี้ช่วยในยามวิกฤต ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เขาเชื่อมั่น ดูประวัติการทำงานร่วมกันในอดีต เทคนิคการเจรจาต่อรอง และ relationship โดยการจัดการที่เข้าใจปัญหา อาจจะต้องยาวแน่ๆ ทำให้เรารู้ว่าต้องเจออะไรนาน จึงตัดสินใจทำอะไรต้องเผื่อเอาไว้ว่า เริ่มตั้งหลัก ลดค่าใช้จ่ายตั้งแต่แรก พยายามประคับประคองรายได้ที่จำกัด ต้องให้อยู่ในสัดส่วนที่พอดี ผมใช้สิทธิที่เกือบทั้งหมดมีไปหมดแล้ว เพราะนั้นสามเดือนสุดท้ายน่าจะวิกฤติหนัก ภูเก็ตแซนบ็อกช่วยได้แต่อย่างที่บอกจากเคยมีรายได้จาก16 สาขา ลดลงมาเหลือรายได้เพียง 2 สาขา ไม่สามารถช่วยอะไรได้มาก แต่ทำให้เก็บพนักงานไว้ได้นานที่สุด เท่าที่จะทำได้ แต่ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไม่ครอบคลุมใดๆ ทั้งสิ้น บางสาขาต้องปิดดำเนินการไป โดยต้องลดต้นทุนและหารายได้จากช่องทางอื่นเพื่อประคับประคองธุรกิจต่อไป

วัย 49 ของ”ภาคิน” กับการก้าวต่อไป เพื่อผ่านช่วงเวลาแห่งความลำบากนี้ไปด้วยกันสิ่งที่มีตอนนี้คือต้องมีสติ ในฐานะที่เป็นผู้นำขององค์กร ไม่สามารถที่จะไปแสดงอารมณ์อะไรได้ ไปตีโพยตีพายไม่ได้ มันเลยจุดนั้นไปแล้ว ต้องเป็นผู้นำ คนที่อยู่ข้างหลังเขาต้องมั่นใจว่าเราจะสามารถนำพาองค์กรผ่านวิกฤตินี้ไปได้
จะเห็นได้ว่า จากที่มีพนักงาน 600 กว่าคน ตอนนี้เหลือ 250 คน ไม่ได้หมายความว่าไล่ออก แต่เขาเลือกที่จะไปในทิศทางที่เขาได้เลือก โดยไม่สามารถที่จะอยู่ด้วยกันได้นาน เขากลับไปอยู่บ้านนอก เขาก็มีทางในการที่จะ survive ได้ เลือกที่จะลาออกเพื่อกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านนอกช่วงนี้ คือเราไม่ได้ไปหลอกเขาว่าเราจะรอดในสภาวะผู้นำนี้ แต่เราสร้างความมั่นใจว่า เราจะเป็นที่พึ่งให้กับเขา ไม่ว่าจะไปถึงจุดไหน ณ ปัจจุบันนี้ แม้เรื่องของโลกโซเชี่ยลอะไรต่างๆ เราก็ไม่เชื่อเรื่องของ Negative Energy หลายคนลงไปแล้ว ไม่มีทางขึ้นมาได้ แต่ผมยังเชื่อว่า หากเรายังเชื่อเรื่อง Positive จะขับเคลื่อนให้สำเร็จ ถึงแม้ว่าจะเจออะไรมาเยอะก็แล้วแต่ อย่าบอกว่าเจออะไรมาเยอะมาก สองปีนี้ผมไม่จำเป็นต้องไปแสดงอะไรให้ใครรู้ว่าเจอมาเยอะ สติเท่านั้นสำคัญที่สุด บางครั้งอาจรู้สึกว่าสติจะแตกเพราะรับมือกับปัญหาเยอะมาก จนปัญหานั้นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เราก็ต้องยอมรับถ้าไม่ยอมรับต้องพ่ายแพ้ ถ้ายอมรับสู้เดินหน้าต่อไป โดยการเร่งยกระดับตัวเองให้สามารถแข่งขันในระดับโลกได้ตลอดเวลา

…..ถ้าเราพ่ายแพ้ ไม่ใช่แค่เราคนเดียวแต่หมายถึงทั้งองค์กร ตอนนี้เลยตั้งสติ เข้มแข็ง มองอนาคต บางครั้งเดินเข้าออฟฟิศก็มีหดหู่ แต่เราไปแสดงอาการแบบนั้นไม่ได้ ตอนนี้เราเข้าใจเลยว่า การที่เป็นหัวหน้า เป็นผู้นำมีอะไรมากกว่าการเป็นหัวหน้างาน ไม่ใช่ทำงานให้จบ ผู้นำคือเป็นเรื่องของจิตวิญญาณ ความมั่นใจ ความมั่นคง ความเชื่อมั่น เรื่องของอนาคตอะไรหลายอย่าง สร้างความเข้าใจในความคาดหวังของลูกค้าและพนักงาน

จากปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสในการขยายอีกหนึ่ง Business Line การเปิดตัว แอพพลิเคชั่น RLAX.ME massage delivery เป็นอีกหนึ่งบิสสิเนสไลน์ เมื่อสักครู่ผม เล่าถึงธุรกิจที่เราพยายามแตกไลน์ คิดที่จะทำระหว่างที่เกิดโควิด ผมคิดจะทำแต่ยังไม่ได้ทำ แต่พอมากลางโควิดคิดว่าไม่ได้แล้ว จึงเริ่มทำแอพพลิเคชั่นนี้ เมื่อปลายปีที่แล้ว ผมปรึกษาและหาพาร์ทเนอร์ เพราะคิดว่าคนเดียวทำไม่ได้แน่นอน คือ RLAX.ME massage delivery ใช้แอพพลิเคชั่นที่เป็นแพลตฟอร์มที่เราเป็นคนกลาง ที่ทำให้ลูกค้ากับผู้ให้บริการคือ therapist ได้มาเจอกัน เป็น market place คอนเซ็ปต์ เหมือน Grab ผมจัดเตรียมเรื่องแอพพลิเคชั่น แต่คนนวดกับลูกค้าตกลงยินยอมกันเอง เป็นmassage delivery เปิดให้บริการเมื่อปลายปีที่แล้ว จดเป็น BOI Company เพิ่งได้เมื่อต้นเดือนนี้เอง

ธุรกิจนี้ได้พันธมิตรที่เป็น software house เป็นของบริษัทเยอรมัน เป็นบีโอไอ เหมือนกันแต่อยู่ในประเทศไทย และศักยภาพเขา เขียนโปรแกรมให้กับเยอรมันเหมือนกัน เพราะช่วงโควิดกระทบปัญหาเช่นเดียวกัน เขาเก่งเรื่อง software เราเก่งเรื่องคน people management มี Knowledgeมี knowhow เรื่องของโรงเรียน เรื่องของ massage ซอฟแวร์เฮ้าส์เขาจะมาเขียนแบบนี้ เขานึกไม่ออก เขาต้องอาศัยคนมีประสบการณ์ ซอฟแวร์เฮ้าส์มีดีบนโลกใบนี้แต่ไม่สามารถเขียนโปรแกรมที่มีความเข้าใจ ซึ่งตรงนี้เรากับเขาคลิกกันได้ทันที จึงกลายเป็นเรื่องที่สามารถนำมาต่อยอดการทำธุรกิจหลังโควิด 19

เราเป็นหุ้นส่วนกันในเรื่องของตัวแอพพลิเคชั่นนี้ ซึ่งเราเปิดเมื่อปลายปีที่แล้ว และค่อยๆพัฒนามาเรื่อย ๆ ตอนนี้เปิดให้บริการเชียงใหม่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยาและหัวหิน แต่พอเราเปิดก็เจอโควิด เราก็รู้ว่ามันคืออะไร เลยทำให้ช่วงนี้เราโฟกัสเรื่องแอพนี้ค่อนข้างเยอะและคิดว่า ตัวนี้จะเป็นอนาคตของบริษัท
ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ ตัวแอพพลิเคชั่นนี้จะเป็นตัวที่มีความต้องการสูง ถ้าโควิดเริ่มซาไป ข้อดีของแอพพลิเคชั่นนี้คือ เราจดเป็น BOI การที่เราจะไปขยาย
ในอนาคตอาจจะมีโตในต่างประเทศเพราะเป็นการจัดการที่ง่ายมาก แต่ขั้นตอนยากที่สุดคือขั้นตอนการพัฒนาซอฟแวร์ แต่เมื่อเริ่มมีการใช้ มีการแก้ไข การเอาไปใช้ก็ใช้ได้บนโลกใบนี้ได้หมด สิ่งที่เราทำมาจากอดีต จนปัจจุบัน เพื่อวางแผนในอนาคตก็ยังหนีไม่พ้นเรื่องของ wellness เพราะยังเชื่ออยู่ว่า เป็นเรื่องที่ขาดกันไม่ได้ในการใช้ชีวิตของคนเรา

cr. ภาพ RLAX.ME

ในแอพพลิเคชั่น RLAX มีระบบการจัดเตรียมพนักงานนวด ลูกค้าไม่ต้องเตรียมอะไร มีที่นอน มีน้ำมันหอม มีทุกอย่างเหมือนยกสปาไปไว้ที่บ้านของคุณเอง เพราะฉะนั้นความปลอดภัยแน่นอน เพราะเรามีโรงเรียนสำหรับผู้ให้บริการ therapist ต้องผ่านการเรียนจากโรงเรียนไทยโอเอซิสสปาพนักงานต้องได้รับใบรับรองการตรวจสอบอาชญากรรม ความปลอดภัยด้านโควิด เรื่องของสุขอนามัย การตรวจสอบเรื่องคุณภาพการบริการ ทุก feedback ของลูกค้าก็จะกลับมาที่เรา เกิดเหตุการณ์อะไรจะรู้ทันทีเพราะการใช้ไอที จะรู้ว่าพนักงานเทอราปิสท่านนี้ไปถึงเวลากี่โมง ใช้ massage กี่โมง monitor เพราะฉะนั้นจะ related กับ consumer review ระบบจะสามารถ monitor ได้ โดยไม่มีอะไรปิดบัง

RLAX.ME massage delivery https://rlax.me/th

ข้อดีคือ พนักงาน เทอราปิส รับงานแบบนี้ เป็นการรับงานนอกบ้านที่ไม่ผิดกฎหมาย พนักงานนวดไม่ใช่แค่พนักงานนวดของโอเอซิสสปาเท่านั้น แต่พนักงานนวดทั่วไป เพือเพิ่มรายได้ สร้างงาน ซึ่งวิธีคัดเลือก เทอราปิส คือดูทักษะ ประสบการณ์ โดยต้องมีใบรับรองจากสาธารณสุข รับรองผ่านการเรียนได้รับใบประกาศ เป็นพื้นฐาน ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม หลังจากนั้น ต้องได้รับการฝึกอบรมเพื่อให้พนักงานอยู่บนมาตรฐานของโอเอซิสสปา ปัจจุบันหลายร้อยคนที่มาลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ ส่วนเรื่องผลตอบรับเป็นอย่างไร ช่วงนี้อยู่ในช่วงไม่ปกติ จึงยังไม่สามารถวิเคราะห์ได้ แต่คิดว่าเป็นอนาคตที่ดี ทุกคนที่เข้ามาในส่วนหนึ่งของแอพฯ จะได้ค่าตอบแทนเป็นชั่วโมง มีรายได้ที่แน่นอนเลย ซึ่งมองว่าคนที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือพนักงาน เทอราปิส เหตุผลที่เขาจะมาจอยแอพพลิเคชั่นเพราะมีความเชื่อมั่นว่าปลอดภัยอย่างแน่นอน และตรวจสอบขั้นตอนได้ ในขณะเดียวกัน อดีตที่ผ่านมาอาจจะเรียกจากศูนย์นวด แต่ไม่มีประวัติการตรวจสอบ แอพพลิเคชั่นที่เกิดขึ้นนี้เป็นแอพฯ ที่ทำให้เทอราปิส มีความปลอดภัยและลูกค้าปลอดภัยสูงสุด ตรวจสอบได้ทั้งสองฝั่ง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการรับบริการ โดยมี GPS ในการตรวจสอบตำแหน่งการเข้าทำงาน ระบุตำแหน่งได้อย่างชัดเจน ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งของแอพฯ ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบการใช้บริการ
นวดที่บ้านหันมาสนใจเป็นสมาชิกของ RLAX มากขึ้น

cr. ภาพ RLAX.ME

RLAX.ME เป็นแบรนด์ใหม่ของโอเอซิสสปา ทีมทำงานคนละทีม เพราะเรามีจอยเวนเจอร์โดยไม่อยากให้เด็กต้องไปทำงานสองงาน ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการวางแผนไว้แต่ช่วงสถานการณ์แบบนี้ ทำให้เดินหน้าไปก่อนเพื่อรองรับสถานการณ์โควิด-19 ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยพัฒนาให้ธุรกิจสามารถตอบความคาดหวังของลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น
เหตุผลที่ทำแอพพลิเคชั่นนี้ คือ ต้องการขยายธุรกิจใหม่การขยายธุรกิจนำไปสู่การ support พนักงานเทอราปิสที่ไม่มีงานทำพนักงาน เทอราปิส ซึ่งโอเอซีสมีมาตรฐานที่ดีอยู่แล้ว โดยเข้าสู่ระบบ RLAX.ME มีโอกาสเข้าร่วมงานเป็น freelance รับผิดชอบตัวเอง เรื่องมาตรฐานของการให้บริการเป็นมาตรฐานเดียวกันกับโอเอซิส แต่ผมไม่ได้นำตรงนี้มาเป็นจุดขาย เพราะว่า พนักงานโอเอซิสไม่ได้มีทั่วโลก แต่เป้าหมาย คือ การจายการให้บริการไปทั่วโลก สิ่งที่เราจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าตอนนี้คือ โอเอซีส มีโรงเรียนไทยโอเอซิส
สปา ถือเป็นจุดที่สามารถนำมาโปรโมท โนว์เลท โนว์ฮาว จากรร.นี้โดยตรง
ที่สามารถพัฒนามาตรฐานให้กับพนักงานของ RLAX.ME มาจากโอเอซิสหรือพพนักงานทั่วไปที่ต้องการหารายได้พิเศษ ทำงานเป็นนายของตัวเอง สามารถเข้าร่วมกับแอพพลิเคชั่น RLAX.ME โดยการผ่านการตรวจสอบการคัดกรองตามมาตรฐาน ผมเปิดแอพพลิเคชั่นนี้ ในต่างประเทศ สมมติว่า ไปเปิดที่ประเทศเยอรมัน เปิดโซนตรงไหน วันที่เราพร้อมเราเปิดให้บริการที่เยอรมัน เปิดรับพนักงาน เทอราปิสที่เยอรมัน เพราะรีไวเม้นท์ค่อนข้างต่างกัน โดยต้องให้เข้ากับกฎหมายของประเทศนั้นๆ ยกตัวอย่างเหมือน Grab แอพฯ เดียวสามารใช้ได้ทั่วโลก เช่น ใช้บริการ ที่ลาว เยอรมัน ใครก็แล้วแต่ที่ประเทศนั้นๆ สนใจร่วมงานกับ RLAX.ME ก็เข้ามาสมัคร เป็นเรื่องของการจัดการที่เราต้องทำ โดยหา local partner โดยไม่ต้องลงทุนสิบหรือยี่สิบล้าน อย่างที่ผ่านมาผม เปิดโอเอซิสที่ทองหล่อ ลงทุนสามสิบล้าน เปิดได้เดือนดียวเจอโควิดต้องปิดลง เรามองว่าคนไทยในเยอรมัน มีจำนวนมหาศาลมาก ยิ่งเป็นแอพพลิเคชั่นของคนไทยเขายิ่งมั่นใจ

cr. ภาพ RLAX.ME

ผมแยกโอเอซิสสปา กับ RLAX.ME เป็นธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยผ่าน BOI ซึ่ง defend ให้เข้าใจ เพราะ BOI ไม่ใจว่า ทำไมต้องนวดที่บ้าน แล้วจะสร้างงานสร้างเงินให้กับคนไทยได้อย่างไร ถ้าเรามีพนักงานสามพันคน นั่นคือการจ้างงาน รายได้จากการจ้างงานของ เทอราปิสส่วนหนึ่งจึงมองเห็นภาพด้วยศักยภาพความเข้มแข็งของทีมงานทำให้ ผมสามารถเปิด RLAX.ME ในจังหวัดที่ต้องการได้ในหนึ่งสัปดาห์ ตอนนี้ที่หัวหินกับกรุงเทพฯ เป็นตลาดใหญ่ที่สุดมีลูกค้าประจำเร็วมาก สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นผู้นำ อันดับแรก คืออยากให้ดูตัวเองก่อนว่าตัวเองจะอยู่รอด ณ จุดไหน ถ้าเราอยู่แล้วรอดให้ไปอยู่ที่นั่น ที่พูดแบบนี้คือบางครั้งคนที่ทำงานในองค์กรแล้วองค์กรรู้สึกว่าไม่ได้ส่งเสริมให้ทั้งสองฝ่ายอยู่รอด ในฐานะผู้นำ ต้องดูว่าอยู่ตรงไหนถึงจะพาทีมงานให้อยู่รอด พนักงานบางคนเลือกกลับไปอยู่บ้านนอก เพื่อความอยู่รอด ย้อนกลับมาว่า ในฐานะที่เป็นคนที่ต้องเอาชีวิตให้รอดในสถานการณ์แบบนี้ เขาน่าจะรู้ตัวเองที่สุดว่า เขาอยู่ตรงไหนแล้วจะรอด มันบอกไม่ได้ว่าจะต้องใช้อะไร แต่ละคนปัญหาไม่เหมือนกัน แม้กระทั่งตัวผมเอง ชีวิตในวันนี้เปลี่ยนไปมาก ไม่ได้รู้สึกว่ารันทด เพราะรันทดจะทำให้ถดถอย แต่เรารู้สึกว่าต้องมี positive energy มาส่งเสริมให้เรามีพลังในการใช้ชีวิตต่อไป

-ภาคิน พลอยภิชา กรรมการผู้จัดการ โอเอซิสสป

ร้านอาหารน่านั่ง บรรยากาศดีงาม รสชาติอาหารถูกใจ Eat Drink Love Bistro

ใครที่กำลังมองหาร้านอาหารน่านั่ง บรรยากาศดีงาม รสชาติอาหารถูกใจ ที่นี่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด ห้องอาหารอีท ดริ๊งก์ เลิฟ ร้านเน้นความเรียบง่ายอาหารอร่อยรสชาติ กลมกล่อม และได้อรรถรสของความเป็นอาหารชนิดนั้นๆ ห้องอาหารอีท ดริ๊งก์ เลิฟ ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของ โรงแรมเดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ ออกแบบทันสมัย เรียบหรู มีบรรยากาศสวนสวย โดดเด่นด้วยความโมเดิร์น คาเฟ่และร้านอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น ในบรรยากาศสวนสวยถือว่าเป็นโรงแรมหรูที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในย่านลาดกระบัง /สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมนำเสนอภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ Peacefully Living with Luxurious Lifestyle

อีท ดริ๊งก์ เลิฟ มีเมนูอาหารอร่อยๆ ทุกมื้อ คัดสรรวัตถุดิบอาหารที่ดีที่สุด สำหรับนักชิมที่ชื่นชอบอาหาร สไตล์ฟิวชั่น พร้อมเสริฟด้วยการนำเทคโนโลยีการทำอาหารแบบใหม่มาผสมผสานจนได้เมนูแปลกใหม่ เช่น ซูวี หรือโมเลกูลาร์ และต่อยอด นำวัตถุดิบจากหลายๆประเทศมานำเสนอ โดยรังสรรค์ให้เป็นเมนูอาหารที่มีรสชาติใหม่ได้อย่างน่าสนใจ ทั้งรูปลักษณ์ สีสัน รสชาติ รวมถึง การเลือกใช้ภาชนะที่ทันสมัย ประดิดประดอยจัดวางอาหารอย่างประณีต และสวยงาม ภายใต้การบริหารงานโดย คุณชาตรี นุ้ยประสิทธิ์ ผู้บริหารกรุ๊ป โรงแรม เดอะ พาร์ค ไนน์ พร้อมตอบโจทย์นักชิมด้วยอาหารที่ต่อยอดจากแนวคิดมาเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่สไตล์ฟิวชั่น ที่เรียกว่า glocal sensation แนวเฉพาะของห้องอาหาร อีท ดริ๊งก์ เลิฟ เป็นการผสมผสานศาสตร์อาหารตะวันตกและเอเซียน รวมถึงเทคนิค วัตถุดิบ หรือวิธีการทำอาหารหลายๆ ชาติเข้าด้วยกัน จนกลายรสชาติของอาหารที่ลงตัว และเป็นซิกเนเจอร์เมนูใหม่เฉพาะที่ ห้องอาหารอีท ดริ๊งก์ เลิฟ และ ร้าน Cuppers ร้านกาแฟเก๋ๆ ที่อยากให้หลายคนได้รู้จัก

A Cup of Happiness
Cuppers Cafe ร้านสวยตกแต่งตามสมัยนิยม ที่เน้นการนำเสนอความเขียวขจีของต้นไม้โดยรอบ​ทั้งน่ารักและร่มรื่นบรรยากาศนั่งสบายๆ ที่พร้อมเสิร์ฟทั้งเครื่องดื่มและของหวานหลากสไตล์ ภายในร้านตกแต่งอย่างเรียบง่าย ไม่เน้นความเยอะ เมนูเครื่องดื่มมีหลากหลาย ซึ่งที่นี่ก็ขึ้นชื่อเรื่องครัวซองต์กับเค้ก อร่อย ฟินในทุกคำที่กัดไป ขอแนะนำความผ่อนคลายเครื่องดื่มรูปแบบใหม่ เรียกว่าสวรรค์ของคนรักเมนูเครื่องดื่มร้อน/เย็น ผสมสารสกัดจากธรรมชาติลดความเครียดสะสม เสริมภูมิคุ้มกัน และช่วยชลอวัยการทำงานติดต่อกันเป็นเวลานานทำให้เกิดความเครียดสะสมซึ่งไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพ สามารถเลือกสั่งเครื่องดื่มมานั่งจิบแบบยาวๆ กันได้เลย
Cannabis Hot Americano 130.-
Cannabis Fruit Punch 150.-
Cannabis Lychee Iced Tea 150.-
Cannabis Hot Chamomile Tea 110.-

Cannabis Lychee Iced Tea 150.-
Cannabis Fruit Punch 150.-

ครัวซองต์พรีเมี่ยม ด้วยคุณภาพเน้นๆ สูตรพิเศษของทางร้าน Cuppers Cafe
ครัวซองต์อบใหม่ทุกวัน ผลิตจากเนยคุณภาพเยี่ยมจากต่างประเทศ 100%
ไม่ผสมมาการีน สารกันบูด และไม่ใส่สี คือดีมากๆ สายครัวซองต์โฮมเมดไม่ควรพลาดเลยทีเดียว ครัวซองต์สีเหลือง กรอบนอกนุ่มในละลายในปากและหอมกลิ่นเนยยั่วยวนใจในทุกคำที่กัดชิ้นใหญ่อีกทั้งยังมีหลากหลายรสชาติให้เลือกชิม ครัวซองต์ ทุกชิ้นขายดีมากหมดเร็วทุกวัน

ร้าน Cuppers ครัวซองต์ของทางร้าน อบใหม่ทุกวัน ผลิตจากเนยคุณภาพเยี่ยมจากต่างประเทศ 100% ไม่ผสมมาการีน สารกันบูด และไม่ใส่สี คือดีมากๆ สายครัวซองต์โฮมเมดไม่ควรพลาดเลยทีเดียว

ภายในห้องอาหารอาหารแห่งนี้ มีบริการอาหาร 3 ส่วนหลัก ประกอบด้วย เมนูอาหารยุโรปแบบอินเตอร์, เมนูอาหารไทยประยุกต์ และเมนูอาหารไทยแบบดั้งเดิม เมนูของอาหารที่นี่ก็มีให้เลือกอย่างมากมาย พื้นที่ภายในห้องอาหาร ยังได้มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซน ให้เลือกนั่งตามความชอบ เช่น โซนเปิดส่วนกลาง หรือ โซนที่มีผนังกระจกใสกั้น เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น รวมทั้ง โซนด้านในที่ให้ความเป็นส่วนตัวพิเศษ ซึ่งโดยรอบของห้องอาหารยังมีความโล่ง โปร่ง บรรยากาศสบายๆ สไตล์โมเดิร์น คุมโทนด้วยสี เขียวเทา และดำ เรียกว่า เป็นห้องอาหารที่มีความเท่อย่างมีสไตล์ แถมเพิ่มความหรูหรา ด้วยโคมทรงกลมรูปแบบโมเดิร์น สามารถรองรับได้ 25 โต๊ะหรือ 250 คน และสำหรับงานเลี้ยงแบบค็อกเทล สามารถรองรับได้ถึง 400 ท่าน พร้อมรองรับการจัดงานในรูปแบบต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของเมนูอาหารรังสรรค์โดย เชฟสราวุฒิ เพชรเอีย (ต่อม) มากประสบการณ์ การปรุงที่พิถีพิถัน คัดสรรคคุณภาพของวัตถุดิบ นอกจากที่ต้องเป็นวัตถุดิบคุณภาพดีเลิศแล้ว ยังต้องรักษาความสดไว้ให้ได้มากที่สุดไม่ว่าจะเป็นเมนูใด ออกแบบเมนูอาหารใหม่ เช่น กุ้งแม่น้ำ สั่งตรงมาจากแม่น้ำตาปี จนกลายเป็นเมนูยอดนิยมขายดิบขายดีในปัจจุบัน ซึ่งหลายคนจะคุ้นชินกับกุ้งแม่น้ำเผา หรือ ต้มยำกุ้งแม่น้ำ แต่ อีท ดริ๊งก์ เลิฟ ได้นำมารังสรรค์เป็นเมนูใหม่ที่อยากให้นักชิมได้ลิ้มลองคือ ข้าวผัดกุ้งแม่น้ำ ผสมผสานเทคนิคต่างๆเข้ากับข้าวผัดสูตรโบราณแบบไทยๆ ซึ่งต้องนำข้าวไปหมักกับไข่เสียก่อน เพื่อให้ข้าวหอมและมีความนุ่มเป็นพิเศษ ก่อนนำไปหุงและผ่านการผัดกับมันกุ้งแม่น้ำแท้ๆ ปรุงรสและผัดอย่างพิถีพิถัน วัตถุดิบของอาหารแต่ละจานนั้นผ่านการคัดสรรมาอย่างดีจากทั่วภูมิภาคในประเทศไทย ผ่านการปรุงรสชาติที่ละเอียดทุกขั้นตอน บอกเลยว่าถ้ากำลังมองหามื้อพิเศษกับคนที่รักก็ต้องที่นี่

นอกจากนี้ เชฟยังนำวัตถุดิบต่างชาติเข้ามาผสมผสาน เช่น ผักคอส หรือเรียกว่าเป็นอาหารฟิวชั่นหลอมรวมกับประสบการณ์ในการเดินทางของเชฟ ส่วนเมนูแนะนำสำหรับใช้เรียกน้ำย่อยแบบอินเตอร์ Caprese Salad อาหารต้นตำรับจากประเทศอิตาลี โดยมีการผสมผสานเทคนิคการทำอาหารจากประเทศฝรั่งเศส เป็นสลัด ที่มีการผสมผสานของเทกเจอร์ ภายในจานประกอบด้วย มอสซาเรลล่าชีส แบบสดมีความนุ่มเป็นพิเศษ แถมมีคุณค่าทางอาหารสูง, มะเขือเทศ 2 ชนิด, ใบโหระพานอก และยังราดด้วยเบซิลออย จนได้รสชาติที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ส่วนเมนคอร์สจานเด็ด Nori Wrapped Black Cod เป็นเนื้อปลาค็อดสีขาวห่อสาหร่าย และนำไปซูวี เสิร์ฟพร้อมต้นหอมญี่ปุ่น หัวผักกาดกริลล์สุกกำลังดี โดยเฉพาะหัวผักกาด ผ่านการต้ม และเซียกับเนยให้ซึมเข้าเนื้อ นำเสนอออกมามีลักษณะคล้ายกับหอยเซลล์อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ!! เสิร์ฟพร้อมกับฟอนสึโฟม ตกแต่งด้วย ซอเล่อ ที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ แบบดั้งเดิมสุดพรีเมี่ยม เรียกได้ว่ากว่าจะจัดเสิร์ฟได้ต้องใช้เวลารังสรรค์ในการจัดแต่งจานกันไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว เป็นอีกหนึ่งร้านที่นั่งสบายๆ ครัวซองต์พรีเมี่ยมด้วยคุณภาพเน้นๆ

สำหรับเมนูแนะนำขอเริ่มต้นกันที่เมนูเรียกน้ำย่อยอย่าง..
-ข้าวผัดมันกุ้ง ( Khao Phad Mun Goong ) สูตรพิเศษของที่นี่
-สลัดร็อคเก็ตกับเซลมอนรมควัน ( Pocket with Smoked Salmon )
-ปลาแบล็คคอดห่อสาหร่าย (Nori wrapped cod with poached leek, daikon and yuzu cream sauce) โดยการคัดสรรปลาแบล็คคอดที่เนื้อแน่นๆนำมาห่อกับสาหร่ายนำไม่นึ่งและเสริฟคู่กับยูสุครีมซอสต้นกระเทียมและหัวใช้เท้าตุ๋น
-ซุปหัวหอม ( French Burnt Onion )
-ลิปอายสเต็ก ( Grilled Australian Ribeye )

เมนูขนมหวาน
-ข้าวเหนียวมะม่วงมูส ( Mango mousse with sticky rice )
เสิร์ฟด้วยความน่ารักมุ้งมิ้งที่สอดคล้องกับสไตล์การจัดน้ำมะม่วงน้าดอกไม้สุกปั้นกับเฟรสครีมให้มีเนื้อเนียนและเสริฟคูกับข้าวเหนียวมูลและไอครีมกะทิ

แนะนำ โปรโมชั่นร้านล่าสุด…
สัมผัสความสดใหม่อร่อยโดนใจพบกับเมนูใหม่ของห้องอาหารได้แล้ววันนี้ และเมนูพิเศษสำหรับฤดูกาล เสิร์ฟในทุกๆ 4 เดือน ที่เรียกว่า Seasons Change เป็นสีสันอาหารแบบใหม่ ที่มีการเปลี่ยนสีอาหารตามไปฤดู เช่น สีเหลือง แสดงถึงฤดูร้อน เช่น แกงเหลือง, แมงโก้มูส, ไอศกรีมทุเรียน หรือ สีเขียว ตัวแทนฤดูฝน โดยจะเน้นอาหารโทนสีเขียวเป็นหลัก ที่มีความสดชื่น ส่วนฤดูหนาว จะเน้นโทนสีม่วง เช่น บีทรูท หรือมันม่วง ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่วัตถุดิบในการประกอบอาหารในฤดูนั้นๆ ให้ลิ้มลองแบบไม่รู้เบื่อ ร่วมสัมผัสประสบการณ์อาหารแนวใหม่ที่น่าประทับใจ

โรงแรมเดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ
599, 599/1 ถ.ลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ 10520
โทร: +66 (2) 019 9111
อีเมล: reservations.suv@theparknine.com
เว็บไซต์ www.theparknine.com/suvarnabhumi/
เฟสบุ๊ค theparkninesuvarnbhumi
อีเมล์ : reservations.suv@theparknine.com
เฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/TheParkNineSuvarnabhumi

#restaurant #alldaydining #foodlover #healthyfood #fooddelivery #theparkninehotelParkNineSuvarnabhumi #eatdrinklove #takeaway #drivethru #foodboxes #Croissant #ชัญญ่าว่าดี #toptotravel

แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เปิดจำหน่ายบัตรโดยสารสมาร์ทพาสลายใหม่ทุกประเภท

รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เปิดจำหน่ายบัตรโดยสารสมาร์ทพาสลายใหม่ทุกประเภท วันที่ 16 มิ.ย. 2564 นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้มีการเผยแพร่ลายหน้าบัตรโดยสารลายใหม่มาระยะหนึ่งผ่านทาง Facebook Official Page Airport Rail Link ได้มีบรรดาผู้โดยสารและแฟนพันธุ์แท้รถไฟฟ้าให้ความสนใจและสอบถามมาเป็นจำนวนมาก บริษัทฯจึงได้ประกาศเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 16 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป ซึ่งบริษัทจะเปิดจำหน่ายบัตรโดยสารสมาร์ทพาสรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ลายใหม่ก่อน 3 ประเภท ได้แก่

-บัตรสมาร์ทพาสบุคคลทั่วไป (Adult Card) รับส่วนลดร้านค้าและบริการ

-บัตรสามร์ทพาสนักเรียน นักศึกษา (Student Card) รับส่วนลดการเดินทาง 20% ทุกการเดินทาง

-บัตรสมาร์ทพาสผู้สูงอายุ (Senior Card) รับส่วนลดการเดินทาง 50% ทุกการเดินทาง

โดยผู้โดยสารสามารถหาซื้อได้ที่ห้องจำหน่ายบัตรโดยสารทั้ง 8 สถานี

นอกจากนั้น สำหรับบัตรสมาร์ทพาสลายพิเศษประเภทบุคคลทั่วไป ( Adult Card) อีก 2 ลายใหม่ ได้แก่ “Happy Birthday Card” และ “Happy Gift Card” ที่ออกแบบเป็นลายไทย มีลักษณะเป็น “ลายประจำยาม” ซึ่งเป็นลวดลายที่มีรูปร่างสี่เหลี่ยมจัตุรัสตะแคง มีลักษณะคล้ายดอกไม้ โดยดัดแปลงมาจากดอกไม้ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “ดอกสี่ทิศ” เหมาะสำหรับให้ผู้โดยสารได้เก็บสะสมเป็นที่ระลึก หรือ มอบเป็นของขวัญในโอกาสพิเศษต่างๆ จะทำการเปิดจำหน่ายในเร็วๆนี้อีกด้วย

ส่วนบริการลูกค้าสัมพันธ์ Call Center 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง www.facebook.com/AirportRailLink , Twitter : Airport Rail Link

Diva Café & Bistro พร้อมเสิร์ฟเมนูเสริมสุขภาพสไตล์โฮมเมดคูซีน

ร้านอาหาร Diva Cafe’ & Bistro ตั้งอยู่ในย่านดัง RCA ที่มีบริการครบเครื่องทั้งเครื่องดื่มน่าลอง เมนูอาหารรสเลิศ และเอนเตอร์เทนในที่เดียวกัน แถมรีโนเวทร้านเพื่อสร้างสีสันใหม่ ให้ทุกท่านได้เข้ามาดื่มด่ำบรรยากาศ รวมไปถึงการเปิดให้บริการเดลิเวอรี่ ส่งมอบอาหารอร่อยที่ทำด้วยใจ แบ่งปันด้วยความรัก ในรูปแบบอาหารใหม่ โฮมเมดคูซีน ล่าสุด เสริมจุดเด่นให้ถูกใจคนไทยมากขึ้นด้วยอาหารประเภทยำ จากฝีมือ เชฟอรรถพล สุทธิประภา และบริหารงานโดย คุณดวงตวัน เตชวิวัฒน์วาณิชย์ (แจง) แต่จากสถานการณ์ของ COVID-19 ทำให้เราเห็นถึงปรากฏการณ์ ที่คนทั้งโลกหันมาสนใจเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น

Diva Cafe’ & Bistro ตั้งอยู่ในย่านดัง RCA ย้ายจาก The Corner Sport club ถนนบรมราชชนนี มาที่ RCA ปรับปรุงรายการอาหาร ปรับปรุงการแต่งร้านปรับปรุงรสชาติและคุณภาพให้ดีขึ้นกว่าเดิมเพื่อให้ลูกค้าทุกท่านได้รับการบริการที่ดีขึ้น ที่ร้านมีมาตรการด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัดในช่วงโควิด-19 มีการเช็ดทำความสะอาดจุดสัมผัสในทุกชั่วโมง และทุกโต๊ะจะมีบริการเจลแอลกอฮอล์วางไว้ให้ รวมทั้งจุดวัดอุณหภูมิก่อนเข้าร้าน

เรื่องราวของ Diva Cafe’ & Bistro ไม่ได้เป็นเพียงแค่ ร้านอาหารเพียงอย่างเดียว ซึ่งคุณแจง เจ้าของร้าน ซึ่งคลุกคลีอยู่ในธุรกิจผับบาร์ร้านอาหารมาก่อน สำหรับร้าน Diva Café & Bistro ใน RCA เปิดให้บริการมาเป็นปีที่ 5 แต่หากนับรวมสาขาที่ตลิ่งชัน (ซึ่งปิดไปแล้ว) ก็จะเป็น 7ที่นี่มีเมนูใหม่และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่มีเป้าหมายในการเป็น Community ของคนรักสุขภาพ ผ่านการแบ่งปันความรู้และความเข้าใจในการกินใหม่ๆ ให้กับคนไทย ภายใต้แนวคิดที่ว่าคนไทยชอบกินแต่อาหารที่ตัวเองชอบ ในบางครั้งอาจจะไม่ได้คำนึงถึงเรื่องสุขภาพ Diva Cafe’ & Bistro อยากเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ในการกิน ที่ถึงแม้จะไม่ได้เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ 100% แต่อย่างน้อยคุณก็ได้กลับมาทานอาหรคุณภาพ วัตถุดิบใหม่สดสะอาด โดยเริ่มต้นจากการกินเมนูง่ายที่เราชอบ และอย่างน้อยคุณก็ได้กลับมาเติมสิ่ดีๆ ให้กับตัวเองทีละน้อย เพียงเริ่มต้นจากการได้กินของอร่อยเสริมสุขภาพ

คุณดวงตวัน (แจง) เตชวิวัฒน?วานิชย์

Diva มาจากความชอบส่วนตัวของคุณดวงตวัน (แจง) เพราะเรา….เข้าใจคนรักสุขภาพเป็นอย่างดีว่าการเลือกสิ่งดีๆ เข้าสู่ร่างกายเป็นเรื่องสำคัญ แจงและน้ำฝน โดยเริ่มจากความพิถีพิถัน จึงกลายเป็นโจทย์อันท้าทายของสองสาวผู้ริเริ่มเมนูอร่อยเพื่อสุขภาพ หากให้พูดถึงความพิเศษของเมนูอาหารของ Diva Cafe’ & Bistro คงต้องเริ่มจากรัก ใส่ใจและความพิถีพิถัน คัดเลือกวัตถุดิบต่างๆ รวมไปถึงเครื่องปรุง มีความง่ายในการกินเหมือนเดิม แต่ต้องไม่มีผงชูรส ทั้งยังมีโซเดียมน้อย ส่วนผสมของแต่ละเมนู ไม่ใช้สารปรุงรสเพิ่มเติม เพื่อให้ได้รสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบ และเป็นเมนูที่ดีต่อสุขภาพ ยังคงความอร่อยในรูปแบบ อาหารสไตล์โฮมเมดคูซีน ซึ่งดีต่อร่างกายมาก

เมนูแนะนำยอดนิยม ที่โดดเด่น เช่น สลัดดีว่า สลัดไส้กรอก สลัดซี่โครงหมูบาร์บีคิวชื่อดัง ขาหมูเยอรมัน ซี่โครงหมูบาร์บีคิว หรือ น้ำพริกหมูชะมวง ข้าวผัดกิมจิ เมนูอาหารทั้งหมดในร้าน มีเมนูอาหารกว่า 100 เมนู ให้เลือกลิ้มลองได้ไม่รู้จบ รวมถึงอาหารจานเดียวของทอดจานเด็ดต่างๆ มากมาย เมนูแนะนำที่ไม่ควรพลาด อาทิ เช่น ข้าวผัดน้ำพริกมันกุ้ง ,ก๋วยเตี๋ยวหลอดโบราณ ,ยำไข่สามยาม , สปาเก็ตตี้ปลาเค็ม เมนูขายดิบขายดีในช่วงที่ผ่านมา สปาเกตตีสไตล์อิตาเลียนแท้ , ขาหมูเยอรมัน ขาหมูเยอรมัน สูตรของดีว่า โด่งดังในย่าน RCA , ตอร์ติญ่า

นภัสศรณ์ กุลทวีพัฒน์ (น้ำฝน)
สปาเก็ตตี้ปลาเค็ม
ตอร์ติญ่า
ยำไข่สามยาม
ข้าวผัดน้ำพริกมันกุ้ง
ขาหมูเยอรมัน สูตรของดีว่า โด่งดังในย่าน RCA

DIVA CAFÉ & BISTRO
เลขที่ 23/51 ซอยศูนย์วิจัย แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
เปิดบริการตั้งแต่เวลา 12.00-20.00 น.
วันศุกร์-วันเสาร์เปิด ถึง 21.30 น.
สนใจสอบถามรายละเอียดหรือสำรองที่นั่งโทร. 096-935-9565

แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เปิดตัวบัตรสมาร์ทพาสลายใหม่ และ ลายพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี

รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เปิดตัวบัตรสมาร์ทพาสลายใหม่ และลายพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผยว่าเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี ของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ บริษัทจึงได้ออกแบบบัตรสมาร์ทพาสลายใหม่ทุกประเภท ทั้งบัตรประเภทบุคคลทั่วไป (Adult Card) คิดอัตราค่าโดยสารตามระยะทางปกติ , บัตรประเภทนักเรียน นักศึกษา ( Student Card ) รับส่วนลด 20% จากอัตราค่าโดยสารปกติทุกเที่ยวการเดินทางสำหรับนักเรียน นักศึกษาที่อายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่งกำลังศึกษาในสถานศึกษาในประเทศ และบัตรประเภทผู้สูงอายุ ( Senior Card ) รับส่วนลด 50% จากอัตราค่าโดยสารปกติทุกเที่ยวการเดินทาง สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปสัญชาติไทย

นอกจากนั้นในโอกาสพิเศษนี้ บริษัทยังได้ออกแบบบัตรสมาร์ทพาสลายพิเศษประเภทบุคคลทั่วไป ( Adult Card) “Happy Birthday Card” และ “Happy Gift Card” ที่ออกแบบเป็นลายไทย มีลักษณะเป็น “ลายประจำยาม” ซึ่งเป็นลวดลายที่มีรูปร่างสี่เหลี่ยมจัตุรัสตะแคง มีลักษณะคล้ายดอกไม้ โดยดัดแปลงมาจากดอกไม้ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “ดอกสี่ทิศ” เหมาะสำหรับให้ผู้โดยสารได้เก็บสะสมเป็นที่ระลึก หรือมอบเป็นของขวัญในโอกาสพิเศษต่างๆ

ส่วนงานบริการลูกค้าสัมพันธ์ Call Center 1690 หรือ www.srtet.co.th , www.facebook.com/AirportRailLink และ Twitter : Airport Rail Link

กุนเชียงหมูแบรนด์ กล่องทิพย์ พร้อมลงสนามตลาดกุนเชียง 6 พันล้าน

กุนเชียง นั้นนับได้ว่าเป็นหนึ่งในอาหารแปรรูปยอดนิยมของคนไทย ยิ่งในยุคโควิด-19 กุนเชียงยิ่งขายดี เพราะสามารถเก็บไว้ในบ้านได้นาน ในช่วงที่คนไม่ค่อยออกไปไหน ที่สำคัญสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น กุนเชียงทอด, ยำกุนเชียง, ข้าวผัดกุนเชียง ,ขนมปังไส้กุนเชียง (สไตล์เวียดนาม) ก๋วยเตี๋ยวหลอด ฯลฯ


อีกทั้งบริโภคครั้งใดก็อร่อย กุนเชียงจึงเป็นสิ่งที่หลายบ้านมีติดตู้เย็นไว้ หิวเมื่อไรก็นำมาประกอบอาหารทานได้ทันที เรียกว่าทั้งอร่อย กลมกล่อม ทานง่าย ทานได้ทุกเพศทุกวัย รวมทั้งเหมาะกับการดำรงชีวิตอย่างเร่งรีบของคนในยุคปัจจุบัน เพราะมีกระบวนการทำที่รวดเร็ว สุกง่าย ไม่ยุ่งยากในการประกอบอาหารอีกด้วย
นางฐนิวรรณ กุลมงคล เจ้าของแบรนด์อาหาร “กล่องทิพย์” และอีกบทบาทคือนายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า พร้อมจะนำกุนเชียงหมูภายใต้แบรนด์กล่องทิพย์ลงตลาด โดยเน้นเป็นกุนเชียงคุณภาพเกรด A ด้วยความร่วมมือกับนายสมพล ถ้ำน้อย เจ้าของบริษัท โชคนิพลหมูป่า ผลิตกุนเชียงหมูที่มีเนื้อหมูในสัดส่วนถึง 95% หวานน้อย ไขมันต่ำ ไม่ผสมแป้ง

กุนเชียงกล่องทิพย์ เน้นเป็นกุนเชียงคุณภาพสูง อร่อย ภายใต้ราคาไม่แพง และเราพร้อมแล้วที่จะลงสนามตลาดกุนเชียงที่มีมูลค่าต่อปีสูงถึง 6 พันล้านบาท แม้จะมีคู่แข่งจำนวนมาก และหลายรายเป็นเจ้าตลาดรายใหญ่ แต่เรามั่นใจในคุณภาพสินค้าและช่องทางต่างๆ ที่จะขยายต่อไปในอนาคต

ในอนาคตแบรนด์กล่องทิพย์และโรงงาน โชคนิพลหมูป่า พร้อมที่จะนำสินค้าตัวอื่นๆ ลงสนามไปสู่ผู้บริโภคและเจ้าของร้านอาหาร โดยจะเป็นความร่วมมือในการนำนวัตกรรมต่างๆ ที่มี มาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคและร้านอาหารให้มากที่สุด โดยสินค้าตัวต่อไปเช่นหมูชาชู ขาหมูเยอรมัน ขาหมูพะโล้ หมูหัน ลูกชิ้นหมู ฯลฯ

ในระยะแรกของการทำตลาดกุนเชียงกล่องทิพย์ จะเน้นการเจาะกลุ่มตลาดร้านอาหาร รวมถึงการเจาะตรงถึงผู้บริโภค ทั้งการขายปลีกและขายผ่านเอเย่นต์ ซึ่งหากสนใจเป็นเอเย่นต์ของกุนเชียงกล่องทิพย์หรือหากร้านอาหารที่สนใจสั่งกุนเชียงเป็นจำนวนมาก หรือแม้แต่สนใจสั่งแบบขายปลีก ก็สามารถติดต่อมาได้ที่เบอร์ 091-119-8875

ก่อนหน้านี้ แบรนด์กล่องทิพย์สร้างสรรค์อาหารไทยและอาหารกล่อง เพื่อรองรับยุค Dilivery โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยจัดทำอาหารกล่องสำหรับงานประชุมสัมมนา รวมถึงสำนักงานต่างๆ ที่ต้องการอาหารไทยชาววังในบรรจุภัณฑ์สวยงาม อร่อย ปรุงสุกใหม่ ในระดับราคาไม่แพง

นางฐนิวรรณในฐานะนายกสมาคมภัตตาคารไทย ให้มุมมองสำหรับธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคารว่า ตั้งแต่เกิดโควิด 19 ระลอกแรกยิ่งตอกย้ำว่า งานวิจัยที่มีบริษัทชั้นนำเคยทำไว้เป็นความจริงว่าในไม่ช้าร้านอาหารจะมีขนาดหน้าร้านเล็กลง ผู้คนจะซื้อของขายของกันทางออนไลน์หรือทางอากาศ ร้านอาหารที่เป็น Fine Dining จึงจะอยู่รอด เพราะค่าแรงจะสูงขึ้น แรงงานจะหายากขึ้น ในที่สุดโควิด19 ซึ่งขณะนี้มาถึงระลอก 3 แล้ว ก็สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจอาหารยุคนี้จำหน่ายกันบนอากาศหรือทางออนไลน์มากจริงๆ และร้านอาหารต้องปรับตัวขนานใหญ่ เพื่อให้ดำเนินธุรกิจกันต่อไปได้

ก่อนหน้านี้สมาคมภัตตาคารไทยได้เคยเรียกร้องต่อรัฐบาล ให้เห็นใจผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคารในเรื่องเวลาเปิดปิดในยุคโควิด 19 เพื่อให้สามารถประคองธุรกิจฝ่าวิกฤตการณ์โควิดไปได้ ซึ่งล่าสุดก็ได้รับการตอบรับที่ให้ร้านอาหารสามารถนั่งได้ถึง 21.00 น.

สนใจสั่งแบบขายปลีก ก็สามารถติดต่อ 091-119-8875
#กุนเชียงกล่องทิพย์ #กุนเชียง

แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ คุมเข้มมาตรการอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัย โควิด-19 ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ 9 – 15 เมษายน 2564

แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ คุมเข้มมาตรการอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัย รวมทั้งมาตรการป้องกันโควิด-19 ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ 9 – 15 เมษายน 2564

รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ คุมเข้มมาตรการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัย รวมทั้งมาตรการป้องกันโควิด-19 ให้แก่ผู้โดยสารช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 9 – 15 เมษายน 2564 สอดคล้องตามนโยบายกระทรวงคมนาคม

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เปิดเผยว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 9 – 15 เมษายน 2564 บริษัทฯ ได้เตรียมพร้อมมาตรการอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัย เพื่อรองรับการเดินทางของผู้โดยสาร และให้ผู้โดยสารที่ใช้บริการได้รับความสะดวกสบาย และความปลอดภัยในการใช้บริการมากที่สุด ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม โดยมีมาตรการดังนี้

ด้านการอำนวยความสะดวก ได้จัดจุดบริการเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะ ( TAXI STAND ) ที่สถานีรถไฟฟ้าพญาไท และตั้งศูนย์ประสานงานอำนวยการและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดที่ห้องควบคุมการเดินรถไฟฟ้า ศูนย์ซ่อมบำรุงคลองตัน ส่วนด้านการรักษาความปลอดภัย กำหนดให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจสอบทางเข้า-ออกทุกสถานี , พื้นที่ในจุดลับตา และตรวจสอบบุคคลที่มีอาการมึนเมาอย่างเข้มงวดในการเข้าใช้บริการ และตรวจสอบระบบการใช้งานโทรทัศน์วงจรปิด ( CCTV ) ให้ใช้งานได้ดีอยู่เสมอรวมถึงกำหนดวัตถุต้องห้ามที่ไม่สามารถนำเข้ามาในระบบรถไฟฟ้าได้แก่ อาวุธ ของมีคม ลูกโป่ง พลุดอกไม้ไฟ และวัตถุที่จะทำให้เกิดประกายไฟ

ด้านความมั่นคงกำหนดให้ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถไฟฟ้าทบทวนการทำงานด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับวัตถุต้องสงสัย ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกระเป๋า หรือกล่องหีบห่อ สัมภาระที่วางทิ้งไว้แบบผิดสังเกต และระมัดระวังบุคคลภายนอกที่อาจแปลกปลอมเข้ามาในบริเวณพื้นที่ปฏิบัติงานหรือพื้นที่สถานี พร้อมจัดชุดตรวจผสม ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด , พนักงานรักษาความปลอดภัย , เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจรถไฟสุวรรณภูมิ , เจ้าหน้าที่ชุดสุนัขทหารตรวจวัตถุระเบิด (K9) ออกตรวจสอบพื้นที่และอำนวยความสะดวกด้านรักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์

นอกจากนั้นบริษัทยังคงคุมเข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมีมาตรการต่างๆ ทั้งตั้งจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารก่อนเข้าใช้บริการในทุกสถานี ,เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดบริเวณจุดสัมผัสภายในสถานี และในขบวนรถ , เพิ่มความถี่ในการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อภายในขบวนรถไฟฟ้าก่อนให้บริการ ซึ่งขอความร่วมมือผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ใช้บริการรถไฟฟ้า และสแกน QR Code ไทยชนะบริเวณสถานีทุกครั้ง เพื่อเป็นประโยชน์ในการสอบสวนโรค รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ( Social Distancing ) ในขณะใช้บริการ และงดเว้นการพูดคุยภายในตู้โดยสาร เพื่อร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าหากได้ปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ และผู้โดยสารให้ความร่วมมือตามแผนดังกล่าว จะส่งผลให้ผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยและสะดวกสบายในการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์

ส่วนงานบริการลูกค้าสัมพันธ์ Call Center 1690 หรือ www.srtet.co.th , www.facebook.com/AirportRailLink และ Twitter : Airport Rail Link

ทุ่งนาขั้นบันได…ใจกลางโรงแรม

“พูลแมน หลวงพระบาง” (Pullman Luang Prabang Hotel)

ยินดีต้อนรับ….สู่สถานที่พักผ่อนอันน่าทึ่งของครอบครัว ตื่นรับอรุณพร้อมชมวิว ทุ่งนาขั้นบันได…ใจกลางโรงแรม หลวงพระบางเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมรดกทางวัฒนธรรมอันอุดมสมบูรณ์ของลาว ตั้งแต่สถาปัตยกรรม ศิลปะและหัตถกรรมดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน รวมไปถึงผลผลิตสดใหม่จากทุ่งนาและฟาร์ม

“พูลแมน หลวงพระบาง” (Pullman Luang Prabang Hotel) โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว กำลังถูกยกให้เป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศลาว เป็นโรงแรมเปิดใหม่ เพิ่งเปิดมาได้ 9 เดือน ด้วยพื้นที่ 100 ไร่ ความสูงของอาคาร 2 ชั้น ถูกออกแบบใสในรูปแบบเรียบง่าย ที่นี่จัดเป็นสถานที่พักผ่อนที่มีสวยงาม ตั้งอยู่ท่าม กลางธรรมชาติ ธารน้ำ ภูเขาโอบล้อม รวมไปถึงทุ่งนาขั้นบันไดบริเวณใจกลางโรงแรม เป็นคอลเลกชั่นล่าสุดของ แบรนด์พูลแมน อันโด่งดังของเครือ Accor กลางหลวงพระบาง เมืองมรดกโลก

ภายในโรงแรมมีพื้นที่ห้องจัดประชุมใหญ่ที่สุด ในหลวงพระบาง ใครอยากมาเที่ยวหลวงพระบาง แล้วได้ฟีลเก๋หลายๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวคนอาจจะเห็นว่ามีการเปิดตัวของโรงแรมใหม่ๆ คับคั่งมากหน้าหลายตา บางที่มาพร้อมกับจุดขายเก๋ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำเลที่ตั้ง การบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงดีไซน์และการตกแต่งที่เป็นจุดสำคัญในการทำให้ผู้เข้าพักประทับใจ


ที่สุดของบริเวณ Lobby พร้อรับบริการ

เรียนรู้กับการใช้ชีวิต เมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของยูเนสโก ด้วยวิถีชีวิตเรียบง่ายและยั่งยืน จึงทำให้ภาพรวมของ พูลแมน หลวงพระบาง รีสอร์ท ที่มีความรู้สึกที่แฝงไปด้วยประวัติศาสตร์ของความเป็นหลวงพระบางแบบดั้งเดิม ซึ่งจะเป็นที่ประทับใจของแขกที่มาพักทุกเชื้อชาติ

พูลแมน หลวงพระบาง ให้บริการห้องพักรวม 123 ห้อง ในรูปแบบโลว์ไรส์ (low-rise) มีทั้งแบบห้องสวีท ไปจนถึงพูลวิลล่าขนาด 2 ห้องนอน พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว ออกแบบตกแต่งสไตล์ Laos Contemporary อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในห้องพักทันสมัยครบครัน พนักงานที่นี่เค้าสามารถเข้าใจภาษาไทย ได้รับความมั่นใจจากนักท่องเที่ยวเรื่อยมาตั้งแต่เปิดให้บริการโดยในส่วนของห้องพักมี ให้เลือกหลากหลาย เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละแบบ พร้อมพักผ่อนในห้องพักสุดหรูอย่างเต็มที่เหมาะกับชีวิตสโลว์ไลฟ์

หลังจาก เช็คอินที่ล็อบบี้ พร้อม Welcome Drink ด้านหน้าโรงแรมล็อบบี้และที่จอดรถอยู่ฝั่งเดียวกับตัวตึก ตรงบริเวณล็อบบี้มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะเราจะเห็นร้าน Junction Bar รวมถึงมีคอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง ที่เราสามารถนั่งเล่นอินเตอร์เนต

โดยรีวิวนี้ Toptotravel จะแบ่งเป็น ห้องพัก, สระว่ายน้ำ และห้องประชุม , อาหารเช้า และ สปา นะคะ พร้อมแล้วตามมาดูกันเลย


รูปแบบห้องพัก + สิ่งอำนวยความสะดวก
ให้รางวัลกับร่างกายและให้ของขวัญกับตัวเอง ด้วยการไปพักผ่อน วันนี้เ
Toptotravel มีโอกาสได้มาพักห้องพรีเมี่ยมดีลักซ์ Premium Deluxe Room ห้องใหญ่มากที่พักมี 2 ชั้น จากทั้งหมด 4 ห้อง ของตัวตึกโรงแรม ตกแต่งในรูปแบบ เน้นความเป็นไม้และสีสันสว่าง สไตล์โมเดิร์นที่มีกลิ่นอายของล้านนา ห้องน้ำใหญ่ ต่ละห้องมีระเบียงส่วนตัวที่มองเห็นวิว ห้องน้ำมีฝักบัวอาบน้ำหรืออ่างอาบน้ำ และเลือกได้ระหว่างเตียงขนาดคิงไซส์ที่หรูหรา 1 เตียง หรือเตียงขนาดนอนได้สองคน 2 เตียง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในห้องพักได้แก่ เครื่องปรับอากาศที่สามารถควบคุมอุณหภูมิแบบแยกส่วน มินิบาร์ อุปกรณ์ชงชาและกาแฟ ตู้นิรภัยในห้องพัก ไดร์เป่าผม เครื่องชั่งน้ำหนัก เตารีด เครื่องรับโทรทัศน์จอแบน พร้อมช่องรายการดาวเทียม โทรศัพท์ทางไกลระหว่างประเทศ และบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย

เปิดเข้ามาห้องน้ำก็จะนอนแช่น้ำ จากห้องน้ำ แช่น้ำไปเห็นวิวสระว่ายน้ำและสนามหญ้า และทุ่งนาขั้นบันไดใจกลางโรงแรม ส่วนการเดินทางไปจุดต่างๆ ภายในโรงแรม สามารถกดเรียกปุ๊บแทบจะมาทันที ห้องพักที่นี่ใช้ระบบคีย์การ์ดจนถึงเข้าห้องพัก ค่อนข้างปลอดภัยแน่นอน ถ้าขี้เกียจเดิน โรงแรมเค้ามีการส่ง ไม่มีอะไรดีกว่านี้แล้ว

เรื่องหมอนและเตียง นี่คิดว่าคือจุดเด่น หมอนนอนแล้วไม่ปวดคอ อันนี้ตัวชัญญ่าเอง ค่อนข้างประทับใจเลย กลับจากมาเที่ยวเหนื่อยๆ นอนบนเตียงและหมอนดีๆ คือช่วยให้เราหายเหนื่อยได้เร็วมาก นอกจากนี้ ในห้องเค้ายังมีตู้เซฟไว้ให้เราใส่ของมีค่า มีทีวี มีราวแขวนเสื้อที่ให้ไม้แขวนมาเหลือเฟือ และมีไวไฟสัญญาณแรงๆ เล่นเน็ตเร็วปรี๊ดมาก สิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานที่โรงแรมให้มาคือค่อนข้างครบ

เมื่อเราเดินเข้ามายังตัวโรงแรม ด้านหน้าโรงแรม เราจะเห็นร้านอาหารที่ชื่อว่า Junction Bar ซึ่งเป็นพื้นที่พักผ่อนที่นำคุณไปสู่มุมมองของนาข้าวขั้นบันได ส่วนด้านหน้าโรงแรมนั้นมีที่จอดรถ รวมถึงถ้า ใครเช่ารถมาไม่ต้องห่วงเรื่องที่จอดรถเลย อีกสิ่งหนึ่งที่เก๋คือ ห้องพักที่นี่มีทั้งแอร์และพัดลมติดเพดาน แอร์เย็นฉ่ำ แต่ถ้าใครแพ้แอร์ ก็เปิดหน้าต่าง + เปิดพัดลมได้เลยส่วนห้องน้ำทำออกมาได้ค่อนข้างดีมาก สบู่ ยาสระผม และครีมนวดผมในตัว ที่ดีและประทับใจมากคือ ทุกห้องของที่นี่ฝักบัวแรงสะใจ อันนี้ชอบมากๆ เพราะปกติถ้าฝักบัวไม่แรง นี่จะเฟลกับการอาบน้ำ

ในส่วนห้องพัก มีการออกแบบให้แขกได้รับอารมณ์ของวิถีชีวิตเรียบง่ายและยั่งยืน ให้ความสำคัญที่ความสะดวกสบาย พักแล้วรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง Facilities ครบมาก ที่นี่มีสระว่ายน้ำถึง 3 สระด้วยกัน

บรรยากาศดี การบริการ เน้นความน่ารักเป็นกันเองของพนักงาน ต้อนรับด้วยรอยยิ้ม ให้บริการด้วยใจ แต่คงไว้ซึ่งมาตราฐานระดับสากล โรงแรมระดับ 5 ดาวทั่วโลก ของตกแต่งที่เลือกใช้ก็สื่อถึงวัฒนธรรมของลาว จึงทำให้ภาพรวมของตัวรีสอร์ท มีความรู้สึกที่แฝงไปด้วยประวัติศาสตร์ของความเป็นหลวงพระบางดั้งเดิม เป็นที่ประทับใจของแขกที่มาพักทุกเชื้อชาติ

อาหารเช้า ที่ห้องอาหาร L’Atelier ห้องอาหารริมทะเลสาบ อาหารเช้าที่ห้องอาหาร มีบริการอาหารเช้าแบบคอนติเนนตัลหรือแบบบุฟเฟต์ All-Day Dining อยู่แล้ว เมนู A La Carte มีอาหารหลากหลาย ทั้งลาว ไทย และ ตะวันตก อาหารของที่นี่ได้จากฟาร์มสู่โต๊ะอาหาร (farm-to-table) โรงแรมใช้วัตถุดิบท้องถิ่นออร์แกนิกตามฤดูกาล สมุนไพรลาว ผักและผลไม้เมืองร้อนที่ปลูกในสถานที่ของโรงแรม รวมถึงเก็บเกี่ยวข้าวจากทุ่งนาขั้นบันไดภายในรีสอร์ทมาใช้ในร้านอาหาร

“The Junction” เลานจ์ และห้องสมุดที่ให้บริการเครื่องดื่มและอาหารว่าง ศูนย์ออกกำลังกายตลอด 24 ชั่วโมง สปา คิดส์คลับ สระว่ายน้ำ 3 แห่ง
พร้อมพูลบาร์ “H2O” และพื้นที่จัดการประชุมและกิจกรรมที่สามารถรองรับได้ถึง 300 คน ใหญ่ที่สุดในหลวงพระบางเพลิดเพลินกับการพักผ่อนแล้ว เปิดประสบการณ์กับโปรแกรมท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่หลากหลายที่ทางโรงแรมจัดให้อย่างเต็มอิ่ม อาทิ โยคะยามเช้า ไทชิ บนดาดฟ้าของรีสอร์ท

ขอบคุณข้อมูลต่างของโรงแรม ด้วยการดูแลและแนะนำของ :
Khun : Supatta Noimuang (ZII)
Director of Sales Marketing
Khun : Sheila May Reas Buenafe
PR & Marketing Communication Manager

Khun : Supatta Noimuang (ZII) and Khun : Sheila May Reas Buenafe

สุดท้าย Toptotravel ขอพาไปชม พูลแมน สปากันค่ะ ตรงนี้เราขอเข้าไปชมบรรยากาศ และ พูดคุยกับ คุณณันท์นภัส ไกรหิรัฐปวีร์ SPA & WELLNESS MANAGER

สรุปทุกอย่างดีงาม ตามท้องเรื่องในระดับห้าดาวของโรงแรมพูลแมน
พูลแมน สปา ตั้งอยู่ภายในบริเวณ Pullman Hotels and Resort หลวงพระบาง อยู่ด้านในสุดของโรงแรม โดยมีแนวคิดว่า เพื่อให้ผู้มาใช้บริการได้สัมผัสได้ถึงความเป็นส่วนตัวแลความเงียบสงบ รู้สึกผ่อนคลาย

พูลแมน สปา ประกอบด้วยห้องทรีทเมนท์ทั้งหมด 6 ห้อง แต่ละห้องสร้างแบ่งแยกจากกันเป็นสัดส่วน ทุกห้องทาสีขาวสะอา ห้องทรีทเมนท์ออกแบบอย่างเรียบง่ายหรูหราด้วยการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ คุณณันท์นภัส เล่าให้ Toptotravel ฟังในขณะพาเราเดินเข้าเยี่ยมชม บริเวณภายใน พูลแมน สปา เราเรียกห้องทรีทเมนท์เป็นตึก 1 -3 เป็นห้องเตียงคู่ ตึก 4 เป็นห้องเตียงเดี่ยวสำหรับการนวด ตึก 5 เป็นห้องนวดไทยมี 4 เบาะ สำหรับนวดไทยโดยเฉพาะ และตึกสุดท้ายก็จะเป็นห้องนวดเท้าซึ่งสามารถทำเล็บ

… ด้วยสนนราคาที่ไม่แพง ผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้บริการ โดยเฉพาะกับฝีมือการนวดของเทอราปิส ที่ผ่านการฝึกอบรมและผ่านประสบการณ์มาอย่างดี ทำให้ พูลแมนสปา ปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เรียกว่าต้องจองกันล่วงหน้า เพราะคิวยาวอย่างไรก็ตาม หากมาเที่ยวที่ หลวงพระบาง และอยากทดลองฝีมือการนวดของเทอราปิสชาวลาว ระดับพรีเมี่ยม ต้องลองแวะเข้ามา แล้วจะประทับใจ

ที่นี่ พูลแมน สปา….หากใครต้องการอยากไปหรืออยากสอบถามเพิ่มเติมการจองบริการสปา ที่นี่เปิดทุกวัน 10.00 -21.00 น.
ลูกค้าจากภายนอกโรงแรมสามารถเข้ามาใช้บริการได้โดยติดต่อผ่าน
โอเปอร์เรเตอร์ของโรงแรม Pullman Luang Prabang

พูลแมน หลวงพระบาง คือการคงไว้ซึ่ง วิถีชีวิตเรียบง่ายและยั่งยืนของชาวหลวงพระบางที่เป็นรากฐานของเมืองมาตั้งแต่โบราณ โดยได้เชื่อมต่อกับกลิ่นอายของหลวงพระบางเอาไว้ในทุกย่างก้าวของโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นการรังสรรค์การบริการที่เป็นพันธมิตรกับท้องถิ่น การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ การทำฟาร์มและสวนครัวแบบยั่งยืนภายในโรงแรม และการคิดค้นเมนูอาหารจากวัตถุดิบขึ้นชื่อในพื้นที่ ควบคู่ไปกับโปรแกรมรักษ์โลก Planet 21 ที่เครือข่าย Accor ทั่วโลก

เคล็ดลับอย่างแรก ถ้าเราคิดจะมาพักโรงแรมในเครือ ACCOR แนะนำให้จองห้องพักโดยตรงกับเว็บไซต์ เพราะนอกจากเว็บโรงแรมจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรงแรมที่ครบครัน เว็บไซต์หน้าตาดีแล้ว คือเราจะได้เรทห้องพักที่ถูกกว่าที่อื่นๆ อย่างแน่นอน

เรื่องทำเลที่ตั้งของ Pullman Luang Prabang
Amazing huge room. Lovely staff. Great pool and nice restaurant.
สัมผัสวิถีลาวบทใหม่ที่ พูลแมน หลวงพระบาง ได้แล้ววันนี้
Pullman Luang Prabang
Ban Pong Wanh, 06000 LUANG PRABANG LAO PDR
Tel: +856 71 211 112
อีเมล H9112@accor.com

Thai Tea Latte Body Scrub ขัดผิวชาไทย ลาเต้ ที่โอเอซิสสปา

ครั้งนี้มาใช้บริการคอร์ส ดูแลผิวจิบความหวาน กลิ่นหอมของไทยทีลาเต้ขัดผิว
ชาไทยลาเต้ โอเอซิสสปาเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพและความผ่อนคลาย โดยการทำสครับผิวกาย (Body Scrub), นวดอโรมาเธอรี (Aromatherapy oil Massage) ใช้เวลา 2 ชั่วโมง

ชาไทย หรือ ชาสีส้ม (Thai Tea) เครื่องดื่มยอดฮิต ที่มีความโดดเด่นของสีส้มอันเป็นเอกลักษณ์ของชาไทยคุณสมบัติ : ผลัดผิวเก่า กระตุ้นผิวใหม่ที่เรียบเนียน เพื่อผิวอ่อนเยาว์สุขภาพดี ทั้งยังอุดมไปด้วยสารสกัดชาไทย เผยผิวสวย เรียบ เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น ด้วยการขัดผิว สครับผิวชาไทยลาเต้ บอดี้สครับชาไทยเติมอาหารให้ผิวแบบเร่งด่วนทันทีจากวิตามินอี หนึ่งในคุณสมบัติเด่นของชาดำที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวแข็งแรง

การขัดผิวอย่างอ่อนโยน ช่วยพาความเหนื่อยล้าของวันวานออกไป ผ่อนคลายด้วยกลิ่นหอมกรุ่นจากชาไทยลาเต้ เผยผิวสวย เรียบ เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น ด้วยการขัดผิว ชาไทย เติมอาหารให้ผิวแบบเร่งด่วนทันทีจากวิตามินอี หนึ่งในคุณสมบัติเด่นของชาดำที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ การขัดผิวและนวดด้วยน้ำมัน บำรุงผิวแข็งแรงสาเหตุการปวดเมื่อยตามร่างกาย มักมาจากการไหลเวียนเลือดที่ไม่ดี อาจมีของเสียค้างอยู่ตามจุดต่างๆ ของร่างกาย ทำให้เกิดอาการปวดตามมา ที่ผสานกันอย่างลงตัวในการฟื้นฟูเร่งด่วน สำหรับผิวอ่อนล้าหลังออกแดด ให้มีชีวิตชีวา

หลังเข้ารับการนวดหรือทำทรีทเมนท์ต่างๆ มีให้บริการ เสริฟชาไทยลาเต้ เพื่อช่วยปรับสมดุลร่างกายจากภายในควบคู่ไปด้วยนะคะ

กระโดดสู่ความหรูหราด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจากธรรมชาติสัมผัสได้ถึงส่วนผสมที่มีคุณภาพสูงที่แตกต่าง และอาจจะนํากลับบ้านที่คุณชื่นชอบ!
โปรเดือนนี้ 🌿 วันนี้ ซื้อ 2 แถม 1 ! 🌿และถ้ามาใช้บริการช่วงวันเกิด โอเอซีสสปา มีของขวัญพิเศษมอบให้ด้วยนะคะ

Urban Oasis Spa ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าการมาเยือน
บรรยากาศเงียบสงบ ความสบายที่กว้างขวาง ห้องอบไอน้ําสมุนไพรไทย การขนส่งที่ไม่ยุ่งยาก ที่นี่ไม่ใช่แค่การทรีตเมนต์ แต่เป็นพักผ่อนและการฟื้นฟู

จองตอนนี้: โทรศัพท์: +66 2262 2122, +66 5392 0111,
+66 3811 5888, +66 7633 7777
ติดต่อ Line: @oasisspa

#UrbanOasisSpa #ThonglorSpa #BangkokWellness #LuxurySpaExperience #TranquilRetreat #SpaDay #RelaxationJourney #Thailand #ThaiSpa #Aromatherapy #HealthAndWellbeing #LuxurySpaDay #ThaiSpaRetreat #NaturalLuxury #kinnatural #spaday #oasisspa #oasisspa #spaday #NaturalLuxury # ประเทศไทย #LuxurySpaExperience

ชวนชิมอาหารไทย 4 ภาค ณ ห้องอาหารอีท ดริ๊งก์ เลิฟ

โรงแรมที่ครบเครื่องและไม่ได้มีดีแค่ใกล้สนามบิน ห้องอาหารอีท ดริ๊งก์ เลิฟ ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของ โรงแรมเดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ โดดเด่นด้วยความโมเดิร์น ถือได้ว่าเป็นโรงแรมหรูที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในย่านลาดกระบัง พร้อมนำเสนอภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ Peacefully Living with Luxurious Lifestyle ภายใต้การบริหารงานโดย คุณชาตรี นุ้ยประสิทธิ์ ผู้บริหารกรุ๊ป โรงแรม เดอะ พาร์ค ไนน์

ห้องอาหารอีท ดริ๊งก์ เลิฟ สาขาสุวรรณภูมิ ตอบโจทย์นักชิมด้วยอาหารที่ต่อยอดจากแนวคิดมาเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ ภายในห้องอาหารอาหารแห่งนี้ มีบริการอาหาร 3 ส่วนหลัก ประกอบด้วย เมนูอาหารยุโรปแบบอินเตอร์ เมนูอาหารไทยประยุกต์ และเมนูอาหารไทยแบบดั้งเดิม และพื้นที่ภายในห้องอาหาร มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซน ให้เลือกนั่งตามความชอบ เช่น โซนเปิดส่วนกลาง หรือ โซนที่มีผนังกระจกใสกั้น เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว รวมทั้ง โซนด้านในที่ให้ความเป็นส่วนตัวพิเศษ โดยรอบของห้องอาหารยังมีความโล่ง โปร่ง บรรยากาศสบายๆ สไตล์โมเดิร์น เป็นห้องอาหารที่มีความเท่อย่างมีสไตล์

นอกจากนี้ ยังเมนูพิเศษสำหรับฤดูกาลห้องอาหารอีท ดริ๊งก์ เลิฟ สาขาสุวรรณภูมิ เฉลิมฉลองปีใหม่ไทยกับเมนูอาหารไทย 4 ภาค ในช่วงสงกรานต์ ค้นพบความละเมียดละไมกับเมนูอาหารไทยต้นตำรับดั้งเดิม ที่รังสรรค์มาเป็นพิเศษเฉพาะเทศกาลสงกรานต์นี้ เริ่มกันด้วยเมนูอาหารเรียกน้ำย่อย อาทิ ไส้อั่วรสเด็ดของภาคเหนือ ลาบหมูแซ่บนัวจากอีสาน เมนูภาคกลาง พะแนง ที่ได้รับเลือกเป็น เมนูแกงที่ดีที่สุดในโลก ตามมาด้วยอาหารจานหลักอย่าง ส้มตำไทยกับกุ้งแม่น้ำย่าง ตบท้ายด้วยเมนูคั่วกลิ้งหมูสับ รสชาติสุดเข้มข้นจากภาคใต้ ซึ่งนำเอกลักษณ์ของอาหารท้องถิ่นมาปรุงรสด้วยเครื่องเทศและสมุนไพร รังสรรค์เป็นอาหารจานพิเศษ ครบรส

นอกจากนำเสนอศิลปะอาหารไทยประจำภูมิภาคต่างๆ ยังมีเมนูเด็ดอีกมากมายให้ลิ้มลองในราคาเริ่มต้นเพียงจานละ 200 บาท ที่ร้านอาหารอีท ดริ๊งก์ เลิฟ สุวรรณภูมิ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2567

Sai Oua Grilled Northern Thai Pork Sausage
ไส้อั่วย่าง

Papaya Salad with Grilled River Prawn
ส้มตำไทยกับกุ้งแม่น้ำย่าง

Spicy Minced Pork Salad
ลาบหมู

Southern Stir-Fried Pork with Yellow Curry Paste
คั่วกลิ้งหมูสับ

Stir Fried Bitter Beans with Ground Pork and Shrimp
ผัดสะตอกุ้งกับหมู

Pork Panang Curry with Pea Eggplants
พะแนงหมูมะเขือพวง

Young Jackfruit Curry with Baby Pork Ribs
แกงขนุนขี้โครงอ่อน

“Tom Yum” Spicy & Sour Creamy Soup with River Prawn
กุ้งแม่น้ำต้มยำน้ำข้น

Braised Beef Spicy Soup
ต้มแซ่บเนื้อตุ๋น

shrimp Paste Fried Rice with River Prawn Dried Red
ข้าวผัดกะปิกับฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ

Crepe Suzette with Vanilla Ice-cream
แคร็ปรูว์แชีตเสริฟกับไอศกรีมวนิลา

สามารถลิ้มรสความอร่อยในสไตล์ภาคอีสาน/ภาคใต้/ภาคเหนือ/ภาคกลาง ได้ทั้งแบบเซ็ตเมนูและแบบอาหารจานเดียว พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศ
นอกจากนี้ยังมีเมนูเด็ดๆ อีกมากมายให้ลิ้มลอง ร้านอาหารอีท ดริ๊งก์ เลิฟ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2567

รายละเอียดห้องอาหาร Eat Drink Love Suvarnabhumi
Tel. 02 119 2188
โรงแรมเดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ
พิกัด: https://goo.gl/maps/EmCuaArngK3uRaoL9

#EatDrinkLove #อาหารคุณภาพ #ร้านอร่อยศรีนครินทร์ #อาหารไทยอร่อย #toptotravel #ห้องอาหารอีทดริ๊งก์เลิฟสาขาสุวรรณภูมิ

TRUE JJAJANG Korean Cuisine ตอบจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ อีกหนึ่งร้านเด็ดย่านเจริญกรุงที่ต้องมาลอง

ร้านอาหารสไตล์คอมฟอร์ฟู้ด ชวนสัมผัสความอร่อยของเมนูและอาหารสไตล์เกาหลี ผ่านบรรยากาศสบายๆ ไปกับร้าน TRUE JJAJANG “ทรูจาจัง” Korean Chinese Cuisine เมนูอาหารแบบฉบับเกาหลีดั้งเดิม เปิดใหม่ย่าน เจริญกรุง
วัดพระยาไกร ใครอยากลองทานอาหารเกาหลีกับรสชาติแบบดั้งเดิม ต้องมาทาน บอกเลย อร่อยเหมือนไปทานที่เกาหลีพร้อมเสิร์ฟเมนูอาหารเกาหลีรสชาติต้นตำรับ วัตถุดิบจากประเทศเกาหลี พร้อมรองรับทุกช่วงเวลามื้ออร่อยจากเมนูจาจังมยอน รสดั้งเดิมเส้นสด มีหลากหลายเมนู เมนูเด็ดของร้านที่ต้องห้ามพลาด

ทรูจาจัง ร้านอาหารเกาหลีย่านเจริญกรุง77 รสชาติเกาหลี จากเชฟเกาหลีเเท้ สูตรต้นตำรับ ทุกเมนูผ่านการคิดค้นสูตรจาก “เชฟเกาหลี” มั่นใจได้ในคุณภาพของวัตถุดิบ และรสชาติเข้มข้นสไตล์เกาหลีแท้ พร้อมการบริการสุดอบอุ่นหัวใจ ในราคาสุดคุ้มค่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ร้าน

สำหรับเมนูจังมยอน ที่เป็นไฮไลท์ไม่ว่าใครที่มา “ทรูจาจัง” แห่งนี้ ต้องสั่งมาลองรับประทาน ที่เสิร์ฟความอร่อยด้วยเส้นสดนุ่มหนึบ คลุกเคล้าซอสรสชาติดั้งเดิมแบบฉบับเกาหลีแท้ๆ


เมนูต่อมาคือ จัมปง เผ็ดร้อน กลมกล่อม เส้นสดเหนียวนุ่มกำลังดี คลุกเคล้ากับเส้นสดที่ทำเอง เครื่องซีฟู้ดเยอะจัดเต็ม รสชาติเข้มข้น ที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนชวนหิวตั้งแต่เมนูยังไม่ลงเสิร์ฟที่โต๊ะ อร่อยครบรสได้ในจานเดียว ด้วยราคาประหยัด

ทังซูยุก หมูทอดผัดซอสเปรี้ยวหวาน #ทังซูยุค สูตรเด็ดจากเชฟเกาหลี ด้านนอกกรอบ เนื้อหมูด้านในชุ่มฉ่ำ ซอสเปรี้ยวอมหวานกำลังดีหมูสันนอกทอด ราดซอสรสชาติเปรี้ยวอมหวาน


TRUE JJAJANG : ทรูจาจัง
ในส่วนของบรรยากาศสาขาถูกออกแบบตกแต่งมาให้มีความโมเดิร์นคลาสสิก ด้วยการใช้โทนสีที่ให้ความรู้สึกสว่าง ผ่อนคลาย และอบอุ่นอย่างมีระดับ เพดานมีความสูงโปร่งทำให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการรู้สึกโล่งสบาย มีการใช้เฟอร์นิเจอร์ ผสมผสานกับผ้าบุโซฟา ให้ความเรียบง่าย นั่งสบาย และมีความเป็นธรรมชาติ มีโซนรองรับทั้งชั้น 1 และชั้น2 สำหรับรองรับลูกค้า ซึ่งทั้งสองโซนสามารถรองรับ ลูกค้าที่มาใช้บริการทั้งแบบมาเดี่ยว มาเป็นคู่ ตลอดจนมาเป็นกลุ่ม และอีกหนึ่งความพิเศษของ “ทรูจาจัง” ทั้งอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์สไตล์เกาหลี เหมาะสำหรับผู้ที่อยากออก ไปรับประทานข้าวนอกบ้าน หรือสั่งไปทาน
ที่บ้านได้ง่ายๆ มีพื้นที่และยินดีต้อนรับให้ได้ร่วมทานอาหารกับครอบครัวได้อย่างสบายใจอีกด้วย

จุดเริ่มต้นของ จาจังมยอน สืบย้อนกลับไปถึงสมัยราชวงศ์โชซ็อน เมื่อโชปิดอินช็อนเป็นเมืองท่า ชาวจีนจำนวนมากจากชานตงจึงอพยพมาอาศัยในย่านหนึ่งของเมืองซึ่งทุกวันนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่ออินช็อนไชนาทาวน์ชาวจีนเป็นผู้ตั้งร้านอาหารจีนแลซ็อนเะดัดแปลงสูตรแบบดั้งเดิมให้เข้ากับความชอบของชาวเกาหลี

สำหรับเมนูที่เป็นไฮไลท์ไม่ว่าใครที่มา TRUE JJAJANG แห่งนี้ ต้องสั่งมาลองรับประทาน จาจังมยอน หรือบะหมี่ซอสดำรสชาติเข้มข้น วัตถุดิบคุณภาพดีนำเข้าเส้นสดเหนียวนุ่มกำลังดีเส้นสดคลุกเคล้าซอสราดซอส Black bean sauce รสชาติเข้มข้น

จาจังมยอน / จัมปง / ทังซูยุค
เมนูใหม่ของร้าน
เจยุค ผัดหมูแดง / เนื้อบุลโกกิ

อร่อยทุกเมนู พรุ่งนี้เจอกันที่ร้าน หรือสั่งเดลิเวอร์รี่เจอกันที่บ้าน
💚 Lineman ✅Grab 🧡Shopee
True Jjajang Korean Cuisine
ร้านอาหารเกาหลีฟีลตามสั่งร้านเด็ดย่านเจริญกรุง
พิกัด : ถนน เจริญกรุง 77 (ติดกับตึก HP Tower)
https://maps.app.goo.gl/uV9F1Nx3D9zRYdhY9
เปิดทุกวัน 11.00-21.30
โทร. 02-002-2655
Line : @truejjajang

ร้านทรูจาจัง มีที่จอดรถในบริเวณใกล้เคียงเดินไม่ไกลสะดวกสบาย
-ตึกHP รถยนต์ 40 บาท/ชม.
-จักรยานยนต์ 20 บาท
-มวยไทย รถยนต์ 30 บาท/ชม.

#truejjajang #นึกถึงอาหารเกาหลีนึกถึงทรูจาจัง #ทรูจาจัง
#ร้านเด็ดบอกต่อ #koreafood #ร้านอาหารใกล้ฉัน
#ร้านอาหารเจริญกรุง #จาจังมยอน #จัมปง #ทังซูยุก
#koreanfood #deliciousfood #toptotravel

GAAYA by Oasis Spa สปาหรู ราคาไม่แพง

กายา สปาหรู ราคาไม่แพง GAAYA by Oasis Spa (Sukhumvit 39)
ใครอยู่ใกล้ย่าน สุขุมวิท 39 แวะมาที่ GAAYA by Oasis Spa อีกหนึ่งสปาหรูที่อยู่กลางใจเมือง แค่เดินเข้ามารู้สึกผ่อนคลายกับบรรยากาศแล้ว แทบไม่น่าเชื่อเลยว่ามีสปาที่บรรยากาศดีและเงียบสงบบรรยากาศอบอุ่น เหมาะกับการหลีกเร้นความวุ่นวายมาพักใจอย่างยิ่ง หากใครที่ชอบทั้งนวดไทยและน้ำมัน แนะนำสาขายน้องใหม่กายา บาย โอเอซิสสปา

GAAYA อีกหนึ่งสปาภายใต้ Oasis Spa โปรแกรม Office Syndrome Massage ของที่นี่น่าจะตอบโจทย์มนุษย์หน้าจอกันไม่น้อย ด้วยการเน้นนวดคลายความตึงกล้ามเนื้อคอบ่าไหล่จากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน หรือถ้าใครที่อยากเน้นนวดน้ำมันที่นี่ก็มีโปรแกรม Relax GAAYA (60 นาที) ที่นวดครบจบทั้งผิวหน้าและผิวกายในหนึ่งเดียว กายาสปาสุดหรู นวดเพื่อสุขภาพ เปิดให้บริการทั้งหมด 11 ห้อง /นวดสปาสองชั้น ทั้งเตียงคู่ เตียงสำหรับนวดไทย ห้องอาบน้ำ และห้องน้ำ ในตัว รองรับลูกค้าได้สูงสุด 18 ท่าน ภายใน ห้องคือไพรเวท ถูกออกแบบและตกแต่งในโทนสีที่ช่วยมอบความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลายเป็นส่วนตัว ลูกค้าส่วนมากเป็นชาวต่างชาติเเละคนไทย เรียกว่ามาทีเดียวได้ดูแลครบจบตั้งแต่หัวจรดเท้าใครเริ่มมองหาสปาไทยแท้ๆ ชวนไปนวดผ่อนคลายจากงานผสมผสานกับที่เป็นการผสมผสานทั้งการนวดแผนไทยกับการนวดอโรมาเข้าด้วยกัน ความโดดเด่นการตกแต่งร้านสวยแบบฉบับโอเอซิสสปา

สปาตกแต่งสไตล์เป็นสไตล์ Thai Contemporary & Modern ตอบโจทย์ใครที่มองหาประสบการณ์สปารูปแบบใหม่ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ – น้ำมันนวด Gaaya by Oasis Spa มีส่วนผสมหลัก (Base oil) คือ Jojoba oil, Sweet almond, Safflower oil เพื่อบำรุงผิว ช่วยทำให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื่น บรรเทาอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อและอาการบวมช้ำ คุ้มค่ากับเวลาที่มาแน่นอน – กลิ่นของน้ำมันนวดมีให้เลือก 5 กลิ่น ได้แก่ 1. Oriental Beauty 2. Uniquely Thai 3. Lanna Exotic
4. Full Bloom 5. Be Organic Coconut 100% GAAYA by Oasis Spa

บริการทรีตเมนต์สำหรับผิวกาย นวดตัว นวดหน้า แถมบรรยากาศยังผ่อนคลายสบายตา ที่ให้คุณเลือกโปรแกรมที่ชอบได้ตามใจ ไม่ว่าจะเป็น แพคเกจแนะนำ

1. Relax Gaaya 2 hrs ผสมผสานเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลายในแบบกายาด้วยการนวดน้ำมันหอมระเหยอุ่นๆ และการนวดใบหน้า เสร็จสิ้นด้วยการนวดแบบกดจุดสร้างความผ่อนคลายให้ลูกค้าให้ความรู้สึกผ่อนคลายจนเคลิ้มหลับไปเลย

2. Release Gaaya 2.5 hrs เน้นคลายกล้ามเนื้อที่เมื่อยล้า การนวดออฟฟิศซินโดรมเพื่อให้บริเวณกล้ามเนื้อตามส่วนต่างๆของออฟฟิศซินโดรมได้คลายจากการหดเกร็งและความตึงเครียดสะสมที่มีมานาน ได้ผ่อนคลายอย่างแท้จริงและยังมีการประคบเพื่อช่วยลดการปวดบวมได้เป็นอย่างดี

3. Stress away Gaaya 3 hrs ผสมผสานการนวดเท้าเพื่อสุขภาพและการยืดเส้นด้วยการผสมผสานการนวดไทยโยคะและการนวดออฟฟิศซินโดรม สำหรับคนที่ต้องการนวดผ่อนคลายทุกส่วน และใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นหลัก

4. Sabai Sabai Gaaya 3 hrs ปรณิบัติกายา ด้วยการผสมผสานการนวดไทยเพื่อสุขภาพ เน้นการ กด คลึง บีบ กดจุด ประคบด้วยสมุนไพร และการนวดน้ำมัน เป็นการนวดผ่อนคลายด้วยมือผสานกับประสิทธิภาพของน้ำมัน ผ่อนคลายทั่วร่างกาย เสร็จสิ้นด้วยการทำหน้ากดจุดนวดหน้าด้วยน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ ซึ่งมีประโยชน์ในการขจัดความเครียดและกระตุ้นการเติมออกซิเจนของผิวด้วยการต่อต้านริ้วรอย

กายา บายโอเอซิสสปา
สถานที่ : ซอยสุขุมวิท 39 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ – มีที่จอดรถให้บริการ 8 คัน – ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ – เปิด/ปิด บริการทุกวัน 10.00-22.00

ช่องทางการติดต่อ กายา บายโอเอซิสสปา Gaaya by Oasis Spa
เบอร์โทร 02-262-2133
Facebook Fanpage : Gaayaspabyoasis
Website: https://oasisspa.net/destination/bangkok/gaaya39/
Instagram: https://www.instagram.com/gaayabyoasis/

ถอดรหัสความสำเร็จ เซ็น เรสเตอร์รอง กับการเติบโตในตลาด ‘บุฟเฟต์’ ตลอด 3 ปี

เซ็น เรสเตอร์รอง หนึ่งในธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น เครือ เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป เปิดดำเนินการครั้งแรก เมื่อปี 2534 ให้บริการในรูปแบบ A la carte โดยสามารถครองใจผู้บริโภคอย่างยาวนานมาตลอด 32 ปี ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มครอบครัว ปัจจุบันมีสาขารวมทั้งหมด 55 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศไทย

เทรนด์ของผู้บริโภคเปลี่ยน – ธุรกิจปรับตัว
จุดเริ่มต้นการให้บริการบุฟเฟต์ ของ เซ็น เรสเตอร์รอง เกิดขึ้นในปี 2564 ในช่วงหลังประกาศคลายล็อคดาวน์ ประกอบกับข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคที่โหยหาการทานบุฟเฟต์ มองหาความคุ้มค่า เน้นความหลากหลายของเมนูอาหาร ทำให้ สถิติการค้นหาบน Google Search ในช่วงเวลานั้นเพิ่มขึ้นถึง 430% และด้วยกระแสการบริโภคแบบบุฟเฟต์ของคนไทยมีทิศทางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทาง เซ็น เรสเตอร์รอง ตัดสินใจเพิ่มอีกหนึ่งรูปแบบการให้บริการ ประเภท บุฟเฟต์

การเติบโตของ ZEN Grand Premium Buffet ตลอดระยะเวลา 3 ปี

ในปี 2564 ร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็น เรสเตอร์รอง ปรับ 16 สาขาในขณะนั้น เพิ่มการให้บริการในรูปแบบบุฟเฟต์ รองรับความต้องการของลูกค้าที่ชื่นชอบการทานบุฟเฟต์ วัตถุดิบพรีเมียม มากกว่า 80 เมนู และการให้บริการที่มีคุณภาพ ภายใต้การวางกลยุทธ์ Value Promotion เริ่มต้น 599+ เสิร์ฟความคุ้มค่าระดับพรีเมียม ซึ่งภายในปีแรกก็ได้รับกระแสการตอบรับเป็นอย่างดี เป็นอีกหนึ่งแบรนด์บุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นที่หลายคนให้ความสนใจและนึกถึง โดยสามารถขยายฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่ ช่วงอายุ 26 – 45 ปี ที่เข้ามาใช้บริการ ซึ่งเป็นวัยที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง และแตกต่างจากกลุ่มลูกค้าเดิม จนสร้างรายได้เติบโตขึ้นกว่า 23%
ในปี 2565 ต่อมาในปีที่ 2 ทางแบรนด์ยังได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการใช้กลยุทธ์การทำการตลาดใหม่อีกครั้ง ผ่านการ Revamp Menu ปรับ Mood & Tone เมนูใหม่ทั้งหมดให้มีความพรีเมียมกว่าเดิม พร้อมกับการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ จากเดิมที่มี 80 เมนู เพิ่มขึ้นเป็น 130 เมนู ในราคาเริ่มต้นเพียง 599+ ชูความคุ้มค่าของวัตถุดิบ คุณภาพอาการระดับพรีเมียม เกินราคาที่จ่าย ยกขบวนแซลมอนกว่า 20 เมนู ทั้งชาชิมิ ซูชิ และเนื้อ สั่งได้ไม่อั้น พร้อม
วาไรตี้เมนูอื่น ๆ ทั้งเมนูเย็น และเมนูร้อน รวมถึงเมนูของทอด เปิดให้บริการในรูปแบบบุฟเฟต์ รวม 29 สาขา

ซึ่งในปีนี้แบรนด์สามารถขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 120% สร้างรายได้การเติบโต 41% ในปี 2566 เซ็น เรสเตอร์รอง เน้นกลยุทธ์การขยายสาขาเป็นหลัก เป็นไปตาม Growth Strategy ขององค์กร โดยการเปิดสาขาบนพื้นที่ใหม่ ๆ มุ่งเน้นการขยายไปที่น่านน้ำใหม่ เช่น ในพื้นที่ต่างจังหวัด ทั้งเมืองหลัก และเมืองรอง เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงการกินบุฟเฟต์แบบพรีเมียมได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งมีการขยายสาขาอีก 7 สาขา รวมกว่า 55 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยสาขาที่ให้บริการบุฟเฟต์มีทั้งหมด 37 สาขา

คุณมยุรี จิตรกร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เซ็น คอปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ความสำเร็จของ เซ็น เรสเตอร์รอง หลังจากเปิดให้บริการในรูปแบบบุฟเฟต์มาตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่ผ่านมา สามารถขยายฐานลูกค้าในกลุ่ม GEN Y – GEN Z ที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้นกว่า 200% แสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงของแบรนด์ในตลาดบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่น และการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกปี ทั้งยอดขายและการเพิ่มจำนวนสาขาที่ให้บริการบุฟเฟต์ได้มากขึ้นในทุกปี แต่ทั้งนี้ทางแบรนด์ก็ยังคงรักษามาตรฐาน โดยไม่หยุดพัฒนาต่อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเมนู วัตถุดิบ และการให้บริการที่มีคุณภาพระดับพรีเมียมในทุกองค์ประกอบ หวังสร้าง Brand Royalty การมีส่วนร่วมกับแบรนด์ และตัดสินใจกลับมาใช้บริการซ้ำแบบต่อเนื่อง คาดเติบโตกว่า 13% ภายในสิ้นปี”

โดยเป้าหมายในปี 2567 คือการ Revamp Menu ใหม่อีกครั้ง ความตั้งใจที่จะสร้าง Product ที่ดึงดูดกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ให้มากขึ้นอีก โดยทางแบรนด์ได้มีการใช้ Data Analytic วิเคราะห์พฤติกรรมและทำความเข้าใจผู้บริโภคในกลุ่มนี้ เพื่อนำมาวางแผนการตลาด รวมถึงการคัดสรรเมนูให้ตอบโจทย์มากที่สุด ซึ่งพบว่า
-กลุ่ม GEN Y ชอบทานเมนูเย็น เช่น ซาชิมิ ซูชิ โดยเมนูแซลมอนจะได้รับผลตอบรับที่ดีมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นเมนูไหน
-กลุ่ม GEN Z มองหาความคุ้มค่ามากกว่ากลุ่มอื่น มีการสั่งเมนูซาชิมิแซลมอล ซูชิแซลมอน มากกว่ากลุ่มอื่น
-ลูกค้ากว่า 70% จบท้ายมื้อด้วยขนมหวาน

ทำให้การ Revamp Menu ใหม่ในปีนี้ เกิดจากความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง สร้างการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ และตอบโจทย์ความต้องการในการเลือกสรรเมนูอาหาร โดยความพิเศษของเมนูไลน์อัพใหม่ ยกระดับความพรีเมียมไปอีกขั้น อัดแน่นไปด้วยความคุ้มค่ายิ่งขึ้น วัตถุดิบหลากหลายขึ้น เมนูที่มากขึ้นรวมกว่า 179 เมนู โดยเมนูใหม่มากขึ้นถึง 49 เมนู แต่ราคาเท่าเดิม ไม่บวกเพิ่ม

Tier 599+ Sushi & Aburi Lovers : อัดแน่นกับขบวนซูชิ และอะบุริที่หลากหลายเมนู มากกว่า 77 เมนู โดยใน Tier เริ่มต้นนี้มีเมนูใหม่ถึง 21 เมนูเลยทีเดียว ทั้งซูชิท้องปลาแซลมอนทอดซอสสไปซี่มิโสะ, ซูชิท้องปลาแซลมอนทอดซอสสไปซี่ ซูชิอิกะ, ซูชิยำครีบหอยเชลล์น้ำมันงา, ซูชิแมงกะพรุนกิมจิ, ซูชิทาโกะวาซาบิ

Tier 799+ Sashimi & Maki Lovers : ใครที่ชื่นชอบซาชิมิห้ามพลาด ทั้งเอ็นกาวะ ฮามาจิ โฮตาเตะ อูนางิ อากามิ และใน Tier นี้ยังเพิ่มหมวดที่หลากหลายมากขึ้น กับ Maki และ Sushi Don ทั้งแซลมอนบอมบ์มากิ ข้าวหน้าแซลมอนสับ โรลกุ้งคัตสึ โรลปูอัดครั้นชี่เทมปุระ และเมนูของหวานเจลลี่ ตบท้ายมื้อแบบฉ่ำ รวมกว่า 123 เมนู ซึ่งมีเมนูใหม่กว่า 32 เมนู

Tier 1199+ Premium Beef & Truffle lovers : พบกับเมนูเนื้อเกรดพรีเมียม ทั้งรูปแบบย่าง และกะทะร้อน, เมนู Truffle สุดพรีเมียม โดยเฉพาะ ซุปทรัฟเฟิล เสิร์ฟร้อนหอมละมุน และความหลากหลายเมนูซาชิมิเกรดพรีเมียม ชิ้นใหญ่ เต็มคำ ทั้งเอ็นกาวะ ฮามาจิ โฮตาเตะ อูนางิ อากามิ และเมนูบราวนี่ ที่เป็นของหวานด้วย รวมกว่า 179 เมนู เมนูใหม่รวมแล้วกว่า 49 เมนู

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/Zenjapaneserestaurant
หรือ Line @ZENGroupTH

สารส้ม นวตกรรม ภูมิปัญญาไทยยกระดับเทียบเท่านานาชาติ

เพราะแนวคิดกล้าคิด กล้าทำ กล้าเล่น ของคนขี้แพ้ รติรส จุลชาติ สาววิศวกรเคมี จึงนำธุรกิจเดิมของครอบครัวที่รู้จักดี คือ สารส้ม มาต่อยอดทางธุรกิจ สร้างแบรนด์รติ ที่เป็นผลิตภัณธ์ในกลุ่มดูแลรักษาสุขภาพที่รักษาภูมิปัญญาไทยและสิ่งแวดล้อมสร้างแบรนด์ RATI (ระ-ติ) ที่แปลว่าความรัก สร้างผลิตภัณฑ์จากความรัก ด้วยส่วนผสมที่ดีที่สุดจากธรรมชาติ ที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้และระคายเคืองต่อร่างกายของเราและทุกคนที่เรา “รัก”

รติรส จุลชาติ Founder & Chief Executive Officer เล่าถึงที่มาของการนำสารส้มมาผสมผสานนวตกรรมใหม่ ใช้เวลาทดลองนานกว่า 3 ปี เพื่อปรับปรุงให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกะบผู้ใช้และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ”ครอบครัว ทำโรงงานเคมีและแร่ธาตุ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเคมีและแร่ธาตุต่างๆ และสารส้มก็เป็นหนึ่งในแร่ธาตุที่คุ้นเคยมาตลอด ตัวเองเป็นคนที่ชื่นชอบใช้สารส้มเองจริงๆแต่เขินทุกครั้งที่เวลานำสารส้มเป็นก้อนพกติดตัวเวลาเดินทางกับเพื่อนไปยังที่ต่างๆ ประกอบกับสังเกตเห็นว่า ผลิตภัณฑ์จากสารส้มระงับกลิ่นกายในท้องตลาดส่วนใหญ่นั้น จะเป็นเกรดที่ใช้บำบัดน้ำ ไม่ใช่เกรดที่สัมผัสอาหารได้ (Food Grade) ที่มีความปลอดภัยสูงกว่า จึงได้คิดค้นและพัฒนาสเปรย์ระงับกลิ่นกายจากสารส้มขึ้นมาเป็นผลิตภัณฑ์อย่างแรก จากการทดลองใช้เองและคำแนะนำจากผู้ใช้จริง จึงเกิดความคิดพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยที่สุด โดยคำนึงถึงความเป็นธรรมชาติและความปลอดภัยต่อร่างกายเป็นหลัก เพราะรติ (
) เชื่อว่า อะไรที่เราทานได้ก็ย่อมต้องปลอดภัยต่อผิวหนังและร่างกายของเรา
ดังนั้น วัตถุดิบที่เราได้เลือกนำมาใช้นั้นจึงเป็นเกรดที่ดีที่สุด สามารถใช้ในอุตสาหกรรมอาหารได้ (Food Grade) ทำให้ปลอดภัย ไม่ระคายเคืองต่อผิวหนัง และระงับกลิ่นได้ดีที่สุด โดยไม่มีส่วนผสมอื่นที่ก่อให้อันตรายต่อร่างกายของคุณ เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือ น้ำมันสังเคราะห์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองภายใต้วงแขนและเกิดรอยดำที่ไม่สม่ำเสมอ อาจทำให้เกิดคราบเหลืองบริเวณเสื้อผ้า รวมถึงไม่มีกลิ่นที่จะรบกวนน้ำหอมราคาแพงที่ฉีดลงบนตัวอีกด้วย

ทั้งนี้จากแนวคิดทั้งหมดของรติ จึงได้พัฒนาออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ rati Natural Deodorant Spray สเปรย์ระงับกลิ่นกายสูตรธรรมชาติ และ rati Happy Feet
สเปรย์ระงับกลิ่นกายบริเวณเท้าและรองเท้า ที่ได้คัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากธรรมชาติ เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกายของผู้บริโภค

RATI Natural Deodorant Spray สเปรย์ระงับกลิ่นกายสูตรธรรมชาติ จากสารส้มเกรดที่ปลอดภัยที่สุด ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งแบคทีเรีย พร้อมความรู้สึก สดชื่น จากว่านหางจระเข้ และสารสกัดใบเปปเปอร์มิ้นออร์แกนิค ที่ช่วยปกป้องผิวจากการระคายเคือง พร้อมถนอมความชุ่มชื้น ให้ผิวเนียนนุ่ม สุขภาพดี ด้วยความสดชื่นจากน้ำแร่ธรรมชาติของผืนป่าเชียงใหม่ โดยปราศจากสารเคมีสังเคราะห์ ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอม จึงไม่ก่อให้เกิดการแพ้และการระคายเคือง “ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น” จึงไม่ทิ้งคราบเหลืองบนเสื้อผ้าและไม่มีกลิ่นรบกวนน้ำหอมที่คุณใช้

RATI Happy Feet สเปรย์ระงับกลิ่นกายบริเวณเท้าและรองเท้า สูตรธรรมชาติ จากสารส้มเกรดที่ปลอดภัยที่สุด ประกอบด้วยน้ำแร่ธรรมชาติ ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่นจากส่วนผสมของสารสกัดน้ำมันจากใบเปปเปอร์มิ้น และสารสกัดจากชาดำ ที่มีคุณสมบัติเป็น Antioxidant ยับยั้งแบคที่เรียที่เป็นแหล่งกำเนิดของกลิ่นบริเวณเท้า โดยปราศจากส่วนผสม ของแอลกอฮอล์และสารเคมี สังเคราะห์ทำให้ไม่ทำให้เกิด คราบสกปรกและความเสียหายแก่หนังและรองเท้าที่มีความบอบบางสูงของคุณ นอกจากสารส้มจะช่วยยับยั้งแบคทีเรียแล้ว ยังมีคุณสมบัติที่สามารถช่วยในเรื่องป้องกันการส้นเท้าแตกได้อีกด้วย

RATI เชื่อว่าภูมิปัญญาสารส้มในเรื่องการระงับกลิ่นกายที่มีมาตั้งแต่ดั้งเดิมนั้นมีประสิทธิภาพ ความปลอดภัยตามแบบธรรมชาติที่ดีมากอยู่แล้ว RATI จึงขอเป็นส่วนหนึ่งที่นำวิถีภูมิปัญญาบรรพบุรุษไทย มาเล่าใหม่ในยุคโมเดิร์น และมุ่งมั่นที่จะเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายจากธรรมชาติ “เพราะร่างกายที่ธรรมชาติให้มา ให้ธรรมชาติดูแล”

พบกับสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รักโลก รักสุขภาพ ในงาน STYLE Bangkok 2024 งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ชั้นนำของภูมิภาคเอเชีย ภายใต้ธีม “CHIC NATURE” ตั้งแต่วันนี้ – 24 มีนาคม 2564 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พบกับสุนทรียภาพและการใช้ชีวิตที่ยั่งยืนผสมผสานกันอย่างลงตัวในผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ ของขวัญ ของแต่งงานบ้าน แฟชั่น ไปจนถึงหัตถกรรมท้องถิ่นที่ประณีตและมีเอกลักษณ์โดดเด่น

#toptotravel

STYLE Bangkok 2024

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เกียรติเป็นประธาน ในพิธีเปิด “งานแสดงสินค้า STYLE Bangkok 2024 ” ในวันพุธที่ 20 มีนาคม 2567 เวลา 10.00น. โดยมีนายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นำทีมให้การต้อนรับ ณ ฮอลล์ 4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

STYLE Bangkok 2024 มีกำหนดจัดระหว่างวันที่ 20-24 มีนาคม 2567 แบ่งเป็นวันเจรจาธุรกิจ วันพุธที่ 20 – ศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2567 เวลา 10.00-18.00 น. และวันจำหน่ายปลีกวันเสาร์ที่ 23-อาทิตย์ ที่ 24 มีนาคม 2567 เวลา 10.00-21.00 น. ณ ฮอลล์ 1-4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ผู้ที่สนใจสามารถชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.stylebangkokfair.com Facebook/Instagram/TikTok : Style Bangkok Fair
หรือโทรสายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169

เที่ยวทั่วไทย อร่อยไปทั่วโลก Lifestyle ทันทุกกระแสข่าว การเงิน อสังหาฯ IT บันเทิง แฟชั่น